ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150


    Screenshot_2024-12-12-19-37-59-57_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ควรเปลี่ยนรัฐมนตรี?



    Screenshot_2024-12-12-19-42-15-42_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Dec 13, 2024 ยังอุบไว้ !รัฐมนตรีคลัง แจงศึกษาปฎิรูปภาษีไทย หวังลดเหลื่อมล้ำ ภาวะเศรษฐกิจไทยพร้อมหรือไม่ ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ทุกเรื่อง ย้ำต้องพิจารณาหลายด้าน

    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในประเด็นการพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีไทย นั้น ซึ่งต้องพิจารณาหลาย ๆ ด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจไทยพร้อมหรือไม่ และหากจะปรับต้องปรับกลุ่มใด โดยกระทรวงการคลังมีการศึกษาการปฏิรูปโครงสร้างภาษี แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ทุกเรื่อง ทั้งนี้มองว่าในการบริหารการให้ข้อมูลที่โปร่งใสทำให้ประชาชนได้วิเคราะห์เองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

    ขณะเดียวกัน ประเด็นกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 2 ฉบับเพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ 15% ตามแนวทาง Global minimum tax ของ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งเป็นหลักการทางภาษีระดับโลกตามเกณฑ์ของ OECD มีประเทศเข้าร่วมกว่า 100 ประเทศ โดยจะจัดเก็บภาษีนิติบุคคลต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยขั้นต่ำ 15% ซึ่งประเทศไทยมีข้อเสนอเมื่อมีการลงทุนในไทยจะช่วยค่าใช้จ่ายในบางส่วน

    #ภาษี #ปรับโครงสร้างภาษี #ภาษีแวต #vat #คลัง #btimes

    https://www.facebook.com/share/p/i3kCmYjoavjk2PjT/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1734152082419.jpg

    เงินไหลออกจากหุ้นจีน 2แสนล้านบาท และไหลจากพันธบัตร/หุ้นกู้จีน 2.6แสนล้าน! ส่วนชาติกำลังพัฒนาอื่น ออกหุ้น แต่เข้าหุ้นกู้! #ทรัมป์ !

    ตัวเลขเงินทุนต่างชาติเดือน พ.ย. ที่เพิ่งผ่านมานะครับ
    ซึ่งก็เป็นเดือนที่ผลกระทบจะชัดสุด เพราะเลือกตั้งอเมริกาเรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์ออกแล้ว ไม่ต้องเก็งอีกต่อไป
    ส่วนหนึ่งเพราะอิทธิพล Trump Trade ด้วยไหม ก็คงใช่ แต่ไม่เท่าไหร่ ตรงนี้ไม่ได้เป็นระบบระเบียบขนาดนั้น เป็น sentiment ซะมากกว่า ที่ทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นจีน และลามไปถึงพันธบัตร/หุ้นกู้จีนเพราะผวาทรัมป์
    ส่วน emerging market อื่น (ไม่นับจีน) จะเห็นว่าเทรนด์ต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ต.ค. (ซึ่งเริ่มเก็งผลทรัมป์) และจริงๆ ก็พอจะเห็นเค้าตั้งแต่เดือน ส.ค. แล้วด้วยซ้ำ ที่เงินไหลเข้าพันธบัตร/หุ้นกู้ แยะพอสมควร แต่หุ้นยังเป็น inflow อ่อนๆ (ส.ค.-ก.ย.) ก่อนที่เรื่องทรัมป์จะพัดกระพือแรง ซึ่งก็ทำให้พลิกเป็น outflow แบบเน้นๆ ในสองเดือนหลัง
    ก็ชัดว่าหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงอยู่แล้ว ยิ่งหุ้นของ emerging market ยิ่งมีความเสี่ยงหนัก (และยิ่งความเป็นไปได้สูงว่าประเทศพวกนี้จะโดนทรัมป์เล่นสงครามภาษีค่อนข้างแน่) ดังนั้น พวกนี้ไปก่อนเลย (ตรงนี้จะเข้าสูตร Trump Trade เพราะมีปัจจัยเป็นรูปเป็นร่าง มากกว่าจีนที่ sentiment น่าจะแรงกว่าตัวเหตุปัจจัยจริงๆ)
    แต่การที่พันธบัตร/หุ้นกู้ ของ emerging market ยังพอไปได้ ก็แปลว่ายังมีความ safe ประมาณหนึ่ง ไม่ได้น่ากลัวมาก (เพราะกลัวเศรษฐกิจจากทรัมป์ แต่ไม่ได้กลัววิกฤติเศรษฐกิจของตัวประเทศนั้นๆ เอง) --- ก็ถ้าคิดหยาบๆ คือ มีส่วนที่ไหลจากหุ้น EM แล้วไปเข้าพันธบัตร/หุ้นกู้ EM
    ซึ่งตอนเดือน ต.ค. จีนก็ยังเป็นงี้อยู่ ก่อนที่จะไปหมดในเดือน พ.ย.
    เพราะฉะนั้น บอกยาก ว่า EM อื่นจะเป็นทรงนี้ไหม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ว่าทรัมป์จะเอาแรงแค่ไหนด้วย

