ชีวิตที่แก้ไม่ตก

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย life cycle, 14 มิถุนายน 2010.

  1. life cycle

    life cycle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +37
    ดิฉันมีปัญหาชีวิตที่หนักมากค่ะตอนนี้...ทั้งๆที่เคยผ่านมาหนักกว่านี้ คิดว่าเจอปัญหาอะไรก็น่าจะผ่านไปได้ แต่ครั้งนี้กับลังเล
    ก่อนอื่น ดิฉันต้องขอท้าวความก่อนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นผลจากการกระทำของตัวดิฉันเอง ส่งผลให้ดิฉันต้องมารับผลแบบนี้ ปัจจุบันดิฉันอายุ 28 ปีค่ะ มีลูก 2 คน เป็นฝาแฝด ชาย-หญิง อายุ 2 ขวบ กำลังน่ารักเลย ชีวิตของดิฉันมีความสุขดี แต่ความสุขมันอยู่ได้ไม่นาน เรื่องราวเริ่มจากที่ดิฉันเรียนจบมหาวิทยาลัย ได้ 2 ปี ทำงานเป็นข้าราชการอยู่ในหน่วยงานในกรุงเทพฯ ดิฉันเป็นเด็กต่างจังหวัด เรียนต่างจังหวัดมาตลอด ต้องบอกก่อนว่าดิฉันเป็นคนคนที่จัดได้ว่าสวยคนหนึ่ง ดิฉันเป็นดาวคณะค่ะ หลังจาก 2 ปีที่ไม่ได้เจอเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้อง เลยดิฉันได้เจอกับรุ่นพี่ของดิฉัน เค้าทำงานเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเดิมที่เรียน ดิฉันตื่นเต้นมากที่ได้เจอเค้า แล้วเราก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ของเราแน่นแฟ้นขึ้น ดิฉันเริ่มคิดว่านี่คือความรัก พอช่วงปิดเทอม ตอนนั้นดิฉันได้ลาพักร้อน แลเราไปเที่ยวมัลดีฟพร้อมกับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ ดิฉันกับรุ่นพี่มีความสัมพันธ์กันค่ะ ที่มัลดีฟ เค้าเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวในชีวิตของดิฉัน แต่หลังจากกลับจากมัลดีฟ เหมือนฟ้าถล่ม เมื่อดิฉันได้รู้ว่าพี่เค้าแต่งงานแล้วภรรยาท้องได้ 4 เดือนกว่า ดิฉันไม่ยอมพบเค้าอยู่ 2 เดือน แล้วพยายามตัดใจ แต่เรื่องมันไม่ได้จบแค่นี้ ดิฉันตั้งท้อง นั่นเป็นครั้งแรกที่ดิฉันโทรหาเค้าในรอบ 2 เดือน ตอนนั้นต้องยอมรับเลยว่าสติแตกไปเลย พี่เค้ารีบมากรุงเทพหาดิฉัน เราต่างไม่มีคำตอบให้กัน เพราะตอนนั้นภรรยาเค้าก็ท้องได้ 6 เดือนแล้วเช่นกัน เราเป็นกันอยู่อย่างนี้เป็นอาทิตย์ จนตั้งสติได้ แล้วก็รู้ได้ว่าเค้าทิ้งลูกเมียเค้าไม่ได้ยังไง ก็ทิ้งดิฉันกับลูกไม่ได้เช่นกัน ดิฉันเลยตัดสินใจไปจากเค้า ดิฉันไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร และไม่อยากแย่งสามีใครด้วย ดิฉันกลับบ้าน แล้วตัดสินใจบอกเรื่องดิฉันท้องกับแม่ ตอนนั้นดิฉันรู้สึกผิดมาก ดิฉันเป็นเด็กดีของพ่อ-แม่มาตลอด ไม่เคยเกเร อยู่ในโอวาทมาตลอด แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นแม่ดิฉันหัวใจแทบสลาย แม่พยายามคาดคั้นว่าใครเป็นพ่อของลูกแต่ไม่มีคำตอบจากปากดิฉัน จนสิ่งที่ทำให้ดิฉันเสียใจที่สุดก็เกิดขึ้น พ่อของดิฉันซึ่งเป็นนายทหารอยู่ต่างจังหวัดด้วยความรีบ และเป็นห่วง พ่อของดิฉันขับรถชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ส่วนแม่ดิฉันพอรู้ข่าวเส้นโลหิตในสมองแตกท่านเสียชีวิตตามพ่อไป ทุกอย่างเป็นความผิดของดิฉัน มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของชีวิต ที่วันหนึ่งคุณไม่เหลือใครเลย บางทีถ้าดิฉันไม่บอกท่าน แล้วไปทำแท้งอย่างที่ใครๆเค้าทำกันอาจไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ดิฉันเคยคิดฆ่าตัวตาย แต่เพียงคิดว่าดิฉันจะฆ่าลูกตัวเองได้เหรอ มันทำให้ดิฉันหยุด แล้วพยายามใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ หลังจากงานศพพ่อ-แม่ ดิฉันลาออกจากงาน กับมาบ้าน บ้านดิฉันเป็นร้านทองค่ะ และเราก็มีตลาด ก็ถือว่าดิฉันไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ดิฉันต้องทนกับคำนินทาว่าท้องไม่มีพ่อ ญาติก็ซ้ำเติม แต่นั่นไม่สำคัญเลยเพราะเรื่องเลวร้ายกว่านี้ดิฉันก็ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ชีวิตดิฉันเหลือเพียงลูก