ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

รายการของที่ไปถวายสังฆทานทั้ง 9 วัดค่ะ ทุกวัดถวายเหมือนกันหมดค่ะ

พระพุทธรูปปางพระประทานพร ขนาด ห้านิ้ว
หมอน
ตาลปัตร
บาตร หนึ่งชุด
ยาสามัญประจำบ้าน
กรวดน้ำ
อาสนะแบบมีพนัก
ผ้าไตรครองหนึ่งชุด (เรียกถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ แบบครบเจ็ดชิ้น)
ผ้าอาบน้ำฝน สองผืน
ย่าม
ผ้าห่ม
ผ้าเช็ดตัว
ผ้าเช็ดหน้า
ผ้าเช็ดปาก
น้ำขนาดพกพาหนึ่งแพ็ค
สมุด ปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด กบเหลาดินสอแบบพกพา
หนังสือมนต์พิธี
สบู่ พร้อมกล่องสบู่
ใบมีดโกน
สารส้ม
แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
ยาสระผม
ขันน้ำ
จาน ช้อนส้อม หนึ่งชุด
ร่ม
รองเท้า
ไฟฉาย พร้อมถ่าน
ทิชชู
ข้าวสาร หนึ่งถุงเล็ก
ธูป เทียน ไฟแช๊ก
ดอกบัว
ผ้าห่มพระประธาน
หนังสือธรรมมะ

 

เห็นว่าเป็นห้องหลวงพ่อฤาษีลิงดำอ่ะนะครับเลยมีเรื่องเกี่ยวกับท่านมาเล่านิด (หลายคนก็คงรู้แล้ว) เพราะเห็นว่าในห้องนี้ก็ลูกศิษย์หลวงพ่อหลายคนนะครับ

คือพี่ที่ทำงานด้วยกัน (ก็แวดวงวิศวกรอ่ะนะครับ) เขาก็ลาออกจากที่ทำงานที่ปัจจุบันผมทำอยู่นี้ไปอยู่บริษัทพวกขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ เพราะเงินดีกว่า คราวนี้พอเจอหน้าแกอีกครั้งผมก็เลยสอบถามแกด้วยความสนใจ ว่าแกไปทำอยู่ที่ไหน (เรานึกว่าไปทะเลแถบต่างประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน)

แกก็บอกผมว่าทำอยู่แถวอีสาน ผมก็เฮ้ยอีสานมีน้ำมันด้วยเหรอพี่? พี่เขาก็บอกเออว่ะ พี่เขาก็พึ่งรู้ว่าที่ไทยเรานี่มีเพียบเลยทั้งน้ำมัน ทั้งก๊าซธรรมชาติ (พี่เขาก็บอกมาหลายจังหวัดแต่ผมจำไม่ได้)

แต่ที่เราไม่ค่อยรู้กันเพราะต่างชาติมันเอาสัปทานไปกินหมด แล้วเขาก็ไม่ได้เอามาบอกกันด้วย ทำกันเงียบๆ คนไทยหลายคนก็คงยังไม่รู้ (อย่างน้อยก็ผมคนนึงล่ะ)

ที่เอามาเล่าก็แค่ดีใจที่คำพยากรณ์ของหลวงพ่อฤาษีเป็นจริงและยังมีอีกหลายคำพยากรณ์ของท่านที่อยากจะเห็น แต่ไม่รู้จะอยู่ถึงรึป่าว อยากให้ประเทศเรามีสภาพเศรษฐกิจดีๆ เหมือนชาวบ้านเขาบ้างอ่ะครับ คนไทยจะได้เลิกลำบากกันเสียที

(แต่สงสัยจะยาก ขนาดทรัพยากรในประเทศเราเอง ยังตกเป็นสัปทานของต่างประเทศเลย 555) hello8

 

น่าเบื่อพวกนักการเมือง ใครเซ็นต์อนุมัติก็ได้เยอะหน่อย ฝ่ายค้านก็ได้น้อยหน่อย แต่ก็ได้กันทั่วถึง ไม่งั้นไม่เงียบ เคยได้ยินออสเตรเลียไปทำสัมปทานทองคำที่ลาว ยังเสียดายแทนคนลาว รู้สึกจะได้ไม่คุ้มซะด้วย กว่าจะรู้ตัวเขาก็ขุดไปหมดแล้ว การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ พรรคการเมืองใหม่ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง จะขาวไปได้ซักกี่น้ำ

