อยากเห็นเทวดา จบ

สวัสดีครับ เพื่อนๆและพี่น้องทุกคน

เผอิญมีคน PM เข้ามาเยอะเยอะมากมายเหลือเกินก็เลยอาจทำให้ตอบกลับไปล่าช้าบาง ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ แต่จะตอบกลับไปให้ทุกคนแน่นอนครับ ฟันธง!! มาเข้าเรื่องกันต่อเลยนะครับ

หลังจากทำพิธีอันเชิญ " เทวดา" มาถึงแล้ว ท่านก็ได้เมตตาอนุญาติให้พวกสอด เอ้ย! อยากรู้อยากเห็นเช่นพวกผมได้สอบถามเรื่องราวที่ข้องใจให้กระจ่าง พวกผม(พวกที่ทาตาเลยมองเห็น)ก็ตกลงว่าจะถามกันทีละคนโดยเรียงลำดับตามอาวุโส โดยให้พี่หมอถามก่อนเพราะตามคุณวุฒิและวัยวุฒิพี่หมอถือว่าสูงกว่าใครเพื่อน แต่ตอนนั้นผมคิดในใจ "ชิ!ท่าข้าไม่หงิงๆรบเร้าหลวงตาพวกเอ็งจะได้เห็นกันเรอะ" ท่าน"เทวดา"ก็หันมาทางผมเลย อ่อ เราเองเรอะตัวตั้งตัวตีอยากเห็นเทวดา เฮือก! ผมสะดุ้ง คิดในใจรู้ได้ไงอะ ท่านก็บอก ผู้มีญาณทิพสัมผัสจิตดูก็รู้แล้ว เป็นไงเห็นแล้วอยากเป็นมั่งไหมละเทวดา ผมก็ยิ้มแหะๆ แต่ไม่ตอบ

พอตกลงกันได้แล้วพี่หมอก็เริ่มเป็นคนแรก ท่านมีนามว่าอะไรครับ พี่หมอถาม "ภูริทัศ" ท่านตอบ ลงมาจากสวรรค์ชั้นไหนครับ พี่หมอถามต่อ ออกจากวิมานชั้น "นิมมานรดี" ลงมาตามเสียงเชิญของหลวงตา ตอนลงมาเห็นมีพวกชั้น
"ปรนิมมิตวสวัตดี" ทำท่าจะลงมาแต่ท่านขอเข้ามาแทนเพราะฟังเสียงหลวงตาท่านแล้วเกิดเลื่อมใสอยากลงไปกราบสักครั้ง จึงได้เข้ามา พอพี่หมอตั้งท่าจะถามต่อ คนที่ต่อคิวอยู่ก็สะกิดประมาณว่า "อย่าเบิ้ลดิพี่" พี่หมอเลยง้างปากค้างแล้วหุบไป ท่านก็ยิ้มๆแล้วก็ถามคนต่อไป เอ้ามีอะไรถามมา

เพื่อไม่ให้ยาวเกินไปจะเน้นที่คำถามและคำตอบไปเลยโดยไม่อารัมภบทนะครับ คนที่3(คนที่ถือบายสี) ถามว่าเหล่าเทวดาทั้งหลายที่ลงมาชุมนุมลงมาได้ทุกชั้นหรือไม่ ท่านก็ตอบหากเป็นพิธีชุมนุมที่กระทำโดยภิกษุที่มีอภิญญาสูงจะลงมาได้สูงสุดถึงชั้น "ยามา"(ชั้นไหนไม่รู้นะครับ) แต่ถ้าเป็นพิธีพุทธธาพิเสก ที่มีคนระดับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นเป็นผู้กระทำก็จะลงมาได้จนถึงชั้น "จาตุมหาราชิกา"

