วัตถุมงคลยอดขลัง พลังเวทสุดมหัศจรรย์"หลวงพ่อผินะ ปิยธโร"

เรื่องนี้เคยเรียนถามหลวงพ่อว่าเหตุไฉนท่านถึงสร้างโยนี

ใครจะขายใครจะซื้อ ของก็เป็นเรื่องธรรมดาของสัตวโลก แต่กระเเสธรรมของหลวงพ่อนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่า คนทั้งหลายจะเข้าใจได้ทั้งหมดเรื่องนี้เคยเรียนถามหลวงพ่อว่าเหตุไฉนท่านถึงสร้างโยนี ท่านว่า ไอ้นี้มันเป็นที่เกิดของโลก เป็นที่เกิดของความยิ่งใหญ่ในโลก และถ้ามองเป็นธรรมะแล้วมันก็เป็นที่เกิดของธรรมะอันสูงสุด สุดแล้วแต่คนจะตีความ ผมเคยถามว่า ทำไมท่านสร้างอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนหลวงปู่หลวงพ่ออื่นๆท่านสร้าง ของที่ท่านสร้างทุกชิ้นทุกอันล้วนแล้วแต่มีความหมาย มีที่มาที่ไป หลวงพ่อ ท่านบวชตอนที่แม่ท่านเสียชีวิต ในสมัยนั้นหลวงปู่มั่น ท่านเป็นพระกรรมฐาน ที่ดังมากในแถบอีสานหลวงพ่อท่านบอกว่า ท่าน บวชเพื่ออยากจะทราบว่า แม่ท่านไปอยู่ที่ไหน บวชแล้วเดินทางไปพบหลวงปู่มั่น แล้วท่านก็ได้ เรียนกรรมฐานกับหลวงปู่มั่น พร้อมกับพี่น้องของท่าน (เรื่องพี่น้องของท่านนี้จำไม่ได้ท่านไม่ได้กล่าวถึงแน่ชัด) คล้ายๆ นั้นเป็นจุดเริ่มต้น ของการบวชของท่าน ด้วยที่ท่านเป็นผู้ที่ท่านใฝ่ศึกษา ท่านเดินเรียนวิชาแขนงต่างๆ จาก ไทย เขมร ลาว พม่า เดินไปจนถึงอินเดีย ในช่วงอายุท่าน35 พรรษาเท่าไหร่ไม่ได้ถาม ในขณะที่เดินทางกลับมานั้นในป่า แถบชายแดนอินเดียเข้าสู่พม่า นั้นท่านได้ ของคู้บารมี ตรีสูรย์ และประคำงาช้าง ของประจำตัวท่านกลับมา ตรีสูรย์นั้นท่านไม่ได้บอกว่าไปไหนแล้ว แต่ ประคำนี้ท่านบอกว่า ศิษย์ท่านขโมยไป แต่พอเค้าเอาไป รถที่เค้านั้งไปก็เกิดพลิกคว่ำ ผมถามท่านว่าเพราะอะไร หลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดนั้นหรอ ท่านก็ บอกว่า ไอ้ที่มันเอาไปมันไม่รู้จักช้าง มันเอาช้างไม่อยู่ เพราะช้างมันกลัวเสียงแตรรถ (แล้วท่านก็หัวเราะเเบบอารมณ์ดี) ท่านบอกอีกว่า ท่านสร้างวัดมา 31 วัดแล้ว วัดนี้ (หมายถึงวัดสนมลาว) เป็นวัดที่ 32 ท่านบอกอีกว่า ที่ท่านเลือกเมืองนี้เพราะ ชื่อเมืองนี้ ดี สระบุรี ในความหมายของท่าน ท่านว่าเมืองแห่งความอิสระ ท่านบอกผมว่า ท่านจะสร้างวัดนี้เป็นวัดสุดท้าย เรื่องการศึกษาธรรมของท่านนั้นท่านเอาจริงเอาจังอย่างมาก จะจะศึกษาอสุภะกรรมฐานเป็นหลัก มีลูกศิษย์ บริจากศพให้ท่านศึกษา ในสมัยนั้น ท่านอยู่ป่าอยู่ดอย ท่านก็ ดองศพ ผ่าให้เห็นเลยว่า อะไรเป็นอะไร ถ้าใครไม่ได้เข้ามาศึกษากับท่านจะดูท่านแปลกๆ หรือมองในทางที่ผิด แต่ เจตนาท่านจริงแท้แล้ว ท่าน เอาจริงเอาจังกับธรรมะมาก ท่านเคยถูกเจ้าคณะใหญ่หนกลางในสมัยนั้น (จำไม่ได้ว่าเป็นท่านใด) กักตัวใว้ ด้วยเหตุว่าสมัยนั้น หวย ก. ข. ดังมาก มีคนกล่าวหาท่านว่า ท่านมัวเมาหลอกลวง ประชาชน อวดอุตริ.. ท่านก็ ได้ เขียน เลขหวยที่จะออก ใว้ ใส่กล่องแล้วให้เจ้าคณะใหญ่หนกลางนั้นรักษาใว้ พอวันที่หวยออก มา ก็เปิดออกดู ปรากฏว่า ถูกหมดทุกตัว อันนี้ ยังอยู่ในสมัยท่านหนุ่มๆอยู่นะครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

