พิเศษเสียงธรรมหายาก ! เสียงนำสวดมนต์ให้พรของหลวงปู่ดู่-ภาพวัตถุมงคลสมัยท่านบางส่วน...

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย Wisdom, 29 ตุลาคม 2006.

  1. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    (คาถาบูชา นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ)

    เสียงนำสวดมนต์ให้พรของหลวงปู่ดู่
    http://palungjit.org/attachments/a.111147/
    เสียงบันทึกนี้หลวงตาม้าท่านได้บันทึกลงเทปคาสเซ็ตไว้เมื่อเกือบ 30 กว่าปีที่แล้ว ณ วัดสะแก สมัยหลวงปู่ท่านยังทรงธาตุขันธ์อยู่
    (ตอนท้ายลองฟังดูดีๆจะมีเสียงหลวงปู่สนทนากับลูกศิษย์เมื่อลูกศิษย์แสดงความเป็นห่วงธาตุขันธุ์ของท่านที่ชราลงมากแล้ว(ตอนนั้นท่านน่าจะเกือบ80แล้ว)มีประโยคหนึงที่ท่านว่า "ธรรมมะไม่ป่วย ป่วยแต่ร่างกาย")

    [​IMG]
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา
    (คาถาบูชา นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ)

    ประวัติหลวงพ่อดู่ (โดยย่อ)

    ชาติภูมิ

    หลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะโรง เป็นวันเพ็ญวิสาขปุรณมี ณ บ้านข้าวเม่า ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ พุด โยมมารดาชื่อ พ่วง นามสกุล หนูศรี มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 3 คน ตัวท่านเป็นคนสุดท้อง เมื่อหลวงพ่อถือกำเนิดได้ไม่นาน มารดาของท่านก็เสียชีวิต และเมื่อท่านอายุได้ 4 ปี บิดาของหลวงพ่อก็เสียชีวิตอีก ทำให้หลวงพ่อกำพร้าตั้งแต่วัยเยาว์ ท่านจึงได้อาศัยอยู่กับยาย และ พี่สาวชื่อ สุ่ม เป็นผู้ดูแลเอาใจใส่ เมื่อท่านถึงวัยที่ต้องศึกษา ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดกลางคลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศธรรมประวัติ ตามลำดับ
    เมื่อตอนที่ท่านยังเป็นทารกมีเหตุอัศจรรย์ที่ทำให้เชื่อว่าท่านจะต้องเป็นผู้มีบุญวาสนามาเกิด คือในช่วงหน้าน้ำหลาก คืนหนึ่งขณะที่บิดาและมารดากำลังทำขนมอยู่นั้น มารดาท่านได้วางตัวท่านไว้บนเบาะนอกชานบ้าน แต่ไม่ทราบด้วยเหตุใดตัวท่านได้กลิ้งตกลงไปน้ำ แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ตัวท่านกลับไม่จมน้ำ กลับลอยน้ำไปติดอยู่ข้างรั้ว กระทั่งสุนัขที่บ้านเลี้ยงไว้ มาเห็นเข้าจึงเห่าและวิ่งกลับไปกลับมา มารดาท่านจึงสงลัยว่าคงจะมีเหตุการณ์ผิดปกติ จึงได้ตามสุนัขออกมาดู ก็พบท่านลอยน้ำอยู่ติดกับข้างรั้ว

    อุปสมบท

    เมื่อท่านอายุได้ 21 ปี ก็ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ตรงกับวันอาทิตย์แรม 4 ค่ำ เดือน 6 ณ อุโบสถวัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อฉาย วัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    ได้รับ ฉายาว่า “พรหมปัญโญ ”

    ศึกษาธรรม

    ในพรรษาแรกๆ นั้น หลวงพ่อดู่ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัด ประดู่ทรงธรรม (ในสมัยนั้นเรียกว่าวัด ประดู่โรงธรรม) โดยศึกษากับ ท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชม หลวงพ่อรอด (เสือ) เป็นต้น

