ธุดงค์ของหลวงตา 5

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย jaruzuke, 21 มิถุนายน 2009.

  1. jaruzuke

    jaruzuke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +555
    สวัสดีครับเพื่อนๆ และพี่น้องทุกคน

    ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดเปรี้ยง แถมมีไข้หวัดสายพันธ์ใหม่มาระบาดอีก ดูแลรักษาตัวกันด้วยนะครับทุกคน ช่วงสามทุ่มกว่าๆจาจะไปตั้งห้อง ชื่อjaruzuke ในห้องสนทนาสียง(แต่ไม่มีเสียงให้ฟังนะ) แวะไปจอยกันได้นะครับ

    หลังงานสวดศพเสร็จสิ้น หลวงตาท่านก็กลับมายังกลด ท่านก็สวดมนต์เตรียมสงบจิตเข้าสู่สมาธิตามปกติ พอท่านนั่งไปได้สักครู่จิตก็สงบ หลวงตาท่านว่า วันนั้นจิตเข้าสู่สมาธิไวกว่าปกติ พอเข้าสู่สมาธิได้สักครู่ก็เกิดเห็นนิมิตร เห็นพระครูอุปปาละ ท่านเดินเข้ามานั่งข้างๆหลวงตา แล้วก็บอกหลวงตาว่า จิตนิ่งจิตมั่นดีแล้ว แต่ท่านยังไม่ได้ใช้จิตพิจารณา ถ้านั่งอยู่แค่ขั้นนี้ท่านก็จะไปไม่ถึงไหน นั่งอย่างนี้ไปนานๆท่านจะติดอยู่กับญาณ ถ้าติดอยู่ในญาณแล้ว ก็หลุดพ้นไม่ได้

    แล้วพระครูท่านก็ว่าคราวนี้ท่านพิจารณาตามผมมา แล้วพระครูท่านเหนี่ยวนำจิตหลวงตาไปสู่นิมิตรอื่นๆ หลวงตาว่าปกติพอสงบ อย่างมากก็เห็นแค่ดอกบัว แต่คืนนั้น หลวงตาท่านเห็นทั้งพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นองค์เล็ก เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นยักษ์เปลี่ยนหน้าตาเป็นหน้ากลัว เปลี่ยนเป็นงูตัวใหญ่ มากมาย แล้วพอท่านเริ่มเกิดสงสัยพระครูท่านก็จะคอยบอก ให้ใช้จิตพิจารณาทุกครั้ง

    หลวงตาท่านว่าเหมือนนั่งไปแปปเดียว แต่พอพระครูท่านบอกให้ค่อยๆถอนสมาธิออกมา ไก่ขันกันเซ็งเซ่ เกือบเช้าเข้าไปแล้ว ท่านก็เลยเตรียมตัวออกบิณทบาตร หลังจากฉันท์เช้าเสร็จหลวงตาท่านก็เลยเดินเข้าไปในวัดในหมู่บ้าน
    พอเข้าเขตวัดก็เห็นท่านพระครูยืนกวาดลานวัดอยู่ พอหันมาเห็นหลวงตาท่านก็ยิ้ม แล้วกวักมือเรียก ท่านพาหลวงตาไปกุฏิท่านทางหลังวัด ไกลจากเสียงเอะอะ หลังจากจัดหาที่นั่งกันเรียบร้อย

    พระครูท่านก็เอ่ยถามหลวงตา "หลวงพี่บวชมากี่พรรษาแล้วละนี่" หลวงตาท่านก็บอก"เพิ่งได้พรรษากว่าๆครับหลวงพ่อ" พระครูได้ยินก็หัวเราะชอบใจ แล้วบอก เอ่อ กล้าดี บวชเรียนไม่ถึง5พรรษากล้าออกมาธุดงค์รูปเดียว แล้วท่านก็ถามต่อ แล้วนี่กะจะอยู่ครองผ้าเหลืองสักกี่พรรษาละหลวงพี่ หลวงตาท่านก็ว่า หากผ้าเหลืองไม่ร้อนก็ไม่สึกครับ พระครูท่านเลยว่า งั้นดูท่าหลวงพี่คงไม่ได้สึกแล้วละ(ไม่ได้สึกจริงๆ)

    พระครูท่านก็ถามหลวงตา เป็นยังไงเมื่อคืนเห็นนิมิตรมากมาย จิตวูปไหวตามภาพเหล่านั้นมั่งไหม หลวงตาก็บอก มีบ้างครับ ปกติผมเห็นแค่ดอกบัว แต่เมื่อคืนเห็นสารพัดอย่าง จิตตามไม่ค่อยจะทัน พระครูท่านก็ว่า ไม่ต้องไปตาม เราใช้แค่จิตเราพิจารณาไปก็พอ ให้รู้อารมณ์เราในขณะนั้นพอ ถ้าไม่หลงไปกับภาพนิมิตรเสียอย่าง จะเป็นรูปอะไรก็เหมือนกัน ทุกครั้งที่เห็นเป็นดอกบัว เพราะเราไปกำหนดให้มันเป็นดอกบัว หากเราไปกำหนดเราจะไม่สามารถใช้จิตพิจารณา เพราะจิตเราจะมั่นไปแล้วว่า มันต้องเป็นดอกบัว