หันกลับมาเรื่องโยนี อีกรอบ

หันกลับมาเรื่องโยนี อีกรอบ ผมเคยถามท่านว่าก่อนที่ท่านจะสร้างโยนีนี้ ท่านมีแรงบันดานใจจากอะไร กระแสแห่งธรรมข้อไหน ท่านว่า ท่านบอกว่า ในสมัยที่ท่านเดินทางศึกษาธรรมอยู่นั้น มีเรื่อง ที่ทำให้ท่านต้องฉงนอยู่เรื่องหนึ่ง(เป็นที่มาของโยนีและวัตถุอีกหลายอย่าง) ท่านบอกว่า มีการล้อมจับโจร โจร หนีเข้าไปในป่าอ้อย ฝ่าย ตำรวจก็ยิงเข้าไปไปยั้ง ยิงกันเป็นวัน ท่านว่าอย่างนั้นนะ พอถึงเย็น ตำรวจ ก็ ตะโกนเข้าไป ว่า ไม่จับ มึ-งก็ได้ แต่มึ-งต้องบอกมาว่ามึ-งมีของดีอะไร ท่านยังบอกอีกว่า สมัยนั้น สัจจะ ในหมู่โจรยังมี ตำรวจก็มี ยิงกันจน ป่าอ้อยราบเป็นแถวๆมันยังยิงสวนมาไม่ยั้ง เลยอยากรู้ว่า มันมีดีอะไร รู้เพียงว่ามันเป็นเขมร พอโจรออกมา ก็มีรอยโดนยิงนะ เข้าที่ท้องนอกนั้น ไม่มีโดนอะไร ในร่างกายนอกจากต้นอ้อยรอบๆตัวเค้า เค้ามี โยนี ผู้หญิง ตากแห้ง แขวนอยู่ที่เอว โจรคนนั้นมันบอกว่า เป็นของเมียมัน แต่เมียมันเล่นชู้ มันก็เลยฆ่าทิ้งเสีย แล้ว ผ่าเอา ของลับหรือโยนี นั้นมาตากแห้ง แล้ว ใช้คาถากำกับตามแบบที่เรียนมา
ทีนี้ มาถึง ตอนใจความสำคัญยิ่งว่า มีลูกศิษย์ ท่าน ทำงานโรงพยาบาล และ ก็ ได้ยินได้ฟัง ท่านเล่าให้ฟังแบบนี้หละเกิดอยากจะได้ นำเอา ฐานนม และ ของสงวนของผู้หญิงที่ตายวันเสาร์และโดนข่มขืน มาให้ท่าน ท่านก็ นำมาเจียวเอาน้ำมัน ว่ากันว่า ในขณะที่เจียวนั้น (ช่วงนั้นผมอยู่ที่อีสานไม่ได้ทำ) แต่เป็นหลวงตา เป็นคนเจียว ว่า กลิ่น แรงมากๆ เอาน้ำมันแล้ว ท่าน ก็ นำมวลสารต่างๆ เช่น ชะมดแปด ซึ่งท่านเลี้ยงไว้เอง และยังมีอีกมาก ท่านสร้าง โยนี เพราะ เป็นเครื่องหมายถึงการเกิด แล้วต่อมาท่านก็ สร้าง ดาว อย่างที่ว่ากัน ไป ท่านสร้างแรกๆไม่มากเพราะ ศิษย์ไม่คิดว่า จะมีประสบการณ์ขนาดนี้ แค่ ปลัดขิกของท่าน สร้างไปโด่งดังซะ จนเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี จนต้องมาขอให้ท่านหยุดสร้างให้เช่าบูชา ท่านก็หยุด แต่ จะทำเป็นรุ่นปลักขิกหัวชะมด จะมีขนาดใหญ่หน่อย เรื่อง ที่ ถกเถียงกันว่า ท่านสร้าง ท่านไม่ได้สร้างนั้น ไม่ไม่ยืนยัน ให้นะ แต่ที่แน่ๆ หลวงพ่อเสกเองแน่ๆ เรื่อง ที่เล่ามานี้ ผมฟังจากปากท่านเอง สมัยที่ผมบวช อยู่ ในปีที่ท่านมรณะนั้นหละ เพราะ ท่านมรณะในช่วงเข้าพรรษา เพราะก่อนเข้าพรรษาผม ก็ ยังไป พักปฏิบัติธรรมกับท่าน ยัง ขออาราธนานิมนต์ท่าน ว่า หลวงพ่อครับ พรรษานี้ กระผม มีธุระ ที่จะต้องไปเรียนนักธรรม ต่อในกรุงเทพ ขอท่าน อย่าพึ่งละสังขารนะขอรับ กระผมยัง ต้องการศึกษาสัพพะวิชาจากท่านอีก หลวงพ่อได้แต่ยิ้ม แล้วกล่าวกับผมว่า สังขารเป็นของไม่เที่ยงแท้ แน่นอนธรรมะของพระพุทธองค์ซิแน่นอนกว่า อย่างท่านนะ ไม่ต้องเรียนอะไรอีกแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว ผมห่วงแต่ ท่านยศ (ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อ ผมเรียกหลวงพี่ยศว่าเป็นศิษย์ไม้เบื่อไม้เมากับหลวงพ่อ) เพราะ หลวงพ่อท่านจะรู้ ว่าศิษย์ คนไหนต้องสอนแบบไหน <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

