อยากได้คาถา หรือวิธีห้ามหรือระงับอารมณ์รัก

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย pooky, 10 กรกฎาคม 2008.

  1. pooky

    pooky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +63
    ใครมีวิธี หรือคาถาห้ามอาการตกหลุมรักที่เกิดขึ้นในใจกับคนที่ไม่สมควรไปรัก อยากเช่นคนที่มีเจ้าของแล้ว รักในหมู่เครือญาติ รักต้องห้าม หรือป้องกันอาการอกหัก ฯลฯ ช่วยบอกด้วยค่ะ อยากให้ใจอยู่สงบๆ ไม่วุ่นวาย ทุกข์ร้อนกับเรื่องอย่างนี้เลย ขอบคุณค่ะ
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    อนุโมทนาครับ
    คาถาที่ขอมาคงหาได้ยากครับหรือไม่มีเลย ผมว่าจะรักหรอไม่รัก มันขึ้นอยู่ที่จิตของเราเป็นสำคัญนะครับ
    เมื่อเรารู้ว่าเขามีเจ้าของ ก็ต้องหยุดครับ พยายามกำหนดสติ ให้อยู่กับตัวเอง อย่าไปคิดถึงมันอีก ไม่มีประโยชน์จะไปคิดถึง เมื่อเราคิดถึง จิตจะเกิดความฟุ้งซ่านนะครับ
    จิตใจของเราจะหมองหม่น ไม่สดใส
    ทางออกที่จะขอแนะนำคือ การไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิและแผ่เมตตาครับ พยายามทำให้ได้ทุกวัน แล้วจิตใจเราจะสงบและเห็นแสงสว่างในชีวิตครับ
     
  3. pooky

    pooky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +63
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
     
  4. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    คาถาตัดรักไม่มีครับ ให้พยายามปลงอสุภกรรมฐาน หรือพิจารณาให้เห็นโทษของความรัก แต่การตัดรักทำได้ยากมากหากไม่เปลี่ยนจากอารมณ์รักเป็นอารมณ์เกลียดจนเลิกรักไปเอง หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง
     
  5. อนูดิน

    อนูดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +2,012
    ในเมื่อคุณก็รู้สึกวุ่นวาย ทุกข์ร้อนกับความรัก

    ก็ำกำหนดจิตดูตรง ู ทุกข์ ที่เรารู้สึก ดูไปให้เห็นชัดๆว่าไอ้รักหน่ะในเมื่อมันทุกข์
    แล้วทำไมใจเรายังไปคบมันอยู่

    พระพุทธองค์สอนว่า ทุกข์ คือสิ่งที่ควรกำหนดรู้
    อย่าไปดิ้นรน เพราะอาการดิ้นรนกระวนกระวายใจ นั้นแหละก่อให้เกิดทุกข์ เป็นสมุทัย

    หากจะเปรียบเทียบ ก็เหมือนที่เราๆเคยได้ยินกันมาบ้างว่า
    พระอาจารย์บางท่านสอนเรา เมื่อเวลาเรานั่งสมาธินานๆแล้วเกิดเหน็บชา
    ปวดแข้งปวดขา อยากจะลุก เปลี่ยนท่า
    แล้วท่านบอกว่า อย่าลุกไปไหน
    ให้กำหนดดูความเจ็บปวด ทรมาน เมื่อย ว่าไอ้ตัวเมื่อยมันเป็นอย่างไร
    ไอ้ตัวเจ็บปวด ทรมาน มันคืออย่างไร มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร
    ทำความรู้จักกับมัน มันเป็นตัวเราใช่ไหม เป็นของเราใช่ไหม
    ดูก่อนว่าใช่ไหม ถ้าใช่ก็ช่างมันแก้ไขไม่ได้ก็คงไม่มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลกนี้
    หากไม่ใช่ แล้วทำไมเราถึงไปเอามันมาไว้กับเรา
    ทำไมเราจึงยึดมัน ทำไมเราจึงถือมัน ทำไมเราจึงเอามันมาไว้กับเรา


    วิธีนี้น่าจะเหมาะกับจริตที่ชอบหักดิบ สู้กับกิเลสซึ่งๆหน้า ทนกับความเจ็บปวด
    ทรมานได้ดี และที่สำคัญมีความอดทนสูง
     
