เพื่อการกุศล :::(เปิดจอง)ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์-สมเด็จองค์ปฐมอมฤตศุภมงคลญาณสังวร":::

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. THANARATH 2010

    THANARATH 2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,721
    สวัสดีครับคุณหมอสุรเชษฐ์ สบายดีนะครับ......สอบเสร็จแล้วคิดว่าคงได้เกียรตินิยมนะครับผมขอเอาใจช่วยนะครับแต่ว่าหมอเก่งอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาที่จะสอยอันดับหนึ่ง ผมแวะมาคุยเล่นนะครับ
     
  2. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948

    ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ สอบทีไรหมดเหนื่อยหวุดหวิดทุกที
     
  3. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    [​IMG]

    คุ้นๆบาตรน้ำมนต์มั๊ยครับ อันนี้เป็นที่เก็บมวลสารชุด B ของล็อกเกตพระแก้วเองครับ

    เข้าพิธีที่พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ทิม
    จากนั้นผมได้นำบาตรน้ำมนต์ไปให้ หลวงตาเร่งท่านใช้ผงแป้งเจิมเก่าของหลวงปู่ทิม จารให้อีก ท่านว่าดีแล้วๆ จะเขียนทำไม แต่ผมก็เอาไปเขียนมาจนได้
     
  4. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    มาอ่านช่วยลงความคิดเห็นด้วยนะครับ จะได้รู้ว่ามีคนติดตาม ไม่งั้นคงไม่มาเขียนแล้ว

    จะได้รู้ว่าวัตถุมงคลรุ่นนี้ Ok รึยึงทั้งเนื้อหามวลสารและอธิษฐานจิต แต่ยังไมได้ไปง่ายๆครับ เพราะ ฤกษ์พุทธาภิเษกเป็นวันที่ 12 พฤศจิกายน 54 ภูมิปาโลฤกษ์ ของวันเสาร์ครับ

    แต่รู้ไว้อย่างหนึ่งนะคัรบ ว่า นอกจากผมจะเห็นคุณค่าของที่ผมทำเองกับมือ
    สัปดาห์ก่อนก็มีโทรศัพท์ลึกลับ โทรเข้ามา
    บอกว่า ล็อกเกตยังเหลือให้บูชามั๊ย อยากได้มาแขวนคอสักองค์(สงสัยรู้ตอนที่ผมเอามวลสารไปเสกที่พิพิธภัณฑ์) ผมก็บอกว่ารอสร้างเสร็จก่อนนะครับ

    บุคคลคนนั้นคือ คุณเพียรวิทย์ จารุสถิต ผู้ที่มีวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมมากที่สุดในประเทศไทยนั้นเอง ใครเจอคุณลุงเพียรวิทย์ก็ถามท่านได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2011
  5. amar

    amar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +606
    ยิ่งทราบถึงข้อมูลการสร้าง
    ก็ยิ่งปลื้มใจครับ
    เป็นกำลังใจให้ครับ:cool:
     
  6. inhouse

    inhouse สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
    แค่อ่านก็เหนื่อยแทนคนจัดสร้างแล้ว ขอบคุณครับ สำหรับสิ่งดีๆที่คุณทำอยู่
     
  7. radien

    radien เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2010
    โพสต์:
    902
    ค่าพลัง:
    +1,057
    ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณหมอและทีมงานทุกท่านนะครับ
    เข้ามาติดตามเป็นประจำครับแต่ไม่ค่อยได้แสดงความคิดเห็น
    บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดจริงๆครับ
     
  8. BALL99

    BALL99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +179
    อย่าเพิ่งน้อยใจนะครับ คุณหมอสุรเชษฐ์
    สู้ๆครับ
     
  9. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ผมไม่น้อยใจหรอกครับ มีถึง SMS มาให้กำลังใจกันด้วย ไม่ต้องขนาดนั้นครับ
    วันนี้ได้ผงอธิษฐานจิตของหลวงปู่ฝั้น ที่พระท่านเก็บไว้แล้วนำไปให้พระกรรมฐานอีกหลายรูป เช่น หลวงปู่ชอบ หลวงปู่สิม อธิษฐานเพิ่มอีก นิดหน่อย
     
  10. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    สุดสัปดาห์นี้จะนำไปอธิษฐานเพิ่มอีกนิดหน่อยนะครับ
    ตามที่ผมเคยบอกไปว่าจะนำวัตถุมงคลส่วนตัว มาประมูลเพื่อนำรายได้ไปถวายครูบาอาจารย์และค่าเดินทาง เดี๋ยววันนี้จะเริ่มลงแล้ว นานๆทีลงทีนะครับ
     
  11. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    วัตถุมงคลชิ้นที่ 1 รูปถ่ายหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

    รายการแรกลงแบบบิ๊กๆ เป็นศิริมงคล
    รูปถ่ายเก่าหลวงปู่บุญ
    ขนาดประมาณ 50 * 80 ซม.
    เป็นรูปขนาดใหญ่มากๆ
    [​IMG]


    [​IMG]
    ภาพรวม

    [​IMG]