ถ้าใครเป็นศิษย์ หลวงพ่อจริง จะต้อง ทราบ

ถ้าใครเป็นศิษย์ หลวงพ่อจริง จะต้อง ทราบว่า ศิษย์ที่จำพรรษากับหลวงพ่อแต่ละท่านนั้นไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาในที่นี้ หมายถึง เกเรมากๆ มากจนถึงมากที่สุด มีครั้งหนึ่ง ผม ถามท่านว่าหลวงพ่อครับ ทำไม ท่านต้องเมตตาศิษย์ (ผมพูดแบบนี้จริงๆๆว่า) ศิษย์เลวๆแบบนี้ด้วย ไม่เห็นเค้าเครารพหลวงพ่อเลย ที่เห็นๆ แต่อยากมาเรียนวิชาบ้าง รอเก็บของหลวงพ่อไปขายบ้าง คอยแต่จะทำให้หลวงพ่อลำบากใจ ท่านตอบกับผมจนผมต้อง อึ้ง ว่า..... ท่านเอ้ย....ถ้าพ่อไม่ช่วยเค้า ไม่เอาเค้า คิดหรือว่า อย่างพวกเค้า ใครที่ไหนจะเอา ใครที่ไหนจะช่วย...ปล่อยไปก็จะลังแต่เป็นภาระสังคม สู้ให้อยู่กับพ่อที่นี้หละ แต่แปลกอยู่ ที่ว่า กับศิษย์ บางท่าน ของหลวงพ่อท่านจะดุ ต่อหน้า คนเยอะๆเลยนะครับ บางท่านก็เฉยๆ ผมก็ สวมวิญญาณเจ้าหนูจำไมเลยละครับ ว่า ทำไม เมื่อกี้ หลวงพ่อไม่ ว่าเค้า แต่พอคนมากๆ ถึงว่าเค้า ท่านก็ยิ้มแล้วตอบผมว่า สำหรับท่าน(........) นี้ต้องสอนแบบนี้ เพราะ เค้าไม่คลายจากความโกรธ และ ที่เข้ามาน่ะเพราะหวังลาภสักการะ ก็ต้องให้เห็นธรรมกันกลางวงแห่งความยากนี้หละ .....

เอาละที่เล่ามานี้ ก็จากความรู้สึกที่เครารพในหลวงพ่อครับ ตกหล่นไปบ้าง ก็ ขออภัยนะครับ แล้วถ้าว่างๆ จะเอาเรื่อง ของหลวงพ่อมาเล่าสู่กันฟังอีกนะครับ เรื่องประสบการณ์วัตถุอาถรรย์ของท่านยังมีอีกมากมายนัก เล่าไม่รู้จบครับ ถึงอย่างไร ผมก็ ยืนยันว่า วิชาท่าน วิธีท่าน อาจดู ต่ำ แต่มองให้ดีๆเถอะครับ ต่ำที่คิด อาจจะสูงก็ได้ ก็ลองมองของสูงๆ แถวๆนี้ดูซิ อาจจะต่ำก็ได้

 

เรื่องมวลสารนั้นจริง แต่ไม่ใช้ที่อุดผงนะครับ

เรื่องมวลสารนั้นจริง แต่ไม่ใช้ที่อุดผงนะครับ เพราะ ว่า มวลสาร ที่ผสมทั้งหมดนั้นหละ ของอาถรรพ์ ทั้งนั้น แต่ท่านสร้าง จาก จิตที่เอกอุในเรื่องคาถาพระเวทย์ เจอท่าน ยามไหน ท่านก็ จะกล่าวแต่เรื่อง ธรรม เรื่อง กสิณ และเรื่อง คาถา ท่านว่า ถ้าผม บอกท่านครบเจ็ดครั้งในบนนี้ ท่านจำ ได้ ก็ ใช้ได้เลย พระที่มาฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน บางองค์ อยากเก่ง อยากมีวิชา มาก ท่านก็ให้ไปผสมปูน เพราะท่านจะสร้างอะไร ในวันเองหมด ถ้าใครได้ไป จะบอกได้เลย ว่า ท่านสร้างอะไรของท่าน ไม่สวยเลย ผมเคยถามท่าน ท่านบอกว่า ของสวย ของงามมันเป็นโทษ เวลา พระผสมปูนกันเหนื่อยๆ ท่านก็ จะเดินมาบอก คาถาบ้าง ใครฟังไม่ทันก็ หมดสิทธิ์ แต่ผมรู้ ทัน เอา กระดาศและปากกา ไปด้วย ตกลงกันกับเพื่อนพระด้วยกัน ว่า จำกันคนละท่อนบ้าง อะไรประมาณนี้ ผมเคยถามท่านอีกว่า ทำไม หลวงพ่อชอบสอนคาถา ตอน ผสมปูนเหนื่อยๆ ท่านบอกว่า ใครทำงานไม่มีสติ ก็ อด ไม่ใช้ปัญญา ก็ ไม่ได้ คาถา เป็นแค่ เครื่อง ล้อ วันนี้ บทความสุดท้าน นะ


