ขอความช่วยเหลือครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย lldreamll, 8 ตุลาคม 2010.

  1. lldreamll

    lldreamll Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +84
    คือผมเป็นคนที่กลัวผีมากครับฝึกจิตมาก็นานอยู่ แต่ก็ยังไม่ละกลัว
    กลัวถึงขั้นดูหนังผีคนเดียวไม่ได้เลย
    อยู่คนเดียวตอนกลางคืนกก็ไม่ได้ มันรู้สึกแย่มากเลยครับ
    ผมเลยอยากจะขอกุศโลบายที่ช่วยขจัดความกลัวนี้ออกไป
    เอาทุกวิธีที่ท่านรู้เลยนะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    มันก็กลัวกันทุกคนแหละ ถ้าไม่กลัวนะ ก็ต้อง เกรง มัน

    ทำไมเราจึง เกรง หรือ กลัว ผี ก็เพราะเราไม่ "ไว้ใจ" หรือ "ไม่วางใจ"

    การ ไว้ใจ คือ เรายินยอมยก ใจ ให้เขาดูแลเรา

    การ ไม่วางใจ คือ เราไม่จำนนต่อใจของเราเองที่ดิ้นรนไม่เข้าเรื่อง

    ดังนั้น "การไว้ใจ" นั้นจะเป็นเรื่องของคนที่ไม่เคยสดับธรรมะ หรือสดับธรรมะแต่
    ยังไม่เข้าใจ ส่วนการ "การวางใจ" จะเป็นเรื่องของคนที่เคสสดับธรรมะ พอรู้
    หนทางบ้าง

    ยกตัวอย่างเช่น มีคนกำลังตกน้ำจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ บังเอิญว่า มีปู่ท่านหนึ่ง
    ท่านเดินผ่านมา แต่ท่านเป็นคนจนไม่เคยอาบน้ำแปรงฟัน ผมเผ้าไม่หวี ฟันดำและ
    หล๋อมองไปเผินๆจะเห็นแต่เขี้ยวที่ขาวยาวโค้ง เมื่อท่านยักแย่ยักยันเดินมาที่ตลิ่ง
    แล้วยื่นมือมาให้คนที่จมน้ำ

    คนจมน้ำนั้นมองปร๊าดแรก แทนที่จะยื่นมือให้ท่านกลับรีบชักกลับ เพราะ ดูสาระรูป
    แล้วเกิดขาดสติเห็นเป็น ผีที่น่ากลัว จึงไม่ "ไว้ใจ" ไม่กล้าที่จะให้เขาช่วย ไม่รู้ว่า
    เขามาดีหรือมาร้าย แต่ถ้าปู่ท่านนั้นพูดอย่างอ่อนโยนว่า "อย่ากลัวไปเลย ไอ้หนู
    ปู่ไม่ใช่ผี ปู่มาดี ปู่มาอย่างมิตร(พร้อมทั้งทำสายตาอ่อนโยนอย่างมิตร)" คนจมน้ำก็
    จะชักเห็นแล้วว่า ท่านมาอย่างมิตร จึงเริ่ม "ไว้ใจ" ยืนมือให้ท่าน แต่แล้วก็ขาดสติ
    ปล่อยให้ความกลัวเข้าครอบงำชักนำไปคิดอีกว่า "เฮ้ยแกจะช่วยเราพ้นจากน้ำได้อย่าง
    ไร ก็คนไม่มีแรง เดี๋ยวแกก็ตกมาด้วยจะมากอดเราพลอยให้จมตายทั้งคู่" ก็ชักมือกลับ
    อีก ตอนนี้เริ่มพยุงตัวไม่ค่อยขึ้นแล้ว เพราะกินน้ำไปหลายอึก ตัวเริ่มมีความถ่วงจำเพาะ
    เท่าๆกับน้ำ สุดท้าย มันจะตายอยู่แล้ว เลยเลิกคิด เลิกปล่อยให้ความคิดมันแล่นไป เลิก
    อุปทานไปตามความคิดที่แล่นไป ก็เกิดการ "วางใจ" หมดทั้งการดิ้นรน ทำตัวให้นิ่งๆ
    แล้วก็ยื่นมือให้ปู่แกจับ ท่านช่วยได้ก็ได้ ช่วยไม่ได้ก็ช่างมัน พอยื่นมือไปปั๊ป ด้วยตัวคน
    จมน้ำที่แน่นิ่งดุดขอนไม้ ปู่ก็เพียงยื่นเท้ามาเขี่ยๆ ให้ใกล้ฝั่ง แล้วจึงใช้มือจับให้พ้นจากน้ำ
    มานิดหน่อย พอให้ได้พักหายเหนื่อยใจ หายความคลั่งที่คิดว่าตัวเองจะจมน้ำ ก็มีแรง
    ฮึดปีนขึ้นมาได้เอง


