การสอนดูจิตที่เข้าใจผิดไปจากความเป็นจริงว่าจิตเกิดดับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 5 มิถุนายน 2010.

  1. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    คิดไปได้อย่างไร ว่าจิตเป็นพวงเดียวกัน
    เป็นเอามากแล้วนะ...... ถ้าเป็นอย่างนี้
    จะไปสั่งไปสอนธรรมะคนอื่นเขาได้หรือ .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2010
  2. โป

    โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +256
    บางอย่างต้องเห็นและรู้ด้วยตาของตนเอง จึงจะเข้าใจ

    เปรียบเหมือนปลาที่ไม่เคยขึ้นไปบนบก ฟังจากผู้ที่ขึ้นไปมาแล้วจนเชี่ยวชาญ รอบรู้

    แต่หารู้ไม่ว่าตีความจากความคิดของปลา ทำให้ไม่ตรงกับความจริง

    หากปลานั้นเพียรปฎิบัติวันหนึ่งย่อมสามารถโผขึ้นไปในอากาศ สัมผัสความเป็นจริง และขึ้นไปอาศัยบนพื้นดินได้

    แต่ปลาตั้งตัวเองเป็นผู้รู้ เผยแพร่ความคิดผิดๆ รวมทั้งการปฏิบัติที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดเพี้ยนให้เผยแพร่ทั่วไป ในหมู่ปลาด้วยกัน...ใครทัดทานก็ไม่ฟัง

    เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อไปในภายภาคหน้า...จึงต้องช่วยกันทักท้วง

    ให้ผู้ที่มีความพร้อมเข้าสู่เส้นทางที่ถูกที่ควรต่อไป
     
  3. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    อนุโมทนากับทุกๆท่านนะครับ ที่ออกมาทักท้วง ติติง
    การเผยแพร่ธรรมที่ไม่ถูกต้อง ไม่ให้แพร่ออกไปในวงกว้าง
    ไม่มีเหตุผลอื่นใดเลย..... เพียงเพื่อต้องการรักษาคำสอน
    ในพระศาสนาของเราให้ถูกต้องเท่านั้น....
     
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    [​IMG] แจก เอ็มกันหน่อย ครับ สำหรับ ท่านชาย



    [​IMG].... นี่สำหรับ ท่านหญิง


    [​IMG] ... นี่ สำหรับ ท่าน ทู อินวัน


    สุขสรรหรรษาครับทุกท่าน
     
  5. โลกุตตระ

    โลกุตตระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    448
    ค่าพลัง:
    +2,624

    ปัจจัยให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ มี 2 อย่าง ได้แก่

    1.ปรโตโฆสะ คือ การโฆษณาแต่บุคคลอื่น เสียงจากผู้อื่น ฟังคำบอกเล่าชักจูงของผู้อื่น

    ปรโตโฆสะ แปลว่า เสียงจากผู้อื่น หมายรวมถึงคำพูด, คำแนะนำ, คำชี้แจง, คำโฆษณา,กระแสข่าว ข้อเขียน,บทความจากบุคคลหรือแหล่งข่าวต่างๆ

    ปรโตโฆสะ มี 2 ประเภท คือ ที่เป็นจริง มีเหตุผล เป็นประโยชน์ ประกอบด้วยความหวังดี และที่เป็นเท็จ ไม่มีเหตุผล ไม่เป็นประโยชน์ มุ่งทำลาย

    ปรโตโฆสะ เป็นวิถีทางเบื้องต้นแห่งปัญญาและสัมมาทิฐิ แต่ต้องมีโยนิโสมนสิการคอยกำกับ จึงจะสามารถรู้แยกแยะและคัดสรรเฉพาะปรโตโฆสะฝ่ายดีได้ ปรโตโฆสะที่ปราศจากโยนิโสมนสิการจะนำให้เกิดความงมงาย หูเบา เชื่อง่าย ไร้เหตุผลและมิจฉาทิฐิได้ง่าย

