พุทธภูมิทั้งหลาย ท่านอยู่ไหน ช่วยด้วยเถิด ผมขออาราธนา

ผมขอน้อมเคารพ เหล่าพุทธภูมิทุกท่านที่ตั้งใจกระทำ บำเพ็ญกุศล เพื่อผลแห่งโพธิญาณ ในการสงเคราะห์เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายในเบื้องหน้า ด้วยกำลังใจ และน้ำใจอันไม่มีประมาณ
ท่านทั้งหลาย พวกท่านเป็นผู้ยอมสละความสบาย ยอมละทิ้งเรื่องส่วนตัว เพราะประโยชน์ของสรรพสัตว์
บัดนี้พระพุทธศาสนาอันเป็นที่เคารพยิ่งของเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง อันมีองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ประกาศพระศาสนาและเริ่มต้นหมุนธรรมจักรให้ดำเนินไป ด้วยการสั่งสอนพระธรรม อริยสัจ 4 และแนวทางเพื่อการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ในวัฏฏะสงสารนี้ แก่เหล่าเวไนยสัตว์ และมีพุทธบุตร หน่อเนื้อเชื้อไขแห่งองค์พระบรมศาสดา คือ พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายที่ได้ช่วยศึกษา หลักธรรมคำสั่งสอนแห่งองค์สมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และกระทำตนให้เกิดทั้ง ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ ผู้เป็นเนื้อนาบุญแห่งชาวโลกและภพภูมิ อีกทั้งเหล่าพุทธศาสนิกชน อุบาสก อุบาสิกา ทายก ทายิกา ช่วยกันประคับ ประคองพระพุทธศาสนาให้อยู่ไปได้ จวบจน 5000 ปี ดังพุทธพยากรณ์
แต่กาลปัจจุบัน พระพุทธศาสนา ถูกสั่นคลอน โดนกระทำการอุบาท ย่ำยีพระพุทธศาสนา แห่งชาวเรา อันร้ายแรงที่สุด ด้วยชนบางหมู่มิได้ปฏิบัติ และกระทำความเข้าใจในพระพุทธศาสนา อย่างถ่องแท้ เบียดเบียนความจริง เผยแพร่พระธรรม ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เอาความคิดที่เป็นส่วนตัว หรือจากการปฏิบัติที่ละซึ่งอุปาทานมิได้ มาบอกต่อ แก่หมู่ชน พยายามแสดงความคิดเห็น อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ในความคิดของตนเอง อันเป็นการกระทำที่ทำให้พระพุทธศาสนา เสื่อมสูญได้ง่ายที่สุด
ดังที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ ว่าพระพุทธศาสนาของพระองค์ เกิดความเสื่อมได้เพราะภายในเสื่อมเป็นสำคัญ คือพุทธบริษัท ขาดารศึกษา และปฏิบัติ อย่างถ่องแท้ และก่อเกิดพระสัทธรรมปฏิรูป พระธรรมมิได้เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น แต่เป็นไปเพื่อกิเลส ตัณหา เพื่อทิฏฐิของตน
แม้ว่าพระพุทธพจน์แห่งองค์สมเด็จพระจอมไตร จะเป็นหนึ่ง ไม่เป็นสอง คือตรัสสิ่งใด ย่อมเป็นเช่นนั้น พระพุทธศาสนา ย่อมอยู่ได้ถึง 5000 ปี เป็นแน่แท้ แต่การนั้น จะขาดเสียซึ่ง ชนทั้งหลาย คือเหล่าพุทธบริษัท ก็หามิได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุคคลที่จะยอมละความสุข ส่วนตน ประโยชน์ ส่วนตน เพื่อรักษาไว้ซึ่งความเจริญแห่งพระพุทธศาสนา สืบไปโดยลำดับ บุคคลเหล่านี้ มองเห็นไปก็มิมีใครจะมีกำลังไปกว่า เหล่าพุทธภูมิ ผู้รักษาพระศาสนา สืบมาแต่ครั้งอดีตกาล แม้ครั้งพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ก็ตาม
พวกท่านเห็นหรือไม่ว่า พระพุทธศาสนา โดนย่ำยีไปเพียงใด ใครต่อใครพากันสรรเสริญในมิจฉาทิฎฐิของตน แต่จะใช้ธรรมวิจย พินิจพิจารณา ในการปฏิบัติของตนเองก็หามิได้ พากันประกาศ บรรยาย เอากิเลสมาอวดดีกัน แล้วพระธรรมของพระองค์สมเด็จพระพิชิตมาร จะดำรงคงอยู่ไปดีได้อย่างไร แล้วชนทั้งหลายที่เข้ามาศึกษาพระศาสนา จะหาทางหลุดพ้น ไปก็หามิได้ แต่กลับถูกบ่วงมารคล้องคอเอาไว้ แม้ได้ทิพยสมบัติ อันปราณีตในสวรรค์ แต่มิอาจได้แล้วซึ่งอริยสมบัติ อริยมรรค วนเวียนตายเวียนเกิด เพราะถูกคำสอน ที่เหล่าผู้ย่ำยีพระศาสนากระทำเอาไว้ พากันห่างเหิน ซึ่งพระธรรม อันเป็นของแท้จริง
พระธรรมนั่นย่อมแท้จริง เปลี่ยนแปลงไป ก็หามิได้ แต่คำสั่งสอนของผู้ไม่รู้ทั้งหลายที่ประกาศสอนแก่สรรพสัตว์นั้น ไม่อาจจะสมบูรณ์ได้เหมือนของพระพุทธองค์แล้วผู้ไม่รู้ก็พากันดำเนินไปตามทางนั้น ก็ย่อมมิอาจลิ้มรสแล้วซึ่งอริยผลอันโอชารสได้เลย ดังนั้น พระพุทธศาสนา ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้อย่างแท้จริง
ท่านเอย พุทธภูมิทั้งเหล่า เหล่าหน่อเนื้อเชื้อโพธิญาณ ท่านย่อมเป็นผู้ไม่นิ่งเฉย ขออาราธนา ให้ท่านออกมาเถิด กระกำการนี้เพื่อเป็นพุทธบูชา เพื่อเป็นธรรมบูชา เพื่อเป็นสังฆบูชา ออกมารักษา พระพุทธศาสนา ให้ดำรงคงอยู่ไป ได้ดีที่สุด ตามกำลังความสามารถของท่าน
ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะออกมารับคำอาราธนา และรักษาพระพุทธศาสนา สืบไป