    ก็จะเห็นว่า ไม่ว่าผี หรือ คนที่เหมือนผี หรือ หมาที่เห่า หากเรา "วางใจ" ให้เป็น
    ไม่ดิ้นรนอุปทานไปตามความคิด ไม่อุปทานไปตามอาการขนลุก ไม่อุปทานไปว่าเขา
    จะทำร้าย ไม่อุปทานไปว่าเขาจะพร่อง แค่นี้ เราก็จะไม่โดนความกลัวครอบงำ แม้
    ว่า อาการขนลุกขนชันจะเกิดอยู่ ความกลัว และความคิดในความกลัวจะแล่นอยู่ แต่
    มันชักนำใจเราไปไม่ได้ เพราะ เรา "วางใจ" ลงไปแล้ว มีจิตผู้รู้ ดูอาการวางใจนั้น
    ปรากฏอยู่ มีสภาวะกลัว(อาการต่างๆทั้งทางกาย และทางความคิด)เกิดอยู่ แต่มันก็
    แยกออกจาก "ใจ" ที่ตั้งมั่นอยู่ห่างๆ ไม่โดนอาการเหล่านั้นครอบ"ใจ" และมี ผู้รู้
    อีกสภาวะหนึ่ง คอยสังเกตอาการทั้งหมดทั้งมวลนั้นด้วยความตั้งมั่น แค่นี้ ความกลัว
    ก็เป็นเพียงอาการเกิดดับ ไม่ได้มีผลอะไรต่อใจ

    แต่สมมติว่าทำไม่ได้ "วางใจ" ไม่ได้ ทำไม่เป็น ดูยังไม่เป็น สติไม่เกิด วิปัสสนา
    แยกรูปนามไม่มี ก็ต้องอาศัยความ "ไว้ใจ" เข้ามาแทน

    ความไว้ใจนั้น ก็ต้องขึ้นกับการเห็นความเป็น "มิตร" ว่าเกิดขึ้นหรือไม่ เกิดขึ้นที่
    เราก็ได้ หรือ เกิดขึ้นที่เขาก็ได้ เพียงแค่เห็นร่องรอยอารมณ์ของความเป็นมิตร จะ
    จากเราหรือจากเขา เห็นแล้วทรงอารมณ์นั้นไว้ ก็จะเกิดการ "ไว้ใจ" เมื่อเกิดการ
    ไว้ใจก็จะ ข่มความกลัวลงได้ จะเผิกความกลัวออกได้ จะกดความกลัวไว้ได้ แต่
    ก็ใช่ว่ามันจะหายไปเสียทีเดียว(ทุกขัง) หากเราเผลอไปคิด ไปตีตัวก่อนไข้อะไรแปลกๆใหม่ๆ(อนิจจัง)
    ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมจากเรา มันจะกลัวเราห้ามใจเราไม่ได้(อนัตตา) แล้วเราก็ยัง
    ฉวยใจขึ้นมาเป็นเรา(วางใจไม่เป็น) มันก็ยังทำให้เรากลัวอยู่อีกในกาลอนาคต

    ก็ลองตรองดูนะ ว่าจะใช้อะไร

    ใช้วิธีทำความเป็นมิตร หรือ มองหา หรือ ถามหาความเป็นมิตร มันก็เป็นสมถะ
    ของใจเข้ามาชั่วครั้งชั่วคราว

    หากใช้วิธีวางใจให้เป็น ไม่ฉวยขึ้นมา อะไรจะเกิดมันก็แค่สิ่งเกิดดับผ่านมาผ่านไป
    มีความตั้งมั่นในการรู้ เพราะมีสมาธิ มันจะดีกว่าทำ สมถะ ชั่วครั้งชั่วคราวไหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2010
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    คนกลัวผีนี่พูดยาก....คิดอย่างไรมันกลัว....อย่างไรมันก็กลัว....

    หาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจก็ได้ครับ....ห้อยพระเครื่องที่เราศรัทธานะ...พระท่านช่วยได้......

    ติดของดี..ดีกว่าติดของเลว...

    ศึกษาวิชชากรรมฐานเปิดโลก วิชชาจักรพรรดิ์ สายหลวงปู่ดู่ ที่นี่ครับ...เห็นว่าคงจะเหมาะสมกับคุณ....

    http://www.watthummuangna.com/home/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2010
  4. บูชาพุทธ

    บูชาพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +858
    เขาว่ายิ่งกลัวอะไรก็ยิ่งต้องเผชิญกับสิ่งนั้นบ่อย ๆ จนกลายเป็นความเคยชิน
    กลัวความมืด ก็ต้องฝึกอยู่กับความมืดคนเดียวให้ได้
    ดูหนังผีคนเดียวไม่ได้ ก็หัดดูคนเดียวให้ได้ และดูบ่อย ๆ
     
  5. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ขออนุญาติออกความเห็นบ้างนะครับ

    ผมเองก็เป็นคนกลัวผีมากเช่นกัน แต่ทุกวันนี้ความกลัวมันเริ่มน้อยลงไปทุกที

    เพราะอะไร เพราะผมพิจารณาพวกภาพศพแบบต่างๆอยู่บ่อยๆ ก็คือฝึกกำหนดอสุภะ และเพื่อพิจารณาถึงความตายอยู่เสมอ และจากประสบการณ์ที่สัมผัสพวกวิญญาณทางนิมิตต่างๆ (ไม่ได้อวดนะครับ แต่กล่าวถึง เพราะนี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเท่านั้น)

    คนเราที่กลัวผี อย่างแรกคือเรากลัวการปรากฏแบบกระทันหัน โดยที่เรายังไม่ตั้งสติ กลัวสภาพของวิญญาณที่ปรากฏ และมันก็ล่วงไปถึงกลัวว่าเค้าสามารถที่จะทำให้เราตายได้