    แล้วพระครูท่านก็บอกว่า จากนี้ท่านนั่งสมาธิเมื่อไหร่ พิจารณาอารมณ์ตนเองด้วยเสมอไป จะได้ตื่นอยู่เสมอ ให้รู้อารมณ์ตนตลอดว่า ตอนนี้อารมณ์ เป็นอย่างไร เปลี่ยนไปก็ต้องรู้ อารมณ์ก่อนหน้าเป็นอย่างไรก็ต้องรู้ แล้วหลวงตาก็ถามพระครูว่า หากรู้แล้วจะเป็นอย่างไร พระครูท่านก็บอก หากเรารู้อารมณ์เราก็สามารถรู้ได้ว่า อารมณ์ไหนพาเราเข้าสู่สมาธิไวที่สุด อารมณ์ไหนพาเราเข้าสมาธิได้ช้าสุด อารมณ์ไหนไม่สามารถพาเราเข้าสมาธิได้

    หลวงตาสนทนาอยู่กับพระครูจนเกือบเพล ก็กลับมาที่กลด ระหว่างทางก็เจอสาวน้อยหน้ามน(รึเปล่าหว่า?)เดินสวนมา พอผู้หญิงนั่นเห็นหลวงตาก็ยิ้มหวานให้ แต่หลวงตาท่านก็ประคองอารมณ์สำรวม แล้วเดินผ่านไป แต่ยัยนั่นจากเดินสวนไปอยู่ดีๆ หันขวับเลี้ยวกลับร้อยแปดสิบองศา ตามหลวงตามาดื้อๆ พอถึงกลด ยัยนั่นก็มานั่งบิดกระมิดกระเมี้ยน

    ถามหลวงตามาจากไหน มาถึงเมื่อไหร่ จะไปวันไหน(สอบปากคำเรอะ?) นั่งคุยอยู่ห่างๆอยู่ดีๆก็เริ่มกระแซะเข้ามาทีละนิด จนเกือบจะติดกลดหลวงตา แถมยังชอบเล่นหูเล่นตา พูดไปหัวเราะคิกคักไป นั่งคุยอยู่กะหลวงตาไปได้สักครู่ ผู้ใหญ่ก็พาขบวนชาวบ้านมากราบ เอาใบชามาถวาย ยัยนั่นเลยต้องถอยไป หลังงานศพ ดูท่าผู้ใหญ่จะศรัทธาหลวงตาขึ้นมาเยอะ เพราะหลวงตาบอกตลอดเวลาที่ปักกลดอยู่นั่น ผู้ใหญ่มากราบทุกวัน

    แค่ยัยนั่นก็มาทุกวันเหมือนกัน แถมมาทีก็นุ่งน้อยห่มน้อย ใส่น้ำหอมกลิ่นฟุ้ง แต่งหน้ามาซะอย่างกะจะไปประกวดดัชชี่เกริล น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อนฉันใด หลวงตาที่ตอนนั้นยังหนุ่ม ก็ต้องหวั่นไหวไปฉันนั้น คืนวันที่สี่รึห้าหลวงตาไม่แน่ใจ หลวงตาบอกนั่งสมาธิไม่ได้ จิตหวั่นไหว อารมณ์มันไม่สงบ
    พอเริ่มพิจารณาอารมณ์ หน้ายัยนั่นจะลอยขึ้นมา หลวงตาก็เลยพนมมือ แล้วอฐิษฐาน หากบุญท่านยังมีต่อพระพุทธศาสนา ขอให้เห็นทางพ้นอารมณ์นี้ไป

    พอเริ่มนั่งใหม่ เริ่มพิจารณาอารมณ์ ตอนหน้ายัยนั่นกำลังขึ้นมาท่านก็ได้ยินเสียงพระครู เรียกท่านออกมา พระครูท่านก็เหนี่ยวจิตหลวงตา พาไปที่ป่าช้าของหมู่บ้าน แล้วก็สอนหลวงตาปลงอสุภะ (เนื้อหายาวมากขออนุญาติข้ามไป)
    สอนอยู่ค่อนคืนก็นำจิตหลวงตามาส่ง พอเช้าหลวงตาออกบิณทบาตร ยัยนั่นก็ดักรออยู่หน้าบ้าน ใส่เสื้อคอกระเช้า(สายเดี่ยวยุคโบราณ) ตอนตักข้าวก็แกล้งก้มโชว์สุดฤทธิ

