ตาทิพย์เห็นอะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

วันนี้ (29 มี.ค. 49) ประมาณบ่ายสี่โมง ดิฉันได้ไปพบคุณตาที่สามมาแล้วค่ะ


ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ปรารถนาจะไปขอวิชาจากท่าน คุณควรเป็นผู้นั่งสมาธิมาบ้าง ไม่จำเป็นต้องเก่ง ขอให้พอกำหนดจิตให้เป็นสมาธิพอได้ ณ ปัจจุบัน คือเป็นคนที่นั่งสมาธิ (แม้จะนั่งไม่ได้นาน หรือเท่าเทียมกันทุกวัน) อย่างน้อย 10-20 เปอร์เซ็นต์ จาก 100 เปอร์เซ็นต์ และคอยหมั่นดูลมหายใจของตัวเอง ให้ละเอียด ในขณะรถติด หรือเมื่อระลึกได้ในขณะประกอบชีวิตประจำวัน
สวดมนต์ ถือศีล(แม้บางวันจะไม่ครบ) มีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆ์คุณเป็นสรณ มองโลก และเพื่อนมนุษย์ในแง่ดี เปิดใจกว้างกับทุกคนและทุกสิ่งที่พบ เคยรู้สึกว่าตัวเองมีพลังบางอย่างอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจ เช่นนี้คุณไปพบคุณตาที่สาม แล้วจะได้สัมผัสพลังใหม่ๆ กลับมาพัฒนาตัวเองค่ะ

การไปพบใคร แม้คุณจะนับถือพระรัตนไตรย์ แต่ใจไม่เปิดกว้างว่า เขาก็เป็นเพื่อนร่วมโลกเกิด แก่ เจ็บ ตาย คนหนึ่งแล้วละก็ ต่อให้เขาพูดว่า เขามีตาที่สาม และสามารถสอนให้คุณได้ คุณก็จะไม่มีวันเชื่อได้ เพราะใจของคุณได้ปิดในสิ่งที่เขากำลังจะบอกตั้งแต่ยังไม่พบตัวเขาด้วยซ้ำ


ดังนั้น ถ้าใครมีความสงสัยในแง่ลบกับคุณตาที่สาม ก็เลิกคิดจะไปพบคุณตาที่สาม จะเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับความสบายใจของตัวคุณเอง


แต่ถ้าใครมีความสงสัยในแง่บวก แม้จะไม่เคยมีสัมผัสใดๆ มาก่อนเลย ก็อาจลองไปคุยกับคุณตาที่สามสักครั้งดูก็ได้ค่ะ

คุณตาที่สามเป็นคนคุยเก่งมาก ขอพูดตามตรงนะคะ (คุณตาที่สามอย่าถือโทษโกรธนะคะ) มีจริตที่จริงใจ และโผงผาง มีความรู้ และมีพลังที่ต้องการสอนความรู้นั้นให้กับคนอื่นๆ เมื่อมีความรู้มาก มีพลังต้องการถ่ายทอดมาก จึงพูดเร็ว สอนเร็วจนตามไม่ทัน และสัมผัสพลังที่คุณตาที่สามบอกว่าท่านมี ท่านเห็น มีจริง และสัมผัสได้ไม่ทัน

ดิฉันรับไม่ทันเลย ในบางข้อ จึงอาจกลายเป็นจุดเสียสำหรับความน่าเชื่อถือในตัวท่าน ว่าท่านดูเหมือนคนขี้ปด โกหกกันเห็นๆ คนบ้าหรือเปล่า?

แต่บังเอิญว่า บางอย่างที่ท่านบอก ดิฉันสัมผัสได้ และหลังจากกลับมาจากการพบท่านแล้ว ดิฉันก็ยังเห็นพลังที่ท่านได้สอนอยู่กับตัว ซึ่งพลังนี้ไม่ได้อยู่แค่เฉพาะต่อหน้าคุณตาที่สาม แต่ยังติดตัวกลับมาให้ดิฉันพัฒนาต่อได้ มันเป็นแค่พลังงานที่เห็นลางๆ แต่บังเอิญหรืออุปทานไม่ทราบที่ดิฉันอาจเคยเห็นมันก่อนแล้ว แต่คุณตาที่สามทำให้ดิฉันเห็นมันในตัวดิฉันได้ชัดขึ้นกว่าเดิม แม้เพียงเล็กน้อย

ดิฉันได้อะไรกลับมาจากการพบคุณตาที่สาม?