ผมเคยถามท่านว่า ให้ผม เพ่ง ธงเพราะที่วัดมี เสาร์ธง ตรี โท และเอก เป็นเสาร์ ธงเปลียนดวง ถ้าให้ ดวงไม่ดี หรือ ช้วงนั้นดวงตก ท่านก็ จะ ให้ ทำธง หนักเบา แล้ว แต่ ท่านจะบอก ถ้าเบา ก็ ขึ้นธง ตรี กลางๆก็ โท ถ้าหนักๆก็ ธงเสาร์เอก แต่ ที่แน่ๆ ปลายเสาร์ ธงเอกนั้น มี สปอตไลค์ สว่างมาก และจะเปิดปิดเป็นเวลา ท่านใช้เครื่อง อัตโนมัต เวลา 04.00ถึง 05.00 และค่ำ เวลา 19.00ถึง 20.00 น. จะเป็นเวลา เปิดและปิดไฟ เวลากลางวัน ท่านให้ เพ่ง ธง และกลางคืนท่านให้เพ่งไฟ ถ้า ชอบวง ว่าง ก็ มีที่ปลายจั๊ว นั้นหละ ผมก็ ถามท่านว่า ตกลง หลวงพ่อให้ผม เพ่งทำไมครับ เพราะตอนนั้นไม่รู้จริงๆ ท่าน บอกผมว่า เพ่งมอง ไม่ใช่เพ่งให้ตาถลนออกมา มองเบาๆ แล้วหลับตา ลืมตาเห็นหลับตาเห็น แล้วก็ ว่าง ผมก็ บอกผม คงทำไม่ได้เพราะ มันคิดๆๆๆอยู่นั้นหละ ท่านก็ บอกว่า หยุดคิดให้ได้ซิลูก ทุกอย่าง ให้หยุดให้หมด หยุดคิดแล้ว จะถึงองค์กรรมฐานเอง ........

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ วันพรุ่งนี้ ไปนอกพื้นที่ ถึง สิ้นเดือนโน้น....สวัสดีครับ<o></o>
ด้วยความเครารพทุกท่านครับ<o></o>

 

P'aeziss ครับวันหน้าขอตัวใหญ่ๆๆหน่อยนะพี่มองไม่ค่อยเห็นเลยครับ

 

ก็ไปก๊อปกระทู้เก่าๆที่พวกเชียร์ขายโยนีอุบาท์ มามันจะตัวใหญ่ได้งัย ไม่ลงทุนเลย จะลงโชว์ยังขี้เกียจพิมพ์ ไม่รู้ว่าเขาไปเอาพิมพ์มาจากไหน หรือคนใกล้ตัวถึงทำได้ขนาดนี้ อ้างหลวงพี่ยศ ถ้าอย่างนั้นวันที่ 20 ที่จะถึงไปเอาหลวงพี่ยศ กับหลวงตาที่เจียวน้ำมันมา เจอกับบรรดาลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่หน้าเจดีย์หลวงพ่อเลยดีไหมจะได้ชัดกันไปเลยว่ากล้าไหม(eek) พวกนี้ต้องการขายของอุบาทที่ทำขึ้นมาแต่ขายไม่ออกไม่รู้จะยัดให้ใครเลยยัดให้หลวงพ่อผินะซะเลยลองไปถามเซียนแถวดอนเมืองดูจะรู้ว่าเป็นใครสร้าง มันจ้องจะทำลายชื่อเสียงกันอยู่ เคยเอามายั่งเชิงรอบนึงแล้วโดนถล่มซะเละ ในหลายๆเว็ป ยังไม่เข็ด สงสัยคงจะอดตายแล้วolddเลยเอากลับมาเชียร์กันอีกรอบ

หรือว่าแถว วัดบัวขวัญเขามีคนทำเยอะหรือไง คุณศรันย์
<O

 