    https://www.facebook.com/share/p/7eSrbV7w1APubaU5/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตัวเลือกเพิ่ม



    Screenshot_2024-12-14-12-12-51-94_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ ประกาศวานนี้ (13 ธ.ค.) ว่าพรรครีพับลิกันของเขาจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อยกเลิกระบบเวลาออมแสง หรือ daylight saving time ซึ่งเขาบอกว่าเป็นอะไรที่ “ไม่สะดวก และเป็นภาระต่อประเทศชาติ”
    .
    “พรรครีพับลิกันจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยกเลิกเวลาออมแสง ซึ่งมีผู้สนับสนุนนิดหน่อยแต่แข็งขันมาก ทั้งที่ไม่ควรจะมี!” ทรัมป์ ประกาศผ่านโซเชียลมีเดีย
    .
    “เวลาออมแสงเป็นระบบที่ไม่สะดวก และเป็นภาระต่อประเทศชาติเรามาก”
    .
    เวลาออมแสงหรือ daylight saving time นั้นหมายถึงการปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงหน้าร้อนสำหรับภูมิภาคยุโรปและอเมริกา เพื่อให้ผู้คนได้ใช้ประโยชน์จากเวลาที่มีแสงอาทิตย์ให้ได้มากที่สุด โดยระบบนี้ถูกใช้ในเกือบทุกพื้นที่ของสหรัฐฯ มาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 แต่เริ่มเป็นที่ถกเถียงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    .
    สมาชิกสภาคองเกรสบางคนเรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้เวลามาตรฐานเดียวกันตลอดทั้งปี ขณะที่บางคนเห็นว่าควรใช้เวลาออมแสงทั้งปีไปเลย และมีบางกลุ่มที่เห็นว่าแบบที่เป็นอยู่ (status quo) ก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งประธานาธิบดี โจ ไบเดน ไม่เคยออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องนี้
    .
    เมื่อเดือน มี.ค. ปี 2022 วุฒิสภาสหรัฐฯ เคยลงมติเอกฉันท์ให้สหรัฐฯ ใช้เวลาออมแสงแบบถาวร ทว่าก็ไปติดด่านสภาผู้แทนราษฎรที่ยังมีความเห็นไม่ลงรอยกันในประเด็นนี้
    .
    เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา มีกลุ่มส.ว.สหรัฐฯ จากทั้ง 2 พรรคการเมืองพยายามผลักดันอีกครั้งให้สหรัฐฯ ใช้เวลาออมแสงแบบถาวร
    .
    ฝ่ายที่สนับสนุนการใช้เวลาออมแสงให้เหตุผลว่า มันจะทำให้เวลาในช่วงบ่ายและเย็นมีแสงสว่างมากขึ้น และสามารถทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นในช่วงฤดูหนาว ขณะที่ฝ่ายวิจารณ์มองว่ามันเป็นการบังคับให้เด็กๆ ต้องเดินออกไปโรงเรียนทั้งที่ฟ้ายังไม่สว่างดี
    .
    ทางฝ่ายที่เห็นว่าควรยกเลิกเวลาออมแสงไปเลยชี้ว่า การปรับเวลาปีละ 2 รอบเช่นนี้เป็นปัญหาต่อการนอนหลับ และกระทบสุขภาพของประชาชน
    .
    สภาคองเกรสไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว และวุฒิสภาจำเป็นที่จะต้องเสนอเรื่องนี้เข้าสู่สภาอีกครั้งหากจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ
    .
    ระบบเวลาออมแสงตลอดปีเคยถูกใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกนำมาใช้อีกครั้งในปี 1973 เพื่อประหยัดพลังงานในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์น้ำมัน (oil embargo) ทว่าไม่เป็นที่นิยมจนต้องยกเลิกไปในปีถัดมา
    .
    ตั้งแต่ปี 2015 มีราวๆ 30 รัฐในอเมริกาที่เสนอหรือผ่านร่างกฎหมายยุติระบบการปรับเวลา 2 ครั้งต่อปี และมีบางรัฐที่บอกว่าจะทำก็ต่อเมื่อรัฐข้างเคียงเอาด้วย
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://mgronline.com/around/detail/9670000120018
