คุณมีจิตสัมผัส-ความผูกพัน-สื่อพลังพุทธะ พลังเทพหรือไม่

ขอบคุณ คุณ kikkapoozuza มากๆครับ ที่มาร่วมด้วยช่วยกัน เผยแพร่ภาพศักดิ์สิทธิ์ ชอบภาพพระพิฆคเณศ กระดุกกระดิกได้ ตื่นตาตื่นใจดีครับ

 

ชอบรูปพระกฤษณะ-พระแม่ราธาค่ะ อบอุ่นจัง ; D

 

ลองแล้วอ่ะอยากให้ส่งข้อความแล้วขึ้นไอคอนอนุโมทนาสาธุด้านล่างกระทู้ที่โพสต์อ่ะค่ะ

อยากใส่ไอคอนอนุโมทนาสาธุ...ทำไงดีคะ ทำไม่เป็น...ผู้รู้ช่วยสอนหน่อยค่ะ
เพิ่งหัดโพสต์ ยังงงๆ อยู่เลย...

 

กายพุทธะกายหนึ่ง แห่ง พระอวโลกิเตศวร

 

คลิ๊กที่ post icon(จะปรากฏ icon ตามตัวอย่างที่ผมได้คลิ๊กแล้ว)
หรือ คลิ๊กที่ ข้อความ อนุโมทนา สาธุ ครับ(จะปรากฏชื่อ)

 

เสี้ยวหนึ่งแห่งพลังของผู้ผู้รักษาสมดุลย์แห่งจักรวาล กล่าวกับปีศาจผู้ก่อกวนสมดุลย์แห่งโลกทั้งหลาย ผู้ก่อกรรมชั่วโดยฉวยโอกาสแห่งช่วงวิบากกรรมของสัตว์โลก เพื่อความเป็นใหญ่แห่งตน ว่า

" องค์พุทธะทั้งหลาย ทรงแสดงธรรมแห่งอหิงสา แต่เจ้าช่างเต็มไปด้วย ความมัวเมาแห่งอำนาจ ความโกรธ และการเบียดเบียน

นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย ก่อนอาญาสวรรค์จะมีแก่จิตวิญญาณที่ชั่วร้าย"

 

กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

 

จะลองดูนะคะ

พระแม่ลักษมี



พระแม่สรัสวดี



พระพรหม



พระแม่สรัสวดี

พระพรหม




พระวิษณุกรรม

 

ขอบคุณที่แนะนำค่ะ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="38%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=105 height=139></TD><TD vAlign=top align=middle width=299 height=139><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="67%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width="60%" background=/jaimatadi/images/OM3.gif height=233></TD><TD vAlign=top align=middle width="3%" height=233>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top width=95 height=139></TD><TD vAlign=top width=10 height=139> </TD></TR><TR><TD width=179> </TD><TD width=105> </TD><TD align=middle width=299 bgColor=#000000></TD><TD width=95> </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ภาพนี้ท่านดูผ่องใสมากๆเลยค่ะ

 

(bb-flower กระทู้เยื่ยม

 

เราก็มีเหรียญสมเด็จพระนเรศวรแหล่ะ


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD bgColor=white>

<CENTER>
</CENTER>
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ดูรูปหล่อๆของผู้กองเบิร์ดค่ะ..
ร.อ.วันชนะ สวัสดี ผู้รับบทสมเด็จพระนเรศวรฯ[/FONT]
​

</TD></TR><TR><TD>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]โดย ผ่านมา.. [22 มี.ค. 2549 , 17:43:22 น.] [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD bgColor=white>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ข้อความ 25[/FONT]

<CENTER>
</CENTER>
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เอาไปอีกรูป หล่อมั่กมาก..[/FONT]
​

</TD></TR><TR><TD>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]โดย แฟนคลับหนังนเรศวร [22 มี.ค. 2549 , 17:48:58 น.] [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD bgColor=white>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ข้อความ 26[/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เป็นลม...[/FONT]
​

</TD></TR><TR><TD>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]โดย W [22 มี.ค. 2549 , 18:25:01 น.] [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD bgColor=white>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ข้อความ 27[/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]พี่w ทำใจดีๆ ไว้ โอ้ย...เจเจ้อยากได้ยาดม[/FONT]
​