-ได้รู้ว่าตัวเองมีพลังที่จะดูความคิดของคนอื่น


-สิ่งที่คุณตาที่สามสอน จนเกิดการเรียนรู้คือ การพัฒนาพลังจิตของตนเองไปสู่การดูออร่าได้ สิ่งที่ดิฉันเห็น เป็นแสงออร่าอ่อนมาก เห็นเป็นสี แต่แยกไม่ออกว่าเป็นชั้นของสีอะไรอยู่บ้าง แต่คุณตาที่สามบอกว่า วันแรกคือวันนี้ที่พบท่าน ได้เห็นออร่าก็เก่งแล้ว แม้จะเป็นเพียงสีบางๆ ก็เหมือนกับการหัดเขียน ก.ไก่นั่นแหละ วันแรกจับดินสอขึ้นมา เขียนพออ่านออกเป็นตัวก็เก่งแล้ว


แต่ ก.ไก่ ที่เขียนครั้งแรก ย่อมไม่สวย ไม่คม จึงต้องกลับไปฝึกหัดดูออร่าบ่อยๆ ตามที่ท่านแนะ ก็จะเก่งเอง

ท่านได้เปิดพลังให้หลายอย่าง แต่ดิฉันรับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง อย่างที่บอกว่าท่านเป็นผู้มีความรู้ แบบคนที่ชอบถ่ายทอด เลยพูดเร็ว สอนเร็ว จนดูเหมือนว่าจะมาหลอกเรา สิ่งที่ดิฉันรับตามที่ท่านสอนยังไม่ได้ ถ้าเป็นคนอื่น ก็อาจบอกว่าถูกหลอก แต่บังเอิญว่าพลังบางอย่างเรารู้สึกได้ และยังเห็นตำตาอยู่ในปัจจุบัน

สรุปคือ ใครคิดจะไปพบคุณตาที่สาม กรุณาเปิดใจ โดยพยายามตั้งอยู่บนพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆ์คุณ คือมีจิตเมตตากับเพื่อนมนุษย์เป็นที่ตั้งก่อน เพราะคุณตาที่สามกำลังจะพูดกับคุณด้วยความรู้ล้วนๆ แบบโผงผาง ดูไม่สุขุม (แต่นั่นเพราะความจริงใจ) การที่ไม่สุขุม เพราะจริตเป็นเช่นนั้นเอง จึงอาจทำให้คนที่เห็นไม่เปิดใจ หมดความเชื่อถือเมื่อคุยกับท่านได้ค่ะ

 

ตอบ
1. คุณ Nobita 78
ตาที่สามอยู่ที่หน้าผาก จึงไม่เกี่ยวกับ
สองตาที่มีอยู่เดิมการใส่ คอนแทคเลนซ์จึงไม่มีผลใดๆๆต่อการมองด้วยตา
ที่สาม

2. คุณ Zantha จาก ประเทสจีน
รักาทางไกลให้แล้ว อาการคงจะดีขึ้นบ้าง

เพื่อนมนุษย์ต่างดาว ตัวน้อยมีปีกเหมือนผีเสื้อ
ได้ข่าวว่า ยังอยู่สะบายดี เล่นเวปอยู่ที่กาหลิบ
ลองตามไปดู ครับ
ที่เวปกาหลิบ ผมเข้ายาก และล้มบ่อย จึง ไม่ค่อยเข้าไป

ออร่าของคุณ มีสีทองและเหลือง แปลว่า ใกล้การหลุดพ้นแล้ว
อนุโมทนา ครับ

3. คุณ Atidtarn
ขอบคุณที่เป็นกระจกเงาให้
ผมจะได้แก้ไขส่วนที่ ไม่ค่อยถูกต้อง ต่อไป

คำถามเรื่อง ในเนื้อความเรื่องอภิญญาของการมีตาที่สาม นั้น
คนที่มีตาที่สาม จะทำได้ บางอย่าง ตามความถนัด
เหมือน หมอผ่าตัดหัวใจ จะมาผ่า สมอง ก็จะเป็นเรื่องยาก

