บุคคลที่แปลงเพศแล้วจะสามารถบวชได้หรือไม่คะ

บวชกาย แต่ไม่บวชใจ จะได้อะไรในการบวช

 

ธรรมขั้นสูง ใช้ปัญญาและ กำลังแห่งสมาถะกรรมฐาน ในการเข้าถึง ไม่ใช่ใช้เครื่องเพศ จึงเห็นธรรมของพุทธองค์ พระอยู่ที่ใจถือศิลครบ 227 ก็เป็นพระ อย่ายึดติด เมื่อ จิตเข้าสู่แก่นแห่งธรรม จิตไม่มีเพศแล้ว สู้ ๆๆๆๆ คับ

 

อนุโมทนาครับ มีคำตอบอยู่ครบแล้วครับ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับ

 

;aa8ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้เลยนะคะ เล่าให้ฟังหน่อย อยากรู้จริงๆค่ะ
หนูขอออกความคิดเห็นนะค่ะ ถ้าจะบอกพี่ว่า ให้เลิก คงไม่ได้เพราะมันอยู่ที่ใจ งั้นถ้าหนูจะบอกพี่ว่า ให้พี่ทำใจยอมรับความจริงละค่ะ :z12ความจริงมันทรมานใจแค่ไหน หนูซึ้งดี แต่ถ้าความจริง ที่ทำให้ชีวิตเราดี แรกๆอาจจะลำบาก ขัดขืน ขัดเคืองใจมาก(หนูเมื่อก่อน ทั้งดื้อ รั้นไม่ฟังใคร )ยังทำได้ พี่ทำได้อยู่แล้ว บอกตัวเอง ยอมรับความจริงๆ(ฉันต้องยอมรับความจริงให้ได้ แล้วถ้าอยากเป็นหญิงจริง ค่อยอธิฐานขอที่หลัง)แต่ตอนนี้ต้องตั้งใจ ว่าเราเป็นแบบนี้ ทำใจให้ได้ ปลงให้ตก อาจจะใช้เวลาสักหน่อย ถ้าทำได้ พี่จะบอกตัวเองว่า>>โขคดีแล้ว ที่ได้เกิดเป็นผู้ชาย ไม่น่าหลงเลย
สาธุๆ wel lcome_ถ้าหนูเขียนอะไรผิด ทำให้เคืองหนูขอโทษนะคะ
หนูหวังดี สิ่งที่บอกอาจจะยาก ก็ไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่หากตั้งใจจริง เชื่อเถอะนะคะ เหมือนหนูเลิกบุหรี่ (อาจจะไม่เหมือนนะ เพราะคงเลิกง่ายกว่า )สูบมา7ปี ไวนละซอง อยากเลิกไปหาหมอ(ค่ารักษาแพง ไม่เอา) แต่วันที่จะเลิกก็เลิกตัดเลย หักดิบ ทำให้รู้ว่าใจคนเรายิ่งใหญ่ที่สุด ถ้าจะทำซะอย่าง ทำได้อยู่แล้ว ยกเว้นจะเสียดาย อาลัย อยู่ในใจ จึงตัดไม่ได้ (ตอนนี้ก็เริ่มปลงได้หลายเรื่องแล้ว)พอทำได้แล้วถึงรู้ว่า ความสุขอะไรไม่เท่า ความสุขที่ชนะใจตัวเอง อยู่กับความจริงวันนี้และทำมันให้ดีที่สุดเพื่อจะเป็นอนาคตที่หวัง
สาธุๆ

 

http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538681744&Ntype=40

โอปักกะมิกะบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยที่เป็นโดยการถูกตอน เพื่อไม่ให้เกิดความกำหนัดยินดี อาทิ พวกขันทีในสมัยโบราณ (กะเทยจำพวกนี้ มิได้เป็นมาแต่กำเนิด)
ทั้งนี้ พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ และราชบัณฑิต) ได้อธิบายความหมายของคำว่า "บัณเฑาะก์" ไว้ในพจนานุกรรมเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสน์ ชุด "คำวัด" ไว้ว่า