    การแก้อย่างแรก คือเมื่อเราต้องอยู่ในสถานที่ที่เรากลัว หรือไม่น่าไว้วางใจ เราจะต้องมีสติก่อน พยายามมีสติเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่เราคิดว่าอาจจะมีขึ้น แต่อย่าไปปรุงแต่งสิ่งต่างๆ ขอให้ตั้งสติอยู่กับจิตที่เป็นปัจจุบันเท่านั้น

    สอง การกำหนดอสุภะ พวกภาพศพเละๆ น่ากลัวต่างๆ นั้นเหมือนกับหนามยอกแล้วเอาหนามบ่ง คือ เรากลัวสภาพที่น่ากลัวของผี เราก็ดูแต่ภาพที่น่ากลัวของศพ เราหมั่นพิจารณาภาพศพอยู่เสมอ จิตของเราก็จะเกิดความเคยชินในสภาพที่น่ากลัวนั้น
    แต่ไม่ใช่แค่พิจารณาภาพอย่างเดียว ให้พิจารณาความเจ็บปวดจากบาดแผลของศพด้วย ว่าแผลลักษณะอย่างนี้จะเจ็บปวดเช่นไร แล้วคุณจะเกิดความสังเวชในสังขารเกิดขึ้นมา
    ทีนี้เวลาที่คุณเจอวิญญาณที่สภาพไม่น่าดู คุณก็จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ดวงวิญญาณดวงนั้นได้รับ จนไม่เกิดความกลัว แต่จะเกิดความสังเวชเวทนาแทน

    สาม ถ้ากลัวเกี่ยวกับความตาย ขอให้ระลึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง และมั่นใจว่า เราได้ปฏิบัติมาดีแล้ว เราพร้อมที่จะตายทุกเวลา ถ้าดวงวิญญาณนั้นสามารถที่จะทำอันตรายให้เกิดแก่ชีวิตของเราได้ ก็ให้คิดว่านั่นก็เพราะผลของกรรม ก็ขอให้หมดเวรสิ้นกรรมกันไป ไม่ถือโทษโกรธพยาบาทอาฆาตต่อกันอีก

    ที่สำคัญคือเราต้องศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง และระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยอยู่ตลอด

    นี่เป็นเพียงความเห็นที่ได้มาจากการปฏิบัติของตัวผมเอง ถ้ามีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องก็ว่ากล่าวตักเตือนและแนะนำเพิ่มเติมได้ครับ



    เจริญในธรรมครับ
     
  6. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    เห็น "ความจริง" ในตัวเอง ได้เมื่อไหร่ก็หาย กลัว เอง
     
  7. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ไม่มีอะไรตาย โดย หลวงตามหาบัว

    ตาก็ปลอม ความรู้ก็ปลอม อุปทานปลอม
    หลอกหลอน ให้ว่ายวน
    สติ จะทำให้รู้ไปตามความเป็นจริง
    อุบายให้ใจเป็นกลาง ต่ออุปทาน
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1170074/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. lldreamll

    lldreamll Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +84
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ
    พอดีได้อยู่บ้านคนเดียวเลยตระหนกน่ะครับ
     
  9. ศิษย์โง่งม

    ศิษย์โง่งม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +23
    ง่ายนิดเดียว หาเต็นพักแรม ซาว์เบ้า ไฟฉายกาแฟขนมน้ำ

    ชวนเพื่อนที่ไม่กลัวผีไปปิกนิค ป่าช้าใกล้บ้าน

    หาแถวที่สะอาดๆหน่อย ไม่มีกลิ่นเนื้อเน่า(หลายศพกำลังเน่า)

    แต่มองเห็นหลุมศพหรือเมรุเผาศพแบบกลางแจ้งยิ่งดี

    ไปกางเต้นท์นอนคุยกันกินกาแฟขนมกัน คุยบ้างฟังเพลงบ้างไปถึงเช้า

    ความกลัวก็จะหายไปเอง.....

    แต่ ถ้าเจอผีโผล่ออกมาจากหลุม หักคอตายเสียก่อน
    ก็จะไม่กลัวผีอีกต่อไป เพราะคุณก็เป็นผีเหมือนกัน..หุหุ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. tanatteab

    tanatteab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +236
    แก้กลัวผี

    สมัยผมอยู่วัดโดนฝึกให้นอนเฝ้าศพตายใหม่ๆ1วันเต็มเลยนะ
     
  11. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    <TABLE class=tborder id=post3600609 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] 30-07-2010, 01:04 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ไม่ยึด<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3600609", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jul 2009
    ข้อความ: 87
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 157
    ได้รับอนุโมทนา 214 ครั้ง ใน 59 โพส
    พลังการให้คะแนน: 61 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_3600609 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->ไม่ยึดจะเล่าเรื่อง พอดีวันนี้รั่ว<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
    พูดถึงเรื่องผีนี่มันไงไงไม่รุ ตั้งแต่จำความได้ก็มีผู้หญิงกับผ้ชายคุยกันบนขื่อบ้านทุกวัน ปลุกใครมาฟังเขาก็ม่ได้ยิน เราเนี่ยนอนเหงื่อชุ่มผ้าห่มทุกวัน จากคนธรรมด๊าธรรมดาก็กลายเป้นคนกลัวผีขึ้นมาทันที จากที่ฟังดูน่าจะเป้นผีผัวเมียกัน คุยทุกวันคุยจนเราโตเวลาผ่านไปหลายปี จึงไปเล่าให้ลุงฟังลุงเลยแก้ลำให้

