ถาม กสิณไฟ เพ่งเทียน ถูกหรือผิด

ผมไปอ่านหนังสือของ ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์
ชื่อหนังสือ "เตโชกสิณของพระพุทธเจ้า"
ในหนังสือบอกว่าการเพ่งเทียนนั้นผิด เป็นกสิณโทษ มีคนที่จะเพ่งเทียนได้อยู่2พวกคือ
1.คนที่เคยได้กสิณมาแล้วในอดีต
2.คนที่จะบรรลุธรรมในชาตินี้ คือชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

อย่างนี้แล้วผมก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจ เพราะต้องหาสถานที่ในการก่อไฟอีก ยุ่งยากไปแล้วสำหรับผม

คงต้องเลือกปฏิบัติวรรณกสิณแทน
กสิณแสงสว่างกับกสิณสีขาว อันไหนง่ายกว่ากันครับ (อยากได้ตาทิพย์ เพราะจะได้เห็นนรกสวรรค์)

 

กสิณลมดีกว่า เปิดพัดลมใส่ นั่งเพ่งเลย เลือกได้หลายความแรงลมด้วย 1-2-3 หรือใครไม่เชื่อก็แล้วแต่นะอิอิอิ ผมกำลังทำอยู่เลย...อิอิ

 

อาจารย์จรูญ อธิบายไว้ถูกต้องแล้ว

กสินไฟที่ถูกต้อง ต้องก่อกองไฟใหญ่พอควร จากนั้นทำเป็นฉากกั้น แล้วเจาะตรงกลางฉากให้เป็นช่องวงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณหนึ่งศอกกับอีกหนึ่งคืบ

การฝึก
ก่อกองไฟแล้วมองลอดฉากที่เจาะนี้เข้าไป หลับตาแล้วให้ภาพไฟติดตา พอจางหายไปก็ลืมตามามองแล้วหลับอีกให้ภาพติดตา ทำไปเรื่อย ๆ จนได้นิมิตติดตา ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย

ห้ามใช้วิธีมองดวงอาทิตย์โดยเด็ดขาด แสงที่แรงจ้าตาจะบอดทันที

การฝึกกสินจากเปลวเทียนถูกไหม ดังที่อาจารย์จรูญท่านบอก ได้กับคนสองกรณี
คนที่เพิ่งเคยทำจะไม่สำเร็จ เพราะ เปลวไฟมันไม่นิ่งแต่ไหววูบวาบ ๆ ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ได้นินมิตติดตายาก

กสินลมยิ่งยากเพราะเห็นได้ยาก กสินไฟยาก กสินน้ำ และ กสินดินง่ายสุดในบรรดากสินในหมวดธาตุ ๔

กสินสีง่ายกว่า กสินสี (วรรณกสิน) ที่จัดได้ว่าง่ายคือ กสินสีเขียว สีเหลือง และ สีแดงง่ายกว่าสีขาว สีขาวยากสุดในหมวดนี้

กสินอากาศยากกว่ากสินแสงสว่าง

คนฝึกใหม่ครูบาอาจารย์มักสอนให้เริ่มที่กสินสี เขียว แดง หรือ เหลือง ก่อน ในกรณีพระหรือนักบวชครูบาอาจารย์มักให้เริ่มที่กสินดิน (เอาดินสีอรุณมาทำเป็นแผ่น) เพราะเห็นได้ชัดและหาได้ง่ายในป่า

ผู้ฝึกถ้าทำสมาธิหรือทำกสินเพื่ออยากจะอยากอะไรก็ตาม เช่น อยากได้ตาทิพย์เห็นโน่นเห็นนี่ รับรองจะไม่ได้ผลเลยเพราะสมาธิถูกเจือด้วยตัณหาคือความอยากดังนั้นจิตจึงไม่สามารถรวมได้

วิธีทำสมาธิที่จัดได้ว่าถูกจริตกับทุกคนหรือคนส่วนใหญ่คือ วิธีอานาปานสติโดยการมีสติที่ลมหายใจเข้าออก ทำได้ง่าย เมื่อจิตรวมและไปจนถึงฌาน ๔ แล้ว ต่อไปค่อยไปใช้วิธีอื่นเช่น กสิน ก็จะทำให้ได้โดยไม่ยาก

 

โอย...นั่งมองเทียนตั้งนาน

 