</TD></TR><TR><TD>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]โดย เจเจ้ [22 มี.ค. 2549 , 19:42:18 น.] [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD bgColor=white>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ข้อความ 28[/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เหอๆๆๆ คุณw ใจเย็นๆ ครับอาการอย่างนี้ต้องยาหอมชงกับน้ำอุ่นๆ รับรองชื่นใจถึงแม้จะน้อยกว่าภาพข้างบนก็ตาม อิ อิ อิ[/FONT]
​

</TD></TR><TR><TD>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]โดย นักรบชรา nana_napron@yahoo.com (นักรบชรา) [22 มี.ค. 2549 , 22:22:10 น.] [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD bgColor=white>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ข้อความ 29[/FONT]

[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]หล่อกว่าฉัตรไชยอีกอ่ะค่ะ.....[/FONT]
​

</TD></TR><TR><TD>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]โดย หนูเองค่ะ [24 มี.ค. 2549 , 06:47:56 น.] [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD bgColor=white>[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ข้อความ 30[/FONT]

<CENTER>
</CENTER>
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ใครจะไล่ใครออกไปก็แล้วแต่
อย่ามาไล่ผู้กองเบิร์ดของหนูเองก็พอ
เกิดมาหุ่นดี หน้าตาดี ทำอะไรก็ดูดี
....................กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ..........................

หนูเองขอเสนอผู้กองพี่เบิร์ดเป็นนายกค่ะ
จะได้ดูผู้กองเบิร์ดออกทีวีทุกวัน..........
[/FONT]
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE height=2879 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=578 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=555>ท่านมุ้ยเข้ม! ฉากสำคัญสุด “ สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง” ถ่ายทำท่ามกลางแดดเปรี้ยง ... เผยสำเร็จหรือไม่สำเร็จอยู่ที่ฉากนี้
</TD></TR><TR><TD> </TD><TD class=style39>21 มีนาคม 2549 </TD></TR><TR><TD height=2749> </TD><TD class=style39><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width=60 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>

สมเด็จพระนเรศวร รับบทโดย ร.อ . วันชนะ สวัสดี ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
“สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง” ฉากสำคัญที่สุดของภาพยนตร์ “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เข้มงวดเพื่อความสมจริง ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำพิธี ที่ถึงขนาดต้องส่งเทียบรับท่านพราหมณ์จากในวังดูแลเครื่องบวงสรวง และการทำพิธีอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมโบราณ นอกจากนี้ยังมีทหารนักแสดงประกอบที่ร่วมฉากสำคัญอีกนับพันคน
หลังจากถ่ายทำฉากสู้รบที่มีความยิ่งใหญ่อลังการมาแล้วเป็นแรมปี มาถึงวันนี้การถ่ายทำภาพยนตร์ “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” รุดหน้าไปแล้วกว่า ๗๕% คงเหลือแต่ฉากภายในที่เร่งถ่ายทำเต็มที่ โดยฉากที่สำคัญที่สุดของเรื่องคือ ฉาก “ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง” นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์อยุธยา และต่อคนไทยทุกคน เพราะเป็นห้วงสำคัญที่ทำให้มีแผ่นดินไทยทุกวันนี้

