ประวัติ และการดูเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย

หลวงพ่อนกตัวจริงราคาแบบเต็มเขี้ยวอยู่ที่ 3หมื่นฝ่าเชียวนะครับ

เจ้าของเค้าตีราคา ล.พ.สาย แต่บอกว่าเป็น ล.พ.นก เพราะจะออกตัวง่ายกว่านั่นเอง

ไงเช็คว่าแท้ ช้อนซื้อได้เลยครับตัวจริง ล.พ.สาย ผมเห็นมา 4 ตัวเอง

พระเกจิที่สร้างเสือได้ต้องมีตบะบารมีที่สูงพอสมควร ไม่งั้นบ้าครับ

ได้ลูกศิษย์ใช้ก้อสุดยอดแล้ว

 

เดี๋ยวไปเอาตัวนี้ที่เจ้าของแล้วจะถ่ายใต้ฐานมาให้พี่ๆชมอีกทีครับ

 

ครับคุณตอเต่าครับ ขอชมหน่อยคร้าบบบ...
ว่าแต่พวกเราน่าจะลงรูปเขี้ยวหมูตัน ให้ศึกษากันด้วยเนอะ ข่าวมาว่าเขานำเขี้ยวลิงแอฟริกา มาหลอกขายว่าเป็นเขี้ยวหมูตันกัน จริงเท็จยังไงไม่รู้

ต่อไปพวกเราน่าจะวิเคราะห์ของทนสิทธิ์ในตัว คือเขี้ยวหมูตันกัน ใครมีวิธีดูเขี้ยวหมูกันไหมครับผม....มาเว้ากัน

 

เขี้ยวหมูตัน เคยมีคนโพสวิธีดูเเล้ว เเต่ผมจำไม่ได้ครับ
เสือพ่อปาน ที่เอาเขี้ยวหมูบ้านมาทำ ใต้ฐานจะ เป็นสามเหลี่ยมครับ

 

เพิ่งได้แพะมาใหม่ตัวหนึ่ง น่าจะเป็นของหลวงพ่อลัด ลูกศิษย์หลวงพ่ออ่ำ แต่เก่า น่าจะเป็นหลวงพ่อลัดยุคต้น มีจารด้วย ศิลป์แกะเป็นแบบแพะประยุกต์ ก็เลยจะพยายามศึกษาเรื่องแพะดูให้มากกว่านี้ แบบค่อยๆเติมเต็มไปเรื่อยๆ แบบไม่ค่อยรีบร้อน พี่น้องช่วยๆกันนะครับ...

 

ภาพแพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จ.ระยอง นำมาเพื่อเป็นวิทยาทาน จาก เว็ป thaprachan.com ร้านโย่งท่าพระ ขอขอบพระคุณทางเว็ป และทางร้านมากครับ






มีคำเล่าบอกเล่ากันต่อๆมาว่า หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน จ.สมุทรปราการ กับหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จ.ระยอง ท่านเป็นสหธรรมมิกทางธรรมกัน ทั้ง 2 รูปต่างเดินทางไปเรียนวิชากับหลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี ผู้เป็นบรมครูอาจารย์ โดยหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ได้สำเร็จวิชาการสร้างเสืออาคม พุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาด คงกระพัน ส่วนหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก สำเร็จวิชาการสร้างแพะมหาเสน่ห์ พุทธคุณนั้นเด่นด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เข้าหาผู้คนได้รับความเมตตา วิชาด้านมหาเสน่ห์ มหาเมตตานั้น เกจิอาจารย์รุ่นอดีตจะไม่ค่อยร่ำเรียนกัน หาพระที่สำเร็จยาก มาในยุคปัจจุบันวิชาด้านนี้ถือว่าเข้ากับยุคสมัยเลยทีเดียว เพราะต้องใช้ทำมาหากิน เข้าหาผู้คนค้าขายสิ่งของต่างๆ ให้คนรัก คนเมตตา เอ็นดู


แต่คำบอกเล่าอีกกระแสเล่าต่อๆกันมาว่า หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ท่านไปเรียนวิชาคู่กับหลวงพ่อวัดกระบกขึ้นผึ้ง ต่อมาหลวงพ่อวัดกระบกขึ้นผึ้ง มาสอนวิชาให้กับหลวงพ่ออ่ำ อีกทีหนึ่ง ประวัติเรื่องดังกล่าวนี้ยังดูเหมือนยังสับสนกันอยู่ ให้เราค้นคว้ากันต่อไป

