..แก้วบรมจักรพรรดิ..ตอนที่ ๑๗ พระพุทธลักษณะของพระพุทธเจ้า..หน้า ๑๓..

ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญกับคุณบรรเจิดด้วยค่ะ ขอตอบตามประสบการณ์ที่ตนเองนะคะ

๑. ถ้าเกิดมีเหตุให้แก้วจักรพรรดิ์ตกหรือหล่นลงมาจะแตกไหมครับ
หรือกายสิทธิ์ท่านจะคอยรักษาอยู่ครับ

​

- ที่บ้านเคยทำ แก้วจงกลมณีกานต์ (ลูกแก้วตามภาพโต๊ะหมู่ด้านซ้ายล่าง) หล่นลงมา แถมหล่นใสตู้กระจก ปรากฏว่า ลูกแก้วเป็นเพียงรอยขีดข่วน เป็นรอยยาว ๆ หากมองเรื่องความสูงนั้น เป็นไปได้ยากที่ของที่หล่นจะไม่แตก

๒. การจะอัญเชิญมาแต่ละทีผู้ที่จะอัญเชิญ ต้องปฏิบัติตนเช่นไรครับ
และจะทราบได้ยังไงว่าจะอัญเชิญแก้วจักรพรรดิ์ได้จากที่ไหน

- ลูกแก้วที่อัญเชิญมานั้น มาจากในถ้ำแถบเทือกเขาภูพาน (มีพื้นที่ครอบคลุมหลายจังหวัด) เขตจังหวัดอุดรธานี เข้าไปในถ้ำในป่าลึก

การอัญเชิญนั้น หากเป็นชาวบ้านในแถบนั้น จะมีการทำพิธีบวงสรวงใหญ่ ขออัญเชิญ ผู้ที่อัญเชิญได้เรียกว่า "จ้ำ" จะสืบเชื้อสายต่อกันมาเป็นรุ่น ๆ จ้ำนั้น จะมีการเรียนวิชา และเกี่ยวเนื่องกับพญานาค (ตามความเชื่อของชาวบ้าน)

อีกประเภทหนึ่ง เป็นผู้ทรงศีล ถือพรต เช่น พระฤาษี (ในปัจจุบันยังมีอยู่) หรือพระภิกษุที่มีความเนื่องกับพญานาค รายละเอียดไม่ทราบค่ะ

และประเภทที่ ๓ ผู้ทรงอภิญญา หรือผู้มีฌาณแก่กล้า หากเป็นบุคคลที่มีความเนื่องกับพญานาคนั้น การอัญเชิญไม่ยาก มีการนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้แก่ผู้รักษาดวงแก้ว เมื่อถึงเวลา จะปรากฏให้เห็นในนิมิตล่วงหน้า ทั้งบอกสถานที่ที่มีการพบดวงแก้วนั้น ส่วนใหญ่มักอยู่ในถ้ำ หรือธารน้ำ แถบเทือกเขาภูพานค่ะ

ส่วนพิธีบวงสรวงนั้น ใช้ผลไม้ ๙ อย่าง และมาลัยดอกมะลิ หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้มาก็จะได้ตามนิมิตที่ปรากฏค่ะ

มีบางท่านอาจจะสงสัยว่า อาจจะมีใครนำดวงแก้วที่มนุษย์ทำขึ้น แล้วไปวางไว้ตามที่ต่าง ๆ หรือไม่ หากพิจารณาดูแล้ว เขาจะทำเพื่ออะไร ที่ต้องบุกป่า ลุยโคลน คลานเข้าถ้ำ แล้ววางดวงแก้วไว้ เพื่อให้ผู้อื่นนำไปบูชาง่าย ๆ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่าน และโมทนาบุญค่ะ

Numsai

 

อนุโมทนาบุญกับคุณน้ำใสด้วยครับที่เมตตาให้ข้อมูลครับ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

 