ปล* ข้าพเจ้าขอออกตัวก่อนว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่คนดี มีชาติตระกูลสูง
แต่ข้าพเจ้าน้อมรักษาศีล เป็นนิจ เคารพแล้วซึ่งพระรัตนตรัยอันประเสริฐ ผู้บูชาแล้วซึ่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ข้าพเจ้ามิได้มีธรรมอันปราณีตเกิดแก่ตัวข้าพเจ้า มิได้มีบุญ บารมี อย่างยิ่งใหญ่ แต่มีใจแล้วซึ่งรักษาพระพุทธศาสนา หากแต่ไม่สามารถทำได้เท่าท่านทั้งหลาย

 

ก่อนจะช่วยผู้ใด ควรสร้างร่มเงาแห่งความร่มเย็นแก่ตนก่อน

หากตนยังไร้ความสงบ และจะมอบความสงบแก่สรรพสัตว์ได้อย่างไร

 

จร้าไม่ต้องห่วงจร้าเหล่าพระโพธิสัตว์ยอมไม่ยอมให้พระพุทธะศาสนาสูญไปจากกมลสันดานของตนและโลกจนหมดหลอกจ๊ะ ใจเย็นๆจ๊ะ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของสัตว์โลกแล้วเราก็นำมาพิจราณาให้เห็นแท้ว่าไม่มีอะไรที่จะคงอยู่ได้ตลอดกาลมีเกิดก็ต้องมีดับมันเป็นสัจจะธรรมมีเกิดได้ก็ต้องมีไม่เกิดได้เช่นกัน ขอให้ใจเย็นพระพุทธศาสนาต้องอยู่ครบ 5000 ปีตามพุทธะพยากรณ์เอาไว้แต่ไม่สูญนะจะมีคนที่เข้าใจและนับถือบูชาน้อยลงจร้า ไม่เชื่อเรามาลองดูกันอย่าพึ่งตายนะ คริๆๆ

 