    ในด้านการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน นั้น หลวงพ่อดู่ ได้ ศึกษา กับ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ผู้เป้นพระอุปัชฌาย์ และ หลวงพ่อเภา ซึ่งเป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อกลั่น และ มีศักดิ์เป็นอาของท่าน เมื่อท่านบวชได้พรรษาที่ 2 ประมาณปลายปี พ.ศ. 2469 หลวงพ่อกลั่นก็ได้มรณภาพ ท่านจึงได้ศึกษากับหลวงพ่อเภาเป็นหลัก นอกจากนี้ยังได้ศึกษาจากตำราที่มีอยู่ จากชาดกบ้าง ธรรมบทบ้าง และด้วยความที่ท่านเป็นผู้รักการศึกษา ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจาก พระอาจารย์อีกหลายท่าน ที่ จังหวัดสุพรรณบุรี สระบุรี ฯลฯ

    เมื่อพ.ศ. 2486 ครั้นออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อก็ออกเดินธุดงค์ จากวัดสะแก มุ่งหน้า สู่ป่าเขาแถบจังหวัดกาญจนบุรี ในระหว่างทาง ก็แวะนมัสการสถานที่สำคัญต่างๆ ทางพุทธศาสนา

    นิมิตธรรม

    ในคืนหนึ่ง ในช่วงก่อน ปี พ.ศ.2500 เล็กน้อย หลังจากที่ท่านสวดมนต์ทำวัตรเย็น และเข้าจำวัดแล้วนั้น เกิดนิมิตไปว่าได้ฉันดาว ที่มีแสงสว่างมากเข้าไป 3 ดวง ขณะที่ฉันนั้นรู้สึกว่า กรอบๆ ดี เมื่อฉันหมดก็ตกใจตื่น ท่านจึงได้พิจารณานิมิตที่เกิดขึ้น ก็เกิดความเข้าใจในนิมิตนั้นว่า ดาวสามดวง ก็คือ ดวงแก้วไตรสรณาคมน์ นั้นเอง ท่านจึงท่อง

    “ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ” ก็เกิดปิติขึ้นในจิตท่านอย่างท่วมท้น เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และมั่นใจว่า การยึดมั่นพระไตรสรณาคมน์ เป็นวิธี ที่เข้าสู่แก่นแท้ เป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา ท่านจึงกำหนดเอา พระไตรสรณาคมน์ เป็นองค์บริกรรมภาวนา

    เมตตาธรรม

    หลวงพ่อดู่ท่านให้การต้อนรับแขกอย่างเสมอเท่าเทียมกันหมด ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ท่านจะพูดห้ามปรามหากมีผู้เสนอตัวเสนอหน้าคอยจัดแจงเกี่ยวกับแขกที่มาหาท่าน เพราะท่านทราบดีว่ามีผู้ใฝ่ธรรมจำนวนมากที่อุตสาห์เดินทางมาไกล เพื่อนมัสการและซักถามข้อธรรมจากท่าน หากมาถึงแล้งยังไม่สามารถเข้าพบได้โดยสะดวก ก็จะทำให้เสียกำลังใจ เป็นเมตตาธรรมอย่างสูงที่หลวงพ่อมีให้ศิษย์ทั้งหลาย และหากมีผู้สนใจการปฏิบัติกรรมฐาน มาหาท่าน ท่านจะเมตตาสนทนาธรรมเป็นพิเศษอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย

    หลวงปู่ทวด

    ท่านให้ความเคารพในองค์หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ เป็นอย่างมากทั้งกล่าวยกย่อง ว่าหลวงปู่ทวดท่านเป็นผู้ที่มีบารมีธรรมเต็มเปี่ยม เป็นโพธิสัตว์จะได้มาตรัสรู้ ในอนาคต ให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ยึดมั่น และระลึกถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อติดขัดในระหว่างการปฏิบัติธรรม หรือประสบปัญหาทางโลก ท่านว่า หลวงปู่ทวดท่านคอยที่จะช่วยเหลือทุกคนอยู่แล้ว แต่ขอให้ทุกคนอย่าท้อถอย หรือละทิ้งการปฏิบัติ