อัดกันด้วยเหตุผลเยี่ยมเลย.....ตกลง...ชนหน้าแตกแล้วชิครับอนุโมทนาแล้วถอนคืนได้หรือเปล่า....ไม่หรอกนะครับที่อนุโมทนาเพราะเห็นด้วยกับข้อความแนวปฏิบัติธรรมของหลวงพ่อ...ส่วนเรื่องโยนีความจริงเป็นอย่างนี้
คือเป็นเรื่องเล่าว่าฉันมีนี่โว้ย...ลูกไม่ฆ่าแม่...ทำนองนี้แล้วคนอาจจะตีความหมายกันไปต่างๆนานา...ส่วนเป็นของหญิงมีชู้ดีนะครับไม่เอ่ยชื่อไม่อย่างนั้นหมิ่นประมาท....หญิงมีชู้ว่าไม่ดีแล้วชายมีชู้กับไม่ว่าอะไรดีนะครับที่ไม่มีชายมีชู้แล้วตัดไอ้จู๋มาทำของขลังบ้าง...เรื่องชู้นี้คงต้องถาม..หลง ลงลายจะดีกว่าคิก....คิก....ดีแล้วล่ะครับที่อ้างเป็นห่วงหลวงพี่ยศ...ไม่อ้างหลวงพี่ท่านอื่น....มิฉะนั้นลูกศิษย์เขาจะออกมาสวดเอา....ส่วนมากเรื่องอาถรรพ์หลวงพ่อจะไม่บอกใครเพราะจะลือกันไปทำให้ท่านเสียหาย....หลวงพี่ยศความจริงไม่ใช่ไม้เบื่อไม้เมากับหลวงพ่อแต่เป็นพระขี้น้อยใจเพราะไม่ได้เป็นเลขาทางใจเหมือนหลวงพี่มนต์(ชื่อย่อ)ความจริงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหลวงพี่มน.........(เลขาทางใจ คือเป็นคนใกล้ชิดหลวงพ่อ....สิทธิพิเศษได้ถือกุญแจสำคัญห้องสมบัติมั้งครับ......ที่สำคัญก็สรุปไปเลย..โยนีตากแห้งไม่มี...คงมีแต่ของโจรชิ้นเดียว....ถ้ามีหลายชิ้นก็ระวังรับของโจร.......
เอ้า...อาจารย์โต้งอยู่ไหน..พาหลวงพี่ยศธุดงส์ท่องเว๊ปแก้ข้อกล่าวหาด้วย..คิก...คิก...
ก็เห็นด้วยกับคุณท่าเกย.....แต่ชนจะไม่ไล่อ่านย้อนหลังดูกำพรืดของใครหรอกนะครับเพราะชนพึ่งเข้ามา...
ต้องใช้คำพูดของคุณสบายๆนั่นแหละครับ...ใครทำอย่างไรย่อมรู้อยู่แก่ใจ....ฟังดูเหมือนชนเป็นนกสองหัวนะครับ
แต่อย่าพึ่งดูที่หัวชนไปดูที่หัวปลัดขลิกก่อน.....ปลัดขลิกมีสองหัว....ใครมีความคิดเห็นอย่างไรก็ช่วยกันมั่งเถอะ
ครับ....
ตอนแรกกะว่าจะลงรูปมีดหลังเต่าให้ชมเห็นข้อความของคุณท่าเกย...ตกใจ..เลยไล่ช่างตีมีดกับอรัญญิกไปชะเลย...!...คราวหน้าจะลงมีดหลังวัวดีกว่า.....แต่เป็นวัวสันหลังหวะดีใหมเพื่อนๆ

 

ขอโทษทุกๆท่าน ข้อความผมหายไป 1 หน้า

คือข้อความที่ผมโพสต์ไป ไปก็อปมาจากเวปนึง ซึ่งมันเขียนโจมตีหลวงพ่อ ซึ่งผมรับมันไม่ได้(ไม่ขอกล่าวถึง) เลยหยิบยกมาให้ดูกัน

เผอิญโพสต์ตกไปวรรคนึง ท่านท่าเกยและท่ายอื่นๆ จะด่าผมอย่างไรก็ขอน้อมรับผิดโดยดุษฎีครับ

เวร...กรรม ซวยเลยตู

กราบขออภัยต่อองค์หลวงพ่อและลูกศิษย์ทั้งหลายเป็นอย่างสูงครับ

ขอยืนยันว่าไอ้เรื่องโยนีบ้า อะไรเนี่ย หลวงพ่อไม่เคยทำครับ
หลวงพ่อเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ครับอันนี้ของแท้แน่นอน คอนเฟิร์ม

 

ผิดไปแล้วๆ แต่ก็ยังยืนยันว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ....ที่แล้วมาฉันเสียใจ
ไม่เป็นไรพี่เอาใหม่ สู้ๆ

 

สบายๆๆๆๆๆครับ

นั่งอ่านซะเพลินครับสรุปว่ามีหรือไม่มีครับโยนี ศิษย์หลวงปู่มีอยู่มากมายหลายท่านแล้วก็หลายรุ่นครับ ศิษย์ถ้ำแก้วก็มี ศิษย์วัดตำหนักก็มี ศิษย์ถ้ำแสงจันทร์ก็มี ศิษย์วัดสนมลาวก็มี และอื่นๆๆ ลูกศิษย์ที่ออกมากล่าวถึงท่านอยู่กับหลวงปู่ทุกที่ใหมครับ หรือว่าอยู่กับหลวงปู่แค่ที่ใดที่หนึ่ง โยนีมีหรือไม่มีก็ดีขอแค่ศัทธาในหลวงปู่ก็พอครับ (ไม่มีใครรู้ทุกเรื่องและทุกอย่างครับถ้าไม่ไช่ตัวของเขาเอง) สบายๆๆๆๆๆครับ;8;8;8;8;8