ถ้าเป็นไปตามพุทธทำนาย ไม่เกิน10ปี คงมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รักษาศีลให้ดีละกันนะครับ แล้วท่านจะได้เห็นยุคที่พระพุทธศาสนากลับมารุ่งเรื่องอีกครับ

 

เพียงมีใจคิดจะปกป้องพระพุทธศาสนาก็ถือเป็นบุญใหญ่แล้ว ขอเพียงไม่หลงเดินทางผิไปจากธรรม ท่านก็จะเป็นผู้หนึ่งซึ่งช่วยให้พระพุทธศาสนาเดินไปจนครบกาลแน่นอน

 

แม้แต่ในตอนที่ พระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ ในสมัยของท่าน ก็ยังมีเดียรถีร์ พวกมิจฉาทิฎฐิอยู่มาก แล้ว นับประสาอะไร กับ ในสมัยนี้ ย่อมมีความเสื่อมเป็นธรรมดาครับ เป็นสัจธรรม ว่าทุกสิ่งตั้งอยู่ในความไม่แน่นอนครับ

ขอเพียงแต่ให้ มีผู้เข้าใจแจ่มแจ้งในคำสอนของพระองค์ แม้เพียงหยิบมือ ก็ยังให้ศาสนาอยู่ได้จนถึง 5000 ปีแน่นอน ดีกว่ามี ผู้ที่เข้าใจศาสนาแต่วาจา นับร้อยนับล้านคนครับ เพราะฉะนั้น ไม่มีประโยชน์อันใด ที่จะสั่งสอนคนพวกนี้ ด้วยกรรมของ พวกเขาเหล่านั้น หนักเกินที่จะมีดวงตาเห็นธรรมได้ในชาตินี้ จึงติดด้วย มิจฉาทิฎฐิ และ โมหะ

(แม้แต่สมัยพระพุทธเจ้า ทุกคืน พระองค์ยังต้องตรวจ ดู บุคคลที่สามารถสั่งสอนได้ก่อนจะไปบิณฑบาต ในช่วงรุ่งสาง นั่นเป็นเพราะ ไม่ใช่ทุกคนที่เจอพระพุทธเจ้า แล้วจะมีดวงตาเห็นธรรม อยู่ที่กรรมของพวกเขาเหล่านั้นด้วยครับ)

ในช่วงสมัยใกล้ 5000 ปีก่อนพุทธศาสนาจะสูญสิ้น จริงๆ ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีคนนับถือศาสนาพุทธหรอกครับ เพียงแต่ คนนับถือ ยังมี แต่ เป็นศาสนาพุทธที่ถูกกลายจนเป็น มิจฉาศาสนา ไปครับ

เช่น ในสมัยนั้น ภิกษุสามารถมีภรรยาได้ นอนกับผู้หญิงได้ การห่มผ้าเหลือง อาจจะเหลือ แค่ ปลายจีวร เหน็บไว้ ที่ติ่งหู เป็นเครื่องแสดงสัญลักษณ์ของภิกษุเท่านั้น

เหตุการณ์ ในช่วง ปี 5000 เป็นเช่นไร ให้ลองไปดู ประวัติศาสตร์ พุทธศาสนาในอินเดีย ดูครับ จะเป็นเช่นเดียวกันนั้นแล

ปล.อย่าว่าแต่ สาวกภูมิ เลยครับ แม้แต่พุทธภูมิเอง ก็ยัง ติดในมิจฉาทิฎฐิ อยู่มาก ยังหลงอยู่กับ กระพี้ อยู่ ช่างน่าเสียดาย ยิ่งนัก

 

สาธุ

หลายคนที่หลง หลงเพราะรู้ว่าตัวเป็นพุทธภูมิ บ้างก็ว่าตัวอุปบารมีขั้นปลายแล้วสอนผู้อื่นในทางที่ผิด

หลงแล้วที่น่าสงสารที่สุดไม่ใช่ผู้อื่น แต่เป็นตัวเอง....

