ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]

    สิ่งที่คุณ ragpon บอกเตือนมานี้ เพื่อนๆสมาชิกอย่ามองว่าเป็นเรื่องเหลวใหลนะครับ การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกนี้ ทำให้เกิดเสียงเหมือนฟ้าร้องคำรามจริงๆ เหมือนอย่างตอนที่เกิดแผ่นดินไหว 8 ริกเตอร์ที่เมืองเสฉวน ในประเทศจีน คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็บอกไว้ตรงกันว่า ได้ยินเสียงเหมือนเสียงฟ้าร้องคำรามดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวเพียงไม่กี่วินาที

    การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก มีผลรุนแรงต่อประเทศที่อยู่ใกล้รอยแยกของเปลือกโลกนั้นอย่างแน่นอนครับ โปรดสังเกตุดูในรูปภาพข้างบนนี้ เป็นรอยแยกของเปลือกโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ยังมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้ประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวรุนแรงเสมอมา และผู้ที่มีญาณทัศนะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า หลายๆท่านก็ได้บอกไว้ตรงกันว่าประเทศญี่ปุ่น จะต้องจมลงสู่ท้องทะเลในอนาคต ก็เพราะการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกนี่เองครับ

    [​IMG]

    ทางภาคใต้ของประเทศไทย ก็ตั้งอยู่ใกล้รอยแยกของแผ่นเปลือกโลกนี้เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น จึงอาจจะต้องเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นก็เป็นได้ อีกทั้งผู้ที่มีญาณทัศนะมองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตหลายๆท่าน ก็บอกเตือนเอาไว้ว่า พื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศไทยบางส่วน จะจมลงสู่ท้องทะเลในอนาคตครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2010
  2. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    16 ก.พ. 53

    มีสัญญาณแผ่นดินไหวเข้ามา


    20 ก.พ. 53

    หมู่นี้หน่วยเหนือมาที่ฐานดอนเมืองถี่กว่าปกติ (เกือบทุกวัน)
    ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ





    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
  3. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ตอนสงครามหมอศิริราชเขาใช้น้ำมะพร้าวอ่อนเจาะเข้าเส้นแทนน้ำเกลือ จำไว้ใช้ยามเกิดภัยนะคะ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โคลนถล่มโปรตุเกส ตายเพียบ หลังฝนเทกระหน่ำ

    [​IMG]

    เกิดเหตุ ดินโคลนถล่ม บนเกาะ Madeira ของประเทศโปรตุเกส มีรายงานผู้เสียชีวิต เบื้องต้นกว่า 30 ราย บาดเจ็บ อีกกว่า 60 ราย หลังฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ล่าสุดประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ว่า มีคน 25 คนเสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม และดินโคลนถล่ม หลัง ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก บนเกาะ Madeira ของประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 63 ราย ทั้งนี้เกาะดังกล่าวเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แต่ยังไม่ทราบว่า มีนักท่องเที่ยวรวมอยู่ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เผยว่า ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยดังระงมไปทั่วหลังจากฝนตกหนัก

    รายงานข่าวโทรทัศน์ เผยให้เห็น ภาพดินโคลน ไหลลงมาเต็มท้องถนน ด้าน รอยเตอร์ รายงานว่า นายโจเซ่ โสคราติส นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส ได้แสดงความตกใจอย่างสุดขีด เมื่อเห็นภาพภัยพิบัติดังกล่าว

    ด้าน รัฐมนตรีมหาดไทย กล่าวว่า สื่อท้องถิ่น รายงานว่า เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 25 ราย ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศภาวะฉุุกเฉินในพื้นที่ดังกล่าว ปิดสนามบินบนเกาะ และประกาศให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน ต่อมามีรายงานข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 30 ราย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th/content/oversea/66316
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
    ยิงเพื่อนเจ็บ นศ.สหรัฐ อุกอาจซ้ำรอยม.ดัง
    [​IMG]
    จนท.สหรัฐฯ สั่งปิดมหาวิทยาลัยนอร์ทเทิน อิลลินอยส์ ยูนิเวอร์ซิตี้ (NIU) ในรัฐอิลินอยส์ หลัง นศ.ถูกยิงเจ็บ ขณะที่เว็บไซต์ NIU ระบุ ปมขัดแย้ง นับเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอยที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา สั่งปิดมหาวิทยาลัย "นอร์ทเทิน อิลลินอยส์ ยูนิเวอร์ซิตี้" (NIU) ในรัฐอิลินอยส์ ช่วงสั้นๆ เมื่อช่วงสายของวันศุกร์ หลังเกิดเหตุนักศึกษาคนหนึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บใกล้อาคารหอพักนักศึกษาของ มหาวิทยาลัย

    เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากนักศึกษาคนหนึ่งของ NIU ก่อเหตุยิงกราดฆ่าหมู่เพื่อนนักศึกษาร่วม 5 คน เพียง 2 ปี

    อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ของ NIU ระบุว่า เป็นเรื่องขัดแย้งส่วนตัวระหว่างคนสองคน ส่วนคนก่อเหตุถูกตำรวจรวบตัวไปดำเนินคดีแล้ว ขณะที่ผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้วเช่นกัน

    ส่วนเหตุสลดก่อนหน้านี้ เกิดเมื่อวันที่ 14ก.พ. 2551 เมื่อนายสตีเฟน คาซเมียคซัค นักศึกษาระดับปริญญาโท วัย 27 ปี ก่อเหตุบุกยิงกราดในห้องเรียนภายในรั้วของNIU ทำให้นักศึกษาเสียชีวิต 5 คน มีคนอื่นๆ บาดเจ็บด้วย 16 คน ก่อนคนก่อเหตุหันมายิงตัวตายตาม โดยก่อนก่อเหตุ นายคาซเมียคซัค ไม่เคยมีประวัติก่อเหตุรุนแรงมาก่อน แต่เริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติก่อนก่อเหตุเพียง 2 สัปดาห์.

    ทหารไนเจอร์ก่อรัฐประหาร-จับ ปธน.และ ครม.ยกพวง
    [​IMG]
    เกิดการยิงปะทะกัน มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 3 นาย บาดเจ็บราว 10 นาย ก่อนที่นายทันด์จาจะถูกส่งไปควบคุมตัวในค่ายทหารชานกรุงนีอาเม ส่วน ครม.ก็ถูกจับกุมทั้งหมด...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 19 ก.พ.ว่า คณะทหารซึ่งเรียกตัวเองว่า "สภาสูงสุดเพื่อการฟื้นฟูประชาธิปไตย" (ซีเอสอาร์ดี) ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากประธานาธิบดี มามาดู ทันด์จา แห่งสาธารณรัฐไนเจอร์ ประเทศเล็กๆ ในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งมีประชากรราว 15.3 ล้านคน และผู้ผลิตแร่ยูเรเนียมรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เมื่อ 18 ก.พ. โดยบุกโจมตีทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงนีอาเม ขณะทันด์จาประชุมกับคณะรัฐมนตรี ทำให้เกิดการยิงปะทะกัน มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 3 นาย บาดเจ็บราว 10 นาย ก่อนที่นายทันด์จาจะถูกส่งไปควบคุมตัวในค่ายทหารชานกรุงนีอาเม ส่วน ครม.ก็ถูกจับกุมทั้งหมด

    โฆษกซีเอสอาร์ดี ซึ่งมีนาวาอากาศตรีซาลู ดีจิโบ เป็นผู้นำ ประกาศยุบคณะรัฐบาล ระงับรัฐธรรมนูญ และสถาบันต่างๆของรัฐ ทั้งยังประกาศภาวะเคอร์ฟิวและสั่งปิดด่านตามพรมแดนทุกจุด รวมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ร่วมกันสนับสนุนอุดมการณ์ของซีเอสอาร์ดีเพื่อทำให้ไนเจอร์เป็นตัวอย่างของประชาธิปไตยและธรรมาภิบาล ขอให้นานาชาติสนับสนุนด้วย แต่สหภาพแอฟริกัน (เอยู) ประณามความรุนแรงในไนเจอร์ ซึ่งเป็นชาติแอฟริกาล่าสุดที่เกิดการรัฐประหารถัดจากกินี มาดากัสการ์ และมอริเตเนีย ส่วนกลุ่มชาติแอฟริกาตะวันตก (อีโควอส) 15 ประเทศ ผู้ไกล่เกลี่ยวิกฤติการเมืองไนเจอร์ก็ร่วมประณาม และว่าไม่ยอมรับการเปลี่ยนขั้วอำนาจด้วยวิธีการที่รุนแรงและขัดกับรัฐธรรมนูญ

    ไนเจอร์ถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารมายาวนานตั้งแต่ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี 2503 จนกระทั่งในปี 2542 ทันด์จา อดีตนายทหารกองทัพบก ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยแรกและชนะสมัยที่ 2 ในปี 2547 แต่วิกฤติการเมืองปะทุขึ้นหลังทันด์จาแก้รัฐธรรมนูญเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ให้ตนเองกุมอำนาจสมัยที่ 3 เยี่ยงเผด็จการ จนไนเจอร์ถูกกลุ่มอีโควอสระงับสมาชิกภาพ สหภาพยุโรป (อียู) ระงับความช่วยเหลือด้านการพัฒนา และสหรัฐฯ คว่ำบาตร

    นักการทูตฝรั่งเศสคนหนึ่งเผยว่า องครักษ์บางส่วนของนายทันด์จา วัย 71 ปี อาจมีส่วนร่วมในการก่อรัฐประหาร และกลุ่มผู้ยึดอำนาจมีนายทหารหลายคนที่เคยก่อรัฐประหารเมื่อปี 2542 รวมอยู่ด้วย อนึ่ง ไนเจอร์ได้ชื่อว่าเป็นชาติยากจนที่สุดชาติหนึ่งของโลก ดัชนีการพัฒนามนุษย์ของสหประชาชาติเมื่อปี 2552 จัดให้ไนเจอร์อยู่ในอันดับที่ 182 อันดับท้ายสุดของโลก.

    มะกันอ่วมหนี้พลีชีพบินชนตึกสรรพากร

    [​IMG]
    ทำให้เกิดเพลิงไหม้อาคารนานกว่า 6 ชม. สร้างความแตกตื่นแก่ประชาชนละแวกใกล้เคียงเพราะเกรงว่าจะเป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้าย ซ้ำรอยวินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรด...

    นายโจเซฟ เอ. สแต็ก ชาวอเมริกัน อายุ 55 ปี อดีตวิศวกรโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ขับเครื่องบินเล็กรุ่นไพเพอร์ เชอโรกี พุ่งชนอาคาร 7 ชั้นของสำนักงานกำกับภาษี กรมสรรพากรประจำเมืองออสตินในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ เมื่อ 18 ก.พ. ทำให้เกิดเพลิงไหม้อาคารนานกว่า 6 ชม. สร้างความแตกตื่นแก่ประชาชนละแวกใกล้เคียงเพราะเกรงว่าจะเป็นฝีมือกลุ่มก่อการร้าย ซ้ำรอยวินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรด ก.ย. 2544 มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ รวมนาย สแต็ก และผู้บาดเจ็บอีก 13 คน โดย 2 คนมีอาการสาหัส ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรราว 190 คน ที่อยู่ในอาคารขณะเกิดเหตุหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย

    ด้านตำรวจในเมืองออสตินเปิดเผยว่า สแต็กพิมพ์ข้อความระบายความอัดอั้นบนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง โดยมีเนื้อหาแสดงความโกรธแค้นที่มีต่อกรมสรรพากร รวมถึงระบบการจ่ายภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อประชาชนธรรมดา และสแต็กอ้างถึงกรณีที่ตนปะทะกับเจ้าหน้าที่สำนักงานกำกับภาษี 2 ครั้ง เพราะไม่สามารถขอคืนเงินภาษีได้ และสแต็กยังได้บรรยายความรู้สึกสิ้นหวังเมื่อรัฐบาลสั่งอนุมัติงบช่วยเหลือสถาบันการเงินในปี 2552 ช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ตนกลับไม่อาจหางานทำได้และไม่มีใครช่วยเหลือ พร้อมทิ้งท้ายว่าความรุนแรงคือคำตอบเดียวสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยก่อนก่อเหตุเขาได้จุดไฟเผาบ้านตัวเองก่อนด้วย

    ทั้งนี้ สแต็กยื่นเรื่องขอเป็นบุคคลล้มละลายถึง 2 ครั้งในปี 2543 และ 2547 หลังธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่ก่อตั้งร่วมกับภรรยาคนแรกไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่การก่อเหตุรุนแรงต่างๆ เพื่อประท้วงกรมสรรพากรสหรัฐฯ เกิดขึ้นเป็นระลอกนับตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา.

    วิจัยยูเอ็นพบยุคนี้พายุน้อยแต่แรง

    [​IMG]
    ผลการศึกษาค้นคว้าโดยองค์การพยากรณ์อากาศโลก ผลพวงจากภาวะโลกร้อน ทำให้พายุโซนร้อนหรือพายุเฮอร์ริเคนในศตวรรษที่ 21 นี้จะปรากฎน้อยลง แต่ทวีความรุนแรงมากขึ้น.....

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 21 ก.พ.ว่า ผลการศึกษาค้นคว้าโดยองค์การพยากรณ์อากาศโลก (WMO) ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) พบว่า ผลพวงจากภาวะโลกร้อน ทำให้พายุโซนร้อนหรือพายุเฮอร์ริเคนในศตวรรษที่ 21 นี้จะปรากฎน้อยลง แต่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งกระแสลมแรงหอบกำลังขึ้นระหว่าง 2-11 % ปริมาณน้ำฝนก็อาจเพ่ิมขึ้น 20 % และค่าเฉลี่ยอุณหภูมิโลกจะเพ่ิมขึ้น 2.8 องศาเซลเซียส

    นอกจากนี้ นายทาเคชิ อิซูโม นักพยากรณ์อากาศ พร้อมทีมงานจากสถาบันการวิจัยด้านความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกในเมืองโยโกฮา มาประเทศญี่่ี่ปุ่นพบหลักฐานที่สามารถส่งสัญญานเตือนภัย 14 เดือนก่อนเกิดปรากฎการณ์เอลนินโญ จากปัจจุบันที่แจ้งล่วงหน้าไม่กี่เดือน ซึ่งไม่ทันต่อการรับมือภาวะฤดูกาลผิดเพี้ยนสำหรับกลุ่มชาวนา ชาวเกษตรกรและชาวประมง โดยให้สังเกตุถึงปรากฎการณ์เดียวกันนี้ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2542 และเกิดขึ้นซ้ำทุก 2 ปี หลังข้อมูลสถิติที่เก็บบันทึกตั้งแต่ปี 2524-2552 เมื่อเกิดปรากฎการณ์ในมหาสมุทรอินเดียที่เรียกกันว่า “ไดโพล” (ไอโอดี) ปรากฎการณ์เอลนินโญก็จะเกิดขึ้นในอีกกว่า 1 ปีตามมา ปรากฎการณ์เอลนินโญมักเกิดขึ้นทุก 2-7 ปี เมื่อกระแสลมสินค้าที่พัดจากตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิคเร่ิมอ่อนกำลังลง ผลของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะตามมาคือฝนตกหนักจนเกิดภาวะน้ำท่วม ดินถล่มบริเวณฝั่งตะวันตกของอเมริกาใต้ และเกิดภาวะแห้งแล้งฝั่งตะวันตกของแปซิฟิก สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศน์วิทยา.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • A1.JPG
      A1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      45.6 KB
      เปิดดู:
      9,215
    • A2.JPG
      A2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      9,180
    • A3.JPG
      A3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      9,324
    • A4.JPG
      A4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      16.8 KB
      เปิดดู:
      9,314
    • A5.JPG
      A5.JPG
      ขนาดไฟล์:
      20.5 KB
      เปิดดู:
      9,193
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2010
  6. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    มีเรื่องแผ่นดินแยกที่เมืองกาญจน์ ทางการบอก ไม่เกี่ยวกับรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์


    เฒ่าวัย78ผวา!แผ่นดินแยกตัวผ่ากลางบ้านที่กาญจน์

    [​IMG]