 

อธิษฐานบารมีเป็นเรื่องที่สำคัญ

ถาม : เขาบอกว่าไม่ทำหวังผล

ตอบ: ในลักษณะนั้นก็ดีจ้ะ คือว่าปล่อยวางได้ แต่ว่าลักษณะเหมือนกับการทำงาน ถึงเราต้องการหรือไม่ต้องการ ปลูกต้นไม้ลงไป ถึงเวลาดอกผลมันต้องออก พอถึงเวลาดอกผลมันออกมาไม่ดี คนปลูกบอกว่าไม่หวังผล แต่เห็นแล้วอาจจะไม่สบายใจไปเลยก็มี

เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเราไว้ว่าทำอะไร วัตถุที่เราตั้งใจจะทำ ได้มาโดยถูกต้อง ตัวเรามีศีลบริสุทธิ์ ผู้รับมีศีลบริสุทธิ์ ผลมันเต็ม ๑๐๐ ส่วนอย่างนี้ ก็เลือกทำในสิ่งที่ดีๆ ดีกว่า พอถึงวาระถึงเวลา ผลที่ได้มามันก็ชื่นใจสมกับที่เรารอคอย

มีหลายคนที่คิดแบบนี้ อย่างเช่นว่าทำบุญแล้วอธิษฐานขอโน่นขอนี่เป็นการโลภ แบบนี้มันต้องไปเกิดเป็นอานันทะเศรษฐี มันถึงจะเข็ด เขาจะไม่เข้าใจตรงจุดนี้เลย เพราะว่าอธิษฐานบารมีนี่เป็นบารมีที่สำคัญมาก ถ้าบุคคลที่สร้างบารมีมายังไม่ถึงตอนปลาย จะใช้อธิษฐานบารมี ไม่เป็นเลย ผลทุกอย่างไม่ว่าดีหรือชั่วที่เราทำไป ต้องการหรือไม่ต้องการ มันก็เกิดผลแน่นอน ทางวิทยาศาสตร์ยังยืนยันเลยใช่ไหม ว่าทุกอย่างที่ทำไปมันมีผล คราวนี้ถ้าหากว่าผลนั้นมันมาในจังหวะที่เราต้องการมันก็ดี ถ้ามันมาในจังหวะที่เราไม่ต้องการ เราก็จะแย่ไปเลย

อย่างเช่นว่า อานันทะเศรษฐี เคยเป็นมหาเศรษฐี แล้วก็รักษาทรัพย์สมบัติเอาไว้ไม่ได้ กลายเป็นคหบดี คือทรัพย์ลดน้อยลงมา จนในที่สุดกลายเป็นขอทาน พระพุทธเจ้าไปเจอขอทานอยู่หน้าประตูเมืองอาฬวี ท่านก็ยิ้ม พระอานนท์ถามว่าทรงแย้มพระโอษฐ์ด้วยเหตุใด ? พระพุทธเจ้าบอกอานันทะ ดูก่อนอานนท์ เธอเห็นอาฬวีเศรษฐีมั้ย ? พระอานนท์บอกไม่เห็นเจ้าข้า เห็นมีแต่ขอทาน ท่านบอกขอทานนั่นแหละ คืออาฬวีเศรษฐี สมัยที่ท่านเป็นเศรษฐี ถ้าฟังธรรมจากตถาคตจะได้เป็นพระอนาคามี ตอนที่ทรัพย์ลดลงมาเป็นคหบดี ถ้าฟังธรรมจะได้เป็นพระโสดาบัน แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นขอทาน จิตมัวแต่หมกมุ่นกังวลอยู่กับการทำมาหากิน ถึงฟังธรรมไปก็ไม่มีโอกาสบรรลุมรรคผล คราวนี้พระอานนท์ท่านจำแม่น ท่านบอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสอะไรไม่เป็นสอง พระพุทธเจ้าเคยตรัสเอาไว้ว่าบุคคลถ้ามีวิสัยจะได้มรรคผล อย่างไรก็ไม่เสื่อมจากวิสัยอันนั้น ทำไมอาฬวีเศรษฐี หรืออานันทะเศรษฐีคนนี้ถึงได้เสื่อม ? พระพุทธเจ้าตรัสว่าอานันทะเศรษฐีขาดอธิษฐานบารมี