    ลุง...ไปบอกเขาสิว่าเรากลัวเราไม่ชอบ

    อืมดีเหมือนกันจะได้รู้ๆกันซะที เดินโพร่งไปคนเดียวในห้อง พูดออกมาเลว่า ผมไม่ชอบอย่าคุยกันให้ผมได้ยินอีกผมกลัว พูดคนเดียวเลย พูดแบบคบ้านี่แหละ จากวันนั้นก็ไม่ได้ยินอีกเลย

    แต่ก่อนได้ยินแต่เสียง พอเข้า ม.4 มีเหตุการนึงคือกำลังเก็บ ดาง(ใช้หาปลา)เวลาประมาณ 2 ทุ่ม กลัวก็กลัวเพราะสระที่บ้านกว้างหลายไร่ เก็บคนเดียว คิดในใจถ้าเราเป็นตะควิวคงตายแน่นอน กลัวผีก้กลัวมืดก็มืด เก็บไปแล้วอยู่ๆจิตมันก็รวมเข้ามา นิ่งโล่ง ไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ตั้งใจเก็บตั้งใจให้มันเสร็จจะได้ไปซที
    พอเดินขึ้นมา จากสระ มองกลับไปที่บ้าน เห็นเปรต ตัวไม่ สูงมากประมาณ 200 กว่าๆเซนติเมตร ลำตัวตัน แขนตัน ขาตัน ทั้งตัวเปื่อยพอง เต้มไปด้วยน้ำเหลืองน้ำหนอง เดินออกมาจากในครัว ตายละสิแม่อยุ่ในครัว ด้วยความเป้นห่วงแม่ทิ้งของแล้ววิ่งแจ้นไปที่บ้าน ถามแม่ว่าเป้นไรมั้ย ให้ตายสิแม่ตอบมาว่า

    ---มึงเป้นบ้าติ(เป้นบ้าหรือเปล่า)

    เง้อ

    ต่อมาก็เริ่มเจอเรื่อยๆ ตอนเรียนมัทธยมนะ มีอยู่ครั้งนึง ฝึก ร.ด เสร็จดึก เลยพาเพื่อนไปดูหนังกลางแปลงอีกหมู่บ้าน เพื่อนชื่อกุ้งเป้นผู้ชาย ซ้อนสกู๊ดเตอร์ไป เพื่อนมันเสนอทางลัดให้ลัดป่าไป อืมเราก็เห็นด้วยทางไม่เคยไปลัดได้ก็ดีประหยัดน้ำมันจะได้รู้ทางลัดด้วย ขี่ไปร้องเพลงไปซ้อมจะเอาใว้ร้องขึ้นเวที 55+

    ขี่ไปอากาศวังเวงเพื่อนมันถามโพล่งขึ้นมามึงไม่กลัวผีเหรอ ตอบไปเลย ตอบแบบไม่คิด กูไม่กลัว กูมีคาถากันผี พูดเสร็จฮำเพลงแม่นาก แดนท์เป้นการท้าทาย พร้อมกับท่องคาถา 3 จบ พอท่องสิ้นเสียง รถตกหลุมเล็กๆลึกแค่ 2 นิ้วจะได้(2นิ้วไม้บรรทัด)พอล้อมันตกลงไปไฟรถก็ดับมืดตึ๊ดตื๋อ พอล้อหน้ามันขึ้นจากหลุมไปก็ติดโพร่ง โอ้วแมจ้าว หญิงสาวหน้าเละใส่สใบอุ้มเด็กหน้าเละตุ้มเปะเลยยืนห่างรถแค่ช่วงแขน จะให้บิดหนียังไงนี่มันสกู๊ดเตอร์วิ่งได้ 40 ก็บุญแล้ว ตัดสินใจทำเป้นไม่เห็น แต่อนิจจาเพื่อนเลิพมันดึงเสื้อใหญ่ออกอาการมากๆ กลั้นอารมณ์แห่งความปลื้มปีติใว้ไม่ได พูดมาดังมาก ผะ ผะ ผีผี ผีเว้ย บิดไปเลย พูดจบเราก็ใส่ไม่ยั้งบิดเต็มเหนียง รถวิ่ง 20 จะได้แม่มเอ๊ย ไปได้ไม่ถึง 2 เมตรไฟหน้าดับอนิจจาหนอ ถามเพื่อนเอาไง มันพูดเป้นคำเดียวบิดๆ เร่งไปเลย มืดๆนี่มันแย่มากนะมองไม่เห้นไรเลย ชนโพร่งเข้ากับเนินดินตรงโค้งรถลมลงคนกลิ้งไปคนละทิศละทาง เราตั้งสติ(ไม่รู้ว่ามันเป้นสติรึเปล่า)จับรถได้วิ่งไม่คิดชีวิต อนิจจาเพื่อนเลิพขาแพลงเดินไม่ได้ ร้องตามหลังว่าขากูๆ ไปไม่ได้ได้ยิน เสียงเล็บตะกุยดินดัง ก๊อดๆๆๆ คลานตามมา เรานี่คิดว่าผีแน่ๆ วิ่งไม่สนเลยเข้าหมู่บ้านไป ไม่ถึง 2 นาทีเพื่อนเลิพก็กระโดดหยอยๆตามมา ชาวบ้านออกมามุง แล้วถามว่าเป้นอะไร เพื่อนพูดทั้งน้ำตา ผมโดนผีหรอก