    ผวจ.กาญจน์ นำผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ยัน ดินปูนและดินทรายยุบตัว เพราะชั้นดินเป็นโพรง ไม่เกี่ยว รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ หรือแผ่นดินไหว ชี้ ประชาชนอย่าตื่นตระหนก

    เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 ก.พ.53 นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย ดร.ปริญญา พุทธาภิบาล นักธรณีวิทยา สาขาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลกาญจนบุรี ได้เดินทางมายังบ้านเลขที่ 2 บ้านลุ่มโป่งเสี้ยว หมู่ 6 ต.วังเย็น อ.เมืองกาญจนบุรี


    ตรวจสอบสอบกรณีการแยกตัวของดินผ่ากลางบ้านหลังดังกล่าว โดยมี นายเทพฤทธิ์ ขุนแสน ส.อบจ.กาญจนบุรี นายจำนงค์ รื่นเกษม กำนันตำบลวังเย็น ในฐานะประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายประสาน สงวนพันธ์ นายก อบต.บ้านเก่า นายพลอย พันธ์แก้ว อายุ 78 ปี เจ้าของบ้านพาตรวจสอบ

    โดยพบว่า ดินได้แยกตัวออกจากกันกว้างราว 1 ศอกเศษ ๆ เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร เข้าไปผ่ากลางตัวบ้าน โดยการตรวจสอบของ ผวจ.กาญจนบุรี และ คณะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

    นายพลอย กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำไร่ บ้านของตนอยู่ด้วยกัน 4 คน ประกอบด้วย นางจอง อายุ 64 ปี ภรรยา นายประภา อายุ 32 ปี ลูกชาย และ ด.ญ.ภัทราพร อายุ 14 ปี หลานสาว ใช้ชีวิตตามปกติ


    จนกระทั่งราวตี 4 เศษ ของวันที่ 20 ก.พ. 53 ได้ตื่นมาเพื่อเตรียมเข้าไร่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรอยแยกของดินยาวผ่านกลาง บ้านไป ตั้งแต่หน้าบ้านทะลุไปหลังบ้าน

    อย่างไรก็ตามได้สอบถามคนในบ้าน ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้รับรู้ว่ามีแผ่นดินไหว หรือแยกแต่อย่างใด จึงประสานผู้เกี่ยวข้องทราบเพื่อมาตรวจสอบ

    นาย เทพฤทธิ์ ขุนแสน ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต อ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งก็ประสานผู้นำท้องที่และผู้เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ


    เบื้องต้น ในส่วนตัวเชื่อว่า เกิดจากเมื่อประมาณวันที่ 11 ก.พ. 53 นายพลอย เจ้าของบ้าน ได้ว่าจ้างช่างให้มาเป่าท่อน้ำบาดาลที่เคยขุดลึก 24 เมตร เมื่อประมาณ 30 ปีมาแล้ว เพื่อไล่ดินและทรายที่อุดตันในท่อออกไป

    อีกทั้งพื้นที่บริเวณนี้เป็นดินทราย เชื่อว่าเกิดจากการยุบตัวของดินทำให้แผ่นดินแยก ซึ่งไม่เกิดจากปัญหารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ หรือแผ่นดินไหวตามที่หลายฝ่ายวิตกกัน ตนเชื่ออย่างนั้น และขอให้ชาวบ้านอย่าตื่นตระหนก

    ด้าน ดร.ปริญญา พุทธาภิบาล นักธรณีวิทยา สาขาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณชั้นใต้ดินนี้เป็นถ้ำใต้ดินซึ่งมีทั่ว ๆ ไปในพื้นที่นี้ บริเวณนี้หากมีการไหลของน้ำจะเป็นปัญหา เพราะปกติน้ำต้องไหลจากที่สูงสู่ที่ต่ำทำให้ดินเกิดการทรุดตัว


    โดยกรณีนี้จะเกิดในพื้นที่ที่ชั้นใต้ดินเป็นหินปูน และเกิดขึ้นเป็นจุด ๆ เท่านั้น ไม่ได้เกิดทั่วไป ในกรณีนี้หากเป็นโพรงเล็กสามารถแก้ไขได้ แต่หากเป็นโพรงใหญ่ จะต้องมาดูกันว่าจะหามาตรการอย่างไรในการแก้ไขปัญหา

    โดยจากการตรวจสอบพบว่ารัศมีอยู่ในเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับปัญหาแผ่นดินไหว ซึ่งจะต้องนำเครื่อง GPR ซึ่งเป็นเครื่องคำนวณชั้นดิน หรือเครื่องอุลตร้าดินมาตรวจสอบ



    อย่างไรก็ตามกรณีนี้ จ.กาญจนบุรี มีชั้นใต้ดินแบบนี้เกือบทั้งจังหวัด ฉะนั้น หากมีการก่อสร้างขนาดใหญ่ ต้องมีการตรวจสอบชั้นใต้ดินก่อนจึงจะดี ซึ่งจะนำเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดต่อไป

    ด้าน นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงาน ได้ประสานนักธรณีวิทยามาตรวจสอบ เรื่องนี้ตนไม่กังวล เพราะไม่เกี่ยวกับประเด็นแผ่นดินไหวแต่อย่างใด เป็นเพียงรอยแยกของดินที่เป็นปัญหาเฉพาะที่เท่านั้น ชั้นใต้ดินเป็นโพรงเมื่อถูกน้ำอาจจะทำให้ดินยุบตัวลงไป


    อย่างไรก็ตาม ได้เร่งให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบโดยด่วนแล้ว คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ขออย่าให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก




    เฒ่าวัย78ผวา!แผ่นดินแยกตัวผ่ากลางบ้านที่กาญจน์ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

    ไทยรัฐออนไลน์

    • โดย ทีมข่าวภูมิภาค
    • 21 กุมภาพันธ์ 2553
     
  7. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    16 ก.พ. 53

    มีสัญญาณแผ่นดินไหวเข้ามา


    21 ก.พ. 53

    หน่วยเหนือมักจะมาในเวลาเย็นและค่ำ เวลาที่ควรระวังคือกลางคืนถึงเช้า





    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยอดตายจากพายุฝนในโปรตุเกส เพิ่มเป็น 38 คนแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 กุมภาพันธ์ 2553 17:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    น้ำท่วมฉับพลันในเมืองฟันชาล บนเกาะมาเดรา หลังจากเกิดฝนตกหนัก

    เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันบนเกาะมาเดรา เพิ่มขึ้นเป็น 38 คนแล้วในวันนี้(21) ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่เผย พร้อมกับเตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นอีก

    ฟรานซิสโก รามอส เลขาธิการกิจการด้านสังคมในภูมิภาค เผยกับผู้สื่อข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากพายุฝนตกหนักบนเกาะมาเดราแล้ว 38 คน เพิ่มจาก 32 คน บาดเจ็บ 68 คนจากรายงานก่อนหน้านี้​

    รามอสเผยว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่ตัวเลขสุดท้าย เพราะเจ้าหน้ากู้ภัยยังคงค้นหาผู้เสียชีวิตต่อไปอีก โดยขณะนี้กำลังรอทีมกู้ภัยอีกหลายชุดมาเสริมกำลังในการออกค้นหาต่อไป​

    ด้านสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนโปรตุเกส เผยทางเว็บไซต์ว่า มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 250 คน หลังจากพายุมรสุมทำให้เกิดน้ำท่วม และแผ่นดินถล่มเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะในทางใต้ของเกาะมาเดรา ซึ่งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก และห่างจากแผ่นดินใหญ่ของโปรตุเกสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 900 กิโลเมตร​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    Little Big Soldier หนังดีที่น่าดู

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เนื้อหาส่งเสริมสันติภาพ

    ในเรื่อง เฉิน หลง รับบทเป็นนายทหารแก่ที่รอดตายจากสมรภูมิรบ เขาได้ลักพาตัว วังลีฮอม ซึ่งรับบทเป็นแม่ทัพหนุ่มไว้เป็นตัวประกัน ด้วยความหวังที่จะนำมาแลกกับเงินรางวัลและความก้าวหน้าในชีวิต แต่ระหว่างการเดินทางได้เกิดเรื่องสนุกสนานขึ้นมากมาย ซึ่งได้แฝงทั้งมุขตลก และเนื้อหาที่ในแง่คิดต่างๆ เอาไว้ โดยเฉพาะเนื้อหาที่ส่งเสริมเรื่องของสันติภาพ ต่อต้านความรุนแรง

    Little Big Soldier พูดถึงเรื่องราวการต่อสู้และศึกสงคราม ที่มีการแบ่งแยกการปกครองออกเป็นฝ่ายน้อยใหญ่ต่างๆ จนนำมาซึ่งความสูญเสียของทุกฝ่าย ผลที่ตามมาหลังจากสงครามสงบลงก็คือ ความแล้งแค้นของผู้คน ต่างคนก็ต่างดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคตได้เลยว่า วันนี้หรือวันพรุ่งนี้จะยังมีชีวิตอยู่รอดหรือไม่

    ที่มา http://www.egv.com/movie_detail.php?mid=392

    เรื่องย่อ

    เมื่อครั้งที่ขุนพลผู้เหี้ยมหาญทั้งหลาย ต่างรบพุ่งรุกรานกันไม่จบสิ้น นั่นคือยุคที่จีนตกอยู่ในที่สุดแห่งความมืดมน ผู้คนล้มตายนับล้านๆ ในขณะที่ผู้รอดชีวิตเหลืออยู่เพียงสองทางเลือก คือฆ่าหรือไม่ก็ถูกฆ่า

    ตั้งแต่แสงแรกของวันจนตะวันลับฟ้า ทหารกล้าในสงครามระหว่างทัพเหลียงและทัพเว่ยโรมรันฟาดฟันกันล้มตายเป็นใบไม้ร่วง กระทั่งเหลือผู้ที่ยังหยัดยืนอยู่ได้แค่สองคนเท่านั้น หนึ่งคือ พลทหารเดินเท้าของทัพเหลียง (แจ็คกี้ ชาน) และสองคือ แม่ทัพหนุ่มของทัพเว่ยฝ่ายศัตรู (วังลีฮอม)

    พลทหารรอดมาได้เพราะแกล้งตายจนชำนาญ ถึงขนาดมีปลายศรเทียมผูกติดอยู่กับตัวเป็นอุปกรณ์เพิ่มความสมจริง เขาคุมตัวแม่ทัพหนุ่มที่บาดเจ็บไว้และหวังใช้ศัตรูผู้นี้เป็นตั๋วแลกกับอิสรภาพ โดยนำไปส่งให้ขุนพลฝ่ายเหลียงเพื่อปลดเปลื้องตัวเอง จากกองทัพอย่างทรงเกียรติและกลับบ้านไปใช้ชีวิตอย่างสงบ ในขณะที่แม่ทัพหนุ่ม ถึงแม้จะถูกคุมตัวไว้ แต่ก็อ่อนน้อมถ่อมตนกับพลทหารตลอดเวลาที่พากันลัดเลาะ รอนแรมบนหนทางอันคดเคี้ยวและยาวไกล

    ระหว่างทาง พวกเขาถูกนักร้องสาวพราวเสน่ห์ ทว่าเต็มไปด้วยเล่ห์ลวงลอบวางยาและขโมยตราหยก อันเป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ความเป็นแม่ทัพเพียงชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ไป ทั้งสองจึงรีบออกติดตามทันที แต่กลับหลงเข้าไปในขบวนผู้ลี้ภัยจนถูกปล้นอาหารและน้ำไปจนหมด มิหนำซ้ำยังถูกหมีตัวร้ายสะกดรอยตามหมายจะขย้ำ สร้างความโกลาหลให้กับชีวิตยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มคู่แปลกคู่นี้ก็จำต้องร่วมมือกันฝ่าฟันวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่า

    อย่างไรก็ตาม ทั้งสองไม่รู้เลยว่าองค์ชายเหวินผู้เป็นน้องชายของแม่ทัพหนุ่ม พร้อมด้วยกองกำลังยอดฝีมือกำลังไล่หลังมาติด ๆ หากแต่ไม่ใช่ในภารกิจช่วยชีวิต ทว่าต้องการปลิดลมหายใจของแม่ทัพหนุ่ม เพื่อขจัดเสี้ยนหนามที่จะสั่นคลอนการครองบัลลังก์ให้หมดไป

    ท้ายที่สุดของการเดินทางอันเหลือเชื่อนี้ ความเกลียดชังระหว่างพลทหารและแม่ทัพหนุ่มค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยมิตรภาพอันงดงามทีละน้อย จนแล้วจนรอด ความขัดแย้งทางศีลธรรมก็ปะทุขึ้นในใจของพลทหาร สิ่งไหนล่ะที่สำคัญมากกว่ากัน? มิตรภาพที่แม่ทัพหนุ่มมอบให้หรือตั๋วเพื่อกลับบ้าน?

    ที่มา http://movie.kapook.com/view10098.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p1(290).jpg
      p1(290).jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.6 KB
      เปิดดู:
      4,361
    • MG_8133_low2.jpg
      MG_8133_low2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.7 KB
      เปิดดู:
      4,322
    • MG_7825_low2.jpg
      MG_7825_low2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.1 KB
      เปิดดู:
      4,394
    • p1(289).jpg
      p1(289).jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.1 KB
      เปิดดู:
      143
    • MG_1610_low2.jpg
      MG_1610_low2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.3 KB
      เปิดดู:
      140
    • MG_3178_low2.jpg
      MG_3178_low2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.1 KB
      เปิดดู:
      145
    • MG_5964_low2.jpg
      MG_5964_low2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.2 KB
      เปิดดู:
      139
    • MG_7127_low2.jpg
      MG_7127_low2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.2 KB
      เปิดดู:
      129
    • p1(291).jpg
      p1(291).jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.5 KB
      เปิดดู:
      150
    • p2(133).jpg
      p2(133).jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.5 KB
      เปิดดู:
      147
    • p2(134).jpg
      p2(134).jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.3 KB
      เปิดดู:
      189
    • poster-A-final-approve.jpg
      poster-A-final-approve.jpg
      ขนาดไฟล์:
      185.8 KB
      เปิดดู:
      152
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฝนตกดินโคลนถล่ม ดับแล้ว 42 เกาะโปรตุเกสอ่วม

    [​IMG]

    พายุฝนกระหน่ำ เกาะมาไดราของโปรตุเกส เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วม และดินถล่ม จนมีผู้เสียชีวิต 42 คน ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 120 ราย ด้าน ผู้นำประเทศให้คำมั่นเร่งช่วยเหลือ และฟื้นฟูเกาะ ให้เร็วที่สุด...