    2.อโยนิโสมนสิการ คือ การทำในใจโดยไม่แยบคาย การไม่ใช้ปัญญาพิจารณา ความไม่รู้จักคิด การปล่อยให้อวิชาครอบงำ ตรงกันข้ามกับคำว่า โยนิโสมนสิการ

    โยนิโสมนสิการ (ปัญจาบ: yonisomanasikāra; คำอ่าน: โยนิโสมะนะสิกาน) หมายถึง การทำในใจให้แยบคาย กล่าวคือ การพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน ทางพุทธศาสนาถือว่ามีคุณค่าเท่ากับความไม่ประมาทหรือ "อัปมาท" ซึ่งเป็นแหล่งรวมแห่งธรรมฝ่ายดีหรือ "กุศลธรรม" ทั้งปวง ดังปรากฏในพระไตรปิฎก เล่ม ๑๙ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ข้อ ๔๖๔ หน้า ๑๒๙ นอกจากนั้น ยังจัดเป็นธรรมะข้อหนึ่งในกลุ่มธรรมที่เป็นไปเพื่อความเจริญด้วยปัญญา และเป็นธรรมะมีอุปการะมากแก่มนุษย์ดังพรรณาในพระไตรปิฎก เล่ม ๑๒ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ข้อ ๒๖๘-๙ หน้า ๓๓๒

    การใช้ความคิดถูกวิธี ความรู้จักคิด คิดเป็น คือ ทำในใจโดยแยบคาย การใช้ความคิดถูกวิธี คือ การกระทำในใจโดยแยบคาย มองสิ่งทั้งหลายด้วยความคิดพิจารณาสืบค้นถึงต้นเค้า สาวหาเหตุผลจนตลอดสายแยกแยะออกพิเคราะห์ดูด้วยปัญญาที่คิดเป็นระเบียบและโดย อุบายวิธีให้เห็นสิ่งนั้นๆ หรือปัญหานั้นๆ ตามสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย
    ......................................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2010
  6. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697

    โห เข้าไปอ่านอภิธรรมด้วย จากเว็บอภิธรรมออนไลน์
    ปริจเฉทที่ ๖ รูปสังคหวิภาค หน้า 84
    ว่าด้วย สภาพของนิพพาน

    :boo:
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ใครจะรู้จักนิพพานได้

    ต้อง รู้จักว่า รูปฌาณ นั้น เราเอาความรู้สึกไปติด อย่างไร

    และ ต้องรู้จักว่า นามต่างๆ นั้นเราเอาความรู้สึกไปติด อย่างไร

    แล้ว เอาใจออกจาก ภพเหล่านั้น พอเอาใจออกจากภพเหล่านั้น มันก็เหมือน การควบคุมอวัยวะนี้แหละ แต่เปลี่ยนไปเป็นการควบคุมจิตแทน

    ดังนั้น จิตของเราต้องฝึกให้ดี ให้ควบคุมได้ก่อน ดังเช่น พระศาสดาที่เป็นผู้ฝึกบุรุษทั้งปวง

    มี นิทาน มาเล่าให้ฟัง คือ

    เห้งเจียนี้่ บอกกับ พระถังซัมจัั๋๋งว่า ท่านจะเดินเท้าเปล่าไปชมพูทวีปทำไม ข้าเหาะไปไม่กี่ทีก็ถึงแล้ว

    ก็ เหมือนกับว่า ปัญญา ของเรา จะให้เกิด ทัสนะก็ได้ จะรู้จะเข้าใจอย่างไรก็ได้
    เปรียบกับ เห้งเจียนี้ เหาะไปได้ทุกทิศ
    แต่ ใจที่ไปถึงนั้น ต้องพากันไป ทั้ง พระธรรม สมาธิ ศีล ปัญญา
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    อย่าไปเหมาว่า เราเข้าใจแล้ว หมายความว่า เราถึงภูมิแล้ว

    ต้อง ถึงภูมิแล้ว ทำให้แจ้ง จึงได้ชื่อว่า ถึงภูมิ เปรียบกับคน เดินป่า ตัวต้องเดินไปถึงแล้ว จึงเรียกชื่อ ไม่ใช่ว่า เรียกชื่อก่อน ตัวจะไปถึง
     