    สร้างพระ

    หลวงพ่อดู่ท่านมิได้ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์ การที่ท่านสร้าง หรืออนุญาตให้สร้างพระเครื่องหรือพระบูชา ก็เพราะเห็นว่า บุคคลจำนวนมากยังขาดที่ยึดเหนี่ยงทางด้านจิตใจ เพราะศิษย์ หรือ บุคคลนั้น มีทั้งที่ใจใฝ่ธรรมล้วนๆ กับ ยังต้องอิงกับวัตถุมงคล ท่านเคยพูดว่า “ติดวัตถุมงคลยังดีกว่า ที่จะไปให้ติดวัตถุอัปมงคล” แม้ว่าหลวงพ่อดู่ท่านจะรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องที่ท่านอธิฐานจิตให้ แต่สิ่งที่ท่านยกไว้เหนือกว่านั้นก็คือการปฏิบัติ การภาวนา นี้แหละ เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลัง บางคนมาหาท่านเพื่อต้องการของดีเช่นเครื่องรางของขลัง ซึ่งมักจะได้รับคำตอบจากท่านว่า “ ของดีนั้นอยู่ที่ตัวเรา พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละของดี ”

    ปัจฉิมวาร

    นับตั้งแต่ พ.ศ. 2527 เป็นต้นมาสุขภาพหลวงพ่อเริ่มทรุดโทรม เนื่องการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ด้วยเหตุจากการที่ต้องต้อนรับแขก และบรรดาศิษย์ทั่วทุกสารทิศ ที่นับวันก็ยิ่งหลั่งไหลกันมานมัสการท่านมากขึ้นทุกวัน แม้บางครั้งจะมีโรคมาเบียดเบียนอย่างหนัก ท่านก็อุตส่าห์ออกโปรดญาติโยมเป็นปกติ พระที่อุปัฏฐากท่าน เล่าว่า บางครั้งถึงขนาดที่ท่านต้องพยุงตัวเองขึ้นด้วยอาการสั่น และมีน้ำตาคลอเบ้า ท่านก็ไม่เคยปริปากให้ใครต้องเป็นกังวลเลย ภายหลังตรวจพบว่า หลวงพ่อ เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว แม้ว่าทางคณะแพทย์ จะขอร้องท่านให้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ท่านก็ไม่ยอมไป

    ประมาณปลายปี พ.ศ.2532 หลวงพ่อดู่พูดบ่อยครั้ง เกี่ยวกับ การที่ท่านจะละสังขาร ซึ่ง ในขณะนั้นหลวงพ่อดู่ท่านได้ใช้หลักธรรม ขันติ คือความอดทนอดกลั้นระงับ ทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นจากโรคภัย จิตของท่านยังทรงความเป็นปรกติสงบเย็น จนทำให้คนที่แวดล้อมท่านไม่อาจสังเกตเห็นถึงปัญหาโรคภัยที่คุกคามท่านอย่างหนัก

    วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาบ่ายนั้น มีนายทหารอากาศผู้หนึ่งมากราบท่านเป็นครั้งแรก หลวงพ่อท่านได้ลุกขึ้นนั่งตอนรับ ด้วยใบหน้าที่สดใส ราศีเปล่งปลั่งเป็นพิเศษ จนบรรดาศิษย์ เห็นผิดสังเกต หลวงพ่อยินดีที่ได้พบกับศิษย์ผู้นี้ ท่านว่า “ต่อไปนี้ ข้าจะได้หายเจ็บไข้เสียที ” คืนนั้นมีคณะศิษย์มากรายท่าน ท่านได้พูดว่า “ ไม่มีส่วนใดในร่างกายที่ไม่เจ็บปวดเลย ถ้าเป็นคนอื่นคงเข้าห้อง ICU ไปนานแล้ว ” พร้อมทั้งพูดหนักแน่นว่า “ข้าจะไปแล้วนะ” และกล่าวปัจฉิมโอวาทย้ำให้ทุกคนตั้งอยู่ในความไม่ประมาท “ถึงอย่างไรก็ขอให้อย่าได้ละทิ้งการปฏิบัติ ได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติ ก็เหมือนนักมวย ขึ้นเวทีแล้วต้องชก อย่ามัวแต่ตั้งท่า เงอะๆ งะๆ” หลังจากคืนนั้นหลวงพ่อก็กลับเข้ากุฏิ และละสังขารไปด้วยอาการสงบด้วยโรคหัวใจ ในกุฏิท่านเมื่อเวลาประมาณ 5 นาฬิกา ของ วันพุธที่ 17 มกราคม