    สำนักข่าวบีบีซี รายงาน เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ว่า เหตุพายุฝนตกกระหน่ำติดต่อกันหลายวัน เป็นเหตุให้เกิดดินถล่มที่เกาะมาไดรา ของประเทศโปรตุเกส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 42 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 120 คน ขณะนี้ทีมกูภัยกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามบ้านเรือนและท้องถนน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตคาดอาจเพิ่มขึ้นอีก

    สำหรับผลกระทบจากเหตุดินถล่ม ทำให้ถนนหลายสายบนเกาะมาไดราถูกตัดขาด ระบบโทรคมนาคมใช้การไม่ได้ บางพื้นที่ รวมถึงระบบประปาก็ใช้การไม่ได้เช่นกัน

    ด้านนายโจเซ่ โซคราเตส นายกรัฐมนตรีแห่งโปรตุเกส กล่าวว่า รู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยังให้คำมั่นว่า ทางรัฐบาลจะเร่งให้ความช่วยเหลือ และฟื้นพูเกาะมาไดราโดยเร็วที่สุด

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ยิวฉุนประชาคมโลก ยอมรับ รัฐปาเลสไตน์

    [​IMG]

    อิสราเอล โกรธประชาคมโลกที่เตรียมยอมรับรัฐปาเลสไตน์ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ข้อสรุปจากการเจรจาสันติภาพ

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่า รัฐบาลอิสราเอลแสดงท่าทีไม่พอใจที่ประชาคมโลกเตรียมยอมรับรัฐปาเลสไตน์ทัั้งที่การเจรจาสันติภาพยังไม่ได้ข้อตกลงใดๆ และยิ่งทำให้ปาเลสไตน์ขัดขืนไม่เข้าร่วมเจรจา การประนีประนอมก็อาจเกิดได้ยาก

    ทั้งนี้ นายแบร์นาร์ด คูชเชอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสเผยว่า ภาพของความเป็นรัฐปาเลสไตน์เร่ิมปรากฏชัดในอีกไม่ช้านี้ รวมถึงเส้นแบ่งเขตพรมแดน นับแต่รัฐบาลฝรั่งเศสเข้าไปฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ การทำธุรกรรมในเมืองเวสต์ แบงค์

    ขณะที่ประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ ที่เดินทางเยือนฝรั่งเศส มุ่งมั่นที่จะสร้างสถาบันภาครัฐหลายแห่งให้เสร็จสิ้นภายในปี 2554 โดยไม่สนใจถึงผลการเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล หลังยอมรับข้อเสนอของสหรัฐอเมริกา ให้มีการเจรจาทางอ้อมโดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นสื่อกลาง แต่ผู้นำอับบาสก็เรียกร้องการยอมรับในหลายข้อ

    ปาเลสไตน์ยุติการเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล หลังอิสราเอลใช้กองกำลังทหารบุกโจมตีฉนวนกาซ่า บริเวณพื้นที่กลุ่มฮามาสเมื่อเดือนธ.ค.ปี 2551 อีกทัั้งปาเลสไตน์ยืนยันที่จะให้หยุดการก่อสร้างชุมชนชาวยิวในเมืองเวสต์แบงค์

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    อิเหนาตั้งเป้า แนวหน้าโลก ผู้ผลิตอาหาร

    [​IMG]

    อินโดนีเซียวางแผนพัฒนาประเทศให้กลายเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก ภายใน 20 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนและคนในท้องถิ่นเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตร

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ก.พ. อินโดนีเซียประกาศแผนพัฒนาประเทศ ตั้งเป้าสร้างดินแดนอิเหนาเป็นหนึ่งในชาติผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก ให้ได้ภายในปี 2573 เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติและคนในท้องถิ่นเช่าที่ดินทำการเกษตรปลูกข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง อ้อย กาแฟ ปาล์มน้ำมัน เลี้ยงกุ้งและเลี้ยงสัตว์ เบื้องต้นเน้นผลผลิตหล่อเลี้ยงคนในประเทศให้เพียงพอก่อน ตามด้วยการส่งออกสินค้าอาหารหล่อเลี้ยงผู้คนทั่วโลก

    ปัจจุบันอินโดนีเซียในฐานะชาติใหญ่ประชากรมากที่สุดของโลกอันดับ 4 ด้วยจำนวนประชากร 235 ล้านคน มีผลผลิตข้าวเพียงพอเลี้ยงคนทั้งประเทศมาตั้งแต่ปี 2551 ทั้งยังครองตำแหน่งชาติผู้ผลิตปาล์มน้ำมันรายใหญ่ของโลก ก้าวต่อไปของรัฐบาลคือจัดสรรที่ดิน1.6 ล้านเฮกเตอร์ หรือราว 10.4 ล้านไร่ ให้นักลงทุนเช่าทำการเกษตร

    โครงการนำร่องเป็นพื้นที่ราบอุดมสมบูรณ์ในถิ่นห่างไกลและยังไม่พัฒนาบนเกาะบอร์เนียว โดยเฉพาะแถบเมืองเมรัวคี ซึ่งมีประชากรราว 175,000 คน อันจะทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีการจ้างงานจากต่างถิ่นเข้าไปเพิ่มประชากรถึงราว 800,000 คน เงื่อนไขของการปล่อยเช่าที่ดินทำการเกษตรคือ นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นสูงสุดได้แค่ 49 เปอร์เซ็นต์ ห้ามบริษัทใดผูกขาดเช่าพื้นที่เกินกว่า 10,000 เฮกเตอร์ หรือราว 65,000 ไร่ ผลประโยชน์ที่นักลงทุนได้รับคือการลดภาษี

    อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิเคราะห์ชี้ปัญหาและอุปสรรคสำคัญคือ อาจต้องลงทุนอีกมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน สร้างท่าเรือ ถนนและสนามบินขนส่งสินค้า นอกเหนือจากการถูกเกษตรกรในท้องถิ่นคัดค้าน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    วิจัยยูเอ็นพบยุคนี้พายุน้อยแต่แรง

    [​IMG]

    ผลการศึกษาค้นคว้าโดยองค์การพยากรณ์อากาศโลก ผลพวงจากภาวะโลกร้อน ทำให้พายุโซนร้อนหรือพายุเฮอร์ริเคนในศตวรรษที่ 21 นี้จะปรากฎน้อยลง แต่ทวีความรุนแรงมากขึ้น.....

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 21 ก.พ.ว่า ผลการศึกษาค้นคว้าโดยองค์การพยากรณ์อากาศโลก (WMO) ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) พบว่า ผลพวงจากภาวะโลกร้อน ทำให้พายุโซนร้อนหรือพายุเฮอร์ริเคนในศตวรรษที่ 21 นี้จะปรากฎน้อยลง แต่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งกระแสลมแรงหอบกำลังขึ้นระหว่าง 2-11 % ปริมาณน้ำฝนก็อาจเพ่ิมขึ้น 20 % และค่าเฉลี่ยอุณหภูมิโลกจะเพ่ิมขึ้น 2.8 องศาเซลเซียส

    นอกจากนี้ นายทาเคชิ อิซูโม นักพยากรณ์อากาศ พร้อมทีมงานจากสถาบันการวิจัยด้านความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกในเมืองโยโกฮา มาประเทศญี่่ี่ปุ่นพบหลักฐานที่สามารถส่งสัญญานเตือนภัย 14 เดือนก่อนเกิดปรากฎการณ์เอลนินโญ จากปัจจุบันที่แจ้งล่วงหน้าไม่กี่เดือน ซึ่งไม่ทันต่อการรับมือภาวะฤดูกาลผิดเพี้ยนสำหรับกลุ่มชาวนา ชาวเกษตรกรและชาวประมง โดยให้สังเกตุถึงปรากฎการณ์เดียวกันนี้ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2542 และเกิดขึ้นซ้ำทุก 2 ปี

    หลังข้อมูลสถิติที่เก็บบันทึกตั้งแต่ปี 2524-2552 เมื่อเกิดปรากฎการณ์ในมหาสมุทรอินเดียที่เรียกกันว่า “ไดโพล” (ไอโอดี) ปรากฎการณ์เอลนินโญก็จะเกิดขึ้นในอีกกว่า 1 ปีตามมา ปรากฎการณ์เอลนินโญมักเกิดขึ้นทุก 2-7 ปี เมื่อกระแสลมสินค้าที่พัดจากตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิคเร่ิมอ่อนกำลังลง ผลของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะตามมาคือฝนตกหนักจนเกิดภาวะน้ำท่วม ดินถล่มบริเวณฝั่งตะวันตกของอเมริกาใต้ และเกิดภาวะแห้งแล้งฝั่งตะวันตกของแปซิฟิก สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศน์วิทยา.

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th/oversea
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>น้ำโขงแห้งขอด! สื่อแฉจีนกักน้ำใช้ปั่นไฟฟ้า ไทย-ลาวเดือดร้อนหนักเดินเรือไม่ได้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>น.ส.พ.จีนรายงานมณฑลยูนานแล้งสุดรอบ 60 ปี ทำให้ต้องกักน้ำในเขื่อนไว้ปั่นไฟ ส่งผลน้ำโขงแห้งขอด คนริมโขงไทย-ลาวเดือดร้อนหนัก สัญจรทางเรือไม่ได้ กระทบเกษตรกรรม เผยพระธาตุโผล่กลางลำโขงฝั่งลาว "นอภ.-ตร."อำนาจเจริญตั้งด่านตรวจเข้มหวั่นลอบขนยาเสพติดข้ามแดน

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]
    สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดต่ำลงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ลาวในหลายด้าน

    โดยเฉพาะ การเดินเรือค้าขาย การอุปโภคบริโภค และการเกษตรกรรม สาเหตุหลักมาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้กักเก็บน้ำเอาไว้ในอ่างเหนือเขื่อนขนาดใหญ่ 4 แห่งที่พาดกั้นแม่น้ำโขงในดินแดนของตน และมีแนวโน้มว่าจะไม่ปล่อยน้ำลงมาใต้เขื่อน เนื่องจากเกรงว่าปริมาณน้ำในอ่างจะไม่พอผลิตกระแสไฟฟ้า


    ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ว่า หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า นับตั้งแต่ปลายปี 2552

    เกิดความแห้งแล้งในพื้นที่มณฑลยูนนานร้ายแรงที่สุดในรอบ 60 ปี เจ้าหน้าที่บริษัทหัวเหนิงลานชางไฮโดรพาวเวอร์ บริษัทบริหารจัดการเขื่อนบนแม่น้ำโขงทั้ง 4 แห่งระบุว่า ภัยแล้งที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ ของเขื่อนลดลงและกระทบต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า


    ขณะที่หนังสือพิมพ์หนานฟ่างเดลี่รายงานเช่นกันว่า ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเขื่อนบนแม่น้ำโขง 4 แห่งขึ้นอยู่กับระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อน "เสี่ยวหวาน"

    เขื่อนแห่งนี้ต้องบริหารจัดการระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเพื่อให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอคือวันละประมาณ 70 กิโลวัตต์ แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงอย่างมาก ทำให้กระแสไฟฟ้าในยูนนานลดลง


    ทั้งนี้ เขื่อนเสี่ยวหวานมีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นเขื่อนที่ตั้งอยู่ทางตอนบนสุดของแม่น้ำโขงในจีน ถัดมา ได้แก่ เขื่อนมันวานผลิตไฟ 1,500 เมกะวัตต์ เขื่อนต้าเฉาชาน 1,350 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิงหง1,500 เมกะวัตต์ ปริมาณความจุอ่างเก็บน้ำของเขื่อนทั้ง 4 แห่ง รวม 17,603 ล้านลูกบาศก์เมตร
    [/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทางด้านนายมิติ ยาประสิทธิ์ ผู้ประสานงานกลุ่มรักษ์เชียงแสน เปิดเผยว่า ทหารเรือบอกว่าระดับน้ำโขงลดลงมากกว่าปี 2540

    ซึ่งตอนนั้นจีนปิดเขื่อนแห่งแรก มีผลให้บ่อน้ำบาดาลแห้งไปด้วย แม้กระทั่งน้ำประปาเองก็เริ่มมีปัญหา ช่วงนี้ไม่มีการปล่อยน้ำมาเลย เพราะเรือขนสินค้าจากจีนจอดอยู่ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงรายหลายวันแล้ว แต่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นคือมีพระธาตุเก่าแก่โผล่ขึ้นกลางแม่น้ำโขงในฝั่งลาวที่เกาะดอนแท่น ตรงนั้นเป็นวัดเก่า มีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่ และทางการลาวกำลังสำรวจอยู่

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ว่า ปริมาณน้ำที่ลดลงในแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง

    ได้ส่งผลกระทบต่อการจราจรทางน้ำอย่างหนัก ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากเดือดร้อน หลายชุมชนมีเพียงเส้นทางเรือเท่านั้นที่เข้าถึงหมู่บ้าน ขณะนี้เรือโดยสารและเรือขนส่งสินค้าต่างจอดสนิท การขนส่งทางเรือระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ และเมืองปากลาย แขวงไชยบุรี ต้องหยุดลง ขณะที่แม่น้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขงต่างแห้งเช่นกัน ส่งผลกระทบต่อการทำการเกษตรอย่างหนัก


    ด้านนายนิรันดร์ บุญสิงห์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (หน.ปภ.) จ.อำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ปีนี้จะแล้งหนักกว่าปีที่ผ่านๆ มา

    เพราะขณะนี้ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มนำใช้กันแล้ว ที่สำคัญในช่วงนี้แม่น้ำโขงแห้งขอดลงมาก โดยเฉพาะในเขตบ้านคันสูง ต.โคกสาร อ.ชานุมาน ระดับลดลงต่ำมากจนเดินข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน(ลาว) ขณะเดียวกันมีประชาชนไปทอดแหตกปลา และยังมีเด็กๆ นักเรียนลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวไปชมความงามของแก่งหินต่างๆ วันละจำนวนมาก


    "ทางอำเภอและทางตำรวจตั้งด่านเฉพาะกิจตรวจเข้ม เพราะเกรงจะมีการขนย้ายยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามายังฝั่งไทย" นายนิรันดร์กล่าว

    นายบุญสนอง บุญมี ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ทางจังหวัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเร่งให้ผู้รับผิดชอบออกสำรวจภาชนะเก็บกักน้ำตามหมู่บ้านต่างๆ ทุกหมู่บ้าน โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก คาดว่าทางจังหวัดจะประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติในเร็วๆ นี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตะลึงร้อยพวง4ศพ-ลอยทะเล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.เชิงชัย มหศักดิ์สุนทร สารวัตรเวร สภ.ปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง

    รับแจ้งจากนายกิติพงษ์ โกยวานิช รองหัวหน้าชุดกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ ว่าชาวประมงพบศพลอยน้ำอยู่ในทะเลอันดามัน ใกล้กับเกาะช้าง ม.2 ต.เกาะพยาม อ.เมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ลงเรือเร็วไปตรวจสอบบริเวณที่รับแจ้งแล้ว จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และไปรอชันสูตรพลิกศพ ร่วมกับแพทย์เวร ร.พ.ระนอง

    เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิไปถึงพบศพลอยน้ำอยู่ 1 ศพ ในสภาพขึ้นอืด เริ่มเน่าเปื่อยใส่กางเกงยีนส์สีเขียว ในลักษณะมือถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกไนลอน

    แต่เมื่อดึงศพขึ้นจากน้ำต้องตะลึงเมื่อพบว่ามีเชือกผูกศพติดกันอีกถึง 3 ศพ รวมเป็น 4 ศพ เป็นผู้ชายล้วน โดยศพที่ 2 ใส่กางเกงยีนส์สีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว ศพที่ 3 ใส่เสื้อเชิ้ตสีม่วง มีรอยสักรูปผู้หญิงที่หน้าอก และศพที่ 4 ใส่กางเกงยีนส์แต่ไม่ใส่เสื้อ ทุกศพมีบาดแผลที่ศีรษะและลำตัว และมัดมือไพล่หลังด้วยเชือกไนลอน เอาหินถ่วงไว้ จึงช่วยกันนำศพขึ้นมาบนเรือ แล้วไปชันสูตรพลิกศพที่ร.พ.ระนอง ตรวจสอบในตัวศพแรกพบเงินไทยจำนวน 100 บาท และเงินพม่า 300 จ๊าต แต่ในตัวไม่พบหลักฐานใด

    จากการชันสูตรของแพทย์ ระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เนื่องจากศพเน่าเปื่อยแล้ว บางศพศีรษะเกือบหลุดจากลำคอ ตามลำตัวและศีรษะมีรอยบาดแผลเป็นรูหลายจุด คล้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืน

    พ.ต.ท.เชิงชัยกล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าศพทั้ง 4 คนเป็นใคร เพราะไม่พบหลักฐานในตัว แต่คาดว่าน่าจะเป็นแรงงานต่างด้าว อาจจะเป็นลูกเรือประมง หรืออาจจะถูกฆ่ามาจากที่ไหนสักแห่ง แล้วนำมาโยนทิ้งทะเล โดยผูกมัดมือไพล่หลังติดกันเป็นพวง ส่วนชนิดของอาวุธต้องรอการยืนยันจากแพทย์อีกครั้งหนึ่ง จะได้สืบสวนว่าศพทั้ง 4 เป็นใครมาจากไหน เพื่อหาผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฮ.บินสำรวจอ่าวไทย พบกากของเสียรอบแท่นฐานขุดเจาะ “นิวคอสตอล” </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 กุมภาพันธ์ 2553 16:54 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ทัพเรือภาค2 นำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจทะเลอ่าวไทย พบว่าฐานขุดเจาะน้ำมันของบริษัทนิวคอสตอลฯ ห่างฝั่งราว 30 ไมล์ทะเล พบสิ่งแปลกปลอมกระจายเกลื่อน เตรียมนำเรือออกสำรวจเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