    กระดาษเก่าแบบนี้ไม่ต้องบอกว่ายุคไหนนะครับ

    วัตถุมงคลแบบนี้ไม่ค่อยผ่านตาบ่อยนัก


    กติกา คือ เปิดประมูลเริ่มต้น 9 บาท

    เพิ่มครั้งละเท่าใดก็ได้

    ผู้ที่เสนอราคาประมูลสูงสุด ภายในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน เวลา 21.00

    เป็นผู้ชนะการประมูล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02442.JPG
      DSC02442.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118 KB
      เปิดดู:
      949
    • DSC02445.JPG
      DSC02445.JPG
      ขนาดไฟล์:
      277.2 KB
      เปิดดู:
      989
    • DSC02441.JPG
      DSC02441.JPG
      ขนาดไฟล์:
      162.8 KB
      เปิดดู:
      75
    • DSC02439.JPG
      DSC02439.JPG
      ขนาดไฟล์:
      129.6 KB
      เปิดดู:
      75
    • DSC02440.JPG
      DSC02440.JPG
      ขนาดไฟล์:
      174.8 KB
      เปิดดู:
      66
    • DSC02446.JPG
      DSC02446.JPG
      ขนาดไฟล์:
      96.1 KB
      เปิดดู:
      1,011
  12. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    ภิกษุณีสกาวรัตน์ วัดโคกบัวราย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์

    ภิกษุณีสกาวรัตน์ พินิจบำรุงกิจ หรือหลวงแม่้สกาวรัตน์ วัดโคกบัวราย อ.เมือง จ.สุรินทร์ ท่านได้ครองเพศเป็นนักบวชหญิงมาเกือบ 40 ปีแล้ว

    ประวัติของท่านเท่าที่ได้ฟังมานะครับ

    ท่านบวชเป็นแม่ชีมาตั้งแต่วัยรุ่นครับ อาจารย์ผู้สอนกรรมฐานให้กับท่านในตอนแรกคือ ครูบาอาจารย์ในสายหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น คือพระครูนนทญาณวิสุทธิ์ หลวงพ่อสุคม วัดโคกบัวราย (หลวงพ่อท่านมรณภาพแล้ว สังขารไม่เน่าเปื่อย เก็บสังขารท่านไว้อยู่วัดโคกบัวรายครับ หลวงพ่อท่านเป็นเกจิอีกหนึ่งองค์ที่ได้ร่วมงานพุทธาภิเษกพระของหลวงปู่หงษ์รุ่น 1 ครับ ร่วมกับหลวงปู่ธรรมรังษี หลวงปู่ฤทธิ์ หลวงปู่หงษ์ หลวงพ่อพวน และหลวงปู่คีย์ครับ)

    หลังจากนั้น ท่านได้เดินทางไปศึกษากับพระในสายหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นอีกหนึ่งรูป ซึ่งผมจำชื่อท่านไม่ได้แล้วครับ(ท่านมรณะไปแล้ว...รู้สึกว่าคือ หลวงพ่อสังวาลย์นะครับ แต่ไม่แน่ใจ)

    ท่านได้เรียนบาลีและศึกษากรรมฐานกับสมเด็จมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม

    แล้วก็ไปศึกษากรรมฐานที่วัดป่าบ้านตาดกับหลวงตามหาบัวครับ หลังจากนั้นท่านได้ออกธุดงค์ไปตามเส้นทางหนองวัวซอ และได้บรรลุธรรมที่ลานหินดาด อ.หนองวัวซอ (ซึ่งที่ลานนั้นผมและญาติธรรมเคยได้เดินทางไปปฏิบัติกับท่านครับ ท่านได้ชี้ให้ดูบ่อน้ำทิพย์ที่อยู่ที่นั่นให้ผมดูด้วย) หลังจากนั้นท่านก็ออกธุดงค์ไปทั่วประเทศครับทั้งภาคใต้ กลาง อีสาน (ใครอยากทราบประวัติโดยละเอียดต้องสอบถามท่านเอาเองครับ เพราะบางเรื่องก็ไม่สามารถเอามาลงได้ ทั้งเรื่องพระในป่า ฤาษีแถบสุรินทร์ บุรีรัมย์ ทั้งเรื่องตอนที่ท่านติดอยู่ในฌาน โลกีย์ เล่นกสิณ ศึกษาพลังจักรวาลและโยคะ ได้กายทิพย์ จนถึงตอนที่ท่านขึ้นโลกิยธรรม ล้วนแล้วแต่แปลกและพิสดารอย่างยิ่ง)

    หลังจากที่ออกธุดงค์แล้วท่านก็กลับไปอยู่ที่วัดชนะสงคราม คอยสอนคนให้รู้จักการภาวนา

    เมื่อหลวงพ่อสุคมหรือหลวงตานน อาจารย์ผู้สอนกรรมฐานคนแรกของท่านใกล้ละสังขาร แม่ชีสกาวรัตน์ก็ได้เดินทางมาดูแลท่านตราบถึงเวลาที่หลวงตานนได้ละขันธ์ไป หลังจากนั้นท่านก็พยายามสร้างวัดโคกบัวรายเฉพาะในบริเวณที่เป็นกุฏิหลวงตานนเก่าก็ปรับให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของผู้หญิง และผู้ชายที่สนใจการปฏิบัติธรรม