    ขอนำตัวอย่างคำสอนของหลวงปู่ดู่มาให้พิจารณาครับ

    สำหรับเวลาที่เราทำบุญกับพระสงฆ์นั้น ให้อธิษฐานก่อนถวายทาน ทำจิตของเราให้ไปถวายกับพระพุทธเจ้าเลยจะได้บุญสูง พระที่รับเป็นเพียงอุปโลกน์ ถ้าท่านไม่ดีจริง ท่านก็ไปนรก ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะทำบุญกับพระสงฆ์ที่ดีหรือไม่ ขอให้เราทำจิตใจให้บริสุทธิ์ สะอาด รับบุญอย่างเต็มที่ ก็ได้บุญเหมือนกัน และสำหรับผู้ที่คอยขัด หรือไม่เห็นด้วย เวลาเราทำบุญนั้นให้ใช้วิธี พอเวลาทำบุญก็ให้บุญกับเขา เรียกกายทิพย์เขามารับบุญ เขาเรียกว่าให้บุญในหรือให้ทางใน นานไปเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเอง หรือเราจะให้กับคนที่โกรธเรา อาฆาตพยาบาทตัวเราก็ได้ บุญเป็นของดี เราให้ใครก็ได้ ไม่ว่าเจ้านาย ลูกน้อง หรือคนที่เราจะไปติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ทั้งนั้น บุญคือความสบายใจ การสร้างบุญโดยการให้ด้วยจิตใจที่เมตตา ถือเป็นการกล่อมเกลาจิตใจไปในตัว และเป็นการปฏิบัติธรรมอีกอย่างหนึ่งด้วย

    _____________________________________

    บทสวดพระมหาบรมจักพรรดิ ของ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา

    โดยย่อ

    นะโมตัสสะภะคะวะโตอะระหะโตสัมมาสัมพุทธัสสะ (3จบ)

    แล้วสำรวมกายวาจาใจนึกถึงครูบาอาจารย์ที่เคารพหรือท่านหลวงปู่ทวดแล้วตั้งพุทธานุสติถึงพระพุทธเจ้าและคุณงามความดีของท่าน
    แล้วกล่าวว่า...

    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

    (สวด 3 จบ หรือตามกำลังวัน
    อาทิต 6 จบ/ จันทร์ 15 จบ / อังคาร 8 จบ/พุธ17 จบ /พฤหัสฯ 19 จบ /ศุกร์ 21 จบ / เสาร์10 จบ)

    บทอัญเชิญพระ (ครอบวิมานทิพย์แผ่บุญ)

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัง จะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะเต เชนะรักขัง
    พันธามิ สัพพะโส (๕ จบ)

    พุทธัง อธิษฐามิ
    ธัมมัง อธิษฐามิ
    สังฆัง อธิษฐามิ...

    __________________________________



    [​IMG]
    พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) พระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติดีปฎิบัติชอบรูปหนึงในปัจจุบันตามแนวทางและปฎิปทาของพระอาจารย์เอกของท่านซึ่งก็คือหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา(ในภาพเป็นบริเวณถ้ำใหญ่ที่วัดซึ่งวัดของหลวงตาม้าจะกินอาณาเขตเขาลูกหนึงเลยทีเดียวเป็นสัปปายะที่เงียบสงบและมีถ้ำเยอะมากวัดตั้งอยู่ใกล้ๆกับชายแดนพม่าในเขตอำเภอเชียงดาว)

    _______________________________________________

    กระทู้เกี่ยวเนื่องแจกพระผงเปิดโลกผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่
    สูตรหลวงตาม้าวัดพุทธพรหมปัญโญ


    ขอให้เจริญในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันทุกๆท่าน...

