ทัวร์ย่านผีดุ ในเมืองกรุงเทพ..., ระวังสถานที่ต่อไปนี้ อาจอยู๋ใกล้บ้านคุณ..เหอะๆ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 8 สิงหาคม 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,239
    คับวันนี้ผมขออาสาเป็นไกด์ พาไปชมสถานที่ขึ้นชื่อในกทม.คับ


    ที่แรกที่จะพาไปก็คือ "ประตูผี" แน่นอนว่าผมไม่ได้จะพาไปกินสารพัดอาหารอร่อยแถวๆ นั้นหรอก แต่ดูจากชื่อก็รู้ว่าต้องมีอะไรเกี่ยวกับผีๆ สักอย่าง แต่ก่อนอื่นก็ต้องรู้ที่มาที่ไปของชื่อประตูผีกันเสียก่อน โดยต้องย้อนไปในกรุงเทพมหานครสมัยเมื่อเริ่มสร้างเมืองใหม่ๆ หรือในสมัยรัชกาลที่ 1 นั้น กรุงเทพฯ ยังไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางแบ่งเป็น 20 กว่าเขตเหมือนอย่างทุกวันนี้ แต่จะมีศูนย์รวมอยู่ภายในกำแพงเมือง ส่วนด้านนอกกำแพงก็จะมีการทำนาทำการเกษตรอยู่เป็นส่วนใหญ่


    และภายในกำแพงเมืองนี้ก็ถือธรรมเนียมกันอยู่ว่าหากมีชาวบ้านเสียชีวิตในกำแพงเมือง จะต้องขนเอาศพออกไปเผาด้านนอกกำแพง และทางออกที่จะขนศพออกไปได้ก็มีอยู่ทางเดียวคือประตูทางด้านทิศตะวันออกของเมือง ถ้าจะให้ระบุตำแหน่งก็น่าอยู่ช่วงระหว่างเสาชิงช้าและวัดสระเกศ หรือใกล้กับสี่แยกสำราญราษฎร์ปัจจุบัน เหตุที่ประตูเมืองด้านนี้ได้ชื่อว่าเป็นประตูผี ก็เพราะเป็นทางขนย้ายศพผีออกไปนอกกำแพงเมืองนั่นเอง ซึ่งวัดคนส่วนมากนำศพมาเผาหรือฝังก็มักจะเป็นที่วัดสระเกศ ซึ่งอยู่ติดๆ กับประตูผีนั่นเอง และไม่เพียงแต่กรุงเทพฯ เท่านั้นที่มีประตูผีเช่นนี้ แต่เมืองใหญ่ๆ ในสมัยโบราณเช่นเมืองเชียงใหม่ก็มีประตูผีเช่นกัน

    แม้จะเรียกย่านนี้กันว่าย่านประตูผี แต่ในปัจจุบันนี้ก็ไม่เห็นจะมีประตูสักบานให้เห็นแล้ว (แต่จะเห็นผีหรือไม่อันนี้ก็แล้วแต่ความซวยของแต่ละบุคคล) เพราะหลังจากที่ได้มีการตัดถนนบำรุงเมืองผ่านประตูผี และมีการรื้อถอนกำแพงเมืองและประตูออกไป ประตูผีก็เหลือแต่ชื่อไว้ให้ระลึกถึง แต่จะว่าเหลือแต่ชื่อก็ไม่ถูกนัก เพราะภายหลังยังได้เปลี่ยนชื่อเรียกบริเวณนี้จากเดิมที่เรียกว่าย่าน "ประตูผี" มาเป็น "สำราญราษฎร์" เพื่อให้เป็นมงคลแก่สถานที่อีกด้วย แต่ชื่อประตูผีก็ยังคงเป็นชื่อเรียกติดปากหลายๆ คนมาจนปัจจุบัน

