ทำไมพระภิกษุในศรีลังกานิกายสยามวงศ์ ถึงไม่โกนคิ้วครับ

ทำไมพระไทยถึงโกนคิ้วแต่พระในประเทศเพื่อนบ้านเรา เช่น พระ พม่า มอญ ศรีลังกา กลับไม่โกน ทั้ง ๆ ที่เป็นนิการเถรวาทเหมือนกัน

คือผมเห็นในสารคดีทางทีวีครับ เห็นพระภิกษุศรีลังกาท่านไม่โกนคิ้วก็เลยสงสัย ทั้งที่เป็นนิกายสยามวงศ์ซึ่งรับไปจากประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาโน้นแท้ ๆ ซึ่งก็น่าจะโกนคิ้วเหมือนกับพระไทยแต่กลับไม่โกน เป็นไปได้มั๊ยครับว่าในอดีตสมัยอยุธยาก่อนเสียกรุงครั้งที่ 2 นั้น พระภิกษุในประเทศไทยก็ไม่โกนคิ้วเช่นกัน

เพราะว่าผมเห็นในสารคดีแล้วก็ให้มาเอะใจถึงเรื่องที่เคยอ่านก่อนหน้านี้ คือ เกร็ดประวัติและปกิณกะธรรมของหลวงปู่มั่นที่หลวงตาทองคำบันทึกไว้..

...จำได้ว่าหลวงปู่มั่นบอกว่าในช่วงสงครามคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 พวกพม่าเป็นจารชนลอบเข้ามาสืบความลับในไทยโดยปลอมเป็นพระภิกษุ ทางราชสำนักไทยจึงออกกฎให้พระไทยนั้นต้องโกนคิ้วและห่มดอง (คือการห่มแบบมีสังฆาฎิพาดบ่าแล้วมีผ้ารัดอกอีกที) เพื่อให้แตกต่างจากพระจารชนของพม่า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพระภิกษุไทยจึงมีการโกนคิ้วมาตลอดจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งเมื่อพิจารณาตามที่หลวงปู่มั่นเล่าไว้ก็เห็นจะเป็นจริงตามนั้นนะครับ เพราะสังเกตุจากพระพม่า พระมอญหรือพระศรีลังกาก็ไม่เห็นท่านโกนคิ้ว โดยเฉพาะพระศรีลังกานั้นซึ่งรับพระพุทธศาสนาจากไทยไปแท้ ๆ กลับไม่โกนคิ้ว ดังนั้นผมจึงคิดว่าที่พระไทยโกนคิ้วนั้นน่าจะมาจากเหตุผลตามที่กล่าวไว้นั่นเอง

จะเป็นไปได้มั๊ยครับ ท่านใดมีข้อมูลอื่น ๆ หรือพอจะให้ความรู้ตรงนี้ได้บ้างครับ

 

จริงๆ แล้วต้องเปลี่ยนคำถามใหม่เป็น"ทำไมพระภิกษุในไทยจึงต้องโกนคิ้ว" มากกว่า เพราะเท่าที่เห็นมาในประเทศอื่นๆ พระภิกษุก็ไม่โกนคิ้วเช่นกัน และในพระวินัยพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้บัญญัติให้โกนคิ้วเช่นกัน ..ผมตอบไว้ในกระทู้ http://palungjit.org/showthread.php?t=143134 แล้วบังเอิญมาเห็นกระทู้นี้พอดี ขออนุญาตนำเรื่องที่พระอาจารย์เล่าให้ผมฟังตอนบวชมาเล่าให้ฟังดังนี้ครับ จริงเท็จอย่างไรโปรดใช้ปัญญาพิจารณา

เมื่อตรวจทานกับที่หลวงปู่มั่นได้บอกไว้ เทียบเคียงกับที่พระอาจารย์บอก ผมเชื่อว่าเป็นเช่นนี้จริงๆ ทุกท่านสรุปเหมือนกันหมดว่า ต้นกำเนิดของการที่พระไทยโกนคิ้วนั้นมาจากปัญหาเรื่องความมั่นคงของชาติ นับตั้งแต่นั้นมาจวบจนกระทั่งสงครามไทย-พม่ามาสิ้นสุดในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น กินเวลานับร้อยปี ทำให้พระไทยน่าจะเป็นพระชาติเดียวในโลกที่โกนคิั้วครับ

 

นั่นล่ะเหตุผล ทีนี้ไม่มีการศึกสงครามแล้วก็ควรกลับมาดั่งเดิม

 