อธิษฐานบารมีเหมือนกับยิงปืนแล้วเราเล็งเป้า อย่างไรๆ ให้มันถูกเป้าแน่อนดีกว่า ไม่ใช่ยิงส่งเดช โอกาสมันจะถูกมันก็น้อย เพราะฉะนั้น คนที่จะใช้อธิษฐานบารมีก็คือ เราทำอะไรต้องการหรือไม่ต้องการก็ตาม ถึงวาระผลนั้นจะเกิด การอธิษฐานเป็นการเจาะจงว่าให้ผลนั้นเกิดอย่างไร เกิดเมื่อไหร่ เพื่อที่มันจะได้พอเหมาะพอดี พอควรกับความต้องการของเรา ไม่ใช่หิวข้าวตอนนี้ อีก ๓ วัน ข้าวค่อยมาก็อดแย่เลย เพราะฉะนั้นอธิษฐานบารมีเป็นเรื่องสำคัญมาก คนที่ไม่เข้าใจมักจะคิดว่าทำบุญแล้วยังขอโน่นขอนี่เป็นการโลภ เข้าใจผิดมากเลย

สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนธันวาคม ๒๕๔๕(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

โดย <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tamsak<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2243711", true); </SCRIPT>
ทีม พระไตรปิฏก


ขออนุญาตินำมาเผยแผ่ต่อนะครับ

 

:z12ขอขอบคุณมากๆเลยครับคุณ me myself ที่ได้นำบุญมาฝากกันครับ ผมขออนุโมทนาไนกุศลผลบุญอันยิ่งไหญ่นี้ด้วยนะครับ สาธูขอไห้ถึงพระนิพพานด้วยกันทุกๆท่านเทิญ ป ล ถ่ายรูปมานึกว่าจะเปิดตัวซะอีก ไม่เห็นนะครับ;enter

 

มีหลายที่นะครับ แต่แค่ที่ผมไปเห็นก็หลายแท่นเลยภายในเขตเดียวของจังหวัดนั้นๆ

หลวงพ่อบอกไว้แล้วว่าที่เจอในปัจจุบันยังน้อย ยังไม่ถึงเวลา ถ้าถึงเวลาแล้วคงจะมีมาอีกมาก

 

โอ้ อัศจรรย์ แท่นขุดเจาะน้ำมันในไทย อยู่ที่ตรงไหนคะคุณ nuttadet อยากไปเห็นสักครั้ง

 

กราบอนุโมทนาสาธุ กับมหาสังฆทาน เก้าวัด ยกมือวันทา ขนลุกตลอด ปลาบปลื้มไปด้วยค่ะ หัวเรือใหญ่ถวายด้วยความศรัทธาเต็มเปี่ยมและมีเมตตานำบุญมาฝาก ลูกเรือทุกคนก็อนุโมทนาสาธุด้วยความศรัทธาเกินร้อย อิ่มบุญไปด้วย จะตั้งใจปฏิบัติ ทำความดี ต่อไป เพื่อให้ถึงซึ่งนิพพาน ตามคำอำนวยพรของอาจารย์ me/myself

 