ดังนั้นต้องให้ชีวิตให้ดีที่สุดเพื่อเค้า ดิฉันคลอดลูกแฝด ชาย-หญิงค่ะ แต่ลูกชายของดิฉันเป็นโรคทาลัสซีเมีย ดิฉันรักษาเค้ามาตั้งแต่เค้าเกิด และดิฉันก็พาเค้ามาที่ศิริราช แพทย์บอกว่ารักษาได้โดย การปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งดิฉันก็พร้อมจะบริจาคให้ลูกอยู่แล้ว แต่ผลเลือดของดิฉันกับลูกไม่แมตกัน ซึ่งอาการของลูกชายของดิฉันไม่ดีนัก แล้วดิฉันก็กลับไปหารุ่นพี่ของดิฉันอีกครั้ง ดิฉันไม่มีทางเลือกแล้ว ดิฉันต้องการแค่รักษาชีวิตลูกเท่านั้น ตอนนั้นภรรยาของพี่เค้าอยู่ที่อเมริกา เค้าคลอดลูกที่นั่น และขอกรีนการ์ด และอีกไม่นานพี่เค้าก็จะย้ายไปอเมริกา ดิฉันขอร้องให้เค้าไปตรวจเลือด และบริจาคไขกระดูกให้ลูกซึ่งเค้าก็ยอมทำ แต่ดิฉันให้ลูกเรียกเค้าว่าลุง เพราะไม่อยากมีปัญหาภายหลัง เค้าบริจาคไขกระดูกให้ลูก และการผ่าตัดของลูกดิฉันก็ผ่านได้ด้วยดี แต่ระหว่างที่พักฟื้นอยู่นั้น แม่ของเค้ามาที่โรงพยาบาลเพราะสงสัยว่าทำไมเค้าถึงอยู่แต่โรงพยาบาล ตอนนั้นแม่เค้าได้เจอดิฉัน เค้าและลูกอีก 2 คนอยู่ด้วยกัน แม่เค้าคุยกับลูกสาวอีกคนของดิฉัน แล้วถามถึงพ่อ-แม่ แต่ลูกของดีฉันกลับตอบว่าไม่มีพ่อ พีเค้าถึงกลับร้องไห้ออกาต่อหน้าแม่ของเค้า ดิฉันจึงถูกแม่เค้าคาดคั้นว่าเด็กทั้งสองคนเป็นหลานเค้าใช่หรือไม่ แต่ดิฉันก็ปฏิเสธ แต่เค้ากลับยอมรับกับแม่ของเค้า ตอนนี้ลูกของดิฉันกลับบ้านแล้ว และแม่ของเค้าก็ติดต่อกับดิฉันตลอด เค้ามาคุยกับดิฉัน แม่เค้าให้พี่เค้าเลือกถ้าจะเลือกภรรยาก็ให้ ภรรยาพาหลานกับมาอยู่เมืองไทย ถ้าไม่กลับก็ให้เลิกกันซะ แล้วให้พี่เค้าแต่งกับดิฉัน ดิฉันตอบปฏิเสธไป ดิฉันเข้าใจว่าเค้าคงสงสารดิฉันกับหลานเค้า แล้วแม่เค้าคงอยากเลี้ยงหลานด้วย พี่เค้าก็มาคุยกับดิฉันเรื่องนี้เช่นกัน แต่ดิฉันท้องคนเดียว คลอดคนเดียว เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด ถึงไม่มีเค้าเราแม่ลูกก็อยู่ได้ ความจริงดิฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเค้าอีก ถ้าไม่ต้องการช่วยชีวิตลูกเราคงไม่เจอกันอีก แต่เค้าคงไม่หยุดแค่นี้ ดิฉันกับลูกเคยชินกับการอยู่ลำพัง แต่ภรรยาเค้ากับลูกไม่เคยชินกับการอยู่โดยไม่มีพี่เค้า ดิฉันก้าวออกจากชีวิตเค้ามาแล้วก็ไม่คิดจะกลับเข้าไปอีก แต่ทางนั้นยังไม่ยอมง่ายๆ ตอนนี้แม่เค้าก็มาอยู่กับลูกดิฉันทุกวัน ซึ่งดิฉันเองได้แต่ขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้ แต่ไม่เป็นผล ดิฉันควรทำยังไงกับเรื่องนี้ เพราะดิฉันไม่มีวันยอมเสียลูกไปแน่นอน และไม่มีวันแย่งสามีใครด้วย ตอนนี้ดิฉันควรทำอย่างไรค่ะ ดิฉันไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆ ขอบคุณสำหรับที่ระบาย และคำปรึกษา ทุกอย่างเกิดจากกรรมซึ่งก็คือการกระทำของเรานั่นเองที่ทำให้เป็นเช่นนี้...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2010
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ คนเรามีผิดพลาดกันได้ แม้ว่าความผิดพลาดนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเราต้องผิดมหันต์ก็ตาม ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาดมาก่อนค่ะ สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ก็คือหาหนทางแก้ไขค่ะ เรื่องคุณพ่อคุณแม่ถ้าอย่างไรต้องหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านค่ะ เพราะเราเป็นต้นเหตุ แต่ก็สายไปแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้คือเริ่มต้นชีวิตใหม่ค่ะ เพื่อให้ดวงวิญญาณของท่านรับรู้ และได้ไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นค่ะ ท่านจะได้ไม่เป็นห่วง ส่วนเรื่องลูกเราเลี้ยงของเราได้ เราก็ควรบอกไปตรง ๆ ค่ะ ว่าขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างจบลง อย่ามีเวรแก่กันและกันเลย ไม่มีสิ่งใดจะดีไปกว่าการเผชิญหน้ายอมรับความจริง และเริ่มต้นชีวิตใหม่บนเส้นทางที่ถูกที่ควรค่ะ
     