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width=441 border=0><TBODY><TR><TD width=433>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
“ฉากประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง เป็นฉากที่สำคัญที่สุดของเรื่อง เป็นฉากที่สมเด็จพระนเรศวรตัดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับหงสาวดี ซึ่งหมายถึงการหลุดพ้นจากฐานะประเทศราชที่ขึ้นกับพม่ามากว่า ๑๕ ปี เพราะฉะนั้นต้องทำให้ดีที่สุด เราจะทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อยู่ที่ฉากนี้ ผู้กองเบิร์ด-พระนเรศวรของเรา ต้องแสดงให้เต็มที่ เดี่ยวเลย ไม่มีใครช่วยเลย เป็นบทพูด ไม่ได้พูดกับใคร ต้องพูดกับเทวดาฟ้าดิน โดยเฉพาะคำพูดที่ต้องใช้สำนวนโบราณ ที่ไม่ได้ใช้อยู่ทุกวันจึงทำให้ต้องมีความประณีตมากและต้องละเอียดในทุกๆ ถ้อยคำ ส่วนด้านฉากก็ต้องให้ดูยิ่งใหญ่และสมจริงเพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของคนไทยทุกคน
แต่ถ้าถามว่าจะได้ชมเมื่อไหร่ ก็ตอบเลยครับว่าอีกไม่นานครับ เพราะขณะนี้ฉากรบเราถ่ายไปได้มากแล้ว ส่วนใหญ่ก็เหลือฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ ส่วนการตัดต่อก็ทำไปได้มาก ด้านนักแสดงทุกคนเต็มที่กับงานมากครับ อย่างบางท่านต้องเสียสละเวลามาเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ เช่น คุณ คมน์ อรรฆเดช ที่ห่างการแสดงไปถึง ๒๐ ปี แต่ก็กลับมารับเล่นหนังของผม ทั้งๆ ที่ท่านก็เป็นผู้กำกับมีชื่อคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้สร้างความปลื้มใจให้ผม อย่างมาก ส่วนเบิร์ด ตั้งแต่เริ่มงานกันมาก็เต็มที่ตลอด พอมาถึงบทนี้เบิร์ดยิ่งให้ความสนใจมากขึ้นอีก เพราะเป็นฉากที่ต้องแสดงอารมณ์ คนเดียว แรกๆผมก็กังวลว่าเบิร์ดจะทำได้รึเปล่า แต่พอซ้อมเบิร์ดแสดงได้เยี่ยม ส่วนนักแสดงท่านอื่นๆ ก็มืออาชีพทุกคน ” ท่านมุ้ยกล่าว




คมน์ อรรฆเดช อดีตผู้กำกับและนักแสดงรุ่นใหญ่ ได้กล่าวถึงท่านมุ้ยว่า “ ท่านมุ้ยเป็นผู้กำกับที่เก่งมีความสามารถ โดยดูได้จากวิธีการกำกับและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ โดยเฉพาะฉากวันนี้ท่านได้ศึกษามาอย่างดีก่อนที่จะถ่ายทำ ส่วนตัวผมเองดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้กลับมาร่วมงานกับท่านอีกครั้งหนึ่ง”

<TABLE height=110 cellSpacing=3 cellPadding=2 width=307 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=252></TD><TD width=38 rowSpan=2>
</TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
พระเอกมาดเข้ม ร.อ. วันชนะ สวัสดี (เบิร์ด) กล่าวถึงการร่วมงานกับท่านมุ้ย ว่า “ ท่านเป็นผู้กำกับ
ที่มีความละเอียด ประณีต พิถีพิถันมาก ท่านต้องการให้งานออกมาดีที่สุดแล้วทุกครั้งงานก็ออกมาดีจริงๆ ส่วนตัวผมวันนี้เป็นฉากที่ยากมาก เพราะต้องแสดงอารมณ์ออก มาทางสีหน้าแววตาและคำพูด ที่สำคัญพูดยาวมาก จึงต้องมี การซ้อมและศึกษาอย่างดี ท่านมุ้ยก็จะช่วยบอกช่วยสอนตลอดเวลา ทำให้การทำงานไม่เกร็งมากนัก”
ท่านผู้กำกับได้ฝากถึงทุกท่านที่รอชมผลงานอลังการงานสร้าง เรื่องนี้มาว่า “ ตัวผมเองรวมถึงทีมงาน ทุกคนทุ่มเทความสามารถกันอย่างเต็มที่ ผมขอฝากภาพยนตร์เรื่อง “ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้ด้วย”
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อยากทราบว่าในภาษาฮินดูเทพชื่อ Aum คือเทพองค์ใดเหรอครับ

 

โอม นมัส ศิวะ

คำว่า Aum เข้าใจว่า
คือ คำว่า โอม นะคะ
ไม่รู้กันนะคะ คำว่าโอมหมายถึง เทพทั้ง3- ศะวะ พรหม นารายณ์ อ่ะคะ

อินเดียออกเสียง น่าจะนิยมเขียนเป็น AUM

มากกว่าคำว่า ohm อ่ะคะ[b-wai]

 

พญามัจจุราช

 

เมื่อต้นเดือน มกราคม 2549 ได้เห็นผู้เป็นใหญ่ ผู้ควบคุมทุคติภูมิ

ทรงปรากฏ พร้อมบริวาร น่าคิดนะ ทำไม่ระดับท่านต้องมาเอง


ถ้าแค่วิญญาณทั่วไป เพียงบริวารของท่านก็เพียงพอแล้ว


หรือ ตัวสำคัญ มันอาศัยจังหวะความวุ่นวายบนโลก เพื่อ...............