ขอเล่าเรื่องที่บอกไว้นะครับเป็นเรื่องทึ่งๆนะครับคือวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีน้องที่ทำงานที่เดียวกับผมอยากไปไหว้พระบอกพาไปหน่อยที่ไหนก็ได้คือน้องเขาอายุ 25 เป็นผู้หญิงบอกพักนี้ดวงไม่ค่อยดีแล้วเขาชวนเพื่อนไปอีกคนนึงอายุเท่ากันเป็นผู้หญิงๆคนนี้เลยกลายเป็นเพื่อนใหม่ครับแต่น้องคนนี้เขาใช้ได้เลยละครับคืออายุแค่25แต่ไปปฏิบัติธรรมมาเกือบทั่วประเทศจังหวัดไหนจัดไปหมดแล้วไปคนเดียวด้วยจากที่คุยกันน้องเขาน่าจะมีของเก่าเยอะมาก ต่อๆๆครับออกเดินทางจากปากเกร็ด 8.30 ผมขับไปทางสุพรรณครับเป็นรถกระบะครับไปได้ประมาณครึ่งทางตำรวจทางหลวงเรียกเลยระหว่างที่รถยังจอดไม่สนิทดีน้องคนนี้เขาพูดเปรยๆว่าเราจะไปวัดกันอย่ามาทำอะไรเรานะพอเปิดกระจกดูตำรวจงงๆเหมือนนึกข้อหาแล้วถามว่าวิ่งมา 150 หรือเปล่าผมบอกขับยังไม่ถึง100เลยก็ดูเขางงแล้วบอกไปๆ ซึ่งปรกติจะไม่ค่อยรอดไม่มากก็น้อยเราเองก็งงไปต่อครับถึงสุพรรณแวะ วัดป่าเลไลย์ครับแล้วก็ วัดแค วัดสารภี วัดพระนอนพระนอนหงายครับไม่เหมือนที่อื่น แล้วก็วัดโพธิตะวันตกครับ เริ่มอึ้งที่นี่ครับวัดนี้มีพระพุทธรูปชื่อหลวงพ่อดำครับเป็นวิหารอยู่ข้างศาลาอยู่กับพื้นครับชั้นเดียวจอดรถหน้าวิหารมีประตูโครงเหล็กสูงประมาณเลยเอวนิดนึงเราต้องเปิดเองก็เข้าไปกราบพระกันไม่นานครับก็กลับมาขึ้นรถขอบอกครับสตาทรถไม่ติด2-3 ครั้งเราก็ตกใจรถไม่เคยเป็นแบบนี้พอดีน้องคนนี้เขาบอกพี่เราลืมปิดประตูวิหารผมก็ยังงงอยู่กับรถเลยลงไปปิดประตูวิหารแล้วกลับมาลองสตาทรถใหม่ทีเดียวครับติดเลยนั่งอึ้งมาตลอดไปต่ออีกหลายที่รถก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยครับมาถึง วัดม่วงที่อ่างทองผมเองไปบ่อยมากแต่วันนั้นเย็นมากแล้วฝนเริ่มตกไปกราบพระองค์ไหญ่ที่หลังวัดองค์ใหญ่มากๆแล้วมาที่วิหารแก้วเหมือนวัดท่าซุงแต่เล็กกว่าเป็นสองชั้นผมไม่ขึ้นไปให้แต่น้องสองคนขึ้นไปผมกับแฟนรอที่รถปรกติผมต้องขึ้นไปกราบเป็นที่แรกเวลามาวัดนี้แต่วันนี้เย็นมากพอน้องสองคนลงมาขึ้นรถๆสตาทไม่ติดอีกแล้วครับ 2-3 ครั้งน้องก็บอกว่าพี่ไม่ขึ้นไปกราบหรือเปล่าผมก็เลยนึกเอาในใจครับบอกว่าหลวงพ่อครับวันนี้เย็นมากแล้วฝนก็ตกด้วยคือรีบนะครับสตาทใหม่ทีเดียวอีกแล้วครับอึ้งเป็นครั้งที่สองครับต่อมาแวะไหว้พระนเรศวรที่อยุธยาก็ปรกติไม่เป็นอะไรสตาททีเดียวก็ได้เลย ก็กลับคุยกันเรื่องธรรมะมาตลอดทางจนถึงปากเกร็ดส่งน้องลงที่ป้ายรถเมลน้องเขาอยู่บางกะปิกำลังจะออกรถแฟนผมบอกไปส่งน้องเขาหน่อยดีมั๊ยมืดแล้วหิ้วของด้วยก็กลับลงไปเรียกน้องเขาขึ้นรถมาอีกไปต่อคุยตลอดทางไม่รู้ผมนึกยังไงคุยเรื่องพระบรมสารีริกธาตุน้องคนนี้เขาบอกว่าหนูมีหลายองค์เลยพี่ได้มาเพราะไปปฏิบัติธรรมน้องเขาบอกหนูให้พี่องค์นึงเอาแล้วไง น้องเขาบอกอีกว่าเวลาได้มาจะเอามาใส่ผอบรวมกันไว้แต่องค์นี้ไม่ได้ใส่ซักทีก็นานมากแล้วเขาบอกความรู้สึกเหนือนจะมีคนมาเอาจะต้องให้ใครประมาณนี้ อึ้งครั้งที่สามครับถ้าผมส่งน้องเขาที่ป้ายรถเมลก็คงจบแค่นั้นอย่างที่เล่าครับแปลกๆทั้งวันอย่างตอนที่ไปถึงวัดม่วงครับฝนตกน้องคนนี้เขาบอกขอซัก 10 นาทีกราบพระหน่อยฝนหยุดครับพอกลับขึ้นรถก็ลงเม็ดเลยแปลกๆนะครับ สุดท้ายผมเลยได้พระบรมสารีริกธาตุมาบูชาหนึ่งองค์ครับเป็นบุญอย่างยิ่งผมสวดบูชาบ่อยครับตอนที่ยังไม่มีก็แปลกอีก ตอนนี้กำลังจะชวนน้องเขามาเป็นสมาชิกที่นี่แต่น้องเขายังไม่มีเนตเขาบอกต้องรีบติดแล้วสุดท้ายก็ขอเผื่อแผ่บุญให้เพื่อนๆอีกครั้งนึงครับ

