อยากจะทราบว่า พระสงฆ์ สามารถใช้ ครีมทาหน้า และเจลล้างหน้าได้หรือไม่ครับ

ผมจะต้องไปบวชในไม่กี่วันนี้แล้ว เลยอยากจะทราบว่าสิ่งของดังกล่าวผมสามารถใช้ได้หรือไม่ครับ คือผมเพิ่งไปหาหมอหน้ามา แล้วเขาให้ใช้ครีมกับเจลของเขาทุกวัน ที่ผมใช้นี่คือต้องการรักษา ไม่ใช่เพื่อต้องการความสวยงามน่ะครับ เลยอยากจะทราบว่าผมสามารถใช้ได้หรือเปล่า เข้าใจว่าเป็นพระต้องละเรื่องพวกนี้ แต่อยากจะทราบน่ะครับ ถ้าใช้ไม่ได้ผมก็จะได้ไม่ต้องใช้

แล้วอีกคำถามหนึ่งก็คือ การเก็บเจลล้างหน้าและครีมทาหน้าไว้นี่ จะผิดศีลข้อที่ว่าห้ามเก็บโอสถ 5 อย่างด้วยหรือเปล่าครับ ที่ประกอบไปด้วย เนยข้น เนยใส น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย

ผู้รู้ช่วยตอบทีครับ ขอบคุณมาก

 

สาธุ เลิกได้เป็นดีที่สุด แต่หากว่าเกิดอาพาธหนักก็สมควรที่จะใช้รักษาโรคาพาธที่เป็นให้หายเสีย แต่ถามใจตัวเองมากๆว่าเราทำไปเพื่ออะไร เพื่อสวยงามหรือเพื่อรักษาให้ปกติ สาธุ ต้องตรองเอาให้ดีเน้อ
ส่วนโอสถ ๕ นั้นเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สัตตหกาลิก

อันหมายถึงของที่เก็บไว้ฉันได้ชั่วคราวเพียง ๗ วัน ได้แก่ เนยใส เนยข้น นํ้ามัน นํ้าผึ้ง นํ้าอ้อย

ไม่เกี่ยวกับ ครีม หรือยา นะ

แต่มีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจให้มากๆคือ ขอให้แยกแยะสิ่งที่เรียกว่า ยา กับ เครื่องสำอาง ให้ดีอย่าให้มันปนกัน หากเป็นยาจริงๆใช้รักษาโรคๆย่อมสมควรบริโภค แต่ถ้าเราเอามันมาประเทืองผิวเพื่อให้หน้าใสหน้าเด่ง อะไรแบบนั้นก็ผิดเต็มเปาเลยนะ ขอให้พิจารณาให้ดีๆ สาธุ

 

ถ้าครีมทาหน้า นี้ รักษาสิว--- น่าจะไม่สมควรใช้
ถ้าครีมทาหน้ารักษาแผล พุพอง หรือ อาการเจ็บปวยแท้จริง ---ไม่มีปัญหา

เจลล้างหน้า--- ผมไม่ทราบเหมือนกัน

แล้ว สบู่ ถูกาย ที่กลิ่นหอมๆ ละ เหมาะสมไหม

นิมนต์หลวงพี่ ช่วยแก้ วิปปัสนาด้วยครับ

 

หากจิตมันใคร่ต่อความสวยงามย่อมไม่สมควรทั้งสิ้น เช่นเลือกสบู่นี้เพราะว่ามันหอมดีอย่างนี้ก็ไม่สมควร เพราะนั่นคืออาการที่จิตมันเกิดเถยยะจิต แต่ถ้าใช้ๆไปไม่ได้ติดหอมติดสวยติดงาม ก็ไม่ผิดดอกเน้อ สังเกตุใจตัวเองดีๆเน้อ สาธุ

 

ใช้ roll on ระงับกลิ่นกายได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้แล้วใช้สารส้มได้หรือเปล่าครับ

 

กลิ่นกายถือว่าเป็นสิ่งที่สังคมเขารังเกียด หากจำเป็นต้องเข้าสังคมก็สมควรใช้เพื่อบันเทาความอับเหม็น หากใช้สารส้มได้จะดีกว่าใช้ โลออน หากอยู่แต่ผู้เดียวและพอจะบำบัดกลิ่นไม่ให้มีกลิ่นรุนแรงมากเกินไปได้ด้วยวิธีอื่นๆก็จงเลือกวิธีอื่นๆนั้นเสียก่อน หากไม่ไหวจริงๆแล้วก็จงใช้ด้วยความเป็นเภสัชเถิด สาธุ

 

Anumothana Sathu for all information

 

นมัสการพระคุณเจ้าทุกๆรูป และสวัสดีเพื่อนๆทุกๆท่านนะครับ

ผมเข้่าใจว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงต้องการให้เราเห็นว่าร่างกายนี้มันเหม็น มันสกปรกนะครับ (ผิดถูกก็ไม่ทราบครับผมเข้าใจอย่างนี้)

ส่วนจะใช้ไม่ใช้ จะใช้แบบไหน เหอะๆๆ อันนี้ต้องแล้วแต่จะพิจารณาแล้วละครับผม

 

เป็นข้อควรระวังที่ดีมากครับ

 

ผมเคยไปถวายสังฆทานเอาสบู่เหลวหอมอย่างดีไปถวายท่านด้วย แบบนี้คนถวายจะผิดหรือเปล่าครับ

 