ผมนั้นลองมาทุกข้อ ที่เขียนไว้ (ถ้าไม่ทำได้ ก็จะเล่าไม่ได้ ไม่ถูก)
มีอยู่สองข้อที่ไม่ได้ทำ แต่รู้วิธีทำ
คือ
1. การแปลงตัวย่อเท่าเม็ดฝุ่นแล้วเข้าไปในตัวคน
วิ่งไปตามเส้นเลือด ตรวจ อวัยวะภายในที่เป็นชิ้นๆๆ
แล้วรักษา เช่นเข้าไปที่ กะเพาะอาหาร เมื่อเข้าไปแล้ว
ก้จะเหมือน เข้าไปในท้องพระโรง มีเพดานโค้ง
มองเห็นผนังเป็นคลื่น เป็นลอน แล้วก็รักษา

ที่ไม่ได้ทำ เพราะ มีวิธีอื่นที่ดีและเร็วกว่า คือ มองทะลุเข้าไปดู
แล้วกำหนดจิต ให้เห้นราบละเอียด ก็จะเห็นทุกอย่างเหมือนเข้าไปดูเอง
และอีกอย่าง ยังไม่เคยทำ ถ้าเผื่อผิดพลาด กลับออกมาไม่ได้ แล้ว จะ
ทำอย่างไร

2. เรื่อง แก้ปัญหาอาชญากรรม โดยแกะรอยเรื่องจาก อุปกรณ์และชิ้น
ส่วน ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตู ก็จะมองเห้นและตามจับคนร้ายได้

ที่ไม่ทำเพราะเสียเวลามาก ต้องเดินทางไปโน่นไปนี่
เพื่อหาให้ได้ว่า ของจขริง สถานที่จริง เหมือนในจิตที่เห็นใหม
และประเทศเรา มาเฟีย เจ้าพ่อ ผู้กว้างขวางมีมาก การเกิด
อาชญากรรมใหญ่ๆๆ มักจะมาจากกลุ่มตนเหล่านี้
ดังนั้นทางที่ดี อย่ายุ่งด้วยจะดีที่สุด
เรื่องแบบนี้ ในต่างประเทศมีคนทำแทบทุกประเทศ
หวังว่าคงเข้าใจนะครับ
ถ้าอยากจะสมัครมาทำเรื่อง สอบสวน อาชญากรรม
มาอีกที ผมจะสอนให้

 

.....ไม่ทราบว่าเคยมีคนส่งพลังจิตทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปหาอาจารย์บ้างไหมครับ

 

ผมรบกวนถามท่าน the thrid eyes สักนิดครับจริงๆผมก็เกรงใจเพราะเห็นหลายคนถามว่าจะไม่รบกวน แต่ก็อยากถามนิดหน่อยครับ ตอนผมล้มตัวลงหลับจะต้องตื่นก่อนครั้งหนึ่งหลังจากหลับได้ประมาณ10นาททีจะฝันหรือไม่ฝันก็ตามครับ พอตื่นมาบรรยากาศรอบตัวผมจะแปลกๆ ข้าวของรอบตัวสั่นเหมือนแผ่นดินไหวครับ ของบางอย่างที่มีน้ำหนักน้อยก็จะล้มแล้วก็สั่นๆ ข้าวของรอบกายประมาณ2เมตรถ้าชินไม่ไหญ่จะสั้นให้เห็นชัดเลยครับเหมือนมีคนเขย่าไปๆมาๆแต่ไม่แรงมากแต่ออกสั่นถี่ครับ ปรกติ5นาทีจะหายครับทุกอย่างจะเข้าสู่ในภาวะปรกติแล้วผมจึงหลับต่อได้ครับ แต่พักหลังๆรู้สึกระยะในการสั่นหลังตื่นตอนจะนานขึ้นและรัศมีในการสั่นของข้าวของภายในบ้านจะเพิ่มขึ้นด้วยครับ ผมอยากรู้ว่ามีวิธีแก้ไหมครับว่าทำไงดี หลังจากนอนได้10นาทีแล้วจะต้องมีอาการแบบนี้ทุกครั้งครับแต่ที่กัววนก็รัศมีมันกว้างขึ้นและระยะมันนานขึ้นครับ กว่าจะสงบอีกทีผมจึงถึงหลับเป็นปรกติได้ครับ อ่อเป็นทุกวันด้วยครับ วันไหนฝึกสมาธิหรือไม่ได้ฝึกก็เป็นครับ
เปลี่ยนเวลานอนก็เป็นครับ คือโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 1 วันต้องหลับแล้วตืนครั้งแรกก่อน1ครั้งประมาณ10นาที จากนั้นถึงหลับได้เป็นปรกติเหมือนคนทั่วๆไปครับ ตอนแรกคิดว่าผมคงคิดไปเองครับ เพราะสันไม่แรงและแค่รู้สึกไดว่าสั่นเฉยๆนึกว่ารถบรรทุกวิ่งผ่าน แต่เดี๋ยวนี้รถบรรทุกไม่วิ่งแถวบ้านแล้วครับและข้าวของถึงกับล้มเพราะแรงสั่นสะเทือนจากรอบกายผมอย่างเช่นพวกขวดโคโคลนหรือกระป๋องแป้งขวดน้ำเล็กฯลฯส่วนมากจะเป็นของน้ำหนักเบาที่ไม่หนักหรือไม่ชิ้นใหญ่มากจะสั่นให้เห็นและตัวผมเองก็รู้ถึงการสั่นสะเทือนได้แบบชัดเจนครับ แต่ที่สำคัญคือตัวผมไม่ได้สั่นไปกับของรอบกายครับแต่ก็รู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนครับ รบกวนท่าน the third eyes ตอบผมวันไหนก็ได้ครับไว้ว่างๆก็ได้ครับ แต่หาคำตอบของอาการแปลกๆไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับเพราะอยากถามเฉยๆครับ

 

กำหนดจิตตรงกลางระหว่างคิ้วแล้วเพ่งภาพนี้

มองที่วงกลมที่มีปีกออกมาครับ(smile)

 

มันคืออะไรคะ มองแล้วเสียวสมองมากๆ

รู้สึกว่าจะชวยเพิ่มความปวดตึงเสียวที่กุ่งกลางระหว่างคิ้วได้มากก

ตาที่สามคงจะเปิดในไม่ช้านี้...

 

ถ้าคุณ criiuj ชอบหารูปปฏิบัติธรรมมาให้เรามอง ก็ดีนะ

ชอบลองอยู่แล้วอ่ะของแบบนี้...

 

ขอความกรุณาหน่อยนะคะ คุณ ตาที่สาม
ที่หนูฝันหรือถอดจิต อะไรก็แล้วแต่ที่ได้เล่าไว้ในกระทู้ที่ชื่อ ถอดจิตไปดูสวรรค์และได้กราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำครั้งแรก ใน
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=29229
มีช่วงหนึ่งที่พระสงฆ์ในนิมิตรเอาอะไรมาติด หรือแตะตรงตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างคิ้วบริเวณหน้าผากของหนู จนรู้สึกตึงๆเสียวๆไปทั้งหัว
มันคืออะไรคะ หมายความว่ายังไงช่วยตรวจดูไห้หนูด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หนูจะรอคำตอบนะคะ

 

เมื่อเช้าอุตส่าห์พิมพ์ข้อความเกี่ยวกับการได้ไปสังเกตุดูอาจารย์สามตา เมื่ออดีต ที่งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ตั้งแต่ครั้งแรกๆ พอกดส่งข้อความ กลับโพสไม่เข้า ทั้งๆที่ login เข้าไปแล้ว

หรือว่าเขาไม่ยอมให้เล่า ขอสักนิดเดียว
ไม่เสียหายอะไรหรอกครับ
เป็นความรู้สึกในอดีต คิดแล้วก็อดขำไม่ได้

ผมไปงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ทีไร เป็นต้องได้พบเห็นอาจารย์สามตา ทุกที ยกเว้นมีอยู่ปีหนึ่งมั้ง ที่อาจารย์ไม่ได้ไป ผมจำไม่ได้ว่าปีไหน

แรกๆ ก็เห็นแปลกดี มีคนยืนรอคิวให้อาจารย์ตรวจออร่า ให้
เยอะแยะไปหมด อาจารย์ก็ยกมือ ออกท่าออกทาง
ดูแล้วอดนึกขำในใจไม่ได้
คิดในใจว่า เอ เขาเล่นอะไรกันหว่า ไม่อายคนดูหรือไงนะ

ตอนนี้มาได้กับตัวเองเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
ผมเป็นคนไปให้อาจารย์ดู
เห็นมีคนเดินผ่านหลายคน มองมาแปลกๆ
คงคิดเหมือนที่ผมเคยคิดมาแล้ว

