สูจิโลมสูตร

ในห้อง 'พระไตรปิฎก เสียงอ่าน' ตั้งกระทู้โดย wvichakorn, 23 กรกฎาคม 2010.

  1. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,683
    ค่าพลัง:
    +9,239
    [​IMG]


    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุท ธสฺส
    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุท ธสฺส
    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุท ธสฺส



    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
    ขอนอบน้อมแด่พระธรรม พระสงฆ์


    [​IMG]

    <CENTER> พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
    ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
    </CENTER>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

    <CENTER></CENTER></PRE>

    <CENTER>สูจิโลมสูตรที่ ๕</CENTER></PRE>

    [๓๑๙] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้</PRE>​
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่บน (แท่นหิน) เตียงมีแม่แคร่ในที่อยู่ของสูจิโลมยักษ์ ใกล้ (เท่า) บ้านคยา ก็สมัยนั้นแล ขรยักษ์และสูจิโลมยักษ์เดินผ่านไปในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค ลำดับนั้น ขรยักษ์ได้กล่าวกะสูจิโลมยักษ์ว่า นั่นสมณะ สูจิโลมยักษ์ได้กล่าวกะขรยักษ์ว่า นั่นไม่ใช่สมณะนั่นเป็นสมณะเทียม เราทราบชัดว่าสมณะหรือสมณะเทียมเพียงไร ลำดับนั้นสูจิโลมยักษ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วน้อมกายของตนเข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคทรงเบนกาย (ของสูจิโลมยักษ์) ออกไปสูจิโลมยักษ์ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ท่านกลัวข้าพเจ้าหรือสมณะ พระผู้มี-*พระภาคตรัสว่า เราไม่กลัวท่านดอกผู้มีอายุ แต่สัมผัสของท่านลามก ฯ

    สู. ดูกรสมณะ ข้าพเจ้าจักถามปัญหากะท่าน ถ้าท่านไม่พยากรณ์ไซร้ข้าพเจ้าจักควักดวงจิตของท่านออกโยนทิ้งเสียหรือจักฉีกหทัยของท่านเสีย หรือจักจับที่เท้าทั้งสองแล้วขว้างไป ในแม่น้ำคงคาฝั่งโน้น ฯ

    พ. เราไม่เห็นบุคคลในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ ผู้ซึ่งจะควักดวงจิตของเราออกโยนทิ้ง หรือจะฉีกหทัยของเราเสีย หรือจะจับที่เท้าทั้งสองแล้วขว้างไปในแม่น้ำคงคาฝั่งโน้น ผู้มีอายุ ก็แลท่านปรารถนาจะถามปัญหาข้อใด ก็จงถามเถิด ฯ

    ลำดับนั้นแล สูจิโลมยักษ์ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
    [๓๒๐] ราคะและโทสะมีอะไรเป็นเหตุเกิด ความไม่ยินดี ความยินดี ขนลุกขนพอง เกิดแต่อะไร วิตกทั้งหลายเกิดแต่อะไร แล้วจึงปล่อยลงไปหาใจที่เป็นกุศล เหมือนพวกเด็กน้อยเอาด้ายผูกตีนกาแล้วปล่อยลงไป ฉะนั้น ฯ

    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า ราคะและโทสะมีอัตภาพเป็นเหตุเกิด ความไม่ยินดี ความยินดี ขนลุกขนพอง เกิดแต่อัตภาพนี้ วิตกทั้งหลายเกิดแต่ อัตภาพนี้แล้วปล่อยลงไปหาใจที่เป็นกุศล เหมือนพวกเด็กน้อยเอาด้ายผูกตีนกาแล้วปล่อยลงไป ฉะนั้นกิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้น เกิดแต่ความเยื่อใย เกิดในตน เหมือนย่านไทรเกิดแต่ต้นไทร ฉะนั้น กิเลสเป็นอันมาก ซ่านไปแล้วในกามทั้งหลาย เหมือนเถาย่านทรายรึงรัดไปแล้วในป่า สัตว์เหล่าใด ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่กิเลสนั้นว่ามีกิเลสใดเป็นเหตุ สัตว์เหล่านั้นย่อมบรรเทาซึ่งหมู่กิเลสนั้นได้ ท่านจงฟังเถิด ยักษ์ สัตว์เหล่าใดย่อมบรรเทาซึ่งหมู่กิเลสได้ สัตว์เหล่านั้น ย่อมข้ามพ้นซึ่งโอฆะอันข้ามได้โดยยาก ที่ยังไม่เคยข้ามแล้ว เพื่อความไม่เกิดอีก ฯ

    <CENTER>จบสูจิโลมสูตรที่ ๕</CENTER>
    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๗๘๕๘ - ๗๘๙๔. หน้าที่ ๓๔๔ - ๓๔๕. http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=25&A=7858&Z=7894&pagebreak=0



    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1056493/[/MUSIC]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,683
    ค่าพลัง:
    +9,239

    [​IMG]


    ด้วยผลานิสงส์ของบุญ.ทาน. การบำเพ็ญ ภาวนา
    ที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้อันดีแล้วด้วยจิตบริสุทธิ์


    ขอการปฏิบัตินี้บูชาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณพระกรรมฐานเจ้า
    บูชาคุณมารดาบิดา คุณครูอุปัชฌาอาจารย์

    ขอเหล่าพระมหาโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมี
    ได้บำเพ็ญเพียรบุญบารมีเต็มภูมิกำลัง

    ขออานิสงฆ์มหาธรรมทานจงมีไปสู่ทุกสรรพชิวิต
    ทุกดวงจิตทุกดวงวิญญาณทุกภพภูมิได้รับแล้ว
    มีจิตผ่องใส เป็นบ่อที่เกิดแห่งคุณ
    คือ ศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ ความเพียรและขันติ
    หากกุศลธรรมเต็มเปี่ยมแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น
    ขอให้ได้ญาณเป็นเครื่องรู้เฉพาะตนอันสูงสุดเทอญ




     

แชร์หน้านี้

Loading...