ผู้บรรลุธรรม ตัว จริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย บุญหืด, 2 พฤศจิกายน 2009.

  1. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ผมเห็นด้วยครับ พระพุทธเจ้าที่แท้จริงคือ พระพุทธเจ้าที่เรียบง่ายสามัญไม่ใช่พระพุทธเจ้าแบบมนุษยกายสิทธิ์

    ที่เต็มไปด้วยสิ่งปรุงแต่งทั้งหลาย
    การวาดภาพพระพุทธเจ้าให้เป็นเช่นพระเจ้า ย่อมทำให้พระองค์ทรงตกต่ำลงมิใช่สุงขึ้น เพราะทำให้พระองค์ทรงไปเปลื้อนกับสิ่งปรุงแต่งทั้งหลาย

    ไม่งั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับศาสนาแบบเทวนิยมทั้งหลายเพราะ ณตอนนี้พระพุทธเจ้ากลายเป็นพระเจ้าในสายตาชาวพุทธไปซะและ

    ทั้งที่ศาสนาพุทธไม่มีพระเจ้า ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดแบบชาติภพ มีแต่การเวียนว่ายตายเกิดของจิตที่อยูjในใจท่านนั้นเอง

    รู้ไหมครับว่าก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพานพระองค์ทรงตรัสว่าไง?เป็นคำสุดท้าย

    พระองค์ทรงตรัสว่าในภายภาคหน้าหากเจ้า เจอเราอีกจงฆ่าเราเสีย เพราะนับจากนี้เจ้าต้องรังสรรค์หนทางและแสงสว่างด้วยตัวของเจ้าเอง เมื่อไรก็ตามที่เธอเดินไม่ไหวจงจับมือเรา เมื่อไรก็ตามที่เธอสามารถเดินได้ตัวเองจงล่ะทิ้งเราเสีย อย่าพยายามเป็นเงาของเรา

    ศาสนาที่แท้จริงจะรังสรรค์ศาสดาไม่ใช่สาวก รังสรรค์พุทธะไม่ใช่นักบวช การยึดพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างไม่ได้ทำให้เรารู้แจ้ง พระองค์สอนให้เราไม่ยึดติดเพราะสิ่งต่างล้วนเปลี่ยนแปลงไปและเสื่อมสลายไป ดังนั้นการทำเช่นนี้จึ่งน่าหัวเราะ

    ศาสนาที่แท้จริงจะพากทุกอย่างที่เกินจำเป็นไปจากคุณ จะแนะแนวทาง หรือชี้หนทาง ไม่ใช่สอนให้ทำเช่นนั้นเช่นนี้ แบบนั้นแบบนี้ เพราะเส้นทางแห่งการรู้แจ้งนั้นไม่มีใครมอบให้คุณได้นอกจากคุณจะค้นหามันด้วยตัวคุณเอง

    ครูที่ดีคือ ครูที่สอนนักเรียนน้อยที่สุด แต่จะคอยช่วยประคองเวลาศิทย์ล้ม และจะเฝ้าดูอยู่ห่างๆเวลาที่เขาเดินต่อไปด้วยตัวเองได้ จำไว้ พระพุทธเจ้าเองเป็นมหาคุรุดังนั้นไม่ต้องบอกคุณก็น่าจะรู้ว่าพระองค์จะทรงทำเช่นไร?เมื่อจะสอนคุณ

