กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

(ปักหมุด50) หน้า73ลำดับที่ #1451



(โพสต์โดย บรุษไร้เงา(อจ.นพ)

เรื่อง เกี่ยวกับการห้อยวัตถุมงคล
การสวดมนต์ภาวนา
ล้วนเป็นอุบายในการเป็นเครื่อง
เชื่อมโยงเข้าถึงต้นพลังงาน
ที่ระลึกถึงอยู่แล้วปกติ

ส่วนตัวไม่ห้อยเมื่อก่อน เข้าใจเอาเอง
ว่าถ้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ยังไงผีก็ไม่หลอก
เข้าใจไปเองว่าผีมีเหตุผล
และไม่เคยโดนผีหลอกเลย
เพราะแม้เค้าจะมาให้เจอ
ก็ไม่ได้มีกะแสที่จะส่งมาให้เรากลัว
แต่เรื่องตกใจมีบ้าง
เป็นปกติแล้วแต่สถานะการณ์
แต่ถ้ามาสภาพไม่สมบูรณ์
หน้าหายไปแถบ ตัวดำๆ
หรือหน้าดีๆส่วนตัวจะเฉยๆ
เพราะเข้าใจได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ
เป็นเรื่องไม่ตั้งใจ อะไรทำนองนี้

เด่วมีนิทานมาโม้ให้ฟังเรื่องหนึ่ง
อย่างเคยไปได้ช่วยดู
เคสหนึ่งคดีดัง กับทนายดังหลายปีแล้ว
ที่อีกฝ่ายพยายามให้ดูเป็นคดีฆ่าตัวตาย
(จริงๆข้างทนายคนนั้นมีน้องรู้จักกันดี
ที่มีความสามารถภายในแบบสากล
เป็นพวกตาดี เครื่องรู้ดีช่วยงานอยู่แล้ว
ณ เวลานั้น).

เรื่อง คืออีกฝ่ายไปจ้างหมอผี
มาผูกหรือสกดดวงวิญญาณไว้
(ฟังหูไว้หู)
เหตุเพราะ เด็กผู้เสียชีวิต
ไปเข้าฝันคนโน้นคนนี้
ทำให้สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติม
และอาจพลิกคดีได้นั่นเอง

คือตอนที่เด็กมาให้เห็นนี่หละ
มันจะมีระยะห่างซัก๓ ถึง ๔ เมตร
เนื่องจากเค้ามาได้ตามสภาพ
จึงแลดูน่ากลัวเล็กน้อย
นึกสภาพตามเนาะ ถูกจับทิ้งน้ำ
แล้วดวงวิญญาณยังถูกหมอผีมัด
ฝั่งอยู่ในน้ำอีก เวลามาหาเรา
ก็ยังหันซ้ายหันขวา คล้ายๆระแวง
จะถูกทำร้ายประมานนี้
จบนิทาน

แต่เรื่องทางโลกเราจะว่ากันด้วยหลักฐานพยานนะ ไม่ใช่เชื่อแบบนี้ หรือใช้เรื่องนี้
เป็นเกณฑ์. แต่ก็มักเห็นพวกสายปราบปราบ
ชอบไปถามพระเกจิว่า
ใครเป็นคนทำ คนขโมย เป็นประจำ ๕๕๕

ถ้าจะกลัว
จะกลัวคนกรณีกลางคืน
กลัวสัตว์มีพิษที่ออกหากินปกติกลางคืนมากกว่า เพราะเค้าไม่ได้เจตนาทำเรา
แต่จะป้องกันตัวเอง ถ้าเราเผลอไปคุกคามเค้าโดยไม่ได้ครั้งใจ
หรือเวลาไปที่เปลี่ยวๆ ที่ไม่คุ้นเคย
เดินทางคนเดียว. หรือไปนั่งชิวๆ
ในบริเวนที่มี คนชอบอวดบารมีหาเรื่องกัน
เพราะอาจโดนลูกหลง ข้อหาจำผิดคนได้ ทำนองนี้. เป็นที่มาของความจำเป็น
ที่บางคนต้องมีเครื่องมือไว้ป้องกัน
ชีวิตและทรัพย์สินนั่นแล

(โพสต์โดย บรุษไร้เงา(อจ.นพ)



***************************************
(ปักหมุด51) หน้า74ลำดับที่ #1464

เรื่อง รักๆ...รักกันไว้เถิดเพื่อต้อนรับปีใหม่2568
(จากปัญหาหัวใจของmaxmi ↑
"ช่วงนี้กำลังมีความรักเลยไม่ได้เข้ามา
กำลังดูอยู่ว่าเป็นเนื้อคู่ป่าว ความรักบังตา มารัก
หรือมาหลอก ทำไงดีนะไม่เคยมีแฟน ดูไม่ออก

ผมกลับมาถึง...
รีบเข้ามาทำภาระกิจอันเร่งด่วนนี้ก่อน

คือตอบเรื่องที่ตนเองเคยถนัด 555
สำหรับ*Max*โดยเฉพาะ
ความรักทำให้คนตาบอด
บางครั้งเหมือนเส้นผมบังภูเขา
หล่อนยืนอยู่ใกล้ๆ...เรากลับมองไม่ชัด
ทำไมเข้าใจหล่อนยากจิงๆ
นานๆเข้ากลับกลายเป็นหลอน
"...มารัก หรือ มาหลอก ทำไงดีนะ
ไม่เคยมีแฟน ดูไม่ออก..."