  3. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ไม่มีอะไรที่แก้ไม่ได้หรอกค่ะในชีวิตคนเรา อยู่ที่ตัวเราเองว่าพร้อมที่จะแก้ไข พร้อมที่จะเผชิญหน้า พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราไปในทิศทางใด เป็นกำลังใจให้ค่ะ
     
  4. Charmaar

    Charmaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +341
    คุณเก่งมากค่ะ ขอนับถือ
    ปัญหาต่าง ๆ ดิฉันไม่ทราบว่าจะต้องแก้อย่างไร รู้แต่ว่าคุณผ่านมันไปได้แน่ ๆ
    ขอให้ทุกฝ่ายมีความสุขค่ะ
     
  5. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ขอให้คุณเข้มแข็งเข้าไว้นะค่ะ สู้ๆๆนะค่ะ ดิฉันอยากให้คุณปฎิบัติธรรมนะค่ะ สวดมนต์ไหว้พระภาวนาค่ะ แล้วทุกๆอย่างจะดีขึ้นเองค่ะ แผ่เมตตาให้มากๆเข้าไว้นะค่ะ ทุกข์ที่สุดจะหลุดได้อย่างไร
     
  6. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE class=MsoNormalTable style="mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" cellPadding=0 border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #e8e8e8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #e8e8e8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #e8e8e8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #e8e8e8; BACKGROUND-COLOR: transparent">
    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #e8e8e8; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #e8e8e8; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #e8e8e8; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #e8e8e8; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top colSpan=2>ทุกข์ที่สุด จะหลุดได้อย่างไร<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    อย่ากลัวว่าความทุกข์นั้น จะมีตลอดไป... อย่าคิดว่าไม่มีทางแก้ไข... หนทางที่เร็วที่สุดคือ เปลี่ยนอารมณ์... ท่านใดมีทุกข์ ขอให้มันผ่านไปโดยไวครับ.....
    เมื่อเราเกิดมาย่อมได้รับ ทั้งสุขและทุกข์ ปะปนกันไปอยู่แล้ว แต่เมื่อทุกข์ที่สุดเราควรจะทำอย่างไร ปัจจุบันเราได้ยินข่าวเรื่อง การฆ่าตัวตายบ่อยมาก ในชีวิตของความเป็นหมอ ก็เจอคนที่ฆ่าตัวตายบ่อยมาก ทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ หมอได้พูดได้คุยกับคนเหล่านี้มากมาย คำถามที่น่ารู้ก็คือ...
    การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ควรกระทำหรือไม่ และเราควรจะทำอย่างไรดี
    บทความนี้จะไม่สนใจว่าการกระทำอย่างนั้นจะมีผลในอนาคตอย่างไร ทำลายตนเองจะบาปมากแค่ไหน ต้องเกิดมาฆ่าตัวตายใช้กรรมอีก 500 ชาติจริงหรือ เพราะถ้าบอกไป ต้องใช้ความเชื่อและศรัทธาในตัวศาสนามาพูดคุยกัน แต่ต้องการจะบอกว่า การทำลายตนเอง เป็นสิ่งที่น่าเสียดายนัก เสียดายโอกาสที่จะได้รับสิ่งที่ดีอีกมากที่จะตามมา และเสียดายแทนญาติมิตรที่เกี่ยวข้องที่จะต้องได้รับผลกระทบกายและใจตลอดไป
    ในเรื่องความทุกข์ที่สุดนี้ ธรรมะในพระพุทธศาสนาสอนให้เราแก้เรื่องนี้ได้ทันที ด้วยความเข้าใจ ด้วยความรู้ที่เราไตร่ตรองเองได้ และด้วยประสบการณ์ในอดีตของเราทุกคน ในกาลามสูตรพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อด้วยเหตุ 10 อย่าง เช่นด้วยเหตุผลว่าผู้สอนเป็นครูของเรา และอื่นๆ รวมสิบประการ แต่จะให้เชื่อก็ต่อเมื่อไตร่ตรองรู้ได้ด้วยตนเองจึงเชื่อ การจะไตร่ตรองให้รู้ได้ด้วยตนเอง จะมีได้ก็ต่อเมื่อเรามีประสบการณ์ในเรื่องนั้นมาแล้ว ดังนั้นประสบการณ์ในอดีตจึงเป็นธรรมะที่เราตรึกตรองได้เช่นกัน
