ลองนั่งสมาธิแล้วเกิดติดขัดนะครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย npg002, 26 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. npg002

    npg002 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +20
    คือ พอนั่งสมาธิไปสักพัก เกิดเห็นตัวเอง เหลือเพียงโครงกระดูกขาวๆ ผมเห็นแล้วไม่กล้านั่งต่อ ควรทำอย่างไรดีครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    พลิกวิกิตให้เป็นโอกาสนะน้อง.....โอ...ของดีนะนั่น.....

    กรรมฐานของเก่ามันขึ้นมาจับไว้เลยครับ.....ทีนี้ให้ฝึกกองนี้เลยนะ.....ไม่ผิดทางแน่นอน....และจะพัฒนาไปได้เร็วมาก.....
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    [​IMG]

    สติปัฏฐานสูตร

    กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน

    นวสีถิกาบรรพ

    ภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง เปรียบเหมือนภิกษุพึงเห็นสรีระที่เขาทิ้งไว้ในป่าช้า ตายแล้ว วันหนึ่งบ้าง สองวันบ้าง สามวันบ้าง ที่ขึ้นพองมีสีเขียวน่าเกลียด น้ำเหลืองไหล น่าเกลียด
    เธอย่อมน้อมเข้ามาสู่กายนี้แหละว่า ถึงร่างกายอันนี้เล่า ก็มีอย่างนี้เป็นธรรมดา คงเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้ ดังพรรณนามาฉะนี้ ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายภายในบ้าง ฯลฯ
    ภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่า พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ฯ
    อีกประการหนึ่ง เปรียบเหมือนภิกษุพึงเห็นสรีระที่เขาทิ้งไว้ในป่าช้า อันฝูงกาจิกกินอยู่บ้าง ฝูงแร้งจิกกินอยู่บ้าง ฝูงนกตะกรุมจิกกินอยู่บ้าง หมู่สุนัขกัดกินอยู่บ้าง หมู่สุนัขจิ้งจอกกัดกินอยู่บ้าง หมู่สัตว์ต่าง ๆ กัดกินอยู่บ้าง.
    เธอย่อมน้อมเข้ามาสู่กายนี้แหละว่า ถึงร่างกายอันนี้เล่าก็มีอย่างนี้เป็นธรรมดา คงเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้ ดังพรรณนามาฉะนี้ ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายภายในบ้าง ฯลฯ
    ภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่า พิจารณาเห็นภายในกายอยู่
    อีกประการหนึ่ง เปรียบเหมือนภิกษุพึงเห็นสรีระที่เขาทิ้งไว้ในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ยังมีเนื้อและเลือด ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่ ฯลฯ เป็นร่างกระดูก ยังเปื้อนเลือด แต่ปราศจากเนื้อ ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่ ฯลฯ เป็นร่างกระดูกปราศจากเนื้อและเลือดแล้ว ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่ ฯลฯ เป็นร่างกระดูก ปราศจากเส้นเอ็นผูกรัดแล้ว เรี่ยรายไปในทิศน้อยทิศใหญ่
    คือกระดูกมือไปทางหนึ่ง กระดูกเท้าไปทางหนึ่ง กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกขาไปทางหนึ่ง กระดูกเอวไปทางหนึ่ง กระดูกข้อสันหลังไปทางหนึ่ง กระดูกซี่โครงไปทางหนึ่ง กระดูกหน้าอกไปทางหนึ่ง กระดูกแขนไปทางหนึ่ง กระดูกไหล่ไปทางหนึ่ง กระดูกคอไปทางหนึ่ง กระดูกคางไปทางหนึ่ง กระดูกฟันไปทางหนึ่ง กระโหลกศีรษะไปทางหนึ่ง
    เธอย่อมน้อมเข้ามาสู่กายนี้แหละว่า ถึงร่างกายอันนี้เล่า ก็มีอย่างนี้เป็นธรรมดา คงเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้ ดังพรรณนามาฉะนี้ ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายภายในบ้าง ฯลฯ
    ภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่า พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ฯ
    อีกประการหนึ่ง เปรียบเหมือนภิกษุพึงเห็นสรีระที่เขาทิ้งไว้ในป่าช้า เป็นกระดูก มีสีขาว เปรียบด้วยสีสังข์ ....เป็นกระดูก เป็นกองเรี่ยรายแล้ว เก่าเกินปีหนึ่งไปแล้ว..... เป็นกระดูกผุละเอียดแล้ว
    เธอย่อมน้อมเข้ามาสู่กายนี้แหละว่า ถึงร่างกายอันนี้เล่า ก็มีอย่างนี้เป็นธรรมดา คงเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้ ดังพรรณนามาฉะนี้
    ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายภายในบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง พิจารณาเพื่อธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง พิจารณาเห็นธรรม คือทั้งความเกิดขึ้น ทั้งความเสื่อมในกายบ้าง ย่อมอยู่
    อนึ่ง สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่า กายมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไร ๆ ในโลก
    ภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่า พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ฯ