    และถ้าพูดถึงช่วงที่ประตูผีถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงขนศพอยู่บ่อยครั้งก็
    คงจะเป็นช่วงที่เกิดโรคระบาดในกรุงเทพฯ และเมืองใกล้เคียงในสมัยรัชกาลที่ 2 โดยเกิดโรคห่า
    หรืออหิวาตกโรคระบาดไปทั่ว ทำให้มีคนตายหลายหมื่นคนด้วยกัน
    วัดสระเกศซึ่งเป็นสถานที่จัดการศพก็ยังไม่สามารถเผาศพหรือฝังได้ทันจนศพกองพะเนินกัน

    จึงต้องขุดหลุมขนาดใหญ่แล้วฝังศพไปในหลุมเดียวกัน แต่จำนวนศพที่มากมายเกินไปก็ทำให้ฝูงแร้งจำนวนมากมาจิกกินซากศพเป็นอาหาร

    และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 5 ก็ยังคงมีโรคระบาดเกิดขึ้นและมีคนตายเป็นจำนวนมากซ้ำอีกครั้ง
    และวัดสระเกศก็ยังคงประสบปัญหาเผาศพไม่ทันเหมือนเดิม และมีแร้งมาจิกกินศพอีกเช่นเคย
    ทำให้มีคำเรียก "แร้งวัดสระเกศ" เกิดขึ้น

    แต่ถ้าพูดถึงแร้งวัดสระเกศ แล้วไม่พูดถึง "เปรตวัดสุทัศน์" ก็จะดูเหมือนเป็นประโยคที่ไม่สมบูรณ์ เพราะเรามักจะได้ยินสองอย่างนี้คู่กันเสมอๆ สำหรับ "เปรต" นั้น ก็เป็นชื่อเรียกผีหรือมนุษย์ที่ทำบาปทำกรรมหนักหนาสาหัส เมื่อตายไปแล้วก็จะมาเกิดเป็นเปรตเพื่อชดใช้กรรมที่ทำไว้เมื่อยังเป็นมนุษย์

    เปรตนั้นก็มีหลายประเภทหลายลักษณะด้วยกัน แต่ภาพของเปรตที่คนส่วนมากจะคิดถึงก็คือต้องตัวสูงเท่าต้นตาล
    มือเท้าใหญ่เหมือนใบลาน ปากเท่ารูเข็ม ส่งเสียงร้องหวีดๆ ตอนกลางคืน
    และมักมาปรากฏตัวให้เห็นตอนกลางดึกเพื่อขอส่วนบุญ
    ส่วนคนที่ได้เห็นเปรตก็ถือว่าช่วงนั้นดวงตกต้องไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เปรตตนนั้นซะ


    และสำหรับเปรตที่วัดสุทัศน์นี้ บางคนก็ว่ามีคนเคยเห็นเปรตสองผัวเมียออกมาหลอกคนแถววัดสุทัศน์อยู่บ่อยครั้ง
    จนเป็นที่ร่ำลือถึงความน่ากลัว

    ไม่ว่าจะเป็นเปรตแบบไหนก็ตาม แต่ผมขอฟันธงว่าใครก็ตามที่ได้ไปวัดสุทัศน์ก็จะได้เห็นเปรตแน่นอน!!! ถ้าไม่เชื่อวันนี้ก็ลองเดินเข้าไปในพระวิหารของวัดสุทัศน์ ไหว้พระประธานหรือพระศรีศากยมุนีเสียก่อนเพื่อให้อุ่นใจ จากนั้นให้เดินไปทางด้านขวามือของพระประธาน เดินไปให้ถึงเสาต้นที่สี่ซึ่งอยู่ด้านในสุดของพระวิหาร จากนั้นเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนเสาใกล้ๆ กับโคมไฟ สิ่งที่จะได้เห็นก็คือ... เปรตที่กำลังนอนเหยียดยาวอยู่นั่นเอง!!!
    ใช่แล้ว... เปรตที่ผมว่ามานี้ก็คือภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปเปรตที่อยู่บนเสาพระวิหารนั่นเอง
    โดยภาพวาดนี้วาดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 จุดประสงค์ก็เพื่อใช้ภาพวาดสอนคนให้รู้ถึงการทำดีทำชั่ว หากทำดีก็จะได้อยู่ในชาติภพที่ดี แต่หากทำชั่วไว้มากก็ต้องมาเกิดเป็นเปรต ต้องทนทุกขเวทนารอส่วนบุญส่วนกุศลที่จะมีคนอุทิศให้อย่างในภาพวาดนี้... รู้นะว่ามีคนแอบโล่งใจที่ได้เห็นภาพวาดเปรตแทนที่จะได้เห็นเปรตตัวเป็นๆ