การเพ่งนั้น หมายถึงเอาสิ่งนั้นๆเป็นอารมณ์ ในวิสุทธิมรรค และ วิมุตติมรรค กล่าวว่า จะเพ่งกสิน บางคนหาสีแดงไม่ได้ ให้เพ่งดอกไม้แดง บางคนมีการอบรมมาก่อน เพียงมองสายน้ำในแม่น้ำ ก็สามารถได้อุคหนิมิต ของกสินน้ำได้ ถ้าจะทำกสินไฟ แล้วยึดเอาไฟเป็นอารมณ์ได้ เทียนก็ไม่ใช่ปัญหาคัรบ ของอ.จรูญนั้น ให้ลองไปอ่านดีๆหลายๆรอบ แล้วมาเทียบกับวิสุทธิมรรค ก็จะพบว่า อะไรเป็นทาง และอะไรไม่เป็นทางคัรบ เรื่องอุคหนิมิต ในวิสุทธิมรรคและ วิมุติมรรค ท่านก็ว่า เห็นเสมือนเราลืมตามมอง ทุกประการ ทั้งสัณฐาน สีสัน ไม่ใช่มองสีแดง หลับตาเป็นเงาสีเขียวก็ว่าเป็นอุคหนิมิตแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นเท่ากับเราไม่ได้เอาสีแดง เป็นอารมณ์ แต่เอา รูปทรง(เงา)ที่ติดมาขณะหลับตาเป็นอารมณ์ ถ้าไปลองเพ่งอสุภดู แล้วมันจะได้อุคหนิมิต แบบเงาๆติดตามาได้อย่างไร? ลองพิจารณาดูคัรบ เมื่อจะเดินทางไกลทั้งที ดูแผนที่ก่อนก็จะไม่ต้องเดินทางไกลแบบอ้อมคัรบ

 

ผมเองก็ฝึกกสิณลม (บางครั้ง ไม่บ่อย) แบบที่คุณ หก ปฏิบัติอยู่เช่นกัน แต่ผมจะออกไปนั่งข้างนอกรับลมข้างนอกและมองการไหวโยกของต้นไม้ใบหญ้าด้วยในบางครั้ง

เพิ่งจะเริ่มมีอุคหนิมิตไม่นานมานี้เอง ช่วงที่จิตเริ่มสงบแล้ว จะมีเป็นหมอกไอสีขาวปรากฏขึ้นมา

แรกๆผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่พอมันเริ่มปรากฏบ่อยครั้งเข้า ผมเลยมาหาข้อมูล ก็เลยรู้ว่า เริ่มได้นิมิตในเบื้องต้นแล้ว

แต่ตอนนี้ผมกำลังชั่งใจตัวเองอยู่ ว่าจะต่อยอดกสิณลมดีหรือเปล่า เพราะผมมีแนวทางของผมอยู่แล้ว


อนุโมทนาทุกท่านด้วยครับ

 

มองเทียนได้ใช่มั๊ยครับ
แล้วมีผลกระทบหรือป่าวครับ

 

romanov

ผมไปอ่านหนังสือของ ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์
ชื่อหนังสือ "เตโชกสิณของพระพุทธเจ้า"
ในหนังสือบอกว่าการเพ่งเทียนนั้นผิด เป็นกสิณโทษ

คิดว่าไม่ใช่ คำว่า กสินโทษในวิสุทธิมรรคจะมีแค่ ๑ ใน ๑๐ ของกสินทั้งหมด คือ ปฐวีกสิณ (จะไม่ขอกล่าว กสิณโทษ ที่ท่านบัญญัติ กันขึ้นมาภายหลัง)

มีคนที่จะเพ่งเทียนได้อยู่ 2 พวกคือ
1.คนที่เคยได้กสิณมาแล้วในอดีต

เทียนคือเตโชกสิณ การฝึกเตโชกสิณ ไม่จำกัดว่าเคยได้ หรือ ไม่เคยได้มาในกาลก่อน

2.คนที่จะบรรลุธรรมในชาตินี้ คือชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะการฝึก เตโชกสิณ ก็คือกรรมฐานกองหนึ่ง ในกรรมฐาน ๔๐ และเป็นกรรมฐาน ที่ง่าย เพราะมีนิมิตเป็นเครื่องหมาย เพื่อให้จิตมีกำลัง เพื่อเข้าสู่ระดับฌาณ ซึ่งตอนนี้ ยังไม่ประหานกิเลส

อย่างนี้แล้วผมก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจ เพราะต้องหาสถานที่ในการก่อไฟอีก ยุ่งยากไปแล้วสำหรับผม

อย่าเชื่อหนังสือที่เขาทำขายอย่างเดียว ขอให้เชื่อคำสอน ดูในวิสุทธิมรรค หรือพระไตรปิฏก จะเหมาะกว่า

คงต้องเลือกปฏิบัติวรรณกสิณแทน

ถ้าหวังผลในด้านมรรคผล วรรณกสิณ เป็นกสินที่ต้องปฏิบัติ ตามจริต คือโทสะจริต (แดง เขียว เหลือง ขาว) แต่ถ้าหวัง ในด้านทิพย์จักขุญาณ ในหมวดจริต นี้ ก็ได้แก่ โอทากสิณ (กสิณสีขาว)

กสิณแสงสว่างกับกสิณสีขาว อันไหนง่ายกว่ากันครับ (อยากได้ตาทิพย์ เพราะจะได้เห็นนรกสวรรค์)

กสินอันเป็นเหตุ ให้ได้ทิพย์จักขุญาณ ได้แก่ กสิณไฟ กสินสีขาว กสิณแสงสว่าง ตรงนี้ ต้องเลือกเอง เพราะพระพุทธเจ้า ก็ทรงยกมาให้เลือกฝึกปฏิบัติ มิได้บังคับ เพราะแต่ละคน จะชอบไม่เสมอกัน ตามจริต ซึ่งมีด้วยกัน ๖ จริต

