ขอวิธีฝึกสมาธิขั้น กลาง และ สูงหน่อยนะคับ หามาหลายที่แล้ว

อานาปานสติ พื้นฐานที่ทำได้ตลอดเวลา ดูลมหายใจ เข้า-ออก แต่ประโยชน์นั้นสูง
มาก เจริญให้ถึง ฌาน4 นั้นสามารถไปฝึกกองอื่นๆอีก40 กองได้อย่างไม่ยาก
______________________
ยังฝึกหัด

 

จะขั้นอะไรก็ตาม ทำความสงบให้ได้ตัวเดียว
สงบ กาย สงบใจ นิ่งลงไป
ถ้ายังทำความสงบไม่ได้ จิตมันก็สอดส่าย เดี๋ยวคิด เดี๋ยวนึก เดี๋ยวรู้สึกต่างๆนาๆ แม้จะนั่งสมาธิเป็นชั่วโมงก็ไม่สงบ

เมื่อจิตสงบลงไป ก็จะทราบได้ชัดเจน เหมือนคนปวดหัวปวดตัวมานาน ครั้นพออาการปวดหัวปวดตัวหายไป ก็รู้ชัดได้ การรู้ความสงบก็แบบนั้น แต่ถ้ายังงงอยู่ว่าสงบหรือยัง ก็แสดงว่า ยังไม่เห็นความสงบ

เมื่อ ทำความสงบตัวนีได้เป็น จิตจะนิ่ง จะคิดก็ไม่คิด จะรู้สึกอะไรก็ไม่รู้สึก มันจะนิ่งตั้งมั่น
รวมไปถึงเมื่อออกจากสมาธิ จะคิด จะนึกอะไร ก็คิดนึก ด้วยความตั้งมั่น ไม่มีอารมณ์เข้ามาปน
เมื่อ นึก เมื่อคิดเสร็จ เรื่องก็ปล่อยวางลงไป ทำแบบนี้ได้ เรียกว่า ทำสมาธิได้ผล

ให้ทำตัวนี้ให้เป็นก่อน ยังไม่ต้องไปขั้นสูงอะไร

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]อารมณ์สมาธิ หรือฌาน หรือสมาบัติ หรืออัปปันนาสมาธิ เลือกเอาแล้วแต่จะเรียก[/FONT]

[FONT=&quot]ฌาน [/FONT]1. [FONT=&quot]จิตจะภาวณาไปเองเป็นอัตโนมัติ พุทโธภาวณาไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจ จะภาวนามันก็ภาวนา จะไม่ภาวนามันก็ภาวนา ภาวนาไปเองอัตดนมัติ สติรู้พร้อมอยู่ว่ากำลังภาวนาไปเอง จิตประคองอยู่ในการภาวนาเองนั้น จะมีอาการทางกายต่างๆเช่น ตัวโยก ตัวเบาจะลอย ตัวสั้น น้ำตาไหล เป็นต้น รวมความสรุปได้ว่า ถ้ามีอาการต่างๆทางกายเกิดขึ้น มันเป็นของธรรมดาๆที่จะต้องมี อย่าไปสนใจกับมน ภาวณาต่อไป จิตจะมีความสุขเอิ่บอิ่มเล็กน้อย มีความสงบ หูยังได้ยินเสียง แต่ไม่รำคาญ[/FONT]

[FONT=&quot]ถ้าเริ่มเข้าฌาน[/FONT]1 [FONT=&quot]อาจะจมีอาการเหมือนตกจากที่สูง หรือมีอาการเคลิ่มๆ แต่สติดีมาก ถ้าเคลิ่มและสติไม่ดี นั้นไม่ใช่ฌาน[/FONT]

[FONT=&quot]ฌาน [/FONT]2. [FONT=&quot]จิตจะทิ่งคำภาวนา จิตทิ้งพุทโธไปเสีย ลืมภาวนา สติประคองรู้อยู่เฉยๆในลมหายใจไม่พลากจากลม ความเอิ่มอิ่ม ความสุข มีมากขึ้น อาการต่างๆทางกายอาจจะยังมีอยู่[/FONT] [FONT=&quot] ลมหายใจเบาลงมาก[/FONT]

[FONT=&quot]ฌาน [/FONT]3 .[FONT=&quot]จิตจับลมเบาน้อยๆ ลมหายใจเบามากจนแทบไม่มี หูแทบไม่ได้ยินเสียง สัมผัสทางหายแทบไม่มีเลย ลมหายใจเบามากเหมือนกับจะไม่มี สติประคองเอาไว้ ต่อเนื่อง ความเอิ่มอิ่มหายไป เหลือแต่สุขล้วนๆ ร่างกายแข็งทือเหมือนมีคนเอาอะไรมามัดไว้[/FONT] [FONT=&quot]ไม่อยากจะขยับ[/FONT]

[FONT=&quot]ฌาน [/FONT]4 .[FONT=&quot]ลมหายใจ หายไปในความรู้สึกรู้สึกถึงลม[/FONT] [FONT=&quot]หายใจ เหมือนๆว่าจิตจะลืมลมหายใจ แต่กำลังใจไม่มืด ไม่กลัว กำลังใจโปร่ง[/FONT] [FONT=&quot]สว่าง ร่างกาย หายไปในความรู้สึก สุขที่เคยมีในสมาธิ หายไปหมด[/FONT] [FONT=&quot]ทุกข์ที่เคยมีในการเมื่อยต่างๆทางกายหายไปหมด ไม่ ไม่รับรู้สัมผัสใดๆทั้งหมด เสียง ไม่ได้ยิน จิตมีแต่ความเป็นกลาง ไม่สุข ไม่ทุกข์[/FONT]