( หลายคนคงรู้แล้ว )

ใครกลับตัวกลับใจได้ ก็เตือนๆกันไปครับ

 

ความลับของสวรรค์บางครั้ง ห้ามนำมาบอกกล่าว เมื่อถึงวาระกรรม ทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต ก็จะต้องชดใช้ในกรรมที่ได้กระทำมา หามีใครฝืนได้ไม่

อย่างที่คุณ OO ว่า ก็มีส่วน ถึงได้วุ่นวายอยู่จนทุกวันนี้
บางทีไม่อยากคิดอะไร
ปล่อยๆ ไปบ้าง เดี๋ยวเขาก็มาจัดการกันเอง
ละครฉากนี้ ใกล้ปิดฉากแล้วครับ

ประเทศไทย สงวนไว้สำหรับ
ผู้ที่มีความจงรักภักดี มีคุณธรรม และซื่อสัตย์ต่อบ้านเกิดเมืองนอน
บรรพบุรุษของไทย จะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เป็นไปในทางเลวร้ายจนเกินไป
แต่ก็จะต้องมีบ้างเป็นธรรมดา
ตราบใดที่มนุษย์ยังละ ความโลภ โกรธ และหลง ยังไม่ได้


โอม เจ ไสราม

 

ภาพทุกภาพมีความหมายและพลัง
ผู้ใด ศรัทราและเชื่อมั่นในเทพองค์ใด ท่านก็เข้าดูแลเขา
อยู่ในตัวเขา มองเห้นได้ทันทีด้วย ตาที่สาม
และเชิญออกมาให้สัมผัสได้ทันทีเช่นกัน
เพราะท่านอากจะออกมาแผ่บารมี

ไม่จำเป็นต้องเป้นเทพ ใน ศาสนา ฮินดู
ใครก็ได้ สารพัด หลวงปู่ หลวงพ่อ
พระแม่กวนอิม เจ้าพ่อเสือ ฯลฯ
แม้แต่รูปสัก รูปยันต์ก็เช่นกัน
ดังนั้นเพื่อเป็นศิริมงคล เราควรจะนับถือสิ่งที่ดี และเป็นมงคลเข้าตัว
ชีวิตและวิญญาณ จะได้ดี

คบคนพาลพาลพาไปหาผิด
คบวิญญานและจิตที่ผิด
พาลงเหว ครับ

อยากจะให้ คุณ เม้า-ตา-อิน ไปถ่ายรูปภาพมหัศจรรย์ขนาด 2เมตร คูณ สองเมตรครึ่ง ที่วัด แก้วฟ้า นนทบุรี ใกล้ บางใหญ่
เป็นภาพที่มีอยู่ 40 ภาพ ตั้งแสดงให้คนเข้าดูเหมือน พิพิธภัณฑ์
แต่ก่อนผมจัดทัวร์พาคนไปชม เป็นรุ่น ๐ๆ 10-20 คน ทุกวันพุธ

ตอนนี้เหนื่อย จึงหยุดไปก่อน
ความมหัศจรรย์อยู่ตรงที่ว่า
เมื่อมองแล้ว
ใครที่มีพลังจิต ดี (พวกสวดมนต์ ภวนา ทำสมาธิ)
เมื่อมอง แล้ว
จะรู้สึกตัวว่า หลุดเข้าไปในรูป พุทธประวัติ
ตั้งแต่ ตอนประสูตร จน ถึง ปรินิพพาน
หลุดเข้าไปในรูปเหมือน ละครทีวีเรื่อง ทวิภพ
ย้อนหลังกลับไป มากกว่า 2500 ปี
เราจะได้เฝ้าพระพุทธองค์ ได้ยิน เสียวงเทศนา ของพระองค์
จะได้เห็นแม้กระทั่ง พระพุทองค์ เวลา ท่านทรง ผายพระปัพสะ (หายใจ)