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กุมภาพันธ์ 2012
  2. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ฟังแล้วเกิดธรรมปิติเลยครับ ขนลุกซู่ๆ !

    โมทนาครับ กราบหลวงปู่แทบเท้า
     
  3. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    เอารูปมา up..จ๊ะ (เก็บมาจากเวปนั้น นู๊น นี่ )

    (rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    โมทนาสาธุครับ

    ...

    ถ้ายังไงเปิดอีกห้อง ของหลวงปู่ดู่เลยไม่ได้เหรอครับ ...

    ลองขอเว๊ปมาสเตอร์ดูนะ..

    สนับสนุนๆๆ
     
  5. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    - ขอกราบแทบเท้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ครับ สาธุๆๆๆ
     
  6. อรหันตทาส

    อรหันตทาส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +3,220
    <TABLE borderColor=#0000ff cellSpacing=2 cellPadding=2 width="90%" border=1><TBODY><TR><TD align=middle>[SIZE=+1]หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา[/SIZE]</TD></TR><TR><TD align=left> คนเราเกิดมาไม่เห็นมีอะไรดี มีดีอยู่อย่างเดียว คือ สวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติภาวนาคือ มองทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นของชั่วคราว มีแต่ปัญหามีแต่ทุกข์ แล้วก็เสื่อม พังสลายไปในที่สุด
    ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร(การเวียนว่ายตายเกิด) ทั้งหลาย ถ้าท่านต้องการพ้นภัยจากการเกิดแก่เจ็บตาย ท่านควรมีคุณธรรม 6 ประการนี้ไว้เป็นประจำจิตประจำใจ ทุกท่านย่อมจะได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ถึงความสุขใจอย่างยอดเยี่ยม
    คุณ 6 ประการนั้นคือ
    1. ข่มจิตในเวลาที่ควรข่ม
    2. ประคับประคองจิตในยามที่ควรประคับประคอง
    3. ทำจิตให้ร่าเริงในยามที่ควรร่าเริง
    4. ทำจิตวางเฉยในยามที่ควรวางเฉย
    5. มีจิตน้อมไปในอริยมรรค อริยผลอันประณีตสูงสุด
    6. มีจิตตั้งมั่นในพระนิพพานเป็นจุดหมายปลายทางของชีวิตผู้ปฏิบัติที่มีความสามารถฉลาด</TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.dhammapratarnporn.com/book3/book3_page21.html<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TD><OBJECT codeBase=http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,29,0 height=200 width=800 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>






















    <embed src="../../animation/banner-pudu.swf" quality="high" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" type="application/x-shockwave-flash" width="800" height="200"></embed></OBJECT></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffff00 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="82%" align=center border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc>ปลูกต้นธรรม
    “ ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเคยเปรียบการปฏิบัติธรรมเหมือนการปลูกต้นไม้ ท่านว่า...ปฏิบัตินี้มันยาก ต้องคอยบำรุงดูแลรักษาเหมือนกับเราปลูกต้นไม้
    ศีล..........คือ ดิน
    สมาธิ......คือ ลำต้น
    ปัญญา.....คือ ดอก ผล
    ออกดอกเมื่อใดก็มีกลิ่มหอมไปทั่ว การปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน ผู้รักการปฏิบัติต้องคอยหมั่นรดน้ำพรวนดิน ระวังรักษาต้นธรรม ให้ผลิดอก ออกใบ มีผลน่ารับประทาน
    ต้องคอยระวัง ตัวหนอน คือ โลภ โกรธ หลง มิให้มากัดกินต้นธรรมได้
    อย่างนี้....จึงจะได้ขื่อว่าผู้รักธรรม รักการปฏิบัติจริง ”
    </TD></TR></TBODY></TABLE></P>http://www.boonluen.com/tamma/pudu/pudu-1.htm
     