 

กราบอนุโมทนาด้วยค่ะ (อีกรอบ ห้องคุณเปี๊ยกก็อนุโมทนาแล้ว)
มีบุญมาฝากเหมือนกัน เมื่อวาน โอนเงินบริจาคร่วมซื้อเครื่องมือแพทย์
และร่วมทำบุญกับวิทยุสวนแสงธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
รวม 1000 บาทค่ะ

 

มีรูปพระนอน(แปลก)ที่ผมไปไหว้มา(ขออภัยมีนางแบบติดมาด้วยน้องคนกลางนั่นแหล่ะที่ผมเล่า)

 

มีบุญมาฝากกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ วันนี้ได้โอนเงินไปร่วมทำบุญกองทุนพรหมปัญโญกับหลวงตาม้า 1000บาท และบำรุงเวปวัดถ้ำเมืองนะ 1000บาท ขอทุกท่านได้โมทนาบุญและมีแต่ความเจริญทั้ง ทางโลกและทางธรรมกันทุกท่านค่ะ

 

สวัสดีครับ
พอดีหลงเข้ามากระทู้นี้ โดย(ไม่)ตั้งใจ - -"
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลย
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

กำลังศึกษาการฝึก มโนมยิทธิ กับ กสิน ๑๐
ก็รู้นะว่าทุกอย่างนั้นดี แต่ยังตกลงกับตัวเองไม่ได้ว่าจะฝึกอะไร
ชี้แนะด้วยครับ
thaxx

 

หว้า เหงา จัง คงกำลังติวเข้มกันหน้าดู ไม่กวนละ ได้แต่บอกว่าคิดถึงครับ ไปละ

 

มีบุญมาฝากครับ
วันที่ได้โอนเงินทำบุญสร้างโคมไฟดวงเอก ดวงรอง และบุญเพิ่มความสมบูรณ์วิหารแก้ว
สมเด็จองค์ปฐม ณ. วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม รวม 1000 บาท

 

เอ องค์ที่นอนอยู่ท่านไม่มีอุนาโลมนี่ครับ ถ้านับองค์กลางเป็นสมเด็จฯองค์ปฐม อีกสี่องค์ก็ไล่กันมา องค์ที่นอนอยู่ก็น่าจะเป็นพระศรีอาริย์นะ เดาเอาเนาะ อิอิ

 

การรักษาศีลข้อวิกาละโภชนา​

ถาม: วิกาละโภชนา พระกับฆราวาสต่างกันไหม ?

ตอบ : ถ้าฆราวาส หลวงพ่อท่านบอกว่าส่วนใหญ่แล้วทำงานมันเลิกเที่ยง ท่านบอกว่าให้กำหนดไว้ว่าไม่เกินบ่าย ๒ โมง แต่ว่าของพระนี่...ถ้าเที่ยงตรงเป๊งก็ต้องเลิกเลย เพราะโลกมันนิยมอย่างนั้น ความจริงวิกาลแปลว่ากลางคืน ศีลพระมีอยู่ ๒ ข้อ ที่กล่าวชัดๆ ถึงเวลาวิกาล ก็คือรับประทานอาหารในเวลาวิกาลอย่างหนึ่ง และเข้าบ้านในเวลาวิกาลโดยไม่ได้บอกลาอย่างหนึ่ง

