การฝึกพลังจักรวาลและการรักษาความเป็นหนุ่มเป็นสาว สมุนไพรที่จะใช้ในยุคปัจจุบัน

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ดูท่านอยู่นะครับ, 2 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ก็พอมีครับ สอบถามเพื่อนชาวอินเดีย เขาบอกว่ามี ครับ แต่เข้าไปค่อนข้างยากมากครับ นอกจากปกคลุมไปด้วยหิมะแล้วอยู่ลึกเกินกว่าที่คนไม่มีความมุ่งมั่นจะเดินทางไปครับ
    เพื่อนเขาบอกว่า คนส่วนมากไม่ค่อยได้ไป พวกเขาจะคอยอาจารย์ที่ออกมาจากวิหารแห่งนั้น ประมาณ 3-4 ปี จะออกมาทีครับ เมื่อออกมา ท่านจะอยู่บนภูเขาสูง คนที่จะไปหาก็ต้อง ปีนเขาขึ้นไป เพื่อไปรับพลัง และฟังธรรมะจากอาจารย์ครับ
     
  2. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ครับยังมีอีก 3 ท่าครับ
     
  3. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    กระบวนท่าที่ 4

    ครั้งแรกที่ผมลองหัดทำท่านี้ รู้สึกว่าท่านี้ยากมาก แต่หลังจากที่ได้หัดไปสักหนึ่งอาทิตย์แล้ว มันก็กลายเป็นท่าที่ง่ายเหมือนท่าอื่นๆก่อนหน้านี้
    ก่อนอื่นนั่งลงกับพื้นเหยีอดขาทั้งสองข้างออกไปตรงๆข้างหน้า ให้ปลายขาทั้งสองห่างกันราวๆ หนึ่งฟุต โดยที่ลำตังตั้งตรง วางฝ่ามือทั้งสองข้างบนพื้นข้างสะโพก เก็บคางไว้แนบอก จากนั้นงอศีรษะกลับไปทางด้านหลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    ในขณะเดียวกันยกลำตัวขึ้นให้ขนานกับพื้น โดยงอเข่าตั้งฉากกับพื้นแขนสองข้างตรง ตั้งฉากกับพื้นเช่นกันและเกร็งกร้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย ก่อนที่จะผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนเมื่อกลับมาอยู่ในท่านั่งตอนต้น แล้วนอนพักก่อนที่จะทำกระบวนท่านี้ซ้ำอีก อาทิตย์แรกไม่ควรเกิน 3 ครั้งต่อวันครับ
    หายใจเข้าลึกๆขณะที่ยกลำตัวขึ้นขนานกับพื้น กักลงหายใจเอาไว้ ขณะที่เกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วน จากนั้นค่อยผ่อนลมหายใจออกให้หมดขณะหย่อนตัวลงนั่งตามเดิม

    [​IMG]

    ความแตกต่างระหว่างความเป็นหนุ่มเป็นสาวแข็งแรงกับความแก่เฒ่าขี้โรคนั้นอยู่ที่อัตราความเร็วในการหมุนของ จักระ ในร่างกายคนเท่านั้น
    การปรับให้จักระกลับมาหมุนในอัตราเร็วเหมือนเดิมจึงเป็นเคล็ดลับที่ทำให้คนชรากลับมาหนุ่มสาวขึ้นอีกครั้ง
     
  4. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
  5. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    กระบวนท่าที่ 5

    ท่านี้ผู้ฝึกจะคว่ำตัวหันหน้าเข้าหาพื้นก่อน โดยพยุงร่างกายด้วยสองมือ ฝ่ามือคว่ำกับพื้น ปลายเท้าทั้งสองแยกออกจากกันราวๆสองฟุต ใช้ปลายเท้าแตะพื้น แขนตรงและขาเหยีอดตรง แขนตั้งฉากกับพื้น ดัดหลังให้โค้งไปข้างหลัง ลำตัวจึงอยู่ในลักษณะย้อยลงมาเกือบแตะพื้น
    จากนั้นเหวี่ยงศีรษะไปทางด้านหลังพร้อมกับงอก้นสะโพกจนลำตัวลอยขึ้นมาเป็นรูปตัววีหรือรูปสามเหลี่นม คางแนบกับหน้าอก เกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วนอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น พักสักครู่แล้วเริ่มทำกระบวนท่านี้ซ้ำอีก
    การหายใจเหมือนกระบวนท่าก่อนๆคือ หายใจเข้าลึกๆขณะที่ยกตัวขึ้นเป็นรูปตัววี และหายใจออกเมื่อหย่อนตัวลงมา