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ธรรมชาติของภาษาบัญญัติ คือ ความปรากฏของอุบายที่ใช้สอน

    หากข้อความใดก็ตาม ปรากฏแต่เพียงหน้าที่ เป็น อุบายใช้สอน
    ธรรมบทนั้น ย่อมปรากฏแก่สาธุชนได้

    แต่ความที่ เอาธรรมะมาสำคัญตนว่า ตนมี ตนเป็น ตนรู้ เมื่อนั้น
    การเล็งเห็น ความเป็นอุบายใช้สอน ก็ผิดเพี้ยนไป ทำให้เกิดการยึด
    บัญญัติสอนกันแบบ ตรรกศาสตร์ มีการผิด ถูก ปรักปรำเบียดบัง
    ภาษาอุบายใช้สอนเหล่านั้น เลอะเทอะไป

    เช่น การปรากฏของข้อความ การพิจารณาไปให้เห็นจิตเกิดดับ ความแตก
    สลายของจิต ก็มีคนยกให้เห็นแล้วว่าไม่ใช่เอามาจาก อภิธรรมปิฏก แต่เอา
    มาจาก สุตตันตปิฏก แม้ถ้อยความอื่นๆ ก็มีปรากฏ ไม่ใช่แค่จุดนี้จุดเดียว

    แต่เพราะความ มั่นใจเกินเหตุ ก็เห็นแต่เสียตะพึดว่า เป็นเรื่อง อภิธรรมปิฏก
    เป็นเรื่อง วิทยาศาสตร์ทางจิต(ทั้งๆที่ คนปฏิบัติเป็น ไม่น่าพูดคำนี้ออกมา)
    แล้วแทนที่จะเห็นภาษานั้นด้วยความเป็น อุบายสอนธรรม(อุบายในการปฏิบัติ)
    ก็เลยเห็นไปว่า มันเป็น ตรรกศาสตร์พิสูจน์ข้อเท็จจริง เลยเถิดไปเห็นความ
    เป็นตัวบทกฏหมายพิภากษา ตกอกตกใจถึงขนาด เกรงว่าตนจะเสื่อมเสีย ถูก
    ทำลายด้วยการกล่าวผิดไปจาก พระไตรปิฏก กลายเป็นว่า ใครก็ตามที่ถือ
    พระไตรปิฏกเป็นงานสำคัญในการรักษา พวกนั้นคือ พวกทำลายสงฆ์

    ก็ขอชี้แจงว่า

    1.สงฆ์ ไม่มีทางถูกทำลายได้ ใครจะไปทำลายสงฆ์ได้

    2.เขาทำหน้าที่ รักษาพระธรรมคำสอน รักษาพระไตรปิฏก ควร
    แล้วไม่ใช่หรือที่จะรักษา พระธรรมคำสอน ให้คงอยู่ หากถ้อย
    คำใน พระสุตตันปิฏก ปรากฏเป็นคำพิภากษาทำลายสงฆ์ จะให้
    ขุดคำสอนนั้นทิ้งไปหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ทำหน้าที่รักษา
    อุบายธรรมเหล่านั้น จะได้ไม่ล่วงเกินสงฆ์

    3.สิ่งที่ถูกทำลาย ไม่ใช่ความเป็นสงฆ์ แต่เป็น วาสนาในการสอน
    เท่านั้น แต่หากใช้เป็น นมสิการเป็น วาสนาจะเพิ่มพูลน่าชื่นชม
    ปราศจากถ้อยคำแก่งแย่งเบียดบัง(พระสุตตันปิฏก)ได้ทันที