 

ท่านเอย พุทธภูมิทั้งเหล่า เหล่าหน่อเนื้อเชื้อโพธิญาณ ท่านย่อมเป็นผู้ไม่นิ่งเฉย ขออาราธนา ให้ท่านออกมาเถิด กระกำการนี้เพื่อเป็นพุทธบูชา เพื่อเป็นธรรมบูชา เพื่อเป็นสังฆบูชา ออกมารักษา พระพุทธศาสนา ให้ดำรงคงอยู่ไป ได้ดีที่สุด ตามกำลังความสามารถของท่าน
ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะออกมารับคำอาราธนา และรักษาพระพุทธศาสนา สืบไป

สาธุ สาธุ

 

ท่านเอย พุทธภูมิทั้งเหล่า เหล่าหน่อเนื้อเชื้อโพธิญาณ ท่านย่อมเป็นผู้ไม่นิ่งเฉย ขออาราธนา ให้ท่านออกมาเถิด กระกำการนี้เพื่อเป็นพุทธบูชา เพื่อเป็นธรรมบูชา เพื่อเป็นสังฆบูชา ออกมารักษา พระพุทธศาสนา ให้ดำรงคงอยู่ไป ได้ดีที่สุด ตามกำลังความสามารถของท่าน
ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะออกมารับคำอาราธนา และรักษาพระพุทธศาสนา สืบไป

สาธุ สาธุ

 

สนับสนุนบทความนี้

 

จงรักษา กำลังใจ นี้ไว้ นะ จ๊ะ

 

ไม่มีอะไรใหญ่เกิน"กรรม"โปรแกรมนี้จะจัดการเองและให้ผลเองในวัฏสงสาร อย่าเพิ่งวิตกเกินไป

พระพุทธศาสนา ไม่สิ้น ไม่สูญ แน่นอน

 

การกลับใจคนที่เห็นผิดให้กลับมาเห็นชอบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยจังหวะเวลาที่เหมาะสมจึงจะได้ผล พระพุทธศาสนามีคนเลวแฝงตัวแต่พระดีก็มีอยู่มาก การรักษาพุทธศาสนา หากอยู่ในฐานะฆารวาสคือต้องสนับสนุนคนดี พระดี (อันนี้ต้องอาศัยปัญญา) ดูว่าท่านสอนถูกสอนตรงหรือไม่ แม้บางท่านไม่บรรลุอะไร แต่หากอยู่ในพระธรรมวินัย ได้รับทรัพย์บริจาคมาแล้วไม่สะสม สร้างประโยชน์ส่วนรวมก็นับว่าน่านับถือมาก ควรสนับสนุน ... ส่วนพระเลว ก็ไม่ต้องสนับสนุน ไม่ต้องใส่ใจบำรุง ไม่ต้องใส่บาตร ไม่ต้องทำบุญ ปล่อยให้อดตาย ให้อยู่ในพุทธศาสนาแล้วแห้งแล้งตายไปเอง การรักษาพุทธศาสนาไม่จำเป็นต้องทำร้ายคนชั่ว แต่ควรสนับสนุนคนดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ควรปกป้องรักษาคนดี ใช้น้ำดีไล่น้ำเสียออกไปจากพระพุทธศานา
ทุกคนต้องช่วยกันนะครับ เวลาจะทำบุญ จะเป็นลูกศิษย์ใครองค์ไหน ขอให้พิจารณา
1. ท่านเคารพพระธรรมวินัยหรือไม่
2. ท่านพยายามปฏิบัติสมาธิภาวนาตามกำลังความสามารถหรือไม่
3. ท่านไม่เห็นแก่เงินทองความสุขส่วนตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เสียสละเพื่อส่วนรวมหรือไม่
4. พระดีไม่จำเป็นต้องได้คุณสมบัติทางจิตพิเศษ เช่น วิชชาสาม หรืออภิญญา แต่อยู่ที่ความสะอาดของจิต

พุทธศาสนาไม่ต้องการคนรู้มากสักเท่าไร แต่ต้องการคนรู้จริงมากกว่า แต่ถ้ารู้จริงและรู้มากด้วยก็ยิ่งดี
ในฐานะคนที่นับถือพุทธศาสนา ควรศึกษาให้รู้จริงตามกำลังความสามารถ พยายามสร้างบารมีให้เต็มที่ เพราะการจะบรรลุทางจิตได้ต้องอาศัยบารมีหรือความดีที่สะสมอยู่ในจิต หากบารมียังต่ำหรือสะสมกำลังจิตน้อยจะทำใจให้ปลดทุกข์ เข้าใจบรรลุธรรมได้ยากมาก (อันนี้เรื่องจริงนะครับ) และการทำบุญบารมีให้ดี ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องทำกับพระดี หากหลงสนับสนุนพระชั่ว ผลชั่วเพียงใดที่ท่านเหล่านั้นทำขึ้นย่อมเกี่ยวพันถึงเราด้วย อาจทำให้เป็นมิจฉาทิฐิ หลงกับสิ่งที่ไม่ใช่ของจริงอีกนาน เสียเวลาเปล่าๆ นะครับ