ผิดหรือไม่อยู่ที่เจตนาของเรา แต่ขออย่างเดียวอย่าเลี่ยงบาลีครับ

 

นี่แหละ โบราณเขาถึงให้ลูกให้หลานบวชกันสัก 1 พรรษาเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย เมื่อลาเพศบรรพชิตมาแล้วก็จะได้ทราบว่า สิ่งไหนสมควรถวายแก่สงฆ์เพื่อไม่ให้ขัดกับพระวินัยสงฆ์

 

ก่อนใช้พิจารณาให้เป็นยา และเครื่องทำความสะอาดไปเลยจ๊ะ แต่อย่าไปคิดว่าจะทาให้หอมๆนะ แบบนี้เจ๊ง ต้องพิจารณาว่าทำความสะอาด ดับกลิ่น แค่นี้ก็พอจ๊ะ

 

ถ้าเป็นยาบางชนิดเช่นครีมทาโรคผผิวหนังจะผิดไหม?

 

ครีมทาโรคผิวหนัง ถ้าพวกกลาก เกลื้อน เชื้อรา ใช้ได้เลยจ๊ะ

ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นโรคลามไปทั่วตัว (แต่ถ้าทาเพื่อผิวขาว เจ๊งนะ)

 

อยากทราบเหมือนกันค่ะ อยากรักษาอุโบสถศีลในวันพระ
ไม่ทาครีมน่ะได้ แค่วันเดียว แต่ทาครีมกันแดดกลัวดำ ไม่ได้ใช่มั้ยคะ
งั้นทาแต่แป้งได้มั้ย หน้ามันมากเลยค่ะ เคยไม่ทาอะไรไปเลย เพื่อนทักเลย มันมากกกก
แล้วถ้ารูมเมทเปิดทีวีล่ะคะ จะทำยังไงดี เราต้องได้ยินและอยากดูอยู่แล้ว ก็อยู่ห้องเดียวกัน

 

รูมเมทเปิดทีวีก็อย่าไปสนใจเขาหรือมีอารมณ์สนุกสนานตาม เรื่องหน้ามันผมว่าต้องช่างมัน ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าๆดีกว่าครับ
อนุโมทนาที่เข้าหาพระธรรม

 

ศีล8นี่ทาแป้ง แต่งหน้าได้นะจ๊ะถ้าจำเป็นต้องเข้าสังคมเพื่อไม่ให้เก้อเขิน แต่อย่ามีเจตนาแต่งเพื่อให้คนอื่นชมว่าสวย หรือยั่วยวน ถ้าคิดแบบนี้ชนศีลพังเลยนะจ๊ะ ส่วนเพื่อนเปิดทีวี ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ดูด้วยเลยก็ได้ แต่ต้องพิจารณาเป็นวิปัสสนานะจ๊ะ(อย่าไปติดอารมณ์ที่ละครพาไปนะจ๊ะ)

 

ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ที่ช่วยชี้ทางให้ คราวที่แล้วเลิกทำ เพราะกลับมาทาแป้ง นึกว่าผิดศีล
วันนั้นคงต้องหลบแดด ส่วนทีวีก็จะพยายามดูไม่ให้อารมณ์พาไปค่ะ ให้พอรู้เรื่องราว

 

อย่าไปทาอะไรมันเลย การที่จะคิดว่าอะไรๆเป็นยาไปซะหมดนั้นย่อมไม่ควร แม้แต่ยาเองจริงๆก็เถอะนะ กผู้ใช้ไม่ได้ป่วยเอาฉาไปฉันไปกินเพราะคิดว่าหิวเลยกินแทนอาหารอย่างนี้ก็ไม่ควรนะ หาอาบน้ำล้างหน้าด้วยสบู่ก็พอแล้วหนอ

ศีล ๘ ศีลอุโบสถพร้มคำแปล
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าจะละเว้นจากการฆ่าและเบียดเบียนสัตว์ทุกชนิดรวมทั้งไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าจะละเว้นจากการลัก, ฉ้อโกงของผู้อื่นและไม่ใช้ผู้อื่นลัก, ฉ้อโกง

อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าจะละเว้นจากการกระทำอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ (ละเว้นการเกี่ยวข้องกับกามคุณ)

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าจะละเว้นจากการพูดไม่จริง (พูดส่อเสียด, พูดหยาบ, พูดเพ้อเจ้อ, พูดนินทา)

สุราเมระยะมัชปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าจะละเว้นจากการดื่มสุราและเมรัยอันเป็นเหตุแห่งความประมาท (รวมทั้งยาเสพติดทุกชนิด)

วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าจะละเว้นจากการบริโภคอาหารในยามวิกาล

นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสนา มาลาคันธะวิเลปะ นะธาระณะ มัณฑนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าจะละเว้นจาก การดู ฟัง ฟ้อนรำ ขับร้อง และประโคมเครื่องดนตรีต่างๆ และการดูการละเล่นที่เป็นข้าศึกแก่กุศลธรรม และทัดทรงตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับ และดอกไม้ของหอม เครื่องย้อมเครื่องทาผัดผิวทำกายให้งดงาม อันเป็นเหตุที่ตั้งแห่งความกำหนัดยินดี

อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าจะละเว้นจากการนั่งนอนบนเตียง ตั่ง ม้าที่มีเท้าสูงเกินประมาณ และที่นั่ง นอนใหญ่ ภายในใส่นุ่นและสำลี และเครื่องปูลาดที่วิจิตรงดงาม



สาธุ