    4.ส่วนพวก ที่จ้องขุด อภิธรรมปิฏก แม้ความ จิตแตกสลายปรากฏ
    ให้เห็นแล้วใน สุตตันตปิฏก ก็ยังดื้อถือทิฏฐิคิดถอดถอนถ้อยคำใน
    พระสุตตันตปิฏกด้วย การที่ พิจารณาขันธ์5 ไม่เป็น ก็สมควรแล้ว
    แก่ผู้สร้างเวรกรรมทำลายพระธรรม ไม่แปลกเลยที่พวกเขาเหล่านั้นจะ
    ปรารภว่า จิต มีแล้ว นิพพาน จะต้องมีอีกทำไม

    5. พวกที่เห็นว่าจิตเที่ยง ปรารภว่าจิตเที่ยง เพียงเพราะพอใจในความ
    พ้นอำนาจลำพังแค่ "ขันธ์5 และ โทษะ" เลยหยุดการพิจารณาอุบาย
    ธรรม "จิตแตกสลาย" ให้ประจักษ์เป็นข้อเท็จจริง ไม่สมาทาน หยุด
    การงาน ปรารภจิตเที่ยง ขุดหลุมให้ตัวเอง แล้ว ทำทีเป็น รู้นิพพาน
    ก็ให้กลับไปพิจารณา อุบายธรรมนั้นให้เห็นตามความเป็นจริงดูก่อน แล้ว
    ค่อยมา ปรักปรำ "จิตแตกสลาย" ในสุตตันตปิฏกไม่ใช่อุบายสอนธรรม

    6. การปรากฏของ อุบาย สอนธรรมใดๆ หากมันใช้สอนได้ ใช้น้อมนำ
    ไปปฏิบัติได้ จะประสาอะไรกับสิ่งใดเป็นสื่อ หากนกแก้วมันพูดอุบายธรรม
    นั้นได้ ความเป็นอุบายสอนธรรมได้ ก็ยังคงอยู่ หากฐานพระพุทธรูป
    ปรากฏอุบายสอนธรรมเพียง วรรคเดียว เพียงคำหน้า(หัวใจกรรมฐาน)
    มันก็คงความเป็น อุบายสอนธรรมได้อยู่ดี ธรรมะยังเป็นใหญ่ได้ ไม่ได้
    เกี่ยวอะไรกับ สงฆ์ คนหนา นกแก้ว หรือ ฐานพุทธรูปเลย

    เพราะไม่ว่า สิ่งใดจะเป็นสื่อ หากผู้รับสารไม่สามารถรับสารได้ถูกต้อง
    รับฟังแล้วก็ไม่เกิดการน้อมไปปฏิบัติ ฐานะของ สื่อกลาง มันก็พอๆกัน
    นั้นแหละ อย่ามัวแต่ สำคัญตนยกตนเลิศเลอเสียเหมือนคนอวดของลับอยู่เลย


    เราต้องเอา ธรรม เป็นใหญ่ ไม่ใช่ เอาสงฆ์ เป็นใหญ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2010
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
  11. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    อ้อ! มันเป็นอย่างนี้ๆเอง แล้วพวกที่แปลบาลีพระไตรปิฎก
    มาเป็นภาษาไทยเรียก อรรถกถาจารย์ด้วยหรือเปล่าครับ

    แล้วพวกที่เอา บัญญัติที่ใช้ในยุคปัจจุบันไปใส่ไว้ในบาลีแปลนี้ เป็นพวกเอา
    หัวข้อธรรมพระพุทธเจ้า มาขยายความตามความเห็นตนเองหรือเปล่าครับ

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า"ว่าแต่เขา อิเนาเป็นเอง"
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    ใครกันแน่ที่ขาดความเข้าใจในการใช้ภาษาครับ

    เพราะผมสนใจในคู่สนทนา ผมจึงรู้จึงเห็นถึงพฤติกรรมที่กลัวความผิด

    คุณอย่าทำให้ผมต้องรู้สึกอายตัวเองที่ต้องมาสนทนากับคนไร้เหตุผล

    ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต เถียงกันในเรื่องที่มันไม่ใช่เรื่องซิครับ

    ก็เพราะคุณ มีมุมมองแบบนี้ มองอะไรเพี้ยนๆ

    สิ่งที่เกิดขึ้นที่จิต แต่คุณกลับเห็นเพี้ยนกลายมาเป็น อาการของกายไปได้

    แบบนี้คนไข้โรคจิต คงไม่มีเต็มโรงพยาบาลหรอกใช่มั้ยครับ???