    ---โดนอีกแล้วเหรอเฮี่ยนอิหลี


    พูดถึง กทม คงมีน้อยคนไม่รู้จักหอแดง คุรุสภา ตอนเรียนมหาลัยมีตอนนึงได้ไปพักที่หอแดงเขาแบ่งให้นอนห้องละ 4 คน แต่เรานี่ vip ซะแล้วได้นอน 2 คนเพราะอาจารย์เอกุญแจให้คนสุดท้าย ตกดึกโชคซ้ำกรรมซัดรูมเมทออกไปนอนกับเพื่อน อืมดีคือกันนอนคนเดียวนี่แหละ ตกเย็นมาเราก็นอนตามประสาไม่รู้ที่ไปแบบบ้านนอกเข้ากรุง ก่อนนอนเปิดแอร์เย็นเจี๊ยบ แต่ดูมันเย็นผิดปกติมากๆ เย็นแบบล้ำลึกแบบเหนือคำบรรยาย อาบน้ำเสร็จไม่คิดอะไรใส่ กกน แล้วนอนทันที อยู่คนเดียวโลกเป้นของเราแล้ว 555 นอนไปซักพักห้องหน้าต่างล็อคหมด เราดูเองก่อนนอน นอนไปซักพัก ตีนเตียงมันยวบลงไป ฮื้อ ตายแล้ว เปิดผ้าห่มแล้วมองไปดูที่ตีนเตียง แม่จ้าวนักศึกษาสาวอึ๋มมากๆ (สติเกิดเลยเกิดมันตอนนี้แหละ)พิจารณาตามกรรมเลยนะ กกน ตัวเดียววิ่งโพร่งไปเป้นเรื่องแน่ เธอหันมายิ้มให้ด้วยสัญชาตยานรู้เลยนะว่าหน้านี่ไม่มีเลือด สวยก็ชั่งแต่ผีชัดๆ ตายก็ชั่งแต่อายสำคัญกว่า ตัดสินใจทำเป็นไม่เห็นดึงผ้าห่มเปลี่ยนท่านอนหลับตาเฉย ซักพักเธอก็ไปอืมดีจริงที่ผีไม่บ้าจี้เดินมานั่งอ่อยเราข้างหน้าเลย 555+ ถ้าขาดสติคงกระโดดกอดไปเลยม้างงง จริงมั้ย


    ตอนเข้ามหาลัย มีโอกาสได้เข้าชมรมกับเขา โชคดีว่าได้ไปเที่ยวด้วย เก็บสำภาระเสร็จก็วิ่งขึ้นรถตามประสาคนใจง่ายชอบของฟรี ไปถึงภูจองนายอยก็เกือบค่ำเป็นภูเขาป่าดิบชื้นอ่ะนะตอนเย็นมีเครื่องปั่นไฟด์แต่เขาจะหยุดปั่นตอน 4 ทุ่มมาเขาทั้งทีต้องได้อาบน้ำที่ดีดีหน่อยแหะๆ ได้ยินพี่กรมป่าไม้เขาบอกว่าทางโน้มีแอ่งน้ำอาบได้ ชวนเพื่อนไปไม่มีใครไปเลยไปกับเพื่อนผู้ชาย 1 คน เดินลัดป่าไปได้ยินเสียงน้ำใหลห่างจากหลอดไปและที่พักพอดู ต้องเดินช้ามากเพราะมีลมประกอบกับต้องใช้เทียนในการให้แสงสว่าง เดินไปหน่อยมีแอ่งน้ำขนาดกลมๆมีช่องน้ำเล็กๆใหลผ่านน่าอาบมากๆ โปะเชะเลยตรงนี้แหละจัดแจงที่จุดเทียนรอบอ่างแล้วก็อาบน้ำกันทันที ต่างคนต่างไม่คุยอะไร อนิจจาหนอดวงคนเรานี่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง หญิงสาวผุ้มีหน้าตาเละครึ่งซีกอยู่ห่างจากเพื่อนเราไม่ถึง 2 วา เพื่อนมันก็หันห้ามาทางเรา เอาไงดีป่านะเนี่ยวิ่งไปตายล้านเปอซ็นไม่ตกเหวก็คงจะหลงป่าแย่กว่าอีก ทำเป็นไม่เห็นนั่งล้างตัวถูสบู่ไปเพื่อนเนี่ยมันโชคดีเหลือเกิ๊นไม่เคยหันหลัเลยถ้ามันหันหลังไปโดนจะจะ เราก็ล้างตัวอย่างด่วน ก่อนเห้นดันเอาสบู่สระผมค้างใว้ แม่มกลัวชิหาย สบู่ก็เป็นใจเหมือนจะไม่ยอมบังคมลาจากหัวเราง่ายๆ ฟ้าดินเหมือนกลั่นแกล้งขณะที่ฟูงสบู่ยังไม่หมดพัดเทียนดับไปเกือบหมดเหลือเล่มเดียว เอาวะตัดสินใจเช็ดตัวแม่มเลย เดินขึ้นมาจากอ่างเพื่อนเรามันยังเพลินกับสปาน้ำใหลอยู่ทำหน้างง