ขอเรียนถาม ค่ะ

คุณน้ำใส ค่ะ แล้วกรณีที่ลูกแก้ว (จักรพรรดิ์) ขนาดใหญ่ 10 ก.ก

มีฟองอากาศขึ้นเต็ม ลูกแก้ว แบบนี้ มีความหมายว่าอะไรค่ะ

รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ สงสัยมากเลยค่ะ...(ถามเผื่อท่านอื่นด้วยค่ะ)

 

สาธุๆ หิ้งพระสวยมากๆ เลยครับ

 

หากคำถามนั้นไม่เกินภูมิรู้ของดิฉัน ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

น้ำใส

ขออนุโมทนาบุญกับคุณพี่รั้งด้วยค่ะ ฟองอากาศที่เกิดขึ้น มี ๒ ลักษณะ คือ

๑.มีฟองอากาศในดวงแก้วอยู่แล้ว คือ เป็นโดยธรรมชาติอย่างนั้น

- สำหรับเรื่องฟองอากาศที่เกิดขึ้นในดวงแก้วนั้น เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อชยางกูร วัดป่าโนนจ่าหอม ท่านตอบว่า... " เป็นพระธาตุ ภายในดวงแก้ว"



๒. เกิดภายหลังที่ได้นำดวงแก้วมาบูชาแล้ว

จากประสบการณ์ เคยมี แก้วพญานาคสีแดง ขนาดลูกกอล์ฟค่ะ (ตามภาพด้านล่าง) เดิมทีไม่ปรากฏฟองอากาศ มาเกิดขึ้นในภายหลัง เป็นฟองเล็กบ้าง ใหญ่บ้างผุดขึ้นมาหลายฟอง

​

แต่ดวงแก้วสีแดงนั้น ใส และสว่างขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันดวงแก้วนี้ได้นำไปบรรจุในพระเจดีย์แห่งหนึ่งค่ะ

จากประสบการณ์ ยังไม่เคยพบฟองอากาศในดวงแก้วจักรพรรดิ์ ขนาด ๑๐ กก.ค่ะ แต่มิได้หมายความว่า จะเกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการแสดงบางอย่างของเหล่ากายสิทธิ์ของดวงแก้วแต่ละลูกค่ะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

Numsai

ขอบพระคุณมากค่ะ และขออนุโมทนาบุญกับคุณ chart2k ด้วยค่ะ

บุญรักษาค่ะ

Numsai

 

พี่น้ำใสมีลูกแก้วแบบนี้อีกไหมครับ สนใจครับ

 

มารออ่าน บทความตอน ต่อไปอยู่น่ะครับ

 

ขอเรียนถาม ค่ะ

คุณน้ำใส ค่ะ แล้วกรณีที่ลูกแก้ว (จักรพรรดิ์) ขนาดใหญ่ 10 ก.ก

มีฟองอากาศขึ้นเต็ม ลูกแก้ว แบบนี้ มีความหมายว่าอะไรค่ะ

รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ สงสัยมากเลยค่ะ...(ถามเผื่อท่านอื่นด้วยค่ะ)



<!-- google_ad_section_end -->
__________________
ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ ผมก็เคยเห็นแต่ดวงแก้วพญานาคสีขาวครับที่มีฟองอากาศ ส่วนดวงแก้วจักรพรรดิผมก็ไม่เคยเห็นดวงแก้วจักรพรรดิมีฟองอากาศภายใน แต่ถ้าเป็นดวงแก้วพญานาคก็เคยเห็นหลายครั้งเหมือนกันครับ(ที่บูชาที่บ้านก็มี 2 ลูกทีมีฟองอากาศครับ) ถ้านำไปให้ผู้ที่ฝึกวิชาสายหลวงพ่อสดจะสามารถเข้าไปดูกายสิทธิด้านในได้นะครับ

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

 

ขออนุโมทนาบุญค่ะ แก้วพญานาค ปกติจะเก็บไว้เป็น Collectionค่ะ แต่ที่มีมากกว่าหนึ่งลูก ก็มี