    เมื่อความทุกข์ที่สุดมาถึง สิ่งที่ควรระลึกถึงมีสองสามอย่างคือ หนึ่ง อย่ากลัวว่าความทุกข์นั้นจะมีตลอดไป เพราะมันจะไม่คงอยู่ตลอดไป เดี๋ยวมันก็จางไป สอง อย่าคิดว่าไม่มีทางแก้ไขให้ดีขึ้นได้ เพราะจะมีทางแก้ไขเสมอ เพียงแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเท่านั้น สาม อย่านึกว่าต่อไปนี้เราจะไม่ได้รับสิ่งดีๆ อีก เพราะเมื่อทุกข์ผ่านไป เราจะยังมีความสุข สนุกสนาน ได้อย่างเดิมแน่นอน และสุดท้ายคือ ให้นึกถึงคนข้างหลัง ที่เขาจะต้องเศร้า ได้รับการกระทบกระเทือน จากการกระทำด้วยอารมณ์ของเรา เมื่อทุกข์ที่สุดมาถึงสิ่งที่เราต้องทำทันที ในขณะที่ยังตั้งตัวปรับใจไม่ทันก็คือ รีบหาทางเปลี่ยนอารมณ์ เมื่อเราไปเจอคนอื่นทุกข์สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือช่วยเปลี่ยนอารมณ์เขาก่อน จากนั้นสติจึงจะตามมา
    ความทุกข์ที่มากสุดจะแก้ได้เร็วและง่ายที่สุด ด้วยการเปลี่ยนอารมณ์ ดึงอารมณ์ออกจากสถานการณ์นั้นก่อน อาจง่ายๆ เพียงแค่ทำอะไรที่ชอบ ฟังเพลง ดูหนัง หาของอร่อยกิน ชวนเพื่อนไปเที่ยว ชวนคุยเรื่องอื่น ลืมเรื่องทุกข์ไปชั่วคราวก่อน บางทีก็เบาบางได้เอง ที่สำคัญถ้ามีเพื่อนดี จะเบาบางไปได้มากที่สุด ที่ไม่ควรทำคือดื่มสุรา หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ควรหันไปดื่มเหล้าเบียร์ เพราะการกินเหล้าก็ดับทุกข์ได้ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่จะมีข้อเสียกว่าคือ จะยิ่งโกรธง่าย น้อยใจง่ายและโมโหง่ายกว่าเดิม และไม่มีสติยับยั้งความโกรธ หรืออารมณ์ที่รุนแรงเหล่านั้น เมื่อเปลี่ยนอารมณ์ได้ ใจจะเข็มแข็งมากพอที่จะแก้ในขั้นต่อไป
    ขั้นต่อไปคือพยายามตั้งใจใช้สติคิดว่าจะแก้ได้อย่างไร อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล สายไปแค่ไหนแล้วและแก้ได้หรือไม่ ทำให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ถ้าแก้ไม่ได้ ขั้นสุดท้ายคือ ทำให้ใจของเรายอมรับสิ่งนั้นให้ ได้ ใจของเราจะยอมรับได้ คิดได้ ปลงตกได้ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ
    ท่านพุทธทาสภิกขุ สอนว่า โดยสรุปรวมในธรรมะของพระพุทธเจ้า อาจสรุปเป็นแบบหนึ่งได้ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น นั่นเป็นเพราะในความเป็นจริง สิ่งทั้งหลายย่อมไม่ได้ดั่งใจเรา มีความไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลาด้วยเหตุและปัจจัย จึงไม่สมควรที่จะไปหลงยึดมั่นหมายว่าเป็นเรา เป็นตัวเรา หรือเป็นของของเรา สิ่งทั้งหลายไม่ได้ดั่งใจทั้งนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร รวยเพียงใด อำนาจล้นฟ้าขนาดไหน ต่างก็มีความทุกข์ประจำตัวประจำอยู่ทุกคนทั้งสิ้น
    เมื่อคนคนหนึ่งประสพอุบัติเหตุขาขาดสองข้าง เขาจะรู้สึกอยากตายไม่อยากอยู่ จะรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว แต่ผ่านไปสักสองปี ไปดูอีกทีกำลังหัวเราะอยู่เพราะดูละคร ส่วนเรื่องขาขาดก็นั่งรถเข็นเอา และก็ชินเสียแล้ว ไม่เสียใจมากเหมือนตอนขาขาดใหม่ๆ บางคนแฟนตายไปเสียใจแทบตายตาม ผ่านไป 3 ปี มีแฟนใหม่แล้ว มีความสุขดีมากเลย ความทุกข์จึงเป็นของไม่เที่ยงเสมอ เช่นเดียวกับความสุข เพียงแต่ว่าตอนทุกข์ ให้ผ่านวันเวลาไปได้ ไม่ด่วนตายไปเสียก่อน เมื่อทุกข์ผ่านไป จะมีสิ่งดีๆ ตามมาได้แน่นอน
