ฝึกจิตให้คิดมุมบวก โดยท่านว.วชิรเมธี

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nida_cha, 5 ธันวาคม 2010.

  1. nida_cha

    nida_cha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +1,140
    ผู้ชายสองคนเป็นเพื่อนรักกันมากวันหนึ่งเดินผ่านแผงล็อตเตอรี่ที่ถนนราชดำเนินก็คุยกัน ถ้าฉันซื้อล็อตเตอรี่ถูกรางวัลที่ 1 ฉันจะซื้อรถเบนซ์เอาระดับ 5 ล้าน เพื่อนอีกคนก็บอกว่าแล้วรถของแกจะให้ฉันนั่งไหม เพื่อนบอกว่าแกจะนั่งรถฉันได้ไง แกก็ต้องหัดซื้อรถเอง ก็ได้ งั้นฉันก็จะซื้อล็อตเตอรี่เหมือนกัน ถ้าฉันถูกรางวัลที่ 1 ฉันจะสร้างถนนให้เจ๋งที่สุดเลย แล้วจะสร้างทางด่วนด้วย เก็บตังค์
    แกจะสร้างทางด่วนใช่ไหม ใช่ ทีนี้รถเบนซ์ของฉันมันวิ่งผ่านทางด่วนแกได้หรือเปล่า เรื่องอะไรฉันจะให้รถแกมาวิ่ง ทำไมแกไม่ให้ว่ิง ก็แกไม่อยากให้ฉันมานั่งรถแกทำไม พูดยังงี้ก้อสวยซี เอาไงก็เอากันซีวะ สักพักต่อยกันผัวะเลย เลือดกบปากคนขายล็อตเตอรี่เข้ามาห้าม พี่ ใจเย็นๆ ก็ได้ ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร ก็ไอ้หมอนี่มันไม่ให้ฉันนั่งรถมัน ก็มันน่ะซีไม่ให้ฉันเอารถไปวิ่งบนถนนของมัน แล้วรถคุณอยู่ไหน ยังไม่ได้ซื้อ ถนนคุณอยู่ไหน ยังไม่ได้ซื้อล็อตเตอรี่เลย
    คนขายถึงกับสังเวช เพราะอะไร ความคิดฟุ้งซ่าน คุณโยมเห็นหรือยัง มนุษย์เราเต็มไปด้วยความคิดฟุ้งซ่าน อาตมาเคยเจอวัยรุ่นคนหนึ่งที่มาทำสังฆทานกับอาตมา นำ้หูนำ้ตาไหล อาตมาถามว่าทำไมนำ้ตาไหล อกหักครับพระอาจารย์ อกหักยังไง แฟนบอกเลิกหรือ ไม่ได้บอกเลิกครับ แต่ว่าผมจีบเขาข้างเดียวมาครึ่งปีแล้ว แล้วยังไงต่อ วันหนึ่งผมมาค้นพบความจริงว่าเธอมีแฟนแล้วครับ ผมก็เลยรูู้สึกว่าผมมันอกหักไปแล้ว
    นี่ขนาดผู้หญิงเขาไม่รู้เรื่องเลยนะ ถึงขั้นทำสังฆทานคิดดูซิ ยังปากดีนะคุณโยมนะ บอกอาตมาว่าผู้หญิงคนนั้นชวดโอกาสเจอคนที่ดีที่สุดไปแล้ว นี่สะท้อนความคิดฟุ้งซ่านไม่ได้ผลอะไร ฉะนั้นถ้าเราจะคิดต้องคิดให้เป็น จะคิดให้เป็นต้องคิดเชิงบวก
    แต่ก่อนจะคิดเชิงบวกก็จะบอกวิธีคิดเชิงลบก่อน วิธีคิดเชิงลบคือคิดแล้วตัวเองแย่ คิดแล้วคุณภาพชีวิตไม่ดี คิดแล้วตำ่ต้อย คิดแล้วมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเลย
    คนที่คิดในเชิงลบอย่างนี้ ไปอยู่ที่ไหนก็ทำให้อะไรมันแย่ลง เช่นนั่งรถจากกรุงเทพฯ มานี่ก็ประมาณชั่วโมงหนึ่ง ถ้าคิดลบก็จะมองว่าเป็นกรรมของฉันนั่งรถจากฝั่งธนมาทำงานที่นี่ จะไม่ทำก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่มีกิน ทนลำบากตรากตรำแทบล้มประดาตายนั่งรถเมล์มา รถเมล์ก็ร้อนเหมือนกับนั่งอยู่บนเตาอบมาทำงานเพื่อนร่วมงานก็ทำตัวเป็นเจ้ากรรมนายเวร อยากจะลาออกวันละ 10 หน ชีวิตก็แย่มากๆ นี่คือคิดลบ
    แต่ถ้าคิดบวกนะ อยู่ฝั่งธนนั่งรถมาทำงานที่นี่ทุกๆวัน ฉันได้บำเพ็ญขันติบารมี ในเมืองไทยใครจะโชคดีเท่าฉัน ฉันนั่งรถทุกเช้าทุกเย็น แล้วแต่ละวันฉันได้เจอเพื่อนใหม่ๆ บนรถเมล์ตลอดเวลา แล้วนั่งจากฝั่งธนมาถึงที่นี่ฉันได้เห็นคน เห็นบ้าน เห็นเมือง เห็นอะไรเยอะแยะไปหมดเลย ชีวิตรื่นรมย์มาก พอมาทำงานปุ๊บเพื่อนร่วมงานที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันมีอยู่ทุกที่เลย การที่เขาอิจฉาเรา แสดงว่าเราจะต้องเป็นคนเก่งจริง ไม่งั้นไม่มีใครเสียเวลาอิจฉาเราแน่ๆ

    คัดจากหนังสือ "เคล็ดลับดับทุกข์" โดยท่าน ว.วชิรเมธี
     
  2. วิศวนันต์

    วิศวนันต์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +35
    ดีมากๆครับ ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...