เมื่อเจอเข้ากับตัวเอง ก็ไม่รู้สึกอายอะไร
กลับเป็นเรื่องแปลก ที่สามารถสัมผัสได้ถึงขุมพลัง
ที่มีอยู่ในตัวอาจารย์
พลังมีอยุ่ในทุกที่ ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถสัมผัสรับรู้ได้หรือเปล่า

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่งานวิทย์ฯทางจิต ตอนนั้นจัดที่รามสแควร์ เป็นครั้งสุดท้าย
ผมนั่งดื่มกาแฟอยู่ ได้ยินชาย 2 คน คุยกันถึง อาจารย์สามตา
ว่า เขาได้เก็บก้อนกรวดบนถนน เอามาให้อาจารย์สามตาตรวจพลัง
ปรากฏว่า มีพลัง กี่เมตร ก็จำไม่ได้
ชายคนเล่า บอกผิดหวังมาก
ไม่รู้ว่าผู้จัดงาน ทำไมไม่กรองคนที่จะเข้ามาออกบูธ

ผมมานั่งคิด ก้อนกรวด ตากแดดตากฝน ไม่รู้นานเท่าไร
ทั้งแดดและฝน มันก็คือพลัง อย่างหนึ่ง
แม้แต่หินสี ที่เรานำมาเป็นเครื่องประดับ
เขายังให้เอาไปตากแดด แช่น้ำ เพื่อเพิ่มพลัง
แล้วนับประสาอะไร กับก้อนกรวดบนถนน
จะไม่มีพลังได้อย่างไร จริงไหมครับ

ผมคิดได้ก็ค่อยสบายใจ
ความจริงคือความจริง อยู่ที่ใครสามารถพิสูจน์ได้
ไม่งั้น ป่านนี้ อาจารย์สามตา คงไม่มาให้ผมได้เห็นในงานอีกเป็นแน่แท้
ร่วมสิบปี มาแล้ว ที่ผมรู้จักอาจารย์แต่ฝ่ายเดียว
อาจารย์ก็ยังอยู่ยงคงกระพัน มาได้จนทุกวันนี้
อายุท่านก็มากขึ้นทุกวัน
คงไม่คุ้มหรอก ถ้าคิดจะมาหลอกลวงกัน

ของแบบนี้คนฝึกมา พอมีพื้นฐาน ก้จะเข้าใจ
อย่างที่อาจารย์บอก
ใครไม่เคยทำสมาธิ สวดมนต์ภาวนา
อย่าไปทดสอบอาจารย์เลยครับ

สำหรับคนที่มีทุกข์ แม้ไม่เคยทำสมาธิและสวดมนต์
แต่ต้องการให้อาจารย์แก้ทุกข์ หรือชี้แนะให้
ผมว่าอาจารย์ยินดีที่จะช่วย นะ

 

อยากทราบว่า แมวหรือสุนัข สามารถมองเห็นแสงออร่าของมนุษย์

ได้หรือเปล่าคะอาจารย์

เห็นออร่าของกระทู้นี้มั้ยคะ ^^''

 

ในแต่ละวัน จะเห็นว่า มีผู้ป่วย หรือ ญาติป่วย
ด้วยสาระพัดโรคขึ้นเวบมาขอให้ช่วยรักษา
จนแทบจะเรียกว่า เป็นโรงพยาบาลทางจิต และทางไกล บนเวบ
เสี่ยงมากกับ อย. ที่จะมาตรวจสอบว่า มีใบประกอบโรคศิลป์หรือเปล่า
ผมจึงไม่ทำการรักษา

แต่มีเคล็ดอยู่อย่างหนึ่ง
ใครที่ป่วย ด้วยโรคใดก็ได้
ให้ลอง ดูภาพตัวผม (ถ้ามี)
หรือ นึกถึงชื่อผม พร้อมนามสกุล
ถ้าไม่รู้จะทำอย่างไร
ให้ลองนึกชื่อ" อาจารย์ ตาที่สาม บน เวบ พลังจิต"
ว่าป่วยหนัก ขอให้มาช่วยด้วย

แล้วลองดูว่า ผมจะไปเดินรอบๆๆตัวใหม
เอามือแตะที่หน้าผาก แล้วอาการจะดี ขึ้นใหม
ถ้าเห้นจริง อย่ากลัว เพราะจะไปดี และรักษา จริง

มีข้อแม้ว่า จะต้องศรัทรา และเชื่อมั่น
จะลองเล่นไม่ได้
ลองดูครับ
คิดว่า วิธีนี้ ไม่ผิด กฏ อย.
เพราะเขาฝันว่า ผมไปรักษา
และเขาก็หายในความฝัน
และก็หายในความเป็นจริง
ลองดูครับ

