ประชาชนนับหมื่นแห่สวดพระปริตร-ขอพรปีใหม่

ไปแน่นวัด "ไตรมิตร" เริ่มจับตา 7วันวิกฤต



<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
พรปีใหม่ - ประชาชนจำนวนนับหมื่นไปร่วมงานพิธีสมโภชพระมหามณฑป พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร(หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรฯ กทม. ซึ่งมีการสวดพระปริตรเพื่อความเป็นมงคลในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.

</TD></TR></TBODY></TABLE>เริ่มรณรงค์แล้ว"7วันอันตราย" ลดยอดอุบัติเหตุ ตายเจ็บปฏิบัติการเข้มข้น "7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน" ตั้งเป้าลดการสูญเสีย 5 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่แล้ว มท.สั่งผู้ว่าฯ นายอำเภอทั่วประเทศคุมเข้ม "เมาแล้วขับ" บังคับกฎจราจรเคร่งครัด สธ.ตั้งทีมแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมถึงที่เกิดเหตุภายใน 10 นาที ขณะที่ตร.ทางหลวงเปิด 41 สถานีเป็นจุดพักรถ ให้เจ้าหน้าที่ใส่หน้ากากรอยยิ้ม ลดความเครียดของผู้ขับขี่ ประชาชนนับหมื่นแห่แน่นวัดไตร มิตรฯ สวดพระปริตร พิธีสมโภชพระมหามณ ฑป หลวงพ่อทองคำ ขอพรปีใหม่

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย ในฐานะรองผอ.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 โดยนายชวรัตน์กล่าวว่า การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่าช่วงปกติ 2 เท่า ศปถ.จึงมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวก และสร้างความปลอด ภัยในการเดินทาง ให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงปีใหม่ ภายใต้หลักปฏิบัติไปสะดวก กลับสบาย ในช่วงปฏิบัติการเข้มข้น "7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน" ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2552 ถึงวันที่ 4 ม.ค.2553 โดยตั้งเป้าลดจำนวนครั้ง ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนลง ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ 2552

นายชวรัตน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ องค์กรสหประชาชาติ ตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 10 ปี ตั้งปีค.ศ.2010-2020 แต่ละประเทศจะต้องลดสถิติอุบัติเหตุให้ได้รอยละ 50 ก็เท่ากับร้อยละ 5 ของการตั้งเป้าลดยอดสถิติอุบัติเหตุของประเทศไทยอยู่แล้ว จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ เฝ้าระวังผู้ขับขี่ โดยเฉพาะเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าพบว่าผู้ขับขี่มีอาการเมา ก็ควรให้หายเมาก่อนจะเดินทางต่อ และมุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายจราจร ควบคู่กับการควบคุมเมาแล้วขับ ดูแลไม่ให้คนเมา สร้างความเดือดร้อน และจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จ.สระบุรี และจังหวัดในภาคอีสานด้วย

ด้านนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า เตรียมพร้อมด้านการแพทย์ และการเข้าถึงผู้ประสบอุบัติเหตุพิเศษกว่าปีที่แล้ว โดยจะใช้การขนส่งทางอากาศอย่างเข้มข้น และปริมาณยานพาหนะในการขนส่งผู้ป่วยมีมาก โดยระดม มาจากหลายหน่วยงาน มีสำนักการแพทย์ฉุกเฉินเป็นตัวกลาง และหน่วยกู้ชีพ กระทรวงสาธารณ สุข กำหนดให้เวลา 10 นาทีต้องถึงจุดเกิดเหตุ

