รบกวนสอบถามเกี่ยวกับการอุทิศส่วนกุศลและการทำบุญเพือคนอื่น

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย lovejay10, 17 กันยายน 2009.

  1. lovejay10

    lovejay10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +163
    - ที่ผ่านมาเวลาทำบุญไม่ว่าจะใส่บาตร ทำบุญบริจาคเงิน หรือการทำบุญทุกรูปทุกแบบ หลังจากทำบุญจะอุทิศส่วนกุศลด้วยเพียงการตั้งจิตอธิษฐานแล้วเอ่ยว่า

    "ขออุทิศส่วนกุศลในการ......ให้กับ.......... ขอให้ทุกท่านที่กล่าวมาทั้งหมดมาร่วมการสร้างบุญและรับบุญครั้งนี้ด้วยกัน"

    จะเอ่ยกล่าวแค่นี้ไม่เคยท่องบทสวดเลย พอดีมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนึงแล้วสิ่งที่แนะนำมันต่างจากที่ได้ทำมานาน เลยอยากจะทราบว่าวิธีที่ทำไปยังจะสามารถนำผลบุญไปถึงผู้ที่ต้องการจะอุทิศได้หรือไม่ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

    - อีกข้อที่สงสัยและอยากรู้คือ ถ้าเราทำบุญด้วยปัจจัยของเรา แต่ใส่ชื่อเป็นชื่อคนอื่นแทนในฐานะผู้ทำบุญ บุญนั้นๆจะตกไปถึงคนที่เราระบุหรือไม่

    ขอบคุณมากค่ะ
     
  2. motivegirl

    motivegirl Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +50
    อยากทราบเหมือนกับคุณ lovejay10 เลยค่ะ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    คำอุทิศส่วนกุศล
    โดย พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)<O:p</O:p


    <O:p</O:p

    <O:p</O:p
    อิทัง ปุญญะผะลังผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลายที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน


    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพและพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดีมิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด <O:p</O:p
    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด...

    ''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''

    การอุทิศส่วนกุศล

    ผู้ถาม
    : หลวงพ่อคะ ลูกทำสังฆทานให้สัมภเวสี ถ้ากลับไป แล้วจะกรวดน้ำให้ได้ไหมคะ…?
    หลวงพ่อ : การอุทิศส่วนกุศล ในพระพุทธศาสนานี่ไม่มีน้ำ แต่ว่าที่ พระเจ้าพิมพิสาร ทำเป็นองค์แรก เพราะว่าศาสนาพราหมณ์เขาถือว่า ถ้าจะให้อะไรกับใคร ต้องให้คนนั้น แบมือแล้วเอาน้ำราดลงไป และตอนที่พระเจ้าพิมพิสารทำ พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ห้าม เพราะเป็นประเพณีนิยม เวลาที่พระเจ้าพิมพิสารอุทิศส่วนกุศลต้องใช้น้ำ เพราะว่าท่านเพิ่งพบพระพุทธเจ้า ประเพณีของพราหมณ์ยังชินอยู่ แต่ว่าใจท่านตั้งตรง เวลาอุทิศส่วนกุศลจริง ๆ ในพระพุทธศาสนาไม่ต้องใช้น้ำ ผีกับเปรต ต้องรีบวิ่งกลับ เพราะไม่ได้กินแน่ เพราะฉันเคยพบมาแล้ว แต่ไม่มีน้ำนะ ว่า “อิมินา” เพลินไป ยังไม่ถึงครึ่งก็มีคน 2 คนถือโซ่มาคล้องคอปั๊บลากไปเลย

    ผู้ถาม : มีบางคนเขาบอกว่า “กรวดน้ำแบบแห้ง ตายไปชาติหน้าจะแห้งแล้งเพราะไม่มีน้ำ โบราณพูดอย่างนี้จะจริงหรือเปล่าคะ…?
    หลวงพ่อ : เขาพูดได้ยินหรือเปล่า คนที่พูดมาได้ยินหรือเปล่า คนโบราณพูดอย่างนี้ คนโบราณพูดหรือเปล่า ถ้าได้ยินแสดงว่าเขาพูดจริง แต่ก็ไม่ได้แห้งแล้งจริง การอุทิศส่วนกุศล พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ใช้น้ำ ฉันใช้น้ำวันเดียว วันบวช ว่าไม่ถูกเลย ต้องระวังน้ำหยดอีก ผีไม่ได้กินน้ำ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฉันไม่เคยใช้น้ำเลย ก็เห็นผีได้รับ แต่ชาติหน้าถ้าจะทำอย่างนั้นถ้าฉันยังไม่ตายก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรนะ! กินน้ำเกลือเผื่ออยู่แล้ว เผื่อชาติหน้าจะอด!