  7. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    หลวงปู่ดู่เทศน์สอนคณะศิษย์วัดท่าซุงผู้ได้มโนมยิทธิ

    [​IMG]
    หลวงปู่ดู่เทศน์สอนคณะศิษย์วัดท่าซุงผู้ได้มโนมยิทธิ

    ขอคัดลอกเทปที่หลวงปู่ดู่ที่ท่านเคยเทศน์สอนคณะศิษย์วัดท่าซุงที่ได้มโนมยิทธิ ซึ่งได้เดินทางไปกราบหลวงปู่ดู่ ตามคำสั่งหลวงพ่อฤาษีฯ หลวงปู่ดู่ท่านเทศน์ว่า...............(ถอดจากเทปที่บันทึกไว้กลางปี 2530)

    ________________

    หลวงปู่.....เอ้า คณะนี้มาจากไหน (แล้วหลวงปู่ท่านก็เงียบ) อ๋อเด็กฝาก

    คณะมโนมยิทธิ...หลวงพ่อ(ฤาษี) ท่านให้มากราบเจ้าค่ะ หลวงปู่รู้จักไหมเจ้าคะ

    หลวงปู่ดู่...รู้จัก

    คณะมโนมิยทธิ....หลวงปู่เจ้าคะดิฉันฝึกมโนขึ้นไปกราบพระข้างบนดีไหมเจ้าคะ


    หลวงปู่ดู่.....การไปกราบพระ พบพระนั้นเป็นของดี ให้หมั่นรักษาองค์พระ(ภาพพระ)เข้าไว้ พระท่านจะสอน ท่านจะบอกวิธีการปฏิบัติ เราก็นำมาประพฤติปฏิบัติตามด้วยความตั้งใจ เคร่งครัด แต่ถ้าพบพระแล้ว ท่านสอนแล้วไ ม่นำมาประพฤติปฏิบัติ หรือปฏิบัติจนพบพระแล้วไม่สามารถทำให้อารมณ์ชั่วทั้ง ๓ คือ โลภ โกรธ หลง มันเบาบางหลง อย่างนี้ยังใช้ไม่ได้ ถือว่าปฏิบัติผิดทาง คนที่มัวแต่เอาสิ่งที่ตนเองได้ (ญาณ) ไปดูนั้นดูนี่ ทำนายทายทัก ไม่นานอุปทานก็เข้าแทนที่ ทีนี้แทนที่มันจะไปสุคติภูมิ มันก็ไปอบายภูมิแทน เหตุจากการแอบอ้าง คำสอนของพระ เพราะอารมณ์อุปาทานนั้นเอง จงระวังไว้ ท่านมหาวีระ ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน เป็นอาจารย์ใหญ่สอนคนได้จำนวนมาก ข้าขอโมทนา พวกแกเกิดมาพบพระอรหันต์ที่มีบารมีสูง อย่าให้เสียทีที่ได้พบ เอาสิ่งที่ตนปฏิบัติบัติได้(ญาณ)มาอบรมตนเอง อย่าเที่ยวไปทำนายทายทักชาวบ้าน ข้ออันนั้นเห็นจะไม่ใช่จุดประสงค์ แม้ลูกศิษย์ อยู่ใกล้ข้าแท้ๆ ยังเฝือได้ แล้วถ้าพวกแกยังประมาท ระวังนรกจะกินหัวเอา....


    คณะมโนมยิทธิ...เราจะรู้ได้ยังไงเจ้าคะ ว่าเวลาเราขึ้นไปกราบนั้น เราเห็นจริงๆ

    หลวงปู่....แกลองใช้อารมณ์นั้น(ญาณ) ตรวจสิ่งที่มองไม่เห็น แต่สิ่งนั้นยังมีอยู่สิ เช่น แกลองตรวจดูว่าในกระเป๋าของเพื่อนที่มาด้วยกันมีเงินอยู่เท่าไหร่ ถ้าแกตอบถูก อารมณ์ที่แกขึ้นไปกราบพระ แกก็เห็นจริง แต่ถ้าแกตอบไม่ถูก พระที่แกเห็นก็ไม่จริง...