    หลังจากที่พบกากของเสียคล้ายน้ำมันดิบ ถูกขึ้นซัดขึ้นมาบนชายหาดในพื้นที่ จ.สงขลา ทั้งบริเวณชายหาดแหลมสมิหลาและหมู่บ้านชาวประมงใน ต.ดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา

    ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้(22 ก.พ.) พลเรือตรีณรงรัตน์ โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2 นำเฮลิคอปเตอร์พร้อมสื่อมวลชนขึ้นบินสำรวจพื้นที่ทะเลอ่าวไทย และบริเวณโดยรอบของฐานขุดเจาะน้ำมันของบริษัทนิวคอสตอล (ประเทศไทย)จำกัด ซึ่งอยู่ห่างฝั่งราว 30 ไมล์ทะเล

    ผลปรากฎว่า น้ำทะเลบริเวณฐานขุดเจาะน้ำมันรวมทั้งโดยรอบของทะเลอ่าวไทย มีสิ่งแปลกปลอมปนเปื้อนทำให้ผิวน้ำมีสีเหลืองขุ่นมัว และใต้ผิวน้ำมีสีดำ กระจายตัวหลายจุดจนถึงชายฝั่ง แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าสิ่งแปลกปลอมที่เจอปนในทะเล เป็นชนิดใดและเป็นต้นเหตุที่ส่งผลกระทบต่อชายหาดหรือไม่

    โดยหลังจากนี้ทางทัพเรือภาค 2 จะนำข้อมูลทั้งลักษณะของสิ่งแปลกปลอมและพื้นที่ที่กระจายตัวในทะเลอ่าวไทย ไปรายงานให้ทางจังหวัดสงขลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ พร้อมกับจะนำเรือออกสำรวจเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000025565
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2010
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เนปาลประท้วงชูกษัตริย์คืนบัลลังก์

    [​IMG]

    กลุ่มสนับสนุนราชวงศ์เนปาล ชุมนุมประท้้วง หนุนจัดประชามติ ชูกษัตริย์ คืนบัลลังก์ หลังถูกยุบเมื่อปี 2551แล้วเปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน ว่า การชุมนุมประท้วงของกลุ่มผู้สนับสนุนราชวงศ์เนปาลราว 500 คน นำโดยพรรคราชตรียา ประชาตันตระ พาร์ตี้-เนปาล (อาร์พีพี-เอ็น) ทำให้กรุงกาฐมาณฑุเป็นอัมพาต เมื่อ 22 ก.พ. เหตุเกิด หลังราชวงศ์เนปาล อายุ 240 ปี ถูกยุบเลิกในปี 2551 เมื่อพรรคเหมาอิสต์ ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ชนะเลือกตั้งได้ครองอำนาจ และบังคับให้กษัตริย์คยาเนนทรา สละราชบัลลังค์ เปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้จัดการลงประชามติย้อนหลัง ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินในเรื่องนี้

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ฝนกระหน่ำอินโด ไร้ที่อยู่กว่าพันคน แต่ยังไม่มีรายงานคนเจ็บตาย

    [​IMG]

    ที่จังหวัดชวาตะวันตกของอินโด น้ำท่วมขังกว่า 1.5 เมตร เพราะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ชาวบ้านต้องอพยพหนีน้ำหลายพันราย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ว่า ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ที่จังหวัดชวาตะวันตก ของอินโดนีเซีย ส่งผลให้บ้านเรือนหลายร้อยหลังคา ต้องจมอยู่ในน้ำสูงกว่า 1.5 เมตร

    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือ ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ประชาชนหลายพันคน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย และต้องอพยพไปอยู่ที่อื่นจนกว่าระดับน้ำจะลดลงกลับสู่ภาวะปกติ

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    นาโตโจมตีพลาด ฆ่าพลเรือนอัฟกัน ดับอีก 21 ศพ

    [​IMG]

    กองกำลังนาโต โจมตีกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายตาลีบันในอัฟกานิสถานผิดพลาด ประชาชนบริสุทธิ์โดนลูกหลง ดับคารถยนต์ 21 ศพ เจ็บอีก 14 คน...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ว่า กองกำลังนาโตในอัฟกานิสถานซึ่งเร่งกวาดล้างกลุ่มตาลีบันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โจมตีทางอากาศผิดพลาดอีก ทำให้พลเรือนซึ่งอยู่ในรถยนต์หลายคันเสียชีวิต 21 ศพ รวมทั้งเด็กและผู้หญิง มีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 14 คน โดยเหตุเกิดที่จังหวัดอูรุซกันทางภาคกลางวานนี้ (21 ก.พ.)

    ด้านผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯ และนาโต เผยว่า เป้าหมายกวาดล้างกลุ่มตาลีบันต่อไปคือจังหวัดกันดาฮาร์ทางภาคใต้ หลังยึดจังหวัดเฮลมานด์ได้แล้ว ส่วนออสเตรเลียเผยว่า ไม่พร้อมจะทำหน้าที่แทนทหารเนเธอร์แลนด์ในจังหวัดอูรุซกัน หลังความขัดแย้งเรื่องการถอนทหารทำให้รัฐบาลดัทช์ล่มมาแล้ว

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th/oversea
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2010
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หวิดย่างสดทั่วแปดริ้ว สายไฟแรงสูงกฟภ.ขาดฟาดเก๋งบึ้มใกล้ปั๊มน้ำมัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุสายไฟฟ้าแรงสูงระเบิด และตกลงมาใส่รถยนต์ จนเกิดเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย

    ที่บริเวณ ด้านหน้าโรงงาน บริษัทโคโย จอยท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานนำเข้า-ส่งออก ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เลขที่ 172/1 ม.12 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายบางนา-ตราด บริเวณหลัก กม.ที่ 43 จึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ


    เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุโดยรอบพื้นที่เป็นเขตชุมชนเมือง ประกอบด้วยโรงานอุตสาหกรรม ตลาด กิจการร้านค้า และปั้มน้ำมัน

    เลียบกับถนนสายบางนา-ตราด ที่บริเวณใกล้กับประตูรั้วทางเข้าโรงงาน อยู่ห่างจากปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ ประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์เก๋งนิสสัน ซันนี่ สีแดงเลือดหมู ทะเบียน 2ณ-2927 กทม. ซึ่งจอดอยู่ติดกับริมรั้วกำแพงด้านนอกของโรงงาน สภาพล้อยางทั้ง 4 เส้นระเบิดแตกออก กระจกประตูด้านฝั่งคนขับแตกร้าว และที่คานหัวเก๋งด้านหน้าขวา มีร่องรอยของการถูกไฟฟ้าอาร์ค จนเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ประมาณ 5 ซม. ซึ่งโดยรอบคันรถ มีร่องรอยของการฉีดสารเคมีดับเพลิงจนทั่วนอกจากนี้ยังพบสายไฟฟ้าแรงสูงเส้นขนาดใหญ่ ประมาณ 4-5 ซม. แบบมีฉนวนหุ้ม 2 ชั้นห้อยลงมาจากแนวสายไฟฟ้า และหม้อแปลงไฟฟ้าด้านบนจ่อลงมาใส่ตัวรถ


    สอบถาม นายสายยนต์ เหลืองอ่อน อายุ 42 ปี รปภ.ประจำตู้ยามของบริษัท ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า

    เกิดเหตุสายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งอยู่ด้านบนเสาไฟ ใกล้กับหม้อแปลงไฟฟ้าหน้าโรงงาน ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นลูกไฟดวงขนาดใหญ่ และมีเสียงดังสนั่นไปจนทั่วบริเวณ จากนั้นสายไฟฟ้าที่ขาดออกจากกันได้ตกลงไปใส่หลังคารถยนต์ของเจ้าหน้าที่ พนักงานภายในบริษัท ซึ่งจอดอยู่ใต้แนวสายไฟฟ้า จนเกิดเพลิงลุกไหม้ จากนั้นตนพร้อมด้วยเพื่อนเจ้าหน้าที่ รปภ. จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่บุคคลทราบ ก่อนที่จะช่วยกันนำถังสารเคมีดับเพลิงมาฉีดพ่นควบคุมเพลิงเอาไว้ได้


    ขณะที่นางฉวีวรรณ ทับนิล อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบุคคล และนายสุรชัย ทับนิล อายุ 47 ปี ผู้จัดการฝ่ายควบคุมคุณภาพมาตรฐาน สองสามีภรรยา

    ซึ่งเป็นเจ้าของรถได้ออกมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่า ปกติจะนำรถเข้าไปจอดภายในโรงงาน แต่เนื่องจากวันนี้มาทำงานสาย จึงได้นำรถไปจอดไว้ด้านนอกข้างกำแพงรั้ว ใต้แนวสายไฟริมถนน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ขณะนี้ต้องขอดูความเสียหายก่อนว่าเป็นอย่างไร และต้องขอศึกษาดูก่อนว่าจะไปเรียกร้องค่าเสียหายจากใครได้บ้าง


    ด้าน นายยงยุทธ์ สมบูรณ์ถานะ ผู้ช่วยผู้จัดการ การไฟฟ้าฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาบางปะกง กล่าวว่า

    สาเหตุการระเบิดของสายไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากสายสื่อสาร (ทั้งสายเคเบิ้ลทีวี สายโทรศัพท์ สายไฟเบอร์ ฯลฯ) ต่างๆ ที่มีการเดินร่วมอยู่ภายในระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ใกล้กัน จึงทำให้สายไฟช็อร์ตขึ้นภายใต้แรงดันขนาด 22,000 โวลล์ (22 Kv) จึงเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง


    นายยงยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับระบบการส่งจ่ายไฟฟ้าแรงสูงชุดนี้ ได้แปลงลงมาจากระบบไฟฟ้าแรงสูง 115 เควี (115 Kv) จากสถานีไฟฟ้าย่อยบางวัว 2 เพื่อจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าตามบ้านเรือน

    และโรงงานอุตสาหกรรมตลอดแนวถนนสายบางนา-ตราด ด้านฝั่งขาออกในย่านนี้ เรียบไปจนถึงทางแยกเข้าถนนสายมอเตอร์เวย์ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากสาเหตุโหลดเกินแน่นอน เนื่องจากมีการส่งจ่ายไฟฟ้ามาพร้อมกัน 3 วงจร และมีการดูแลระบบให้เกิดบาลานโหลดกันทั้ง 3 วงจรอยู่ตลอด โดยขณะนี้ได้ตัดวงจรที่เกิดปัญหาออกจากระบบไปแล้ว ซึ่งจะไม่ส่งผลกรทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้ามากนักเนื่องจาก ขณะนี้ได้สับจ่ายกระแสไฟฟ้าจากวงจรที่เหลืออยู่อีก 2 วงจรไปให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าแล้ว ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ที่จอดอยู่ใต้แนวสายไฟฟ้านั้น ทางการไฟฟ้าจะรับผิดชอบให้ตามสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สลดสุนัขเฝ้าศพเจ้าของ ไม่ยอมให้เอาไป</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อช่วงดึก วันที่ 22 ก.พ.53 พ.ต.ท.พน ประเสริฐศรี สารวัตรเวรสภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

    ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงภายในหมู่บ้านกรีนวิวล์ 2 บ้านเลขที่ 88/125 หมู่ 9 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้ไปทำการสอบสวนยังบ้านที่เกิดเหตุ

    ภายในบ้านชั้นเดียวในห้องนอนพบศพนางสุนิสา กาญจนลาภา อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้

    ข้างศพมีสุนัขพันธ์ชิสุ อายุประมาณ 3 ปี นอนเฝ้าอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่กำลังจะนำศพห่อส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรสุนัขตัวดังกล่าวก็ไม่ยอมให้นำศพของเจ้าของไปพยายามเห่าไม่ยอมให้จับศพ จนทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องอุ้มสุนัขตัวดังกล่าวออกมาไว้นอกห้อง จึงห่อศพนำออกจากบ้านเพื่อส่งโรงพยาบาลอ่าวอุดม


    เพื่อนบ้านหลังติดกันได้ให้การว่าผู้ตายไม่ได้ออกจากบ้านมา 3 วันแล้ว และไฟในบ้านและนอกบ้านเปิดทิ้งไว้

    กระทั่งมีกลิ่นโชยออกมาจึงได้แจ้งหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาปืนประตูรั้วเข้าไปมองลอดหน้าต่างเข้าไปก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางตำรวจกล่าวว่าต้องรอผลชันสูตรจากทางแพทย์อีกครั้งจึงจะลงบันทึกสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สุดทนส่วยซ่อนรูปสิบล้อฮือประท้วงหัวปิงปอง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ตำรวจจราจรกลางเจอพิษ “ส่วยซ่อนรูป” ถูกผู้ประกอบการขนส่งทางบกนำขบวน “คอนวอย” พร้อมทั้งรถโดยสารและรถทัวร์

    ปิดถนนบางนา-ตราด กม.4 ขาเข้า ประท้วงที่ตั้งด่านตรวจจับควันดำ-เสียงดัง ถี่ยิบถึง 4 จุด ในระยะทาง 10 กม. หวังออกใบสั่งทำยอดรางวัลนำจับที่หักจากค่าปรับ 70-75% แม้แต่รถบรรทุกใช้แก๊สเอ็นจีวีไร้ควันยังโดนบังคับเหยียบคันเร่งจนมิดแช่ไว้นานเอาผิดจนได้ ร้องรัฐบาลเร่งแก้ไข ไม่เช่นนั้น 15 มี.ค.นี้ นำสิงห์รถบรรทุกบุกปิดล้อม บก.จร.แน่ ด้านประธาน กมธ.คมนาคม รับเป็นเจ้าภาพจัดเวทีพิสูจน์ความจริง จร.เก็บส่วย

    ที่ กม.4 ถนนบางนา-ตราด ขาเข้า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ก.พ. สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย

    ที่มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการขนส่งทางบกทั่วประเทศไทย 13 สมาคม และ 4 ชมรม ได้นำรถบรรทุก รถพ่วง รถเครน รถโดยสาร และรถทัวร์ 300 คัน จอดปิดถนนบางนา-ตราด ขาเข้า ช่วง กม. 4 จำนวน 2 ช่องทางเดินรถ เป็นทางยาว 3 กม. เพื่อประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลางตั้งด่านตรวจจับควันดำและเสียงดังซ้ำซาก สร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการรถบรรทุกทั่วประเทศ ซึ่งการกระทำที่เกิดขึ้นเสมือนหนึ่งส่วยซ่อนรูป

    สำหรับบรรยากาศการประท้วงเป็น ไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่ส่งผลกระทบ ด้านการจราจร


    โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้จัด รถบรรทุก 6 ล้อติดตั้งเครื่องเสียงจอดหน้า อาคารเนชั่นทาวเวอร์ โดยแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยโจมตีการตั้งด่านตรวจควันดำและเสียงดังของตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ที่ตั้งด่านตรวจจับควันดำและเสียงดังแบบถี่ยิบ โดยในระยะทาง 10 กม. มีด่านตรวจแบบเดียวกันถึง 4 ด่าน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ฯ เปิดเผยว่า พวกเราได้รับความเดือดร้อนจริง ๆ จึงมารวมตัวกันด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม

    จากการกระทำของตำรวจบางนายที่ทำยอดตรวจจับเขียนใบสั่งปรับรถบรรทุกควันดำและเสียงดังนำไปแลกกับเงินนำจับ 70-75 เปอร์เซ็นต์ โดยการตรวจควันดำและเสียง ดังไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการร่วมตรวจ ขณะเดียวกันเครื่องมือที่ใช้ก็เก่าเก็บไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่ส่วนใหญ่รถบรรทุกของผู้ประกอบการทุกคนมีการตรวจสภาพอยู่ตลอด