    -กูกลับและ

    -มึงจะรีบไปใหน

    -มึงอยากอยู่ก็อยู่ไปกูกลับและ

    พูดเสร็จทำท่าเดินเพื่อนมันก็รีบขึ้นทันทีเดาเลยว่ามันคงจะเริ่มกลัวแล้ว ขึ้นเสร็จจะเดินกลับ โดนใส่เอฟเฟคทันทีทำลมพัดมาที่เราอยู่ ที่อื่นไม่มีลมเหมือนจะแกล้งให้ไฟดับ เราก็จุดใหญ่เลย ต่างคนต่างเดินไม่พูดไม่จา

    รุ่งเช้าเพื่อนๆมารอแต่เช้าเลยประมาณ 6-7 คนจะได้ ปะปะไปดูเมื่อวานมึงเจอตรงใหน เราก็เดินพาไป
    ไปถึงแอ่งน้ำนะถึงกับแปลกใจมากเพราะแอ่งที่เราอาบน้ำมันมีต้นตะเคียนเบ่อเร่อเลย 7 คนโอบจะได้แปลกมากเมื่อคืนรอบอ่างไม่มีต้นไม้ใหญ่แต่พอมาดูตอนเช้าดันมี

    ต่อๆชีวิตมหาลัยนี่ใช้ตังเยอะไปกับการเที่ยวบ้างให้เพื่อนยืมบ้าง จนกระทั่งตังหมด อดข้ามมา 3 วันต่อกันติดเลยหิวมาก วันที่ 3 วันสุดท้ายกลับมาจากเรียนเวลาราวๆบ่าย 2 โมง50 ก็นอนด้วยความอ่อนเพลีย ฝันเลยทีนี้ ฝันว่าตัวเองเป็นเณรน้อยถือย่าม ในฝันดันรู้อีกนะว่าตัวเองกำลังเดินไปพระขโนง เขาบอกว่าให้เณรที่เป้นศิษย์ท่านไปประชุมที่นั่น เราก็พายย่ามไปเดินดุ่มๆไปองค์เดียวเลยไปกลางป่าใผ่แดดเปรี๊ยงๆใครจะกลัวผี ไม่ช้ามีเสียงก็อคแก๊คคนเดินออกมาจากป่าใผ่ หลายคนประมาณ 20 กว่าคนจะได้พอเดินออกมาจากร่มใผ่ละท่านเอ๊ย หน้าตาตัวนี่เละนี่เน่าไปตามๆกัน ตอนเห็นนี่ก็เฉยๆมีแต่ความรู้สึกสงสารคว้าลูกประคำในย่ามออกมาแล้วประนมมือสวดบทอะไรไม่รู้ไม่เคยได้ยินเพราะมาก แล้วคนก็กลับเป้นคนแล้วเขาก็ก้มกราบแล้วหายไป รู้สึกตัวลืมตามาขยับตัวไม่ได้มียายแก่นั่งข้างเตียงยิ้มให้ เรานี่ขยับตัวไม่ได้แต่ก้ไม่ยักกะกลัวเพราะดูเหมือนเป้นคนใจดมาก คว้ามือเราไปแล้วคลี่มือเราออกแล้วเขียนเลข 39 ให้แล้วมองหน้ายิ้มให้แล้วกำมือเข้าไปใหม่คลี่ออกเขียนให้ 39 มองหน้าแล้วยิ้มให้ กำมือเราเข้าไปใหม่อีกแล้วคลี่ออกเขียนเลข 39 ให้ แล้วมองหน้าแล้วยิ้ม แล้วก็หายไปขยับตัวได้สิ่งแรกที่ต้องทำคือหาเศษตังไปซื้อหวย หึหึ เหน่งๆแน่คิดในใจรื้อเตียง รื้อโต๊ะกระจัดกระจาย ตามกล่องตามหนังสือ ตามเสื้อผ้าที่ยังไม่ซัก รวมๆกันแล้วได้เป็นเงินทั้งสิ้น 19 บาทวิ่งออกไปกลัวไม่ทันกลัวหวยออกก่อนไปหาที่ซื้อหวยบ้านตัวเองก็ไม่ใช่เดินถามไปทั่วไมมีทีซื้อหวยเลย ตัดสินใจหยอดเหรียญไปบอกพ่อซื้อ 5555 รวยแน่ รอกระทั่งบ่ายหวยก็ออก 639 เหน่งๆเลยทีนี้พ่อต้องมีเงินส่งมาให้แน่ทีนี้เพราะแกต้องถูกหวยที่เราโทรไปบอกเอาเงินที่เหลือหยอดตู้ไป

    ---ตู๊ดดดดดด-----ตู๊ดดดดดดด----หัลโหล
    เป็นไงได้กี่บาทครับ

    อืม...พ่อไม่ได้ซื้อ

    โอวววววแทบคลั่งเหน่งๆนี่ไม่ได้ซื้อ ก็เลยสารภาพเลยว่าไม่มีตังพ่อท่านเลยส่งมาให้ 500 บาทยังไงก็ดีมีกินหึหึ