ภาพที่น่าจะหลุดเข้าไปเท่าที่ได้ทดลองหลุดย้อนยุคเข้าไป มีอยู่ 3-4 ภาพที่สุดยอด

1. ภาพ ตอนประศูติกาล ของ องค์สิทธัตถะ บรรยากาศเหมือนเราอยู่ในห้องนั้นด้วย มีแต่เสียงแซร่ซ้องยินดี
2. ภาพ ตอน ตรัสรู้ จะได้บรรยากาศแห่งความขลัง และพลังอันสูงสุด ที่จะช่วยให้มีการหลุดพ้นด้วย อริยสัจจะ และมรรค
3. ภาพ วันมาฆบูชา เป็นภาพที่มีพลังแรงมาก เพราะ มีพลังอรหันตืมากกว่า 2500 รูป เราจะได้ยิน เสียงพระองค์แสดง ธรรม ด้วย
4. ภาพ ทรงโปรดขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อโปรด พระมารดา บนนั้นมี เทวดาเฝ้าอยู่นับ หมื่นนับแสนองค์ พลังเทวดาทั้งหมดรวมกัน อัดเราอย่าง แน่นจนเหลือเชื่อ
5. ภาพ สุดท้ายปรินิพพาน เป็นภาพที่สะท้อนจิตได้อย่างลึกซื้ง แสดงธรรมะ ของ อนัตตา แม้แต่พระองค์ผู้มีฤทธิ์ ก็ยังดับขันณ์

ภาพอื่นๆๆที่น่าลองเข้าไป เช่น ตอนทรงทำ ทุขกริยา เราจะได้รู้ว่า ขณะนั้นพระพุทธองค์ ทรง ทรมาณแค่ไหน เพื่อมวลมนุษย์

ภาพ พระเทวฑัตถูกธรณีสูบ นั้นน่าน จะลองเข้าไป เพราะเมื่อเข้าไปแล้ว เราก็จะรู้เหมือน พระเทวฑัตถูกธรณีสูบ คนที่อยากสัมผัสว่า เวลา ตกนรกนั้น ฟิลลิ่งจะเป็นยังไง ก็ให้ลองไปดู

 

ใกล้กันนั้นคือ วัดสังฆทาน อญุ่เชิงสะพาน พระราม 5
ที่ท้ายวัดมีการสร้างศาลาการเปรียญ อันมหัศจรรย์ด้วยทุกชิ้นเป็นไม้สักแกะสลัก เป็นเรื่องของ ทุกศาสนาในโลก

ฝ่ายพุทธ เป็นห้องแยกเป็นพิเศษ
เป็นพุทธประวัติ
สวยงามมากที่สุดในโลก
มีอานุภาพมากที่สุดในโลกเช่นกัน
ถ้าไปยืนที่ เสาของ พุทธประวัติ ตอน เทศนา
เราจะได้ยินเสียงพระพุทธองค์ ทรงให้ศีลห้า เสียงดังฟังชัด
ผู้ใดมีสมาธิ มีพลังจิต จะได้ยินชัดเจน
ผู้ที่ไม่มีบุญ ไม่สวดมนต์ภวนา ไม่ต้องไป เพราะจะสัมผัสไม่ได้

ขอให้ คุณ เม้า-ตา-อิน
นำภาพ ของ วัดแก้ว ฟ้า และ วัด สังฆทาน ขึ้นจอด้วย
จะเป็นมหากุศล เพื่อผู้ที่อยู่แดนไกล ทั้งในและนอกประเทศ
จะได้มีโอกาศ หลุดย้อนยุคกลับไป 2500 ปี
และถ้ามีบุญมากพอ ก็จะได้เข้าเฝ้าพระองค์
ได้ เหมือนปกติ เมื่อ 2500 ปีที่ผ่านมา

คนที่จะเข้าไปได้อย่างแน่นอน 100 %
ถ้าเขาเคยเกิดและอยู่ในยุคนั้นด้วย
ใครอยากรู้ว่า ตัวเองเคยเกิดในสมัยพุทธกาลนั้น หรือไม่
ลองดู ครับ
ความมหัสศรย์ จะเห็นเอง สัมผัสเอง
ขอให้โขคดี ครับ