    และเมื่อมองย้อนไป ความทุกข์เหล่านั้นมันก็เท่านั้นเอง เมื่อเราอ่านมาถึงตอนนี้ ก็ขอให้ลองใช้เวลานี้ นึกถึงอดีตที่มีทั้งทุกข์และสุขของเราดู อดีตนั่นแหละที่จะสอนตัวเราในความจริงแห่งธรรมะ ในกาลามสูตรพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ แต่สอนว่าเมื่อเราพิจารณาได้เอง ว่านี้เป็นสิ่งดีหรือไม่ดีแก่จิตใจจึงค่อยเชื่อ การจะพิจารณาได้อย่างนั้น จะต้องมีประสบการณ์ในความรู้สึก แบบนั้นในอดีตมาก่อน อดีตจึงเป็นธรรมะที่สอนใจได้เป็นอย่างดี
    ทุกข์ที่สุดจะเกิดจาก ความยึดมั่นถือมั่นที่สุด สิ่งใดที่เรารักมากยึดมากว่าเป็นตัวเราหรือของเรา สิ่งนั้นถ้าขาดหายไปจะทำให้ทุกข์ถึงที่สุด ถ้าเรารักความสวยงาม เมื่อเสียโฉมจะทุกข์ที่สุด ถ้าเรารักสามีหรือภรรยา เมื่อเขานอกใจ หรือเสียเขาไปจะทุกข์ที่สุด ถ้ารักลูก ลูกหายหรือพิการหรือตายจะทุกข์ที่สุด ถ้ารักยศถาบรรดาศักดิ์เมื่อสูญเสียจะทุกข์ที่สุด ถ้ารักตนเอง เมื่อทราบว่าตนป่วยเป็นมะเร็ง เป็นเอดส์ หรือโรคที่รักษาไม่หายก็จะทุกข์ที่สุด
    แต่ถ้าเราไม่มีสิ่งนั้นเลย ก็ไม่มีอะไรจะทุกข์กับสิ่งนั้น ไม่มีลูกก็ไม่ทุกข์กับลูก ไม่มีแฟนก็ไม่มีทุกข์จากแฟน ไม่มีทรัพย์สิน ก็ไม่ทุกข์กับทรัพย์สิน หรือถ้าเรามีแต่ทำใจไว้เสมือนไม่มี หรือทำใจไว้ว่าของที่มีมันไม่เที่ยงย่อมแปรปรวนไป ก็จะทุกข์น้อยลง ยิ่งยึดมั่นได้น้อยลงเท่าไรก็ทุกข์น้อยลงเท่านั้นเป็นสัดส่วนไป เมื่อไม่ยึดมั่นก็ไม่ทุกข์เลย หมายความว่าไม่มีอะไรทำให้ทุกข์ใจได้อีกเลย แต่ความเจ็บปวดยังมีตราบเท่าที่มีสังขารร่างกายอยู่ เพียงแต่ความทุกข์กายอันนั้น จะไม่สามารถมากินใจให้ทุกข์ใจได้เลย
    ความทุกข์ที่เกิดขึ้น มักเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนคิดจะทำความดี เพราะธรรมชาติของเราจะหลงลืมและเพลินในสุข ซึ่งความสุขส่วนมากที่เราชอบ มักจะตั้งอยู่บนความไม่เที่ยงทั้งสิ้น พระพุทธองค์เห็นข้อนี้จึงสละทุกสิ่งออกบวชแสวงหาธรรมะ แต่อย่างเราๆ มักจะไม่คิดเรื่องนี้จนกว่าจะทุกข์ เสียก่อน เราจึงพบว่าคนจำนวนมาก ได้ประพฤติธรรมะ ได้ทำสิ่งดีๆ แก่ตนและผู้อื่นเพราะประสพกับความทุกข์มาแล้ว ดังนั้นเมื่อมีทุกข์นั่นคือเราได้อยู่ใกล้ธรรมะแล้ว ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็มักจะมีสิ่งดีโอกาสดี และเราเองก็จะดำรงอยู่ในความดีมากขึ้น ความทุกข์และความสุขเป็นของคู่โลกเช่นนี้มาตลอด
    เมื่อเราทุกข์หรือพบคนที่ทุกข์ อย่าลืมเปลี่ยนอารมณ์ ตั้งสติหาทางแก้ไข ใช้ความดีเอาชนะสิ่งไม่ดี ทุกข์ย่อมไม่เที่ยง ย่อมผ่านไป เป็นธรรมดา และเราก็มีโอกาสที่จะได้รับสิ่งที่ดี ได้ปรับปรุงตนเป็นคนดีเสมอ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ขอขอบคุณเจ้าของบทความจาก<o:p></o:p>
    http://www.rimnam.com<o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    มีคนบอกกับตัวผู้เขียนว่า เห็นทุกข์แล้วถึงจะเห็นธรรมะ อนุโมทนาสาธุนะค่ะ ขอให้เจ้าของกระทู้ผ่านพ้นกับเหตุการณ์ในครั้งนี้นะค่ะ เรามีปัญหาไว้ให้แก้ไขค่ะ พระพุทธองค์ทรงสอนให้เรา ยอมรับกับความจริง อริยสัจ4 ถ้าคุณเจ้าของกระทู้อยากปฎิบัติธรรมยินดีรับเป็นที่ปรึกษาค่ะ
     