    ผู้ถาม : อ้อ...มิน่าล่ะ! หลวงพ่อถึงให้น้ำเกลือบ่อย ๆ
    หลวงพ่อ : ใช่! มีทั้งน้ำสะอาด น้ำเกลือ น้ำหวาน เผื่อไว้ตลอด รวมความว่า เวลาจะอุทิศส่วนกุศล ให้ใช้ภาษาไทยสั้น ๆ อย่างทำบุญสังฆทาน เราก็ตั้งใจว่า
    “การบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ผลนี้จะมีแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่..(บอกชื่อ)..ขอให้มาโมทนารับผลเช่นเดียวกับข้าพเจ้า”

    และตอนที่พระสงฆ์ให้พรนี้ ก็ขอเจ้าภาพและทุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว ตั้งจิตปรารถนาเอาตามประสงค์ สมมติว่าท่านทั้งหลายตั้งใจเพื่อ “พระนิพพาน” อันนี้ก็ต้องเผื่อไว้ด้วยว่าหากสมมติว่าเราตายจากชาตินี้แล้วยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงไร สมมติว่าเราตาย ถ้าเราไม่เผื่อไว้ละก็มันจะขลุกขลัก ฉะนั้นการอธิษฐานจิต คือ ตั้งอธิษฐานเขาเรียกว่า “อธิษฐานบารมี” เจริญพระกรรมฐานก็ดี ถวายสังฆทานก็ดี อธิษฐานว่า

    “ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ แต่ทว่าถ้าหากข้าพเจ้าไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด จะเกิดใหม่ไปในชาติใดก็ตาม ขอคำว่า “ไม่มี” จงอย่าปรากฏแก่ข้าพเจ้า”

    ถ้าเราต้องการอะไรให้มันมีทุกอย่าง จะไม่รวยมากก็ช่าง! เท่านี้ก็พอแล้ว....

    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ…?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปีๆ บุญก็ยังมีอยู่ ถ้าทำไปแล้วสัก 30 ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้วเดี๋ยวเดียวมันหายไป ไม่ใช่อย่างนั้นนะ!

    ผู้ถาม : แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ…?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศลนี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม.. ทีนี้ถ้าเราให้เขา ของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม

    อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้าง ของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะ จะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่าน(พระปัจเจกฯ) ก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า สมมติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนก็สว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม…?

    ท่านอนุรุทธ ก็บอกว่า ไม่ยุบ!
    แล้วท่าน ก็บอกว่า “การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์”
    การแผ่ส่วนกุศล

    ผู้ถาม
    : การแผ่ส่วนกุศล ไปให้แก่บิดามารดา ท่านจะได้รับผลไหมคะ…?
    หลวงพ่อ : การได้รับส่วนกุศลนี่ ถ้าหากท่านมีโอกาสโมทนา ท่านก็ได้รับ ถ้าท่านไม่มีโอกาสโมทนาก็ไม่ได้รับ เหมือนเราเอาสิ่งของไปให้แก่ผู้รับเขาไม่รับ เขาจะได้ไหมถ้าพวกเขาอยู่ในนรก ไฟไหม้ทั้งวัน ถูกสรรพาวุธสับฟันทั้งวัน ถ้าเราเอาขนมไปให้กิน เขากินได้ไหม…?