ขอบคุณ คุณ เม้า-ตา-อิน
ที่อธิบายบางเรื่อง ถูกต้อง
หินดินทราย ทุกชนิด มีพลัง
เพราะอยู่คู่กับโลกมาหลายพันล้านปี
ย่อมสะสมพลังทางธรรมชาติไว้มาก

จะเห็นว่า อัญมณี พวก เพชร ทับทิม โอปอลล์ พลอย
มรกต บุษราคำ โกเมน มุกดาหาร ฯลฯ
ล้วนแล้วแต่มีพลังทั้งสิ้น

จนการตลาดต้องมาเมค ว่า คนเกิด เดือน นั้น
ราศี นั้นจะต้องใส่อย่งนั้นๆๆ
เพื่อให้ขายได้ ทั้งๆๆที่ ไม่ถูกต้อง ก็ต้องตามแฟชั่นไป
กรวดหิน ก็คือ อัญมณีชนิดเลว มีพลังเช่นกันนั่นเอง

ผมเริ่มศึกษาและตรวจออร่ามาได้ จนปัจจุบัน 6 ปี พอดี
ทุกปีปลาย ธค. จะไปออกวาน วิทยาศาสตร์ทางจิตไม่เคยขาด
ยืนยงมาตลอด
มีคนมาให้ตรวจเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี
ใหม่ๆๆ ครวจแค่วันเดียว คือ วันเสาร์
ต่อมาเพิ่มเป็นวันอาทิตย์อีกวัน

ต่อมาเพิ่ม วันพุธ พฤหัส แล้วก็ศุกร์
ตอนนี้ ครบ 7 วัน
เลยไม่มีวันหยุด
เพราะจำนวนคนที่เดือดร้อนเพิ่มเป็นทวีคูณ
ก็ต้องช่วยกันไป
ก็เล่าให้ฟังเรื่องเก่าๆๆ ย้อนหลังครับ

 

อยากรู้จริงๆ ครับ สีออร่าของผม

 

กลับมาอ่านทบทวนสิ่งที่ คุณ atidtarn ได้เล่าไว้
ก้ต้องขยายความเพื่อความเข้าใจสำหรับผู้ที่สนใจ

ปกติเวลาผมตรวจคนที่มาให้ตรวจ จะใช้เวลา ประมาร คนละ 15 นาที ตรวจทุกอย่างเริ่มจากต้น และเป็นลำดับดังนี้

ตรวจสีออร่าที่เป้นชั้นๆๆว่ามีสีอะไรบ้าง
ตรวจรัศมีของ วงออร่า
วัดระยะความแรงของพลังจิต

ตรวจอง์ใน เทพ ที่อยู่กับตัวว่าเป็นใคร
ตรวจโรคโดยการใช้ตาที่สามมองทะลุเข้าไป
ดูอวัยวะเป็นชิ้นๆๆ ว่า ป่วยเป้นโรคใด

ตรวจว่า แต่งตัว เสื้อผ้า ถูกโฉลกใหม
ใส่ของประดับกายถูกต้องใหม
เช่น เพชร สร้อยทองคำ กำไลมือ นาฬิกา ตุ้มหู ฯลฯ
ถ้าใส่ผิด ทำให้ถึงตายได้

ตรวจสิ่งแวดล้อมถูกต้องใหม เช่น
ต้นไม้ ที่นอน หมอน ผ้าห่มถูกสีใหม

ตรวจบ้าน ร้านค้า ที่ทำงาน ในแง่ฮวงจุ๊ย ถ้าผิดจะแก้อย่างไร
ที่ทำงานมีปัญหาอะไร ใหม เจ้านายเป้นอย่างไร

ถ้าเป็นร้านค้า ก็ดูว่า ไปรอดใหม กำไรใหม
ถ้าเป็นโครงการ ก็ดูว่า เป็นอย่างไร ทำได้ใหม
ฯลฯ
เวลาดูจะนานตามที่บอก คือ ประมาณ 15 นาที
ทุกขั้นตอนของการตรวจจะใช้พลังอย่างมาก
คนที่มีสมาธิดี ก็จะสัมผัสพลังบางอย่างที่เกิดขึ้น
ได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสมาธิของผู้นั้น