  8. chantima

    chantima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +407
    ขอปรบมือให้กับความดีงามในจิตใจของคุณและขอชื่นชมด้วยใจจริง
    ก็อย่างที่รู้กันว่าทุกคนย่อมมีโอกาสผิดพลาด แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ
    เรามีความรับผิดชอบและแก้ไขสิ่งที่พลาดในทางที่ถูกต้องหรือไม่
    อย่าโทษตัวเองในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่คุณ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นย่อมมี
    เหตุปัจจัยตามวาระกรรมของแต่ละคน คุณทำดีที่สุดแล้ว แก้ปัญหาได้ถูกต้อง
    ไม่เบียดเบียนใคร อนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศล
    ส่วนเรื่องลูกขอแนะนำอย่างเป็นกลางให้รุ่นพี่คุณจดทะเบียนรับรองบุตรทั้งสอง
    เพราะเค้าก็สมควรต้องรับผิดชอบในเหตุที่เกิดขึ้น คุณไม่ได้ต้องการจะแย่งใครมา
    หรือละเมิดศีล คุณสามารถเลี้ยงดูบุตรได้ด้วยตัวเองอยู่แล้วถ้ามองกันตามฐานะ
    เพียงแค่ขอโอกาสให้ลูกคุณได้มีพ่อตามกฏหมาย เปิดโอกาสให้ย่าได้ชื่นชมหลานบ้าง
    ตามสมควร สมัยนี้คนเป็น single momมีเยอะแยะที่สามารถเลี้ยงลูกได้ดี
    ส่วนเรื่องที่ว่าครอบครัวรุ่นพี่คุณจะเข้าใจหรือไม่นั้น รุ่นพี่คุณควรเป็นคนอธิบายเอง
    ขอให้แก้ปัญหานี้บนพื้นฐานของความเมตตาซึ่งกันและกันนะคะ
    ให้อภัยคนอื่น ให้อภัยตัวเอง ความสุขอยู่ที่ใจค่ะ
     
  9. washiravit

    washiravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +290
    คุณคือสุดยอด
    มีเรื่องราวต่างๆมากมายเข้ามา
    เเต่คุณก็ยังคงประคองใจให้สูง