คนที่สี่ก็ถามต่อ ท่านเป็นเทวดาแล้วยังมีภรรยาได้รึไม่ครับ ท่านก็ตอบชั้นของท่านนั้นไม่มีคู่เป็นของตนเพราะเมื่อปราถนา ก็สามารถเนรมิตรได้เอง แล้วก็หายไป ทำไม? กลัวเป็นเทวดาแล้วมีเมียไม่ได้รึ ท่านย้อน บักนั่นเลยยิ้มแหะๆไปอีกคน คนที่ห้าก็ถามว่า ท่านกินอาหารเหมือนคนทั่วไปได้รึไม่ครับ แล้วพวกเครื่องเซ่นสรวงที่ถวายไปท่านได้รับไปแบบไหน ท่านก็ตอบปกติเทวดาไม่ควรรับเครื่องเซ่นสรวง เพราะมันเหมือนกับช่วยคนเพื่อหวังอามิสสินจ้าง แต่ก็มีเทวดาบางพวกที่ยังมีกิเลสแรงกล้า ก็รับ โดยคนถวายนั้นถวายสิ่งใด เทวดาก็รับมาได้ใน "รูป รส กลิ่น เสียง" นั่น ส่วนการกินนั่นท่านว่า ส่วนใหญ่เทวดาไม่กินก็อยู่ได้ แต่หากเกิดปราถธนาคราใดก็เนรมิตเอาได้ เช่นกัน

คนที่หก ก็ถามมั่ง บักนี่มันเล่นถามคำถามที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยเป็นคำถามที่ทำให้บรรดาเหล่าลูกศิษย์หรือแม้แต่หลวงตาอายแทบมุดแผ่นดินหนี
"หวยงวดนี้ออกเลขอะไรครับ" เย้ย! มันขอหวยเฉยเลย หลวงตาที่นั่งมองอยู่ถึงกับยืดตัวขึ้นทำตาโต ท่านก็ตอบแบบเมตตาว่า เรื่องให้หวยนี่แม้ทำได้แต่ไม่ทำเพราะไม่ใช่วิสัยของเทวดาที่จะมาทำให้ผู้คนงมงายกะอบายมุข พวกที่จะทำส่วนใหญ่จะอยู่ชั้นล่างสุด(ชั้นไรใครรู้บอกมั่ง) ไม่ก็พวกวิญญาณที่มีตบะสูง ทำเพื่อหวังเครื่องเซ่นไหว้แต่ไม่ช่วยให้ผู้คนเหล่านั้นพ้นทุกข์แต่อย่างใด บักนั่นเลยจ๋อยรับประทาน ถ้าอยู่ลำพังกะหลวงตาผมว่ามันโดนหลังลายไปและ

พอถึงตาผมท่านก็ถาม เอ้า อยากรู้อยากเห็นที่สุดไม่ใช่รึเรา รบเร้าพระระวังบาปนะ ท่านบอกยิ้มๆ แต่คนฟังยิ้มไม่ออกเสียวสันหลังวูบเลยครับ ผมก็บอกว่า ผมอยากเห็น วิมานของท่านครับ ท่านเลยเอามือมาปิดตา หอมจริงๆครับมือท่าน แถมยังเย็นๆเหมือนผ้าเย็นไม่มีผิด พอท่านปิดตาแล้วเปิดมือ โห ปราสาทสวยมาก มีดอกไม้มีลานน้ำพุ มีนกขาวๆ(ไม่รู้นกไร)ลอยอยู่ ปราสาทสีขาวเหมือนหินอ่อน แต่ประดับด้วยอัญมณีหลากสี สวยจนน้ำตาไหล มองไปด้านในเห็นมี แสงสว่าง แต่ไม่เห็นหลอดนีออน ลมพัดเย็นสบายไม่ต้องใช้ไซโจเดนกิ

ดูได้แค่นั้นท่านก็บอกเห็นแล้วนะ แล้วท่านก็เอามือมาปิดตาอีกที ก็เห็นประรำพิธี เหมือนเดิม ท่านว่าปกติแล้วคนที่จะเห็นได้ต้องฝึกจิต ปฏิบัติธรรมจนถึงขั้นหนึ่งถึงมีสิทธิเห็น แต่ผมบุญไม่ถึงกลับได้เห็น เพราะฉะนั้น เหมือนกับเอาเปรียบผู้ปฏิบัติ ต้องถือศิลปฏิบัติธรรมไปอีก7วัน ถือเป็นค่าดู เวง! ค่าดูไมแพงแท้