ใจเย็นๆ...ใช้ความใกล้ชิด...พิชิตหัวใจหล่อน
ค่อยๆศึกษาดูใจซึ่งกันและกัน

ถ้าเราไม่หล่อ ไม่สวย...ไม่รวย
หล่อนปิ้งเรา...แสดงว่าตรงสเป็กหล่อน
หล่อนอาจจะชอบ*Max*ในสิ่งที่คนอื่นไม่มี
สาวๆเช่นกัน...ถ้าเจอเคสนี้
...ก็ปลอดภัยไปกว่าครึ่ง

ใช้เวลาคบหาไปนานๆหน่อย
อย่ารีบด่วนทำอะไรโดย...
...พละการ และพละกำลัง(ในมุมมืด)
...อันอาจทำให้หล่อนตกใจ

*ไม่ต้องเร่งด่วน*
ทางด่วนมี..แต่บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้มัน

...เพราะเนื้อคู่คือเรื่องสำคัญของชีวิต
ถ้าเป็นเนื้อคู่จริง...
พรหมลิขิตจะดลบันดาลให้สมหวัง

เคยฟังเพลงพรหมลิขิต...หรือไม่
...ถ้า 9 อยู่ใกล้ๆ..จะร้องสดๆให้ฟัง

(9@Phonlee 28 กันบายน 2518)


***************************************************************

(ปักหมุด52) หน้า74ลำดับที่ #1475


เรื่อง เช้านี้นำธรรมะง่ายๆของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
มาให้อ่านเพื่อต้อนรับปีมะเส็ง2568 อาจช่วยแก้เซ็งได้

เพราะชอบๆจึงเลือกบางตอนมาลงไว้ดังนี้

“คนเราเกิดมามีการสั่งสมสันดานจนเป็นคนนั้นๆ เช่น เกิดมาก็มีสันดานของตัวเอง ซึ่งทุกคนล้วนมีสันดานและตายไปกับสันดานนั้น ถือว่าไม่บรรลุธรรม เพราะไม่มีเปลี่ยนแปลงและไม่มีธรรมในใจ”

เฉลิมชัยกล่าวพร้อมอธิบายเสริมว่า แม้จะนั่งสวดมนต์ นั่งหลับตา รู้แต่บทสวด บทท่อง หลับตา แต่ไม่รู้จักคำว่า “ปัญญา”ก็หลุดพ้นทุกข์ ไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องย่อสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูดให้น้อยที่สุด และปฏิบัติหรือทำแต่สิ่งดี สร้างการเปลี่ยนแปลงให้มากที่สุดแทน การบรรลุธรรม คือ การที่เราต้องรู้การเปลี่ยนแปลงตัวเรา รู้ธรรมชาติในใจ พัฒนาปัญญา กำหนดรู้สติ นั่นคือการมีธรรมในใจ

มนุษย์เรานั้นมีสันดาน 2 อย่าง ได้แก่
สิ่งที่ดีที่สุดในภพชาติ
และสิ่งที่ไม่ดีที่ติดตัวมา
แต่จะทำอย่างให้สิ่งที่ไม่ดีหลุดไป



สวัสดีปีใหม่ 2568 ขอให้ทุกท่านมีความสุข
และโชคดีได้พบเห็นแต่เรื่องดีๆในชีวิต

 

สาธุครับท่าน9

 

นายกฯ อิ๊งค์ นุ่งผ้าถุง เปิดงานบั้งไฟพญานาค บอกเป็นครั้งแรกที่มา ชมจัดได้ยิ่งใหญ่
นายกฯ แพทองธาร ยกคณะบุกหนองคายเปิดงานบั้งไฟพญานาค นางรำออกปากชม “น่าฮักมาก” ทักทายนางรำเด็ก บอกอยากซื้อไปใส่ให้ลูก ยกงาน “บุญบั้งไฟ” สร้างโอกาสชาวอีสาน ระบุซอฟต์พาวเวอร์ต้องสร้างและนำเสนอให้คนหลงใหล ก่อนอัญเชิญพานพญานาคบวงสรวง

