หลวงปู่ ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง ความประทับใจ และ วัตถุมงคล

อืม
ครับ
ขอบคุณครับ

 

ไปกราบตุ๊ลุงแล้วอย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

 

<table width="100%"> <tbody> <tr valign="top"> <td width="100%">มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
1. นั่งสมาธิ อย่างน้อยวันละ 15 นาที(หรือเดินจงกรมก็ได้)
อานิสงส์ --- เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้<wbr>นทั้งภพนี้และภพหน้า
เพื่อจิตใจที่สว่างผ่<wbr>อนปรนจากกิเล! ส ปล่อยวางได้ง่าย
&nbs p; จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอั<wbr>ตโนมัติ
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวั<wbr>นอับจน
ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
เจ้<wbr>ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่<wbr>วงลับจะได้บุญกุศล

2. สวดมนต์ ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวั<wbr>นละครั้งก่อนนอน
อานิสงส์ --- เพื! ่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้<wbr>า
เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว
แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา , พระคาถาชินบัญชร ,
พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น
เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุ<wbr>กครั้ง

3. ถวายยารักษาโรค ให้วัด , ออกเงินค่ารักษาให้<wbr>พระตามโรงพยาบาลสงฆ์
! อานิสงส์ - -- ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้<wbr>งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา
สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า
&nbs p; ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา

4. ทำบุญตักบาตร ทุกเช้า
อานิสงส์ ! ! --- ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภ??<wbr>นี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร
ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์

5.. ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆ เกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้<wbr>คนเป็นธรรมทาน
อานิสงส์ --- เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้<wbr>งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลา ภ ยศ
สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่<wbr>คาดฝัน

6. < B> สร้างพระถวายวัด
อานิสงส์ --- ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
! สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้ง! ปวง ครอบ ครัวเป็นสุข
ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุท ธศาสนาตลอดไป

7. แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์ หรือบวชพระอย่างน้อย 9 วันขึ้นไป
อานิสงส์ --- ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่
ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้<wbr>ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร
! ; สร้างปัจจัยไปสู่น ิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุ<wbr>ทธศาสนา
จิตเป็นกุศล

8. บริจาคเลือดหรือร่างกาย
อานิสงส์ --- ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ
ต่อไปจะมีผู้คอ ยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา
ไ้เกิดมาม! ีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง < BR>

9. ปล่อยปลา ที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสั<wbr>ตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ
อานิสงส์ --- ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต
ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้<wbr>ากรรมนายเวรท ี่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น
หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคื<wbr>นสภาพที่สดใส
เป็นอิ! สระ

10. ให้ทุนการศึกษา , บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรี<wbr>ยนต่างๆ , อาสาสอนหนังสือ
อานิสงส์ --- ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะ ฉลาดเฉลียวมีปัญญา
ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่<wbr>างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

11. ให้เงินขอทาน , ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่<wbr>การให้ยืม)
อานิสงส์ --- ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้<wbr>และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก
เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่<wbr>มีหนี้สิน ความยา กจนในชาตินี้จะทุเลาลง
จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่<wbr>คาดฝัน

12. รักษาศีล 5 หรือศีล 8 อานิสงส์ --- ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์<wbr>นรก
ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริ<wbr>ฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษ า
อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์

1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิ<wbr>ดขึ้น
3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเค ี ยดแค้นในใจลงได้
4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบี<wbr>ยนร่างกาย
5. มีอายุมั่นขวัญยืน
6. ได้รับการปกป้องคุ้<wbr>มครองจากเทพทั้งปวง
7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดี<wbr>งามเป็นสิริมงคล
8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู ่ อบายภูมิ
10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ
อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรู<wbr>ปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกั<wbr>บพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้
1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มี คนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่<wbr>ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็<wbr>จะเลิกจองเวรจองกรรม
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้<wbr>วคลาดจากภัย
5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุ<wbr>ศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็<wbr>นเ! นื้อนาบุ ญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที<wbr>่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้<wbr>าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้<wbr>อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ

อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์ ( บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ , อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร )
1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
4. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่<wbr>อๆไป
5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่??ชีวิต
7. เป็นที่รักที่เมตตามหานิ<wbr>ยมของมวลมนุษย์ม! วลสัตว์และเหล่าเทวดา
8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรั<wbr>กษาหาย
10. ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที<wbr>่สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติ<wbr>ดภาระกิจต่างๆ ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้<wbr>ได้ด้วยการสร้าง
คนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริ<wbr>มอาสา การให้คนได้บวช