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/Se5GRJ3oZcjsYi3m/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่กำลังจะลงจากตำแหน่งประกาศในวันพฤหัสบดี(12 ธ.ค)ว่า เขาสั่งอภัยโทษไป 39 คนในความผิดทางอาญาไม่รุนแรงและสั่งลดโทษไปอีกเกือบ 1,500 คนที่รับโทษจำคุกยาวนาน กลายเป็นการอภัยโทษและลดโทษครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นภายในวันเดียวก่อนว่าที่ผู้นำประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าทำเนียบขาวในเดือนหน้า และไม่กี่สัปดาห์หลังเขาได้สั่งอภัยโทษลูกชาย ฮันเตอร์ ไบเดน
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี(12 ธ.ค) เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของการเมืองอเมริกาสมัยใหม่เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ในวันพฤหัสบดี(12) ได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯออกคำสั่งอภัยโทษพลเมืองสหรัฐฯ 39 คนในความผิดทางอาญาที่ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง และได้ออกคำสั่งลดโทษไปอีกเกือบ 1,500 คน รวมถึงนักโทษความผิดฉ้อโกงหลายล้านดอลลาร์ไม่กี่คน
    .
    ทำเนียบขาวอธิบายว่า เป็นการใช้อำนาจการอภัยโทษของประธานาธิบดีครั้งใหญ่ที่สุดและเกิดขึ้นในวันเดียวหลังจากก่อนหน้าผู้นำสหรัฐฯโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในการตัดสินใจใช้อำนาจอภัยโทษลูกชาย ฮันเตอร์ ไบเดน
    .
    ในการแถลงวานนี้(12) ไบเดนกล่าวว่า “กลุ่มคนที่ได้รับการอภัยโทษได้แสดงให้เห็นถึงการกลับตัวอย่างประสบความสำเร็จและแสดงพันธสัญญาในการที่จะทำให้ชุมชนของคนเหล่านั้นแข็งแกร่งมากขึ้นและมีความปลอดภัยมากขึ้น”
    .
    สื่ออังกฤษชี้ว่า ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯระบุว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจอย่างกว้างขวางในการสั่งอภัยโทษเว้นแต่การถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง
    ทำเนียบขาวเปิดเผยรายชื่อ 39 คนที่ได้รับการอภัยโทษแต่ไม่ได้ระบุความผิดของคนเหล่านั้น และพบว่ามีอีกราว 1,499 คนได้รับการลดหย่อนโทษ ที่รวมถึงนักโทษบางส่วนที่ถูกสั่งให้กักตัวอยู่ในบ้านระหว่างการระบาดโควิด-19
    .
    ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯให้คำมั่นว่าจะมีมาตรการมากกว่านี้กำลังจะออกมาอีกไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค ปีหน้า
    .
    ซึ่งมีรายงานว่าทรัมป์ได้เชิญประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และประธานาธิบดีฮังการี วิคเตอร์ ออร์แบน เข้าร่วมพิธีสาบานตนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี และกลายเป็นผู้นำอเมริกันคนแรกนับตั้งแต่ปี 1874 ทีเดียวที่ได้ร่อนเทียบเชิญผู้นำต่างชาติเข้าร่วมพิธีสาบานตนของตัวเองที่ส่วนใหญ่ตามธรรมเนียมจะอยู่ในระดับเอกอัครราชทูตเข้าร่วมเป็นเกียรติ อ้างอิงจาก CBS News
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://mgronline.com/around/detail/9670000119928
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/95hhHcSY3kjFjtUT/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนในวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) แสดงความประหลาดใจและไม่พอใจอย่างยิ่งต่อความเห็นแก้ต่างการประกาศอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซอกยอล ของเกาหลีใต้ ซึ่งในเนื้อหานั้นมีช่วงหนึ่งที่ดูเหมือนกล่าวหาพลเมืองชาวจีนกระทำการจารกรรม