วันที่ 17 ตุลาคม 2567 เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ออกเดินทางจากไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ก่อนจะเดินทางต่อไปยังลานนาคาเบิกฟ้า อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เพื่อเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตนาคราช เนื่องในงานประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567 ซึ่งถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ด้านศิลปวัฒนธรรมของ
ประเทศไทย จากนั้นเวลา 16.00 น. น.ส.แพทองธาร เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี โดยน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีและหน่วยงานต่างๆ รอให้การต้อนรับ เมื่อเดินทางถึงนายกฯ ได้เปลี่ยนสวมใส่ผ้าถุงสีเงิน ซึ่งมีลวดลายจากบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ และคาดผ้าสไบมัดหมี่ทอด้วยมือ สีส้มอิฐหรือสีน้ำตาลอิฐ ซึ่งเป็นสีอัตลักษณ์ของหนองคาย (เป็นสีตะกอนของแม่น้ำโขง) จ.หนองคาย ลายนาคใหญ่ (พญานาค 7 เศียร) ซึ่งมีความหมายถึงความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ โดยลายผ้าเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัด ที่ได้แรงบันดาลใจจากความเชื่อและคติความผูกพันกับพญานาค ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาแม่น้ำโขง ซึ่งชาวหนองคายเชื่อว่า พญานาคสามารถดลบันดาลความสุข ความสำเร็จ และความเจริญให้กับผู้ศรัทธา



จากนั้นน.ส.แพทองธาร น.ส.สุดาวรรณ น.ส.จิราพร เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กล 5558 อุดรธานี ถึงลานนาคาเบิกฟ้า อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ในเวลา 17.30 น. โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย เขต 2 พรรคเพื่อไทย และนายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย เขต 3 พรรคเพื่อไทย รอต้อนรับ พร้อมทั้งมีคนเสื้อแดงมารอมอบช่อดอกกุหลาบให้นายกฯ ก่อนจะเดินทักทายประชาชนและถ่ายรูปเซลฟี่กับประชาชนที่มาร่วมงานอย่างคึกคักและเป็นกันเอง นอกจากนี้ นายกฯ ยังเดินทักทายและถ่ายรูปร่วมกับนางรำจำนวน 1,000 คน ที่มารำบวงสรวงในพิธี ซึ่งตลอดเส้นทางนางรำต่างพูดชมนายกฯ ว่า “น่าฮักมาก” และ “สวยมาก” นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ทักทายนางรำที่เป็นเด็ก พร้อมสอบถามว่า “อายุเท่าไหร่ สวมชุดนางรำน่ารักมาก อยากซื้อไปให้ลูกใส่”



จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า สวัสดีพี่น้องชาวหนองคายทุกท่านและทุกๆ คนที่อยู่ในที่นี้ และสวัสดีรัฐมนตรี สส. สื่อมวลชน ประชาชนที่รักทุกท่าน วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มางานบุญบั้งไฟ ถือเป็นครั้งแรกของตัวดิฉัน ฉะนั้นขอเสียงตบมือดังๆ ให้งานนี้ ซึ่งถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของชาวอีสานและทีมงานซอฟต์พาวเวอร์ที่จะผลักดันเทศกาลต่างๆ และรู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่จะสร้างโอกาสให้กับพี่น้องชาวอีสานได้มาก เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สวยงาม และเป็นงานที่มีความเชื่อของคนอีสานอยู่มาก ตั้งแต่นานมากแล้ว รู้สึกมีเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ และสามารถที่จะใส่ความคิดสร้างสรรค์หรือเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไป เพื่อที่ทำให้คนทั่วโลกได้เห็น และสัมผัสสิ่งที่ชาวอีสานได้ทำกันมาต่อเนื่อง อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลพร้อมที่จะผลักดัน ซึ่งในกระบวนการต่างๆ ได้เริ่มทำแล้วฉะนั้นการที่มีเทศกาลดีๆ แบบนี้ที่อีสานเราจะผลักดัน เพราะไม่ใช่แค่เทศกาลนี้ยังมีเทศกาลอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นแห่เทียนพรรษา ไหลเรือไฟและอีกหลายเทศกาลที่มีเสน่ห์มาก

นายกฯ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นซอฟต์พาวเวอร์เป็นสิ่งที่เราต้องสร้างเสน่ห์ มีเสน่ห์อะไรให้คนเข้ามาหลงใหล หรือเข้ามาหาเรา และนี่คือหนึ่งในเทศกาลที่จะทำให้เศรษฐกิจของพื้นที่หมุนเวียน ถ้าดูชาวต่างชาติทั้งโลกรู้จักเทศกาลนี้ของอีสาน คนอีสานต้องรวยแน่ๆ ใช่หรือเปล่า ฉะนั้นอยากจะบอกว่าวันนี้มาให้กำลังใจทุกท่าน เดี๋ยวเราจะพัฒนาในสิ่งที่ชาวอีสานมีอยู่แล้ว ให้เป็นสมบัติของชาวอีสานให้ดียิ่งขึ้นเป็นที่รู้จักมากขึ้น และต้องสวัสดีทุกท่านดีใจมากๆ ที่ได้มาจ.หนองคายในวันนี้