    เมื่อปลายปีที่แล้วท่านได้เดินทางไปบรรพชาและอุปสมบทกับภิกษุณีที่ประเทศศรีลังกา ซึ่งภิกษุณีศรีลังกาที่ท่านไปบวชด้วยได้สืบทอดมาจากภิกษุณีของประเทศจีน พระอุปัชฌาย์คือ ท่าน SIRI SUMEDHA MEHINI และท่าน BADRA MEHINI ณ วัด SRI RATNA MALI ARAMAYA

    นอกจากนี้ ท่านได้ช่วยเหลือทหาร ตชด. และเหล่าทหารพรานตามชายแดนไทย-เขมร มากว่า 10 ปี ทั้งสร้างแหล่งเพาะปลูก ทำอาหารไปเลี้ยง และหลังจากนั้น เมื่อหลายปีก่อนท่านก็ได้มีนิมิตว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆตามชายแดนไทย-กัมพูชา ท่านจึงได้ดำริสร้างพระสยามเทวาธิราชจำนวน 49 องค์ เพื่อนำไปประดิษฐานตามแนวชายแดนไทยเขมร เพื่อปกป้องรักษาประเทศชาติ คุ้มครองทหาร ตชด.และทหารพราน สร้างเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทยและแสดงผืนแผ่นดินไทย ซึ่งปัจจุบันพระสยามเทวาธิราชได้สร้างแล้วเสร็จจำนวนประมาณ 19 องค์ แล้วนำไปประดิษฐานตามแนวชายแดนแล้วที่ผามออีแดง และปราสาทตาควาย ซึ่งสถานที่ประดิษฐานก็แล้วแต่เป็นบริเวณที่มีการสู้รบที่คับขันในปัจจุบัน (ท่านยังมีโครงการช่วยทหารสร้างหอสังเกตการณ์ที่ช่องพริก แต่เกิดเหตุการณ์การโจมตีกันเสียก่อน)

    ท่านเป็นที่รักของเหล่าทหารพรานและตชด.จังหวัดสุรินทร์อย่างมาก ในช่วงที่มีการโจมตีของไทยกัมพูชาท่านก็ได้ส่งน้ำ อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ทหารพรานที่ปราสาทตาควายเกือบทุกวัน และท่านได้สร้างพระรอดรุ่นน้ำใจแม่ ไว้แจกทหารที่ปราสาทตาควาย ซึ่งก็พบว่าใครห้อยพระของท่านไปก็ไม่มีใครเสียชีวิตจากการสู้รบกันที่ปราสาทตาควายเลย

    จากที่ผมได้รู้จักกับท่านมา หลวงแม่เป็นคนที่มีเมตตาธรรมสูงมาก ท่านพยายามสร้างคนเสียก่อน ใครปฏิบัติธรรมอยู่แล้วท่านดูวาระจิต สอบอารมณ์แล้วสอนชี้แนะแนวทางเพิ่มเติมให้ ใครอยากได้ที่พึ่งทางใจเช่น วัตถุมงคลท่านก็แจกให้ ใครอยากให้ท่านดูดวง สะเดาะเคราะห์ท่านก็ทำให้ ท่านกล่าวกับผมว่า ใครอยากได้อะไรท่านให้ได้ท่านใครหมด ขอแค่เพิ่มการมีศรัทธาอยากเข้าวัดให้มากขึ้นจนสุดท้ายท่านจะมีวิธีที่จะให้คนค่อยๆเริ่มปฏิบัติธรรมเอง

    บทความที่เกี่ยวกับท่านครับ
    กวินอิสรี - หลุดพ้นความตาย - หลุดพ้นความตาย


    ดอกแก้ว - เรียนรู้ธรรมชาติ เรียนรู้ชุมชน - แม่ชีนักกิจกรรม

    ท่านเป็นสหายธรรมกับท่านอาจารย์ไพศาล วิสาโล ท่านอาจารย์ไพศาลเรียกท่านว่า ยายชีเฉาก๊วยครับ

    พระรุ่นนี้ท่านอธิษฐานให้ด้วยความเต็มใจ เพราะท่านได้ขอให้ครูบาอาจารย์ของท่านช่วยด้วยในการอธิษฐานครั้งนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1041.JPG
      IMG_1041.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      112
    • IMG_1042.JPG
      IMG_1042.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      86
    • IMG_1039.JPG
      IMG_1039.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      114
    • IMG_1031.JPG
      IMG_1031.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      82
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 มิถุนายน 2011
  13. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    หลวงปู่หุน วัดบางผึ้ง จ.ฉะเชิงเทรา

    หลวงปู่หุนหรือพระครูศุภมงคล วัดบางผึ้ง ฉะเชิงเทรา
    ท่านถือเป็นพระสุปฏิปันโนแห่งภาคตะวันออก