    คณะมโนมยิทธิ....เราถามเทวดาเลยได้ไหมเจ้าค่ะ

    หลวงปู่....เอ้า เงินในกระเป๋านี้มันเป็นของหยาบ แกยังมองไม่เห็นเลย นับประสาอะไรกับเทวดา แกจะไปมองเห็นล่ะ กายเทวดาละเอียดกว่ากันเยอะ

    คณะมโนมยิทธิ...ต้องตรวจอารมณ์เช่นนี้ก่อนใช่ไหมค่ะ

    หลวงปู่ดู่...ใช้ ข้าก้ให้ลูกศิษย์ตรวจอารมณ์อย่างนี้ก่อนแล้วค่อยขึ้นไปกราบพระ ถ้าตรวจแล้วไม่ตรงก็ต้องหัดวางอารมณ์ใหม่ ไม่นานก็ตรง คราวต่อไป ไม่ต้องกำหนด เขาจะรู้เลยว่าอะไรซ่อนอยู่ตรงไหน .....(หลวงปู่เงียบสักพัก) (แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า) พระมหาวีระยังสอนให้แกหัดทำเวลาตอนเช้ามืด ให้ลองตรวจว่า เช้าวันนี้จะมีใครมาหาไหม เขาจะมาทำอะไร ใส่เสื้อสีอะไร ใช่ไหมล่ะ

    คณะมโนมยิทธิ....หลวงปู่รู้ได้ยังไงเจ้าคะ


    หลวงปู่ดู่...ก็พระมหาวีระบอกข้า อยู่ข้างๆนี่แหละ บอกว่า..พวกแกมันลิงทะโมน ต้องจับไปมัด เฆี่ยนแล้วสอน (เสียงหลวงปู่หัวเราะ แล้วพูดว่า)ต่อไปให้รีบตั้งใจปฏิบัติ อย่าสนใจคนอื่น สนใจจิตตัวเองให้มากๆ รักษาจิตตนเองให้ดี รักษาองค์พระ(ภาพพระ)ไว้อย่าให้หาย ชำระใจให้ปราศจากความโลภ โกรธ หลง มันก็ถึงเองแหละนิพพาน ไม่ใช่ปากก็บอกจะไปนิพพาน แต่ไม่ชำระโลภ โกรธ หลงให้ขาดไป อธิษฐานยังไงมันก็ไม่ถึงนะแก นิพพานเข้าไม่ได้ด้วยการอธิษฐาน แต่ต้องอาศัยการปฏิบัติ ซึ่งจุดสำคัญคือการละอารมณ์ โลภ โกรธ หลง
    ละได้เมื่อไหร่ถึงทันที ละไม่ได้มันจะถึงแค่หัวตะพาน....


    คณะมโนมยิทธิ...สาธุเจ้าค่ะ หลวงปู่

    หลวงปู่ดู่ ...ให้พร.............................................​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กุมภาพันธ์ 2012
  8. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    เสียงสวดมนต์ผมว่าใช้ฝึกสมาธิได้เลยนะครับ

    กราบโมทนาบารมีหลวงปู่ครับ...
     
  9. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    ผมเคยไปนอนค้างที่กุฏิของหลวงตาม้าคืนหนึ่งครับ ไปกับเพื่อนทางธรรมที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ท่านมีเมตตามาก สงสัยอะไรท่านก็เมตตาตอบให้หมดแบบไม่อั้น (ท่านได้กล่าวถึงอนาคตของประเทศไทยด้วยครับ) คืนนั้นมีลูกศิษย์ไปนอนด้วย 3 คน สนทนาธรรมกันแบบเป็นกันเองมากครับ ก่อนกลับท่านได้มอบพระให้ผมด้วย ถ้ามีโอกาสจะไปนอนที่กุฏิอีกครับ
     
  10. magic power

    magic power เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +200
    อยากไปกราบหลวงตาม้าจังเลยครับ ผมหวังว่าคงจะมีโอกาสในเร็ววัน
    ขออนุโมทนาผู้ที่ได้พบท่านและได้รับสิ่งดีๆๆด้วยใจจริงครับ......สาธุ(bb-flower