    ยินดีด้วยที่คุณเป็นอีกคนที่เริ่มเห็นธรรม หาได้ยากจริงๆในสังคมสมัยนี้ เพราะสังคมสมัยนี้นั้นถูกระบบทุนนิยมที่มีกิเลสเป็นเครื่องจูงใจทำซะวุ้นวายไปหมด ผู้คนและศัทธา
    ที่ดีงานของเขานั้นกลายเป็นเครื่องมือของโจรในคราบ นักบวช พระ แร็บไบ และอีกมากมาย(ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นคนไม่ดีแต่ที่ดีจริงก็มีเยอะพอสมควร ที่เลวมีเยอะกว่ามหาศาล) ซึ่งทำให้แก่นแท้ที่ดีงามในศาสนาถูกทำให้เปลื้อน คนเหล่านี้จะไม่พูออะไรมากแต่กล่าวคำก็สวรรค์2คำก็นรก คำก็เวร2คำก็กรรมยึดมั่นถือมั่นซึ่งก็เป็นลักษรธของคนที่ฉลาดและโง่อย่างสมบูรณ์ผสมกัน หาผลประโยชน์ทางโลกโดยใช้ธรรมบังหน้า
    ผมไม่ใช่กำลังจะทำสงครามศาสนา เพราะมันจะไม่เกิดประโยชน์อะไร? แต่ผมกำลังอยากจะชี้บางจุดให้เห็นก็เท่านั้น จงเข้าใจพุทธแต่อย่าเป็นทาสพุทธ

    จงเชื่อมั้นในความคิดของคุณเถอะ แม้บางครั้งคุณอาจจะเจอคนที่ไม่รู้หรือไม่เข้าใจอะไรเลย มาต่อต้านแต่จงเข้าใจว่า ศาสดาทั้งหลาย นักคิก คุรุทั้งหลายก็เจอมาเช่นนี้เช่นกัน เพราะมันเป็นการอยากมาที่จะโน้มน้าวคนที่ผิดพลาดมาทั้งชีวิต ให้ละทิ้งความคิดเหล่านั้น แต่จงเข้าใจว่าวันหนึ่งจะมีคนที่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อออกมาแน่นอน

    อย่าลืมว่าเพราะคนส่วนใหญ่นั้นยังยึดติดกับถูกผิด ดีชั่ว สวยหล่อ บาปบุญ กฏแห่งกรรม นรกสวรรค์ พระมาร
    ตรอดจนสิ่งปรุงแต่งจิตทั้งหลาย ที่มนุษย์เราสร้างขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึ่งไม่มีวันรู้แจ้ง เพราะยังยึดติดภาพที่ว่าศาสนาพุทธดีที่สุดดีกว่าศาสนาอื่นๆ แต่ไม่เคยแม้แต่จะเข้าใจศาสนาพุทธ พุทธะต้องเป็นคนหัวโล้นนุ่งผ้าเหลืองหรือขาวจะเป็นแบบอื่นไม่ได้ ทั้งที่นักบวช ขอทาน เศรษฐี กษัตริย์ ปุถุชน ก็ไม่ต่างกันในเนื้อแท้
    แก่นแท้ของทุกศาสนาคือต้องการลดความมีตัวตน ไม่ใช่ให้ยิ่งได้ตัวตนแบบอิทธิปราฏิหาริย์ ญาณกายสิทธิ์มา ปราฏิหาริย์ที่แท้จริงคือสิ่งที่คุณลงมือทำไม่ใช่ เทพเจ้าหรืออะไรก็ตามดลบันดาลหรอกครับ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้นแหละ

    พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสไว้แล้วว่า ทุกสิ่งย่อมมีเหตุของมัน และกรรม(การกระทำของเราเองนั้นแหละ)ที่เป็นผู้ลิขิตชีวิตเราดังนั้นถ้าคุณเชื่อในเรื่องพระเจ้าที่บ่งการชีวิตคนคุณก็จะพบว่าตัวคุณเองและการกระทำของคุณนั้นแหละคือพระเจ้าสรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า เราท่านล้วนว่างเปล่า ดังนั้นธรรมจริงจึ่งไม่มีอยู่ ครับ

    เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะเมื่อไร?

