การบำเพ็ญบารมีไม่ได้ยาวนานอย่างที่คิด

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pal_bh, 14 เมษายน 2009.

  1. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    การบำเพ็ญบารมี (ทำความดีอย่างยิ่งยวด) เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ใช้เวลาในสร้างสร้างสมความดีกันเป็นเวลานาน (กัป) อย่างต่ำแสนกับในระดับปกติสาวก (นับแต่ตั้งความปรารถนาจะทำความดีเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน ตั้งความปรารถนากับพระพุทธเจ้า หรือ พระอรหันตสาวก)

    หรือ สร้างสมความดียิ่งๆ ขึ้นไปในระดับอัครสาวก พุทธบิดา พุทธมารดา อสีติมหาสาวก

    หรือสร้างคุณความดียิ่งๆขึ้นไปอีก ในระดับความเป็นพุทธเจ้า ก็ใชเวลาอย่างน้อย ๒๐ อสงไขย ขึ้นไป (นับแต่ตั้งความปรารถนา)
     
  2. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    ในระดับปกติสาวก แสนกัป ก็ดูจะยาวนานมากเหลือเกิน เมื่อเทียบกับเวลาร้อยปีบนโลกมนุษย์นี้

    แต่เมื่อเทียบกับกับกาลเวลาของเทวดา พรหม อรูปพรหมแล้ว เวลาการบำเพ็ญบารมีแค่ ๑๐๐,๐๐๐ กัป มันช่างไม่ได้ยาวนานเลยย...

    เวลาบนโลกมนุษย์แค่ชั่วอายุคน ๑๐๐ ปี มีแค่ ๒ วัน ๒ คืน บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    เวลาบนโลกมนุษย์แค่ชั่วอายุคน ๑๐๐ ปี มี ๔ ชั่วโมง หรือ ๑ ใน ๖ วันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นดุสิต
     
  3. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    ...แล้วยิ่งถ้าเทียบเวลาอายุของพรหมโลกแล้ว เวลาแค่แสนกัป มันชั่งนิดหน่อยเหลือเกิน...

    การเกิดในแต่ละอัตภาพนั้น มันดูยาวนาน เหมือนความฝัน ในคืนหนึ่งๆ ที่เรานอนฝันไปเรื่องหนึ่งๆ แค่ไม่กี่ชั่วโมง มันก็ดูเนิ่นนานเหลือเกิน

    การเกิดในอัตภาพต่างๆ ก็แบบเดียวกัน มันดูนานๆๆ (เหมือนความฝัน) แต่ที่จริงก็ไม่ได้เนิ่นนานอะไรเลยยย... (เหมือนระยะเวลาในการฝัน)

    แล้วยิ่งถ้าบุคคลผู้มีบารมีอันสั่งสมมาดีแล้ว การสั่งสมบารมี ไม่จำเป็นต้องบำเพ็ญที่ละชาติ ที่ละอัตภาพ ที่ละการเกิดเลย

    ..บุคคลผู้มีบารมีอันสั่งสมมาดีแล้ว สามารถบำเพ็ญบารมีได้หลายอัตภาพ ได้หลายๆๆชาติ ได้หลายๆๆการเกิด ในเวลา ในขณะเดียวกัน..

    ...ฉะนั้นการสร้างสมบารมี สร้างสมคุณความดี ไม่ได้ยาวนานอย่างที่คิดเลย..

    มันจะยาวนานสำหรับบุคคลที่คิดว่า ชาติหนึ่งต่ออีกชาติหนึ่ง อัตภาพหนึ่งต่ออีกอัตภาพหนึ่ง....

    ขอเป็นกำลังใจให้กับบุคคลผู้จะนำตนและบุคคลอื่นข้ามห้วงน้ำ คือโอฆะ สู่ฝั่ง คือพระนิพพาน
     
  4. ปัญญาธรรม

    ปัญญาธรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +25
    ข้าพเจ้าเคยกราบถามพระอริยะองค์หนึ่ง
    เกี่ยวกับการสร้างสมบารมี
    ไม่ว่าจะปราถนาพุทธภูมิ อัครสาวกหรือสาวกภูมิ
    ได้รับคำตอบว่า...
    การสร้างบารมีนั้นจะนับเฉพาะที่ลงมาสร้างในโลกมนุษย์
    จะไม่นับเวลาที่ตกนรกหรือเสวยสุขในสวรรค์หรือในชั้นพรหม
    เช่น..สร้างบารมีในโลกมาเท่าไหร่ก็นับสะสมไปเรื่อย
    ตามระยะที่สร้าง...
    ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานเหลือเกินตามพระพุทธวัจนะ
    โดยเฉพาะการสร้างบารมีในแนวทางของพุทธภูมิด้วยแล้ว
    เหมือนกับเดินท่ามกลางขวากหนามเลยทีเดียว
    ผู้ที่ปราถนามีเป็นแสนเป็นล้าน...
    แต่ผู้ที่ฝ่าเข้าไปจนสุดท้ายนั้นมีน้อยเหลือเกิน
     