​

แก้วพญานาคขนาดเท่ากำปั้นผู้ใหญ่ สีแดง ​

​

แก้วพญานาคสีเขียว ​

​

แก้วพญานาคสีน้ำเงิน ขนาดใกล้เคียงกับ แผ่น CD ​

​

แก้วจักรพรรดิขนาดใกล้เคียงแผ่น CD ค่ะ​

ขออนุโมทนาบุญกับคุณเจษฏาด้วยค่ะ ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลความรู้เพิ่มเติมดังกล่าวค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณพี่รั๊งด้วยค่ะ ถ้าถามว่า จะแยกลูกแก้วสีขาวว่า เป็นแก้วพญานาค หรือแก้วจักรพรรดิได้อย่างไร

​

- เท่าที่สังเกตด้วยตาเปล่านั้น แก้วจักรพรรดิ จะมีความใส และประกายเป็นสีรุ้ง มองดูคล้ายดวงตาที่ซูมเข้า-ออก หากนำมองผ่านภาพต่าง ๆ ภาพนั้นจะกลับหัว


ส่วนแก้วพญานาค สีขาวนั้น หากส่องแสงสว่าง จะเป็นจุดรวมแสง อย่างเดียว แต่ไม่มีประกายสีรุ้ง และความใสจะไม่เหมือนกันกับแก้วจักรพรรดิค่ะ



จากประสบการณ์ของดิฉัน หากเรามองกายสิทธิ์ในแก้วจักรพรรดิ และแก้วพญานาค ย่อมแตกต่างกันค่ะ

-แก้วจักรพรรดินั้น จะมีกายสิทธิ์มีจำนวนมากมาย นับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่ที่เห็นท่านกายสิทธิ์เหล่านั้น จะเป็นภาพกายสิทธิ์ที่หลับตาเข้าสมาบัติ เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ยิ่งชั้นสูงจะมีกายที่ใสมาก ๆ ค่ะ จากหยาบสู่ละเอียด

ยกเว้นเวลามีกิจที่ท่านต้องการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับดวงแก้ว จะเห็นหัวหน้ากายสิทธิ์มายืน แต่ท่านอื่น ๆ เข้าสมาบัติเช่นเดิม

ส่วนแก้วพญานาค มีกายสิทธิ์ที่เป็นพญานาค หรือเทวดาสายนาค องค์เดียว หรือหากมีบริวารไม่เกิน ๑๐ องค์ แต่จะไม่นั่งเรียงกันเป็นชั้น ๆ มายืน กายสิทธิ์ที่เป็นหัวหน้าจะยืนด้านหน้า ส่วนท่านอื่นจะอยู่ด้านหลัง

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ

Numsai

 

แล้วพี่น้ำใสมีแก้วจักรพรรดิ์อีกไหมครับ อยากได้อ่ะครับ

 

ขออนุญาตตอบผ่านทาง PM นะคะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

สนใจสองลูกล่างน่ะครับ
pm กระซิบหน่อยนะครับ

 

กระซิบผ่าน PM ไปแล้วนะคะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

Numsai

 

..แก้วจักรพรรดิ..ตอนที่ ๒ พญานาคแถบถ้ำเชียงดาว ..

แก้วจักรพรรดิ..ตอนที่ ๒พญานาคแถบถ้ำเชียงดาว
​

พระพุทธองค์ ทรงตรัสว่า ทุกอย่างมีเหตุปัจจัย เรื่องราวที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เกิดจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และบางอย่างเป็นผลของการปฏิบัติธรรม บางอย่างสืบเนื่องมาจากอดีต ขอนำสนอเพียงเพื่อเป็นธรรมทาน มิใช่เพื่อการยึดติดในอดีต ขอโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
ขอย้อนไปเมื่อครั้งได้ปฏิบัติธรรมกับพระธุดงค์รูปหนึ่งในถ้ำแถบอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อปฏิบัติธรรมแรก ๆ หลวงพ่อมักจะสอนเสมอว่า เห็นอะไรไม่ให้สนใจ ไม่ให้ติดในนิมิต ท่านให้ดูที่ลมหายใจอย่างเดียว