    _________________________________________________________________
    สงสัยนี่คงจะชอบกลัวผี...กรรมฐานนี้ผมชอบฝึกนะ.....ฝึกดี.....สงบกามราคะสงบจิตได้ดีมากเลย.....

    คือบางครั้งเมื่อเราเจริญการปฏิบัติจิตสงบขึ้นมาบ้างสมาธิจะรวมตัวเข้า...ของเก่าในอดีตจะปรากฏขึ้น...ถ้าเราทราบและจับถูกจะพัฒนาไปได้ไวมาก....ในแบบที่เห็นนี่ไม่ใช่นิมิตนะ...เป็นของเก่าปรากฏนะ...เพราะมันแผงตัวเข้าครอบ..ไม่ได้ลอยผ่าน....เอาต่อไปนะ....ปฏิบัติต่อไป....เจริญในธรรม......

    ช่วงนี้ตอบกระทู้เจอคนที่เขามีของเก่าเข้ามาเยอะกันจัง....<!-- google_ad_section_end -->

    [​IMG]<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2011
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ผมขอเอาที่ได้อ่านจากหนังสือ พระอาจารย์สมบัติ มาตอบครับ
    "นิมิต ในด้านจิตตภาวนานั้นประกอบด้วย อุคคหนิมิต และ ปฏิภาคนิมิต นั้นเมื่อนัก
    ภาวนาเจริญภาวนาไปจนจิตสงบบ้าง จะเห็นเป็นรูปบุคคลภายนอกเดินมาหรือผ่าน
    มาให้เห็นอาจเป็นบุคคลลที่ตายไปแล้วก็มี หรือปรากฏเป็นครูบาอาจารย์รูปใดรูปหนึ่ง
    ผ่านมามากน้อยบ้าง บ้างก้เดินมาหาเราขณะเจริญภาวนา บ้างก้ปรากฏเป็นรูปภูเขา ห้อง
    แถว โบสถ์ วิหาร ปฏิภาคนิมิต คือ การปรากฏนิมิตภาพบุคคล วัตถุต่างๆ มานั่งลอยอยู่
    เฉพาะหน้าหรือตายลงเฉพาะหน้า เราจะกำหนดให้ภาพนั้นไกลออกไปฏ็ได้ กำหนดให้
    ภาพนั้น สิ่งของนั้นใกล้เข้ามาใกล้ๆ ก็ได้ เพ่งให้ร่างกายเน่าเปื่อยเหลือแต่โครงกระดูกก็ได้
    นึกต่อไปว่ารูปนี้จะเจ็บจะตายหรือไม่ ? นึกในใจว่าเขาตาย รูปก็แสดงความตายลงไป เมื่อ
    นึกในใจว่ารูปนี้จะเน่าเปื่อยไหม ? รูปนั้นจะเกิดเน่าเปื่อยให้เห็น ขยายให้ใหญ่ให้เล็กก็ได้
    ตามต้องการ กำหนดให้เห็นอยู่ไกลๆ หรือใกล้ ๆ ก็ได้ บ้างก็ปรากฏเป็นรูปร่างที่น่ากลัวให้
    ตั้งสติรู้ทัน บางครั้งแลบลิ้นปลิ้นตานั่นมิใช่เปรตมิใช่ผี เป็นเพียงสังขารสัญญาของเราปรุงแต่ง
    ไปเอง เป็นสังขารภายนอกหลอกหลอนจิตใจตน มิใช่ของจริงจังอะไร สักแต่ว่าเป็นรูปให้พิ
    จารณา รู้ว่าเป็นของไม่จริง เหมือนเราดูภาพยนตร์ เมื่อนิมิตเกิดขึ้น ให้ตั้งสติระลึกรู้และวางเฉย
    กำหนดพิจารณารู้ว่านิมิตทั้งหลาย เป็นของไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง เกิดจากสัญญา สังขารปรุงแต่ง
    ขึ้น ถ้าเห็นเป็นภาพสวยงาม หรือน่าเกลียดน่ากลัวก็อย่ายินดียินร้าย เพียงแต่มีสติให้มั่น"<O:p</O:p<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. daruma

    daruma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +533
    อนุโมทนาบุญด้วยคับ อย่างพี่พานุเดชว่าแหละคับ หมั่นปฏิบัติไปเรื่อยๆ มันเป็นให้รู้ว่ามันเป็นมันเกิดก้อให้รู้ว่ามันเกิด รู้ให้แท้เห็นให้แท้ เข้าใจอย่างถ่องแท้
     