    โดยเฉพาะรถบรรทุกที่ติดตั้งแก๊สเอ็นจีวีรับรองว่าไม่มีควันดำแน่นอน แต่ตำรวจจราจรกลางเมื่อตรวจเสียงดังจะให้เหยียบคันเร่งจนมิดแช่ไว้นาน ๆ


    เพื่อต้องการให้เกิดเสียงดังหรือควันดำให้ได้ และไม่ใช่แค่ ผู้ประกอบการรถบรรทุกที่ได้รับความเดือดร้อน ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ และผู้ประกอบการรถตู้ ก็จะเข้าร่วมประท้วงกับพวกเราด้วย และพวกตนยังมีพยานหลักฐาน มีคลิปวิดีโอการรับเงิน หรือส่วยของตำรวจที่ตั้งด่านด้วย

    “เราเคยยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมหลายครั้ง และส่งหนังสือร้องเรียนไปยัง บก.จร. แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า พวกเรารอไม่ไหว ทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงต้องออกมารวมตัวแสดงพลังเรียกร้องความถูกต้อง และต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการรับส่วยซ่อนรูปของตำรวจ วันนี้รัฐบาลต้องส่งตัวแทนมารับหนังสือร้องเรียนกับพวกเราที่นี่ ไม่เช่นนั้นจะประท้วงต่อไปอย่างไม่มีกำหนดสลายตัว และพวกเราจะไม่เชื่อคำพูดของผู้ใหญ่ใน บก.จร.อีกแล้ว” นายอภิชาติ กล่าว

    ต่อมา เมื่อเวลา 10.50 น. วัน เดียวกัน นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ส.ว. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการคมนาคมขนส่งทางบก วุฒิสภา

    ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนกับผู้ประท้วง พร้อมกับกล่าวว่า วุฒิสภามีความจริงจังและจริงใจในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา โดยจะเป็นเจ้าภาพจัดเวทีเพื่อท้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ให้ทุกคนทุกฝ่ายนำพยานหลักฐานทุกชิ้นที่มีไปพิสูจน์กัน เราจะเอาจริงเรื่องการตรวจสอบเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย หาช่องโหว่ของกฎหมายมารังแกประชาชน ส่วนอุปกรณ์ ตรวจควันดำและเสียงดังของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร้องเรียนด้วยว่าไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีผู้ชำนาญการร่วมตรวจ จะมีการตรวจสอบอุปกรณ์เช่นกัน ว่ามีขั้นตอนวิธีการตรวจอย่างไร ระดับขนาดไหนถึงเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด

    หลังจากนั้นกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งทางบกได้สลายตัวแยกย้ายกันไปในตอนเที่ยงวันเดียวกันนี้

    พร้อมกับกำชับด้วยว่า ถ้าหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะ บก.จร. ไม่ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขปัญหานี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มี.ค.นี้ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะนำสมาชิกขับรถบรรทุกไปเยี่ยมถึง บก.จร. ถนนวิภาวดี รังสิต แน่นอน

    พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ประกอบการขนส่งทางบกปิดถนนประท้วงกล่าวหาตำรวจ บก.จร. ตั้งด่านเก็บส่วยซ่อนรูป

    เรื่องการเรียกเก็บส่วยน่าจะเกิดจากตัวบุคคลมากกว่าที่จะทำกันเป็นขบวนการ เพราะเรื่องนี้เคยกำชับให้ทำงานด้วยความสุจริตไปหลายครั้งแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้สั่งให้ ผกก.ทุกหน่วยในสังกัด บก.จร. ตรวจสอบความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาว่ามีใครมีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่

    ส่วนการตั้งด่านซ้ำซ้อนที่ผ่านมา พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. ได้เรียกประชุมเพื่อปรับปรุงการตั้งด่านในพื้นที่ให้เป็นระบบไม่ซ้ำซ้อน

    ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำลงปฏิบัติในพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องแก้ไขโดยภาพรวม ซึ่งจะต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และ บก.ทล. เพื่อลดปัญหาการตั้งด่านซ้ำซ้อนในพื้นที่ที่เป็นรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งนี้ หากประชาชนพบพฤติกรรมตำรวจจราจรมีความประพฤติไม่เหมาะสมให้จดหมายเลขที่หมวกแล้วโทรฯแจ้งได้ที่ โทร.1197.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หลากทฤษฎีที่อธิบายความแปรปรวน
    โดย พัชรพิมพ์ เสถบุตร

    [​IMG]

    ความผันแปรของสภาพภูมิอากาศ จนก่อให้เกิดเป็นหายนภัยและภัยธรรมชาติ สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก มีสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร? หลากหลายทฤษฎีพยายามแสวงหาคำตอบให้กับคำถามนี้ แต่คำถามที่ว่าเราควรเชื่อทฤษฎีของใครดี? ยังมีความสำคัญน้อยกว่าคำถามที่ว่า "แล้วนับจากนี้ เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร?"

    ในยามที่ประเทศต่างๆ เกิดสภาพภูมิอากาศปรวนแปรและภัยพิบัติต่างๆ ไปทั่วโลกเช่นนี้ คนส่วนใหญ่มักคิดไปถึงภาวะโลกร้อน อันมีสาเหตุมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากเกินไป

    เมื่อเร็วๆ นี้ นานาประเทศก็ได้ร่วมมือกันเจรจาตกลงหาทางแก้ไขภาวะโลกร้อน ทั้งการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวรับผลกระทบ ในขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์ นักดาราศาสตร์ บางกลุ่มก็มีความเห็นต่าง พวกที่มีความเห็นแย้งนี้ก็มีเหตุผลข้อมูลสนับสนุนหนักแน่นเช่นเดียวกัน โดยอ้างว่า

    "โลกร้อนอันเกิดจากการกระทำของมนุษย์ มิใช่สาเหตุแท้จริงของภาวะภูมิอากาศที่ปรวนแปรอยู่ในขณะนี้ มูลเหตุที่มีผลมากกว่า คือการที่แกนของโลกเบี่ยงเบนไปจากปกติ ร่วมกับวงโคจร ของโลกรอบดวงอาทิตย์เปลี่ยนไป ทำให้ปริมาณรังสีจากดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกเปลี่ยนไปด้วย"

    ข้อมูลดังกล่าวจริงเท็จแค่ไหน ประชาชนตาดำๆ อย่างเราก็ควรจะฟังหูไว้หู รับฟังไว้ทั้งสองด้าน ก่อนที่จะปลงใจเชื่อฝ่ายใดเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพราะจริงๆ แล้วทุกฝ่ายก็ใช้ข้อมูลสถิติ ที่ต่างฝ่ายต่างเก็บเอามาวิเคราะห์ โดยยังไม่สามารถพิสูจน์สรุปความเป็นมาได้แน่ชัด

    ภาวะโลกร้อนจากการกระทำของมนุษย์
    (Anthropogenic global warming, AGW)

    ในช่วงทศวรรษ 1970 Carl Sagan นักฟิสิกส์ นักพูด นักเคลื่อนไหวชาวอเมริกัน เป็นผู้ที่เริ่มออกมาพูดถึงภาวะเรือนกระจกและโลกร้อน ที่มนุษย์ทั่วโลกปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาในปริมาณที่สูงเกินปกติ

    ตามด้วยคณะรัฐบาลของ Clinton นโยบายสำคัญอันหนึ่งในยุคนั้นคือการลดการ ใช้เชื้อเพลิง รักษาสิ่งแวดล้อม เท่าที่จะทำได้โดยความสมัครใจ มีการลดภาษีและการเสนอ วิธีการซื้อขายคาร์บอน Al Gore รองประธานาธิบดีเป็นผู้นำออกมาเคลื่อนไหว เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน จนมีหนังสือและสารคดีออกมาชื่อ An Inconvenient Truth ซึ่งต่อมาในปี 2006 Al Gore ก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

    Al Gore ได้เชื่อมโยงภัยคุกคามของภาวะโลกร้อนเข้ากับประเด็นทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม ชี้แนะว่าภัยจากภาวะโลกร้อนนั้นจะรุนแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์เสียอีก

    แน่นอน! จะต้องมีผู้ออกมาคัดค้าน รัฐบาล George W.Bush เห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก ไม่ต้องการให้เรื่องนี้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จึงปฏิเสธความร่วมมือกับนานาประเทศ ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซออกมามากที่สุดจนเป็นปัญหากันอยู่ทุกวันนี้

    ส่วนนักดาราศาสตร์กลุ่มที่เชื่อเรื่อง Ice Age ก็ออกมาแย้งข้อมูลหลักฐานที่อ้างขึ้นมาโดยกลุ่มโลกร้อน ว่าเป็นการวิเคราะห์ที่สรุปความสั้นไป เร็วไป จำเป็นต้องมองย้อนกลับไปถึงความเป็นมาของโลกให้ไกลกว่านั้น

    ประเด็นที่กำลังร้อนแรงอยู่บนเวทีโลกอยู่ขณะนี้คือ ภูมิอากาศที่แปรผันผิดฤดูกาล ปริมาณความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศที่สูงขึ้นๆ อย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ทั้งหมดนี้มีความสัมพันธ์ร่วมกันจริงหรือ มากน้อยแค่ไหน

    ดูเหมือนว่านักวิทยาศาสตร์ทุกๆ ฝ่ายได้อ้างผลการวิจัยจากก้อนน้ำแข็งขั้วโลก ฝ่ายที่เชื่อภาวะเรือนกระจก หรือ AGW ก็มีข้อมูลหนาแน่น ได้มีการตรวจวัดอุณหภูมิและปริมาณคาร์บอนในบรรยากาศ เปรียบเทียบกับความเป็นมาในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเห็นชัดว่าเป็นกราฟอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติสอดคล้องกับปริมาณคาร์บอนได ออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งสรุปได้อย่างแน่ชัดว่าเป็นการกระทำของมนุษย์

    UN จึงออกมาเรียกร้องเตือน ให้ชาวโลกหยุดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ

    คณะกรรมการวิชาการระหว่างประเทศขององค์การสหประชาชาติ หรือ IPCC ยังออกมาคาดการณ์ผลกระทบและหายนภัยต่างๆ ออกมามากมาย โดยอ้างผลการวิเคราะห์แสดงอุณหภูมิของโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สัมพันธ์กับปริมาณคาร์บอนในบรรยากาศที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน แต่เมื่อพิจารณาโดยละเอียดกราฟแสดงอุณหภูมิที่สูงขึ้น สะดุดลงด้วยสภาวการณ์ฤดูหนาวในซีกโลกด้านเหนือที่หนาวเย็นผิดปกติในปี 2007, 2008 และ 2009 ที่เพิ่งผ่านมา หิมะที่ตกมากผิดปกติ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ของ IPCC ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้แจ้งชัด

    ความเห็นต่าง...
    โลกกำลังย่างเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง?

    กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนทฤษฎีแกนโลกเอียงดังกล่าวข้างต้นก็ประกาศว่า โลกกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะทำให้โลกเย็นลงมิใช่ร้อนขึ้น การหมุน เวียนเปลี่ยนจากยุคน้ำแข็ง (Ice Age) และยุคอบอุ่น (warm interglacial age) เกิดขึ้นเป็นวัฏจักรทุกๆ 100,000 ปี โดยมีสาเหตุมาจากแกนโลกเอียง ส่วนที่ผ่านมาในช่วง 12,000 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน โลกอยู่ในช่วง interglacial warm period และในอนาคตอันใกล้ ช่วงอบอุ่นกำลังจะสิ้นสุดลง

    หากเป็นเช่นนั้นจริง ไฉนบรรยากาศของโลกจึงร้อนขึ้นๆ เช่นนี้ นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้อธิบายว่า โลกร้อนขึ้นเพราะ "การเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง โลกจะเปลี่ยนถ่ายความร้อนสู่น้ำในมหาสมุทร ทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้น เมื่อน้ำทะเลร้อนขึ้นก็จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาสู่บรรยากาศมากขึ้นและทำให้กระแสน้ำทะเลระหว่างมหาสมุทร ต่างๆ ปรวนแปร"

    หลักฐานที่สนับสนุนความเชื่อนี้ได้มาจากแกนน้ำแข็งขั้วโลก ตะกอนก้นมหาสมุทร ลักษณะทางธรณีวิทยาของชั้นหิน และฟอสซิลของซากพืชซากสัตว์โบราณ ข้อมูลยังบ่งชี้ว่า Ice Age ปรากฏอยู่ถึง 100,000 ปี ส่วนยุคอบอุ่น (interglacial warm age) มีระยะเวลาอยู่เพียง 12,000 ปี ความเชื่อนี้เริ่มมาจากการสังเกตของนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสในปี 1842 และมีนักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษค้นคว้าเพิ่มเติม จนมีการสรุปเป็นทฤษฎี ซึ่งเป็นที่เชื่อถือกันในหมู่นักดาราศาสตร์และนักวิชาการด้านภูมิอากาศ

    นักดาราศาสตร์ในกลุ่มนี้ยอมรับว่าทฤษฎีนี้ตั้งอยู่บนเงื่อนไขว่า ปัจจัยต่างๆจะต้องเป็นไปตามวัฏจักรธรรมชาติที่เป็นไปในระยะยาวเป็นหมื่นเป็นแสนปี มิใช่การผันผวนในระยะสั้นๆ เพียงร้อยปีพันปีและที่สำคัญคือ มิใช่เกิดจากการกระทำที่บิดเบือนธรรมชาติของมนุษย์ หากเป็นไปตามวัฏจักรธรรมชาติ ในอีกไม่ถึงร้อยปีข้างหน้า โลกจะมีภูมิอากาศหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ และจะเกิด glacier ขึ้นทั่วไปในซีกโลกส่วนเหนือ (northern hemisphere)

    แล้วเราจะเชื่อฝ่ายไหนดีล่ะ

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้เชื่ออย่างมีเหตุผล ถ้าต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล หนักแน่นแล้วเราจะเชื่อใครดีเล่า?... น่าจะ เชื่อตัวเราเองมากที่สุด โดยรับฟังข้อมูลทุกๆ ด้านและสรุปจากสิ่งที่เราเห็น เราประสบจริง

    ในสายตาของคนภายนอกวงการ เมื่อประมวลเหตุผลข้อมูลหลายๆ ด้านดูแล้ว เหตุผลข้อมูลทั้งสองด้านก็ไม่ได้ขัดแย้งกันทีเดียว น่าเชื่อถือด้วยกันทั้งสองฝ่าย ด้วยเห็นกันอยู่ชัดๆ แล้วว่า สภาพแปรปรวนต่างๆ เกิดขึ้นจริง แต่สาเหตุที่แท้จริงยังไม่มีฝ่ายใดบอกได้ชัด และมีกี่ส่วนที่เกิดจากภาวะโลกร้อน!

