ทึ่ง!โยคีอินเดียอดอาหาร70ปียังรอด ทหารตื่นเต้นจองตัวทำวิจัยหากลยุทธ์ยังชีพ

<TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


วงการแพทย์อินเดียตื่นตะลึง! เจอโยคีบำเพ็ญพรตงดกินอาหารและน้ำมานาน 70 ปียังอยู่สบายดี ทั้งที่มีอายุถึง 83 ปีแล้ว
บรรดาแพทย์เสนารักษ์ร่วม 30 คนได้เฝ้าดูอาการของนักพรตปราลาด จานี ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ในโรงพยาบาลเมืองอาห์เมนาบัดทางภาคตะวันตก

มีการติดตั้งกล้อง 2 ตัวในห้องสังเกตอาการ และมีตากล้องอีกคนคอยถ่ายภาพเคลื่อนไหวขณะท่านโยคีเดินไปไหนมาไหน
หมอจะสแกนทั่วร่างกาย ตรวจสมอง เช็กหัวใจ "ผลการศึกษาในกรณีนี้จะช่วยให้เราได้ความรู้เกี่ยวกับการอยู่รอดของมนุษย์ที่ไม่กินอาหารและน้ำ" นายแพทย์ จี. ลาวาซาฮากัน หัวหน้าทีม บอกกับนักข่าว

คุณหมอบอกว่า โยคีจานีเปิดเผยว่าท่านได้รับพลังงานจากการทำสมาธิ แต่ทหารไม่สามารถทำสมาธิได้ แม้กระนั้นเราก็ยังอยากรู้เกี่ยวกับตัวท่านและร่างกายของท่าน

"เราอาจได้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ในการอยู่รอดในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ เหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ และเวลาไปสำรวจนอกโลก เช่น บนดวงจันทร์ หรือดาวอังคาร

ตั้งแต่การตรวจนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา โยคีท่านนี้ยังไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเลย และไม่ได้เข้าห้องน้ำด้วย
นักพรตผู้นี้นุ่งห่มผ้าสีแดง สวมสร้อยลูกประคำ เป็นคนพื้นเพรัฐคุชราฐ ท่านอ้างว่าตัวเองได้รับการประสาทพรจากพระแม่เจ้าองค์หนึ่งเมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ทำให้สามารถยังชีพได้โดยไม่ต้องกินอะไรเลย.



ทึ่ง!โยคีอินเดียอดอาหาร70ปียังรอด ทหารตื่นเต้นจองตัวทำวิจัยหากลยุทธ์ยังชีพ | ไทยโพสต์
ภาพประกอบเพิ่มจากทางอินเตอร์เน็ท

 

ผมคิดว่าอาจจะได้อาหารทิพย์จากเทวดาผ่านทางผิวหนังของท่าน(เทวดาเดินดิน)ก็เป็นได้ครับ ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดงานวิจัยอาจจะไม่มีความคืบหน้าก็เป็นได้เพราะว่ามองไม่เห็นอ่ะครับ ^^

ปล.ภาพที่โพสต์ช่างซูโค้ยๆ แต่คงไม่ใช่ตัวจริงและตัวตนอันแท้จริงก็คงจะไม่มี พระท่านว่าไว้ครับ

 

ดีจัง อยากเป็นมั่ง จะได้ไม่เสียเวลาไปกินข้าว ห้าๆๆ

 

อื้ม น่าทึ่งมากทีเดียวจากเดิมที่ทางการแพทย์เชื่อว่า คนเราขาดอาหารได้ แต่ขาดน้ำไม่ได้...

 

ไม่น่าเชื่อตั้ง 70 ปีอยู่ได้งัย ถ้างั้นต้องเป็นพระอรหันต์อย่างที่ คุณสิงหาคม ว่าไว้

 

ถ้าใครเคยไปอินเดียหรือเคยศึกษาเรื่องพวกนี้ในอินเดียวจะพบว่า เกือบ 97%

แหกตา...................ปาหี่อับดุลย์.....

ริมฝั่งแม่น้ำ คงคานั้นสารพัดจะมี............

ดูคร่าวๆครับ...เชื่ออย่างมีสติและ เหตุผลครับ


ของจริงมีของปลอมก็มีครับ ...