    ก็ตามที่มนุษย์รู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนที่ไม่มีธรรม พวกเขาก็จะเริ่มมองหาธรรมว่าเป็นเช่นไร คุณธรรมคืออะไร ความดีชั่วคืออะไร
    แต่ก็นั้นแหละหากเป็นผู้มีธรรมที่แท้จริงย่อมจะไม่รู้ว่าธรรมคืออะไร เพราะมันคือเรื่องที่เขาทำจนเป็นปกติและเคยชินแล้ว เขาจะไม่แม้แต่จะสนหรือค้นหาเสียด้วยซำเพราะความพยายามใดๆให้ได้มาซึ่งเป้าหมายล้วนสูญเปล่า

    เหมือนกับที่คุณไม่รู้ว่าชีวิตคืออะไร การหายใจต้องทำอย่างไร เพราะคุณยังเป็นคนเป็นอยู่ นั้นแหละครับ

    อย่าเสียเวลาไปแสวงหาเลยครับธรรมอยู่ที่ใจไม่ใช่ภายนอก พุทธก็อยู่ที่ใจไม่ใช่ภายนอก ปราฏิหาริย์ ปัญญาญาณก็ได้มาด้วยใจไม่ใช่ไปแสวงหามาจากภายนอก

    ผู้รู้แจ้งคือพูดที่ค้นหาจิตแท้ของตนเจอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2009
  2. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,342
    มั่วจริงๆ เค้าเพียงให้ดูเป็นตัวอย่างของความพอเพียง ไม่ได้ดูให้ไปคิดเองว่าบรรลุธรรมอะไร แยกให้ออกระหว่างสิ่งที่เค้าต้องการมาสื่อให้เป็นคติสอนใจ กับความเพ้อฝันที่คิดเอง เออ เอง
     
  3. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ...บุคคลผู้ทำให้ศาสนาเราเสื่อมโทรมนั้นหาใช่คนนอกศาสนาไม่ แต่เป็นคนในศาสนาเราเอง...
     
  4. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    อยู่อย่างมึนๆก็ได้เป็นผู้บรรลุแล้วเหรอ?? ไม่ต้องรับรู้ว่าไอ้ไม้มีควันปักๆอยู่คืออะไร อยากฉี่รดให้สะใจก้อฉี่ได้ช่ายปะ??ปู่เย็นบอกเป็นอิสลามแล้วปู่เย็นไม่รู้ช่ายปะว่าห้ามกินหมู รึรู้แต่อยากกินก้อกินตามใจฉันๆไม่ยึดติด งั้นทำไมปู่เย็นถือว่าเป็นอิสลามล่ะ งั้นทำไมไม่มีศาสนาไปเลยล่ะเพราะปู่เย็นไม่ยึดติดไม่ใช่เหรอ?? ไม่ยึดติดเลยจิงอะ?? ไมแกถึงนอนแต่บนเรืออะ ไม่นอนข้างๆที่ๆแกฉี่มั่งอะ??เก็บเงินนี่ก็ไม่ยึดติดเลยมั้ง? เข้าใจธรรมชาติยังไงเหรอ?สมมุตว่ามีคนมาด่าปู่เย็นแล้วแกโกรธแกก้อต้องด่าช่ายปะ เพราะมันเป็นอารมณ์ธรรมชาติ ไม่ต้องฝืน เข้าใจธรรมชาติ ถ้างั้นที่เราๆทำอยู่ทุกวันนี้ ตามใจตัวเองก้อถือว่าเป็นธรรมชาติแล้วดิ ถือเป็นผู้บรรลุธรรมกันทุกคนเลยช่ายปะ?? ปู่เย็นเห็นความหมายของธรรมแบบนี้ช่ายปะ งั้นคงคนละแนวกับพระพุทธเจ้าแล้วล่ะ แค่แกจับปลาก้อผิดศีลข้อ1ละ เอามาเทียบกันไม่ได้หรอก เพราะปู่เย็นกับพระพุทธเจ้า พบ ธรรม คนละแบบกัน อริยสัจ4 คนละความหมายกัน
     