ส่วนนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุ การศปถ. กล่าวว่า จะแถลงข่าวสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2552 ถึงวันที่ 5 ม.ค.2553 เพื่อให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนเป็นเครื่องย้ำเตือนใจ ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง รวมทั้งประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่อย่างเต็มที่ ระดมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมบนจุดเสี่ยงทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังประสานกระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกด้านสภาพเส้นทาง และกวดขันพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ ไม่ให้ดื่มสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ไหว้พระ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ จุดธูปเทียนสักการะหลวงพ่อทองคำ ระหว่างเป็นประธานพิธีสมโภชพระมหามณฑป วัดไตรมิตรฯ โดยในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ถึง 1 ม.ค. จะมีพิธีสวดถวายเป็นพระราชกุศลด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ รองผบก.ทล. เปิดเผยว่า พล.ต.ต.สมยศ พรหมนิ่ม ผบก.ทล. สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ดำเนินการตามแผนรักษาความปลอดภัยที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยเน้นการควบคุมและการจัดการจราจรอย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของ กก.8 ทล. โดย พ.ต.อ.นิตินันท์ เพชรบรม ผกก.8 ทล. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจและบริการประชาชน เพราะเส้นทางมอเตอร์เวย์มีผู้นิยมใช้ในช่วงเทศกาลเป็นจำนวนมากพิเศษ ทำให้เกิดสภาพการจราจรติดขัด เจ้าหน้าที่จึงจัดทำโครงการ "หน้ากากยิ้ม" ขึ้น โดยวาดรอยยิ้มบนใบหน้ากากที่ใส่ป้องกันฝุ่น ทำให้ดูเก๋ไก๋ เหมือนตำรวจยิ้มแย้มแจ่มใสขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ผู้พบเห็นคลายเครียดจากสภาพปัญหาการจราจรที่ติดขัด โดยโครงการนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ "การบริหารจราจรดีเด่น" ของสมาคมผู้สื่อข่าวช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย

พ.ต.อ.พินิตกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังจัดสรรพื้นที่สถานีตำรวจให้เป็นจุดบริการประชาชน เพื่อเป็นจุดพักกลางทางระหว่างการเดินทางไกล เรียกว่าโครงการจุดแวะพักของนักเดินทาง มีทั้งหมด 41 แห่งทั่วประเทศ จะให้บริการห้องสุขา แจกน้ำดื่ม น้ำชา กาแฟ และขนมขบเคี้ยว เป็นต้น อีกทั้งบางแห่งจะให้บริการตรวจสอบสภาพรถยนต์อีกด้วย โดยมีภาคเอกชนและชุมชนในพื้นที่ให้การสนับสนุนสิ่งของ อาหาร เครื่องดื่ม แก่สถานีตำรวจทั้ง 41 แห่งทั่วประเทศ จึงขอฝากประชาชนที่เดินทางไกลในช่วงนี้ หยุดแวะพักใช้บริการที่สถานีตำรวจทางหลวง เพื่อแก้อาการเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จะได้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

ขณะที่ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เตรียมความพร้อมในการป้องกัน และแก้ไขเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการก่อวินาศกรรม เหตุอันตราย และเพลิงไหม้ในช่วงปีใหม่ หลังจากที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. มี นโยบายให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือ โดยให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) สำนักการแพทย์ (สนพ.) และสำนักอนามัย (สนอ.) เตรียมพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์เครื่องมือ ตลอด 24 ชั่วโมง ในวันที่ 31 ธ.ค. 2552 ถึงวันที่ 3 ม.ค.2553 สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ตรวจสอบดูแลกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือซีซีทีวี ให้อยู่ในสภาพใช้การได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองและสถานที่สำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล พระบรมมหาราชวัง

ส่วนสำนักการโยธา (สนย.) สำนักการระบายน้ำ (สนน.) สำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) และกองโรงงานช่างกล ให้เตรียมเครื่องมือ อาทิ รถยก รถเครน รถลากจูง รถสุขาให้พร้อมปฏิบัติ และสนับสนุนหน่วยงานที่ร้องขอ สำนักเทศกิจ (สนท.) ให้จัดสายตรวจ ตรวจสอบสถานที่สำคัญ บริเวณจัดงาน ทั้งกลางวันและกลางคืน ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2552 ถึงวันที่ 3 ม.ค.2553 และสำหรับสำนักงานเขตให้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเขต ออกตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง และสถานที่สำคัญในพื้นที่ ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธ.ค. ถึงวันที่ 1 ม.ค.2553