คุณ atidtarn เป็นคนมีพลังในระดับหนึ่ง
จึงสัมผ้สพลังได้บางอย่าง
เธอพยายามที่จะจับและสัมผัสให้ได้ว่า
ผม ปล่อยพลังอะไรออกมาบ้าง

แต่ความที่ไม่เคย แรงสัมผัสจึงช้า บางตอน จับไม่ทัน จึงข้ามไป
เหมือนกับ คนไข้มาหาหมอที่คลีนิค
หมอก็ตรวจๆๆแล้วสั่งจ่ายยา
คนป่วยก็รู้แค่ว่า ป่วยเป็นโรคใด
แต่ไม่รู้รายละเอียด ของการเป้นโรค

เธอมีความพยายามที่จะเรียนรู้อย่างมาก
พยายามที่จะเข้าใจ
ซึ่งก็ได้ไป บางส่วนประมาณ 5 % ของที่มี
วิชาเหล่านี้ เขาเรียนกันมาเป็นปีๆๆบางคน 10-20ปีก็ไปไม่ถึงไหน
เวลา 15 นาที ได้รู้เท่าที่เป็น ก็นับว่า ยอดแล้ว
สิ่งที่ได้สอนให้ และติดตัวกลับไป
คงจะเอามาพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นได้อย่างเร็ว
เพราะมี พื้นฐานที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว

ขอให้มีความพยายามต่อไป
แล้วจะได้มามีส่วนช่วยสังคมกันต่อไป อีกแรงหนึ่ง
ขออนุโมทนา

 

แวะมาอ่านผ่านมาสวัสดีอาจารย์ตาที่สามครับ

 

ปวดหว่างคิ้วครับ แต่มันก็ปวดเป็นธรรมดาอยู่แล้ว อ.ตาที่สามครับตอนนี้ผมจะมองเห็น(ซ้อนทับ)คล้ายๆกับเป็นน้ำบริสุทิ์หรือแก้วใสอยู่รอบตัว และบังคับให้ยืดหด หรือเปลี่ยนรูปร่างได้ บางครั้งผมก็เล่นปล่อยออกไปเป็นก้อน และบังคับทิศทางได้ ชอบทำเวลาขับรถ มันเพลินดี เป็นพลังด้านไหนครับ แต่มันก็ดับอาการร้อนที่เกิดจากการเดินพลังได้ดีทีเดียวเลยครับ

 

คุณ demonicus

สิ่งที่คุณเห็นคือกายทิพย์ของตัวเอง
ปกติจะมีรูปร่างเหมือนตัวเอง
แต่บิดเบี้ยวเปลี่ยนรุปได้ด้วย จิตของตัว
มันจึงเปลี่ยนรูปได้ตามที่ใจเราคิด
ลองให้เขาสอน ธรรมะ โดยเฉพาะการปลงอสุภะ
เขาจะสอนได้อย่างเด็ดขาด
ละลายหายไปที่ละชิ้น จาก เนื้อเน่าหลุด เพละๆๆ
เหลือกระดูกขาวโพลน แล้วยุบกองลงมา เป็นฝุ่น
แล้วก็กลับมาเป้นคนใหม่ ที่ไม่เหมือนเก่า
ละลายเน่า กระดูกยุบไปเรื่อยๆๆ เอาแค่ 10 คนก็พอ

แต่ละคนที่ขึ้นมา คือ ตัวคุณในอดีตชาติ
ย้อนหลังกลับมาให้ดูว่า ชาติก่อนๆๆ เราเป็นใคร
ลองดู ครับ สนุกดี จะได้เข้าใจเรื่อง การเวียนว่าย ตายเกิด
ตามหลักของพระพุทธศาสนา

หรือจะสั่งให้เขาไปใหนก็ได้ภายในพริบตา
ที่เรียกว่า ถอดจิตไป
ลองดู ครับ
แล้วกลับมาเล่าสู่กันฟัง ให้คนอื่นเข้าใจได้ด้วย

 