พวกเราคงเคยได้ยินคำกล่าวโบราณว่า "หลวงพ่ออ่ำ แพะดัง" กันใช่ไหมครับ แพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นั้นดังจริงมานานมากแล้ว ของเทียมเลียนแบบมากเหลือเกิน มีการสร้างกันไม่มากนัก ที่กล่าวนี้ หมายถึง ตัวจริงเท่านั้นนะครับ แพะหลวงพ่ออ่ำนั้น มีทั้งที่แกะด้วยเขาควายฟ้าผ่าตาย เขาควายเผือก งาช้าง (มีน้อย) เหล่านี้มีทั้งฝีมือศิลป์มาตรฐาน และฝีมือช่างชาวบ้านทั่วไป ที่แกะเกลาขึ้นรูปกันเอง แล้วนำมาขอความเมตตาให้หลวงพ่ออ่ำ ประสิทธิ์ประสาทพลังพุทธานุภาพให้ เพื่อความเป็นศิริมงคลสุงสุดสำหรับผู้สรวมใส่ และแผ่ไปถึงบุคลในครอบครัวที่รักใคร่ด้วย

ศิลป์มาตรฐานแพะหลวงพ่ออ่ำนั้น นั้นแกะโดยคุณลุงพลับ ประดิษฐ์ศิริผล การแกะแพะของลุงพลับนั้นเซียนพระเครื่องรุ่นพ่อได้ถ่ายทอดประสบการณ์ไว้ว่า

ท่านจะใช้วิธีตัดเขาควาย หรืองาช้าง เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อนทุกครั้ง ดังนั้นแพะที่แกะโดยคุณลุงพลับนั้นจะมีความกว้าง ความยาวเท่ากันเสมอ เพราะแกะจากสี่เหลี่ยมจตุรัส และการแกะจะต้องแกะได้สัดส่วนลงตัว ดูสมส่วน สง่างาม เขาและหางชี้ขึ้น ผิวถ้าส่องดู จะแห้งจัด เห็นรอยขรุขะ รอยเสี้ยน และที่ขาดเสียไม่ได้ คือ รอยคมมีด เพราะสมัยก่อนใช้มีดแกะล้วนๆ ส่วนความฉ่ำใส หรือไม่ฉ่ำใสของเนื้อแพะแกะจะขึ้นกับการใช้ และลักษณะของเขาที่จะนำมาแกะ

คาถาในการอาราธนาแพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก ให้ตั้งนโม 3 จบ ว่าคาถาดังนี้

"อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง อิมัง คงคะพันธะนัง อธิษฐามิ"

และคาถาที่ใช้สรวมคอว่า "อากาเสจะปิปังกะโร" (คาถากันฟ้าผ่า)

แถมท้ายอีกนิดว่า สาเหตุที่ท่านต้องนำเอาเขาควายที่ถูกฟ้าผ่าตาย มาแกะเป็นรูปแพะ เพราะถือเคล็ดว่า ฟ้าจะไม่ผ่าลงที่เดิมครับ คนที่แขวนแพะนี้ จึงแคล้วคลาดจากฟ้าผ่าได้ชงัดนักแล

 

อยากได้มาเลี้ยงในรังค่าสินสอดนี่ยังแพงกว่าขอแม่อินู๋มาเลี้ยงอีกนะครับ

แถมกินจุ๊ บ่นจุกจิกอีก ฮาๆๆ

มีคนเคยเล่าว่า การที่ล.พ.อ่ำ เรียนทำเขี้ยวเสือไม่สำเร็จ ถือเป็นความโชคดีของนักสะสมที่ชอบเครื่องรางของขลัง เพราะว่าได้ เครื่องรางสุดยอดมหาเสน่ห์เพิ่มขึ้นมาประดับวงการอีกหนึ่งสำนัก

ถ้าท่านเรียนทำเขี้ยวเสือสำเร็จ คงหาเกจิที่ทำแพะได้เข้มขลังเท่าท่านคงไม่มีเป็นแน่



ศิลป์มาตราฐานนิยมแพะล.พ.อ่ำ เป็นการแกะของลุงผันครับ










ส่วนลูกศิษย์ที่สืบทอดวิชาทำแพะต่อลงมา ได้แก่

ล.พ.ลัด วัดหนองกระบอก ตัวนี้ยุคต้นศิลป์ใกล้เคียงกันมาก แต่พอแยกได้ครับ








และมาต่อด้วย เจเนเรชั่นที่3 นั่นคือแพะเขาควายแกะ ออกวัดมาบตอง ในปี พ.ศ.2533 ซึ่งได้รับการปลุกเสกจาก ศิษย์ที่สืบทอดวิชาแพะ เขาควายฟ้าผ่าตายแกะ สายหลวงพ่ออ่ำ ทั้งสิ้นอันได้แก่