สำหรับสภาพการจราจรและการเดินทางของประชาชนในจังหวัดต่างๆ นั้น ที่ถนนมิตรภาพสายเลี่ยงเมือง ในท้องที่บ้านหนองออก ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นเส้นทางสายหลักที่ประชาชนจะใช้เดินทางผ่านไปยังจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อบังคับใช้กฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็ว เนื่องจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ ทางอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยต่างๆ ใน จ.นครราชสีมา นำกำลังและรถหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็ว มาประจำอยู่ตามจุดให้บริการประชาชน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที จะทำให้สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.จอหอ ยังแจกลูกอมให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อช่วยผ่อนคลายอาการง่วง เหนื่อยล้าจากการขับขี่ยานพาหนะ และกล่าวเตือนสติให้ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ขณะเดียวกัน ที่สถานีขนส่ง จ.นครราชสีมา ทั้ง 2 แห่ง เริ่มแน่นไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะพนักงานตามโรงงานต่างๆ ที่เริ่มหยุดงาน และเดินทางกลับภูมิลำเนาใจภาคอีสาน

พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผกก.สภ.เมืองนคร ราชสีมา กล่าวถึงมาตรการป้องกันอาชญากรรม ในช่วงปีใหม่ว่า ติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี ตามจุดสำคัญทั่วตัวเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จากเดิม 5 จุด 5 แยกไปแดง เพิ่มเป็น 25 จุด 13 แยกไฟแดง เช่น ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี, บริเวณแยกไอที ซิตี้ ถนนมิตรภาพ, สามแยกมิตรภาพ ตรงห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี, ห้าแยกหัวรถไฟ และสามแยกจักราช เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และป้องกันปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังใช้กล้องตรวจสอบรถยนต์ และบุคคลต้องสงสัยที่อาจใช้พาหนะก่อเหตุอาชญา กรรมต่างๆ ได้อีกด้วย อีกทั้งยังจัดตั้งศูนย์ควบ คุมจราจรอาชญากรรม และบริการประชาชน โดยมีห้องปฏิบัติการควบคุมกล้องซีซีทีวี สามารถบันทึกภาพเก็บไว้ได้นานย้อนหลังถึง 15 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าเวรผลัดละ 10 นาย คอยรับแจ้งปัญหาการจราจรและอาชญากรรมตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 7,000 นาย ตั้งด่านจุดตรวจสกัดและจุดอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน บนถนนมิตรภาพผ่าน จ.นครราชสีมา ตลอดทั้งสาย เพื่อรับมือกับปัญหาการจราจรหนาแน่นและติดขัดในช่วงปีใหม่

ด้าน พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภาค 3 กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, และยโสธร โดยเฉพาะเส้นทางหลักในถนนสายสีคิ้ว โชคชัย นางรอง เดชอุดม จ.อุบลราชธานี นั้น ทางเจ้าหน้าที่ใช้หลายมาตรการ ตั้งแต่ตั้งจุดตรวจควบคุมวินัยจราจร 1,070 จุด, ตรวจแอลกอฮอล์ 323 จุด, ตรวจจับวัดความเร็ว 22 จุด ในส่วน จ.นครราชสีมา มีจุดเสี่ยง 171 จุด จุดบริการ 117 จุด, ตรวจเมาแล้วขับ 87 จุด, ตรวจจับความเร็ว 3 จุด โดยใช้กำลังตำรวจดูแลอำนวยความสะดวก ทั้งหมดกว่า 15,000 นาย ทั้งการออกตรวจตรารักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และกำกับดูแลเรื่องรักษาวินัยจราจร

ผบช.ภาค 3 กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะพวกสถานบริการต่างๆ ที่มีผู้ที่เข้าไปดื่มสุราแล้วออกมาขับรถในขณะที่ยังมึนเมาสุราอยู่ รวมทั้งในสถานบันเทิงห้ามเด็ดขาดเรื่องการจุดพลุ จุดประทัด หรือเอฟเฟ็กต์ ที่มีประกายไฟ เพราะเป็นเรื่องที่เน้นย้ำกันแล้วและเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ สิ่งที่อยากจะขอพี่น้องประชาชนในช่วงปีใหม่ ขอให้ทุกคนอยู่ในความไม่ประมาทเป็นหลัก อย่ารีบร้อนในการเดินทางมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ อย่างไรก็ตาม เส้นทางจราจรสามารถรองรับได้ และตำรวจพร้อมอำนวยความสะดวกอยู่แล้ว ถ้าเผื่อว่าทุกคนมีวินัยจราจรไม่ขับรถที่ประมาท ก็จะทำให้ทุกคนสามารถไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย

วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. มีพิธีสมโภชพระมหามณฑป พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำ เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ ขนาดหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร และสูง 3.91 เมตร ซึ่งทางวัดจัดสร้างพระมหามณฑปเพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ แทนพระอุโบสถหลังเก่าที่คับแคบ โดยการสมโภชครั้งนี้มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. ไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค.2553 มีพิธีสวดพระปริตร ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น. และในวันที่ 31 ธ.ค. จะมีพิธีสวดนพเคราะห์

นางราตรี พันเสาร์ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ประจำวัดไตรมิตรฯ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ย้ายหลวงพ่อทองคำมาประดิษฐานบนมณฑปใหม่ มีประชาชนที่ทราบข่าวต่างมาทำบุญ และกราบขอพรกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยและต่างประเทศ ทางวัดเปิดให้เข้ากราบนมัสการได้ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. โดยเฉพาะในวันเสาร์และอาทิตย์มีประชาชนเข้ามากราบนมัสการกันเป็นจำนวนมาก แต่ทางวัดจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้เข้ากราบได้ครั้งละประ มาณ 20-30 คนเท่านั้น

ด้านนางจรุงศรี เมนมาคง อายุ 88 ปี หนึ่งในประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะหลวงพ่อทองคำ กล่าวว่า พักอาศัยอยู่ย่านสะพานใหม่ ตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการและขอพรจากพระหลวงพ่อทองคำ โดยขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และขอให้ประเทศไทยมีความสงบสุขร่มเย็น ไม่มีความแตกแยก

ขณะที่นางบุญมา รุ่งเรือง อายุ 54 ปี กล่าวว่า เดินทางจากบ้านที่ จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เช้า ตั้งใจจะมากราบขอพรจากหลวงพ่อทองคำ และชื่นชมความงามของพระมหามณฑป

ต่อมาเวลา 19.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธีสมโภชพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เนื่องจากในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ ครม.เป็นเจ้าภาพ โดยมีรัฐมนตรีหลายคนมาร่วมด้วย อาทิ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พา ณิชย์ ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมงานประมาณ 15,000 คน เต็มบริเวณวัดและถนนโดยรอบ ทำให้ต้องปิดถนนรอบๆ วัดทุกด้าน

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ จุดธูปเทียนสักการะหลวงพ่อทองคำ ก่อนที่พระสงฆ์ 1,250 รูป จะสวดพระปริตร เพื่อให้บ้านเมืองมีความสามัคคี ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ ไปได้ด้วยดี โดยสวดทุกคืนมาตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. ไปจนถึงถึงวันที่ 1 ม.ค. เวลา 19.00-24.00 น.

นอกจากนี้ ด้านนอกบริเวณวัด ยังมีการแสดงแสงสีเสียง โดยใช้ฉากหลังเป็นพระมหามณฑปที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ด้วย มีความสวยงามเป็นอย่างมาก และมีประชาชนมานั่งชมอย่าง เนืองแน่น โดยเฉพาะในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ช่วงต่อวันขึ้นปีใหม่ 2553 จะสวดบทภูมิพลังมหาราชา ชัยยะมงคลคาถา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงด้วย


ที่มา ข่าวสดออนไลน์

 

mothana krab..
ปีใหม่นี้ ทาง กลุ่มพระพุทธ ม.สงขลานครินทร์ ภูเก็ต ขออารธนาบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยให้ชาวเวปพลังจิตทุกท่านพบแต่ความสุข และความเจริญทั้งทางโลกทางธรรมน่ะครับและเข้าถึงข้อธรรมขององค์สมเด็จฯ ได้โดยง่ายครับ