    สิ่งที่เกิดขึ้นที่จิต ย่อมเป็นอาการของจิตที่แสดงให้ผ่านออกมาทางกายเท่านั้น

    รักที่จะถกธรรมกัน หัดมีความบริสุทธิ์ใจ(หรือที่คุณคิดว่าบริสุทธิ์สมอง...เพราะคุณคิดว่าใจคือสมอง)บ้างซิครับ

    แล้วจะได้ความเชื่อถือจากผมว่ามีเหตุผล แทนการที่จะถูกผมประนามแบบนี้.....

    ;aa24
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    ผมขอแนะนำว่า ให้คุณไปศึกษาเรื่องเกี่ยวกับภาษา หลักการหรือวิธีการใช้ให้ดีเสียก่อน

    ยิ่งคุณเป็นคนที่ชอบอธิบาย มันจะมั่วเอานา

    คุณก็ลองกลับไปอ่านของเก่าดูสิครับ ว่าใครเป็นคนยกเรื่องพระนิพพานมาก่อน

    ในเมื่อคุณยกมา ผมก็ต้องเอามาถามเป็นธรรมดานะครับ

    คุณน่ะหรือครับ ที่ใจกว้างกับคู่สนทนา??? ถ้ามีมารยาทหนะพอรับได้

    ไม่แฟร์ตรงไหนครับ ผมเคยพูดว่า"ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับ
    หรือจะเลือกตอบเฉพาะที่ต้องการก็แล้วแต่ความต้องการของคุณครับ"

    แต่คุณเลือกที่จะตอบทุกประเด็นเอง และเพิ่มประเด็นใหม่ขึ้นมาเรื่อยใช่มั้ยครับ???

    คุณจะกลัวอะไรกับเรื่องปรามาสครับ เพราะคุณเองก็ปรามาสไปเรียบร้อยแล้ว

    เพราะคุณเชื่อว่า "ไม่มีอยู่จริง" แสดงว่าโกหกทั้งนั้น คุณจึงมาถามผมเรื่องนี้ใช่มั้ยครับ???

    ;aa24
     
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    คุณเอาอะไรมาพูดครับ ผมว่าคุณน่าจะกลับไปเรียนภาษาและการใช้ภาษาเสียใหม่นะครับ

    คุณพูดว่า "ถ้าเราได้สิ่งที่ไม่มีอยู่มาแล้ว"

    สิ่งที่ไม่มีอยู่ ภาษาไทยนะครับ เมื่อมันไม่มีอยู่จริง คุณจะไปเอามันมาจากไหนครับ???

    อย่าจินตนาการเองเออเองสิครับ เข้าข่ายฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อแล้วครับ

    ของที่ไม่มีอยู่จริง จะไปพูดถึง "เที่ยงหรือไม่เที่ยง และเรื่องเกิดดับ"ทำไมครับ

    ก็ของมันไม่มีอยู่จริง ตั้งแต่ต้นจะไปพูดถึงมันทำไม???

    เท่ากับคุณกำลังปรามาสว่า พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องโกหกพกลมมาตั้งแต่ต้นใช่มั้ยครับ