โกนคิ้วก็ไม่ผิด ไม่โกนคิ้วก็ไม่ผิด

แต่ เราเห็นพระสงฆ์ของไทย ไม่โกนคิ้วแล้วรู้สึกแปลก ๆ ตา

การไม่โกนคิ้วก็มีข้อเสียในยุคปัจจุบัน เช่น

ถ้ามีพระทุศีล อยากหนีเที่ยวผับบาร์ ถ้าไม่โกนคิ้วแล้วใส่วิกผม

แต่งตัวแบบฆราวาส...จะมองไม่ออกเลยว่าเป็น พระสงฆ์ หนีเที่ยว

สำหรับผม โกนคิ้วดีกว่าครับ สะอาดตาดี

 

ก็ทำหนังสือส่งถึงไปที่กรมการศาสนาและทำเรื่องไปที่มหาเถระสมาคมสิครับถ้าคิดจะรณรงค์ให้พระเลิกโกนคิ้ว ถ้าจะเอาอย่างนั้นจริงๆ แล้วมีการรณรงค์ให้พระทั่วประเทศไทยทำดังว่าผมก็คิดว่าถ้าทางฝ่ายปกครองสั่งให้ดำเนินการมา พระทั่วประเทศก็เอาอย่างนั้นด้วยแน่ ผมมั่นใจว่าการโกนคิ้วหรือไม่โกนคิ้วไม่ใช่ปัจจัยให้พระหรือฆราวาสบรรลุมรรคผลนิพพานได้เร็วขึ้นหรือช้าลงแต่อย่างใด ในเมื่อไม่ยึดติดกับรูปกับแค่การไม่มีคิ้วนี่ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยครับ ผมว่าเป็นการดีสำหรับตัวพระเองซะอีกกับการที่ไม่มีทั้งคิ้วและผม เพราะจะทำให้เห็นหน้าตาตัวเองจริงๆ ที่ไม่มีทั้งคิ้วและผมปรุงแต่ง และสำหรับพระบางรูป (เช่นผมเองในตอนที่บวช) พบว่าการไม่มีทั้งผมและคิ้วช่วยทำให้เจริญกายานุปัสสนาสติปัฏฐานได้ง่ายขึ้นด้วย ไม่เชื่อคุณลองกลับไปโกนคิ้วแล้วลองพิจารณาเปรียบเทียบใบหน้าตอนก่อนมีคิ้วกับหลังจากไม่มีคิ้วแล้วดูสิครับ คุณจะพบว่าทำให้คุณพิจารณาสติปัฏฐานได้ดีขึ้น ..ผมเชื่อว่าคุณทำได้เพราะคุณไม่ยึดติดในรูปอยู่แล้ว

 

จริงอย่างที่คุณ Falcon se ว่านะครับ ถ้าโกนคิ้ว โกนผม ก็ทำให้ไม่ยึดติดในกายภายนอก จะทำให้การพิจารณาต่างๆ ดีขึ้น ผมว่าดีแล้วที่โกนอย่างน้อย(อย่างน้อยนะครับ)พระท่านเห็นตัวเอง ยิ่งปลงอะไรๆ ได้เร็วขึ้น

 

โบราณเห็นความมั่นคงของชาติ ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ต่างจากสมัยปัจจุบันที่เห็นผลประโยชน์ส่วนตนสำคัญกว่าชาติ dangcarry

 

ตอนผมบวชศึกษาอยู่กับพระอาจารย์องค์นึงไม่ขอเอ่ยนามท่าน ท่านอยู่ที่นครสวรรค์ ท่านบอกว่า ที่พระไทยโกนคิ้วนั้น เรื่องอยู่ว่าสมัยก่อนพวกพม่าปลอมตัวเป็นพระมาเป็นไส้ศึก พระไทยจึงรวมตัวกันให้โกนคิ้วสะ ที่นี่พระปลอมพม่าไม่โกนก็รู้เลยว่าปลอมตัวมา หลังจากนั้นก็โกนกันต่อๆมา ไม่โกนไม่ผิดครับหรอกครับ แต่มันตลก เพราะผมลองมาแล้ว พระอาจารย์นี่หัวเราะก๊ากเลย โยมก็หัวเราะ ทางที่ดีทำๆให้เหมือนชาวบ้านเขาดีกว่าจะได้ไม่เป็นตัวตลกอย่างผม หาว่าเราเป็นพระเส้าหลินไปสะได้ ได้ก็ดีนะ บางทีก็น่าเตะก้านคอญาติโยมเหมือนกัน เข้าวัดแค่มาขอของดีกะมาดูดวง ว่าดีก็เชื่อไม่ดีก็ด่า เหอๆนี่ละคนไทย

 

หึหึ! งั้นก็มองกลับกันบ้าง