    [​IMG]

    คนธรรมดาเมื่อเห็นการฝึกท่าเหล่านี้แค่ภายนอกจะนึกว่าเป็นท่ากายบริหารแค่ยืดเส้นเฉยๆซึ่งก็มีส่วนถูกเหมือนกัน แต่การยืดเส้นไม่ใช่เป้าหมายหลักในการฝึกเคล็ดวิชาอันนี้ แต่เป็นการปรับความเร็วในการหมุนของจักระ เพื่อดึงพลังงานจากจักรวาลเข้ามาให้มากขึ้น เมื่อหมุนเร็วแรงดูดก็มากขึ้นครับ
    ซึ่งจะเท่ากับคนหนุ่มสาว วัย 25 ปีเลยทีเดียว
    การที่จักระทั้ง 7 ทำงานอย่างไม่ประสานปรองดองกัน ถ้าจักระที่จุดใหนหมุนช้า ก็จะทำให้ร่างกายบริเวณนั้นอ่อนแอเสื่อมถอย
    ส่วนจักรอื่นที่หมุนเร็วกว่าจะก่อให้เกิดความหงุดหงิด กระวนกระวาย และเหนื่อยล้า ซึ่งนำไปสู่การเสียสุขภาพและความแก่ชรา
     
  6. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ช่วนี้ไปฝึกจิต ประมาณ 10 วันนะครับ
    เดี๋ยวกลับมา ลุยให้ต่อนะครับ
     
  7. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ผมเองก็ศึกษา พลัง จักรวาล
    เรียนทั้ง สายคุณย่า เยาวเรศ ถึงขั้นระดับ พัฒนา
    ทั้งสาย เลืองมินห์ดางห์..ถึงขั้นระดับแปด
    รักษาและช่วยผู้คนด้านการเจ็บป่วยมานาน
    ........................................................
    จริงอยู่ เวลารักษา เราใช้พลังจาก ภายนอก คือ จาก จักรวาลและรอบๆๆ ตัวเรา
    ผ่าน เรา ออกไป สู่คน ป่วย..เหมือนเรา เป็น สื่อ ตัวกลาง
    สิ่งที่ รักษาคือ พลัง จาก ภายนอก
    แต่ตัวเราเป็น สื่อ..ก็ต้องใช้พลังงานในการดึงพลัง เข้ามา
    เป็นพลังที่ น้อยนิด เมื่อ เทียบกับ พลัง ที่ ผ่านไป รักษาคน
    ................................................................
    คนที่ รักษา คนด้วยพลังจักรวาล..จะต้อง ทำสมาธิ เพื่อ เสริม ต้นทุนบุญ (พลังในการดึง)
    ถ้าไม่ทำ..กองทุนบุญ จะน้อย..เมื่อใด ไม่พอ ก็ จะติด ลบ
    ผู้นั้นจะป่วยได้ ง่ายๆๆ
    .................................................................
    สิ่งที่ดี ที่ สุด คือ พยายามรักษา ตนเอง/ และครอบครัว /คนนอก ไม่เกิน 5 คน
    นอกจากจะมั่นใจ ว่า มีกองบุญ ทุนสูง..ก็รักษา คนนอนทั่วไปได้
    หลีกเลี่ยง การรักษาในโรงพยาบาล / และโรคหนักๆๆ..เพราะ เจ้ากรรมนายเวร แรง
    ขอเล่า ด้วยประสบการณ์ ที่ มี ครับ..เชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้
     
  8. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    เอาตย. 4-5 มาเสริมครับ
    <object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/VDmdTwX06eg&hl=en&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/VDmdTwX06eg&hl=en&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="425" height="344"></embed></object>
     
  9. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    โมทนาบุญด้วยครับ ที่อยากทราบว่าเกี่ยวข้องกับจัมบาลาหรือไม่เพราะ ผมมีเพื่อนที่ระลึกชาติได้บอกไว้นานแล้วว่า มีสถานที่ปฏิบัติธรรมอยู่บนเขาสูงมาก มีบันไดขึ้นไป คนธรรมดาคงยากที่จะเข้าถึง เรียกว่าจัมบาลา ถ้าจำไม่ผิดในยุคนั้นมีลามะหมวกแดงอยู่ในที่แห่งนั้น จึงคิดว่าจะเกี่ยวข้องกันกับวิหารที่ว่าหรือไม่ ผมเคยส่องจากดาวเทียมกูเกิลเอิธหาดูแต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่แถวไหน ^_^" เลยลองถามๆดูครับ เผื่อจะพอเดาพิกัดได้
     