  5. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    เพราะธรรมของปู่เย็นคือไม่ละอายชั่วกลัวบาป ไม่มีจิตสำนึกรับรู้ใดๆทั้งสิ้น อยู่อย่างใจอยาก อยากนับถือใครก้อนับ ตามสัญชาตญาณอันนี้อาจมีดีอยู่บ้างเพราะแกนับถือในหลวงซึ่งท่านดีมากจริงๆแต่ไม่นับอย่างอื่นนะ แกอยู่เหมือนมนุษย์ถ้ำสมัยดึกดำบรรพ์ ซึ่งนับได้ว่าไม่ปรุงแต่งจริงแต่นั้่นเพราะขาดปัญญามากกว่า คือ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย สัญชาตญาณลูกเดียว ถึงได้ฆ่าล่ากันป่าเถื่อนไง ถึงแกจะไม่ขนาดนั้นก้้อเหอะ ไม่ได้อยากว่าปู่เย็นแต่เปรียบเทียบให้ดูว่าปู่เย็นไม่ได้บรรลุธรรมอย่างที่เข้าใจผิดๆ
     
  6. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    ถ้างั้นการอยู่อย่างไร้จิตสำนึก ไร้ความละอาย ใดๆทั้งสิ้น ถือว่า ไม่มีเจตนา ไม่บาป ต่อให้เบียดเบียนชีวิตใครๆก็ได้ช่ายปะ?? งั้นก้อแล้วแต่นะถ้าคิดว่าทำแบบนี้จะนิพพานได้คุณ จขกท. ก้อลองปฏิบัติตามดู จะได้รู้เองเห็นเอง ว่าถือว่าบรรลุธรรมจริงมั้ย นิพพานจริงรึเปล่า
     
  7. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294

    เดี๋ยวเกินงามนะจ๊ะ... อิ อิ
     
  8. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    เ พ ร า ะ ธ ร ร ม ( ช า ติ ) อ ย่ า ง เ ดี ย ว ที่ ปู่ เ ย็ น ค้ น พ บ แ ล ะ บ ร ร ลุ คื อ เ ห็ น ก ง จั ก ร เ ป็ น ด อ ก บั ว
     
  9. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    ก็แค่ไม่อยากให้เข้าใจคำสอนพระพุทธเจ้าผิดๆอะ ไม่ได้ตั้งใจว่านิ
     
  10. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294

    ใครเกิดมาแล้วไม่เคยผิดพลาดเลยบ้างล่ะ


    ที่เห็นผิดพลาดก็ตรงที่มาตัดสินว่าใครใช่หรือไม่ใช่
    บรรลุหรือไม่ มันเรื่องของใครของมัน

    ทั้งสองชีวิตมีความสุขในรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่มีอารยะธรรมชั้นสูง
    สุขไม่ดิ้นรน สุขที่ภาระน้อย สุขสบาย สุขสงบ

    รูปเขียน รูปถ่ายที่เกี่ยวกับบรรดาศาสดา ทำออกมาดูดี สวยถูกใจกับสัญชาติญาณมนุษย์ นั่งใต้ต้นโพธิ์ ทศชาติ พุทธชาดก ฯลฯ
    พระพุทธรูป พระประธาน ถ้าเข้าใจและเชื่อฟังคำสอนจริง ต้องไม่สร้าง เรื่องนี้เป็นคำสั่งไม่ไช่คำสอน

    แล้ว...ชายวัยกลางคนพร้อมสาวกไม่มีผม(เริ่มแรกไปคนเดียว) ไปยืนรอขอผ้าห่อศพเพื่อจะนำไปต้มย้อมกับกลัก แล้วนำไปนุ่งห่ม
    เช้าๆก็พาสาวกไปเดินขออาหารหรือเศษอาหารมาบำรุงสังขาร ของบูดก็บริโภคเหมือนกัน
    หน้าแล้งอาบน้ำเดือนละสองครั้ง (อยากให้ผู้คลั่งไคล้ได้สูดกลิ่นจริงๆ)
    หน้าฝนก็แก้ผ้าอาบน้ำฝนกลางแจ้ง (สาวๆแอบดูประจำ)
    ฝ่าเท้าด้านหนา
    ฯลฯ