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุ<wbr>ญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึ<wbr>งอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รั<wbr>บจงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับท่านไม่<wbr>สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่<wbr>าจะได้เกิด หากท่านไม่มีบุญมาหนุ<wbr>นนำแรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่<wbr>ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรกที่ไม่อาจสร้างบุญสร้<wbr>างกุศลได้ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุ<wbr>ทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญดังนั้<wbr>นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้<wbr>างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สิ<wbr>นที่ท่านจะนำติดตัวไปได้! ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้<wbr>วยเทอญ

*** ส่งต่อก็ได้บุญ การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้<wbr>งปวง </td></tr></tbody></table>

 

ผมเคยไปกราบท่านครับเมื่อหลายปีก่อน ท่านให้เหรียญรูปไข่ที่มีรอยไฟไหม้และพระผงขนาดเล็ก มีขนาดใหญ่กว่าเม็ดบัวเล็กน้อย มีรอยไหม้เหมือนกันครับ ไม่ทราบว่ารุ่นไหน แต่ที่ประทับใจมากสุดๆ คือท่านมีความเมตตามากๆๆๆๆๆ เสียดายช่วงหลังมานี่ไม่ค่อยไปขึ้นเหนือจึงไม่ค่อยมีโอกาสไปกราบท่านอีก ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฎิบัติชอบอีกองค์ของบ้านเราครับ ใครมีโอกาสไปกราบท่านนะครับ ท่านเป็นนาดีที่ควรทำบุญด้วยอย่างยิ่งครับ ขออนุโมทนา สาธุ ไว้ล่วงหน้าเลย

 

น่าจะเป็นเหรียญรุ่น 1 ที่โดนไฟไหม้ครับ

 

อยู่ไกลแต่ชื่นใจดีที่เห็นรูปท่าน

 

คุณอัสดงค์ครับ ผมขออนุญาตเซฟภาพหลวงปู่ไปนะครับ

 

ยินดีครับ ;aa44

 

คิดถึงตุ๊ลุงเหมือนกัน
เอาไว้ว่างๆจากธุระจะไปไหว้สาครับ

 

คิดถึงหลวงปู่ครับ...กลับบ้านคราวนี้จะไปกราบท่านให้หายคิดถึง....พระเถระที่งามเพียบพร้อม....ทั้งศีลและธรรมของศรีนครพิงค์อีกรูปหนึ่งทีเดียว

 

ใครได้ไปกราบท่าน แล้วไม่หวลคิดถึงท่าน คงแปลกน่าดู

ตั้งแต่ผมได้มีโอกาสกราบเท้าท่าน หลายต่อหลายครั้ง

ได้สัมผัสกับปฏิปทา ของ ลป.ท่าน


พอกลับมาอดหวลคิดไม่ได้ว่า เราต้องเย็นให้ได้สักเสี้ยวหนึ่งของท่านให้ได้


ท่านนิ่ง สงบมาก ๆ คงต้องหันมามองจิตใจตัวเราให้มากกว่าที่เคยเป็น


สาธุ สาธุ

 

นี่ก็อีกหนึ่งความเมตตาที่ท่านเสกประสาทพรหัวบรมครูปู่ฤๅษี ๑๐๘ ที่ครูบาอาจารย์มากกว่า ๑๐๘ รูปร่วมกันทำ

 