  10. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    กลับมาแล้วครับ ได้ประสบการณ์มาเพียบ
    เปิดจักระไม่ยากครับ หาศรีจักรา มาจ่อใกล้ๆ แต่ละจักระห่างประมาณ 1 นิ้ว ถือไว้สัก 2 นาทีก็จะรู้สึกตรงนั้น เริ่มตรึงๆและร้อนขึ้นๆ ทำขณะที่เรานอนลงก็ได้ครับ บางทีเราจะจับความรู้สึกได้ว่า ตรงนั้นมันหมุนได้เลยครับ ลองดู ท่าที่ 6 จะบอกนะครับ เดี๋ยวจะเล่าประสบการณ์ในการไปฝึกจิตครั้งนี้ ว่าพลังจิตของคนเรานี้มันขนาดใหน ขนาดว่าทำให้ไฟไม้ป่า และสามารถเอาน้ำมาดับไฟได้โดยที่เราเพียงแค่ส่งความคิดออกไปเท่านั้น
    และการกระจายพลังออกแบบทุกทิศทางคล้ายระเบิดปรมาณู ทำให้สภาวะรอบข้างเงียบสงบขนาดจิ้งหรีดยังต้องหยุดร้อง ใครจะทำตามก็ลองนำไปฝึกได้นะขอรับรับรองหมาที่เห่าหอนหยุดเงียบไป นกป่าไม่กล้าที่จะส่งเสียงใดๆเลย
    เอาแค่น้ำย่อย เดินทางจาก พิษณุโลกไป จังหวัดเลย เปลื่ยน รถทัวร์ ถึง 3 คันเพียงแค่คิดโดยเพ่งที่ตาที่ สามเท่านั้น
     
  11. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ขอบคุณครับ แวะมาเล่าต่ออีกนะครับ ^^
     
  12. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    มีอะไรดีๆก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ
     
  13. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    เดียวเริ่มที่ การทำท่าที่ 6 ก่อนก็แล้ว กันเดียวมาเขียนการไปฝึกจิตทีหลัง พอดีเมื่อวานกะจะเขียน คอมดันมามีปัญหาเลย ปิดเครื่อง นั่งสมาธิดีกว่า
     
  14. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    การฝึกหัดแต่ละกระบวนท่านะครับ
    อาทิตย์แรกหัดท่าละ 3 ครั้ง
    อาทิตย์ที่ 2 หัดท่าละ 5 ครั้ง
    อาทิตย์ที่ 3 หัดท่าละ 7 ครั้ง
    อาทิตย์ที่ 4 หัดท่าละ 9 ครั้ง
    เพิ่มไปอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จนครบ 21 ครั้ง ทีนี้ก็ฝึกท่าละ 21 ครั้งไปตลอดครับ

    คุณสังเกตุความเปลื่ยนแปลงของร่างกาย มันจะกระปี้กระเป่า ผิวพรรณจะเต็งตรึง ซึ่งถ้าคุณสามารฝึกได้ครบ 21 ครั้งต่อท่าเมื่อไร ลองดูว่า ร่างกายคุณจะเหมือนคนอายุ 20 - 25 ปีอยู่ตลอดเวลาสำหรับคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ถ้าอายุน้อยกว่านี้ ก็จะลอลงมา ลองดูนะครับ
    ท่าที่ 6 นั้น
    มันเป็นท่าสำหรับ อิ่มในเรื่องทางเพศแล้วครับ คิอจะต้องถือพรหมจรรย์ไม่ยุ่งเกียวกับทางเพศอีกเลยสำหรับคนที่เริ่มฝึกท่านี้
    ทั้งนี้ก็เพราะว่า พลังชีวิตที่หล่อเลี้ยงจักระทั้ง 7 ในร่างกายคนเรานั้นจะถูกแปลงเป็นพลังทางเพศก่อน และเมื่อเราหัดท่าทั้ง 5 นั้นแล้วเราจะรู้สึกถึงพลัทางเพศที่แรงถ้ามีสิ่งยั่วยุ และคนส่วนมากก็จะสูญเสียพลังตัวนี้ไปกับการมีเพศสัมพันธ์ พลังตัวนี้จึงไม่ค่อยได้มีโอกาศส่งขึ้นไปหล่อเลี้ยงจักระจักรอีก 6 จักระเลย <<<<<< ผมถึงบอกว่าถ้าฝึกพลังจากจักรวาลแล้วควรจะลดการมีเพศสัมพันธ์ลงนะครับ

