วัตถุมงคลยอดขลัง พลังเวทสุดมหัศจรรย์"หลวงพ่อผินะ ปิยธโร"

พี่ youri พี่พูดได้ประทับใจผมจริงๆครับพี่
งูเห่า เลื้อยขึ้นจากโถขี้ ยังไงๆ มันก็คืองูเห่า

แม่เนื้อหอมที่ผมมีเป็นรุ่น ไม้มงคลครับ ตามที่พี่พรสวรรค์ ลงรูปเอาไว้ครับ ผมมีอยู่ 2 ดวงครับ เห็นอยู่ในตู้พระของคุณพ่อผมมาอย่างแน่ๆก็ ไม่เห็นจะต่ำกว่า 10 ปี น่ะครับ รวมถึงกะลาด้วยน่ะครับ สมัยเด็กผมเคยเห็น(ลืมไปครับผม 30 แล้ว) แล้วยังเคยสงสัยว่าสิ่งนี้ สวมใส่ได้หรือ มันออกจะแปลกๆต่างจากพระเครื่องทั่วไป พอมาเจอคนรู้จัก กล่าวขานเรื่องความอัศจรรย์ของเครืองรางขนิดนี้แล้วทึ่งจิงๆครับ ไม่ว่าจะเป็นความขลังรวมทั้งปริศนาธรรมในการสร้างและเจตจำนงค์ในการสวมใส่ครับ

ผมอ่านกระทู้นี้บอกตามความจริงครับ อ่านตั้งแต่ 1 - 115 มาทุกหน้าเลยครับ ก็ได้เห็นอะไรหลายๆอย่างนะครับ แต่คงไม่ออกความคิดเห็นครับ :d คงต้องใช้เหตุผลและวิจารณญานของแต่ละคนด้วยนะครับ แน่นอนครับ ศาสนาทำให้คนเราแปลกแยกกันครับ แต่ความศรัทธาทำให้คนเรารวมตัวกัน เหมือนที่พี่ๆศรัทธาต่อหลวงพ่อแหละครับ

คนเราขึ้นชื่อว่าลองได้ศรัทธาแล้วและเรียกขานท่านว่าเป็นครูบาอาจารย์แล้วยังไงก็ไม่พ้นที่จะต้องขวนขวายเสาะแสวงเครื่องรางของท่านมาให้จงได้ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละท่าน แน่นอนครับคนที่มีแล้วก็ยังอยากมีเพิ่มอีก และมีเพิ่มอีกไปเรื่อยๆครับ
แต่สิ่งนึงที่ผมว่าเลวร้ายมากนะครับคือคนที่เอา ความศรัทธามาเล่นแร่แปรธาตุกับคนอื่น ผมจึงอยากเตือนว่า เรารู้ว่ามีคนกลุ่มนี้อยู่เพราะฉะนั้น เราศรัทธาหลวงพ่อ อยากมีอยากได้ของหลวงพ่อท่าน ดังนั้นจงอย่าให้ความโลภมาบดบังความศรัทธาเอานะครับ

ถึงไม่ได้ใส่ของของหลวงพ่อท่าน แต่ทำ KWAM_DEE เอาไว้เถอะครับ แน่นอนที่สุด

 

กราบเท้าพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงพ่อผินะ ปิยธโร เป็นอย่างสูง
เรื่องความคิดความเห็น ทุกๆคนนั้นมีสิทธิ์ที่จะคิดและออกความเห็นได้ แต่เรื่องจริงๆแล้ว คือ เจตตนาของเราทุกๆคนนั่นแหละ จะเคารพศรัทธา หรือมั่นใจในองค์หลวงพ่อผินะฯ มากน้อยสักเพียงไหน? ถ้ามั่นใจกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อผินะฯ อย่างสุดสุดแล้ว รับรองว่าย่อมได้ผลเสมอ.. เว้นแต่ว่า พวกเราทั้งหลายนั้น กระทำกรรมอันหนักหน่วงไว้ ต้องชดใช้กรรมนั้นเท่านั้น...
แต่...มีแต่นะ..วัตถุมงคลของหลวงพ่อผินะฯ จะไม่ติดอยู่กับตัวผู้ที่ตายโหงอย่างเด็ดขาด..
ท่านหลวงพ่อผินะฯ รับรองไว้ว่า ..ของที่บูชาไปจากท่านหลวงพ่อผินะฯนั้น แคล้วคลาด 1000% ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ท่านไว้.. พิสูจน์ได้แต่ท่านห้ามไปทดลองเล่น ไม่ยอม..