จากนั้นนายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ จุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระรัตนตรัย และเป็นประธานถวายจตุปัจจัย แด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูปก่อนที่นายกฯ จะเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตนาคราช เนื่องในงานประเพณีออกพรรษา และพิธีเปิดงานบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567
ต่อมานายกฯ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงวันเปิดโลก บูชาพระพุทธเจ้าและบูชาพญานาค โดยนายกฯ และรัฐมนตรีผู้หญิง รวมถึง น.ส.แอนโทเนีย โพซิ้ว รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 อัญเชิญพานพญานาคบวงสรวง และพราหมณ์กล่าวคาถาบูชาเริ่มพิธีบวงสรวง ก่อนที่นายกฯ และรัฐมนตรี จะโปรยเครื่องดอกไม้ เพื่อบวงสรวงวันเปิดโลกบูชาพระพุทธเจ้าและบูชาพญานาค และชมรำบวงสรวงพญาพิสัยสัตนาคราช และเหล่าพญานาคที่สถิตอยู่ลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีนายกฯ เดินทางกลับกรุงเทพฯ



(แหล่งที่มา https://www.thairath.co.th/news/)

 

(ปักหมุด53) หน้า75ลำดับที่ #1493


เรื่อง อจ.นพเล่าประสบการณ์ลี้ลับ

ส่วนนี้เล่าให้ฟังเฉยๆ น่าจะหลายปีแระ
เป็นปฐมบท มหากาฬ ของการพบเจอ
กายคล้ายพระพุทธรูป คล้ายพระปัจจเจก พระสงฆ์มีชื่อในอดีตทั้งหลาย
รูปปั้นมีชื่อทั้งหลายที่คนไทยกราบไหว้
ทั้งไทย จีนพราหมณ์ และฝรั่งบางท่าน
และการเข้าไปข้องกับภพภูมิเกือบทุกวัน
เกือบสองถึงสามปี เรียกว่าช่วงนั้น
ถ้าถามว่าปี้นี้ไม่เจอผีกี่วัน
จะตอบได้ง่ายกว่า เคยเจออะไรบ้าง
ที่เล่ามามีแต่พระปัจจเจกกับเทพฝรั่งเท่านั้น
ที่เคยพบในนิมิต นอกนั้นเห็นแบบ
ตาเปล่าๆธรรมดาเหมือนมองคนทั่วไปนี่หละ
คือเล่าไปเหมือนโม้หน่อยๆ
แต่ว่า สามารถเกิดขึ้นได้

เรื่องการเสด็จมาของพระสรีระนั้น
(ตอนนั้นยังไม่มีพระธาตุเสด็จมา)
มักจะมีนิมิต มาให้ทราบก่อนหน้าเสมอ
อย่างส่วนตัวก็พอเคยมีประสบการณ์บ้าง
ตัวอย่างครั้งแรกเลยที่มีพระสรีระเสด็จมา
เพิ่มจำนวน ๗ สีและมาหลายองค์นั้น

เกิดนิมิต พบรูปกายแบบพระพุทธรูป
เสด็จมา ๓ องค์ ถ้าเอ่ยพระนามคิดว่า
คงทราบกันดี องค์แรกอยู่กลางสูงกว่า
อีก ๒ องค์อยู่ต่ำลงมาซ้ายและขวา

ซักพัก ก็ปรากฎรูปกายคล้ายพระสงฆ์ ๒ท่าน
ในอดีตที่ล่วงลับไปแล้ว มาในต่ำแหน่ง
ที่ต่ำกว่า พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์

ความรู้สึกคือ เหมือนท่านมีเมตตามาก
ทั้งที่ ๒ ท่านส่วนตัวไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ
ตอนท่านมีชีวิต และไม่เคย
ไปวัดท่านมาก่อนเลย

ที่เล่าจะสื่อว่า การมีสิ่งเหล่านี้
เกิดขึ้น ไม่ได้ประกันว่า
เราจะเป็นคนที่ไม่ธรรมดา
หรือเป็นคนดีอะไร
เพราะตราบใดที่เรายังประมาท
ก็มีโอกาสที่จะเดินออกนอกเส้นทาง
ได้เสมอ เพียงแต่ว่า ควรจะรู้ตัวให้เร็ว
และกลับมาให้ไว เพราะพึ่งระลึกเสมอว่า
ถ้าเราดีจริง เราคงไม่ได้มาเวียนว่าย
ตายเกิดแล้ว ดังนั้นเรื่องอะไร
ที่ทำให้ใจเรามันเศร้าหมอง
หรือทำแล้วให้ใจเรารู้สึกว่าไม่บริสุทธิ์
เราก็พึงค่อยๆละ ค่อยๆวางมันซะ
เพราะเราไม่ใช่พระอรหันต์
ที่จะตัดโช๊ะได้ทันที
และตำราตัวอักษรก็ไม่ได้
ส่งผลต่อพฤติกรรมทางจิตเรา