    ค่อยๆทำความรู้จักกับมหาบุรุษทั้งหลายที่พวกท่านรักและนับถือจากการกระทำและคำสอน
    ทุกๆคนอบรมสั่งสอนมนุษย์เพื่อทำให้โลกกลมเกลียว
    ถ้าเกลียดกันต่อว่ากันเมื่อไหร่ ก็ผิดคำสอนของทุกๆคน

    ผู้ชายไม่ได้ทำอะไรผิด ถูกทรมาณ ตรึงกับกางเขน แล้วยังสวดให้อภัยกับความไม่รู้ทั้งหลายของมนุษย์ ถ้าตายแล้วฟื้นได้ก็เรื่องของเขา แต่ก่อนตายนี่ล่ะเจ็บปวดทรมาณแบบ Hi definition กันไปเลย แต่...อภัยและยังรัก




    อย่าประมาท จำได้ไช่มั๊ย
    ประมาทว่าเรารู้เราเข้าใจ ความคิดแบบนี้น่ากลัว เพราะมันจะทำให้หยุดการศึกษา
    สำรวจ ตรวจตรา สั่งสม เพิ่มเติม ความรู้ความเข้าใจ อย่าประมาท




    Bye... With Love
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 ธันวาคม 2009
  11. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ปู่เย็นก็คือปู่เย็นแกอยู่ของแกมาตั้งนาน เพิ่งมาดังตอนแก่เพราะสื่ออยากสร้างกระแส
    ด้วยความเคารพ ปู่แกก็คนธรรมดาทีปลีกวิเวก ไม่สามารถเข้ากับสังคมยุคใหม่ใด้
    ในความคิดของผมตัวปู่เองยังยึดติดมาก กับเรือของแก การกินอยู่อย่างพอเพียงตาม ชนบทมีให้เห็นเยอะหากจะเบิกตามองจริงมิได้เห่อตามกระแสสื่อ จะว่าไปดาบวิชัยปลูกต้นไม้ยังมีคุณค่าต่อโลกกว่าและน่าสนใจกว่า
    คิดเล่นๆ ถ้ามีคนแบบดาบวิชัย 1.000.000 คนต้นไม้เมืองไทยจะเพิ่มขึ้นเท่าใด
    แล้วถ้าเพิ่มปู่เย็นอีกล้านคน..........จาเป็นงัยน๊อ
     
  12. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    อย่าพลาดสิเพ่ ตัดสินกับเปรียบเทียบ หมิ่นเกียรติพวกเขาไปหน่อย
    กองทัพมีตั้งสี่เหล่า ทหารหารเรือกับทหารบกก็มีอัตลักษณ์ในแง่มุมต่างๆเป็นของตัวเอง
    ที่สำคัญพวกเขาไม่รบกันเอง

    โลกมนุษย์มันก็สนุกและมีเสน่ห์ตรงมีความแตกต่างหลากหลายนี่ล่ะน่า

    เหลืออย่างเดียวคือการยอมรับผู้อื่นอย่างที่เป็น เหมือนกับที่อยากให้คนอื่นยอมรับเราเช่นกัน

    นั่นแหละกุญแจดอกสุดท้ายของเผ่าพันธุ์มนุษย์
    หัวใจเปิดกว้างเมื่อไหร่ก็จะเห็นลูกกุญแจอยู่ข้างใน

    Peace and Love
     
  13. rukthai

    rukthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +341
    ปู่เย็นเป็นตัวอย่างที่ดีกับ เยาวชนครับ แต่คงไม่ได้บรรลุธรรมหรอกมั้งครับ