​

อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่นั่งสมาธิอยู่ในถ้ำเกิดความรู้สึกว่า ปวดขาเหมือนขาจะหลุดออกจากตัว เสียงค่อย ๆ เบาจนไม่ได้ยินเสียง และรู้สึกเหมือนตัวเองไม่หายใจ อาการปวดต่าง ๆ ลดลงไป อยู่ก็ได้ยินเสียงลมวูบ สัมผัสถึงผ้าบาง ๆ ที่แขนข้างขวา เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นมา พร้อมภาพของขาของใครก็ไม่ทราบปรากฏเป็นลักษณะยืนตรงหน้าท่านผู้นั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ และผอมแบบพระปฏิบัติ

แต่ตนเองไม่เห็นหน้าท่านผู้นั้น เนื่องจากท่านยืนอยู่ จึงเห็นเฉพาะเท้าของท่านเท่านั้น รู้สึกปลื้มปิติจนน้ำตาไหล สัมผัสถึงลมพัดผ่านไป พร้อมภาพหายไป จิตจึงคลายออกจากสมาธิเพื่อนที่ปฏิบัติด้วยกันได้สอบถามว่า เกิดอะไรขึ้นทำไมร้องไห้ จึงเล่าเรื่องดังกล่าวให้ฟัง
<O</O

เมื่อตกเย็นได้ไปสวดมนต์ทำวัตรกับหลวงพ่อ ได้กราบเรียนถามหลวงพ่อ ท่านอมยิ้มน้อย ๆ และตอบว่า ...
<O</O

“โยมโชคดีนะ นั่นนะท่านคือ ครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อเอง ท่านมาโปรดและโมทนา

หลวงพ่อพบท่านตั้งแต่ยังไม่บวชอยู่ที่อเมริกา เมื่อถึงเวลาจะบวชท่านมาปรากฏในนิมิตมีดอกบัว ๓ ดอกผุดจากมือ หลวงพ่อได้กลับมาบวชกับสมเด็จเกี่ยว ที่เมืองไทยจึงรู้ว่าท่าน คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท”
<O</O

นับแต่นั้น ดิฉันก็ได้เคารพพระเดชพระคุณหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตลอดมา หากมีเหตุอันตรายใด ๆ มักจะปรากฏภาพหลวงปู่ศุข ท่านคอยดูแลเสมอ ๆ โดยเวลาเดินทางไปในเขตที่มีการเล่นคุณไสย ท่านจะปรากฏให้เห็นทั้ง ๆ ที่ลืมตา เป็นปางยืนถือไม้เท้าเสมอ เมื่อพ้นเขตอันตราย ภาพนั้นก็จะหายไปเอง
<O</O

ต่อมาก็ได้มีนิมิตเห็นหญิงสาว สวยมาก หลายคนกำลังเล่นน้ำ ใสสะอาด พอเห็นภาพนั้น หญิงนางหนึ่งก็หันหน้ามายิ้มให้ ดวงตาเธอกลมโตสวยมาก ๆ และอีกครั้ง นั่งสมาธิเห็นชายหนุ่มรูปงามเข้ามาหา และพนมมือไหว้ จากนั้นก็มีเงาสีเขียวทาบหน้า จึงได้กราบเรียนถามหลวงพ่อครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่า..