กิริยาภายนอก เป็นสื่อในการดำรงชีวิต
อยู่ร่วมกับสังคมและธรรมชาติให้ได้อย่าง
แยบยล ส่วนใจเรานั้น
ตัวเราเอง จะรู้ดีที่สุด

ดังนั้นเมื่อ ดาวโลกเป็นอย่างนี้
เราอาศัยดาวนี้อยู่
ก็ควรอยู่รวมกันอย่าง
แยบยล และมีความสุข
ในแบบของเรา.

รู้ละ รู้วาง รู้ว่าง ทุกนาที
ชีวิตนี้มีแต่สุข ทุกข์ไม่มี
ชะเอิงเอยย. จบ
นิทานปนโม้


บุรุษไร้เงา( อจ.นพ)1 ตุลาคม 2018

**********************************************

(ปักหมุด54) หน้า75ลำดับที่ #1500


เรื่อง อจ.นพแนะนำเทคนิคการสวดมนต์

แนะนำว่า ให้ท่องในใจให้ได้
และลืมตาสวดอย่าขยับซ้าย(เพราะจะคิดเรื่องใหม่)
และขวา(เพราะจะคิดเรื่องเก่า)
และให้มองผ่านนิ้วกลาง
ที่พนมมือตรงหน้าอก
สูงประมานหนึ่งนิ้ว(มองผ่าน)
ถ้าล้าสายตาก็พัก

ให้สวดไปเรื่อยๆ
ไม่ต้องสนใจเรื่องวรรคตอน
และหายใจเข้าออกให้ลึกถึงท้อง
แต่ทำความรู้สึกว่าลมหายใจหยุด
ที่ปลายจมูกพอ.

ทำไปเรื่อยอย่าตกใจ
ถ้าเห็นอากาศรอบตัว
มันเคลื่อนไหวได้ ไม่ว่าสีอะไร อย่าสน
ให้ทำจนเห็นว่ามันใส ด้วยตาเปล่าๆนั่นหละ
เเละเร็ว วิ่งขึ้นบนได้
ถือว่าใช้ได้

ปล ทำได้แล้ว ต่อไปไม่ต้องนาน
ครั้งละนาที สองนาที
ผลก็มากกว่าท่องบ่นเป็นชั่วโมง
ที่พูดเป็นเทคนิคคอลเทอม
ใช้ก่อนสวมวัตถุมงคลได้หมด


บุรุษไร้เงา(อจ.นพ)

 

เจนี่ น้ำตาไหล เข้าถ้ำตามหาอดีตชาติพญานาค ได้ปลดล็อก อธิษฐานตัดภพจบชาติ
(27 ธ.ค. 2567 18:21 น.)


ทำเอาแฟนๆ ฮือฮาไม่น้อย เมื่อนักแสดงสาวตัวแม่อย่าง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ TheGhostSecret และใน EP.227 พันธกรรมคำสัตย์ เจนี่ก็ได้เข้าไปที่ถ้ำศรีมงคล และได้รู้อดีตชาติของตัวเอง พร้อมกับอธิษฐานตัดภพจบชาติทิ้งอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยน้ำตา

แต่ก่อนจะได้เข้าไปในถ้ำ ก็มีปัญหาติดขัด เพราะไม่มีพระอยู่ จึงต้องติดต่อขออนุญาตอยู่สักพัก และเมื่อขออนุญาตทุกอย่างเรียบร้อย ก็เข้าไปในถ้ำกัน ในระหว่างที่กำลังเข้าไปในถ้ำอาจารย์โอเล่พูดกับส้มเช้งและชี้ไปที่เจนี่ว่า ช่างกล้ามา กลับมาทำไม เจนี่ก็ตอบกลับทันทีว่า ก็อยากรู้คำตอบ ซึ่งส้มเช้งก็พูดต่อว่า พอจะรู้แล้วอาจารย์ นางกบฏ

จากนั้น อาจารย์โอเล่ ก็ได้เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า ลูกหลานอยู่ที่นี่ ชื่อว่านางวารินรูจี ลูกปูคำศรีมา หรือ คำเสมา ก็ไม่รู้ แต่ก่อนเป็นพญานาคชื่อนี้ เคยอยู่ที่นี่ บำเพ็ญศีล คุ้มครองพระสงฆ์องค์เจ้าหลายชั่วอายุ อยากเกิด สั่งสมมา ตาย เลยได้มาเกิดทั้งครอบครัวนี้