    หลวงปู่หุนอายุ 93 ปี ท่านบวชตั้งแต่เป็นเณร จนเมื่อครบบวชพระ ท่านก็ได้บวชพระและออกร่ำเรียนกับพระอาจารย์เก่ง ๆ ในสมัยนั้นมากมาย โดยเฉพาะหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา
    เมื่อครั้งเกิดสงครามยุคมหาเอเชีย (พ.ศ. 2483) จอมพล พิบูลย์สงครามได้ขอให้หลวงพ่อจาด ช่วยทำตะกรุดแจกทหาร จนเกิดประสบการณ์มีชื่อเสียงเรียงสนั่นในยุคนั้น ครั้นมีเครื่องบินของฝรั่งเศสมาทิ้งระเบิดใส่ทหาร หากแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเลย
    หลวงปู่หุนนี่่แหละที่ท่านเป็นผู้ม้วนตะกรุดและพันตะกรุดให้หลวงพ่อจาดในเวลานั้น และคอยรับใช้ในเรื่องต่าง ๆ มากมาย
    จน กระทั่งหลวงพ่อจาดเมตตาในความขยันและความเป็นผู้อ่อนน้อมของท่าน จึงเมตตามาก รักเหมือนลูก สอนวิชาอาคมต่าง ๆ ให้จนหมดสิ้น สอนวิชาปลุกเสกพระ วิชาเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี
    โดยเฉพาะวิชาบังไพร หลวงพ่อจาดท่านเก่งมากหลายครั้งหลวงพ่อจาดท่านจะเรียกหลวงพ่อหุนให้มาร่วม ปลุกเสกเหรียญและตะกรุดด้วยกันเพื่อต้องการทดสอบลูกศิษย์ จนหลวงพ่อจาดเอ่ยชมว่า

    "เอ็งนี่แน่ เสกได้เหมือนข้าไม่มีผิด ได้ดั่งใจข้าจริง ๆ "

    จาก นั้นหลวงพ่อหุนท่านก็ได้ขอลาหลวงพ่อจาด ออกร่ำเรียนต่อไปอีกจนมาพบหลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ชาวบ้านแถวนั้นรู้จักดี เพราะหลวงพ่อทองท่านเก่งมากในเรื่อวิปัสสนากรรมฐาน ช่วยเหลือชาวบ้านในเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เดือดร้อนล้มละลายเจ็บไข้หลวงพ่อทองท่านช่วยได้
    หลวงพ่อหุนท่านจึงฝาก เนื้อฝากตัวเป็นศิษย์อยู่นานถึง 7 ปี เรียนวิชาท่านมาทั้งหมด หลวงพ่อทองท่านได้แนะนำหลวงพ่อหุนให้ไปหาหลวงปู่คำปั่น พระสายเขมรเพื่อร่ำเรียนวิชา ต่อ
    หลวงพ่อหุนท่านก็ออกธุดงไปจนได้พบและโดนหลวงปู่คำปั่นทดสอบวิชามากมาย
    มี คืนหนึ่ง หลวงปู่คำปั่น ได้เสกท่อนฟืนเผาผีเป็นตะขาบนับร้อยตัว ยั๊วเยี๊ยไปหมด หลวงปูหุนได้ร่างคาถาท่องมนต์และลูบตัวตะขาบ เท่านั้นตะขาบก็กลับไปเป็นท่อนฟืนดังเดิม ถัดจากตะขาบก็เสกก้อนถ่าน กลายเป็นผึ้งนับพันตัว หลวงปู่หุนท่า่นหยิบดิน 1 กำเสกคาถา1 อึดใจ แล้วลืมตาโปรยดินใส่ฝูงผึ้ง จากนั้นผึ้งก็กลายเป็นกองถ่านดังเดิม
    เมื่อทดสอบวิชาผ่าน หลวงปู่คำปั่นจึงสอนวิชาให้จนหมดสิ้น แล้วท่านจึงได้ลาหลวงปู่คำปั่นเพื่่อศึกษาต่อไป
    ปัจจุบัน หลวงปู่หุนท่านเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบางผึ้ง ฉะเชิงเทรา จากวิชาที่ท่านร่ำเรียนมา ท่านคอยช่วยเหลือลูกศิษย์มากมาย ช่วยได้ทุกเรื่อง เศรษฐีแถวนั้นนับถือท่านมาก เพราะหลวงปู่ได้ช่วยไว้เยอะจากล้มละลายกลายเป็นอภิมหาเศรษฐี จากคนจนกลายเป็นคนรวย หลวงปู่นี่แหละเสกแผ่นทองเข้าตัว เสกตั๋วให้เป็นเงิน

    นับว่าท่านเป็นพระสุปฏิปันโนแห่งลุ่มน้ำบางปะกง

    ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1043.JPG
      IMG_1043.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      111
  14. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร เทพเจ้าแห่งแม่น้ำบางประกง อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา

    ประวัติ พระครูมนูญธรรมรัต​
    ( หลวงพ่อฟู อติภัทโท )​
    เจ้าอาวาสวัดบางสมัคร ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา​
    ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางปะกง (พระครู - ชั้นพิเศษ )​
    ชาติภูมิ
    พระครูมนูญธรรมรัต ( หลวงพ่อฟู อติภัทโท ) สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง มีนามเดิมว่า ฟู นามสกุล ดวงดารา ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2465 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย ปีจอ เป็นบุตรของนายนุ่ม และ นางเปลี่ยน ดวงดารา ณ.บ้านเลขที่19 ม.4 ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
    เมื่อเติบ ใหญ่จนได้วัยอันควร หลวงพ่อฟู ท่านได้อุปสมบท ณ.พัทธสีมา วัดบางสมัคร เมื่อวันพฤหัสบดี ที่1 พฤษภาคม 2485 ตรงกับแรม 2 ค่ำเดือน 6 ปีมะเมีย โดยมี พระครูพิบูลล์คณารักษ์ ( หลวงพ่อดิ่ง คงคสุวณโณ ) วัดบางวัว เป็นพระอุปัชฌาย์ – พระครูธรรมกิจจานุรักษ์ ( ชื้อ ไมตรีจิต ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ เขตคลองสาน กทม.เป็นพระกรรมวาจาจารย์ – พระครูเมธีธรรมโฆสิต ( พระมหาจอม ) วัดบางสมัคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า อติภัทโท

    การศึกษา
    นอกเหนือจาก หลวงพ่อฟู จะสนใจศึกษาพระธรรมวินัย อย่างเคร่งครัดแล้ว ท่านยังมีความสนใจในด้านตำราแพทย์แผนไทย ไสยเวทย์ และ วิชาอาคมแขนงต่างๆ โดยท่านเป็นศิษย์ที่มากด้วยครูบาอาจารย์ และ ได้รับการประสิทธิ์ประสาทวิชาอาคมอย่างท่วมท้น โดยเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อดิ่ง สุดยอดพระเกจิแห่งวัดบางวัว – หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เจ้าตำหรับปลัดขิก – หลวงพ่อเคน วัดเขาอีโต้ – หลวงพ่อบุญมี ( เม็ด ) วัดบึงกระจับ – หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส – หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า – หลวงพ่อนก วัดสังกะสี – โยมสน คงเจริญ ( ฆราวาส ) และที่ขาดเสียไม่ได้ก็คือ หลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกเฌอ พระอาจารย์องค์สำคัญที่ถ่ายทอด สุดยอดวิชา การทำสีผึ้งเจ็ดจันทร์ ให้กับหลวงพ่อฟู ซึ่งถือว่าเป็นศิษย์เพียงรูปเดียวที่ได้รับการถ่ายทอดสุดยอดของเคล็ดวิชานี้ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ชื่อเสียง และ เกียรติคุณ ของหลวงพ่อฟู เป็นที่ประจักษ์ และ รู้จักกันอย่างแพร่หลายกันอย่างรวดเร็ว เพราะท่านได้ใช้สรรพวิทยาที่ร่ำเรียนมาทั้งหมดช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านให้พ้น จากความทุกข์ยากทั้งปวง…

    วัตถุมงคล
    วัตถุมงคลของหลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร นั้น มีพุทธคุณครบถ้วนทุกด้าน แต่ที่โดดเด่นที่สุด ก็คือในด้านของคงกระพันชาตรี และยังดีในเรื่องของการเดินทางไกลเพราะเคยช่วยให้ชาวบ้านรอดพ้นจากพญา มัจจุราชมาแล้ว

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1044.JPG
      IMG_1044.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      179
  15. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    พระโพธิญาณมุนี (หลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ) วัดป่ามัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

    วัดป่ามัชฌิมาวาส
    หมู่ 10-13 บ้านดงเมือง
    ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ 46000

    พระอาจารย์เมือง พลวฑฺโฒ เจ้าอาวาส

    วัดป่ามัชฌิมาวาส เป็นวัดป่าปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    “พิพิธภัณฑ์ ศพ” ศาลาอัศวินวิจิตร วัดป่ามัชฌิมาวาส ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านดงเมือง หมู่ 10-13 ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เป็นพุทธสถานอีกแห่งหนึ่ง อันเลื่องชื่อในด้านเป็นสถานปลีกวิเวก เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานอย่างดีเยี่ยม นอกจากจะมีพื้นที่กว้างขวาง อุดมด้วยแมกไม้ที่ร่มครึ้มทั่วบริเวณวัดแล้ว ยังมี “อาจารย์ใหญ่” หรือซากศพมนุษย์ ภายในศาลาอัศวินวิจิตร หรือพิพิธภัณฑ์ศพ ไว้ให้ศึกษาสัจธรรมชีวิตอีกด้วย

    ประวัติวัดป่ามัชฌิมาวาสแห่งนี้ สร้างขึ้นราวปี 2474 มีพระเณรจำพรรษอยู่ร่วม 30 รูป ปัจจุบัน มีหลวงพ่อเมือง พลวัฑโฒ พระเกจิสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นเจ้าอาวาส เสนาสนะที่สำคัญอันเป็นเครื่องหมายของวัด นอกจากพิพิธภัณฑ์ศพดังกล่าวแล้ว ยังมีพระพุทธรูปหลวงปู่ขาว และหลวงปู่ผ้าขาว เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานภายในวัด ให้สาธุชนสักการบูชาอีกด้วย