    หลวงตาท่านก็ต้องทำใจให้ปลง ประคองอารมณ์ไม่ให้หวั่นไหว พอกลับมาที่กลดสักครู่ ยัยนั่นก็ตามมาอีก หลวงตาเห็นจะไม่ได้การ หากอยู่นานไม่แคล้วคงต้องสึกเป็นเขยหมู่บ้านนี้เป็นแน่แท้ เลยออกจากกลดไปกราบลาพระครูที่วัด บอกจะถอนกลดแล้ว พระครูท่านยิ้มๆแล้วบอก มารนะที่ไหนก็มีประคองจิตให้มั่นอยู่ในสมาธิให้ดีเถิด แล้วท่านก็อวยพรขอให้หลวงตาปลอดภัย ขอให้การธุดงค์ครั้งนี้ สร้างพระที่ดีขึ้นมาอีกรูป

    แล้วหลวงตาก็ออกมาลาผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ดูท่าจะไม่อยากให้ท่านไป แต่หลวงตาท่านมุ่งมั่นจะเดินต่อ เลยกราบหลวงตาแล้วอนุโมทนากับหลวงตาไป พอถอนกลดกำลังจะออกเดิน ยัยหนูนั่นก็วิ่งออกมา บอกหลวงพี่จะไปไหน ไปไม่ลางี้เหรอ ไม่สงสารคนคิดถึงเลย แล้วก็ทำท่าจะร้องไห้ หลวงตาท่านก็ว่า อาตมาเป็นพระ จะประพฤติปฏิบัติตนอย่างชายฆราวาสไม่ได้ หากไม่สำรวมกายวาจาใจเสียแล้ว ไม่ใช่แค่อาตมา แต่พระพุทธศาสนาจะเสียชื่อ ถ้าเป็นอย่างนั้น ไม่รู้อาตมาจะตกไปนรกขุมไหน ขอโยมผู้หญิงโปรดเข้าใจ

    แต่ยัยนั่นไม่ยอม บอกบวชได้ก็สึกได้(ดูมันทำ) รึหลวงพี่รังเกียจหนู หลวงตาท่านก็ว่า อาตมาไม่รังเกียจญาติโยมไม่ว่าจะเป็นใคร แต่จะให้อาตมาไปมีสัมพันธ์อย่างชู้สาวอาตมาก็ทำไม่ได้ อาตมาบวชครั้งนี้ไม่เคยคิดสึก ขอโยมโปรดเข้าใจ แล้วร่วมอนุโมทนา แต่ยัยนั่นไม่ยอมท่าเดียว หลวงตาเลยเดินเข้าไป ในหมู่บ้าน ขอผู้ใหญ่ช่วยส่งคนไปส่งโดยบอกว่าไม่รู้ทางกลัวหลง ผู้ใหญ่เลยตามลูกบ้านสองสามคนแล้วตามมาส่งด้วยตัวเอง ยัยนั่นเลยไม่กล้าขวาง

    พ้นจากหมู่บ้านนี้แล้วต่อไปก็ไปเจอเปรตด่าพ่อด่าแม่ เดี๋ยวจะมาต่อครับ
     
  2. teelak

    teelak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +900
    อ่า...ปลงอสุภะข้ามไปซะงั้นครับ

    เผื่อจะได้เอาเทคนิคปลงสังขารไปใช้บ้างครับ

    อนุโมทนากับหลวงตาครับ

    พรรษากว่าๆก็ออกธุดงค์ล่ะ

    เคารพ นับถือ ท่านจริงๆครับ

    บุญน้อยไม่ได้เจอหลวงตา แต่ความดีท่าน ยังดีที่ได้เจอครับ


    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2009
  3. noum1976

    noum1976 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +1
    รออ่านต่อครับ
     
  4. mangsawe

    mangsawe สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +24
    หูยยยย เกือบไปแล้วเนอะ

    แหะ เด๋วเรื่องแบบนี้ ไม่ว่ายุคไหนๆก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ (มาสำนึกบาปด้วย อูยยยยย)
     
  5. kritpichan

    kritpichan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +14
    ขอขอบคุณที่ได้นำสาระ ความรู้ มาให้ได้ศึกษากันอย่างสม่ำเสมอนะครับ อนุโมทนา สาธุ
     
  6. ทิกเกอร์_ทิกเกอร์

    ทิกเกอร์_ทิกเกอร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +914
    เย้ๆ.. รออ่านตอนต่อไป...
     
  7. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
  8. sathu-sathu

    sathu-sathu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +443
    ขำ ฮ่าๆๆ ->> แต่ยัยนั่นไม่ยอม บอกบวชได้ก็สึกได้(ดูมันทำ)

    สาธุค่า... เกือบไปแล้วหลวงตา =_=
     

แชร์หน้านี้

Loading...