 

พระศาสนา

พระพุทธศาสนาต้องอยู่ครบ 5000 ปี อย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย ท่านเจ้าของกระทู้เรารู้สึกดีใจที่อย่างน้อยยังมีท่านคนหนึ่งที่รักในพระศาสนาของพระศาสดาศรีศากยะมุนี ส่วนตัวของเราเองเราจะทำหน้าที่รักษาไว้ซึ่งพระศาสนาอย่างเต็มความสามารถและด้วยชีวิตของเราไม่ให้เสื่อมไปจากโลกนี้ก่อน 5000 ปีอย่างแน่นอน
ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วย

 

นั่นๆ นั้นไง ท่านนายเม...มาตอบกระทู้เป็นคนแรก แสดงว่าจะรับอารธนาเป็นคนแรกเลยใช่ป่าวครับ เหอๆ ยัดเยียดหน้าที่ให้เห็นๆเลย เห็นมั้ยท่านเม ฮ่่าฮาฮ้า...

รออีกไม่นานหรอกครับท่านเจ้าของกระทู้ พระโพธิสัตว์ที่จะมายังพระศาสนาให้งาม รออีกสักพักนึงก่อนนะครับ ได้ยินข่าวว่า ท่านได้มโนฤทธิ์+วาจาฤทธิ์สมบรูณ์แล้ว เหลือแต่ กายฤทธิ์ที่ยังไม่สมบูรณ์ (ทำเป็นสูรู้เน๊าะเรา อิอิอิ) ถึงแม้ไม่มีใครนิมนต์ท่านผู้นี้ อย่างไงเสียก็จะต้องมาทำหน้าที่นี้อยู่ดี วางใจได้ครับ

 

ความรู้ บารมี และพลังวัตร ของข้าน้อย มีประมาณ ดังธุลีฝุ่นหนึ่ง ข้าน้อย มิบังอาจ รับหน้าที่นี้หรอก ท่านอาวุโส vera_p ขอเป็นแค่ตัวเสริมก็พอ (ตัวประกอบค่าตัววันละร้อย ก็เอา555+)

เป็นแค่กลไกหรือฟันเฟืองเล็กๆหนึ่งที่คอยหมุนขับเคลื่อนส่งผ่านความรู้ ความคิด เล็กๆน้อยๆเพื่อส่งให้ ลูกหลาน ภายหลัง สักผู้หนึ่ง จักบรรลุ หรือ ตั้งปณิธานอยากเผยแพร่ธรรมอันประเสริฐ ของศาสนาพุทธ ให้สืบทอด สืบต่อและดำรงอยู่ จนครบเวลาที่เหมาะสม อันที่พระพุทธองค์ได้พยากรณ์ไว้ ว่า 5000 ปี นั้นแล

เสียงหรือข้อความแม้มันเล็กเพียงไหน หากมุ่งมั่นว่าจะชัดเจนตลอดไปในหน้าที่ของมัน สักวัน ทั้งเวลาในปัจจุบันหรืออนาคตไกลอย่างไร ก็ย่อมมีผู้รู้เห็น ทั้งคือตัวเราและบัญชีของพญายมราชผู้ยิ่งใหญ่

ขอบคุณท่าน vera_p ที่บอกข่าวดี อย่างยิ่ง
แต่ข่าวดียังไง ก็ต้องมาพร้อมข่าวร้าย (นิดๆ) ในเรื่องของภัยพิบัติใหญ่ตามกฏแห่งกรรมใหญ่ๆ ก่อนพระองค์จะมาโปรด

 