     
  11. thanit

    thanit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +214
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ กราบหลวงปู่ด้วยครับ เป็นบุญจริงจริงที่ได้เจอหลวงปู่
     
  12. เสขะ

    เสขะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +1,077
    โมทนาสาธุ ครับ กระดึง [​IMG]
     
  13. intorachit

    intorachit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +49
    อนุโมทนาครับ

    ฟังแล้วชอบจัง:cool:
     
  14. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    ขอร่วมอนุโมทนา.......บุญครับ รบกวนครับfileเสียงสวดมนต์ อย่างเดียวมีหรือเปล่าครับ



    [b-wai] [b-wai] [b-wai]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2006
  15. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    File เฉพาะเสียง ^_^

    จัดให้จ้า File เฉพาะเสียง
    ''''
    ''''
    '''
    '''
    ''
    ''
    '
    '
    v
    v
    (f) ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. R_Ravad

    R_Ravad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +31
    (verygood) เยี่ยมยอดครับท่าน
     
  17. methee28

    methee28 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +41
    ผมก้ออยากไปครับ แต่ไม่รู้จะมีบุญได้ไปหรือเปล่า
    อยากให้ลงแผนที่วัดให้ด้วยครับ:cool:
     
  18. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    (f) โมทนาสาธุด้วยครับ...ไม่แน่เราอาจจะได้เจอกันเข้าสักวัน
     
  19. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ขอเพิ่มเติมนะครับ ^_^

    _______________________

    อานิสงค์การสวดบทพระมหาจักรพรรดิโดยย่อ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อานิสงค์การสวดบทพระบรมมหาจักรพรรดิ

    โดยย่อกล่าวคือ

    บทนี้เป็นการสวดไหว้พระพุทธเจ้าทั่วทั้งพระนิพพานตลอดจนถึงพระธรรมเจ้าและพระอริยสงฆ์สาวกทั้งมวลไหว้พระพุทธเจ้าทั้ง5พระองค์รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหมพระอริยะเจ้าทั้งหลาย

    การสวดครั้งหนึงเป็นการดึงกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิทุกๆพระองค์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาร่วมถึงกำลังของพระมหาโพธิสัตว์เจ้ามารวมอารธนาเข้าที่กายและใจ

    การสวดครั้งหนึงมีอานิสงค์แผ่ไปทั่วจักวาลสามแดนโลกธาตุสามารถแผ่บญไปทั่วทุกสรรพสัตว์ตลอดจนเทวดาประจำตัวเราญาติมิตรเพื่อนฝูงครอบครัวเจ้ากรรมนายเวรและหากนำบทสวดนี้ไปสวดในนรกหรือแผ่ไปไฟนรกจะดับชั่วขณะ

    บทนี้เป็นการสร้างกำแพงแก้วคุ้มกันตัวร่วมถึงการอารธนาบารมีครูบาอาจารย์พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อัญเชิญเข้าตัวเพื่อป้องกันภัยและสร้างมหาโชคมหาลาภ

    อานิสงค์แก่ผู้สวดมีทั่งมหาบุญมหาลาภเนื่องจากมีการกล่าวถึงพระสีวลีร่วมถึงบทนี้มีพลังงานอย่างยิ่งในการเจริญพระกรรมฐานหากนำไปสวดบริกรรมก่อนหรือระหว่างนั่งภาวนากรรมฐาน...จะทำให้การภาวนามีพุทธานุภาพมาคลุมและคุมการปฎิบัติของเรา

    หากสวดบทนี้สามารถอฐิษฐานเรื่องราวใดๆมี่ติดข้องใจได้ให้ผ่านพ้นไปอย่างทะลุปรุโปร่ง(i) <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  20. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอกราบนมัสการหลวงปู่ดู่(พระมหาโพธิสัตว์) และขออนุโมทนาบุญเป็นอย่างสูงครับ _/\_
     

แชร์หน้านี้

Loading...