  5. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    พรหมนารท ทรงได้อัตภาพเป็นพระพรหม ได้ทรงบำเพ็ญอุเบกขาบารมี
    พญานาคราชภูริทัต ได้อัตภาพกำเนิดเดรัจฉานอันเป็นทิพย์ ทรงบำเพ็ญศีลบารมี ในขณะเดียวกันก็ทรงบำเพ็ญเนกขัมมบารมีด้วย ทานบารมีด้วย สัจจบารมีด้วย..
    .
    .
    และอัตภาพอื่นๆๆ อีกมากมาย
    .
    .
    การทำความดีไม่ได้เลือกอัตภาพ สัตวดิรัจฉานที่พระองค์ทรงให้กำเนิด ก็ทรงทำความดีได้ดียิ่งกว่า ได้อัตภาพเป็นมนุษย์ก็มีมาก
    ถึงจะเป็นกำเนิดเดรัจฉาน ก็ยังทำความดีได้บ้าง
    .
    .
    ส่วนในนรก ทำความดีได้ยาก เพราะเป็นที่เสวยวิบากกรรมชั่ว ไม่มีเวลาคิดเรื่องบุญ จะทำความดีได้แต่ที่ไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2009
  6. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    ระยะเวลาไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับคนดีเลย ไม่ว่าจะยาวนานแค่ไหน คนดีย่อมทำความได้ง่าย สร้างสมบุญบารมีได้ง่าย ไม่ว่าจะได้อัตภาพใดๆ เกิดในฐานะใด หยาบ หรือละเอียด ทรามหรือประณีต มั่งมี หรือว่ายากจน กษัตริย์ พรหม แพทย์ ศูทร คนเทยากเยื้อเชื้อฝอย ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ก็มีโอกาสทำความดีได้เท่าๆ กัน เพียงแต่ว่า จะทำหรือเปล่า ?

    เวลาในการสร้างความดี บำเพ็ญบารมี มันจะรู้สึกยาก รู้สึกว่ายาวนาน เพราะทำความดีได้ยาก สร้างบารมีมันทำได้ยาก

    ไม่สงสัยเลยว่า...
    ความดี อันคนดี ทำได้โดยง่าย
    ความดี อันคนชั่ว ทำได้โดยยาก

    ความชั่ว อันคนชั่ว ทำได้โดยง่าย
    ความชั่ว อันคนดี ทำได้โดยยาก

    ฉะนั้น คุณความดีสามารถกระทำได้ทุกอัตภาพที่เราเกิด ทำได้ทุกขณะจิต
    ระยะเวลาในการหลุดพ้นไม่ได้เนิ่นนานอย่างที่คิด ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
    เพราะเหตุว่า ความดี อันคนดีทำได้ โดยง่าย

     
  7. ปัญญาธรรม

    ปัญญาธรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +25
    ข้าพเจ้าไม่เคยแย้งในพระพุทธวัจนะ
    ความดี อันคนดี ทำได้โดยง่าย
    ความดี อันคนชั่ว ทำได้โดยยาก

    นี้แม้แต่นิดเดียว
    แต่ข้าพเจ้าขอเพิ่มเติมบางส่วน
    โดยเฉพาะการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์
    หรืออัครสาวก
    พระโมคคัลลานะเองเมื่อครั้งสร้างบารมีอยู่
    ก็เคยพลาดท่าให้กับมารด้วยกระทำต่อบุพการี
    ถึงกับไปตกนรกอยู่นาน
    พระโพธิสัตว์หลายๆท่านก็พลาดไปตกนรกก็เยอะ
    ความดี อันคนดี ทำได้โดยง่าย
    ความดี อันคนชั่ว ทำได้โดยยาก