    ;aa24
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    คุณบุญฯครับ

    ผมว่าคุณเลิกบ่นได้แล้วนะครับ เพราะคุณเองเลือกที่จะไม่ตอบคคห.นี้

    ผมเองก็เช่นกันแต่ไม่ใช่คำเดียว หลายคำผม"รู้สึกเสียดาย"ครับ

    คุณก็ลองดูการใช้ภาษาของคุณสิครับว่าน่าเสียดายมั้ย ตกลงมันหลายคำไม่ใช่คำเดียว

    ผมยังต้องการคำตอบอยู่นะครับ ตกลงคุณให้จิตเป็นอะไรกันแน่ครับ

    ถ้าจะไม่ตอบก็ข้ามไปได้ครับ แล้วอย่ามาต่อว่าอีกนะครับว่าไม่แฟร์

    เพราะคุณชอบพูดเอง แล้วคุณก็ลบมันเองเป็นประจำครับ

    ;aa24
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    คุณบุญฯครับ

    รับทราบครับ ที่คุณปรารภมา แต่ผมขอแย้งนะครับ

    เพราะผมรับฟัง ผมจึงมีข้อแย้งครับ ถ้าไม่รับฟัง ผมไปเอาข้อแย้งมาจากไหนครับ

    แต่ไม่เคยบังคับให้ใครเชื่อ ให้พิจารณาตามเหตุผลเองครับ

    ;aa24
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    คุณไม่รู้สึกว่า พูดเอาแต่ได้ไปหน่อยหรือครับ???

    ถ้าผมไม่เอาคคห.ของคุณมาพิจารณาว่า ตรงกับคคห.ของผมที่รู้มา

    แบบนี้จะเรียกว่าสนทนาธรรมหรือครับ ภาษาไทยนะครับ

    ถ้าผมไม่ลงมือพิจารณาผมจะมีคำถาม เพื่อความกระจ่างหรือครับ

    เมื่อไม่ตอบ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงจำไว้(สัญญา) เดี๋ยวก็ลืม

    ;aa24
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    คุณพูดแปลกนะครับ ถ้าผ่าตัดกระโหลก แล้วไม่เจอสมอง คุณจะให้เจออะไรครับ???

    สมองก็คือสมอง หรือจะให้คนเป็นโรคสมอง ไปเจอจิตแพทย์หรือครับ???

    ถ้าคุณว่าทางวิทยาศาสาตร์ยืนยันได้ คุณยกมาพิสูจน์เลยครับ

    อันนี้คุณเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาเองอีกแล้วนะครับ

    ผมขอย้ำนะครับ พระพุทธศาสนาเป็นวิทยาสตร์ทางจิตแน่นอนครับ

    ;aa24
     
  19. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณบุญฯครับ

    อย่าพูดเอาแต่ได้สิครับ เข้าใจหรือไม่เข้าใจเรื่องของผม

    ไม่ใช่นะครับ เรื่องของทุกๆคนที่เข้ามาอ่านครับ พวกหางเครื่องไม่เกี่ยว ช่วยบอกพวกหางเครื่องด้วย

    ในเมื่อจิตมันเป็นของมันเกือบทุกอย่างแล้ว ยังจะต้องอบรมเพื่ออะไรหละครับ???

    อย่างหนึ่งเกิด อย่างหนึ่งดับ นั่นมันอารมณ์หรือสภาวะต่างหากใม่ใช่จิตครับ

    ถ้ามันเป็นทั้งอารมณ์ สภาวะ รู้ จะต้องเกิดดับไปทำไมให้เสียเวลา มันก็เป็นของมันไปเรื่อยก็พอแล้วซิใช่มั้ย???

    จิตมันรู้ทีละอย่าง ไม่ใช่เป็นทีละอย่าง หัดใช้ภาษาให้ถูกต้องด้วยครับ

    คุณจะลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลายไปถึงไหนครับ

    เพราะรูป เสียง กลิ่น รส ฯลฯมันทำให้เกิดอารมณ์ได้ พระบาลีจึงบัญญัติไว้ว่า เป็นอารมณ์ใช่มั้ยครับ???

    เห็นชัดๆก็ยังจะเถียงเพื่อเอาตัวรอดให้ได้หรือครับ

    รูปารมณ์(รูปคืออารมณ์) สัททารมณ์(เสียงคืออารมณ์) คันทารมณ์(กลิ่นคืออารมณ์)ฯลฯ

    ถ้าจะไม่ตอบ ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่การตอบแบบขาดเหตุผลอย่าทำครับ

    ;aa24
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ว่าไงใบไม้
    คำว่าธรรมกาย พรหมกาย ธรรมภูต หรือพรหมภูต แปลว่าอะไรหนอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...