นำเสนออีกแง่มุมครับไม่ขอวิพากษ์สิ่งที่ท่านนำเสนอในกระทู้นี้ครับ

ขออนุญาตินำเสนออีกแง่มุมครับ




[ame=http://www.youtube.com/watch?v=oahdsgm_QCA&feature=fvsr]YouTube - Satya sai baba fraud[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=C9QqaPbFE78&feature=related]YouTube - Fake Miracles[/ame]

 

อนุโมทนาค่ะ^ ^~
________________________________


"สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี" "จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน"
"สุขใดในโลกล้วนไม่ยั่งยืน ผู้ใดปล่อยวางพิจารณาในความทุกข์เห็นโทษของความสุขผู้นั้นชื่อได้ว่าพบความสุขอันยิ่งใหญ่"<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->

 

ประหยัด . .น่าจะเข้ากับยุคเศรษฐกิจแบบนี้ . .>_<


-------------------------------------------------



" จงรักเสียเมื่อเป็นเวลาแห่งรัก ไม่นานนักให้แสนรักก็ต้องลา "

 

ครั้งหนึ่ง
พระพุทธองค์ได้ทรงตรัีสไว้ว่าผู้เจริิญอิทธิบาท๔ สามารถอธิฐานอยู่ได้ถึง หนึ่งกัลป์ หนึ่งกัปป์

เลยที่เดียว พระพุทธเจ้า พระองค์ท่านไม่ได้บอกว่าต้องเป็นพระอรหันต์ แต่พระองค์ทรงบอกว่า ผู้ใดก็ตาม

ที่เจริญอิทธิบาท๔ และทรงอิทธิบาท๔ได้จริงๆ (หนึ่งกัปป์ พระท่านบอกว่า ตั้งด้วยเลข1 แล้วใส่ศูนย์ ไปอีก 50 ตัว)

ครั้งหนึ่ง หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ได้เดินเข้าไปในถ้ำใต้แม่น้ำโขงเข้าไปสำรวจ ซึ่งเป็นเขตของพญานาค

ท่านได้ไปเจอดาบถ ฤษีที่อยู่ที่นั่น อยู่ในถ้ำของพระญานาคได้(ต้องเก่งแน่ หลวงปู่ท่านคิดแบบนั้ัน)

เพราะหลวงปู่ เข้าไปในถ้ำพอลึกเข้า ขาดอากาศหายใจ หลวงปู่ต้องท่านอธิฐานจิต อยู่หลายครั้ง

จึึงมีอากาศกลับมาหายใจไหม่ได้ ท่านก็จะเข้าไปกราบฤษีตนนั้น ท่านฤษีได้ยกมือห้ามและบอกกับหลวงปู่ว่า

ท่านบอกอย่ากราบผมเลยครับ จะเป็นโทษเพราะศีลผมน้อยกว่าท่าน หลังจากนั้นหลวงปู่

ก็สนทนากับฤษีกันพอสมควร หลวงปู่ก็ถามว่าท่าน อยู่มาแบบนี้กี่ปีแล้ว ฤษีตนนั้น ได้บอกกับหลวงปู่ว่า ก็เกือบสามพันปีแล้ว

จากประวัติหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ตอนนี้ท่านมรณภาพแล้ว แต่ยังหาอ่านได้นะครับ หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี มรณภาพ ๑๗ เมษายน ๒๕๒๘ เวลา ๑๑.๑๓น.

google ก็มีครับ ลองค้นดู นะครับ (หลวงปู่คำคะนิง หลวงปู่ท่านเองก็เข้านิโรธสมาบัติ อยู่เป็นประจำ สามวันบ้าง เจ็ดวันบ้าง หรือมากกว่านั้น)

และอีกอย่าง ลองสังเกตดูนะครับ อย่างท่านที่ ทำได้จริงๆ ท่านจะไม่มายุ่ง

กับทางโลก เพราะพอยุ่งปัป จิตมันกำเลิบ สิ่งยั่วยวน พาไห้หลงมันเยอะ

แค่เผลอแปปเดียว จิตก็เสื่อมแล้ว พอเสื่อมอิทธิปฎิหารย์ก็เสื่อมตาม ก็เป็นอย่าง ที่เราเป็นกัน ก็คือปุถุชนคนธรรมดาไม่ได้มีคุณวิเศษใดๆ