    ฉะนั้น ท่าที่ 6 นั้น ต้องดูว่า มีใครอยากจะฝึกก็แจ้งมานะครับต้องดูก่อน ว่ามีใครสนใจบ้าง
    เพราะถ้าคุณหยุดเรื่องทางเพศแล้ว ฝึกท่าที่ 6 นี้คุณจะค่อยๆกลายเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจในเรื่องพลังกายและพลังของจิต จนกลายเป็นคนเหนือคนไปเลย
    แต่ถ้าคุณยังเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศอยู่ เมื่อคุณฝึกท่าที่ 6 นี้มันจะเป็นอันตรายมากกว่าผลเสียครับ
     
  15. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    จงจำไว้นะครับ มนุษย์ทุกคนล้วนมี เชลล์ที่เหมือนกัน มีมันสมองที่เหมือนกัน การที่มีครูบาอาจารย์เกิดขึ้นมาอย่างมากมายนั้นเพราะเขามีแนวทางการฝึกของเขา ถ้าเราฝึกตามแนวทางนั้นก็จะสำเร็จเหมือนกัน

    ฉะนั้นคำว่า ครูบาอาจารย์นั้น คนที่รู้จริงรู้แจ้งในการมาเกิดเป็นมนุษย์นั้นจะไม่มี เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นพี่เป็น น้องกัน เราไปยกย่องคนนั้นคนนี้เป็นครูบาอาจารย์นั้น ตรงนั้นแหล่ะที่เราเอาจิตของเราไปยึดติดไว้ ทำให้เราไม่สามารถก้าวผ่าน หรือก้าวหน้าไปมากกว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนไว้ จงจำไว้นะครับทำไมคนอื่นเขาทำได้ทั้งๆที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ คนที่มารับการเปิดพลังจากผม ผมจะไม่ให้เขาเรียกผมว่าอาจารย์ ให้เรียกพี่ หรือน้องเท่านั้นครับ พอหลังจากที่ไปฝึกจิตมาแล้วก็มีคนมาขอร้องให้เปิดพลังให้ตอนนี้ก็ 5 คนแล้ว
    เพราะว่า คนที่เป็นคนอินเดีย เขามาหาผมแล้วเขาสัมผัสพลังของผมได้เลยเป็นเรื่องเลย ขนาดผมบอกว่าคุณก็ไปฝึกเองได้ทำตามที่ผมบอก เขายังไม่ยอมเลย แถมบอกไว้อีกถ้าไปฝึกจิตอีกครั้งจะไปฝึกด้วย ผมก็ถามเอ้าแล้วเรื่องบริษัทละ เขาบอกว่า เดียวให้ลูกชายดูไปก่อน ว่าไปโน่นเลย 5555555555 อุตส่าไม่ท่ายทอดให้คนไทย แต่คนอินเดียดันมาให้เปิดพลังให้ ทั้งๆที่เขาก็เป็นต้นตำรับในเรื่องพลังเล่านี้
    ขนาดผมบอกเขาว่า มีคนไทยที่สามารถเปิดจักระได้ 100 เปอร์เซนต์ไปหาเขาสิ
    เขารีบบอกว่า เขานั่งสมาธิหาคนที่เปิดจักระได้ 100 เปอร์เซนต์ในเมืองไทยที่ผ่านมา ยังไม่มีเลย เขาเห็นในสมาธิมีแต่ ไปนั่งแล้วส่งพลังทางจิตเท่านั้นซึ่งมันไม่สามารถเปิดได้ 100 เปอร์เซนต์หรอก ต้องมาฝึกฝนเองตนเอง ถึงจะเปิดได้ เขาว่ายังงั้น แล้วมีการบอกว่า ก็มีแต่คุณนี่แหล่ะทีเขาบอกว่าพอมีภาษีที่สามารถทำได้ ว่าไำปโน่น
    ผมก็เลยบอกว่า โฮ้ผมมันแค่เด็กๆเท่านั้น เพียงแค่มีเวลาในการฝึกเท่านั้น ขนาดนั้นยังพาเพื่อนมาให้เราเดือดร้อนอีก555555
     