 

กลับมาเรื่องโยนี เจ้าปัญหา ผมเคยได้ยินได้ฟังมาหลายกระแสมาก บางท่านก็บอกว่าใช้ดีมีอะไรให้สัมผัสได้ แต่ส่วนตัวผมคงจะไม่เอาด้วยหรอกครับ (eek)เพราะตอนนี้เห็นเริ่มมีออกตามเว็ปหลายเว็ปเหมือนกันหลังจากเงียบไปพักนึง แต่ผมก็เคยได้ยินจากปากลูกศิษย์ของหลวงพ่อผินะ ที่ปัจจุบันยังบวชเป็นพระอยู่นะครับว่าหลวงพ่อไม่ได้ทำเด็ดขาดท่านให้เอาหัวท่านเป็นประกันเลย(sing)(sing) ส่วนอีกกระแสมีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งที่เป็นเจ้าของกะลาที่นำมาโชว์อยู่ ได้โทรมาคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ได้เล่าให้ฟังว่ารู้ตัวเจ้าของที่ทำโยนีด้วย รู้สึกว่าจะทำแถวๆดอนเมืองหรืออะไรทำนองนี้แหละครับ. โดยเป็นอาจารย์ท่านอื่นโดยไม่มีเจตนาจะให้เป็นของหลวงพ่อผินะเลย แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผล กลใดหรือใครจับยัดดันกลายมาเป็นของหลวงพ่อผินะสร้างซะงั้น (555) (555) (555) เจ้าของมาเห็นยังงงๆอยู่เลยได้ยินได้ฟังมาเลยเอามาเล่าสู่กันฟัง หรือใครที่ทราบที่มาที่ไปของโยนีเจ้าปัญหา ลองเล่าสู่กันฟังบ้างก็จะดีนะครับ..จะได้กระจ่างกันเสียที

:z3แล้วตกลงยังไม่รู้เหตุผลเลยว่า aeziss ต้องการนำเสนออะไรครับ:z16

 

พระมนตรี มาจาก วัดพระพุทธฉาย อาจารย์ยศ เป็นคนพามา อาจารย์ยศ กับ พระมนตรี ไม่ถูกกันเพราะแย่งกันเป็นเลขา ส่วนโยนี หลวงพ่อจัดสร้างล้านเปอร์เซ็นต์ คนที่ปั้มเนื้อโยนีใส่ว่านเสน่ห์ช่วยหลวงพ่อยังอยู่ พระมนตรี ไม่ทันสร้างเนื้อโยนี คนที่ทันและทำ ชื่อลุงปลัด และ ตาคิ้ม ทำบล็อคแรก มีไม่ถึง 10 ดวง เพราะมีเนื้อล้วน พระมนตรีและอาจารย์ยศ เสกทรายไม่เปียกน้ำ ทำสำเร็จหรือยัง ส่วนวัตถุมงคลหลวงพ่อทุกชิ้นผสมไม้รู้นอน ที่เรียกว่าไม้มงคล หลวงพ่อเรียกไม้รู้นอน (ไม้ที่เอามือแตะแล้วหุบ)

 