“ภาพที่เห็นในนิมิตเป็นพญานาคเล่นน้ำ และชายหนุ่มนั้น เคยเป็นบริวารของโยมมาก่อน ในอดีตชาติของโยม เคยเกิดเป็นพญานาคนะ”
<O
จึงกราบเรียนถามท่านว่า“ พญานาคมีจริงหรือเจ้าคะ”

ท่านตอบว่า“มีจริงจ๊ะ โยมก็เหมือนหน้าโบสถ์นั่นไง”

ก็เลยถามต่อว่า“ แล้วเทวดามีจริงหรือเปล่าเจ้าคะ”

ท่านก็ตอบว่า“มีจริงจ๊ะ ก็ที่โยมนั่งอยู่นะ เวลาดึก ๆ ประมาณหกทุ่ม ตีหนึ่ง พวกเทวดาก็จะพากันมาฟังธรรมที่นี่จ๊ะ”

เมื่อท่านกล่าวจบก็ไม่กล้ากราบเรียนถามท่านอีกเลย หลวงพ่อบอกว่า ที่ถ้ำนี้มีเทวดารักษามากมาย หากทำไม่ดีก็เทวดาจะไม่ยอมให้อยู่ ต้องตั้งใจปฏิบัติธรรมนะ กลับไปจะได้ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้น

ต่อมาหลวงพ่อท่านได้นำของชิ้นหนึ่งมาให้ชมลักษณะของชิ้นนั้น เป็นคล้ายเปลือกหอย หรือเกล็ดปลาขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเด็ก และบอกว่า

<O“นี่คือ เกล็ดพญานาค มีคนเดินจากน้ำนำมาให้หลวงพ่อ ขณะที่ธุดงค์ไปทางอ.จอมทอง”
<O

หลังจากก็ได้ฝันแปลก ๆ เกี่ยวกับเรื่องพญานาค หลายครั้ง ประมาณปี ๒๕๔๑ ขณะนั้นทำงานอยู่ประเทศกัมพูชาที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้นิมิตเห็นชายหนุ่มรูปงาม นั่งบนโขดหินข้างแม่น้ำใหญ่ ชายหนุ่มผู้นั้นรูปงามมาก ในนิมินตนเองแต่งตัวแปลก ๆ คล้ายชุดโบราณ ท่านนั้นแทนเรียกตัวเองว่า พ่อ จึงรู้สึกแปลกใจมาก

ต่อมาก็ฝันเห็นพญานาคสีเขียวอมฟ้า ๕ เศียรมาเรียกหา

“ลูกจ๋า...กลับมาหาแม่เถอะ แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน กลับบ้านเราเถอะ"

ความรู้สึกที่รับรู้เศร้ามาก เรื่องนี้ได้กราบเรียนถามหลวงปู่องค์หนึ่ง วัดจันทร์ใน กรุงเทพฯ (มรณภาพแล้วเมื่อ ปี ๒๕๕๐) ท่านบอกว่า “เรื่องนี้เป็นความจริงนะ”
<O</O

ต่อมาก็ฝันว่า มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ พาไปที่แห่งหนึ่ง เป็นบ้านเรือนไทย พอไปถึงชายหนุ่มผู้นั้น ก็พาเดินเข้าไปในถ้ำ บอกว่า จะพาไปหาพ่อ แต่ตนเองไม่ยอมไปด้วย จึงลงน้ำกลายเป็นพญานาค สีดำ หงอนแดง ตาแดง บอกว่า เป็นคู่หมั้น (สมัยที่เป็นพญานาค) มาตามให้กลับไป

<Oเรื่องราวเหล่านี้สร้างความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ยึดติดอะไร คิดว่า อาจจะกินมากฝันมากไปอย่างนั้นเอง ..

ขอผลบุญแห่งการให้ธรรมทานนี้ ขอน้อมถวายแด่พระเดชพระคุณหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงพ่อครูบาอาจารย์องค์แรก และท่านที่ปรากฏในนิมิตทั้งหลาย สาธุ...