แต่คราวนี้ของเรา เวลาวิกาลที่ไม่ได้บอกลาจะเข้าไปในบ้าน เขาตีว่าพระอาทิตย์ตกดินแล้ว แต่ว่าเวลาวิกาลที่ฉันอาหาร เขาตีว่าหลังเที่ยงไปแล้ว มันลักลั่นกัน แต่พม่ามันตีราคาเดียวกัน เพราะฉะนั้น พระพม่าฉันมื้อเย็นกันเพลิดเพลินเจริญใจไปเลย ถือว่าวิกาลเหมือนกัน แต่จริงๆ เราต้องมาดูตรงจุดที่ว่า พระพุทธเจ้าท่านปรารถนาให้เรารู้จักโภชเนมัตตัญญุตา คือ ประมาณในการกิน การรู้จักประมาณในการฉันแต่พอควรแก่ธาตุขันธ์ตัวเอง มันก็ไม่ทำให้กิเลสกำเริบ มันทำให้ร่างกายโปร่งเบา มันทำให้ภาวนาได้ง่าย มันทำให้ไม่ต้องมีห่วงมีกังวลในการเตรียมอาหารมื้อต่อไป ดังนั้นแม้ว่าฆราวาสเราจะว่ากันจนถึงบ่าย ๒ โมง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้เรากินตั้งแต่เช้ายันบ่าย ๒ โมง มันต้องรู้จักประมาณบ้าง

สมัยก่อนมีโยมอยู่คนหนึ่ง ชุดนี้ทำงานเก่ง เวลาไปวัดท่าซุง คุณจะเห็นชุดขาวพรึ่บไปทั้งชุด ๓๐ – ๔๐ คนเลย มีอยู่รายหนึ่งถือศีลแปด อธิษฐานว่าจะกินถึงบ่าย ๒ โมง ปรากฎว่ากินวันหนึ่ง ๑๐ กว่ามื้อ ตกลงว่าให้กิน ๓ มื้อเท่าเดิมดีกว่า เปลืองน้อยกว่าเยอะเลย ต้องรู้จักประมาณในการกิน ไม่ใช่ว่าตะบันไป ให้มันเป็นมื้อเป็นคราว

ถาม: ไอศกรีม ?

ตอบ : ไอศกรีม จริงๆ ถ้าหากว่าเป็นพระ ไม่มีพวกถั่ว ลอดช่อง สาคู มันเป็นแค่นมเนยมันได้ แต่หลวงพ่อท่านเคยขอไว้ ท่านบอกว่าถ้าไม่ถึงกับจะตายห่าจริงๆ อย่าไปแดกมันเลยลูก มันน่าเกลียด คือเห็นพระนั่งกินไอติมอยู่ มันงามไหมล่ะ ? โดยเฉพาะตอนเย็นๆ แต่ว่าศีลของพระเป็นอย่างนั้น คราวนี้ของโยมเขาไม่ได้ห้ามเอาไว้ชัด ถ้าเรารู้ชัดว่ามันไม่ใช่อาหารก็ว่าไป แต่ไม่ใช่กินไป ๓ ถ้วย ๕ ถ้วย เอามันแค่พอระงับการกระวนกระวายของร่างกายที่จะเกิดจากความหิว

ถาม: น้ำเต้าหู้ ?

ตอบ : น้ำเต้าหู้ ถ้าพระไม่ได้จ้ะ แต่โยมได้ เพราะว่าของพระเขาระบุไว้ชัดเลยว่าอันไหนเป็นอาหาร อันไหนเป็นเภสัช ส่วนที่เป็นอาหารเขาระบุไว้ชัดเลย สาลี วีหี ตัณฑุลา สาลีคือข้าว วีหีคือถั่ว ตัณฑุลาคืองา น้ำเต้าหู้นี่มันมาจากถั่ว ถึงทำเป็นน้ำแล้วเขายังถือว่าเป็นอาหารอยู่ เพราะฉะนั้นพวกน้ำเต้าหู้ น้ำถั่วเหลือง แลคตาซอย ไวตามิลค์ ถวายพระไป ถ้าท่านไม่รู้ท่านฉันไปก็เป็นโทษเหมือนกัน