    หลวง ปู่ขาว เป็นพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาว ประดิษฐานบนแท่นดอกบัว มีศาลาครอบองค์พระไว้อย่างเป็นสัดส่วน ส่วนหลวงปู่ผ้าขาว กล่าวกันว่าน่าจะเป็นสัญลักษณ์แทนหมอชีวกโกมารภัจจ์ (หมอประจำองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมัยพุทธกาล) ประทับบนก้อนหิน โดยมีพระพุทธรูปปางต่างๆ เรียงรายอยู่ด้านหลัง รวมทั้งศิวลึงค์ ก็มีให้เห็นเป็นหลักฐานของการกราบไหว้บูชามาตั้งแต่คราบรรพกาล !

    ดัง ที่ทราบกันดีแล้วว่า ก่อนที่พุทธศาสนาจะแผ่มามีอิทธิพลยังภูมิภาคนี้ นอกจากผู้คนจะนับถือภูตผีที่เชื่อว่าสถิตอยู่ตามที่ต่างๆ แล้ว ยังมีการนับถือพระเจ้าตามลัทธิความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูอีกด้วย พระเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่รู้จักกันดีก็คือพระอิศวรหรือพระศิวะ และเครื่องหมายที่ใช้แทนพระศิวะที่พบเห็นโดยทั่วไป โดยเฉพาะตามแหล่งศาสนสถาน คือ ศิวลึงค์ ที่ทำจากแท่งหิน ดังที่ปรากฏ ณ ด้านหลังหลวงปู่ผ้าขาว

    เพราะความที่สถานที่แห่งนี้ มีความศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่บรรพกาล เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คนในชุมชนมาหลายยุคหลายสมัย เมื่อได้มีการสร้างวัดป่ามัชฌิมวาสเป็นศูนย์รวมจิตใจ จึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปหรือหลวงปู่ขาว เป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า และจัดให้มีการสร้างรูปหมอชีวกโกมารภัจจ์ “หมอประจำพระองค์” ในสถานที่เดียวกัน

    วัดป่ามัชฌิมาวาส นอกจากจะมาทำบุญตักบาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา หรือไถ่ชีวิตสัตว์แล้ว ยังนุ่งขาวห่มขาว ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน เจริญจิตภาวนา หรือเก็บกวาดบริเวณวัด จะเป็น 5 วัน 7 วัน หรือ 30 วัน ก็ได้



    “แนวทางของวัดป่า ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ เป็นพุทธสถานที่ต้องการความสันโดษ พระเณรอยู่กันอย่างสงบ สันติ สมถะ ไม่ต้องการความพลุกพล่าน ไม่ต้องการคำยกยอปอปั้นหรือชื่อเสียงใดๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตในวัด อาทิ พระพุทธรูปหลวงปู่ขาว และหลวงปู่ผ้าขาวนี้มิใช่ตัวล่อ ที่จะโน้มน้าวจิตใจหรือเรียกศรัทธาให้ผู้คนหันหน้าเข้าวัด ขอให้เข้าใจ...ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะเชิดชูชีวิตจิตใจให้สูงส่ง และดีเด่นเทียบเท่าพระธรรม สำหรับพระพุทธรูปหลวงปู่ขาวและหลวงปู่ผ้าขาว เป็นสิ่งที่ชาวบ้านดงเมืองและละแวกนี้ ให้การยอมรับนับถือและศรัทธามาช้านาน”

    “ส่วนด้านของความ ศักดิ์สิทธิ์ ใครคิดจะมาบนบานกราบไหว้ ขอให้คิดดี ทำดี และที่สำคัญอย่าลืมหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากละเลยเสีย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ก็ช่วยไม่ได้ สิ่งที่ฝากไว้ให้ระลึกอยู่เสมอคือ จงช่วยตัวเองก่อน ก่อนที่จะให้คนอื่นช่วย หรือแสวงหาสิ่งที่ไม่มีตัวตน เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย” หลวงพ่อเมือง กล่าวให้ข้อคิด

    สำหรับ “อาจารย์ใหญ่” ที่วัดนำมาแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศพหรือศาลาอัศวินวิจิตร เพื่อให้เป็นข้อคิดในวัฏสงสาร การไม่เที่ยงแท้แน่นอน ชี้ให้เห็นสัจธรรมอันแท้จริงของชีวิต เห็นแล้วจะได้ไม่หลงรูป หลงเงา หลงเขา หลงเรา จนหลงลืมคำตอบสุดท้าย เมื่อวาระสุดท้ายและความตายมาเยือน !