  16. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ผมรักษาคนอื่นไปเรื่อยๆ จะดูดพลังเองยากขึ้นจริงครับ
    ผมต้องใช้ปิรามิดมาช่วยก็จะดีขึ้น

    มันเกี่ยวกับบาปบุญเหรอครับ เพราะตอนนี้ถ้าสวดมนต์หลวงปู่ทวด
    หรืออธิฐานอาจารย์เลือง มิน ด๋าง ผมถึงจะดึงพลังได้ เมื่อก่อนนี้จะดึงก็มาเลย
    เมื่อก่อนไม่ถือศีลเลย เด๊วนี้ศีลครบ

    แล้วทำไมมือซ้ายผมจับสัมผัสการหมุนจักระได้ครับวางไว้กับโต๊ะมือมันหมุนเองเลย

    แล้วจริงหรือไม่ที่พลังจักรวาลต้องควบคู่คุณธรรม พรหมวิหาร4

    แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าจักระเปิด100% และจะมีสภาวะอย่างใด

    กรุณาตอบด้วยครับ
     
  17. battosai

    battosai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +346
    พี่ครับผมรอท่าต่อไปอยู่นะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  18. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    พลังจักรวาลนี้จริงๆ แล้ว มันเป็นของส่วนกลางครับ ใครจะดีงมายังงัยก็ได้ครับ แล้วแต่วิธีการของแต่ละคนครับ
    แต่ที่สำคัญคือ การฝึกฝนตัวเองครับ คนที่รักษาคนอื่นแล้วเมื่อกลับมาบ้านคุณไม่ได้ทำการฝึกฝน การดึงพลังก็จะยากขึ้นครับ เพราะจิตหรือความรู้สึกของคุณมันจะไม่นิ่งเวลาที่คุณจะทำการดึงพลังตัวนี้จากจักรวาลมา แต่ถ้าคุณฝึกฝนอยู่ตลอดการดึงพลังมันจะง่ายและเร็วครับ
    การที่คุณนึกถึงหลวงปู่หรืออาจารย์ ผมทำให้จิตหรือความนึกคิดของคุณมันมีความมั่นใจว่าคุณสามารถดึงพลังได้ ความรู้สึกคุณจึงจับพลังได้ครับแต่ความจริงแล้วพลังมันเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณนำความรู้สึกไปที่ฝ่ามือโดยกำหนดที่จักระ 7 คุณจะรู้สึกที่ฝ่ามือว่ามีพลังเข้ามาทันทีครับ
    คำว่า 100 เปอร์เชนต์นั้นต้องมาดูว่าเอามาตรฐานใหนมาวัดครับ
    100 เปอร์เซนต์เพื่อรักษาคน
    100 เปอร์เซนต์ในการเปิดตาที่สามหรือพลังจิต
    100 เปอร์เซนต์ในการปลุกพลังกูณทาลินี
    100 เปอร์เซนต์เพื่อเป็นคนที่สามารถถ่ายทอดพลังหรือเปิดจักระให้คนอื่น
    มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่จะฝึกฝนตนเองเพื่อไปทิศทางใหนครับ


    ส่วนท่าที่ 6 นั้นใจเย็นนะครับ กำลังหารูปอยู่ครับี่อน่

    ส่วนท่านที่สามารถดึงพลังจักรวาลเข้ามาได้แล้ว คือ มีความรู้สึกที่ฝ่ามือของเราแล้วที่เหลือก็ฝึกฝนให้มีพลังมากๆ จะเอาแบบที่มีละอองสีขาวออกมาที่มือหรือจะให้มองเห็นเป็นแสงสีที่ออกมาจากฝ่ามือ นั้นก็ต้องใช้เวลาการฝึกให้มากหน่อยนะครับ
    ที่เหลือก็หันมาฝึกเพิ่งจักระที่ 6 หรือตาที่ 3
    การฝึกของผนทำโดยการนั่งสมาธิโดยการให้ฝ่ามือขวาวางบนฝ่ามือซ้ายแล้วเอาหัวแม่มือหรือนิ้วโป้งมือซ้ายวางบนกลางฝ่ามือขวา และนำความรู้สึกไปที่จักระที่ 6 หายใจเข้าออกให้ไปที่จักระที่ 6 และสุดท้ายก็จับที่จักระที่ 6 นี้ เราจะรู้สึกว่า ตาที่สามเราจะดูดเข้าออก และถ้านั่งไปนานๆเราจะรู้ว่ามีพลังแผ่ออกมาจากตัวเราทวีมากขึ้นเรื่อยๆ
     