บัณเฑาะว์ (บัน เดาะ) ได้แก่คน ๓ ประเภท คือ ๑.ชายผู้ประพฤตินอกรีตในทางเสพกาม (ผู้มีราคะจัด) ๒.ชายผู้ถูกตอน หรือ ขันที และ ๓.กระเทยโดยกำเนิด (ผู้ไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิง) บัณเฑาะก์ ในทางพุทธศาสนาถือว่า เป็นอภัพบุคคล คือ บุคคลผู้ไม่สมควรอุปสมบทเป็นภิกษุ ถูกห้ามบวช และห้ามพระอุปัชฌาย์บวชให้เด็ดขาด ถ้าพระอุปัชฌาย์ฝ่าฝืน ย่อมมีความผิด ถึงให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ ตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์
ที่มาหนังสือพิมพ์

 

หลังจากเวลาที่ผ่านไป ผนวกกับความรู้ที่ผ่านเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมกับความสาารถในการรับ ก็ทำให้ดิชั้นในเวลานี้ มีอารมณ์ที่ต่างไปจากเดิมนิดหน่อยค่ะ
ในตอนนั้นที่ตั้งกระทู้นี้ สืบเนื่องจากการศึกษาธรรมะจากหนังสือต่างๆ ได้กิดความเข้าใจระดับหนึ่ง ที่ว่า หากต้องการจะหลุดพ้นนั้น ในโลกขณะนี้ เป้นสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดอารณ์ขึ้นลง เหวี่ยงไปมามาก ยากที่จะฝึกจิตให้นิ่งได้
หากเป็นผู้มีภาวะจิตที่เข้มแข็งแล้ว จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมใด สิ่งแวดล้อมก็ไม่อาจสร้างผลกระทบให้ได้ แต่เราในตอนนี้นั้น ถูกสิ่งใดอะไรนิดหน่อยก็แกว่งไปได้ง่าย นี่เองที่ทำไมคนจึงควรบวช เพื่อพาตนเข้าสู่ภาวะที่เอื้อต่อการฝึกจิต ตัดกิเลสได้ง่าย ก็เลยอยากบวชค่ะ
และเพราะรุ้มาคร่าวๆว่าสภาพแบบเรานี้ไม่สามารถบวชได้ แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ ต้องการหลุดพ้น ไม่แน่เราอาจจะยังศึกษาไม่ละเอียดพอ อาจมีบางหนทางที่เป้นไปได้ที่เรายังไม่พบ จึงได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพื่อสอบถามผุ้รู้ค่ะ
ในตอนนี้ เท่าที่อ่านมา คำตอบก้น่าจะเป็น ไม่สามารถบวชได้จริงๆนั่นแหละค่ะ
แต่ไม่ใช่การยอมแพ้ ถอดใจ และล้มเลิกหรอกค่ะ
ต้องขอบคุณหนังสืออีกหลายเล่มที่ผ่านเข้ามาในช่วงหลายเดือนนี้ และกัลยาณมิตรต่างๆ ที่ทำให้ดิชั้นเกิดความเข้าใจที่ดีขึ้นค่ะ
หากมัวดึงดัน พยายามไขว่คว้าหาหนทางที่จะบวชอยู่นั่น สุดท้ายจะพาลทุกข์จากการยึดติด และถูกความผิดหวังเบนเป้าหมายไปเสียเปล่าๆ
เพราะเป้าหมายดิชั้นคือนิพพานค่ะ
กรุงเทพจะไปเชียงใหม่ อยากไปไวด้วยเครื่องบิน แต่เงินไม่พอ ก็มัวแต่เก็บเงินขึ้นเครื่องบินให้ได้ สุดท้ายในใจก้จะมีแต่เรื่องเครื่องบิน ลืมคิดถึงเชียงใหม่ไปซะงั้น ทั้งที่จะนั่งรถไฟ รึเดินไป ถึงจะช้า แต่ก้ยังได้ขยับไปในทิศเชียงใหม่แล้ว
ดังนั้นจากนี้ไป ดิชั้นจะทำในสิ่งที่ทำได้ค่ะ ขอยึดเอาทางสายกลางมาปฏิบัติ
ขอปักหมุดไว้ที่นิพพานเป็นพอ ใช้เส้นทางไหนเดี๋ยวบารมีก็นำพาไปเอง
ขอบคุณทุกท่านจากใจค่ะ