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    น่าสนุก ^^ นี้ น้องเจ้าของกระทู้ลองมาอ่านที่พี่หลบเอามาซิ น่าสนุกนะ โบ๋ๆๆ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2010
  12. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,166
    วันหนึ่งเราเองก็ไม่พ้นเป็นผี
    ก่อนหน้าเราเองก็เคยเป็นผี
    กลัวผีก็กลัวตัวเอง

    เขาเป็นผี ที่ไม่มีรูปนามเป็นมนุษย์
    เราเป็นผี ที่มีรูปนามเป็นมนุษย์
    ก็แค่นั้น

    มนุษย์ เป็นรูปนามที่สร้างบุญบารมีได้อย่างมหาศาล ได้อย่างที่ผู้ที่ไม่มีรูปนามเป็นมนุษย์ ต้องกลัวต้องเกรงใจ ในแง่ของการสร้างบุญบารมี
    หากเป็นด้วยเรื่องการสร้างบุญบารมี เรานี่ละที่น่ากลัว น่าเกรง

    อย่ามัวแต่กลัว จนเสียโอกาส ในการได้เป็นมนุษย์ ได้มีโอกาสสร้างบุญบารมี อย่างมหาศาลนี้

    อนุโมทนาครับ
     
  13. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ท่าทางท่านจขกท.คงจะกลัวผีเอาการนะ อย่าจินตนาการให้มากนัก หัดมีสติให้มากๆ ไม่นานท่านก็ต้องเป็นผี ถูกมั้ย? ถ้าท่านกลัวผีก็เท่ากับท่านกลัวตัวเองนั่นแหละ ขออนุโมทนากับท่านSupop ด้วย ท่านพูดได้ถูกต้องที่สุด...
     
  14. badjoize

    badjoize เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +293
    ความกลัวทุกอย่างล้วนแต่สร้างขึ้นด้วยจิต ลองหลับตานึกเห็นสิ่งใดก็จะได้เห็น นั้นแหละเช่นเดียวกัน หากจะขจัดความกลัว คือเพิ่มสติเพิ่มสมาธิ เมื่อรู้เมื่อเห็นสิ่งใดๆแล้วก็จะเข้าใจถึงสิ่งที่พบที่เห็นนั้นๆ จงเข้าใจในเรื่องของ เกิด แก่ เจ็บตาย สักวันเราก็ต้องตาย เพราะฉนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใดเลย...สาธุ
     
  15. ลุงมหา

    ลุงมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,092
    กลัวผีก็ให้สวด พระคาถาชินบัญชร ซิครับ


    ขออนุญาตครับ
    กลัวผีก็ให้สวด พระคาถาชินบัญชร ซิครับ
    เมื่อคุณสวดพระคาถานี้จะเป็นการอัญเชิญ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ทรงตรัสรู้แล้วทั้ง 28 พระองค์
    ตลอดทั้ง พระอัครสาวกทั้งสอง และพระอรหันต์สาวกผู้ทรงคุณวิเศษอีกมากมาย เข้ามาทั้งล้อมรอบและอยู่ในตัว
    รวมทั้งอัญเชิญพระคาถาวิเศษอื่นๆมาปกป้องทุกทิศ ทั้งยังมีกำแพงคุ้มครองอีกเจ็ดชั้นอีกด้วย
    เมื่อก่อนที่ผมเริ่มตะเวณหาครูบาอาจารย์ใหม่ๆ ต้องตะรอนๆขับรถดึกดื่น เที่ยงคืน ตีหนึ่งตีสอง
    ไปตามทุ่งนาป่าเขา ทั้งๆที่สมัยนั้นไม่มีแผนที่ดาวเทียม Google Earth เหมือนในสมัยนี้
    บางครั้งต้องตีรถไปรับคนโน้นคนนี้ อยู่จังหวัดโน้นจังหวัดนี้ ก่อนถึงจะเข้าหาครูบาอาจารย์ในป่าในเขาได้
    เสร็จแล้วก็ต้องตีรถกลับไปส่งแต่ละท่านตามจังหวัดต่างๆอีก ค่อยวกกลับมาบ้าน บางครั้งขับรถรวดเดียว 26 ชั่วโมงก็เคย
    บางครั้งขับรถ 3 วันข้าม 20 กว่าจังหวัดก็เคยมาแล้วๆอย่านึกว่าผมแน่นะครับ เพื่อนรุ่นน้องผมอีกคนชีวิตแกยิ่งกว่าอินเดียน่าโจนส์อีก
    ไทย ลาว เขมร พม่า มาเลย์ จีนตอนใต้ พวกลุยมาหมด ตามหาขุมทรัพย์แกว่างั้น
    ห้าหกปีก่อน บอกผมว่าจะไปเรียนปริญญาเอกที่อเมริกา นี่ก็ขาดการติดต่อมาหลายปีแล้ว ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง
    เวลาไปไหนมาไหน ผมก็สวดตลอดละครับ ยิ่งเวลาขับรถบางครั้งสวดไม่หยุดก็เคย ต้องเตรียมขวดน้ำไว้ข้างๆเวลาคอแห้ง
    เมื่อสวดมากๆก็จะหายกลัวเองละครับ และมีผลดีด้านอื่นๆอีกบรรยายไม่หมด
    ขอเชิญทดลองดูนะครับ
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     
  16. lldreamll

    lldreamll Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +84
    ขอบคุณมากนะครับทุกท่าน
     