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

สวัสดีค่ะ คุณน้ำใส ไม่ทราบว่าจะมีการเปิดประมูลอีกรึป่าวคะ ครั้งก่อน ๆ สนใจ แต่ยังลังเลอยู่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีทุกท่านค่ะกลับมาจากไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าซุงวันนี้ค่ะเอาบุญมาฝากเพื่อนธรรมในเวปพลังจิตทุกท่านค่ะ
ได้ปฏิบัติกรรมฐาน ฝึกมโนมยิทธิและร่วมทำบุญใส่ตู้และอุทิศบุญให้กับเพื่อนธรรม กัลยาณมิตรในเวปพลังจิตด้วยค่ะ
กลับมาถึงห้องน้องชายก็รีบเข้าเวปตามอ่านหลายกระทู้เลยค่ะ
ดีใจมากเลยค่ะที่เป็นผู้ประมูลได้ เมื่อทำบุญก็นึกถึงท่านที่ดูแลรักษาลูกแก้วจักรพรรดิ์ปัญจนาคินทร์และอุทิศบุญทุกอย่างที่ได้ทำให้ท่านด้วยค่ะ
มีแอบอธิษฐานขอบางอย่างกับท่านด้วยค่ะ
ในวันที่อยู่ที่วัดประมาณวันพุธตอนเย็นได้นั่งสมาธิและเห็นลูกแก้วสีขาวอยู่ในพานสีทองในสมาธิอยู่นานหลายนาที
เมื่อกลับมาจากวัดแล้วเข้าเวปก็ได้รับข่าวดีมากเลยค่ะ
เมื่อได้เห็นรูปท่านก็อยากได้มากร่วมประมูลแล้วถึงมาอ่านประวัติท่านทีหลังค่ะ
แต่ไม่คิดว่าจะไม่มีใครมาร่วมประมูลต่อ ขอบคุณพี่น้ำใสและทุกท่านค่ะ
มีกัลยาณมิตรอยู่ท่านนึงที่ตอนที่อยู่วัดได้ทำบุญและอธิษฐาน
ให้เธอได้บูชาลูกแก้วจักรพรรดิ์ในเร็ววันขอให้คำอธิษฐานเป็นจริงโดยเร็ววันค่ะ
ขอให้ทุกท่านที่ต้องการบูชาลูกแก้วจักรพรรดิ์สมหวังได้มาบูชากันทุกคนค่ะ
เพื่อช่วยให้การปฏิบัติธรรมก้าวหน้าและช่วยให้ประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ดำรงอยู่ตราบนานเท่านานค่ะ

 

ก่อนอื่น ขอขอบพระคุณที่กรุณาติดตามอ่านเรื่องแก้วจักรพรรดิ และการประมูลดวงแก้วต่าง ๆ ค่ะ

สำหรับในอนาคตนี้ อาจจะมีค่ะ ขอเวลาอธิษฐานจิตก่อนนะคะ หากมีการประมูลครั้งใหม่จะเรียนให้ทราบ ผ่านกระทู้ และ PM ค่ะ

หากสนใจแก้วจักรพรรดิ ขอให้ทุกครั้งที่สร้างบุญกุศล หมั่นตั้งใจทำทาน รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ และนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้แก่เทวดารักษาสมบัติจักรพรรดิ

(ต้องระบุว่า เป็นเทวดารักษาสมบัติจักรพรรดิด้วยนะคะ เทวดาทั่ว ๆ ก็ไม่ได้ค่ะ เนื่องจากหน้าที่ของเทวดาทั้งหลาย ท่านมีหน้าที่ไม่เหมือนกันค่ะ)

หากกุศลถึงพร้อม วันหนึ่งก็จะปรากฏดวงแก้วมณีคู่บารมีของเราขึ้นมาค่ะ เมื่อถึงเวลาเราจะได้เป็นเจ้าของได้โดยง่ายค่ะ

อย่างกรณีน้องกุลเป็นตัวอย่าง ดิฉันปลื้มใจมากค่ะ เพราะน้องกุลได้ ทำการถืออุโบสถศีล ๘ วัน การเจริญพระกรรมฐาน และอุทิศบุญกุศลให้ดวงแก้วมณี ถือว่า ถูกหลักวิชาการอัญเชิญดวงแก้วมณีค่ะ


ขออนุโมทนาบุญค่ะ

Numsai

 

อ่านแล้วรู้สึกปลื้มในบุญของน้องกุลมาก ๆ ค่ะ ไม่มีคำกล่าวใด ๆ นอกจากคำว่า....