ฮ่าๆๆ...แต่ละคนลงมาย่อมมีหน้าที่เฉพาะตัวโดยเฉพาะแผ่นดินของพระมหาโพธิสัตว์ภูมิพลอดุลยเดช ไม่ใช่แค่รักษาพระศาสนาแต่บางท่านอาจต้องเสียสละแม้ชีวิตเพื่อรักษาดินแดนแห่งนี้ให้สืบต่อไป ทุกท่านล้วนมีหน้าที่ หนักเบาย่อมต่างกัน...แต่บางท่านอาจลงมาลา อย่างไรก็ตามระลึกให้ได้ว่าแต่ละท่านชาตินี้โดนถีบลงมาทำหน้าที่อะไร แผ่นดินไทยไม่สงบ พระพุทธศาสนาก็ไม่อาจรุ่งเรืองเต็มที่ วาระของเราเองในกาลนี้ก็เพื่อความสงบแห่งมหาชนชาวสยาม แม้มือจะเปื้อนเลือดอีกครั้งก็ถือว่าคุ้มค่า..งจบกิจแล้วจะบำรุงรักษาพระพุทธศาสนาต่อไป...เอ้า...ท่านทั้งหลายลงมาทำอะไรกันรู้ตัวรู้หน้าที่หรือยังเล่า...หืม

 

ยินดีด้วยครับ พุทธภูมิทั้งหลาย เอ๋แต่ผมนี่ ไม่รู้ปราถนาอะไร แต่ผมเห็นศาลพระภูมิ แล้วชอบมาก ๆ ครับ หรือผมอาจะปราถนา เป็นศาลพระภูมิก็ได้น่ะ
เอาฮาๆ ครับสบาย ๆ ครับผม ใครปราถนาอะไร ขอให้ทำสำเร็จครับ
แต่ผมปราถนา ศาลพระภูมิครับ

 

ก่อนอื่นก็ขออนุโมทนาต่อความปรารถนาดีต่อพระศาสนานะครับ แต่
ความจริงแล้ว ผมว่าคุณจะอาราธนาหรือไม่ก็ตาม เขาเหล่านั้นก็ทำหน้าที่ของตนอยู่ ไม่ว่า ผู้ที่จะปรารถนาพุทธภูมิ หรือสาวกภูมิ ก็ย่อมทำหน้าที่ตน ที่มีต่อพระศาสนา ตามภาวะของตัวเอง บุคคลที่เป็นบัวใต้น้ำ ย่อมมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย จะให้ใครไปเค้นคอใคร บังคับใคร คงทำไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ คือ พยายามสอน แนะ ให้แก่ผู้ที่สอนได้ กรรมย่อมจำแนกสัตว์ออกไป ใครกินคนนั้นอิ่ม ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม สักวันหนึ่ง สิ่งที่ทำไว้ย่อมส่งผลเอง สำหรับคุณ ตอนนี้ถ้าจะช่วยศาสนา ก็จะทำได้อย่างยิ่ง ด้วยการปฎิบัติ ในสิ่งอันควรปฎิบัติ ให้ดีที่สุด

 

ผมว่า ท่าน จขกท อาราธนา ผิดที่ผิดทาง..ผิดคน

จะรักษาพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคตมท่านควรอาราธนา..เหล่าพระอริยะบุคคลทั้งหลาย..จึงจะถูก

พุทธภูมิท่านมีวาระหน้าที่คือการสังสมบุญบารมีเพื่อความเป็นพุทธเจ้าของท่าน..ยังไม่ตัดใจเข้าสู่..การรู้ธรรม..อันมีอริยะสัจสี่..เป็นต้น..ไม่เป็นแม้พระอริยะเจ้าเบื้องต้น คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี..แล้วอย่างนี้..จะมารักษาธรรม..อันที่ตนยังไม่เข้าถึง..ได้อย่างไร?

ผู้รู้ธรรมเห็นธรรมนั้นแล..จึงจักได้ชื่อว่าเป็นผู้รักษาธรรมนั้น..อย่างแท้จริง..

เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลาย รีบตัดสินใจเข้าถึงธรรมนั้นโดยเร็ว..แม้จะลำบากสักเพียงไร..จะได้ชื่อว่า..เป็นผู้สืบพระศาสนา..เป็นผู้ได้รักษาธรรมนั้นแล้วแก่ลูกหลาน..ของพุทธศาสนิกชน..

จะไม่ดีกว่าหรือ..