  6. อนูดิน

    อนูดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +2,012
    หากไม่ใช่ เ้ป็นคนไม่อดทนเท่าไหร่ ชอบง่ายๆสบายๆ

    ก็เอาใจไปจับกับภาพพระหรือทรงนิมิต หรือเอาใจไปจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อน
    ทำเรื่อยๆจนชินติดเป็นนิสัย เวลาอารมณ์รักเกิด ก็ให้เอาจิตไปจดจ่อกับสิ่งที่เรา
    ชิน ตามกรรมฐานสี่สิบนั่นแหละ เลือกเอากองใดกองหนึ่งยกเว้นเมตตาถ้าใครทำไม่เป็น
    จะยิ่งถลำลึก (เมตตาต้องทำอารมณ ์เมตตาตัวเราเองไม่อยากให้เรามีทุกข์)
    หากเป็นกรรมฐานหักอารมณ์รักโดยตรงก็คงเป็นอสุภกรรมฐานทุกกอง
    หรือกายคตานุสติ(ความสกปรกในกายเป็นอารมณ์) หรือ จตุธาตุวัฏฐานสี่(กำหนด
    ความแปรปรวนของธาตุสี่) หรือไม่ก็ อาหาเรปฏิกูลสัญญาเลยก็ได้
    ทำจนชิน แล้วพิจารณาดูว่าเรารักเขาตรงส่วนไหน รักตรงหนังก็ดูตรงหนังว่ามันน่ารักตรงไหน ดูเฉพาะหนัง
    รักรูปร่างก็ดูว่ารูปร่างมันคงตัวแน่นอนไหม หรือว่าสักวันมันต้องขาดจากกัน
    รักเพราะเห็นว่ามันเป็นของตันเป็นแท่งทึบ ก็ดูว่าข้างในมันตันจริงไหม
    รักเพราะเห็นว่าสะอาดก็ดูว่ามันสะอาดจริงไหม ทำไมมีขี้ มีเยี่ยวอยู่ข้่างใน
    ดูอาหาเรปฏิกูลสัญญา หรือจตุธาตุวัฏฐานสี่
    รักความทรงตัวของร่างกายก็ไปดูว่าสุดท้ายร่างกายมันเหลืออะไร
    ตายแล้วเผาเหลือแต่กระดูก สุดท้ายกระดูกก็ป่นหายไปกับดินจริงไหม
    ทำให้ช่ำ ทำให้ชำนาญจริงๆสักกองใดกองหนึ่ง
    อย่างโบราณว่าชั่วลัดนิ้วมือเดียวต้องคิดได้ทะลุปรุโปร่งในกรรมฐานกองนั้นๆ
     
  7. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare033.htm

    [​IMG]


    ถาม – จะตัดใจจากคนรักเก่าได้อย่างไรคะ? พยายามทุกวิถีทางแล้ว ทั้งอ่านหนังสือ ทั้งสวดมนต์ ทั้งทำใจคิดต่างๆนานา พอใช้อุบายอย่างหนึ่งๆก็เหมือนจะได้ผลบ้าง แต่พอเวลาผ่านไป ใจก็วกกลับมาที่เก่าอีก กลุ้มใจมาก เหมือนจะไม่สามารถตัดได้ขาดอย่างแน่นอนตลอดไป


    ตอบ - ที่คุณอ่านหนังสือ สวดมนต์ หรือพยายามนึกคิดไปต่างๆเพื่อให้เกิดการตัดใจนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นแค่ยาแก้ปวดชั่วคราว คุณไม่ได้กำจัดตัวเชื้อโรคที่ฝังอยู่ในตับไตไส้พุงออกไปเลย ฉะนั้นพอยาแก้ปวดหมดฤทธิ์ เชื้อโรคก็มาผลัดเวรแผลงฤทธิ์ต่อ

    อาการที่ถูกต้องของการถอนพิษรักนั้น ไม่ใช่ความพยายาม ‘ตัดใจ’ เพราะใจเป็นสิ่งที่ไม่มีคมมีดชนิดไหนๆตัดได้ขาด พฤติกรรมทางจิตที่ถูกต้องคือ ‘สละออก’ ซึ่งเป็นอาการที่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย เนื่องจากเคยชินที่จะ ‘เอาเข้าตัว’ กันทั้งนั้น ซึ่งนั่นแหละครับคือการเพาะชำนิสัยหวงทุกข์ หวงยางเหนียวยึดติดกับปฏิกูลทางอารมณ์โดยแท้