แต่ก่อนตายมีอีกคนหนึ่งรอไว้ที่อีกห้องหนึ่งก่อนถึงช้างสามเศียร คนนั้นคือคนรัก เขาจะตามไปแล้วบอกว่า เกิดอีกทีนึงเขาจะรอ ระหว่างรอเขาจะไม่มีคู่ ซึ่งเจนี่ ได้พูดขึ้นมาว่า ใช่
และอาจารย์โอเล่ก็เล่าต่อว่า แล้วตัวเขาเองสัญญากับเขาเอาไว้ว่า จะบำเพ็ญประโยชน์เพื่อพุทธศาสนา จะบวช จะรักษาศีลเพื่อรอ รอกลับมาเจอกันอีกครั้งนึง แล้วก็จะพาคนนี้ปฏิบัติด้วย คนเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน ภพภูมิเปลี่ยน เอาแน่เอานอนไม่ได้กับชาติภพ เขาจำได้เสมอ ส้มเช้งหันไปพูดกับเจนี่ ซึ่งเจนี่ก็ยิ้มและพยักหน้า
แล้วเขาก็อยู่กับช่องที่บ้าน กับช่องตรงนี้ เขาไปมาหาสู่กันได้ตลอด ในเรื่องของการปรากฏตัว ต้องถามคุณเจนว่า มีงูด้วยใช่มั้ยที่ขึ้นมาตลอด ซึ่งเจนี่ก็พยักหน้า และเมื่อกี้ถ่ายก็เห็นงูนะ มีงูออกมา

จากนั้นอาจารย์โอเล่ก็พูดว่า เขาบอกว่า กลับมาทำไม สัญญาว่าจะปฏิบัติ สัญญาว่าจะปฏิบัติ เขาบอกว่าความรักไม่มีจริง จากนั้นอาจารย์โอเล่ก็เขียนคำที่ได้ยินลงในกระดานมากมายหลายคำ จนไม่สามารถที่จะเขียนออกมาได้หมด

ซึ่งส้มเช้งสรุปว่า ถ้าเจนี่จะพูดก็ต้องเป็นคำที่จริง ไม่ใช่คำสบถ ถ้าหนูทำได้ หนูก็บอกว่าทำได้ อันไหนทำไม่ได้ก็ต้องบอกเลย มันคนละภพคนละชาติ

อาจารย์โอเล่หันไปถามเจนี่ต่อว่า หินก้อนหนึ่งที่ยังไม่ได้เจียรไนเคยได้รับมั้ย เจนี่ทำท่าคิดอยู่พักนึง แล้วตอบว่า ที่บ้านมีแก้วพญานาคเยอะมาก จากนั้น อาจารย์โอเล่ก็บอกว่า นี่คือชาติภพของงู แต่ที่จะไปดูชาติภพของคนเราทำอะไรกับโลกมนุษย์บ้าง
ตอนงู ตั้งใจเพียรในเรื่องของศีล ทั้งตระกูล ทั้งครอบครัว และแก้วที่เอามายังเกี่ยวพันกับคนอีก 5 คนด้วย แต่ไม่รู้ว่าใคร และแก้วดวงนี้มันมีจริงสมัยก่อน แต่แตกสลายไปนานแล้ว แก้วดวงนี้จึงต้องสมมติให้อยู่ในเมืองลับแล คำใช้คำนี้เลยนะ แก้วสมมติเมืองลับแล เขาไม่ใช้คำว่าครอบครัวนะ เขาใช้คำว่าโคตร

อาจารย์โอเล่เล่าต่อว่า ตอนนี้ก็ไขจากอดีตที่เคยมีของคุณเจนี่ทีละเรื่อง เขาถามว่า เอาอะไรมาคืน คุณเจนมีโอกาสได้บวช และมีโอกาสได้ปฏิบัติธรรมศึกษาธรรม มีโอกาสได้ใช้กายมนุษย์ในการปฏิบัติธรรมเผยแพร่ธรรม เป็นพรีเซนเตอร์ให้ศาสนา เป็นตัวแทนให้พุทธศาสนิกชน

ถ้าคุณเจนพร้อมแล้วช่องที่ตรงโลงนั้น ปู่จะเป็นพยานให้ที่เราไปไหว้ตรงท้องพระโรงแรก ให้นำแก้วหย่อนไปที่ห้อง แล้วห้องตรงนี้เป็นห้องที่อดีตเคยชอบที่สุด เคยอยู่ตรงนี้ เคยเจอกัน ณ จุดๆ นี้ ถ้าพร้อมแล้วทิ้งอดีตทุกอย่างไว้ที่นี่ แล้วสิ้นภพจบชาติและเริ่มต้นชีวิตใหม่ของคำว่าผู้ที่กำลังศึกษาปฏิบัติบำเพ็ญจิต