5555555 คุณ thao ครับ..คนที่เขารู้เรื่งโยนี ไม่รู้จริงหรือปลอมเขาตอบมาแล้วเป็นไง......ไม่รู้ว่าเป็นทีมงานใครถึงขนาดทนไม่ไหวจนต้องสมัครเข้ามาตอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ....55555555 ไม่รู้ร้อนตัวหรือเปล่า..<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
6666 เอ้ากดผิด...55555 ..แต่คุณปลัดก็ไม่ได้บอกเหมือนกันนะว่าที่เข้ามาตอบเพราะอะไร..ร้อนตัวกลัวของที่มีปล่อยไม่<o></o>
ออกหรืออยากจะบอกอะไร<o></o>
<o> </o>
ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใครปลัด.......ปลัดอำเภอ.....ปลัดอบต. ......ปลัดขิ...... .......คุณไม่ได้บอกและคุณเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อผินะหรือเปล่า....คุณก็ไม่ได้บอก.....<o></o>
<o></o>
แต่ถ้าคุณเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อผินะจริงๆ ลูกศิษย์เขาทำกับคนที่เป็นอาจารย์แบบนี้หรือ..ถ้าเป็นศิษย์ที่แท้จริงเขาคงไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอก....คุณปลัดขิ.. ทำเพื่ออะไร....โชว์ว่ารู้ข้อมูลมากกว่าคนอื่น....หรือไง...... แต่ถ้าเป็นศิษย์แบบผิวเผินเพื่อผลประโยชน์บางอย่างมันทำได้......<o></o>
<o></o>
ผมว่าคุณควรลาออกซะดีกว่า.......555555 เพื่อรักษาคณะรัฐบาลเอาไว้.....55555 อย่าให้เราต้องสูญเสียดินแดนของเราไปมากกว่านี้เลย.......ออกไป...ออกไป... ออกไป......ออกไป......ออกไป ......โห...อิน มากเลย.. <o></o>
<o></o>
ไม่ใช่เสียดินแดน ....แต่เป็นการเสื่อมเสียชื่อเสียงหลวงพ่อผินะท่าน.....ที่ท่านอุตส่าห์เพียรพยายามค้นหาธรรมที่ท่านต้องการเรียนรู้ ผมไม่ทราบว่าท่านฟังเรื่องนี้มาจากใคร จะเป็นพระ..เป็นเซียน....หรือคนที่ขายของอุบาท์นี้ให้...หรือคุณรวบรวมแล้วแต่งขึ้นเอง...<o></o>
<o></o>
ผมถาม ถ้าคนที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ......ยังมีชีวิตอยู่ไม่ว่าพระหรือคน กล้าแบบกระทู้ที่แล้วหรือเปล่า เจอกันหน้าเจดีย์หลวงพ่อเลย วันที่ 20 นี้ เอาโยนี ญาติคุณมาด้วย..ให้หลวงพ่อท่านดูเลย...<o></o>
<o></o>
แล้วคนที่ได้ 1 ใน 10 อันที่ว่าให้เอามาด้วย แล้วถามว่าเอามาจากใครซื้อมาหรือให้มา เอามานมาด้วยเจอกันที่หน้าเจดีย์เลยขนกันมาให้หมดจะได้รู้กันไปเลย....ว่าโดนเขาแหกตามานานเท่าไหร่แล้ว..คุณบอกมี 10 อัน แต่ที่นับดูในเว็ป ทั่วไปที่เขาทะเลาะกันมีกี่แบบ.... กี่เนื้อแล้ว คุณปลัดขิ......โดนมาเท่าไหร่ล่ะ.....5555<o></o>
<o> </o>
<o> </o>
<o></o>
ออกไป.........ออกไป.........ออกไป.........ออกไป.........ออกไป.........ออกไป.........ออกไป.........ออกไป.........<o></o>
<o> </o>

 

วันที่ 20 ก.คนี้ มีการทอดผ้าป่าที่วัดสนมลาวนะครับ หากท่านใดว่างก็รบกวนไปร่วมบุญกันนะครับ ส่วนเรื่องโยนีนั้น ผมไม่ขอคัดค้านหรือเห็นด้วยกับ ผู้หนึ่งผู้ใดนะครับ แต่ถ้าหากใครอยากจะทำตามคำแนะนำของคุณมนัส ได้ก็ดีนะครับ พวกเราๆท่านทั้งหลายจะได้บทสรุปกันเสียทีครับ เอาให้รู้แค่ว่าหลวงปู่สร้างหรือไม่กันก่อนก็พอครับ ไม่ใช่เพื่อจะมาอวดว่าใครรู้ลึกรู้จริงมากกว่ากัน แต่เพื่อความกระจ่างเท่านั้นเอง เพราะว่าถ้าพวกเราเป็นลูกศิษย์ที่ไม่ใช่ลูกสั.....ว์เราก็ต้องมาคุยกันด้วยความสมานฉันท์น่าจะดีที่สุดครับ ไม่ว่าบทสรุปจะออกมาอย่างไรท่านทั้งสอง คือ คุณมนัสกับคุณปลัด ก็จะเป็นเหมือนดังครูบาอาจารย์ที่คอยให้คำแนะนำกับคนรุ่นหลังได้ศีกษากันครับ
ขอบคุณด้วยมิตรภาพครับ

 

เราว่าแบบนี้ดีไหม ให้คนที่มีโยนีที่ว่าเลี่ยมให้ดีเลยนะ แล้วเอาแขวนคอเดินตามถนนโชว์ออก นอกเสื้อแบบจตุคามเลยดีไหม เอาอันที่ใหญ่ๆ หน่อยนะยิ่งใหญ่เท่าไหร่ ยิ่งดี......ติดพลอยแดงๆด้วยตามที่ทำไว้ มีหลายพิมพ์เลยไม่ใช่เหรอ.
ชอบจัง ปลัดขิ.......<O

 

คุณปลัดขิ. ครับกล่าวหาพระซะเสียเลยนะเนี้ย ข้อดีท่านก็อาจมีข้อเสียท่านก็อาจมี อันนี้ไม่มีใครรู้หรอก แต่ไปเอาชื่อท่านมาโพสแบบนี้มันไม่เข้าท่านะ จะเล่นอะไรก็อย่าให้น่าเกียจมากเลย อยู่ในขอบบ้าง อย่างน้อยถ้าคุณนับถือหลวงปู่หลวงพี่ท่านก็นับว่าเป็นศิษพี่คุณนะ