๑ หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก
๒ หลวงพ่อเริ่ม ปรโม วัดจุกกระเฌอ (หลวงพ่อเริ่ม ท่านสร้างแพะ เช่นกัน แต่แพะของท่าน จะแบนๆ )
๓ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
เป็นอีก ๑ ทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ แพะสายวัดหนองกระบอก ที่ราคายังไม่แพงมาก ประมาณหลักพัน ต้นๆ ครับ





เอิ้อเฟื้อภาพ พี่หลง บ้านไผ่​

 

ครับคุณแอนตี้ ค่าบูชาตัวจริงแค่ตัวเดียว ก็จนไปหลายๆเดือนแล้ว แม่อีหนู๋รู้เข้า
หูยานแน่ครับ บ่นเป็นเดือนแน่

ภาพที่ลง และข้อมูลสุดยอดครับคุณแอนตี้ เชิญอีกครับ เชิญอีก ท่านอื่นด้วยครับ

 

ที่มาจากเว็ป taradpra.com ร้านคุณโก้ สุวรรรภูมิ ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ

 

ก็ขอแนะนำทางเลือกหนึงนะครับ กลับพี่ๆเพื่อนๆน้องๆที่สนใจจะเรื่มสะสมเครื่องรางแนว เขี้ยวงา เสือ สิงห์ ลิง หนุมาน ไม่ว่าเราจะเช่าหาในราคาเบาๆ หรือราคาแพง ควรเลือกเล่นศิลป์มาตฐานวงการ เอาไว้ก่อนเป็นอันดับแรก
ยิ่งมีราคาหลักหลายพัน-หมื่น ต้องพิจรณาให้รอบคอบยิ่งๆ

ยิ่งพบศิลป์ผิดเพี้ยน ศิลป์ประยุคต์ ศิลป์ที่ไม่เคยเห็น เนื้อเขี้ยวงาแปลกๆ
ก่อนเช่าหา ควรไตร่ตรองให้รอบครอบ เพราะเงินเราหามา ยังอยู่ในกระเป๋าเราสบายๆ ชั่งใจให้ดี เลี่ยงได้ควรเลี่ยงและมาศึกษาเพิ่มเติมครับ

คนขายพระ(บางคน) เนี่ยก็เป็นจุดพิจรณาจุดใหญ่เลยครับ555+ ไม่ว่าจะแก่ จะเด็ก ก็อย่าไปเชื่อมากเอาแบบกลั่นกรองแล้ว ได้รับฟังไว้ซัก20%ก็พอ 80ดูเอง

ก็เป็นแค่ประสพการณ์ของผมเพิ่งหัดเล่นเล็กๆน้อยๆนะครับ เห็นตอนนี้ปี2552เขี้ยวงายุคหลังๆเริ่มเก่าแล้วนะครับ เช่าหาควรดูอย่างยิ่ง เครื่องรางเล่นหาจบได้ครับสำหรับผม ถ้าของชิ้นนั้นแท้จริงๆ

ขอบพระคุณครับ

 

คุณนิลศิลป์ช้วยดูเขี้ยวเสือทีครับ ดีหรือไม่ไม่ต้องเกรงใจครับ ของไม่ได้เอาไปทำราคาที่ไหนครับ

 

สวยๆๆทั้งนั้นเลยนะครับ

 

คุณนิลศิลป์ครับผมเอาเสือไปที่กระทู้ของสะสม คุณแอนตี้ให้ผมมาหาคุณที่นี่ แล้วคุณจะไม่ช่วยดูหน่อยหรือครับ

 

พอดีชอบสายนี้อยู่เหมือนกัน มีเสือมาแบ่งกันชมครับ
ถึงยุคหลวงพ่อปาน หรือ เปล่า ก็กรุณาวิจารณ์กันครับ

 

ตัวนี้เป็นตัวที่ 2 ครับ เชิญวิจารณ์กันตามสะดวกครับ ....

 

คุณนิลศิลป์ช้วยดูเขี้ยวเสือทีครับ ดีหรือไม่ไม่ต้องเกรงใจครับ ของไม่ได้เอาไปทำราคาที่ไหนครับ

คุณ vptech- เขี้ยวเสือเต็มเขี้ยวตัวนี้ น่าจะเป็นเขี้ยวหมีมาแกะ ครับ เพราะเขี้ยวจะมีเส้นวิ่งวนรอบๆ ถ้าเขี้ยวเสือ จะไม่มีเส้นวิ่งวนรอบเขี้ยว เขี้ยวเสือถ้าเต็มเขี้ยวจะมีร่องเลือดให้เห็น ผมตีเขี้ยวนี้ว่าเป็นของหลวงพ่อนกนะครับโดยดูจากความเก่า เขี้ยวชิ้นนี้มีร่องรอยแตกอ้าของเขี้ยว ได้อายุ และมีความเก่าดูจากเนื้อเขี้ยวส่วนที่บิ่นออกไปชำรุดเกิดจากจากการพกพา ส่วนรอยจารจารได้คม ชัด ลึก สวยงาม ตามสูตรท่านเลยครับ