    ข้อมูล ที่สืบค้นมาเกี่ยวกับสาเหตุความเป็นมา ที่ทางวัดป่ามัชฌิมาวาสนำซากศพคนตายมาบรรจุไว้ในโลงแก้ว ภายในศาลาอัศวินวิจิตรนี่ก็คือ...มีการนำศพมาไว้ในลักษณะนี้ประมาณ 15 ปีได้ โดยศพเหล่านี้ได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ที่ผู้ตายหรือญาติผู้ตาย ได้บริจาคให้เป็น “อาจารย์ใหญ่” แก่นิสิตแพทย์ เพื่อการศึกษาค้นคว้า ซึ่งทางวัดได้ทำเรื่องขอยืมมาเป็นอาจารย์ใหญ่ ให้ผู้มาศึกษาธรรมหรือผู้สนใจได้มองเห็นสัจธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...

    อาจารย์ ใหญ่ดังกล่าว จะถูกนำมาเที่ยวละ 10-15 ศพ และทุกๆ 6 เดือน จะนำกลับไปรับพระราชทานเพลิงศพที่ จ.ขอนแก่น แล้วจะนำศพชุดใหม่มาไว้แทนที่ชุดเก่า สับเปลี่ยนเช่นนี้ร่ำเรื่อยมา

    หลวง พ่อเมือง กล่าวว่า ชีวิตหรือสังขารคนเราเป็นของไม่เที่ยง ไม่คงทนถาวร ตอนยังอยู่ก็ดูดีมีคุณค่า ถึงคราตายก็เหมือนหมดความหมาย ในสายตาของทางโลกอาจคิดกันอย่างนี้ แต่หากมองดีๆ คิดให้ลึกซึ้ง คิดโดยนัยธรรมะ จะเห็นคุณค่าเหลือคณานับ พินิจดูศพแล้วกลับมามองสรีระของตัวเองแล้วเป็นยังไง ในบั้นปลายก็ไม่ต่างกันเลย...

    “ตอนที่ยังมีชีวิต ถูกกรรมลิขิตให้โลดแล่นบนกองกิเลสตัณหาสารพัดสารพัน ครั้นตายไปแล้วได้อะไรติดตัวไปบ้างไม่มีเลย แม้แต่เงินปากผี ยังถูกสัปเหร่อหยิบเอา เหลือแต่ตัวเปล่าๆ กลับไปไม่ต่างกับตอนแรกเกิดเลย”



    ใคร ที่ลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อันเป็นตัวพอกพูนกิเลสตัณหาในใจ หากได้มาศึกษาจากซากศพเหล่านี้ อาจจะได้สิ่งดีๆ กลับไป หรือใครที่มัวแต่หลงเงาตัวเอง เอาแต่ชื่นชม “เปลือกนอก” ของตัวเองจนเกินงาม เมื่อใดก็ตามที่ได้มาเห็นเงาแห่งอนาคตอย่างซากศพคนตาย ก็จะเข้าใจอะไรได้ดีกว่าเดิม...

    ผลของการมาดูซากศพ ที่เป็นเหมือนกระจกเงาสะท้อนชีวิตของผองผู้คน ไม่มีใครหนีพ้นจากความเกิด แก่ เจ็บ ตาย จึงน่าจะทำให้ผู้มาดูเก็บไปเป็นข้อคิดเตือนใจ และดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า เรารู้ว่าอนาคตจะต้องตาย มีสภาพไม่ต่างจากซากศพที่นอนอยู่เบื้องหน้า ที่รอวันเปื่อยเน่า เราจึงควรจะหมั่นสรรค์สร้างคุณงามความดีไว้เป็นหลักฐานให้ลูกหลานได้เห็นคุณ ค่าในตัวเรา...เมื่อเราเห็นปลายทางของเราอย่างนี้ เราก็จะไม่อยู่ในความประมาท ไม่ขาดสติในการกระทำใดๆ ทั้งปวง แล้วกิจการงานที่ทำก็จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี มีแก่นสาร มีประโยชน์ต่อสาธารณชนและตนเอง เมื่อคิดได้ดังนี้ ทำได้ดังนี้ ถือว่าประเสริฐแล้วสำหรับปุถุชนทั่วไป เพียงขอให้ยึดหลักมัชฌิมาปฏิปทา ไม่วาดหวังในสิ่งที่สูงเกินไป ไม่หน้ามืดตามัวทำตัวตกต่ำ ก็จะทำให้ครองชีวิตอย่างราบรื่นตลอดไป

    หลวงพ่อเมือง กล่าวในตอนท้ายว่า หากยามใดที่อยากจะพักผ่อนทางใจ แบบไม่ต้องสิ้นเปลืองใดๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายบริการสถานที่ เหมือนอย่างที่ทางโลกเขาโปรโมตโฆษณาเชิญชวนกัน ก็ลองหันมาพักผ่อนทางธรรม ที่พิพิธภัณฑ์ศพ ศาลาอัศวินวิจิตร วัดป่ามัชฌิมาวาส โดยให้ซากศพเป็นครูดูบ้างเป็นไร อาจจะรู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรมของชีวิตได้เป็นอย่างดี

    ท่านเมตตานั่งสมาธิก่อนแล้วอธิษฐานจิตให้ครับ ท่านเสกให้นานประมาณ 10 นาทีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1056.JPG
      IMG_1056.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      112
  16. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    หลวงปู่หนูอินทร์ วัดป่าพุทธมงคล อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