    คราวนี้ข้ามจากย่านประตูผีมาฟังเรื่องผีๆ ทางฝั่งธนบุรีกันบ้าง ที่ "วัดสุวรรณาราม" ริมคลองบางกอกน้อยนี้ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องผีๆ อยู่มากเช่นกัน เพราะวัดสุวรรณฯ นี้เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา และเมื่อมาถึงสมัยกรุงธนบุรี บริเวณวัดแห่งนี้ก็ยังเป็นสถานที่ซึ่งใช้เป็นลานประหารชีวิตเชลยพม่าโดยการตัดคอ ซึ่งก็มีเรื่องเล่ากันว่ามีคนเคยเห็นร่างของผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่นุ่งผ้าโจงกระเบนแต
    ่ไม่มีหัวมายืนอยู่ให้เห็น ส่วนสถานที่ที่นำศพเหล่านั้นมาฝังไว้ก็คือ
    บริเวณที่เป็นสนามโรงเรียนวัดสุวรรณารามและบริเวณลานวัดสุวรรณารามปัจจุบัน

    ที่เชื่อว่าบริเวณนี้เป็นสถานที่ฝังศพก็เนื่องจากว่า เมื่อครั้งที่มีการขุดปรับแต่งพื้นที่บริเวณนี้ ก็มีคนพบกระดูกคนอยู่มากมาย และมีเรื่องเล่าน่ากลัวๆ อีกว่า เคยมีคนพบกระดูกท่อนขาหรือท่อนแขนก็ไม่ทราบ แต่ก็มีกำไลทองคล้องอยู่ แสดงว่าเจ้าของกำไลนั้นน่าจะเป็นทหารพม่าระดับนายกองชั้นผู้ใหญ่พอควร คนที่ขุดเจอกำไลก็เอาไปขาย นำเงินมาซื้ออาหารให้ภรรยาที่กำลังท้อง แต่คืนนั้นก็ฝันเห็นทหารพม่ามาบีบคอทวงกำไลคืน และภรรยาก็เสียชีวิตแบบที่เรียกว่าตายทั้งกลม ต่อมาจึงมีการตั้งศาลเพียงตาไว้ที่บริเวณโรงเรียนวัดสุวรรณแห่งนี้

    ที่น่าสนใจก็คือ หากใครที่มาไหว้ศาลแห่งนี้ แล้วมองเข้าไปด้านในศาล ก็จะเห็นภาพวาดเป็นรูปนายกองทหารพม่าไว้สามรูป คงเพื่อเป็นการระลึกถึงดวงวิญญาณทหารพม่าที่เสียชีวิตในอดีต อีกทั้งด้านหน้าศาลก็ยังมีปิรามิดเล็กๆ ตั้งไว้ด้วย โดยมีความเชื่อกันว่า สถานที่ตรงไหนที่มีความอาถรรพ์มากๆ ก็จะใช้ปิรามิดสะท้อนสิ่งอาถรรพ์นั้นออกไป

    จะว่าไปแล้วไม่ว่าที่ไหนๆ ก็ต้องมีคนตายอยู่ทั้งนั้นแหละ ยิ่งเมืองอย่างกรุงเทพมหานครที่เก่าแก่และมีความเป็นมายาวนานอย่างนี้ก็ต้องมีคนเกิด