ขนาดสมัยอดีต ยังมีเรื่องเล่าเลย ที่ว่า ฤษีอดเหาะ

เรื่องก็มีอยู่ว่า มีนักพรตรูปหนึ่ง บวชเป็นฤษีชีไพรอยู่กลางป่า

บำเพ็ญภาวนาจนตบะฌาณแก่กล้า ไม่ต้องกินข้าวปลาอาหารอยู่ได้เป็นแรมเดือน

พออกจากฌาณสมาบัติ อาศัยที่จิตคลายหรือปล่อยอารมณ์จากการควบคลุมกาย ด้วยกำลังของฌาณ ร่างกายก็ต้องการอาหาร ร่างกายมันหิว ท่านก็เข้าฌาณสมาบัติอีกครั้ง
แล้วก็เหาะไปในกลางอากาศ เพื่อที่จะไปขอบิณทบาตอาหารที่ ในเมืองที่มีคนอยู่
พอเหาะผ่าน สวนอุทยานของมเหษี ท่านเผอลแว๊บ เผอิญว่าพระมเหษีของกระษัติย์ของนครแห่งนั้น กำลังเล่นน้ำอยู่ พอท่านฤษีเผลอแว๊บเดียวที่เหลียวไปดู (เห็นคนแก้ผ้าอาบน้ำ) จิตตกเลย พอจิตตก ร่างกายก็ร่วงลงพื้น พอบิณทบาตรับอาหารเส็จ

ตอนขากลับเข้าป่า อันเป็นเขตที่อยู่ของฤษีท่านเอง ท่านต้องเดินกลับ เพราะจิตตกเสียแล้ว

นี่กำลังของกิเลส มันเล่นงานท่านเอา ท่านที่ทำได้จริงๆ จะไม่ค่อยแสดงตัวนะ

อนุโมทนาครับ มีทั้งจริง และหลอก ต้องพิจรณาดูไห้ดีนะครับ

 

อยู่ได้ยังไงเนี่ย
ของเราสามชั่วโมงก็หิวแล้ว

 

อดอาหาร 70 ปี ... โอ้ว โคตรประหยัดเรย พอเพียงแบบ Extreme

โภคะวิรัติ 70 ปี ... อ่านแล้ว รู้สึกว่าตนเองกระจอกขึ้นทันควันเลยอ่ะ...




ไม่เข้าใจว่าอดไปทำไมตั้ง 70 ปี ... เสริมสร้างสติปัญญาส่วนไหนบ้างเอ่ย
ดูแล้วเสียเวลาเรียนรู้ไปเปล่าๆปลี้ๆ

เรื่องทีได้ประสบพบเจอกับตัวเองน่าสนใจกว่า
เรื่องแต่งมันเยอะ... เรื่องจริงมันน้อย

 

น่าสนใจนะค่ะ

ในรูปลอยได้ด้วย:boo:

 

อนุโมทนาด้วยครับ น่าจะเชิญมาประเทศไทยบ้างเรียนรู้ระบบต่าง ๆ ของท่านเพื่อเป็นแนวทางต่อไปนะครับ

 

อืม วิจัยเสร็จแล้วอย่าเงียบหายไปหละ จะรอดู

 

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ
แปลกดีแฮะ เรื่องแปลกส่วนใหญ่เป็นที่สนใจและติดตามของคนจำนวนมาก

 

สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น..

 

มีผู้ป่วยอยู่ที่พิดโลกเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารทานอะไรไม่ได้เลย เข้าฌาณตลอดเวลา 5 เดือนท่านไม่ทานอะไรเลยไม่ได้ให้สารน้ำทางหลอดเลือดด้วย ผิวท่านเป็นสีชมพูตลอดไม่เหมือนคนเป็นมะเร็ง ก่อนท่านเสียท่านยังลุกขึ้นมาถวายสังฆทานด้วยตนเองเลย

 

อนุโมทนา สาธุ

สมัยพุทธกาล พระเจ้าพิมพิสาร ในขณะที่ถูกขังอยู่ในห้องขังไอน้ำ
ท่านก็ใช้วิธีเดินจงกรมทำสมาธิ ท่านก็อยู่รอดมาโดยไม่ต้องทานน้ำทานข้าวเลยล่ะ ^^

 

สงสัย จะปาหี่

 

เราคิดว่าไม่มีใครจะมาเหนือพระพุทธเจ้าหลอกเป็นการหลอกอยากดังนะ พระพุทธเจ้าท่านก็เคยไม่ฉันพัตาหารแล้วท่านทดลองหมดแล้วไม่มีใครที่ทำเหนือท่านได้หรอกเราว่าพระพุทธองค์ท่านสุดยอดที่สุดแล้วเชื่อในพระพุทธองค์ ไม่นานก็จะมีคนมาแก้ข่าวเอง พวกเราอย่าเอาเหมือนมนุษ์ที่ปัจจุบันนี้เชื่อตามกระแสไปทุกอย่างไม่ลืมหูลืมตา แล้วเป็นไงละตามกระแสตามเขาผลสุดท้ายคนที่ได้ผลประชน์ใครละ ทุกอย่างต้องมีเหตุและผลของมันอย่าเพิ่งเชื่อต้องลองดูที่มาที่ไปให้แน่ สำหรับข้าพเจ้าว่าไม่มีใครเก่งเกินพระพุทธองค์หรอก