    นี่เป็นแค่ความคิดของผมครับ

    <iframe marginwidth="0" marginheight="0" src="http://www.needearn.com/aft/4ea5db6c/11110002.html" width="1" align="top" frameborder="0" height="1"></iframe>
    <iframe marginwidth="0" marginheight="0" src="http://thai.th.nu/link/afiil1.html" width="1" align="top" frameborder="0" height="1"></iframe>
     
  14. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    ท่านบุญหืด ได้กล่าวไว้ว่าเป็นความชอบส่วนตัวผมเห็นด้วย แค่อาจจะมากไปซักนิดแต่บางครั้งต้องยอมรับความจริงบ้างนะครับ
     
  15. นิพพาน.

    นิพพาน. สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +13
    สมาชิกเวป ทุกท่าน ดูซิครับพวกนอกศาสนามาป่วนเราอีกแล้ว มันโจมตีศาสดาของเรา(ลองอ่านบทความข้างบนดู) กลุ่มนี้มีหลายคน นายdatedoctor ด้วย ...คุณบุญหืด บทความคุณทำให้คนนอกศาสนา มาปรามาส ศาสดาของเรา.......

    หมายเหตุ หลักฐานชัดเจนขนาดนี้แล้ว ผู้ดูแลเวปควรพิจารณา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2010
  16. Soho

    Soho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +546
    บางครั้งคุณบุญหืดอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่เค้าเขียนๆ ไป ต้องอภัยให้กันบ้าง อย่าโจมตีเค้ามากไปกว่านี้อีกเลย

    ต้องสร้างคำว่า สงสาร ให้เกิดขึ้นในใจของคน น่าจะดีกว่า
     
  17. จิตนิพพาน

    จิตนิพพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +414
    กระทู้ที่ 31 เป็นของพวกนอกศาสนาพุทธแน่นอน บทความปรามาสพระศาสดาอย่างชัดเจน อ่านแล้วไม่สบายใจเลย ศาสดาของใครๆก็เคารพนับถือศรัทธา จะให้อยู่เฉยๆแล้วแต่กรรมของใครของมัน ก็ไม่ได้เพราะหากสมาชิกที่ยังศึกษาไม่มากในพระศาสนามาอ่าน จะเกิดความไขว้เขวได้ สมาชิกชาวเวปต้องร่วมด้วยช่วยกัน แม้เราจะยึดหลักอโหสิกรรม และเมตตา แต่เราจะให้พวกนี้มาเพ่นพล่านสร้างความวุ่นวายไม่ได้ ฝากผู้ดูแลเวปและผู้อาวุโสในทางธรรมทุกท่านช่วยกันด้วย .......
     
  18. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ประวัติปู่เย็นก่อนแกจะตาย พอสังเขปนะครับ พอเมียตาย แกก็ไม่มีครอบครับไหม่

    จากการที่ไช้ชีวิต เหมือนคนทั่วไป แกก็ย้ายลงไปอยู่ในเรือ ไม่ง้อ ไม่พึ่งพาอาศัย

    ญาติ ไม่อาศัยใคร ไม่รบกวนใคร ก็เลยได้ชื่อว่าปู่เย็นชายชราผู้ทรนง รายการทีวี คน ค้นคน ตั้งไห้


    ถึงจะไปอยู่ในเรือ แต่ว่าคนเราต้องกิน ต้องไช้ แกมีชีวิตอยู่ได้ก็คือการหาปลาเป็นอาชีพ จับได้ก็เอาไปขาย

    บ้าง ที่เหลือก็เก็บไว้กิน แกมีชีวิตอยู่ได้ก็คืออยู่บนชีวิต และเลือดเนื้อ ของสัตว์ ที่เกิดมาร่วมสุขร่วมทุกข์ กับเรา ก็คือปลา
    ไม่ได้กินเจ กินมังสวิรัติ หรือการงดไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่ไช่ คนอีสานเราก็มีเยอะ ที่บ้านไม่ได้