    ผมขอให้คุณจากนี้เเละลูกๆของคุณ มีความสุขเเละความเจริญในธรรมครับ
     
  10. life cycle

    life cycle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +37
    ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจและคำแนะนำน่ะค่ะ โดยเฉพาะคำแนะนำของคุณchantima ดิฉันคงจะใจร้ายกับย่าของลูกไม่ได้ แต่กับรุ่นพี่ของดิฉัน คงยังตัดสินใจตอนนี้ไม่ได้ แต่ไม่มีทางที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกันแน่นอน เพราะความรักแบบในอดีตมันไม่เหลืออยู่อีกแล้ว ดิฉันจะไม่ขอพูดถึงภรรยาเค้า เพราะสำหรับตัวดิฉันคือไม่ค่ะ และการตัดสินใจครั้งนี้ดิฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อลูกของดิฉัน ตอนนี้ดิฉันให้ย่ามาเยี่ยมหลานได้ตลอดค่ะ และท่านก็แทบจะอยู่บ้านดิฉันตลอด ส่วนรุ่นพี่ดิฉันให้เค้าแค่มาส่งแล้วก็ให้กลับ แต่ถ้าเป็นแบบนี้อีกหน่อยคงต้องมีปัญหาตามมาแน่ คงต้องมีการตกลงรายละเอียดกันอีกที แต่ยังไงก็ขอบขอบคุณข้อคิดดีๆ และกำลังใจนะค่ะ ปัญหาทุกอย่างแก้ได้โดยสติจริงๆค่ะ
     
  11. Nida_P

    Nida_P Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +51
    เป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ คุณเป็นคนที่มีพลังใจดีเยี่ยมค่ะ เหมือนสิ่งดีๆ เริ่มเข้ามาในชีวิตคุณบ้างแล้วค่ะ ขอให้สิ่งที่ดีกว่าเดิมเข้ามาหาคุณเยอะๆนะคะ
     
  12. den_siam2523

    den_siam2523 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +2,267
    ยอมรับความจริงของชีวิต และกล้าเผชิญกับความจริง ไม่กลัวความผิดพลาดใดๆ

    เชื่อมั่นในความดี

    เริ่มต้นไหม่วันนี้ ด้วยการคิดดี พูดดี ทำดี แล้วชีวิตเราจะดี แน่นอนครับ

    ผ่านได้แน่นอนครับ
     
  13. life cycle

    life cycle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +37
    ขอบคุณค่ะ สำหรับกกำลังใจ
     
  14. beautiful soul^^

    beautiful soul^^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +316
    คุณเข้มเเข็งจริงๆค่ะ ขอให้ใช้หลักธรรมะในการดำเนินชีวิตต่อไปนะคะ เรื่องที่เกิดขึ้นเราก็ต้องยอมรับความจริงตรงนี้ให้ได้ หมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิ อุทิศส่วนกุศลนะคะ ขอให้คุณผ่านเรื่องราวต่างๆไปได้ด้วยดีนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะchearr
     
  15. phapthawan

    phapthawan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    เป็นกำลังใจ

    คุณเก่งมากที่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ปัญหามีทางแก้ สงสัยว่าย่าคงอยากที่จะได้หลานมาเลี้ยง ทำไมคุณไม่ตัดสินใจพูดกับย่าตรงๆ ทุกอย่างน่าจะแก้เป็นลำดับขั้นตอนนะ คุยกันอะไรดี อะไรควรก็ทำ อะไรที่คุรคิดว่าทำไม่ได้ให้พิจารณาให้ถี่ถ้วนซะก่อนที่จะตัดสินใจพูดออกไป น่าจะมีคนเข้าใจจิตใจคุณบ้างก็ได้ ไม่ทราบว่าภรรยาเขารู้เรื่องเกี่ยวกับคุรหรือยังล่ะ ต้องดูท่าทีทางโน้นด้วย ถ้าเขารับไม่ได้คุรจำเป็นต้องถอนตัวโดยด่วนก่อนที่ทุกอย่างจะมีอะไรที่รุนแรงมากไปกว่านี้ (kiss) จะเป็นกำลังใจให้คุณตลอดไป...
     
  16. life cycle

    life cycle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +37
    ปัญหาบางอย่างมันแก้ยาก...เป็นกำลังใจให้ครับ
     
  17. life cycle

    life cycle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +37
    "
     