" สาธุ สาธุ สาธุ.."

ขออนุโมทนาบุญกับน้องกุลด้วยค่ะ

Numsai

 

ที่มาแห่งแก้วจักรพรรดิ ตอนที่ ๓ ท่านพญานาคโภคะนาคราช

ตอนที่ ๓ ท่านพญานาคโภคะนาคราช​

<O</O

เรื่องที่ท่านจะได้ให้ต่อไปนี้ เป็นปัจจัตตัง โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านค่ะ

​

หลังจากที่ดิฉันได้ย้ายกลับมาอยู่ที่กรุงเทพ ประมาณปี ๒๕๔๙ ได้มีโอกาสได้รู้จักเว็บคนเมืองบัว(ขณะนั้นยังไม่รู้จักเว็บพลังจิต) เกิดความสนใจที่จะฝึกกสินน้ำเป็นพิเศษ จึงได้อ่านข้อมูล และเริ่มฝึกกสินน้ำ แรก ๆ ใช้การเพ่งน้ำในขันเงินก่อน ภายหลังพอคล่องตัว เห็นน้ำที่ใดก็จับมาเล่นเป็นกสินน้ำหมด

จนกระทั่งเมื่อวันที่๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๙ จำได้ว่า วันนั้นได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ อยู่ ๆ ฝนก็เริ่มตก และตกหนักมากเป็นพิเศษ จึงนึกน้อมเอาเม็ดฝนที่ตกลงมา เป็นกสินน้ำนั่งไปเรื่อย ๆ

อยู่ ๆ ก็มีนิมิตปรากฏ พญานาคสีเขียวมรกต หงอนสีทอง ตาแดงตัวใหญ่มาก ลำตัวใหญ่กว่าต้นตาล ยื่นเศียรเข้ามาทางหน้าต่างห้องพระ จะอยู่บนชั้นสาม เห็นเพียงเศียรของพญานาคเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ตื่นตะหนกแต่อย่างใด ได้แต่ดูภาพนั้นเรื่อย ๆ เหมือนนั่งดูละคร

ท่านพญานาคคาบลูกแก้วสีเหลือง ขนาดลูกกอล์ฟมีรัศมีสีเหลืองโดยรอบงดงามมาก มีแสงเรือง ๆ ออกจากดวงแก้วนั้น และมาวางบนมือของดิฉัน
<O</O

ต่อมาก็ภาพเท้าใหญ่ของท่านใดก็ไม่ทราบ ปรากฏขึ้น คล้ายถูกถีบ (อิอิ.. พูดจากความรู้สึกจริงๆ) จากนั้นภาพพญานาค และลูกแก้วก็หายไปตัวเองได้ถอนออกมาสมาธิ(ภายหลังจึงทราบว่า ดวงแก้วสีเหลืองดังกล่าว ได้ไปอยู่กลางกายของตนเอง)

จากนั้น จึงได้เข้าสมาธิอีกครั้ง ตั้งจิตอธิษฐานว่า “ หากแม้พญานาคในนิมิตเกิดขึ้นจริง ขอทราบนามท่านว่า ท่านคือใคร”