ภาพเขี้ยวเสือจริงๆ ของหลวงพ่อนกที่นำมาแกะ ไม่ใช่เขี้ยวหมี





ภาพ และข้อมูลจากคุณโจ้ นครพระ จากเว็ปกรุสยาม ขอบพระคุณมากครับ

เขี้ยวเสือ จารทั้งตัว ดูง่ายเขี้ยวเก่า สมบูรณ์มากครับ เป็นเขี้ยวที่ดูง่ายมาก ปัจจุบันพบเห็นเอาเขี้ยวหมีมาเล่นกันทั้งนั้น สุดยอดจริงๆครับเขี้ยวชิ้นนี้

 

ขอขอบคุณ คุณขอบพระคุณมากครับสำหรับข้อคิดที่สุดยอดครับผม ช่วยๆกันนะครับ

มาดูเขี้ยวเสือหลวงพ่อนก ที่แกะจากเขี้ยวหมีกัน สังเกตุเส้นวิ่งวนรอบเขี้ยว



จากเว็ป preciousthai.org จากศูนย์รวมพระเครื่อง พิเชษฐ์ โอท็อป ขอขอบพระคุณมากครับ เพื่อเป็นวิทยาทานครับ

 

ผมดูฟอร์มเสือของคุณ CC192 แล้วต้องยอมรับว่าเสือทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นเสือที่แกะมาจากเขี้ยวเสือทั้ง 2 ตัวครับ มาว่ากันต่อไปครับ

ฟอร์มเสือตัวแรก ตัวนี้น่าจะใช้สัมผัสน้อย เนื้อจึงออก เหลือง ขาว ดูจากศิลปะการแกะแล้ว ต้องยอมรับว่าจัดอยู่ในฟอร์มมาตรฐานของเสือหลวงพ่อปาน ครับ คือ เสือหน้าแมว หูหนู ตาลูกเต๋า ยันต์กอหญ้า

ตัวนี้แกะขาหน้าใหญ่ วางชิดกัน มีสโลบ กรงเล็บแกะอยู่ในลักษณะจิกลงพื้น ขาหลังอยู่ในลักษณะชันเข่า หางแกะม้วนขึ้นหลัง การแกะคม ชัด ลึก ตามฟอร์มเสือยุคหลวงพ่อปาน มีจารทั่วตัว บางส่วนสึกไปบ้าง ใต้ฐานมีรอยลานจารครบสูตร ยันต์กอหญ้า ฤ ฤา และอุ ซึ่งเสือหลวงพ่อปาน เท่าที่ผมเห็นผ่านตามาจะจารครบสูตรเช่นนี้ละครับ ติดอยู่นิดตรงแสงภาพที่ถ่าย จะดูเสือเหมือนใหม่ แสงจะจ้าๆ ยอมรับว่า ตอนแรก ดูยังคิดว่าจะไม่ถึงยุค เพราะตัวนี้รอยลานบนผิวเสือจะไม่เห็น แต่มีรอยแตกร้าวบนผิว แต่เสือเนื้อลักษณะนี้ก็มีเช่นกัน การสัมผัสสิ่งสกปรกมีไม่มาก เลยทำให้เนื้อไม่จัดมาก พอมาพิจารณาอีกทีจากฟอร์มมาตรฐานเสือยุคหลวงพ่อปานแล้ว จะคิดว่าไม่ถึงยุคคงไม่ได้ เลยต้องตรอง ถ้าให้ดีต้องส่ององค์จริงละครับ เพราะยังถ่ายมาไม่ครบทุกมุม เช่นด้านหน้า ด้านหลัง

ตัวต่อไปก็มีเวลาก่อนนะ ยังไงพี่น้องท่านอื่นพิจารณาร่วมด้วยได้นะครับ

 

เห็นต่างกันคงไม่ว่ากันนะครับพี่
เสือสองตัวนี้ยังไม่ใช่ หลวงพ่อปาน เพราะลายมือไม่ใช่ เเล้วก็เนื้อวาวๆ เเบบนี้ ก็ยังไม่ได้ครับ

ในเว๊ปยู หน้าประมูลเครื่องราง เก๊เนียนกว่านี้มากครับ เเต่ก็ยังไม่ได้อยู่ดี

เเค่ความคิดเห็นส่วนตัวครับ อยากให้เเท้เหมือนกันครับ เสือบางตัวลงในหนังสือเครื่องรางเก่าของ อ นิพัท พวกเซียนเสือรุ่นใหญ่เขาไม่เล่นก็มี เก็เกลื่อนกลาด เก๊มานานครับสำหรับเสือพ่อปาน

 

ได้ความรู้มากครับ