ต้องขอออกตัวก่อนนะคับว่าปกติเป็นผู้อ่านที่ดีส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้โพสและไม่ได้สมัครสมาชิกแต่ด้วยเรื่องที่ได้เจอกับตัววันนี้(13 มิย.)มันทำให้ผมต้องเขียนและยอมสมัครสมาชิกเว็ปพลังจิตแห่งนี้ เนื่องจากความปลาบปลื้มใจ ตอนแรกผมก็อ่านธรรมดามาเจอกระทู้ของครูบาจันทร์แก้ว ผมก็ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร อยู่ที่ไหน จนกระทั่งผมได้อ่านข้อมูลที่คุณอัสดงส์ได้นำเสนอตลอดจนเส้นทางไปวัด ประกอบกับคำบอกเล่าของพี่มากับพระ (ขอโทษที่กล่าวอ้างทั้ง 2 ท่านนะคับ) วันนี้พอจัดการภาระหน้าที่ที่ภาควิชาที่ผมเรียนแล้วก็เลยตัดสินใจเดินทางไปทันทีทั้งๆที่ไม่รู้ว่าทางไปวัดไปทางใดทราบเพียงว่าไปทางมหาวิทยาลัยนอร์ทเชียงใหม่ เลยขับมอเตอร์ไซค์ไปคนเดียวหลงทางเล็กน้อยต้องอาศัยถามทางจากชาวบ้านด้วยความเร่งรีบก็เลยขับรถเลยวัดนิดหน่อยดีที่สายตาว่องไวเลยเห็นป้ายวัด พอจัดการธุระส่วนตัวเข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จก็เดินเข้าไปที่กุฏิท่านครูบาจันทร์แก้ว ปรากฏว่าภายในกุฏิท่านมืดเพราะว่าเนื่องด้วยอากาศภายนอกมีครึ้มฟ้าครึ้มฝนประกอบกับไฟดับ ผมอดใจหายไม่ได้กลัวจะไม่ได้เจอหลวงปู่แต่ดีที่มีพระรีบออกมาบอกว่า ท่านสรงน้ำอยู่ ระหว่างนั่งรอท่านผมก็เดินดูรูปต่างๆที่ติดไว้ที่ผนัง ซัก 10 นาที สายตาผมก็เห็นพระท่านหนึ่งท่าทางใจดีเดินอย่างแข็งแรงค่อยๆผลักประตูเข้ามาในห้อง พลันผมก็รีบนำพวงมาลัยไปกราบท่านทันที ท่านถามว่ามาจากที่ไหน ชื่ออะไร มากี่ครั้งแล้ว เรียนที่ไหนและถามอีกหลายๆเรื่อง มากมายผมจำไม่หมดเพราะอารมณ์นั้นมันปลาบปลื้มใจ แล้วท่านก็เล่าว่าเมื่อวานพึ่งจะไปผ่าต้อกระจกตามาที่ตึกศรีพัฒน์(เป็นชื่อตึกที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่หรือสวนดอก)จากนั้นท่านพูดคุยเล่าเรื่องต่างๆมากมายทั้งเรื่องที่ท่านไปผ่าตาแล้วมีคนมาขอต้อหินที่ตาท่านไปบูชา เรื่องสมัยท่านเด็กๆการศึกษาของท่าน เรื่องคนที่มานิมนต์ท่านว่าต้องนิมนต์ท่านไปให้ได้ถ้าท่านไม่ไปเค้าเหล่านั้นจะยกท่าน ระหว่างท่านเล่าเรื่องท่านก็ยิ้มไปหัวเราะไป คำถามที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ "กินข้าวกับอะไรเมื่อกลางวัน" ถึงแม้มันจะเป็นคำถามที่ง่ายๆธรรมดาๆแต่มันทำให้ผมประทับใจยังงัยบอกไม่ถูก เชื่อหรือไม่ ระหว่างสนทนากับท่านนั้นผมไม่เคยที่จะหุบยิ้มแม้แต่ซักนิดเดียวและไม่เคยละสายตาจากหลวงปู่เลย มันเหมือนกับอารมณ์ที่เด็กเล็กๆนั่งฟังเรื่องอย่างเพลิดเพลินและความปลาบปลื้มใจอย่างยิ่งยวด จริงอย่างที่พี่อัสดงส์บอกจริงๆว่าท่าน"เป็นพระที่เย็นข้างนอกและข้างใน" สิ่งที่ผมสัมผัสมาด้วยมือ ผมขออนุญาตท่านจับขา แขน เท้า ท่าน(เพราะท่านนั่งบนเก้าอี้) ผมรู้สึกว่ามันเย็นจริงๆนะคับ เพราะผมลองจับท่านแล้วก็มาจับตัวผมเอง มันต่างจริงๆ ร่างกายท่านก็นุ่ม ท่านจะแทนตัวท่านว่า "ตุ๊ลุง" ทุกคำ ท่านยังเล่าเรื่องตลกเลยว่า
"ตอนท่านได้รับนิมนต์ไปที่ปทุมธานีท่านบอกว่ามีคนมาขอให้ท่านมีอายุเกิน 100 ได้มั้ย ท่านบอกว่า งั้นซัก 120 เลยดีมั้ย ปรากฎว่าคนผู้นี้เอาเลขไปเสี่ยงโชคแล้วปรากฎว่าถูกหลายแสนมาก ท่านก็บอกว่าท่านไม่ได้ใบ้ คงเป็นดวงของเค้าผู้นั้น" แต่ก่อนที่ท่านจะเล่าเรื่องนี้ผมก็ถามก่อนแล้วว่าท่านอายุเท่าไหร่ ท่านก็บอกว่า 94 ปี ผมเลยบอกว่า"งั้นขอเกินร้อยได้มั้ย" ท่านก็บอกว่า" เอาซัก 1xx เลยเนาะ อยู่เป็นร่มโพธิ์ก่อน" อย่าถามนะคับว่าเลขอะไร เพราะถามไปเฉยๆไม่ได้คิดอะไร เพราะถามด้วยอารมณ์ตอนนั้นเพราะอยากให้ท่านอยู่นานๆจริง ก่อนกลับท่านก็หยิบพระให้แล้วบอกว่า "พระนี้ตุ๊ลุงสร้างเอง มีเกศา ว่าน 108 โตยเน้อ" ผ้ายันต์ฝ่ามือท่านก็ให้ แล้วท่านก็เป่าก็เสกนานมาก ด้วยเวลาอันสมควรผมก็ลาท่านกลับเพราะมีโยมมาหา แต่แค่นี้ผมก็มีความประทับใจ ปลาบปลื้มมาก มันมากจนเกินคำบรรยายจริงๆ ผมไม่นึกเลยว่านอกจากหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนที่ผมนับถือแล้วยังมีตุ๊ลุงครูบาจันทร์แก้วรูปนี้อีกที่มีความชุ่มเย็นกายใจให้กับทุกผู้ทุกคนที่มาหาจริงๆ ใครมาเชียงใหม่หากมีโอกาสแวะมากราบท่านซักนิดแล้วท่านจะไม่ผิดหวังคับ ผมรับรองว่า หลังจากที่ท่านทั้งหลายกลับบ้านไปแล้ว ท่านจะต้องอดไม่ได้ที่จะต้องคิดถึงตุ๊ลุงรูปนี้แน่นอน (อย่าลืมนะคับมาเชียงใหม่แวะไปกราบทั้ง 2 ท่าน ครูบาดวงดีวัดบ้านฟ่อนและครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง คุ้มเกินคุ้ม) ผมต้องขอโทษที่เขียนมายืดยาวแต่มันประทับใจจริงๆนี่คับ