หลวงตาเห็นเวลาผ่านไปพอสมควรจึงบอกให้พวกผมพอแล้ว รบกวนท่านมาพอสมควรแล้ว แล้วก็อาราธนาศิล ให้ท่านภูมิทัศ ท่านนั่งไหว้จนสวดเสร็จ หลวงตาก็ สวดบทเชิญกลับ ท่านก็บอกกราบลาขอรับพระคุณท่าน ไว้มีโอกาสกระผมจะลงมากราบท่านใหม่ แล้วก็เดินออกประรำพิธีแล้วหายไป

เป็นอันว่า บักจาก็ต้องเข้ามาถือศิลในวัดอีก7วัน เป็นค่าดูปราสาทวิมานเทวดา แต่ดีหน่อยคราวนี้ไม่ต้องเข้าไปในป่าช้า แต่ก็ยังไม่วายโดนพวกที่ไม่ได้เห็นต่อว่า (โดยเฉพาะพี่หมอ) บอกผมขี้โกงเห็นคนเดียว พวกเขาก็อยากเห็นแต่ตอนนั้นไม่ทันนึกจนผมบอกถึงได้คิดได้ว่าน่าจะขอก่อน โสนะน่า 555

 

หลวงตาเย็น นี่ท่านเป็นลูกศิษย์ ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวงใช่ไหมครับ?

 

เอ่อ! ขอตอบอย่างภาคภูมิใจว่าไม่ทราบจริงๆครับ ประวัติของหลวงตานั้นถ้าจะหาคนรู้ลึกจริงๆก็ต้อง เป็นลูกศิษย์รุ่นแรกๆ แต่ตอนหลวงตา มรณภาพ มีคนจัดทำหนังสือให้ญาติโยมที่มาร่วมงาน น่าจะยังอยู่เดี๋ยวจะลองไปค้นๆดูแล้วจะมาพิมพ์ตอบครับ

 

ขออนุโมทนานะค่ะ
แล้วจะรออ่านประสบการณ์ของคุณพี่อีกนะค่ะ ชอบชอบ

 

รีบหาเวลล์ว่างๆ มาปั่นกะทู้นะคะ คนรอเพียบ ติดกันงอมแงม หุหุ

 

แล้วมาเล่าใหม่น่ะ

จะติดตามทุกๆตอนเลย

 

ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวที่ดี ๆ ของคุณ และเป็นโชคของคุณจริง ๆ นะคะ คุณมีโอกาสดีกว่าคนอื่น ๆ ที่จะสามารถฝึกให้เห็นได้เองนะเนี่ย

โมทนาสาธุค่ะ

 

มาเล่าเรื่องเทวดาอีกน่ะครับ;42

 

ดีจังเนาะ

ได้เห็นวิมานเทวดาด้วย

 

ติดตามทุกตอนเลยค่ะ..สนุกมากมาย

 

เล่าได้สนุกมากเลย อ่านไปก็หัวเราะไปคนเดียว เหมือนติงต๊องเลย ขอบคุณค่ะ

 

ชอบมากค่ะ สนุกด้วย น่าติดตาม มีอะไรดีๆมาเล่าให้ฟังอีกนะค่ะ

 

เจ๋งเนอะ รออ่านอยู่นะจ้ะ-cool day-

 

ดีคับ..เป็นแรงพลักดันให้ปฎิบัติคับ

 

ขอบคุณครับ

 

ทำบุญมาดีนะเนี่ย ดีค่ะได้เล่าประสพการณ์ให้ผู้อื่นได้รับรู้ จะได้มีกำลังใจในการปฏิบัติดีในทุกขณะจิตที่ยังมีชีวิตอยู่ อนุโมทนาด้วยค่ะ

 

ติดตามทุกผลงานค่ะ...

 

อ่านไปปนหัวเราะไปเป็นเรื่องที่สนุกมากค่ะ อนุโมทนาค่ะ

 

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับประสบการ์ณ

 

มีเรื่องอยากถามเทวดาหลายอย่างเลย แต่คงไม่มีบุญ

สนุกค่ะ เชื่อค่ะว่าสวรรค์ นรก มีจริง

แต่จะว่าไป ทำไมคุณจา ไม่อยากเห็น ชมทูต บ้างอ่ะคะ

เผื่อจะได้ให้ชมทูต พาชม นรก บ้าง ^^