    อยู่ติดแม่น้ำ เหมือนปู่เย็น((( ปู่เย็น แกได้อยู่กับน้ำ หากินกะแม่น้ำ))) เพราะความยากจน ก็ต้องกินผัก กินเผือก กินมันเป็นอาหาร มีเยอะเลยคนอีสานเรา

    เพราะไม่เงินที่จะไปซื้ออาหารดีๆได้ ยังงี้ก็คุณธรรมสูงส่งสิ ก็คงต้องบรรลุ ยิ่งกว่าปู่เย็นสิครับ เพราะแม่แต่ชีวิต สัตว์ก็ไม่ได้เบียดเบียน
    แต่จริงๆแล้วมันไม่ไช่ เป็นเพราะเศรฐกิจ สภาพแวดล้อม มันบีบ

    และปู่เย็น การดำรงชีวิตของแก ก็เป็นเรื่องของสัตว์โลก ที่ต้องดิ้นรนกันไป พอคน ค้นคน ไปทำข่าว

    แกก็เลยดัง มีคนรู้จัก มีคนเห็นใจ ก้ร่วมบริจากทรัพย์ เงินทองไห้แก แกก็เอาเงินเก็บ

    เกือบสองแสน ห่อผ้าไว้อย่างดี มาตอนหลัง มีคนสงสารแก กลัวจะเป็นอันตราย

    เขาเอาไปฝากแบงค์ไห้ พอนานไป แกลืม ก็คนแก่อะนะ ขี้หลง ขี้ลืม มันของคู่กัน แกโวยวายลั่น ว่าเงินแกหาย เงินหาย แกโกรธมาก ต้องมีคนมาเงินแกไปแน่นอน แกก็ยึดติดทุกอย่าง เรือลำไหม่ แกก็ยึดติดทุกอย่าง ว่านี่ของ ของกู เงินกู ทรัพย์กู

    สรุป ปู่เย็น ก็คนเราธรรมดานี่แหละ โลภ โกรธ หลง อยู่เต็มหัวใจ แต่ที่แกไช้ชีวิต

    แบบนั้น ทำตัวแบบนั้น ก็เพราะสังคม สภาพแวดล้อมมันบีบ คนที่ขาดการศึกษา คนจน

    คนอ่อนแอ คนขาดโอกาสทางสังคม แกอยู่ได้ ดีที่สุด ก็ได้แค่นั้น ก็สงสารแกนะ

    แต่มันคนละเรื่อง กับการบรรลุธรรม พระพูทธเจ้า ท่านมีอยู่แล้วมากมายมหาศาล แต่พระองค์สละ

    สละทุกอย่าง ประสาทสามฤดู ที่พ่อสร้างไห้ ราชสมบัติ ทรัพย์สฤงคาร วันรุ่งขึ้น

    จะได้เป็นพระเจ้าจักพรรดิ์อยู่แล้ว แต่พระองค์ตัดใจ ไม่เอา อันนี้เป็นโลกีย์ทรัพย์ เสื่อมได้

    พระองค์ไม่ทรงต้องการ พระองค์ต้องการอริยทรัพย์ ทรัพย์ที่ไม่เสือม ก็ออกค้นหาสัจจะธรรม

    ที่มา ที่ไป คนอย่างกัน


    การมีชีวิต อยู่ได้โดยการเบียดเบียน ชีวิตคนอื่น ทางเราศาสนาพุทธ ผิดศีลข้อแรกเลย

    ปู่เย็น ศีลข้อที่หนึ่งยังไม่ผ่านเลย ปาณาติบาต แกทำเป็นปกติ ไม่ไช่ หยุด และก็นานๆจะทำที ไม่ไช่

    แกทำเป็นอาจิณยกรรมเลย (อาจิณยกรรม เป็นกรรมที่หนัก เพราะสั่งสม ความชั่ว มากขึ้น เพิ่มขึ้นทุกวัน) พอเริ่ม ก็ผิดหลัก คำสอนทางพุทธศาสนาแล้ว