แต่มาตอนหลังมันถวายกันจนกระทั่งพระไปไม่เป็นแล้ว คือไม่ว่ากี่มื้อถวายแต่อย่างนั้น แล้วเขาถามว่ายังไง ? บอกคุณก็ฉันไป ๑ แก้วก็พอ ไม่ใช่ฟาดไป ๓ ขวด ๕ ขวด มันต้องรู้จักประมาณ ในเมื่อโยมเขาถวายมา ถ้าเราไม่ฉัน เขาก็เกิดน้อยใจ เสียใจ กำลังใจเขาตก คุณก็ฉันให้เขาดูสักแก้ว ครึ่งแก้ว แล้วเราก็ไปปลงอาบัติของเรา เพราะเรารู้ว่าไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่เจตนาเราจะฉันเอาอิ่มเอาสนุกจะกินให้อ้วนพี จะกินให้ยั่วกิเลสมันเกิดขึ้น แต่ว่าการฉันโดยบังคับด้วยสถานการณ์เพราะต้องการรักษาศรัทธาญาติโยม แต่ถ้าเป็นอาตมารับมา ก็ส่งต่อไปเลย อาตมาไม่ค่อยรักษาศรัทธาหรอก มันมาเยอะ เราเหนื่อย

ถาม: ไอศกรีมไม่ต้องเคี้ยว

ตอบ : จริงๆ มันเป็นส่วนของนมเนย พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตให้เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ถ้านมเป็นเนยเฉยๆ ไม่เป็นไร แต่ก็อย่างว่าน่ะ ที่หลวงพ่อท่านว่ามันน่าเกลียด ถ้าเป็นโยมกินไปเถอะ เพราะเขาไม่รู้หรอกว่าเรารักษาศีลแปดหรือเปล่า ยกเว้นเราโกนหัวนุ่งขาวห่มขาว

ถาม: ไอศกรีมกะทิก็ห้ามด้วย

ตอบ : ก็ดูสิว่ามันจะไม่มีของอื่นที่เป็นอาหารอยู่ ถ้าหากว่ามีพวกผลไม้มีลอดช่อง มีถั่ว ก็ฉันไม่ได้อยู่แล้ว จริงๆ กะทิเป็นน้ำมัน ที่เขาห้าม คือ ห้ามน้ำพวกที่เป็นมหาผล ที่เขาห้ามเพราะว่าน้ำมันมีฮอร์โมนมาก เป็นพระต้องการความสงบ กินไอ้ที่มีฮอร์โมนเยอะๆ เข้าไป มันหาที่ไปไม่เป็นหรอก

ถาม: น้ำผลไม้ก็ไม่ได้ ?

ตอบ : น้ำผลไม้เขาห้ามไอ้ที่ใหญ่กว่ากำปั้น ส่วนใหญ่พวกสับปะรด แตงโม ส้มโอ มะพร้าวอ่อน ฮอร์โมนเยอะมาก ฉันเข้าไปจะไม่สุขสงบ แรกๆ ท่านอนุญาตไว้ ๘ อย่าง เรียกว่า อัฏฐบานคือ อัฏฐปานะ น้ำ ๘ อย่าง มาตอนหลังท่านบัญญัติเพิ่มเติมว่า ถ้าเป็นผลไม้แล้วโตไม่เกินลูกมะตูม คือกะว่าประมาณกำปั้นนี่ ถ้าไม่โตเกินนั้นก็อนุญาตให้ ถ้าโตเกินนั้นไม่อนุญาต



สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


โดย tamsak




ทีม พระไตรปิฏก

 

ขอออกความเห็นนะครับมีโอกาสใหมครับที่เพื่อนๆสมาชิกจะนัดเจอกันคือทำบุญร่วมกันเช่นวันอาทิตย์ที่วัดอะไรสักวัดนึงไม่ใช่เจอกันทั้งหมดเพราะคงยากเอาแค่ใครที่พอจะมาได้ก็จะได้มีโอกาสมาพูดคุยเจอกันตัว(เป็น)ๆฮา คือนานๆๆๆๆๆครั้งน่ะครับผมว่าน่าจะดีนะทุกวันนี้ถ้าไปเดินชนกับสมาชิกที่ใหนก็ยังไม่รู้จักกันเลย (ขออภัยเป็นความคิดส่วนตัวนะครับกลัวไม่เหมาะสม)