  18. kit933

    kit933 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +15
    สายด่วนคลายเครียดสุขภาพจิตใจ โดยผู้เชี่ยวชาญทางจิตแพทย์<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    รับปรึกษาปัญหาชีวิตทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในด้านต่างๆ พร้อมคำแนะนำดีๆในการตัดสินใจสำหรับคุณ<o:p></o:p>
    เช่น ปัญหา การงาน, ครอบครัว, ความรัก, การเรียน, เพื่อน, วัยรุ่น ฯลฯ<o:p></o:p>
    โทรมาปรึกษาเราซิครับ ที่คุณกิต มืออาชีพด้านการแก้ไขปัญหาส่วนตัวโดยเฉพาะ<o:p></o:p>
    0849433836 ช่วยสังคม 15 นาทีแรกปรึกษาฟรี!!!ไม่เสียค่าบริการใดๆทั้งสิ้น<o:p></o:p>
    หรือ http://arnus1980.plazathai.com<o:p></o:p>
    หรือ http://arnus1980.hi5.com/friend/p489373417--arnus_1980--html;jsessionid=A4D022BCCFD0A28BF5B6AA6E8187BDD2<o:p></o:p>
    hi5 : arnus1980.hi5.com <o:p></o:p>
    ปัญหาคืออะไร? จะตัดสินใจยังไง?<o:p></o:p>
    รู้ปัญหา แต่ไม่รู้จะทำยังไง?<o:p></o:p>
    ให้เราช่วยคุณซิครับ<o:p></o:p>
    โทรมาปรึกษาเราเลย เรายินดีให้บริการคุณ<o:p></o:p>
    โทร.0849433836 หรือ http://arnus1980.hi5.com/friend/p489373417--arnus_1980--html;jsessionid=A4D022BCCFD0A28BF5B6AA6E8187BDD2 hi5 : arnus1980.hi5.com
    <o:p> </o:p>
    ***หมายเหตุ การปรึกษาแล้วแต่ความสมัครใจ ไม่มีการบังคับใดๆทั้งสิ้น<o:p></o:p>
    - ปัญหาการงาน เช่น วิธีสัมภาษณ์ให้ได้งาน กลเม็ดเคล็ดลับวิธีการพูดที่คนไม่ผ่านเรื่องสัมภาษณ์งานควรรู้ พูดไม่เป็น พูดไม่เก่ง ไม่มีทักษะในการพูด เรามีวิธีสอนคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าวิธีสัมภาษณ์ให้ได้งานไม่ยากอย่างที่คุณคิด<o:p></o:p>
    - ปัญหาที่ทำงาน เช่น ปัญหาเพื่อนในที่ทำงาน ผู้ร่วมงานเกเร ผู้ร่วมงานวายร้าย ผู้ร่วมงานขี้อิจฉาริษยา จะรับมือกับพวกเหลือขอพวกนี้อย่างไรโดยเราไม่เดือดร้อน ทำอย่างไรให้ผู้ร่วมงานรัก ผู้ร่วมงานไม่คบเพราะเหตุใด คุยไม่เก่ง วิธีสร้างมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ทำให้เขาสนใจที่จะคุยกับเรา <o:p></o:p>
    - ปัญหาครอบครัว เช่น ครอบครัวแตกแยก พ่อ แม่ ลูก พี่น้อง มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่ลงรอยกัน ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัวทุกเรื่อง ฯลฯ<o:p></o:p>
    - ปัญหาความรัก เช่น ต้องการรู้ว่าคนที่คบอยู่คิดอย่างไรกับเรา จริงใจ จริงจังกับเราในระดับแค่ไหน การกระทำอย่างนี้ของฝ่ายตรงข้ามสื่อความหมายหรือหมายความว่าอย่างไร คนที่คบอยู่มีพฤติกรรมและนิสัยเป็นเช่นไร ทะเลาะกับแฟนหรือคนรัก จะมีวิธีการแก้ไขและรับมืออย่างไรเพื่อให้คืนดีกันหรือรับมือกับนิสัยแย่ๆของเขาได้อย่างไร ความรักไม่ลงรอย มือที่สามจะรับมือและจัดการอย่างไรกับมือที่สาม ฯลฯ<o:p></o:p>
    - ปัญหาการเรียน เช่น เรียนไม่ดี เกรดตก ปัญหาเรียนไม่เข้าใจ กลเม็ดเคล็ดลับในการจำหรือการเรียนอย่างมีความสุขและจดจำได้ง่ายขึ้น เรียนแบบชิวชิวก็สอบผ่านได้ <o:p></o:p>
    - ปัญหาเพื่อน เช่น ปัญหาเพื่อนในที่เรียนและที่ทำงาน เพื่อนเกเร เพื่อนวายร้าย เพื่อนขี้อิจฉาริษยา จะรับมือกับพวกเด็กเหลือขอพวกนี้อย่างไรโดยเราไม่เดือดร้อน ทำอย่างไรให้เพื่อนรัก ทำอย่างไรให้เพื่อนคบ ไม่มีเพื่อน เพื่อนไม่คบเพราะเหตุใด คุยไม่เก่ง วิธีสร้างมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อน ทำให้เพื่อนสนใจ <o:p></o:p>
    - ปัญหาวัยรุ่น เช่น ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ ปิดกั้น วัยรุ่นวุ่นรัก ไม่ลงรอยกับเพื่อน พ่อ แม่ พี่ น้อง คนรอบข้าง วิธีการแก้ปัญหาของวัยรุ่น<o:p></o:p>
     
  19. life cycle

    life cycle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +37
    ให้โอกาสตัวเอง...และให้โอกาสลูกคุณ เรื่องของครอบครัวรุ่นพี่คุณเค้าต้องจัดการเองค่ะ แต่ให้โอกาสแม่เค้าหน่อยนะค่ะ สงสารคนแก่ คุณเก่งมากค่ะที่ผ่านมาได้ แล้วคุณก็จะผ่านมันได้อีก เป็นกำลังใจค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...