    แต่ละคนมีพลังหรือศักยภาพในการสละออกแตกต่างกัน และศักยภาพดังกล่าวนี้ไม่ใช่มีกันด้วยความบังเอิญ กับทั้งไม่ใช่ความสามารถเฉพาะทาง จิตที่มีดี ที่สามารถสลัดขยะหรือปฏิกูลทางอารมณ์ออกได้ง่ายนั้น คือจิตของผู้ที่เคยชินกับการสละออกเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่เฉพาะเรื่องรักใคร่หรือเรื่องเงินๆทองๆอย่างใดอย่างหนึ่ง

    นี่เป็นการมองภาพกว้างภาพรวม ถ้าคุณอ่านเกมของจิตออก จะเห็นความสัมพันธ์ทั่วถึงกันหมด ไม่มีใครฝึกเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการตัดรัก แต่ทุกคนสามารถฝึกที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสละอารมณ์ส่วนเกินกันได้ทุกแง่

    เมื่อพูดถึงการฝึก คุณจะต้องนึกถึงการทำไปตามลำดับขั้น จากง่ายไปหายาก ในที่นี้คุณจะฝึกสละ ก็ต้องไล่ลำดับจากการให้ในสิ่งที่สามารถให้ได้ง่ายๆก่อน สำคัญคือคุณต้องทำเป็นประจำ จนกระทั่งจิตเกิดความชินในอารมณ์อยากให้ อยากสละออก

    ตามหลักการแล้ว การสละทรัพย์เล็กๆน้อยที่เป็นส่วนเกินของตนให้ผู้อื่นหรือสัตว์อื่น จัดเป็นอุบายฝึกจิตคิดสละขั้นพื้นฐาน ยกตัวอย่างเช่นถ้ามีหมาแมวจรจัดมาเข้าบ้าน (ซึ่งพบได้เป็นปกติทั่วทุกหัวระแหง)

    คุณเหลือเศษอาหารเช้าหรือเศษอาหารเย็นที่จะทิ้งอยู่แล้ว ก็แค่เอาใส่จานให้พวกมัน หรือแม้ถ้าคุณอยู่ในเขตที่มีน้ำมีบ่อซึ่งสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ เพียงสาดน้ำล้างจานอาหารที่มีเศษข้าวเศษเนื้อติดอยู่ลงไป โดยคิดว่าดีแล้ว เศษอาหารนี้จะตกถึงปากถึงท้องพวกสัตว์ในน้ำ นี่พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสว่าเป็นที่มาแห่งบุญเช่นกัน

    อย่าดูถูกว่าการให้ของเล็กน้อยเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะเมื่อคุณให้จนเป็นอารมณ์ชินที่จะสละแล้ว ก็เป็นการเพาะนิสัยในทางทาน เป็นผู้สามารถให้โดยไม่จำเป็นต้องให้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน อานิสงส์ของการเป็นบุคคลเช่นนั้นแหละ คือที่มาของกำลังของใจ ที่มาของความสามารถสละขยะส่วนเกินออกจากใจโดยง่าย

    หากคุณยังไม่มีกำลัง ยังไม่รู้จักความสุขในการสละออก การทิ้งขยะย่อมยาก แต่เมื่อเริ่มเป็นสุขกับการทิ้งขยะบ้างแล้ว พอเกิดอารมณ์อาลัยบุคคลหรือวัตถุไร้ค่าใดๆ ใจก็ฉลาดพอจะเริ่มเห็นตัวอารมณ์นั้นเป็นส่วนเกิน ตรงนี้ต้องฝึกด้วย คือฝึกเห็นว่าตัวอารมณ์อาลัยนั่นแหละเป็นส่วนเกิน ทำนองเดียวกับเห็นเศษอาหารเหลือทิ้ง หรือเสลดสกปรกในปากที่ไม่จำเป็นต้องอมไว้