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) ยุน ได้ออกถ้อยแถลงปกป้องการตัดสินใจอันสุดช็อกของเขาในการประกาศกฎอัยการศึกและส่งทหารไปยังอาคารรัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฉุดประเทศประชาธิปไตยแห่งนี้เข้าสู่ความไม่แน่นอนทางการเมือง
    .
    ผู้นำรายนี้ยังด่าทอจีนระหว่างแถลงแก้ต่าง กล่าวหาพลเมืองจีนถ่ายภาพและถ่ายคลิปที่ตั้งทางทหารในเกาหลีเหนือ ในสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นความพยายามจารกรรม
    .
    กระทรวงการต่างประเทศจีน ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) ออกมาตอบโต้กลับ บอกว่า ยุน พูดเกินจริงอย่างไร้เหตุผล ในสิ่งที่อ้างว่าเป็นการจารกรรมของจีน
    .
    "จีน รู้สึกประหลาดใจและไม่พอใจอย่างยิ่งต่อความเห็นเหล่านี้จากฝ่ายเกาหลีใต้" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างแถลงสรุป โดยไม่ได้เอ่ยชื่อประธานาธิบดียุนตรงๆ "มันไม่ช่วยอะไรต่อสถานภาพและพัฒนาการแห่งเสถียรภาพในความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเกาหลีใต้"
    .
    ระหว่างการแถลง ยุน กล่าวหาพรรคฝ่ายค้านหลัก ขัดขวางความพยายามของเขาในการแก้ไขกฎหมายต่อต้านการจารกรรมของเกาหลีใต้ เขาบอกว่ากฎหมายปัจจุบัน "ไม่มีทางที่จะลงโทษพลเมืองต่างชาติสำหรับการจารกรรม" และหยิบยกกรณีที่ว่ากันว่าถูกสอดแนมต่างๆ โดยพลเมืองจีนมาเป็นข้อกล่าวอ้าง
    .
    คำกล่าวหาของยุน รวมไปถึงเหตุการณ์ที่มีบุคคล 3 ราย ถูกจับกุมโทษฐานบินโดรนและถ่ายภาพเรือบรรทุกเครื่องบินลำหนึ่งของสหรัฐฯ ในปูซาน เมืองท่าทางใต้ของประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบอุปกรณ์ดังกล่าวยังพบว่าได้บันทึกภาพแหล่งที่ตั้งทางทหารต่างๆ เอาไว้ด้วย
    .
    ส่วนกรณีอื่นที่ยุนกล่าวอ้าง คือเหตุการณ์ที่ชายวัย 40 ปีเศษๆ รายหนึ่ง เดินทางจากจีนมายังกรุงโซล และมุ่งหน้าใช้โดรนถ่ายภาพสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้
    .
    ยุน ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในทั้ง 2 กรณี และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการแถลง อ้างว่าฝ่ายค้านเป็นคนก่อวิกฤตระดับชาติ และประกาศว่าจะเดินหน้าต่อสู้เคียงข้างประชาชนไปจนถึงนาทีสุดท้าย
    .
    ผู้นำวัย 63 ปีรายนี้ กล่าวขอโทษอีกครั้ง ที่ทำให้ประชาชน "ประหลาดใจและหวาดวิตก" กับคำประกาศกฎอัยการศึกของเขา ทั้งนี้ปัจจุบันเขาถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เผชิญการโหวตถอดถอน เช่นเดียวกับการประท้วงใหญ่เรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง
    .
    เหมา ระบุในวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.) ว่าปักกิ่ง "คัดค้านอย่างหนักแน่นต่อความพยายามของฝ่ายเกาหลีใต้ที่กำลังเชื่อมโยงประเด็นภายในประเทศกับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีน"
    .
    ทั้ง 2 ประเทศเป็นคู่ค้าหลักระหว่างกัน แต่มีความสัมพันธ์มึนตึงทางการเมืองมาช้านาน โดยพรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองจีน คือผู้สนับสนุนหลักทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองของเกาหลีเหนือ ชาติคู่อริของเกาหลีใต้ ในขณะที่ในทางเทคนิคแล้วยังถือว่าเปียงยางและโซลยังอยู่ในภาวะสงครามระหว่างกัน
    .
    อีกด้านหนึ่ง เกาหลีใต้ คือพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ และมีกำลังพลอเมริกาประจำการอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน ตึงเครียดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://mgronline.com/around/detail/9670000119578