ส้มเช้งเสริมต่อว่า พูดง่ายๆ คือลั่นวาจาเลยว่าจะสร้างบุญสร้างกุศลให้เขาบ้าง ช่วยสืบสาน เรามีโอกาสเป็นมนุษย์ สร้างกรรมดีได้ ได้ปฏิบัติได้ และเขาก็พาไปดูทรัพย์ที่พญานาคร่วมกันมี ร่วมกันสร้าง ร่วมกันพิทักษ์รักษาในพระพุทธศาสนา ถ้าคืนก็อโหสิกรรมทั้งปวง ซึ่งในรายการได้ถ่ายภาพของเจนี่นั่งหันหลังฟังคำอาจารย์ เหมือนใจมีอาลัยอยู่บางอย่าง

อาจารย์โอเล่บอกให้เจนี่ตั้งใจ ทิ้งทุกอย่างที่เป็นอดีต อธิษฐาน ส้มเช้งบอกว่า ไม่เอาคำสบถ ไม่เอาคำหลอกลวง เอาความจริงใจ หลังจากที่เจนี่อธิษฐานเสร็จ อาจารย์โอเล่ก็พูดว่า สิ้นภพจบชาติตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อันรุ่งเรือง ยังประโยชน์แก่มวลชนและพระพุทธศาสนาและโลกใบนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ซึ่งในตอนที่เจนี่อธิษฐานจบ เจ้าตัวนั้นมีน้ำตาด้วย


จากนั้น ส้มเช้งถามเจนี่ต่อว่า บุญที่จะสร้างถึงขนาดจะโกนหัวเลยเหรอ ซึ่งเจนี่ตอบสั้นๆ ว่า ก็เห็นอย่างนั้น ทำเอาส้มเช้งพูดต่อว่า โอ้โห ถ้าเจนี่โกนหัวบวชนะ มันจะดัง มันจะปังขนาดไหน

ซึ่งอาจารย์โอเล่ตอบกลับว่า ผมว่าขอแท้ เดี๋ยวจะพาไป เดี๋ยวพานางไปศรีลังกา และเจนี่ก็พูดต่อว่า จะเป็นคนไม่พูดอะไรไง บางทีเห็นก็จะ อืม ถึงบอกพี่ส้มเจนไม่ค่อยพูดอะไร มันเห็นเอง

จากนั้นทุกคนก็เดินทางมาถึงห้องเก็บบันทึกของคนที่เคยเป็นพญานาค ถ้าอยากรู้ประวัติของตัวเองให้เอาหัวไปจรดที่ศิลาแผ่นนี้ดู เพราะเป็นบันทึกของคนที่เคยเกิดเป็นพญานาคทั่วทุกมุมโลกไว้ อันนี้ตามความเชื่อนะ เขาว่ามา

เมื่อเจนี่ลองทำตามที่อาจารย์แนะนำ ก็บอกว่า สีชัดมาก สีแรกที่เห็นคือสีขาว มีสีแดงด้วยค่ะ และก็สีทอง ของเจนสีขาวเป็นแบบนี้เลย (ทำมือแผ่พังพาน) ห้องที่บอกเจนถ่ายเป็นดวงไฟสีขาวออกมาจากห้องตรงนั้น

ก่อนจะออกจากถ้ำ อาจารย์โอเล่ถามเจนี่ว่า มีอะไรอยากจะฝากบอกชาวนาคราชมั้ย ซึ่งเจนี่ก็ตั้งสมาธิหลับตา จากนั้นอาจารย์โอเล่ก็พูดต่อว่า ขอให้ตามไปอนุโมทนาทุกหนทุกแห่ง ตราบใดที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏจักรนี้ก็ขอให้รับรู้เอาไว้ ข้าผู้นี้คือเจนี่ จะทำสิ่งใดจะระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระสังฆเจ้า และทุกอณูบุญทั้งหลาย จะอุทิศให้ทุกท่านทุกตัวตน ทุกมุมโลก

ขอบคุณที่นาคราชทั้งหลายที่เคยร่วมภพร่วมชาติ ขอบคุณพ่อปู่แม่ย่าทั้งหลายที่ให้สรรพวิชา ขอบคุณที่ให้ศีลในการบำเพ็ญเพียรจนได้เกิดมาเป็นมนุษย์


หลังจากที่ออกมาจากถ้ำ เจนี่บอกว่ารู้สึกตื้นตัน รู้สึกได้ปล่อยอะไรในใจออกมาเหมือนรอมานาน แฮปปี้ดีใจ ต้องขอบคุณอาจารย์ด้วย เหมือนเราหาอะไรแต่ไม่เจอกุญแจนั้น วันนี้เหมือนเจอแล้ว วันนี้ปลดล็อกแล้วทุกอย่าง และก่อนถ่ายเจนี่เจอผีพุ่งใต้ ชัดมาก จากนั้นอาจารย์โอเล่อธิบายว่า สิ่งที่เห็นเหมือนเป็นนิมิต หรือสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง เป็นการตก การเกิด เหมือนการตกฟาก เหมือนกำลังจะมาเกิดแล้วนะ