 

"พญาชมพูบดีหรือท้าวชมพูพานบดี"(ที่หลวงพ่อน้อมนำเรื่องของท่านมาสร้างพระพุทธเจ้าปางจักรพรรดิปราบท้าวชมพูพานบดี)

-เรื่องย่อของพญาชมพูบดีมีอยู่ว่า ในสมัยพุทธกาล มีพระมหากษัตริย์ผู้เรือง

อำนาจพระองค์หนึ่ง ปกครองเมืองปัญจาลราษฐ์ พระนามว่า "พญาชมพูบดี"

เมื่อท่านประสูติขึ้นมา ขุมทองในที่ต่าง ๆได้ผุดขึ้นมากมายอันแสดงถึง

บุญญาธิการของพระองค์ ราษฎรของพระองค์มีฐานะมั่นคงเป็นอยู่ด้วยความ

อุดมสมบูรณ์มั่งคั่งพูนสุข

-พญาชมพูบดี มีของวิเศษ 2 อย่าง คือ 1.ฉลองพระบาทแก้ว (รองเท้าแก้ว)

เมื่อพระองค์สวมใส่จะนำพาเหาะไปในที่ต่าง ๆ ได้ ทั้งยังอธิษฐานแปลงเป็น

นาคราชเข้าประหัตประหารศัตรูได้ 2.วิษศร เป็นลูกศรวิเศษใช้ต่างราชฑูต หาก

กษัตริย์มืองไหนไม่ยอมอ่อนน้อมสวามิภักดิ์ขึ้นต่อพระองค์ ลูกศรนี้จะไปร้อยพระ

กรรณ(หู)นำพาตัวเข้าเฝ้าพระองค์ เหตุนี้ทำให้บรรดากษัตริย์เมืองต่าง ๆ รู้

กิติศัพท์แล้วพากันยำเกรงในพระเดชานุภาพยิ่งนัก.

 

-พญาชมพูบดีปราบกษัตริย์น้อยใหญ่ไปทั่วต่างก็มีชัยมาตลอด จึงคิดที่จะรุกราน

พระเจ้าพิมพิสาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ

-พระเจ้าพิมพิสารเป็นพุทธอุบาสกของพระพุทธเจ้า และสำเร็จเป็นพระโสดาบัน

จัดเป็นพระอริยเจ้าซึ่งอยู่ในเพศฆราวาส

-พญาชมพูบดีส่งอาวุธประจำกายของวิเศษของตนไปทำร้ายพระเจ้าพิมพิสาร

เช่นใดก็ไม่อาจทำอันตรายได้ และต้องพ่ายแพ้กลับไปทุกครั้ง ถือว่าเป็นความ

ปราชัยครั้งแรกที่คาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นกับพระองค์

-พญาชมพูบดีจึงทรงแค้นพระทัยมาก ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสารก็ทรงวิตกกังวลจึง

ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลเรื่องที่พญาชมพูบดีรุกราน

-พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องและเห็นว่า พญาชมพูบดีประสบความพ่ายแพ้ทิฏฐิ

มานะเบาบางลง ประกอบทรงเล็งเห็นวาสนาปัญญาของพญาชมพูบดีจะสามารถ

บรรลุมรรคผลได้.