    แก่เจ็บตายอยู่แทบทุกตารางนิ้วอยู่แล้ว ย่อมมีสิ่งที่จับต้องไม่ได้แต่รู้สึกได้อย่าง "ผี" อยู่ทั่วไปหมด แต่ฉันก็มีวิธีมาแนะนำ เป็นหนทางหนึ่งสำหรับคนกลัวผีและไม่อยากให้ผีมาหลอก นั่นก็คือการทำดี เป็นคนดี เพราะ "คนดีผีคุ้ม" สำหรับพวกที่ทำชั่วมากๆ ก็ระวังไว้เถอะ เพราะนอกจากผีจะไม่คุ้มครองแล้ว ตายไปก็ไม่ได้ไปผุดไปเกิดต้องคอยเป็นผีเร่ร่อนไปหลอกเขาอีกทอดหนึ่งก็ได้
    นี่หล่ะครับ ศาลพระภูมิที่เขาทำให้ใดวงวิญญาณทหารพม่าสิงสถิตย์


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2009
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    คนดีผีคุ้มถูกต้องที่สุดเรยค่ะ ไม่มีคนทำชั่วคนไหนจะหลีกหนีกฏแห่งกรรมไปได้พ้นสักรายเรย ใครที่กระทำแต่ความชั่วก็จงตรองดูสักนิดนะค่ะ หันมองข้างหลังบ้าง เพราะเวรกรรมกำลังตามไล่หลังอยู่ทุกขณะค่ะ จะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น
     
  3. ซึมดีจัง

    ซึมดีจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +67
    ขอบคุณครับ
     
  4. ยิ้มให้กับทุกวัน

    ยิ้มให้กับทุกวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +183
    ขอบคุณค่ะที่นำสิ่งดีดี มาให้อ่านกัน

    ถ้าเกิดผ่านไปแถวนั้น จะได้ลองไปดูบ้าง
     
  5. tumkuk

    tumkuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +1,851
    ขอบคุณคัรบที่นำความรู้มาให้อ่านเสริมปัญญากันครับ
     
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    ขอบคุณจ่ะ เรื่องของวัดสุวรรณาราม ไม่เคยรู้มาก่อน.....
     
  7. winwinwin

    winwinwin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +1,267
    ขอบคุณสำหรับเรื่อง ดี ดี
    อิ อิ สนามหลวงกับคลองหลอกก็ชุมครับ ผีมะขามกับผีขนุน อิ อิ (แซวครับ)
     
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    [​IMG]
    สภาพบริเวณวัดสระเกศ ที่ทิ้งศพผู้ตายให้แร้งจิกกิน เมื่อครั้งเกิดโรคอหิวา
     
  9. พระลอ

    พระลอ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +56
    ทำบุญแล้วแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายบ้าง จะได้กุศลทั้งเขาและเรานะ
     
  10. tawan13

    tawan13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,263
    ค่าพลัง:
    +4,303
    วัดสุวรรณาราม ผมเคยเป็นเด็กวัดที่นี่มาหลายปี ประมาณว่าตั้งแต่ปี 2531 แต่ยังไม่เคยเจออะไรเลย อืมๆๆ
     
  11. kansamsas

    kansamsas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +878
    คือของไครๆก็รักกันทุกคนจริงไหมครับ
     
  12. jengz

    jengz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +18
    น่ากลัวมากครับ
    แต่ก็ขอบคุณที่ำนำมาให้อ่านครับ
     
  13. หลวงจีน

    หลวงจีน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    861
    ค่าพลัง:
    +1,326
    ขอให้หลีกเลี่ยงจากการทำความชั่ว และหันมาทำความดีให้มากๆจะได้เป็นเกราะป้องกันตนเอง
     
  14. เดือนยี่

    เดือนยี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +1,377
    ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ใหม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...