[b-wai] เมื่อวานนี้(อาทิตย์ที่ 2)ได้ไปพบท่านอาจารย์ The Third Eyes ในตอนเช้า โชคดีที่ท่านอาจารย์ยังไม่ยุ่งมากในขณะนั้น ขอขอบคุณท่านอาจารย์ The Third Eyes สำหรับคำชี้แนะต่างๆครับ ที่จริงผมยังมีเรื่องอยากจะคุยและขอคำชี้แนะเกี่ยวกับการฝึกสมาธิอีกหลายเรื่อง แต่เห็นว่ามีผู้ที่ได้นัดหมายกับอาจารย์มารอกันเต็มไปหมด ทั้งๆที่ตอนที่ท่านอาจารย์ได้เริ่มให้คำชี้แนะนั้น มีผมเหลืออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เข้าใจว่าคนอื่นๆคงไปเลือกตั้งกันก่อนจะมานั่นเอง

สำหรับท่านอื่นๆที่ยังสงสัยเกี่ยวกับท่านอาจารย์นั้น ผมขอแสดงความเห็นส่วนตัวของผมว่า ท่านอาจารย์เป็นผู้ที่มีตาทิพย์จริงๆอย่างแน่นอน และท่านก็มีเมตตามากที่ได้ใช้ความสามารถนี้มาช่วยเหลือผู้คนทั้งหลาย ท่านได้ช่วยตรวจออร่าและให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ เช่น เครื่องประดับและสีเสื้อผ้าที่ถูกโฉลก ฯลฯ ซึ่งแต่เดิมผมไม่เคยใส่ใจมาก่อน ถึงแม้ว่าบางครั้งจะรู้สึกแปลกๆบ้างก็ตาม และท่านอาจารย์ยังได้ช่วยตรวจพลังพระเครื่องที่ผมติดตัวไว้ด้วย เช่น พระสมเด็จสัมพุทเธ ซึ่งท่านอาจารย์บอกว่ามีพลังพุทธคุณรัศมีกว้างถึง 70 เมตร เป็นต้น

ผมจะหาเวลาเข้าไปพบกับท่านอาจารย์อีกนะครับ เพื่อขอคำชี้แนะในเรื่องการฝึกสมาธิครับ ขอขอบคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างยิ่งอีกครั้ง
[b-wai]

 

ขอบคุณครับอาจารย์ ผมจะฝึกเพิ่มเติมครับ ถ้าจะลองหมุนรอบๆตัวดูด้วยครับ

 

อีกเรื่องเพิ่งนึกขึ้นได้ครับอาจารย์ คือผมไปงานศพแม่คนนับถือกัน ก็ได้พบแขกที่ไปร่วมงานศพกลุ่มหนึ่ง แต่งตัวคล้ายๆกัน แบบอาจจะเป็นลัทธิอะไรสักอย่าง ทราบว่าเขาทานมังสวิรัติกัน และเป็นพวกปฏบัติธรรม แต่ทำไมรัศมีกายเขามัวหมองจังเลยครับ คล้ายๆกับมีหมอกคลุมรอบตัว ผมลองแบ่งก้อนพลังที่เห็นเป็นเหมือนน้ำอยู่รอบตัวแล้วลอยไปกระทบพวกเขาดู เขาก็เดินหนีหายไปเลยครับ ลองจับทิศทางดูก็ไม่พบ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ถึงไม่หันไปมองก็จะสัมผัสได้ว่าเขาอยู่ตรงส่วนไหนของงาน หมอกที่เห็นคลุมร่างพวกเขาอยู่เป็นอะไรครับ แล้วที่ผมทำผิดหรือเปล่าครับ มันดูเหมือนกับไปลองดีกับเขาเลย แต่ก้อนพลังที่ผมใช้เป็นก้อนใสนะครับ ผมยังไม่เคยใช้สีอื่น (ที่กำหนดได้นอกจากใสเหมือนน้ำแล้วก็ยังมีก็มีสีเขียวมรกต สีเปลวเพลิง สีแดง สีเหลืองทอง ก้อนไฟ เคยลองสร้างแบบสีดำสนิทดูแล้วแต่มันออกแนวดึงดูดพลังงานแปลกๆก็เลยเลิกครับ) ตอนนี้พยายามฝึกให้มองเห็นก้อรพลังได้ด้วยตาเนื้อครับ มีทางที่เป้นไปได้ใหมครับอาจารย์

 

ได้อ่านประสบการณ์ของแต่ละท่านแล้ว
มีแต่ท่านที่มีบารมีทั้งนั้นเลย มีประวัติระดับเทพ เซี่ยนเลยครับ
มีแต่ท่านที่ว่า มีพลังจิตทั้งนั้นเลยครับ

ส่วนผมขออ่านประสบการณ์ของท่านๆ ดีกว่า