 

-พระพุทธเจ้าจึงรับสั่งให้องค์อมรินทราธิราช(พระอินทร์) แปลงเป็นราชฑูตทูล

เชิญพญาชมพูบดีมาเข้าเฝ้าเบื้องพระพักตร์

-จากนั้นพระพุทธองค์ได้ทรงเนรมิตตนเป็น "พระเจ้าจักรพรรดิทรงเครื่องราชา

ภรณ์งามสง่า ส่วนพระสารีบุตรและพระโมคัลลานะพร้อมด้วยเหล่าภิกษุสงฆ์

สาวกผู้ทรงอภิญญาได้เนรมิตตนเป็นเสนาบดีใหญ่น้อยล้วนแต่น่าเกรงขามทั้ง

สิ้น แล้วเนรมิตพระวิหารเวฬุวันให้เป็นมหานครอันโอฬารประกอบกำแพง 7 ชั้น

ตรัสให้เทวดา อินทร์ พรหม คนธรรพ์ และนาค ร่วมเนรมิตเป็นตลาดน้ำ ตลาด

บก ครึกครื้นด้วยฝูงชน

-เมื่อพระอินทร์ได้เนรมิตเป็นราชฑูตไปเข้าเฝ้าพญาชมพูบดีเมืองปัญจาลราษฐ์

แล้ว สังเกตเห็นพญาชมพูบดีและเหล่าเสนาอำมาตย์ยังทรนงตัวถือดี ไม่ยอม

ลดละมานะทิฏฐิ พระอินทร์จึงได้แสดงฤทธิ์ให้เป็นที่ประจักษ์ พญาชมพูบดีมี

ความสามารถเก่งกล้าเพียงใดก็ต้องยอมจำนน ยกพลเดินทัพไปเมืองราชคฤห์

เพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ที่พระวิหารเวฬุวัน.

 

-ทันทีที่พญาชมพูบดีเดินทางไปถึงเขตพระนครก็ถึงกับตะลึง เห็นความยิ่งใหญ่

อลังการแห่งพระนครที่พระพุทธองค์ทรงเนรมิตดุจเทวโลก แม้เหล่าแม่ค้าริม

ทางยังสวยงามกว่าพระอัครมเหสีของพญาชมพูบดี ก็ให้รู้สึกขวยเขินก้าวเดินไม่

ตรงทาง

-เมื่อพระองค์ก้าวผ่านมาทางกำแพงพระนครแต่ละชั้น ทอดพระเนตรเหล่าเสนา

อำมาตย์ที่รักษาพระนคร พระทัยประหวั่นพรั่นพรึง พระเสโทไหลโทรมทั่วกาย

ครั้นถึงกำแพงชั้นในซึ่งเป็นกำแพงแก้วสวยงามวิจิตรตระการตา พระทัยไม่อยู่กับ

ตัวรู้สึกประหลาดผิดปกติ ไม่มีความมั่นใจ เหมือนพระองค์ไม่ใช่พญาชมพูบดีผู้

กล้าหาญทรนงเสียแล้ว

-พญาชมพูบดีได้เสด็จมาอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ของพระพุทธองค์ซึ่งเนรมิตกาย

เป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่งามสง่าถึงกับตะลึง แต่ก็ยังไม่หมดทิฐิมานะ ดังนั้นพระ

พุทธองค์จึงได้เชื้อเชิญให้พญาชมพูบดีแสดงฤทธิ์อำนาจและใช้ของวิเศษ แต่ก็

ไม่สามารถแสดงฤทธิ์ใด ๆ ได้เลย จึงทรงอับอายเป็นอย่างมาก

-พระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นพญาชมพูคลายทิฐิมานะลงมากแล้ว จึงได้

แสดงธรรมเทศนาโปรดพร้อมเหล่าเสนาอำมาตย์ที่ตามเสด็จจำนวนมากได้เข้า

ถึงสิ่งที่เป็นแก่นธรรม เห็นโทษแห่งการเบียดเบียน การเวียนว่ายตายเกิดใน

วัฏฏสงสาร เกิดปิติโสมนัส พญาชมพูบดีถึงกับถอดมงกุฎและเครื่องประดับวาง

ไว้แทบเบื้องพระพุทธบาทเพื่อสักการะเทิดทูนและขออุปสมบทเป็นพระภิกษุใน

พระธรรมวินัย.