    ฝ่ายที่สนับสนุนภาวะโลกร้อนจากการกระทำของมนุษย์ (AGW) มองภาวการณ์อยู่ในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างจะมองแคบและมองสั้นไปหน่อย เมินเฉยต่อประวัติ อันยาวนานของโลกเมื่อหลายล้านปีก่อน ซึ่งเป็นรากฐานของสภาพภูมิอากาศโลกในปัจจุบัน

    ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนวัฏจักรทางดาราศาสตร์หรือยุคน้ำแข็ง ก็ออกจะมองกว้างและไกลเกินไป จนมองข้ามสภาวการณ์ปัจจุบันที่มนุษย์ทำลายระบบธรรมชาติจนเสียสมดุล

    การมองย้อนกลับไปไกลๆ ทำให้เราเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างแท้จริง พุทธศาสตร์กล่าวถึงการเปลี่ยน แปลงของโลกไว้ว่า ได้ผ่านมาหลายกัปหลายกัลป์ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ก็ผ่านมาหลายภพหลายชาติจนนับไม่ถ้วน

    กราฟข้อมูลจากสถานีวิจัย Vostok ของรัสเซียที่ขั้วโลกใต้ มุ่งวิจัยประวัติความเป็นมาจากแกนน้ำแข็ง โดยดูถึงอุณหภูมิบรรยากาศโลก ความเข้มข้นของคาร์บอน และอนุภาคต่างๆ ในบรรยากาศ เมื่อ 420,000 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้แสดงให้เห็นยุคน้ำแข็งที่ผ่านมาและช่วงอบอุ่นเป็นวัฏจักรทุกๆ 100,000 ปี ในทำนองเดียวกับกราฟ EKG ที่แสดงการเต้นของหัวใจ

    ข้อมูลยังบ่งชี้ว่า ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์จะสูงขึ้นตามหลังการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลกถึง 800 ปี จึงมิใช่เป็นเพราะระดับคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้น ทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นตามมา อย่างที่เข้าใจกันในปัจจุบัน

    หรือพูดง่ายๆ ว่า คาร์บอนไดออก ไซด์มิใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ในทางตรงข้าม อุณหภูมิอากาศที่สูงขึ้นต่างหากเป็นเหตุให้ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้น

    นอกจากนั้นยังมีกระแสความเชื่อของนักดาราศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่ง ที่เฝ้าสังเกตความเป็นไปของดวงอาทิตย์ ปัจจุบันพบว่าปฏิกิริยาของ sunspots บนพื้นผิวของดวงอาทิตย์นั้นรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณแสงและรังสีจากดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกร้อนแรงขึ้นประมาณ 0.1% จากที่เคยเป็นมาเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว นักวิชาการกลุ่มนี้ชี้ว่าปฏิกิริยา sunspots ดังกล่าวทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นได้ แต่จะมากน้อยแค่ไหนยังไม่มีใครสรุปออกมาได้ ส่วนใหญ่เชื่อว่ามีผลเพียงเล็กน้อย

    ถ้าเรามองสถานการณ์อย่างคนธรรมดาทั่วไป ก็ย่อมรู้สึกได้ว่าภูมิอากาศผิดปกติที่เราสัมผัสกันอยู่ทุกวันนี้ น่าจะมาจากการทำลายธรรมชาติของมนุษย์เป็นแน่ ดังนั้น ถ้า เราเพลาๆ กิจกรรมต่างๆ ลงบ้างด้วยการประหยัดน้ำมัน ลดการตัดไม้ทำลายป่า ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือยก็ย่อมทำให้สภาพการณ์ดีขึ้นได้เป็นแน่

    ถึงอย่างไร โลกก็ยังต้องหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัฏจักร และสรรพสิ่งในโลกก็ต้องเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ที่แห่งใดมีกรรมดีอยู่มาก ก็คงหลุดพ้นจากบ่วงหายนภัย ฉะนั้นการทำกุศลกรรม เช่น รักษาสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ สัตว์ป่า มีความพอเพียง ย่อมนำไปสู่ความสุขความสงบพ้นภัยได้บ้าง

    การที่เราจะตระหนักได้เช่นนี้ ประชาชนทั่วไปจำเป็นต้องมีความรู้และมิใช่เรียนรู้จากโลกภายนอก ที่องค์กรหรือสื่อจากต่างประเทศบอกแก่เราเพียงฝ่ายเดียว แต่คนไทยเราต้องเรียนรู้จากความเข้าใจสภาพการณ์ในประเทศของเราเองด้วย ด้วยความร่วมมือของทุกๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน จะต้องช่วยกันแสวงหาความรู้ความคิดริเริ่ม ลงมือปฏิบัติด้วยตัวของเราเอง จึงจะก้าวไปได้อย่างมั่นคง ไม่จำเป็นต้องหวังพึ่งพาภาครัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว

    ผู้เขียนอยากเห็นเมืองไทยมีเวทีเสวนาเรื่องวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น อยากเห็นคนไทยตื่นตัวและมีความคิดเห็นของตนเองบนพื้นฐานของเหตุผลและวิทยาศาสตร์มากขึ้น มากกว่าที่จะเชื่อตามที่องค์กรต่างๆ ระหว่างประเทศเผยแพร่ออกมาไปเสียทั้งหมด ด้วยประเทศไทยควรรู้จักตนเองให้ดีที่สุด เพื่อสร้างจุดยืนของตัวเราเองในการเสริมสร้างเศรษฐกิจสังคมที่เหมาะสมกับประชาชนคนไทย

    นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา กุมภาพันธ์ 2553

    ที่มาhttp://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=85002
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  16. TREETORN

    TREETORN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +199
    สิ่งที่ทำให้โลกร้อนขึ้น แถวบ้านผมก็คงเป็นเรื่องของปัญหาหิมะดำ จากการเผาอ้อย ปลิวมาทุกวันกวาดกันจนเบื่อ รัฐบาลก่อน ๆ เคยจะจัดการกับผู้เผาไร่อ้อยแต่ก็เงียบหายไป เผากันเป็น พัน ๆ ไร่ นอกจากนี้ยังมีปัญหาสารเคมีจากไร่อ้อยอีกพืชชนิดอื่น ไม่สามารปลูกใกล้ไร่อ้อยได้เลย ตายหมด รีบเผากันเยอะ ๆ จะได้เปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติกันซะที
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สธ.เยียวยาครอบครัว ขรก.ที่ถูกสุนัขบ้ากัดตาย

    [​IMG]

    อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลงพื้นที่เยียวยาครอบครัวข้าราชการที่ถูกสุนัขบ้ากัดเสียชีวิต หลังพบว่าสภาพจิตใจเครียด และถูกกดดันจากการสูญเสียภรรยา และลูกชายยังถูกสุนัขบ้ากัดด้วย
    นายแพทย์นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้นำคณะลงพื้นที่เยียวยาสภาพจิตใจของครอบครัวข้าราชการซี 7 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หลังถูกสุนัขบ้าที่ตนเองเพาะเลี้ยงเพื่อจำหน่ายในจตุจักรกัดจนเสียชีวิต ซึ่งล่าสุดทางครอบครัวก็ยังวุ่นวายกับการเตรียมงานศพของข้าราชการรายนี้ จึงไม่พร้อมที่จะให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพ และสัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันผ่านอธิบดีกรมสนับสนุนฯ ว่ามีความเครียดอย่างหนัก และความเศร้ากับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้สังคมซ้ำเติม

    เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ที่สำคัญผู้เป็นสามี และลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก็ถูกหมาบ้าพันธุ์ร็อตไวเลอร์กัดด้วย และหลังจากที่ภรรยาเสียชีวิตก็ได้ไปพบแพทย์ ซึ่งได้ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเป็นเข็มที่ 2 แล้ว โดยต้องฉีดจนครบ 5 เข็ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ลูกชายของตนจะสอบปลายภาคในสัปดาห์หน้า และต้องมาสูญเสียผู้เป็นมารดาไปกระทันหัน สภาพจิตใจย้ำแย่มากที่สุด จึงไม่ขอเปิดเผยข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น

    นายแพทย์นรา ระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้นต้องรอกองสอบสวนโรค และปศุสัตว์ กทม.เข้ามาตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เนื่องจากทั้งคู่ ซึ่งเป็นสามีภรรยามีความชำนาญในเรื่องการดูแลสัตว์เป็นอย่างดี และทำอาชีพเพาะพันธุ์สุนัขขายมากว่า 10 ปีแล้ว ที่สำคัญผู้เสียชีวิตก็เป็นเจ้าหน้าที่กองสุขศึกษา ส่วนผู้เป็นสามีก็มีความรู้เรื่องเทคนิคการแพทย์ จึงไม่น่าจะผิดพลาดใดๆ และก็ยืนยันแล้วว่าสุนัขที่เพาะเลี้ยงทั้งหมดได้ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าไปแล้ว แต่ทำไมถึงเกิดเหตุการนี้ขึ้น ซึ่งต้องลงลึกว่าวัคซีนหมดอายุ หรือฉีดวัคซีนไม่ถูกจุด หรือวัคซีนมีข้อบกพร่องด้านใด

    อย่างไรก็ตามนายแพทย์นรา ยังย้ำว่าสุนัขที่เพาะพันธุ์ขายของครอบครัวนี้ประกอบด้วย 1.พุดเดิ้ล 2.โกลเด้นรีทีฟเวอร์ 3.ร็อตไวเลอร์ 4.อัลเซเชี้ยน-ซึ่งผู้เป็นสามีไม่สามารถตอบได้ว่าหลังจากภรรยาถูกลูกสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์กัดตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 ก่อนและหลังหน้านี้ได้จำหน่ายพันธุ์สุนัขไปกี่พันธุ์ และขายไปแล้วกี่ตัว เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดของการขายอยู่ที่ภรรยา คือผู้เสียชีวิต จึงไม่แน่ใจว่าสุนัขที่จำหน่ายไปมีจำนวนเท่าไร เนื่องจากผู้เป็นสามีต้องเดินทางขึ้นลงต่างจังหวัดตลอดเวลา

    นายแพทย์นรา ระบุว่าโรคพิษสุนัขบ้าเชื้อจะอยู่ในร่างกาย และแสดงอาการได้ช้าที่สุดภายใน 1 ปี ขึ้นอยู่กับว่าสุนัขที่กัดกัดอยู่ในตำแหน่งใด ถ้ากัดบริเวณแก้มก็จะเสียชีวิตรวดเร็ว เพราะอยู่ใกล้เส้นประสาท เพราะเชื้อนี้พิษจะแล่นเข้าสู่เส้นประสาทไปยังสมอง ซึ่งผู้ตายโดนกัดที่แขน และไม่ถูกจุดสำคัญ การแพร่กระจายของเชื้อจึงใช้เวลานาน บางคนถูกกัดไปแล้วครึ่งปีพึ่งแสดงอาการก็มี เชื้อพิษสุนัขบ้างจะกระจายได้ 90 วัน ถึง 1 ปี

    จึงเตือนประชาชนไม่ใช่เชื้อจะแพร่กระจายภายใน 7 วันแล้วเสียชีวิต แต่สามารถเพาะอยู่ในร่างกายได้นาน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ถูกกัด และบาดแผลที่ลึก พร้อมย้ำสุนัขอาจจะแสดงอาการได้รวดเร็ว คนที่ถูกกัดก็จะแสดงอาการรวดเร็วเหมือนกับสุนัขบ้าเช่นกัน ประชาชนที่ซื้อสุนัขจากร้านผู้เสียชีวิตไป แม้จะไม่มีอาการที่แสดงออกก็ควรที่จะพบแพทย์ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือผลกระทบเกิดขึ้นอย่างข้าราชการรายนี้

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    สธ.สั่งฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าฟรี

    [​IMG]

    รมต.สธ. สั่งทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้พิจารณาการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเป็นเรื่องฉุกเฉิน ประกาศให้ฉีดฟรีทั้ง 5 เข็ม หลังถูกประชาชนร้องเรียน

    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าขณะนี้ กทม.ยังไม่ส่งตัวอย่างวัคซีนพิษสุนัขบ้าที่เจ้าของคอกสุนัขซึ่งเป็นขรก.สาธารณสุขถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้กัดจนเสียชีวิตมาให้กระทรวง ซึ่งหากนำมาให้จะใช้วิธีตรวจสอบ 2 แนวทาง คือ 1.ดูว่าวัคซีนได้มาตรฐานหรือไม่ โดยส่งให้กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ 2.ส่งให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนในต่างประเทศว่าใช่วัคซีนที่แท้จริงหรือไม่ ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน

    ส่วนปัญหาการร้องเรียนจากประชาชนว่าไม่สามารถรับบริจาควัคซีนพิษสุนัขบ้าในกรณีฉุกเฉิน และต้องเดินทางมารอรับการบริการกับต้นสังกัด ตามสิทธิของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเท่านั้น นายจุรินทร์ ได้ใช้สิทธิ์คำสั่งฉุกเฉินให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถเดินเข้าออกโรงพยาบาลของรัฐ และสถานีอนามัยทั่วประเทศ สามารถรับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าฟรีทั้ง 5 เข็ม

    ด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย. กล่าวว่าปัญหาของวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าที่ไม่ได้ผลต้องตรวจสอบดูว่าประชาชนที่นำวัคซีนไปฉีดเองให้กับสัตว์เลี้ยงได้ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างกล่องที่เขียนไว้ของแต่ละบริษัทหรือไม่ แม้ว่าสัตวแพทย์จะระบุว่าสามารถฉีดได้ทั้งใต้ผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อ แต่สิ่งที่ให้ผลดีที่สุด ก็คือการฉีดวัคซีนเข้าที่บริเวณกล้ามเนื้อของสัตว์เท่านั้น และหากไม่ใช่ผู้เชียวชาญก็ไม่ควรนำไปฉีดเอง และจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าวัคซีนที่ผู้ตายนำมาฉีดสุนัขเป็นของบริษัทใด ซึ่งกระทรวงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ต้องลงพื้นที่เก็บตัวอย่างนำวัคซีนของบริษัทนี้มาตรวจสอบอย่างชัดเจน ว่ามีมาตรฐานดีพอหรือไม่

    สำหรับการเฝ้าระวังอาการของสามี และลูกชายของผู้เสียชีวิต ขณะนี้แพทย์ยังคงเฝ้าสังเกตอาการ และติดตามผลของครอบครัวนี้อย่างต่อเนื่อง หลังฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าครบ 4 เข็มแล้ววันนี้ ยังเหลืออีก 1 เข็ม ซึ่งเป็นเข็มที่ 5 สุดท้าย ต้องรออีก 90 วัน จึงจะสามารถฉีดได้ เพราะเป็นวัคซีนที่มีฤทธิ์ยาแรงที่สุด และเป็นเข็มสุดท้ายของการฉีดวัคซีนโดยรวม จึงจำเป็นต้องทิ้งช่วงห่าง เพราะไม่ให้เกิดผลข้างเคียง หากฉีดครบ 5 เข็ม โดยไม่มีอาการใดๆ เกิดขึ้นจึงถือว่าครอบครัวนี้ปลอดภัยดี

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ลำพูน-ชาวบ้านแห่นำสัตว์สุนัขและแมวฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

    [​IMG]

    ชาวบ้านในจังหวัดลำพูนแห่นำสัตว์สุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้มาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ป้องกันโรคไว้ไม่ให้เกิดอันตรายในช่วงฤดูร้อน

    ประชาชนในจังหวัดลำพูนเร่งนำสัตว์เอาทั้งสุนัขและแมวที่มีอยู่ในบ้านรีบ เข้ามารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ที่ปศุสัตว์อำเภอพร้อม เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกหน่วยเคลื่อนที่ไปให้บริการประชาชนที่มีสุนัขและแมวเลี้ยงไว้ภายในบ้านของตนเองให้นำออกมาฉีดวัคซีนเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากอากาศร้อนจะทำให้เกิดโรคระบาดได้ เพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

    โดยเฉพาะในช่วงเข้าสู่หน้าร้อน ที่มักจะพบโรคนี้มากในสุนัขและแมว หลังมีข่าวพบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้านแล้วที่กรุงเทพฯทำให้จังหวัดต่างๆ เริ่มกลัวและเร่งป้องกันจึงทำโครงการออกบริการชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ซึ่งในทุกๆ ปีนั้นจะดำเนินการออกหน่วยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่ประชาชน จากเดิมที่จะเริ่มในเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปีเป็นเดือนนี้เป็นต้นไปด้วย

    ส่วนการดำเนินการออกบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้านนี้จะทำการสำรวจประชาชนสุนัขและแมวไปด้วยพร้อมทั้งฉีดให้พวกจรจัดด้วย และบริการตอน ทำหมันให้แก่สัตว์ที่เจ้าของต้องการ เพื่อเป็นการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในชุมชนและลดประชากรสุนัขและแมวซึ่งเป็นพาหะของโรคพิษสุนัขบ้า รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเลี้ยงสุนัขและแมวอย่างถูกวิธี ลดความเสี่ยงของประชาชนจากการถูกสุนัขที่สงสัยหรือเป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด ตลอดจนป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    แม่ฮ่องสอน-หมอกควันไฟป่าเริ่มปกคลุมเมือง

    [​IMG]

    จากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ การแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ประสบผลสำเร็จ ส่งผลให้เกิดควันไฟป่า เริ่มปกคลุมตัวเมืองแม่ฮ่องสอน , อ.ขุนยวม และ อ.ปางมะผ้า คาดว่าในสิ้นเดือนนี้จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพประชาชน

    จากสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างรวดเร็วของปีนี้ ได้ส่งผลให้มีการลอบจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่มีเอกภาพในการเข้าทำการดับไฟป่า เนื่องจากมีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ ระหว่าง หน่วยดับไฟป่า , หน่วยอุทยาน , หน่วยป่าไม้ และ หน่วยอื่น ๆ ทำให้มีการเกิดไฟป่าโดยทั่วไป

    ล่าสุดได้เกิดหมอกควันไฟป่า ลอยมาปกคลุม ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน นอกจากนั้นในพื้นที่อำเภอขุนยวม และ อำเภอปางมะผ้า กำลังประสบกับหมอกควันที่หนาแน่นขึ้นมากขึ้นทุกวันเช่นกัน

    ทั้งนี้คณะแพทย์ของสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า ในสิ้นเดือนนี้ หมอกควันจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างแน่นอน และ ขอเตือนให้ประชาชน ให้ระมัดระวังป้องกันตัวด้วยการสวมหน้ากากอนามัยขณะเดินทางออกนอกเคหะสถานด้วย

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ลำปาง-ร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งสูง 37 องศา

    [​IMG]

    จ.ลำปาง ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวมานาน 3 วันแล้ว ช่วงกลางวันอุณหภูมิสูงสุดถึง 37 องศา นับว่าร้อนที่สุดในภาคเหนือ

    นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปาง จะต้องทนกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวเช่นนี้ต่อไป เนื่องจากขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนแล้ว ซึ่งจะทำให้เกิดความแห้งแล้งในทุกพื้นที่

    พบว่าอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยของจังหวัดลำปางจะอยู่ที่ 32-37 องศาเซลเซียส ในช่วงเวลา 12.00 น.-14.00 น.จะเป็นช่วงที่สภาพอากาศร้อนอบอ้าวมากที่สุด โดยจากการติดตามสภาพอากาศพบว่าจังหวัดลำปางมีอุณหภูมิสูงสุดในภาคเหนือตอนบน ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว โดยล่าสุดวัดได้กว่า 37.2 องศาเซลเซียส

    ทางสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง จึงขอประกาศเตือนให้ระมัดระวังการเกิดพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ในระยะ 1-2 สัปดาห์นี้ สำหรับสถานการณ์หมอกควันไฟในพื้นที่ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ และอยู่ในค่ามาตรฐาน โดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่า 10 ไมครอน วัดได้สูงสุดวันนี้ 105.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ส่วน อ.เมือง วัดได้ 78.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเกิดไฟป่าลดน้อยลง และประชาชนลดการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง จึงทำให้สถานการณ์หมอกควันไฟบรรเทาลง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    หลายจังหวัดภาคอีสานเริ่มประสบภัยแล้ง

    [​IMG]

    ถานการณ์ภัยแล้งที่มาเร็วในปีนี้เริ่มส่งผลให้หลายจังหวัดในภาคอีสานขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตร โดยเฉพาะปัญหาการแห่ทำนาปรังเกินเป้าหมายที่กำหนดอาจทำให้ผลผลิตเสียหาย

    โดยที่จังหวัดร้อยเอ็ดปีนี้สถานการณืภัยแล้งน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ที่ไหลลงสู่แม่น้ำชีในพื้นที่ จ.มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกข้าวนาปรัง จะอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำชีที่ต้องกักเก็บน้ำไว้เพื่อการเกษตรเป็นช่วงๆ เพื่อปล่อยให้พื้นที่ทำการเกษตรที่อยู่ตอนล่างทั้งฝายวังยาง จ.มหาสารคาม ฝายร้อยเอ็ด ในจ.ร้อยเอ็ด และฝายยโสธร หรือฝายพนมไพร ซึ่งปีนี้ปริมาณการกักเก็บน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่พื้นที่เพาะปลูกและพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเพิ่มมากขึ้น

    ทั้งนี้เป็นผลมาจากราคาผลิตผลทางการเกษตรและข้าวมีราคาดี เกษตรกรจึงแห่กันปลูกข้าวนาปรังและปลูกพืชมากขึ้น มีการเพาะปลูกและทำนาปรังในเขตชลประทานมากเกินเป้าหมายที่กำหนด โดยพื้นที่เพาะปลูก 60 เปอร์เซ็นต์ ตั้งเป้าการให้บริการในเขตชลประทานอยู่ที่ประมาณ 150,000 ไร่ แต่เมื่อออกสำรวจข้อเท็จจริงพบว่า มีการปลูกพืชและทำนาปรังในเขตชลประทานเกินกว่า 200,000 ไร่ จึงเป็นห่วงว่าในช่วงเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน ที่ข้าวนาปรังกำลังจะตั้งท้อง หากเกิดการขาดแคลนน้ำจะส่งผลกระทบต่อผลผลิต ทำให้ข้าวอาจเม็ดลีบ ไม่สมบูรณ์และไม่ได้น้ำหนัก

    ทางจังหวัดจึงได้ประสานไปยังเกษตรตำบล เกษตรอำเภอในการสำรวจข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกที่แท้จริง ซึ่งเกษตรกรเองก็ต้องแจ้งข้อมูลพื้นที่การเพาะปลูกตามความเป็นจริง เพื่อจะสามารถเตรียมการประเมินการช่วยเหลือได้ นอกจากนี้ได้ฝากถึงเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชและทำนาปรังให้ใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า ทั่วกันและเป็นธรรม โดยจะต้องแจ้งความต้องการในการใช้น้ำได้ที่กลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทาน แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ทำนาไว้กับเกษตรอำเภอ และเกษตรกรผู้ทำนาปรังต้องหมั่นทำความสะอาดคลองส่งน้ำ คูส่งน้ำอย่างสม่ำเสมอ สิ่งเหล่านี้จะสามารถช่วยการขาดแคลนน้ำได้

    เช่นเดียวกับที่จังหวัดมหาสารคาม ชาวบ้านหลายหมู่บ้านกำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนักจากภัยแล้ง พืชผลส่อเค้าเสียหายขณะที่จังหวัดนำส่วนราชการและภาคเอกชนทุกส่วนลงพื้นที่ออกให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว

    โดยเฉพาะที่บ้านนาภูผล ตำบลนาภู อำเภอยางสีสุราช นายนิพันธ์ ชลวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำส่วนราชการและภาคเอกชนออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว ด้วยการมอบถุงยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมถึงมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทั้งระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่มีผลการเรียนดีแต่มีฐานะยากจนและด้อยโอกาส ขณะที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน ได้จัดหลักสูตรฝึกอาชีพอิสระ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่กำลังเดือดร้อนจาก และการฝึกอาชีพในสถานศึกษา ซึ่งมีชาวบ้านเข้ารับการช่วยเหลือกว่า 1,000 คน

    รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้กำชับเกษตรกรไม่ให้ขยายพื้นที่ปลูกข้าวรอบที่ 2 หรือข้าวนาปรังเพิ่ม แม้ราคาข้าวจะสูงเป็นที่จูงใจของเกษตรกร เนื่องจากสถานการณ์น้ำจะไม่เพียงพอ และพื้นที่ปลูกข้าวหลายพื้นที่เริ่มขาดแคลนน้ำแล้ว จะทำให้เกษตรกรขาดทุนได้

    สถานการณ์ความแล้งในจังหวัดอุบลราชธานีเริ่มที่จะทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่บ้านทุ่มขุนน้อย ต.เจระเม อ.เมือง ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเขตชลประทานก็ตาม แต่ข้าวนาปรังที่ชาวนาในพื้นที่ปลูกไว้กว่า 1,000 ไร่ ซึ่งต้นข้าวขนาดสูง 15-20 เซนติเมตร กำลังยืนต้นแห้งตายเสียหายแล้วกว่าครึ่ง และบางต้นแคระแกน ไม่เจริญเติมโต ขณะที่ชาวนาส่วนหนึ่งที่มีผืนนาอยู่ติดกับลำน้ำเซบาย ซึ่งเป็นลำน้ำธรรมชาติ ลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลสายหลักในตำบล ปรากฏว่าลำน้ำได้แห้งขอดจนมองเห็นแต่เนิ่นทรายไม่สามารถสูบน้ำเข้าที่นาเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวของตัวเองได้เหมือนอย่างทุกปี

    ทำให้เกษตรกรที่หวังปลูกข้าวนาปรัง หวังเก็งกำไรไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลิตได้ ปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังตามริมฝั่งแม่น้ำมูลประมาณ 30,000 ไร่ ซึ่งตอนนี้เริ่มได้รับความเสียหายไปบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตามแม้เกษตรกรต้องเสี่ยงกับปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตเสียหาย แต่ก็ต้องทำ เพราะลูกหลานประสบปัญหาตกงานกลับมาอยู่บ้าน จึงต้องช่วยกันทำไร่ทำนา เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพในระยะนี้ไปก่อน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ระยอง-มันมือเสือยักษ์หัวเดียวหนัก 22 ก.ก.

    [​IMG]

    พบหัวมันมือเสือขนาดใหญ่กว่าปกติหลายสิบเท่า หัวเดียวหนักถึง 22 กิโลกรัม ซึ่งปกติหัวใหญ่สุดจะหนักแค่หัวละ 1-2 กิโลกรัมเท่านั้น

    หัวมันใหญ่ยักษ์ที่เห็นอยู่นี้ ก็คือมันมือเสือ หรือมันเลือดไก่ ที่คุณเจริญฤทธิ์ ประกอบผล ชาวบ้านที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ขุดขึ้นมาได้จากสวนหลังบ้าน ซึ่งมีขนาดใหญ่โตผิดปกติหลายสิบเท่า เมื่อนำมาลองชั่งดู ปรากฏว่าหัวเดียวหนักถึง 22 กิโลกรัม ซึ่งมันมือปกติถ้าหัวใหญ่สุดก็จะมีน้ำหนักเพียงแค่ 1-2 กิโลกรัมเท่านั้น

    ลักษณะของเจ้ามันมือเสือ รูปร่างจะคล้ายกับอุ้งเท่าเสือ ชาวบ้านมักชอบนำมาทำเป็นแกงบวด ต้มกะทิ หรือไม่ก็ต้องกับเกลือ แล้วนำมารับประทาน เป็นมันที่มีรสชาดหวานมัน ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยมีคนปลูกมากนัก พอมาพบเจ้ามันมือเสือหัวใหญ่ขนาดนี้ก็เลยเป็นเรื่องแปลกที่ไม่มีใครเคยเห็น

    ลักษณะของเจ้ามันหัวยักษ์นี้ เหมือนกับอุ้งเท้าเสือหลาย ๆ อันรวมกันอยู่ ซึ่งต่างจากปกติที่ลักษณะเหมือนเท้าเดียว ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวก็พากันมาดู และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแปลก เรียกว่าหัวเดียวกินได้ทั้งหมู่บ้านเลยทีเดียว

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบเจดีย์-พระเครื่องเก่าแก่กลางน้ำโขงหลังน้ำแห้งหนัก-เกาะทรายโผล่เพียบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 กุมภาพันธ์ 2553 11:33 น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    เชียงราย – พบเจดีย์โบราณ-พระเครื่องเก่าแก่ใต้เกาะทรายกลางโขง หลังระดับน้ำแห้งหนักเหลือลึกไม่ถึง 1 เมตรเท่านั้น เชื่อยังมีโบราณสถาน-โบราณวัตถุจมใต้น้ำอีกเพียบ

    รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเหือดแห้งลงอย่างหนักในรอบชั่วอายุคนนั้น ปรากฎว่าในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม ต.เวียง อ.เชียงแสน ซึ่งมีการใช้รถแบคโฮขุดตักทรายนำไปก่อสร้างโครงการของกลุ่มทุนจีน ได้พบเจดีย์ทรงโบราณฝังอยู่กลางเกาะทรายที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ทำให้ชาวบ้านเมืองต้นผึ้งที่อยู่ข้างเคียงต่างตื่นตกใจ พากันไปดูเจดีย์โบราณเป็นจำนวนมาก โดยทุกคนต่างพากันกราบไหว้บูชาเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    สำหรับโครงสร้างยอดเจดีย์ เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน สูงประมาณ 3-4 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางที่กว้างสุดประมาณ 2-3 เมตร โดยมีการวางอิฐโบราณก้อนใหญ่เป็นชั้นๆ อย่างเป็นระเบียบและสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน รวมทั้งบางส่วนโดยเฉพาะส่วนกลางยังมีปูนให้เห็นอยู่ ส่วนรูปทรงเป็นทรงระฆังคว่ำ ส่วนกลางมาจนถึงเกือบถึงยอด เป็นชั้นสลับด้วยฐานอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังพบต้นตะเคียน 1 ต้นและพระพุทธรูปขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่งด้วย

    รายงานข่าวแจ้งอีกว่าหลังจากขุดพบทางชาวบ้านที่เมืองต้นผึ้งนำโดยพระอาจารย์คำเงิน ธมฺมปาโล เจ้าคณะแขวงบ่อแก้ว ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอยแดง เมืองต้นผึ้ง ได้ขอให้รถแบคโฮและชาวบ้านนำวัตถุที่พบทั้งหมดไปเก็บเอาไว้ที่วัดดอนสะหวันพัฒนาราม เมืองต้นผึ้ง ก่อนจะมีการปรึกษาหารือกันอีกครั้งว่า จะมีพิธีทางศาสนาอื่นๆ หรือไม่อย่างไรต่อไป

    ทั้งนี้ บริเวณชายแดนไทย-สปป.ลาว ดังกล่าวมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาของอาณาจักรโบราณตั้งแต่อาณาจักรสุวรรณโคมคำซึ่งมีอายุกว่า 500-1,000 ปีมาแล้ว จนมาถึงอาณาจักรโยนกนาคพันธุ์ อาณาจักรหิรัญนครเงินยาง และเมืองเชียงแสนในยุคอาณาจักรล้านนา

    ในอดีตอยู่ในเขตอิทธิพลของผู้ปกครองเดียวกันและมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ในฝั่งเดียวกัน แต่เมื่อแม่น้ำโขงกัดเซาะมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โบราณสถานทั้งวัด บ้านเรือน ฯลฯ พังทลายลงกลางแม่น้ำโขงจนกลายเป็นตำนานโด่งดัง โดยเฉพาะพระเจ้าล้านตื้อ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพระประธานขนาดใหญ่ที่ยังฝังอยู่กลางแม่น้ำโขง แม้แต่กำแพงเมืองเชียงแสนทั้งสองด้านก็หายไปกลางแม่น้ำโขงด้วย

    นายบุญส่ง เชื้อเจ็ดตน ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เชียงแสน กล่าวว่า เดิมด้านเชียงแสนมีเกาะอยู่กลางแม่น้ำเรียกกันว่าเกาะดอนแท่นบ้างหรือเกาะดอนแห้งบ้าง ซึ่งในอดีตปู่ย่าตายายหรือบิดามารดาของตนก็เคยเอ่ยถึงการไปทำการเกษตรบนเกาะดอนแห้ง รวมทั้งมีการเล่าถึงวัดโบราณกลางแม่น้ำโขงด้วย ดังนั้นกลางแม่น้ำจึงมีโบราณสถานและโบราณวัตถุอยู่เพื่อรอการค้นหาแน่นอน

    ขณะที่นายอภิสิทธิ์ คำภิโล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี จ.เชียงราย กล่าวว่า ปีนี้น้ำโขงแห้งเร็วกว่าทุกปีและมีระดับความลึกประมาณ 1 เมตรเท่านั้น ในขณะที่ความลึกที่เรือสินค้าสามารถแล่นไปมาได้คือประมาณ 1.80 เมตรขึ้นไป จึงทำให้เรือสินค้าไม่ค่อยแล่นกัน เพราะเกรงจะเกยตื้น ส่วนสาเหตุก็อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะหยุดยาวช่วงตรุษจีนก็เป็นได้

    สำหรับการใช้รถแบคโฮขุดกลางแม่น้ำโขงนั้น ทางจังหวัด และ ขน.เคยทำหนังสือไปยังทาง สปป.ลาว เพื่อให้ยุติแล้วเพราะเกรงจะเกิดผลกระทบในฝั่งไทย

    นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ผู้ประสานงานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา กล่าวว่าปีนี้ถือว่าแม่น้ำโขงแห้งมากที่สุดในรอบชั่วอายุคนเพราะจากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ไม่เคยมีใครเคยเห็นวิกฤตน้ำแห้งมากเท่านี้มาก่อน ปัญหาน่าจะเกิดจากการสร้างเขื่อนในประเทศจีนนั่นเอง

    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000025808
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รวมคำทำนายจากผู้หยั่งรู้อนาคต
    (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1557973", true); </SCRIPT> สมาชิก

    *** ศตวรรษ ๑ โคลงที่ ๓๙ ****

    *** สัจจะธรรม กรรมคนทรยศ ****


    De nuict dans lict le suspresme estrangle,
    Par trop avoir sejoune’ blond esleu:
    Par trois l’empire subroge’ exanche,
    A mort mettra carte, et pacquet ne leu.