  17. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,608
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,017
    อ่านอันนี้เเล้วฟัง clip ที่นํามาให้ฟังเเล้วกันครับคุณ พุทธศรัทธา เจริญในธรรมครับ

    มาฟังอันนี้ได้ครับ จขกท อนุโมทนาครับ

    ต่อสู้ความกลัว - Buddhism Audio

    ต่อสู้ ความกลัว<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">
    Artist: หลวงพ่อชา สุภัทโท
    <fieldset class="fieldset"> <legend>ไฟล์แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody><tr> <td width="20"><input id="play_19449" onclick="document.all.music.url=document.all.play_19449.value;" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=19449" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>ต่อสู้ความกลัว.wma (4.70 MB, 2417 views)</td></tr> </tbody></table> </fieldset>
    <!-- google_ad_section_start -->ต่อสู้ ความกลัว
    โดย หลวงพ่อชา สุภัทโท

    อุบายแก้ความกลัวสําหรับนักกรรมฐาน

    ก่อนตรัสรู้ เมื่อยังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ยังคงเป็นโพธิสัตว์อยู่ เรานั้นได้มีความดําริว่า ไฉนหนอ เราพึงอยู่ในราตรีที่รู้กัน ที่กําหนดกันว่าที่สิบสี่ ที่สิบห้า และที่แปดแห่งปักข์ เห็นปานนั้น พึงอยู่ในเสนาสนะ คืออารามเจดีย์ วนเจดีย์ รุกขเจดีย์ น่าสะพรึงกลัว น่าขนพองสยองเกล้า เห็นปานนั้น ถ้ากระไรเราพึงเห็นความกลัวและความขลาดนั้น ดังนี้ โดยสมัยอื่นเรานั้นอยู่ในราตรีที่รู้กัน ที่กําหนดกันว่า ที่สิบสี่ ที่สิบห้า และที่แปดแห่งปักข์ เห็นปานนั้นอยู่ อยู่ในเสนาสนะ คืออารามเจดีย์ วนเจดีย์ รุกขเจดีย์ น่าสะพรึงกลัว น่าขนพองสยองเกล้า เห็นปานนั้น ก็เมื่อเราอยู่ในเสนาสนะเห็นปานนั้น เนื้อมาก็ดี นกยูงทําไม้ให้ตกลงมาก็ดี หรือว่าลมพัดใบไม้ให้ตกลงมาก็ดี เรานั้นได้มีความดําริอย่างนี้ว่า ความกลัวและความขลาดนั้นมาเป็นแน่ เรานั้นได้มีความดําริว่า อย่างไรหนอ เราจึงเป็นผู้หวังภัยอยู่โดยแท้ "ไฉนหนอ ความกลัวและความขลาดนั้นย่อมมาถึงเราผู้เป็นอยู่โดยอาการอย่างไรๆ เราผู้เป็นอยู่โดยอาการอย่างนั้นๆ แลพึงกําจัดความกลัวและความขลาดนั้นเสียดังนี้

    ความ กลัวและความขลาดนั้น เมื่อมาถึงเราผู้กําลงเดินจงกรมอยู่ เราจะไม่ยืน ไม่นั่ง ไม่นอนเลย จนกว่าเราจะกําจัดความกลัวและความขลาดนั้นได้ในขณะที่เรายังเดินจงกรมอยู่

    เมื่อ เรานั้นยืนอยู่ ความกลัวและความขลาดนั้นมา เรานั้นจะไม่เดินจงกรม ไม่นั่งไม่นอนเลย จนกว่าเราจะกําจัดความกลัวและความขลาดนั้นได้ในขณะที่เรายังยืนอยู่

    เมื่อ เรานั้นนั่งอยู่ ความกลัวและความขลาดนั้นมา เรานั้นจะไม่นอนไม่ยืนไม่เดินจงกรมเลย จนกว่าเราจะกําจัดความกลัวและความขลาดนั้นได้ในขณะที่เรายังนั่งอยู่

    เมื่อ เรานั้นนอนอยู่ ความกลัวและความขลาดนั้นมา เรานั้นจะไม่นั่งไม่ยืน ไม่เดินจงกรมเลย จนกว่าเราจะกําจัดความกลัวและความขลาดนั้นได้ในขณะที่เรายังนอนอยู่

    (ม.มู. 12/45 ภยเภรวสูตร)

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8...99.202560/
     
  18. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ลองจิตนาการดูซิว่า ถ้าผีที่ดุร้ายมากโหดมาก ฆ่าคนไม่เลือก
    จะมาฆ่ามาหลอกหลอน คนที่เรารัก พ่อแม่พี่น้อง ของเราในขณะนี้
    แล้วเราจะทำยังไง หรือจะมานั่งกลัวผีอยู่ในผ้าห่ม ปล่อยให้ผีบีบคอคนที่เรารัก
    เป็นผมสู้ครับ จะสู้ด้วยอะไร เท่าที่คิดได้ พุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพ
     
  19. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    มองตาตัวเองในกระจก แล้วสะกดจิตตัวเอง ว่าผีไม่มีในโลก ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากการคิดไปเอง ที่เกิดจากผู้ใหญ่หลอก โดยไม่มีใครน่ากลัวไปกลัวตัวเราแล้ว
     
  20. lldreamll

    lldreamll Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +84
    ความอดทนเป็นธรรมะที่ผมขาด
     

แชร์หน้านี้

Loading...