    ผู้ถาม : ไม่ได้คะ?
    หลวงพ่อ : อยู่ในแดนเปรต 11 จำพวก ไม่ได้รับ แต่ถ้าเป็นพวกที่ 12 คือ ปรทัตตูปชีวีเปรต พวกนี้มีโอกาสโมทนา

    ผู้ถาม : แล้วผู้สร้างจะได้ไหมคะ…?
    หลวงพ่อ : ไม่แน่! ถ้าสร้างดีก็ได้บุญ ถ้าสร้างไม่ดีก็ได้บาป

    ผู้ถาม : เป็นไงคะ…?
    หลวงพ่อ : คือก่อนจะทำบุญ ก็กินเหล้ากันก่อน พอพระไปก็กินเหล้ากันแล้ว ถ้าหากมีเจตนา บริสุทธิ์ ไม่มีบาป มีแต่บุญ ผู้สร้างได้ 100 เปอร์เซ็นต์ คือบุญนี่จะได้แก่ผู้สร้างก่อนแล้วผู้สร้างอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น ถ้าเขามีโอกาสโมทนาก็ได้รับ

    เจ้ากรรมนายเวร

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ คำว่า “เจ้ากรรมนายเวร” นี่หมายถึงใครบ้างครับ…?
    หลวงพ่อ : เจ้ากรรมนายเวรนี่ตัวตนมันไม่มีหรอก มันเป็นเรื่องของกรรมที่เป็น “อกุศลกรรม” ถ้าบอกว่าเจ้ากรรมนายเวร ก็หมายถึงบาปที่เป็นอกุศลที่เราทำไว้ ตัวจริงที่เคยทำเขาไม่มายุ่งกับเราหรอก อย่างเราฆ่าปลาตายปลาเขาก็ไม่มายุ่งกับเรา แต่ว่ากฎของกรรมมันเล่นงานเรา ถ้าปลามานั่งจองเวรคอยลงโทษเรา แกก็ไม่ต้องไปเกิดละ!

    คำว่า “เจ้ากรรมนายเวร” นี่นะ ถ้าพูดตามส่วนจะว่าไม่มีก็ไม่ได้ ถ้าหากเราปฏิบัติถึงขั้น สุกขวิปัสโก เราจะบอกว่าไม่มีตัว เพราะไม่เคยเห็น แต่ว่าตั้งแต่ เตวิชโช ขึ้นไปเขาเห็น ต้องพูดตามขั้นนะ ถ้าเราว่ากันตามหนังสือ ก็คิดว่าจะไม่มี

    ผู้ถาม : แล้วถ้าเราอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เขาจะได้รับไหมคะ…?
    หลวงพ่อ : คือว่าอุทิศไปให้เขาจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ตาม บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข ไอ้กรรมต่างๆ ที่เป็นอกุศลที่เราทำไปแล้ว เราไปยั้งมันไม่ได้ ….
    แต่ทว่า ถ้าเราทำกรรมดี มีกำลังเหนือมัน มันก็กวดไม่ทันเหมือนกัน....








    <O:p</O:p
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    การทำบุญด้วยเงินเราแต่ใช้ชื่อคนอื่น....ถ้าคนนั้นยังไม่ตาย...ต้องบอกให้เขาโมทนา...

    ถ้าตายแล้วอุทิศปกติ....
     
  5. ภัทรวรรณ

    ภัทรวรรณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    อ่าวว...แล้วกรณีที่เราใส่บาตรแล้วอุทิศให้คนที่ยังไม่ตาย แต่ ว่าเราใส่บาตรให้เขาเพื่อให้เขาเป็นสุข(ทั้งมิตรและคนที่ไม่ชอบเรา) เขาจะได้รับไหมคะ ต้องบอกเขาไหมว่าเราใส่บาตรให้เธอแล้วนะ(ใหเขาอนุโมทนา)....จงเป็นสุขๆเป็นสุขเถิด....

    คือมีผู้แนะนำมาค่ะว่า...ถ้ามีคนที่ไม่พอใจเราคอยแต่จะนินทาและว่ากล่าว(ในที่ทำงาน)

    ให้เราใส่บาตรอุทิศบุญให้เขาไม่โกรธไม่แค้น..ลักษณะนี้เราต้องบอกให้เขาอนุโมทนาไหม

    คะ(เขาจะยอมฟังไหม)....
     

แชร์หน้านี้

Loading...