  6. npg002

    npg002 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยแนะนำ
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ไม่กล้านั่งต่อ ก็เพราะกลัว เนื่องจากเราไม่รู้ว่า สิ่งที่เราเห็นนั้นคืออะไร

    ให้เรามีสติก่อน ว่า สิ่งต่างๆ ที่เราเห็นนั้น หากเราไม่สนใจมันซะ แค่ลืมตาก็ไม่เห็นแล้ว หรือ เอาใจไปที่อื่นก็ไม่เห็นแล้ว เราหลุดออกจากคำบริกรรม มาหลายเสต็ป แล้ว

    ดังนั้น ให้เราใช้สติเตือนตน ว่า เราจะเอาความสงบหรือเปล่า หากจะเอาความสงบก็ต้องวาง สิ่งที่เราเห็นไป แล้วเอาใจมากำกับ กับคำบริกรรมต่อ จนกว่า ใจจะสงบไป ไม่สอดส่ายไปเห็น ไปคิด
    ใจก็จะสงบตัวลงไป นั่นแหละ เรียกว่า การทำสมาธิที่ถูกต้อง

    การปล่อยใจให้ไหลไปตามเนื้อเรื่อง เหมือนคนดูหนัง ยังไม่เป็นสมาธิที่ถูกต้อง

    ให้พิจารณาว่า เมื่อไรก็ตาม ที่ปล่อยใจไปเหมือนคนดูหนัง ให้ดึงกลับมา บริกรรม

    ดังนั้น คำบริกรรม หรือ เครื่องมือที่ให้จิต รู้เป็นหนึ่ง นี้สำคัญ เพื่อเป็นตัวกำกับให้จิตนี้ เป็น เอกคตา
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,441
    ค่าพลัง:
    +35,042
    เจริญสติต่อไปให้ต่อเนื่องนะครับ....ที่มองเห็นตัวเองนะเพราะกำลังสติยังไม่เพียงพอ
    ที่จะควบคุมดวงจิตให้อยู่ในร่างกายได้..อย่าเลิกนะครับ..ถ้าไม่มีเวลานั่งสมาธิ ก็เจริญสติต่อไป..ต่อไปเมื่อถึงฐานอารมย์นั้น จะมองเห็นช่องท้องตัวเอง ตอนนั้นก็ให้เขาพิจารณาในกายต่อเลยครับ.เพราะตอนนี้ วิปัสสนาจะเริ่มเปิดทางให้แล้ว..แต่อย่าปล่อยไม่พิจารณา นะครับเพราะว่าอาจจะกลับสู่สภาพเดิมได้หรือเรียกว่าจิตซีมกลับ.
    อนุโมทนาด้วยนะครับ...
     
  9. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,605
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,017
    ฝากอันนี้ให้คุณ npg002 ฟังเเล้วดูเเล้วกันครับ จะพบเจออะไรในระหว่างที่ปฎิบัติ ไม่ต้องไปสนใจเค้าครับ ขอให้ตั้งใจปฎิบัติต่อไป เห็นเเล้วก็ปล่อยวางไปครับ เเล้วสมาธิของท่านจะพัฒนายิ่งๆขึ้นไปครับ เจริญในธรรมครับ

    <object width="640" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/uUSTzvgH9-E?fs=1&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/uUSTzvgH9-E?fs=1&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="390"></embed></object>

    ต่อสู้ความกลัว - Buddhism Audio

    ต่อสู้ความกลัว

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">
    Artist: หลวงพ่อชา สุภัทโท
    <fieldset class="fieldset"> <legend>ไฟล์แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody><tr> <td width="20"><input id="play_19449" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=19449" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>ต่อสู้ความกลัว.wma (4.70 MB, 4048 views)</td></tr></tbody></table></fieldset>
     
  10. ไม่ยึด

    ไม่ยึด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +263
    ควรเลิกนั่งซะ เดี๋ยวจะตาย เรากลัวตายนี่นา
     

แชร์หน้านี้

Loading...