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/3yHwYVuBuv926gth/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาลสายอนุรักษนิยมของออสเตรียประกาศมาตรการแจกเงิน 1,000 ยูโร (ประมาณ 35,000 บาท) ให้แก่ผู้ลี้ภัยซีเรียที่ยอมเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดของตัวเอง หลังระบอบ บาชาร์ อัล-อัสซาด ล่มสลาย
    .
    นายกรัฐมนตรี คาร์ล เนฮัมเมอร์ ออกมาตอบสนองข่าวการโค่นล้มระบอบอัสซาดอย่างไว โดยประกาศในวันเดียวกัน (8 ธ.ค.) ว่าสถานการณ์ด้านความมั่นคงในซีเรียควรจะถูกพิจารณาใหม่ รวมถึงการรับผู้ลี้ภัยจากซีเรียด้วย
    .
    อย่างไรก็ตาม การบังคับเนรเทศผู้ลี้ภัยโดยที่เจ้าตัวไม่เต็มใจนั้นไม่สามารถทำได้จนกว่าบริบททางการเมืองในซีเรียจะชัดเจนกว่านี้ ดังนั้นรัฐบาลออสเตรียจึงจะเน้นใช้วิธี “ส่งกลับประเทศโดยสมัครใจ” นอกจากนี้ยังระงับการพิจารณาคำร้องขอลี้ภัยของชาวซีเรีย เช่นเดียวกับที่หลายๆ รัฐบาลในยุโรปเริ่มทำกันแล้ว
    .
    เนฮัมเมอร์ ก็เช่นเดียวกับรัฐบาลสายอนุรักษนิยมในยุโรปอื่นๆ ที่ถูกพวก “ฝ่ายขวา” กดดันอย่างหนักในเรื่องนโยบายผู้อพยพ และชาวซีเรียก็ถือเป็นผู้ลี้ภัยกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ต้องการเข้าไปตั้งถิ่นฐานในออสเตรียที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู)
    .
    “ออสเตรียพร้อมที่จะสนับสนุนชาวซีเรียซึ่งต้องการกลับบ้านด้วยเงินโบนัส 1,000 ยูโร ซีเรียต้องการพลเมืองของตัวเองกลับไปช่วยฟื้นฟูบ้านเมือง” เนฮัมเมอร์ โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษผ่าน X
    .
    ทั้งนี้ จะมีชาวซีเรียรับข้อเสนอดังกล่าวมากน้อยเท่าไหร่ยังเป็นสิ่งที่ต้องรอดู และการที่สายการบิน Austrian Airlines ยังคงระงับเที่ยวบินไปตะวันออกกลางสืบเนื่องจากสถานการณ์การสู้รบ ก็ทำให้เงินโบนัสนี้อาจจะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ลี้ภัยที่ประสงค์จะกลับบ้าน
    .
    ตั๋วเดินทางแบบเที่ยวเดียวไปยังกรุงเบรุตซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับการเดินทางทางบกไปยังกรุงดามัสกัส ปัจจุบันราคาอยู่ที่อย่างน้อย 1,066.10 ยูโรตามข้อมูลจากเว็บไซต์สายการบิน Turkish Airlines
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://mgronline.com/around/detail/9670000120029
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    https://www.facebook.com/share/p/BySdon8yaAFHSt3k/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์ตอนนี้บอกอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ยิ่งทรัมป์มาอีก ยิ่งเข้าไปใหญ่ ฉะนั้น ไม่รอดีกว่า อย่าเสี่ยง รัฐวิสาหกิจพลังงานจีน CNOOC (China National Offshore Oil Corp.) จึงตัดสินใจขายทิ้งบริษัทลูก ที่อยู่ในอเมริกา ได้แก่ CNOOC Energy Holdings U.S.A. พร้อมด้วยสินทรัพย์ทั้งหมด
    ขายให้แก่ INEOS บริษัทปิโตรเคมีแห่งอังกฤษ ของเซอร์ จิม แรต แรตคลิฟฟ์ เจ้าของแมนยูนั่นเอง
    ทั้งนี้ CNOOC มีแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก (ของอเมริกา) ซึ่งก็จะไม่ขุดไม่เจาะมันแล้ว อนาคตตกอยู่ในความขมุกขมัวอย่างยิ่ง วันดีคืนดีจะโดนทรัมป์ปู้ยี่ปู้ยำอะไรก็ไม่รู้ ให้บริษัทฝรั่งอังกฤษตราผีมารับช่วงแทนดีกว่า
    https://www.reuters.com/business/energy/chinas-cnooc-sells-us-assets-britains-ineos-2024-12-14/
    https://www.facebook.com/share/KmnXRmjKYxM6i3SH/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150