    “พระราชศีลโสภิต” หรือ หลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร หรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกท่านจนติดปากว่า พระอาจารย์หนูอินทร์ เป็นพระเถระผู้มีความรู้ด้านวิทยาคม เคร่งครัดต่อการฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน และแตกฉานในพระธรรมวินัยเป็นอย่างสูง

    ด้วยกิตติศัพท์แห่งพุทธาคมทำให้ท่านเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่รักความยุติธรรม ยกย่องคุณงามความดีของบุคคล และฟื้นฟูสภาพจากสำนักวิปัสสนาที่ไม่มีอะไรเลย จนกลายเป็นวัดที่โดดเด่น คือ วัดป่าพุทธมงคล เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ

    ปัจจุบันท่านอายุ ๗๓ ปี พรรษา ๕๑ ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์, เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ที่ปรึกษารองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น และเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แห่งที่ ๑

    ประวัติพระราชศีลโสภิต หรือ หลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร วัดป่าพุทธมงคล
    หลวงปู่มีนามเดิมว่า หนูอินทร์ ธนคำดี เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๗๙ ณ บ้านเลขที่ ๙๖ หมู่ที่ ๑ บ้านหลุบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โยมบิดา-มารดา ชื่อนายเกื้อ-นางผอง ธนคำดี มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา ๗ คน

    ท่านเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๐๐ ณ วัดโพธิ์ชัย ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีพระครูสุขุมวาทวรคุณ (สุข สุขโณ) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาประพันธ์ เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระมหากรม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบทท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก

    ท่านถือเพศพรหมจรรย์อุปสมบทตั้งแต่อายุ ๒๑ ปี เป็นเวลากว่า ๕๐ พรรษาในร่มกาสาวพัสตร์ จึงได้มีโอกาสศึกษาวิชาอาคมปฏิบัติพระกัมมัฏฐานกับครูบาอาจารย์หลายท่าน เช่น อาจารย์บุญมา บ้านตาดเนิ่ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร หลวงปู่สีทน ถ้ำปิ้ง หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรี ท่านมหาทองคำ ท่านอาจารย์ดำ บ้านพังขว้าง จ.สกลนคร พระอาจารย์จันลี พระอาจารย์วีระพันธ์ วัดบ้านเหล่าโพนค้อ

    ผลงานด้านการศึกษา พ.ศ. ๒๕๐๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นครูปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นกรรมการอำนวยการสอบธรรม สนามหลวง ที่วัดกลาง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับการ แต่งตั้งจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา

    ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้รับ พระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์

    ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้รับพระราชทานเป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูกิตติธรรมสาร พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสุขุมวาทเวที

    เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์พระสุขุมวาทเวที เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชศีลโสภิต

    สำหรับการสร้างวัตถุมงคล หลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่งในบรรดาคณะเกจิอาจารย์สายอีสาน มักได้รับกิจนิมนต์ให้เป็นประธานจุดหรือดับเทียนชัยและนั่งปรกอธิษฐานจิตใน พิธีพุทธาภิเษกมากมายหลายแห่ง


    ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้พร้อมกับพระเครื่องรุ่นใหม่ของท่านครับ เลยคล้ายๆกับได้เข้าพิธีอธิษฐานจิตเดี่ยว พุทธาภิเษกโดยหลวงปู่เลยครับ ท่านอธิษฐานนานกว่า 20 นาทีครับ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1057.JPG
      IMG_1057.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      115
    • IMG_1058.JPG
      IMG_1058.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      150
  17. jirayarn

    jirayarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +4,290
    ขอบคุณข้อมูลท่าน Farren มากครับ
     
  18. THANARATH 2010

    THANARATH 2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,721
    ขนาดคุณเพียรวิทย์ จารุสถิต ลูกศิษย์หลวงปู่ทิม...ยังให้ความสนใจถึงขั้นโทร ฯ ถามแสดงว่าท่านคงให้การยอมรับในตัวผู้สร้าง ( คุณสุรเชษฐ์ ) และคงทราบข้อเท็จจริงถึงวัตถุประสงค์ในการสร้างครั้งนี้เป็นอย่างดี จึงได้ติดต่อมาหาคุณหมอ
    ผมคิดว่าทุก ๆ ท่านที่ได้จองไว้แล้วคงจะต้องเก็บรักษาไว้ในความครอบครองนานแสนนานนะครับ และคงหวงแหนเป็นอย่างมาก...เป็นแน่
    ขออนุโมทนากับคุณหมอสุรเชษฐ์ ด้วยนะครับ ที่ได้สร้างสิ่งดี ๆ เป็นมงคลให้แก่เพื่อนสมาชิกได้มีไว้ในครอบครอง ขอขอบคุณครับ
     
  19. w.สุรพล

    w.สุรพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,216
    ค่าพลัง:
    +4,544
    วัตถุมงคลชิ้นที่ 1 รูปถ่ายหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ร่วมประมูล 599.00.......................................
     
  20. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ขออนุโมทาบุญด้วยนะครับผม
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...