    ผลของคนทรยศหลายฝ่าย....รวมตัวกัน
    ทำให้จักรพรรดิถูกจับไป ....ชายสามคนขึ้นมาแทน
    เมื่อ กรรมมาถึงคนทรยศ
    ผู้นำ....คนหนึ่ง ถูกบีบคอบนเตียงนอน กลางค่ำคืน
    เพราะ เหตุยุ่งเกี่ยวในเรื่องมรดกจำนวนมาก
    คนหนึ่ง...ถูกฆ่าตาย ไม่ทันตั้งตัว ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ
    สองคนใหญ่... ถูกยิง
    เพราะ ผลการกระทำเก่าๆ สร้างความแค้น....ย้อนกลับมา
    <O:p</O:p
    *** ศตวรรษ ๑ โคลงที่ ๗๑ ****

    *** ชะตากรรมหักปลายขวานทอง ****

    La tour marine trios fois prise & reprise,
    Par Hespagnols , Barbares , Ligurins :
    ffice:smarttags" <ST1:place <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]Marseilles</SPAN></st1:City><st1:State>&</st1:State><st1:State>Aix</st1:State> , <st1:country-region>Arles</st1:country-region></ST1:place par ceux de Pise ,
    Vast , feu , fer , pille’ <st1:City><ST1:place Avignon</ST1:place</st1:City> des Thurins.

    มืองสำคัญ ที่มีหอคอยอยู่ริมทะเล และ หอปล่องมีเปลวเพลิงบนยอด
    จะถูกแย่งชิง ๓ ครั้ง ...จากคนเถื่อนโหดร้ายทางใต้ และขอม
    จากปลายขวาน ถึง เมืองชน บางประกรง ...เป็นที่หมายปองปักธง
    น้ำมัน ก๊าซสะสมใต้โลก แร่ธาตุ แหล่งอุตสาหกรรม
    คือ ต้นเหตุการณ์ปล้นครั้งใหญ่ วุ่นวายถึง เมืองหลวง
    จาก...ขอมดำดินคนที่โหดร้ายเพียงบางคนบงการ
    ขวานทอง...จึงต้องมี “สัจจะ” ปรากฏ มาคุ้มครอง จึงรอดพ้นกรรม

    *** ศตวรรษ ๑ โคลงที่ ๗๒ ****

    *** เตือนภัยแย่งแผ่นดิน ****


    Du tout Marseille des habitants change
    Course & poursuitte jusqu’au pres de Lyon,
    Norbon TholoZe par <st1:City>Bordeaux </st1:City>outrage,
    Tuez, captifs Presque d’un million.

    เมืองท่าเรือใหญ่ของสยาม... จะเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้อาศัยครั้งใหญ่
    เกิดการอพยพ หลบหนีภัย ....และไล่ตาม
    ชาวบ้าน...ต้องหนีไปไกลเกือบถึงเมืองหลวง

    ณราทิวาท ญะรา
    จะเกิดความผิดพลาดที่... ตังค์
    ประชาชนสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
    เสียชีวิต ถูกจับ รวมมากมายเป็นล้านคน

    *** ศตวรรษ ๑ โคลงที่ ๗๓ ****

    *** อย่าละเลยเพื่อนบ้าน ****


    l , Argels esmuez par Persiens
    <st1:country-region><ST1:pLeon</st1:country-region> , <st1:City>Seville</st1:City> , Barcelonne faille
    N’aura la classe par les Venetiens.

    ขวานทอง...จะพบกับชะตากรรมโหดร้าย
    เกิดจาก ....“ผลการกระทำ” ระยะหลัง ไม่แสดงความจริงใจชัดเจน
    ปล่อยปะละเลย ไม่ใส่ใจ...เพื่อนรอบบ้านทั้งห้า อย่างจริงจัง

    สุมาตรา และเพื่อนบ้านทางใต้ ... จะถูกรุกครอบด้วยอิทธิพลแขก
    คนดีมากมายหลีกหนี ...ชนขอมโหดเหี้ยมทางใต้ไม่ทัน
    บางส่วนของเพื่อนบ้านทางใต้ และเกาะสิงโต.... จะสูญหายไป

    แผนการเขาเริ่มจาก...ปลายด้ามขวาน
    รุกคืบมาถึง...กลางด้ามขวาน
    เมื่อ...ขวานอ่อนกำลัง
    ขอมที่มีเบื้องหลัง....จะหักปลายตัวขวานซ้ำทันที

    - “ หนุมาน ผู้นำสาร “<!-- google_ad_section_end --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>22-04-2009 เมื่อ 02:50 PM

    ที่มา http://palungjit.org

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tossapornk<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1796578", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เพื่อนธรรมคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า พระเกจิอาจารย์ของเขาเล่าให้ฟัง เหตุการณ์ปีพ.ศ. 2552 ถึงปีพ.ศ. 2555 ยังไม่ต้องเชื่อนะครับจับตาดูกันต่อไป

    เรื่องราว จากนี้ไป ไม่ง่ายนัก
    การเมืองจัก วุ่นวาย ไม่หน่ายหนี
    เศรษฐกิจ การเงินซ้ำ กระหน่ำอีกที
    ประชาชี สิหนีพราก ลำบากลำบน

    ต่อๆไป ไทยอาจแตก เป็นเสี่ยงๆ
    เพราะคนเอียง เลี่ยงหลับ จนสับสน
    แผ่นดินเรา เขาเข้ายึด เป็นของตน
    ประชาชน ต้องหลบลี้ เพราะมีภัย

    เสือขาวเหลือง เข้ามาหา กระยาหาร
    เข้ารุกราน เราตายเป็นเบือ จะเชื่อไหม
    ส่วนที่เหลือ จะอยู่รอด กันอย่างไร
    คิดๆไป ใจก็เศร้า ไฟเผาทรวง

    วิบากกรรม นำชักพา ให้มาเกิด
    ในยุคนี้ ที่เปิดกรรม อันใหญ่หลวง
    กระแทกคน ที่ไร้ศีล ที่หลอกลวง
    ไม่พ้นบ่วง ต้องรับหมด ตามกฏแห่งกรรม

    ทางรอด ดั่งยอดดอย มีน้อยนิด
    ทุกคนคิด หยุดแตกแยก หยุดถลำ
    ถึงจะหยุด ฉุดกระชาก วิบากกรรม
    ชาวสยาม จะกลับยิ้ม อิ่มเอมใจ<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มา http://palungjit.org

    "โสรัจจะ นวลอยู่" ทำนาย "เขมร"บุก"สยาม"ปี 2553 ส่งทหารเข้าโจมตี ...

    'หมอนิด' ชี้สุรยุทธ์ไม่เด็ดขาด ปี 2553 'ทักษิณ' กลับมาแน่!...

    "หมอดูอีที" ชาวพม่าบอก 4 เม.ย. 2553 'ทักษิณ' กลับไทยอย่างแน่นอน !!!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 61151.jpg
      61151.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.2 KB
      เปิดดู:
      1,571
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    กลุ่มคนไม่หวังดี
    โดยคุณหนุมาน ผู้นำสาร

    กลุ่มหนึ่ง มีคนไทยเชื้อสายหมีแพนด้า ที่เข้ามาตั้งรกรากมานาน สมัย นายควง เก็บหัวละ ๔๐๐ บาท ได้รับการสนับสนุนจากแพนด้า กำลังคิดจะครอบครองเมืองไทย.... ทุกวันนี้สังเกตให้ดี...ทีวี มีแต่หน้าคนจีน...(ไม่ได้ว่าและรังเกียจคนจีนนะ) ...ทุกวันนี้มีคนเหล่านี้ที่คิดไม่ซื่อทรยศประเทศชาติ แฝงตัวทำงานอยู่ทุกวงการ ... หากปล่อยตามแผน...เขาจะครอบครองไทยได้ต่อไป โดยเปลี่ยนตัวผู้นำ ผู้บริหารทั้งหมด...​

    ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ผู้อยากเป็นแบบ ปธน.ผู้นำอันดับหนึ่งในประเทศ กับพวกพ้องที่กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะการกระทำจากความโลภ เมื่อครั้งมีอำนาจ แต่เขาไปขอการสนับสนุนจาก ประธาน คาวบอย ที่เมืองอินเดียนแดง...พวกนี้จึงมีทั้งทุนมาก โดยเฉพาะชาวเขาเผ่าคนเหลี่ยม รู้จักพ่อของ คาวบอยคนนั้นดี จึงมีบริวารคอยให้การช่วยเหลือ เช่น สิงโต นินจา กีเหลาใต้ รวมถึงมีสื่อยักษ์ใหญ่ ZenEE ที่คอยเป็นกระบอกเสียงสนับสนุน และหนังสือชั้นนำของโลก ที่เริ่มทุบตี เศษสะกิดพอดี ของเรา...​

    ปัญหาภาคใต้...มีผู้สนับสนุน คือ แพนด้ายักษ์ ที่แอบสนับสนุน บริวารภัยมือ พวกยักษ์หน้าแขก ที่ทำสิ่งผิดกฎหมายมากมาย ยักษ์กับยักษ์คุยกัน ยักษ์แรกบอก เธอตีด้ามขวาน เธอเอาด้ามขวาน ฉันจะสนับสนุนทุน และคอยช่วยเหลือ ส่วนฉันจะเอาตัวขวานเอง....​

    เมื่อสงครามด้ามขวานเกิด ทหารจากสยามจะสูญเสียหนัก เพราะข้าศึกที่รบด้วยมีทุนมหาศาล...สุดท้ายด้ามขวานจะหักตามแผนของเหล่ายักษ์หลายฝ่าย...จากนั้นชนต่างๆ รอบขวานทอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนและอาวุธจากยักษ์เช่นกัน จะรุมกินโต๊ะดินแดนบ้านเรา....ขอม อยากบุกมาปักธงถึงบางประกง....แถวติดอ้ายน้องก็จะบุกเข้ามาอีสาน...ถิ่นชายแดนเหนือชนเขาเก่าแก่ ก็อยากได้...แถบตากตะวันตก ก็มีอีกพวกหนึ่ง...สยามจะมีแต่น้ำตากับคราบน้ำตา....​

    แต่ต่อไป...ทั้งสองกลุ่มใหญ่คนละฝ่าย แต่ใจตรงกัน จะสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองวุ่นวาย...เพื่อให้เกิดความชุลมุน...จะได้ก่อการเลวได้ง่าย... แต่สุดท้าย ทุกกลุ่มทุกฝ่ายจะรวมเป็นพวกเดียวกัน คือ ไม่เอาระบบปกครองแบบสยาม....การลอบปลง ชพน คนในครอบครัวท่าน จะทำได้ง่าย...คาวบอย จึงอยากจับตัวท่านที่คนสยามนับถือไป...โดยอ้างว่าไม่ปลอดภัยต่อ องค์พระ...เมื่อท่านมีบารมีสูงไม่อยู่บ้าน สยามเมืองยิ้มไม่ออก ....จากนั้น สงคราม คาวบอย กับ ประเทศในเครือแพนด้า จะรบกันหนัก...อาวุธนำวิถี จะตกผิดพลาดราพณาสูญ...รวมทั้งเมืองอมรมหินท์ จะหลงมาตก ๔ ลูก....แผ่นดินจะพัง...เมื่ออ๊ะพงท่านกลับมา...บทเพลงล้างโลกจะเริ่มโหมโรง...เพราะ ฝ่าฝืน โองการ ของ โลกุตตระ ที่ได้ประกาศไว้แล้ว ​

    *** ประเทศบริวารเล็กๆ...แต่ ไม่กลัวใคร ****

    หลายประเทศเล็ก...มีอาวุธร้ายนำวิถี....ไม่กลัวใคร...ไม่กลัวตำรวจโลก
    เพราะ...มีพี่ใหญ่หนุนหลัง ......หวังครองโลก
    ก่อนเกิด...สงคราม ทุกฝ่ายอยากได้...ครัวของโลก...ทำอาหารให้กิน​

    หาก...ผู้บริหารไทย...ทรยศ "สัจจะ" ที่ปฏิญาณที่ให้ไว้....
    ท่านทั้งหลาย...จะกลายเป็นผู้ขายชาติทันที !!!
    ชีวิตต่อไป...จะวิบัติเจ็บทุกข์ทรมานถึงที่สุด
    หาก...ท่านทั้งหลาย...มั่นคงใน "คำสัตย์ปฏิญาณ" !!!
    ชีวิตของท่าน...จะเจริญ อย่างที่สุด​

    เพราะ...คำสัตย์ ปฏิญาณ สาบานตน...คือ สัจจะ ที่ห้ามล่วงเกิน
    จึง เป็นได้ทั้ง "พร" และ "คำสาป" จาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์​

    ชีวิตอนาคตของท่านทั้งหลาย
    ขึ้นกับ "การกระทำ" ของตัวเองทั้งสิ้น
    ขอให้คิดถึงใจเขาใจเรา ... เมตตา ... เสียสละให้มาก​

    *** ทางเลี่ยง... ชะตาลิขิต (ภาคใต้) ****

    สิ่งที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดต่อไป
    เหมือนถูกกำหนดไว้แล้ว...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
    เป็นสิ่งที่ไม่มีใครช่วยได้​

    ยกเว้น......พึ่ง... "โลกุตตระ และ สัจจะ"
    คือ สิ่งที่อยู่เหนือโลก เหนือชะตา เหนือลิขิต​

    โดย...พระผู้มีบารมี ต้องยอมรับใน "สัจจะ" หนทางปฏิบัตินำสัตว์ให้หลุดพ้น
    ไม่ตั้งข้อรังเกียจ และนำมาเป็น "สัจจะประจำ"
    ปฏิบัติทุกวัน ... เหมือนที่พระสมัยพุทธกาลปฏิบัติ​

    ส่วนปัญหาภาคใต้
    เกิดจาก....การแย่งชิงผลประโยชน์จากหลายชาติ แต่พวกเดียวกัน
    ชนพวกหนึ่งต้องการดินแดนด้ามขวาน ตั้งเป็นดินแดนชาวมุสลิม
    โดยวางแผนสร้างมัสยิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไว้ทำพิธีฮัจ แทน นครเมกกะ
    อีกประเทศหนึ่งต้องการครอบครองดินแดนไทยที่เหลือ
    โดยส่งคนเข้าแฝงในทุกวงการ ให้ผลประโยชน์ผู้บริหารการเมือง
    พยายามปรับกฎหมายไปตามที่ตนต้องการ
    แฝงคำสอนผิดๆ ความเชื่อใหม่ไปสู่คนไทย ด้วยสื่อต่างๆ
    เพื่อทำลายความเชื่อที่ดี และความสามัคคีของคนไทย
    ในWebsite นี้ มีหลายคนทรยศชาติไทย และทำงานให้ประเทศใหญ่ที่กล่าวถึงนี้​

    หนทางเลี่ยง ชะตาลิขิต
    ที่ไทยจะต้องเสียดินแดนด้ามขวานทอง คือ.......
    การเริ่มดำเนินการสร้าง ​

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    05-02-2007, 06:07 AM ​

    ที่มา http://palungjit.org
     

แชร์หน้านี้

Loading...