จากนั้นก็ทำใจสงบนิ่ง เข้าสมาธิอีกครั้ง พอจิตสงบสักพัก ก็ได้ยินเสียงตอบในจิตว่า

“พ่อคือ พญาโภคะนาคราช พ่อเป็นพญานาคตั้งแต่สมัยพระพุทธวิปัสสี เมื่อ ๙๑ กัปป์ที่ผ่านมาพ่อเคยเป็นพ่อของลูกสมัยที่ลูกเกิดเป็นพญานาค ปัจจุบัน พ่อ และบริวาร รับหน้าที่เฝ้าสมบัติจักรพรรดิ และสืบทอดอายุพระศาสนาของสมเด็จพระสมณโคดมให้ครบ ๕๐๐๐ ปี

พ่อเคยปรากฏให้ลูกเห็นแล้วครั้งหนึ่ง จำได้หรือไม่ จากนั้น จึงปรากฏภาพชายหนุ่มรูปงามขึ้น เป็นชายหนุ่มรูปร่างเดียวกันกับที่เห็นเมื่อหลายปีก่อน แต่แต่งกายมีเครื่องทรงมากกว่า”

จึงน้อมใจก้มกราบท่าน และออกจากสมาธิ (ขณะนั้นยังไม่รู้วิธีการขอขมา หรืออุทิศบุญให้แก่เทวดา จึงได้เพียงแต่ทำความเคารพ

ต่อมาได้ค้นหาข้อมูลของ พระพุทธวิปัสสี ทางอินเตอร์เน็ต พบว่า ท่านเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อ ๙๑ กัปที่ผ่านมา จึงรู้สึกตื่นเต้น และประหลาดใจเล็กน้อยที่ข้อมูลตรงกับที่ท่านโภคะนาคราชบอกมา

เนื่องจากก่อนหน้านั้น ไม่ได้เป็นคนที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธเจ้ามากนัก จึงคิดว่า พระพุทธเจ้าที่ผ่านมา มีเพียง ๔ พระองค์ และจะมาตรัสรู้ในอนาคตอีกหนึ่งพระองค์เท่านั้น

หลังจากนั้น เป็นต้นมาท่านโภคะนาคราช ได้มาปรากฏในนิมิตบ้าง บางครั้งก็ให้เห็นทั้งลืมตา บางครั้งนั่งสมาธิได้ยินเสียงเหมือนสัตว์ใหญ่คำราม เมื่อกำหนดจิตดู เห็นท่านโภคะนาคราช ในภาคเทพบุตร ยืนอยู่

<Oลักษณะภาพท่านโภคะนาคราช ที่มาปรากฏกายในภาคเทพบุตรนั้น มีลักษณะคล้าย เทพบุตรเป่าสังข์ แต่เกศคล้ายเทพบุตรที่นั่งพนมมือ คือเกศเกล้าผมขึ้นไป กายของท่านจะเป็นผิวเหลืองทอง คล้ายสีน้ำผึ้ง ไม่ออกขาวนัก และเป็นลักษณะของมหาบุรุษทุกประการ

แต่ภาพที่เห็นในนิมิตนั้น ภาพที่เห็นไม่เคยพบท่านถอดเสื้อแต่อย่างใด การแต่งกายจะเป็นผ้าบาง ๆ แนบเนื้อ ไม่เห็นเห็นหน้าอก (อย่างที่ปรากฏในภาพ)

ท่านได้มาปรากฏบ่อยครั้ง หากมีเรื่องใด ท่านมักจะปรากฏเตือนภัยก่อนเสมอ จริยาวัตรท่านงดงามมาก ไม่เหมือนกับเทวดาสายนาคทั่ว ๆ ไป เมื่อพบท่านทุกครั้ง ท่านมีแต่ความเมตตา เปี่ยมด้วยพรหมวิหาร ๔ เสมอ

กุศลใด ๆ ที่เกิดจากการให้ธรรมทานในครั้งนี้ ลูกขอน้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระพุทธวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสมณศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านพญาโภคะนาคราช ท่านนิมมารตีเทวี และบริวารแห่งนาคพิภพทั้งหลาย

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่าน และโมทนาบุญในกระทู้นี้ทุก ๆ ท่าน

Numsai