จําเป็นไหมว่าเราต้องอธิษฐานกับพระพุทธองค์ว่า เราจะรักษาศีลเเปดเท่านี้เท่านี้วัน ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 20 ธันวาคม 2008.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,465
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    ตามอันนี้ที่ได้อ่านมาครับ

    โดยปกติผู้รักษาศีลจะเปล่งวาจาอธิษฐาน ที่จะขอสมาทานศีลตั้งแต่เช้าของวันนั้น หากรักษาศีลแปดเป็นเวลา 1 วัน เรียกว่า "ปกติอุโบสถ" และหากรักษา 3 วัน เรียกว่า "ปฏิชาครอุโบสถ"

    คือ ผมอยากจะทราบว่า จําเป็นไหมว่า เราต้องอธิษฐานกับพระพุทธรูปว่า เราจะรักษาศีลห้า ศึลเเปดให้ได้เท่านี้ๆวัน หรือไม่ต้องบอกครับ ทําทุกวันให้ดีที่สุดหรือยังไงครับ ? เเล้วการรักษาศีลนี่ เขาดูเป็นวันๆหรืออะไรครับ ? โปรดชี้ทางสว่างเเด่ผู้น้อยด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
     
  2. firsthand

    firsthand สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +7
    ข้อมูลเกี่ยวกับ ศีล มีตามลิงค์ด้านล่างนะครับ

    http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html

    พูดถึงเรื่องการอธิษฐานรักษาศีลห้า หรือศีลแปด ว่าจะรักษาชั่วระยะเวลาเท่านั้น เท่านี้
    ผมคิดว่าไม่จำเป็นนะครับ ถ้าคิดจะรักษาศีลห้าก็สมาทานศีลห้า ถ้าคิดจะรักษาศีลแปดก็
    สมาทานศีลแปด แล้วก็รักษาไว้ให้ดี ไม่ให้ขาด ไม่ให้ทะลุ ไม่ให้ด่าง ไม่ให้พร้อยน่ะครับ
    ถ้ารักษาไว้ตลอดชีวิตได้ ยิ่งดีครับ น่าอนุโมทนา

    ส่วนศีลที่รักษาชั่วระยะเวลาคือศีลอุโบสถ ซึ่งศีลอุโบสถต้องอธิษฐานเปล่งวาจา
    ว่าจะรักษาชั่วระยะเวลาเท่าใด เพื่อเป็นการเพิ่มพูนสัจจะบารมีด้วย คือพูดแล้วทำได้จริง
    และผมก็ได้รักษาศีลอุโบสถ เป็นเวลาหนึ่งวัน หนึ่งคืน ในวันนี้ด้วยครับ ^_^

    ขออนุโมทนาสำหรับ ผู้ที่รักษาศีลอุโบสถในวันนี้ด้วยนะครับ
    และขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ ที่สนใจในศีลอุโบสถ ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    แนะนำครับ...ศีล มาจากคำว่าศิระ แปลว่าเศียร ซึ่งโดยทั่วไปแปลว่าปกติ หากเราพิจารณาให้ดีแล้ว รักษาศีล คือรักษาหัวนี่เอง หัว สำหรับคนเราก็คือใจ มีใจเป็นหัวหน้า ก็คือรักษาใจให้อยู่กับความดีให้ได้ ก็รักษาศีลได้แล้ว แต่โดยทั่วไปคนเรามีความเข้าใจคือความฉลาดไม่เท่ากัน จึงมี อุบาย ที่เลิศในการประพฤติปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน เป็นลำดับขั้นตอนไป
    โดยปกติในเบื้องต้นไม่อาจรักษาศีลได้บริสุทธิ์หรอกจะเป็น
    ศีลปรตปรามาส(ศีล ละ ปะ ตะ ปา มาส )แปลว่า การหวังทรัพย์สมบัติในการรักษาข้อวัตร หรือการหวังผลที่ได้จากการรักษาข้อวัตร
    แต่ก้เป็นสิ่งที่ดีในเบื้องต้น เอาความอยากดีเป็นที่ตั้ง ดีกว่าเอาความอยากเลวเป็นที่ตั้ง เมื่อตั้งใจที่จะรักษาศีล แรกๆๆจะเป็นแบบบังคับ แต่เมื่อ ทำให้มาก อบรมให้มาก ก็จะกลายเป็นแบบ มันจะรักษาศีลเองโดยที่ไม่ต้องบังคับ เพราะมันรักษาใจ หรือหัวได้เอง .... ก็จะสามารถเจริญสมาธิ ปัญญา ได้โดยมีประสิทธิภาพ ....ศีลก็คือ มหาทานนี่เอง เป็นการให้เจตนาเป็นทาน ...ย่อมชนะการให้ทั้งปวง
    ในเบื้องต้น ก่อนจะทำสมาธิทุกครั้ง ก็อธิฐานรักษาศีลต่อหน้าพระพุธเองได้ ว่าจะกระทำให้บังเกิดสัจจะ ในระหว่าง ทำสมาธิ สวดมนต์ไหว้พระเท่านั้น ก็จะได้สัจจะบารมี เป้นการฝึกเพื่อให้ชำนาญขึ้น...หากอธิฐานรับศีล บางครั้งเราเผลอ ทำผิดไป ก็ทำให้ขาดโดยที่ไม่ตั้งใจจะเป็นบาปไป หากเราไม่กำหนดเวลาชัดเจน (ซึ่งเป็นช่วงแรกในการฝึกฝน)
    ต่อไปเมื่อเราเกิดรักษาใจได้เอง รู้ที่ใจเอง เริ่มมีความละอายต่อบาปแล้ว ศีลก็จะเริ่มเป็น ศีลโดยอัตโนมัติ ก้จะเป็นเครื่องป้องกันเป็นฐานที่แข็งแกร่งของ สมาธิ และ วิปัสนาได้เป็นอย่างดีครับ...............
    ในสมัยก่อน มีพระองค์นึง เป็นทุกข์จากการรักษาศีล 227 ข้อซึ่งจะทำอะไรก้เป็นกังวนเป็นทุกข์ไปหมดเพราะกลัวผิดศีล จึงอยากสึก ข่าวทราบถึงพระพุทธเจ้า ท่านก็รับสั่งให้พบ พระพุทธเจ้าก็ถามว่า หากท่านไม่สามารถรักษาศีล 227 ข้อได้ ก็ขอให้รักษา 1 ข้อได้ไหม ... 1 ข้อ คือให้รักษาใจให้อยู่ในความดี พระองค์นั้นก็ตอบว่าได้ จากนั้นมาไม่นาน พระองค์นั้นก็ได้บรรลุอรหันต์ ...........
    ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ใจ........อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...