 

-จากนั้น พระพุทธองค์พร้อมเหล่าอรหันตสาวก เทวดา อินทร์ พรหม คนธรรพ์

และนาค ได้คลายฤทธานุภาพกลับสู่สภาพเดิม แล้วพระพุทธองค์ก็ประทาน

อุปสมบทแก่พญาชมพูบดีพร้อมทั้งเหล่าเสนาบริวาร แสดงพระธรรมเทศนาให้

คลายความลุ่มหลงในเบญจขันธ์เป็นอเนกปริยาย

-บรรดาเหล่าบริวารได้ดื่มด่ำพระอมฤตธรรมสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล ส่วนพญา

ชมพูบดีได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า(พระพุทธเจ้าที่

ตรัสสอนผู้ใดไม่ได้ไม่มีสาวก)ในอนาคตกาล

-"นะ เต สุ เต มะ หา สุ เต นะ ชา"

-ขอน้อมนำแด่เพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยความเคารพ.

 

อนุโมทนาด้วยครับ

"ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วจริง"

ดีจริงๆอ่านกี่ครั้งก็สุดยอด

 

พระยุคต้น.....ครับ.......

 

รูปหลวงปู่ครับ...ไม่เก่า

 

-พ่อปลัดอยู่กับผมมาตั้งแต่ปลายปี 2549

-เมื่อเช้านี้ผมเจาะรูล่างท้ายพ่อปลัด "ปรากฎว่าพบกระดาษเขียน ชื่อ-นามสกุล

และวัน-เดือน-พ.ศ.เกิดของเจ้าของเดิมไว้"

-ก็ทำให้มีความเชื่อว่า "น่าจะเป็นพ่อปลัดที่หลวงพ่อได้บรรจุดวงเขาไว้" พร้อม

กับมอบให้เป็นของประจำตัวของเขาครับ.

 

ผมสมาชิกใหม่ครับและดาวของผม ติชมชี้แนะได้ครับ

 

อีกดวงเป็นของพี่ผม(ดวงแรก) ติชมได้เช่นกัน ดวงที่สองของผมเอง แล้วมีพี่ๆท่านใดพอจะรู้ไหมครับว่าทั้งสองดวงเป็นรุ่นอะไรสร้างเมื่อไร อยากรู้จริงๆครับเพราะคนที่ผมรู้จักไม่รู้จริงซักคนเลยตอนนี้สับสนมาก ขอความรู้หน่อยครับ ขอบคุณมากครับ

 

เพิ่งมาศัทธาหลวงพ่อครับ และดาวที่ได้มา แท้เก๊ไม่ทราบพี่ๆแนะผมได้ครับ รับฟังทุกท่านครับ

 

วันนี้ขอลบกวนพี่ทั้งหลาย ผมอยากจะทราบประวัติ
การสร้างวัตถุมงคล ปี49

ผมรู้แค่พระสูตร นี่ด้านหลังดาว สร้างแจกทหาร
และรูปหล่อ หลวงพ่อผินะ

 

ช่วยดูหน่อยครับ ว่าแท้ หรือ ไม่ พอดี ได้มาใหม่ ไม่ค่อยสมบูรณ์ เท่าไร่ ปากหัก

 

เจ้าของบอกว่า ได้มาจาก ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ดูเป็น อย่างไรครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

เพราะเรานั้น..คู่กัน

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน










จาก http://thaimisc.pukpik.com/freewebbo...ew&topic=13118

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ __________________

 

ช่วยดูให้หน่อยครับ มาจาก ดาวเคียงเดือน .:: [Generated by Gagto.com] ว่าเป็นไงบ้าง ช่วยแนะนำหน่อยครับ