(ใครเขาเอาพระเอาเจ้ามาล้อเล่น บาบกำนะ นี่เล่นใส่เน็ตเลย เฮ่อๆๆไม่อยากคิด)



และถ้าตัวคุณทำดีมา 100 ครั่งๆที่ 101 คุณทำผิดแล้วมีคนด่าใสเน็ตคนเข้าก็ต้องมองคุณไปในทางไม่ดีหมดซิครับ(ถ้ามีคนทำกับคุณคุณจะว่ายังไง)



ส่วนเรื่องโยณีแม่งก็เอากันใหญ่เลยเหนื่อยจาย แต่ไม่เป็นไรของอย่างอื่นมีให้เล่นตั้งเยอะเล่นทำไมโยณีไม่สบายใจก็อย่าไปเล่น



เดี๋ยวปะด่าแสบๆๆเลย ไอ้ถลอก (เวลาเป็นแผลมันจะแสบๆครับ)

 

ที่ผมออกมาคือไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อ คือผมไม่มีโยนีของหลวงพ่อคับ และไม่ได้ร้อนตัวหรือตัวร้อน สบายสบายอยู่แล้ว เพราะผมไม่ได้มีอาชีพทางด้านนี้ไม่ได้ค้าขายพระหรือพุทธพาณิชย์ เพียงแต่ไม่อยากให้มาทะเลาะกัน อยากให้คุยกันด้วยเหตุและผล มาเทิดทูนครูบาอาจารย์กันดีกว่า ส่วนเรื่องโยนี ของจริงส่วนใหญ่อยู่กับนายทหาร นายตำรวจ และ คนที่มีฐานะ เท่านั้นและคนที่มีก้อไม่ยอมปล่อยออกมาง่ายๆ หรอกคับ เพราะของดีใครก้ออยากได้ และคนที่มีก้อไม่ได้เดือดร้อนอะไร
ผมถาม ถ้าคนที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ......ยังมีชีวิตอยู่ไม่ว่าพระหรือคน กล้าแบบกระทู้ที่แล้วหรือเปล่า เจอกันหน้าเจดีย์หลวงพ่อเลย วันที่ 20 นี้ เอาโยนี ญาติคุณมาด้วย..ให้หลวงพ่อท่านดูเลย...
ผมอยากถามว่าให้หลวงพ่อที่ไหนดูคับ แล้วที่วัดสนมลาวตอนนี้มีพระองค์ไหนที่อยู่ทันหลวงพ่อบ้าง จริงแล้วชื่อที่หลวงพ่อเรียก ปลัดขิก จะเรียกว่า องค์กำเนิด และ โยนี เรียกว่า แม่กำเนิด (แม่จีหอย) ทุกอย่างที่หลวงพ่อสร้างไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคลหรืออาคาร ทุกอย่างเป็นปริศนาธรรมมทั้งหมด วันที่ 20 ลองสอบถามพระที่วัดว่าเสาที่หลวงพ่อสร้าง ท่านสร้างไว้เพื่ออะไร ผมอยากให้ทุกท่านที่เข้ามาช่วยกันเทิดทูนและระลึกถึงองค์หลวงพ่อกันดีกว่า ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนทั้งนั้น เพราะผมชอบแนวทางปฏิบัติและการสอนของท่าน ถ้าอยากรู้ความจริงเรื่องราวและวัตถุมงคลของหลวงพ่อทั้งหมดให้ไปถามท่านอาจารย์ประยูร อโสโก จะดีที่สุด เพราะอยู่กับหลวงพ่อนานที่สุด จะให้คำตอบที่กระจ่าง ถามเจ้าอาวาสได้ว่าอาจารย์ประยูร อยู่ที่ไหน แล้วเรามาเขียนเทิดทูนครูบาอาจารย์กันดีกว่ามาแบ่งพวกกัน เพราะใครทำอะไรก็จะได้แบบนั้น (กินอะไรก็จะได้แบบนั้น) เช่นกัน<O

 

ผมไม่ทราบว่าคุณเทิดทูน ครูบาอาจารย์ ของคุณแบบนี้เหรอครับ..หรือแบบถ้าคุณเป็นนักเรียนคุณคงเทิดทูนแบบว่า

 

ว้า อุตส่าห์อดใจรอ นึกว่าจะได้เห็น อีตาปลัดขิ.....เดินแขวนโยนีอันใหญ่เดินโชว์ ในวันที่ 20 นี้ ที่ไหนได้ก็ไปฟังหลวงตาแก่ๆเล่าให้ฟัง ผมเห็นด้วยกับคุณมนัส123 ที่ว่าผมไม่ทราบว่าคุณเทิดทูน ครูบาอาจารย์ ของคุณแบบนี้เหรอครับ..หรือแบบถ้าคุณเป็นนักเรียนคุณคงเทิดทูนแบบว่า

 

สบายสบาย เพราะใครทำอะไรก็จะได้แบบนั้น (กินอะไรก็จะได้แบบนั้น)