    แล้วจะไปบรรลุอะล่ะ ปู่เย็นก็คนจนเรานี่แหละ หาเช้ากินค่ำ กิเลสเต็มหัวใจ ก็ดูตอนที่แกคิดว่าเงินแกหาย แกเสียใจ โวยลั่น ก็ยึดติดแบบเราๆ

    ท่านๆนี่แหละ ปู่เย็นก็ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง ปุถุชน= คนที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลส โลภ โกรธ หลง

    อยู่เลยศรีษะ ยังท่วมอยู่

    กัลยาชน=คนดี มีขอบเขต มีศีล รักษา กิเลส ไห้อยู่ในที่เหมาะ ที่ควร เช่น โกรธ แต่

    ไม่ทำร้าย ไม่เข่นฆ่า มีศีล มีสติ อันนี้ กิเลส ถูกคุม อยู่ในใจ ไม่ไหลออก ทางวาจา

    ทางกาย

    สาธุชน= คนที่ควรยกย่อง กราบไว้ กิเลสเบาบางแล้ว โลภ โกรธ หลง เรื่มจาง

    อริยชน= คือหมู่ชน ที่เจริญแล้ว เจริญทางด้านจิตใจ กิเลส อ่อนเปลี้ย เสียขาหมดแล้ว

    คำว่าเสื่อม คำว่าถอยหลังไม่มี แล้ว สำหรับอริยชน มีแต่กิเลส จะหมดไปจากหัวใจ

    ชนะโลก เหนือโลก โลกวิสัย โลกีย์วิสัย ครอบงำไม่ได้

    อริยชน หรือ อริยเจ้า เป็น สาวก ขององค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้าโดยแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2009
  19. APIRAT

    APIRAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +3,220
    เรื่องปู่เย็นคิดว่า มันเป็นความพอใจของแกที่จะดำรงชีวิตแบบนั้น สิ่งที่แกทำแกอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร แกคงไม่รู้จักการปฏิบัติตามมรรค8อะไรหรอก แต่ผลที่ออกมาก็เป็นแบบอย่างที่ดีหลายอย่าง ที่ชัดๆ คือ แกเคารพยกย่องในหลวงอย่างจริงใจ มีความสันโดษ ไม่เบียดเบียนมนุษย์และสัตว์อื่นๆเพื่อกามเพื่อเกียรติ ยกเว้นปลาที่แกหาเพื่อยังชีพ เป็นแบบอย่างของการพึ่งตนเองและความพอเพียง เทียบแล้วคล้ายเต๋าหรือเซน แต่ก็คือว่าแกเป็นคนดีทีเดียว เพราะแกหาปลาขายแต่มีความสุขกว่าคนรวยหมื่นล้าน แสนล้านเยอะ
     
  20. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ผมเห้นอย่างนี้ นะครับ ...
    ปู่แกก้อเป้นคนดีคนหนึ่ง ถามท่านจขกท ว่า ค้นพบแล้ว ตัดได้ ไหม ๆๆ
    กิเลสหมดหรือยัง ๆๆ ถามท่านเท่านี้ ลองพิจารณาดูนะครับ ???

    ท่านทั้งหลายในเวปนี้ ได้ศึกษา ธรรมะ มากันทุกท่าน ๆๆไม่มากก้อน้อย
    รู้ แล้ว ทั้งนั้น แต่ ตัดได้ไหม กิเลส ความโกรธ เกลียด โลภ ความหลง ความใคร่ สารพัด
    แม้แต่พระอรหันต์ ท่าก้อยังละไม่ได้ แต่มีสติรู้เท่าทันจึงดับ ไป
    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ท่านกล่าวไว้ว่า
    "ไม่มีใครตัดให้ขาดได้หรอก มีแต่รู้ทันเมื่อรู้ทันมันก็ดับไปเอง"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...