[FONT=&quot]อาการทางกายที่จะเกิดขึ้นนั้น จะมีหลักๆ[/FONT] 5 [FONT=&quot]อย่าง [/FONT]1.[FONT=&quot]พองขนชูชันน้ำตาไหล [/FONT]2.[FONT=&quot]ทำให้รู้สึกแปลบๆเป็นขณะๆ[/FONT] [FONT=&quot]ดุจฟ้าแลบ [/FONT]3.[FONT=&quot]เป็นระลอก หรือปีติเป็นพักๆ ทำให้รู้สึกซู่ลงมาๆ[/FONT] [FONT=&quot]ในกายดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง [/FONT]4.[FONT=&quot]สึกตัวเบา เหมือนลอยขึ้นไปในอากาศ[/FONT] 5.[FONT=&quot]รู้สึกเย็นซ่านเอิบอาบไปทั่วสรรพางค์ บางทีก็สั่นๆเป็นเจ้าเข้าทรงทีเดียว[/FONT]

[FONT=&quot]เมื่ออาการเหล่านั้นเกิดขึ้น หรืออาการใดๆเกิดขึ้น ให้ ประคองจิตไว้ในกรรมฐาน อย่าสนใจ มันเป็นของธรรมดา[/FONT]

[FONT=&quot]นิมิตรที่อาจจะจะเกิดขึ้นนั้น[/FONT] [FONT=&quot]จะเกิดขึ้นได้ทุกขณะ บ้างก็เห็นเทพ พรหม ผี ปีศาจ วิญญา อดีต อนาคต[/FONT] [FONT=&quot]เห็นมั่วๆซั่วๆ บางทีก็เห็นแสงสว่าง เห็นแสงสี ให้กำหนดดรู้ที่กรรมฐานเอาไว้ อย่าไปสนใจในนิมิตร ให้รู้ว่านิมิตร มันหลอก[/FONT] [FONT=&quot]นิมิตรเกิดเมื่อไหร่ ก็ไม่ต้องสนใจมัน มันหลอกๆ [/FONT]

 

- สมาธิขั้น หยาบ กลาง สูง อยู่ที่ ศีล ไม่มี ศีล ไม่มีอะไรเลย

 

ลองเข้าไปดูที่นี่นะครับ อาจพอจะช่วยได้บ้าง

 

สติครับสติ

ครูอาจารารย์หลวงตาบัวท่านเน้นท่านสอนมากเรื่องสติ คนเราต้องมีสติ คนปกติสติก็ดีหน่อย คนบ้าก็เสียสติ คนโรคจิตก็เผลอสติ ถ้าเรามีสติไม่ว่าจะคิด ฟัง ถาม เขียน นั่ง นอน เป็นต้น ย่อมเป็นฐานแห่งปัญญาที่จะเกิดขึ้น และเห็นด้วยข้างบนนะครับเรื่องศีล ศีลตามความเห็นของผมเป็นตัวชี้วัดภพภูมิที่จะไปเกิดได้เลยทีเดียว ทำไมถึงกล่าวอย่างนั้นเหรอครับ เพราะศีลตามตำราท่านว่าแปลว่าปกติ คือกายและวาจาปกติ ครูอาจารย์บางท่านสอนว่าศีลไม่รวมใจ บางท่านก็สอนว่ารวมใจด้วย ส่วนตัวของแต่ละท่านคิดว่าคงรู้นะครับ คนเราแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันบ้างพึงถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน อย่าเป็นคนมักโกรธหรือก้าวร้าว พูดถึงตรงนี้ย้อนมาเรื่องสติ ถ้าเรามีสติเราก้จะควบคุมกรรม(กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม) ของเราได้ดี และถ้าเราไม่ก้าวร้าวเราย่อมเป็นคน"น่ารัก"..........

 

สมาธิ หรือ การปฏิบัติธรรม ก็เหมือนข้ามสะพานลอย ตอนเป็นเด็กก็ขึ้นทีละขั้น พอโตแล้วก็ขึ้นทีละสองสามขั้นสบายๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราก็ต้องลง เมื่อข้ามไปถึงอีกฝั่งแล้ว

ขั้นต้น คือ "เรียน"
ขั้นกลาง คือ "รู้"
ขั้นสูง คือ "วาง"

เรียนมาก รู้มาก วางยาก
เรียนน้อย รู้น้อย วางง่าย

เจริญพร

 

ความรู้คือประทีป

แสดงว่าผู้ฝึกไม่เข้าใจเรื่องสมาธิซักเท่าไหร่ ขออธิบายง่ายๆครับว่าขั้นต้นคือการเข้าฌานได้ตั้งแต่ฌานหนึ่งถึงฌานสาม ขั้นกลางคือฌานสี่ครับ และขั้นสูงคือการพิจารณาอรูปฌานควบคู่ไปกับฌานสี่ครับ นิยมเรียกว่าวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งต้องใช้ปัญญาเป็นเครื่องประกอบ ฌานสี่ที่แท้จริงนั้นคือจะต้องสามารถแสดงฤทธิ์ทางใจได้นะครับ ถ้าไม่ได้ถือว่าเข้าไม่ได้นะครับ ส่วนอรูปฌานคือการถอดจิตพิจารณากายของตัวเอง แนะนำได้แค่นี้นะครับ