แต่ถ้าผมเป็นท่าน ผมจะฝึก เตโชกสิณ คือกสิณไฟ เพราะเป็น กสิณกลาง คือทุกจริต ปฏิบัติแล้วได้ผล

และถ้าผมจะฝึกในหมวดของเตวิชโชนี้ ผมจะฝึก มโนมยิทธิก่อน เพราะง่ายกว่ากัน และใช้กำลังใจ แค่อุปจารสมาธิ

เสียงคำสอนพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อ ฤาษี ฯ)​

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1110388/[/MUSIC]​

 

เคยมีภิกษุณีท่านหนึ่ง ที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติ ทุกวันจะเข้าไปนั่งเพ่งเทียน จนกระทั่งได้เอกทัคคะในด้านอิทธิฤทธิ์

 

อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านค่ะ แต่อยากรู้จังเลยค่ะ ที่ไหนเค้าสอนฝึกกสินบ้างค่ะ เราหาครูสอนนะค่ะ

 

ที่วัดยานนาวา บางรัก กทม ครับ
เคยไปฝึกมาเหมือนกัน อาจารย์ท่านสอนดีมาก เข้าใจง่าย ปฏิบัติได้สะดวก ไปมา ชื่นชมครับดีมาก ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ นะครับ มีคนหลากหลายทั้งเพศและวัยไปเรียนกันน่าอิ่มเอิบใจมาก

ดูรายละเอียดจากเว็บไซต์ข้างล่างนะครับ
http://palungjit.org/threads/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2.84857/

 

อันนี้เป็นของเก่าของท่านและท่านจะต้องบรรลุพระอรหันต์ในชาตินี้ จึงสำเร็จได้โดยไม่ยาก

แต่สำหรับคนทั่วไปต้องหากองที่ถูกจริตและหาวิธีที่ทำแล้วได้ผลโดยไม่ลำบาก

 

เอาจริงแล้วเหรอ อีฟ ... แน่ใจนะ

 

มองกันต่อไป...ขอบคุณครับ

 

ผมเห็น ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์ ก็สอนที่วัดยานาวา (ค้นหาข้อมูลในเวป)

เคยฟังเสียงบรรยายธรรมเรื่องกสิณของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านก็บอกให้เพ่งเทียนได้

งงไม่รู้เชื่ออันไหนดี (ผมก็ยังคิดว่าน่าจะได้ เชื่อหลวงพ่อ)

 

พยายามเพ่งแค่ไฟนั้นถูกแล้วครับ อย่าเพ่งอาทิตย์เด็ดขาด เพราะอาทิตย์มีพลัง

ที่มาก มีศิษผู้พี่ผมคนหนึ่งฝึกกษิณไฟ จนสามารถเพ่งเทียนดับได้ จากนั้นก็เพ่ง

หลอดไฟให้แตกได้ จึงคิดว่าตนนั้นเก่งมากพอ อยากจะลองเพ่งดวงอาทิตย์

สุดท้ายแล้วจึงเป็นบ้าครับ...สาธุ

 

ด้วยความหวังดี ระวังสายตาเสียด้วยนะครับ
กระจกตามีม่านตายืดหดได้น่ะแน่อยุ่แล้วล่ะครับ
แต่ม่านตาจะย่อหดลงได้จำกัดนะครับ ได้เราแสงเกินพิกัดก็ส่งไปยังเรติน่าอยุ่ดีล่ะครับ
การมองเห็นกับสมองเกี่ยวของกันนะครับ
ส่วนซีรีบรัมที่เป็นส่วนเกี่ยวกับการรับรุ้จะเสื่อมได้ง่ายๆ
ซีรีบรัมก็เป็นสมองส่วนหน้าอีก
ต่อมทาลามัสจะทำให้รุ้สึกปวดตาได้นะครับ

ง่ายๆก็คือ สายตาเสียได้นะครับถ้ามองแสงจ้าไปน่ะ

ทำสมาธิสบายๆเถอะคร้าบ ~

 

พยายามเพ่งแค่ไฟนั้นถูกแล้วครับ อย่าเพ่งอาทิตย์เด็ดขาด เพราะอาทิตย์มีพลัง

ที่มาก มีศิษผู้พี่ผมคนหนึ่งฝึกกษิณไฟ จนสามารถเพ่งเทียนดับได้ จากนั้นก็เพ่ง

หลอดไฟให้แตกได้ จึงคิดว่าตนนั้นเก่งมากพอ อยากจะลองเพ่งดวงอาทิตย์

สุดท้ายแล้วจึงเป็นบ้าครับ...สาธุ<!-- google_ad_section_end -->

55555

 

คนที่ผมรู้จักคนหนึ่งเขาเพ่งเทียนจนมีตาทิพย์ก็มีนะครับ

 

เรื่องการฝึกกสิณ.....อย่านอกครู ครับ

แนะนำได้แค่นี้.....