  19. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    การที่เราได้ฝึกฝนวิชาพลังจักรวาล นั้นสิ่งที่จะก้าวต่อไปคือ การก้าวหน้าในการฝึกฝน ตามความเป็นจริงแล้วถ้าเราเพียงแค่สามารถดึงพลังงานจากจักรวาลเข้ามาสู่ร่างกายของเราให้ได้มากแล้ว สิ่งที่เราจะก้าวต่อไปคือ การฝึกฝนพลังของจิตเรา ให้สูงส่งขึ้นไป
    การฝึกฝนที่จะให้พลังของจิตเราสูงขึ้นนั้นมันอยู่ที่ การฝึกจักระที่ 6 ที่ผมได้กล่าวไปแล้ว การหมุนวนของพลังที่อยู่ในกายเราก็สำคัญ
    เขียนไปเขียนมาก็เริ่มงง ไม่รู้จะอธิบายยังงัย การฝึกฝนเพื่อให้พลังจิตเข็มแข็งและสามารถสั่งงานจิตของเราและของคนอื่นได้ มันก็ไม่ยากอะไร แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า คุณฝึกแล้วอย่าไปทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรมนี่สิ มันสำคัญ
    ถ้าคุณฝึกจักระที่ 6 มากๆ เข้า พลังที่มันออกมาจากจักระ 6ที่นั้น มันจะควบคุมทุกสิ่งได้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็น ดิน ฟ้า อากาศ หรือเป็นไปตามความต้องการของเรานั่นเอง
    เอาง่ายๆ จ้องคอม มาก คอมก็มีสิทธิ์ที่จะพังได้ ถ้าเราแผ่พลังที่เข้มข้นออกมาในทาง เครียดแค้น
    สิ่งสำคัญในการฝึก จักระที่ 6 ให้เราพยายามส่งความรู้สึกที่ เมตตา สงสารออกมานะครับ
    เมื่อเราฝึกไปมากๆ เราก็สามารถลง นะหน้าทองตัวเองหรือคนอื่นได้ โดยไม่ต้องไปให้ใครลงให้ก็ได้ 555555 เรื่มเพี้ยนอีกแล้ว
    การลงนะหน้าทอง สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ เราสามารเพ่งตัว นะ ให้เกิดเรื่องแสงขึ้นมาแล้วก็เขียนตัวนะ ลงที่ใหนก็ได้ในร่างกาย ของตนหรือเพื่อนๆ แล้วเพ่งตัว นะ ให้เกิดเรืองจาก จักระที่ 6 พุ่งไปหาหน้าของเราหรือของคนอื่นๆๆๆๆๆๆๆๆ ลองดูนะครับ
     
  20. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    อีกพลังหนึ่งที่ผมอยากแนะนำ นอกจากพลังจักวาลแล้วยังมีพลังอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาประสานเข้ากันได้ คือ พลังดูดทรัพย์ ของครูบาคำเป็ง ครับ ผมได้ไปให้หลวงปู่ท่านเปิดพลังให้ เพราะว่า ถ้าเรื่องพลังเราก็ต้องวิ่งแจ๋นไปเหมือนกัน ทีนี้เราก็ไปมาฝึกฝน จนคล่องตัวแล้ว ก็เลยไป ยกพานแต่งขันธ์ 5 ให้หลวงปู่ท่าน สอนวิธีการเปิดพลังดูด ตัวนี้ให้ เผื่อต่อไปจะได้มีโอกาศเปิดพลังดูดนี้ให้คนอื่นๆบ้างหลวงปู่ท่านก็ไม่ขัดข้อง ท่านถ่ายทอดให้และให้ลองกับ เณรที่วัด ปรากฏว่าผ่าน ก็ได้มาอีกวิชา
    พลังการดูดนี้ ผมจะเอาประสบการณ์ที่สัมผัสได้มาเขียนนะครับ ไม่เอาจากใครที่ใหน เพราะผมทำเองแล้วมันดี จึงมาบอกต่อ ทุกวันนี้ ถ้ามีใครมาขอให้เปิดพลังให้ ผมก็เปิดทั้ง พลังจักรวาลและพลังดูด ไปให้พร้อมๆกันเลยๆๆๆๆๆๆๆๆ เดี่ยวมาเขียนต่อนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...