____________________________________________
มีบุญมาฝากคับทางกลุ่มได้ จัดทำโครงการแจกสือ่ ธรรมะของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำคับ เพราะ ที่นี่มีเด็กหลายคนสนใจมาฝึกมโนมยิทธิและหันมาทำความดีกัน เพราะด้วย สื่อ ธรรมะ ของหลวงพ่อครับ ทางชมรมเลยจัดโครงการแจกสือ่ธรรมะเป็นสาธารณธประโยชน์ แก่ โรงเรียน ห้องสมุดต่างๆเพื่อ ชักจูง คนให้เป็นสัมมาทิฐิและเป็นกำลังพระศาสนา สืบต่อไปครับ


เข้าชมรายละเอียดได้ที่ http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมบุญ-โครงการธรรมทานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-ภูเก็ต.218421/<O</O
<O></O>
ห้องศูนย์ประชาสัมพันธ์>>ธรรมทาน คับ<O></O>

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

<a href="http://www.fungdham.com"><img src="http://www.fungdham.com/images/fungdham01.gif" alt="โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน" width="190" height="58" border="0"></a>

 

ไปมาแล้วครับ แต่ไม่ชอบเลยที่งานนี้จัดแบบไม่ให้ความเคารพพระศาสนา ในฐานะที่ผมเป็นพุทธศาสนิกชนขอตำหนิผู้จัดการแสดงแสงสีเสียงนะครับ เวลาที่พระท่านเดินเข้ามาควรให้ความเคารพ ไม่ควรจัดเอฟเฟ็คประกอบทำเหมือนให้พระท่านมาแสดงด้วย เวลาที่สวดพระปริตควรให้มีการสำรวม ไม่ควรมีภาพประกอบเป็นเทวดากับอสูรรบกันบนศรีษะพระสงฆ์ที่กำลังสวดอยู่ แถมมีเสียงประกอบรบกวนเสียงพระที่สวดพระปริตอยู่ด้วย มีการฉายพญานาคมาเลื้อยรอบพระมณฑปและคณะสงฆ์ที่กำลังสวดอยู่ เหมือนใช้พระสงฆ์และพระมณฑปมาเป็นฉากเพื่อการแสดงความบันเทิง ประชาชนที่ไปจะได้ไม่สนใจพระสวดแต่ไปสนใจภาพ,เสียงประกอบแทนใช่มั้ยครับท่านผู้จัด สุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ มีการใช้พระมณฑปซึ่งมีคณะสงฆ์สวดมนต์อยู่เป็นฉากมีภาพพระพุทธเจ้าอยู่ข้างบน แล้วมีภาพไฟกำลังไหม้พระมณฑปกับพระสงฆ์และพระพุทธเจ้าพร้อมเสียงไฟที่กำลังลุกโชนในขณะที่คณะสงฆ์กำลังสวดอยู่ ผมว่าเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง ผมตำหนิผู้จัดนะครับ พิธีที่ทางวัดจัดเป็นพิธีที่ดีมาก มีเจตนาดี แต่ผู้จัดผมไม่แน่ใจและข้องใจมากๆ

 

ขออนุโมทนา สาธู ๆ กับ ทุก ๆ ท่าน ที่มีจิตเป็นกุศลได้ร่วมทำบุญด้วยเจตนาดีในกาลนี้ด้วยครับ

 

หากเป็นดังที่ท่านliorossว่ามาจริง ก็น่าคิดเหมือนกัน
แต่ด้วยเหตุที่ผมไม่ได้เห็นกับตา จึงไม่อยากออกความเห็น

ยังไงก็ขออนุโมทนาในเจตนาดีของผู้จัดงานครับผม

 

อนุโมทนาครับ
เมื่อวานผมก็ไปมาที่วัดพระแก้ว จ.เชียงราย คนเยอะมาก ทำพิธีตั้งแต่ทุ่มถึงตีหนึ่ง พิธีการดูขลังมาก

 

เมื่อคืนได้มีโอกาสดูถ่ายทอดทางช่องสทท.11ด้วยครับ