    การสร้างบารมีเป็นความดีที่ยิ่งๆขึ้นไป
    มิใช่ใครๆจะกระทำได้โดยง่าย
    ยกตัวอย่าง การตัดศีรษะถวายพระพุทธเจ้า
    ของเหล่าหน่อพุทธางกูรทั้งหลาย
    จะต้องผ่านด่านตรงนี้ไปทั้งสิ้น
    ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปใครจะทำได้
    การสร้างบารมีจะต้องกระทำตามกำลังของตน
    สะสมเพิ่มบารมีเรื่อยๆขึ้นไป
    ดังคำกล่าวที่ว่า...
    ไม่มีบุญแล้วก็ไม่มีโอกาสจะได้ทำบุญ
    แต่ผู้ที่มีบุญมีบารมีก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
    ยกตัวอย่าง..การรักษาศีล๕
    ทุกๆคนรู้..แต่รักษาได้กี่คน
    ไม่ใช่ของง่ายที่ทุกคนจะทำได้
    ต้องมีบุญมีบารมีมาบ้างแล้ว
    มิต้องพูดถึงการปฏิบัติสมาธิภาวนา
    ที่ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เพราะเคยถามพระโพธิสัตว์บางท่าน
    ถึงความยากลำบากในการปฏิบัติ
    แต่ละพระองค์ยังไม่เคยเห็นปฏิบัติได้โดยง่าย
    บางองค์แทบจะเอาชีวิตเข้าแลก
    แต่ที่ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้..มิได้หมายความว่า
    มองเห็นสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคหรือท้อแท้ก็หาไม่
    หากแต่มองให้เป็นพลังในการปฏิบัติ
    ในการก้าวขึ้นๆไป
    เพราะการจะล่วงพ้นจากอำนาจบ่วงของมารนั้น
    มิใช่ของง่ายเลย..
    แม้กระทั่งพระพุทธองค์ก่อนจะตรัสรู้
    ก็ถูกมารคอยจ้องจะเล่นงานอยู่ตลอดเวลา
    ประสาอะไรกับพวกเรา..

     
  8. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    <center>คุณปัญญาธรรม ครับ กรุณา อ่าน (ตอนแรกว่าจะไม่ตอบกระทู้ที่คุณโพสแล้วนะ
    แต่พอคุณมาตอบกระทู้ที่สองอีก เห็นชักจะเลยเถิดไปกันใหญ่)

    คัดลอกมาจากพระไตรปิฎก
    หวังว่าคุณคงจะอ่านและเข้าใจความหมายนะครับ ให้สมกับอุตส่าห์ตั้งชื่อ
    ปัญญาธรม

    ค่อยๆอ่านให้เข้าใจนะครับ

    พระมหาชนก
    ทรงบำเพ็ญวิริยบารมี
    </center> [๔๔๒] ใครนี่ เมื่อมองไม่เห็นฝั่ง ก็ยังกระทำความเพียรว่ายอยู่ในท่ามกลางมหา-
    สมุทร ท่านรู้อำนาจประโยชน์อะไร จึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้นัก.
    [๔๔๓] ดูกรเทวดา เราพิจารณาเห็นวัตรของโลกและอานิสงส์แห่งความพยายาม
    เพราะฉะนั้น ถึงจะไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ในท่ามกลาง
    มหาสมุทร.
    [๔๔๔] ฝั่งมหาสมุทรอันลึกประมาณไม่ได้ ย่อมไม่ปรากฏ ความพยายามอย่าง
    ลูกผู้ชายของท่านย่อมเปล่าประโยชน์ ท่านยังไม่ทันจะถึงฝั่งก็จักต้องตาย
    เป็นแน่.
    [๔๔๕] บุคคลผู้กระทำความเพียรอยู่ แม้จะตาย ก็ชื่อว่าไม่เป็นหนี้ คือ ไม่ถูก
    ติเตียนในระหว่างหมู่ญาติ เทวดาและพรหมทั้งหลาย อนึ่ง บุคคลเมื่อ
    กระทำกิจของบุรุษอยู่ ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง.
    [๔๔๖] การงานอันใดยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม การงานอันนั้นก็ไร้ผล มี
    ความลำบากเกิดขึ้น ความปรากฏแก่บุคคลผู้กระทำความพยายามในอัน
    มิใช่ฐานะใด จะมีประโยชน์อะไรด้วยความพยายามในอันมิใช่ฐานะนั้น.
    [๔๔๗] ดูกรเทวดา ผู้ใดรู้แจ้งว่า การงานนี้ยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายามแล้ว
    ไม่ป้องกันอันตราย ชื่อว่าไม่พึงรักษาชีวิตของตน ถ้าผู้นั้นพึงละความ
    เพียรในฐานะเช่นนั้นเสีย ก็จะพึงรู้ผลแห่งความเกียจคร้านนั้น
    ดูกร
    เทวดา คนบางพวกในโลกนี้ เห็นอยู่ซึ่งผลแห่งความประสงค์ จึง
    ประกอบการงานทั้งหลาย การงานเหล่านั้นจะสำเร็จก็ตาม ไม่สำเร็จก็ตาม
    ดูกรเทวดา
    ท่านย่อมเห็นผลแห่งการงานอันประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ
    คนอื่นๆ พากันจมลงในมหาสมุทร เราคนเดียวเท่านั้นพยายามว่ายข้ามอยู่
    และได้เห็นท่านมาสถิตอยู่ใกล้เรา
    เรานั้นจักพยายามตามสติกำลังจักทำ
    ความเพียรที่บุรุษพึงกระทำ ไปให้ถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร.