 

ผมขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ ผมอ่านไปยิ้มไปมีความสุขกับคุณอย่างบอกไม่ถูก แต่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของคุณได้ ก็คงเหมือนผมและใครอีกหลายๆคนได้สัมผัสมาคือ สงบและเย็น นั่นเอง ผมเองก็อยากให้หลวงปู่อยู่นานๆเหมือนกัน ทุกครั้งที่ไปเชียงใหม่ต้องไปกราบท่านเพราะกลัวไม่มีโอกาส ยังไงก็ขอให้ที่หลวงปู่พูดเป็นความจริงว่าจะอยู่เกิน 100 มีข่าวคราวอะไรก็มาเล่าสู่กันฟังนะครับ...

 

อ้าว! ผมก็นึกว่าพี่อัสดงส์อยู่เชียงใหม่ซะอีก แต่ยังงัยก็ขอบคุณพี่ที่นำเอาเรื่องราวของท่านตุ๊ลุงมาบอกกล่าวคับ ส่วนผมเองนั้นก็คาดว่าถ้าว่างจากภาระกิจการเรียนต้องไปประจำแน่นอนและจะพยายามติดตามข่าวสารต่างๆ มาบอกกล่าวคับ

 

เห็นด้วยจริงๆครับไปกราบท่านทุกครั้งประทับใจทุกครั้งไปนั่งคุยกับท่านครั้งละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงครับได้คุยกับท่านแล้วไม่อยากจะลุกไปไหนเลยครับ

 

ใช่แล้วคับพี่กิตติ เวลาสนทนากับท่านมันเพลินจริงๆ หันไปดูนาฬิกา อ้าว! ชั่วโมงเกือบ 2 ชั่วโมงเลยคับ ยิ้มตลอดเวลา วันอังคารตอนแรกก็ว่าจะไปทำบุญกับท่านอีก ว่าจะไปถวายอาหารเพล แต่เหมือนว่าท่านจะติดกิจนิมนต์ที่ อ.บ้านธิ ผมเองก็ลืมขอเบอร์ทางวัดไว้เผื่อสอบถาม เดี๋ยวไปครั้งหน้าจะจดตารางกิจนิมนต์มาดีกว่าคับจะได้ไม่พลาด

 

นำภาพของท่านที่แจกตอนงานวันเกิดปีที่ 90 มาฝากครับ

 

เบอร์ที่วัดครับ
เป็นเบอร์ของอีกกุฏิหนึ่งข้างกันถ้าจำไม่ผิดเป็นกุฏิของรองเจ้าอาวาส(ตุ๊จง)ครับ
053-832183
สอบถามได้ครับ