    ยังไม่ต้องหวังว่าจะทำได้อย่างดีในระยะเริ่มต้น แต่คุณจะพบว่าหากหมั่นฝึกสละของเล็กๆน้อยๆ ฝึกสละความถือโกรธผูกใจเจ็บ ฝึกกระทั่งเจียดเงินส่วนเกินของรายได้เพื่อทำบุญทั้งกับคนอนาถาซึ่งอยู่ต่ำกว่า เรื่อยไปจนถึงพระสงฆ์องค์เจ้าผู้มีศีลสัตย์ผู้อยู่สูงกว่า

    ในที่สุดจิตจะมีอานุภาพมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเกิดพลังความสว่าง มีศักยภาพสูงในการคิดสละ ซึ่งเมื่อบวกกับการฝึกหัดมองให้เห็นชัดว่าอารมณ์อาลัยเป็นเพียงปฏิกูลของจิต ในที่สุดคุณก็จะสลัดได้ราวกับคนถ่มเสลดลงพื้น โดยปราศจากความหวงแหนแม้แต่น้อยครับ


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2008
  8. rabbit20

    rabbit20 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +2
    กว่าจะทำใจได้..คงต้องใช้เวลาพอสมควร

    เอาใจช่วยนะคะ คุน pooky :)
     
  9. ป.วิเศษ

    ป.วิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    329
    ค่าพลัง:
    +411
    เอารูป "อศุภะ" มาดู วางเรียงเคียงหมอน แก้ได้ผลสุด ๆ เพราะเห็นแล้ว

    ใต้เนื้อมันเป็นเอ็น เลือด น้ำหนอง อ่ะ ผ่าท้องก็มีใส้ ตับ ม้าม ปอด หัวใจ

    ใขมันเหลือง มันขาว ชั้นหนัง เส้นเลือด ... พูดไม่ออก ... แต่ได้ผล ...

    อนุโมทนา
     
  10. pooky

    pooky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +63
    ขอขอบคุณกับทุกๆ คำแนะนำที่ post กันเข้ามาค่ะ
    วันนี้ก็กลับมาเป็นปกติแล้ว เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่เหมือนวันที่เข้ามา post ก็คงจะเป็นเมื่อวาน ที่รู้สึกรุ่มร้อน และสับสนจะหาวิธีแก้ไข ตอนนี้ก็รู้สึกผิดหูผิดตายังกับถูกเสกให้ความรู้สึกเช่นนั้นหายวับไปกับตา (ไปจากใจ) อย่างปลิดทิ้ง อย่างไรอย่างนั้น ทีนี้ก็เหลือว่า จะทำยังไงไม่ให้เกิดอาการแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งถ้าจะรักก็คงจะรักแบบมีสติ และมีความหวังดี ความจริงใจ ความห่วงใยต่อคนที่รัก ไม่มีคำว่าสายสำหรับคำว่ารักหรอกค่ะ ความรักที่แท้จริงต้องไม่ใช่การครอบครอง ซึ่งมันคงจะไม่ใช่ความรักต่อไปอีกแล้ว มันกลายเป็นความเห็นแก่ตัวไปน่ะค่ะ แล้วก็สามารถเพื่อแผ่ได้ทุกคน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องของความหลายใจอีกน่ะค่ะ วันนี้รู้สึกดีขึ้น เพราะอยู่ต่อหน้าคนที่แอบตกหลุมรักก็ยังเฉยๆ ได้ ไม่อึดอัดอะไร ขอขอบคุณอีกครั้งต่อทุกๆ คนค่ะ
     
  11. อนูดิน

    อนูดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +2,012
    ขอฝากคุณเจ้าของกระทู้อีกสักนิดครับ
    เอกสารกำกับยาแก้รักตัวนี้มีนิดหนึ่งคือใช้ได้บ่อยตามที่ต้องการ
    ยิ่งใช้มากยิ่งมีผลมาก แต่อย่างน้อยไม่ควรใช้น้อยกว่าสามเวลาหลังอาหาร
    ระลึกถึงความตายสบายนัก

    มันหักรักหักหลงในสงสาร

    ทั้งมืดมนโมหันต์อันธกาล

    ทำให้หาญหายสะดุ้งไม่ยุ่งใจ

    จากเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต ขอรับ
     
  12. รักในหลวงครับ

    รักในหลวงครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +101
    หากรักเเล้วตัดใจยากผมก็เป็นอยู่
     

แชร์หน้านี้

Loading...