    ผมกำลังจะบอกว่า ข้อความที่คุณโพสอยู่นั้น รู้ไหมว่าคุณกำลังเป็นมารผจญอย่างมาก เพราะคุณกำลังโพสข้อความขัดขวาง การกระทำความดีอันยิ่งใหญ่ สำหรับผู้ที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า รู้ไหมว่าบาปมหันต์แค่ไหน

    การที่เขาจะทำความเพียร สำเร็จหรือ ไม่อันนี้ อยู่ที่บารมี หรือ กำลังของเขาเอง แต่การที่คุณโพส เช่นนี้ คุณนั่นแหละ จะได้รับผลของกรรม

    ส่วนเหตุผลว่าทำไม การโพสกระทู้แบบนี้ แล้ว บาป คุณลองกลับไปหากระทู้ที่ผมตั้งนะครับ ผมได้อธิบายไว้เรียบร้อยแล้ว หัวข้อ
    "เหตุผลที่ไม่ควรปรามาสการปรารถนาพุทธภูมิ"

    ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็อย่าคิดว่าผู้อื่นจะทำไม่ได้เหมือนคุณ
    ถ้าหากไม่มีการเริ่มหนึ่ง คุณก็ไม่มีวันไปถึงล้าน เพราะติดอยู่กับศูนย์

     
  9. pal_bh

    pal_bh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +132
    เหตุของการตั้งกระทู้ (เวลาการบำเพ็ญบารมีนั้นไม่ได้ยาวนานอย่างที่คิด) นี้ ก็เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ที่เห็นทุกข์ในโลก ๓ แล้วพยายามสู้กับความอยาก สู้กับกิเลสในใจตัวเอง แก่ผู้ที่สู้แล้ว พยายามแล้ว ท้อแท้ ท้อถอย ในการสร้างความดี

    แน่นอนว่า "คนที่ตั้งความปรารถนา เมื่อกำลังใจอ่อน ยังไม่เห็นผลใดๆ ของความดีที่ตนเองกระทำทั้งหมด ย่อมหมดแรง ย่อมท้อแท้ ย่อมเหนื่อยหน่าย"

    ผมคิดว่า "ทุกท่านคงมีความรู้สึกนี้" เมื่อเหนื่อยล้าแล้ว ย่อมมีความคิดว่า "เวลาของความหลุดพ้น เวลาของความปรารถนาของเรา เมื่อไรมันจะสำเร็จสักที มันช่างนานเหลือเกิน รอไม่ไหวแล้ว" (ถ้าคิดแบบนี้เสร็จมาร)

    อย่าว่าแต่ ๑๐๐ ปีเลย ถ้าใจอ่อนล้าแล้ว ถึงมีคนบอกว่านั่งสมาธิต่ออีก ๑๐ ปี ถึงจะบรรลุ คิดว่าใจคงไม่เอาแล้ว

    ไม่แปลกเลย...ว่า...

    ราตรี (ค่ำคืน) ของคนตื่นอยู่ นาน
    โยชน์ (ระยะทาง) ของคนล้าแล้ว ไกล
    สังสารจักรของบุคคล ผู้ไม่รู้อยู่ซึ่งสัทธธรรม ย่อมนาน


    ที่ว่านานนั้น (เวลาในการสร้างบารมี) มันเป็นความคิดของคนที่ล้าแล้ว

    อย่าเหนื่อยล้าในการทำความดีนะครับ จงเหนื่อยล้ากับการทำความชั่ว


    "ขอเป็นกำลังให้กับทุกๆท่านที่เห็นภัยในวัฏฏะ แล้วปรารภความเพียร"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2009
  10. โปฐิละ

    โปฐิละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +365
    ตอนนี้ล้าเต็มที่มาร ได้ล้อมหน้าล้อมหลังตัดช่องลม และเสบียง แต่ช่างเถิดเราเห็นความสงบแล้ว ล้าเมื่อใด หากพักใจนิ่งที่ความสงบก็จะได้สู้ต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...