จากนั้น ส้มเช้งได้พูดย้ำเรื่องเจนี่โกนหัว บอกว่าเจ้าตัวพร้อมถ้าไม่ติดโนล่านะ แต่การที่ผู้หญิงที่เป็นนางเอกระดับประเทศจะมาโกนหัวในรายการเรา มันก็น่าขนลุกนะ และในปีหน้าจะได้เจอเจนี่ในรูปแบบหนึ่ง เกิดใหม่ อะไรที่ติดค้างในใจมลายไปแล้ว โล่งแล้ว

จากนั้น เจนี่ก็ได้นั่งเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองให้ฟังว่า มันต้องเริ่มตั้งแต่แรก เจนเป็นเด็กที่เกิดที่เมืองนอก โตเมืองนอก จนอายุ 11 ขวบ ตอนนั้นท่องนะโมไม่ได้ พูดภาษาไทยไม่ได้เลย จนอายุประมาณ 15 ก็สงสัยว่าทำไมคนเราต้องสวดมนต์ ไม่เข้าใจจนไปวัดภูเขาทอง และไปเจอพระอาจารย์ท่านบอกให้สวดมนต์ ก็ไม่เข้าใจว่าสวดแล้วได้อะไร ไม่เข้าใจ ท่านก็บอกให้ลองสวดแล้วจะเข้าใจ พอสวดก็เริ่มรู้สึกว่าเหมือนได้ยินเสียงสะท้อนในหัวใจ แต่ก็ไม่เข้าใจในบทสวด ก็เริ่มเปิดหนังสือสวดมนต์ ชินบัญชรก็สวดจบภายใน 1 นาที ก็ลองยอดพระกัณฑ์ 27 จบ ประมาณ 8 ปีหลัง สวดยอดพระกัณฑ์ทุกวัน และแผ่เมตตามหาใหญ่



ตอนนั้นมีคนบอกให้เจนไปไหว้พญานาค เจนก็บอกเขาว่าอย่ามงายได้มั้ย (หัวเราะ) ไหว้แค่พระก็พอ สวดมนต์ให้ได้ก่อน เจนปิดประตู ใครพูดอะไร แม้กระทั่งเห็นอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องพญานาค เจนี่ปัดทิ้ง ไม่ใช่แค่ปิดประตูนะเจนี่ปฏิเสธ และจะบอกทุกคนว่าไม่ใช่ จะอยู่แค่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แค่นี้พอ
จนวันหนึ่งมีคนบอกให้เจนไปภูเขานาคี และเขาบอกให้ไหว้ ไม่ได้คิดอะไร แล้วก็เอามือแตะหินไม่ถึง 1 นาที แล้วน้ำตาเจนก็ไหล ตอนนั้นอาย แต่น้องบอกว่าไม่เป็นไรนะคะ หนูเข้าใจ พอไปจุดที่ 2 น้องแนะนำให้นั่งสมาธิ ไม่ถึง 1 นาที เจนก็เอียงตัว และน้องบอกให้นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ในวันนี้สิ่งที่เจนได้ทำมันเหมือนการปลดล็อกสิ่งที่ค้างคาใจเจนมานานมาก มันเหมือนยกอะไรบางอย่างที่ใหญ่มาก ที่เราบอกใครไม่ได้เลย มันเหมือนเป็นรากที่บอกใคร ใครก็ไม่เข้าใจ ต้องบอกว่าตื่นเต้นมาก เจนไม่กลัวความลำบาก เจนเชื่อว่าชีวิตเจนผ่านยิ่งกว่าภูเขาข้ามไปอีกลูก เป็นห่วงคนรอบข้างมากกว่า

ทุกคนสัมผัสได้ไม่เหมือนกัน ความรู้สึกของเจนี่นะ ถ้าคิดและมั่นใจ และอยากจะฝากความรู้สึกกับใครบางคน เจนก็เลือกอาจารย์โอเล่และพี่ส้ม มันคือความมั่นใจในหัวใจ อาจารย์ก็รู้สึก เจนสบายใจที่จะเล่าให้อาจารย์ฟัง วันนี้ก็มาอยู่ตรงนี้ และพร้อมทั้งหัวใจที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครไม่มากไม่น้อย

ก่อนที่จะลงไปถ้ำ มันมีอุปสรรคที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ แต่เราต้องมั่นคงในความรู้สึก ก็บอกเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระภูมิเจ้าที่ ถ้าวันนี้ลูกปฏิบัติภารกิจสำเร็จ ลูกจะบอกบุญให้คนบริจาคร่วมสร้างบางสิ่งบางอย่างที่จะเกิดขึ้นให้สำเร็จ


ขอบคุณแหล่งที่มา
https://www.thairath.co.th/entertain/news