    Screenshot_2024-12-14-18-06-17-06_f9ee0578fe1cc94de7482bd41accb329.jpg
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประเทศไทย ได้พัฒนาเกาะกูดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
    ---
    ประเทศไทย ได้พัฒนาเกาะกูดให้เป็นเกาะท่องเที่ยวยอดนิยมมาหลายปี โดยพลเมืองนับพันอาศัยอยู่บนเกาะ รัฐบาลไทยอ้างว่าเป็นเจ้าของเกาะโดยสมบูรณ์จากสนธิสัญญาฝรั่งเศส-เสียมปี 1907 ในขณะที่รัฐบาลเขมรในระหว่างการปกครองที่นําโดยหัวหน้ากองทัพ Lon Nol เคยประท้วงว่าส่วนใหญ่ของเกาะมุกเป็นของเขมรตาม สนธิสัญญาฝรั่งเศส-เสียมเดียวกัน

    เกาะกูดมีภูมิทัศน์และการพัฒนาแบบไหน? รอดูรายงานของคุณจีวีต้า ใครเดินทางมาเกาะนี้เร็วๆนี้บ้างคะ
    ---
    หากต้องการหาข่าวอื่น ๆ ของ Radio Asia โปรดเยี่ยมชม:
    rfa.org/khmer
    RFA Khmer
    youtube.com/RFAKhmerVideo
    x.com/RadioFreeAsiaKH
    t.me/rfakhmer
    instagram.com/rfakhmer
    ---
    #វិទ្យុអាស៊ីសេរី #កម្ពុជា #ថៃ #ហ៊ុនសែន #ហ៊ុនម៉ាណែត #កោះគុត #ផែថងថានស៊ីណាវ៉ាត់ #តំបន់ត្រួតស៊ីគ្នា #អភិវឌ្ឍរួមគ្នាធនធានប្រេងនិងឧស្ម័ន
    #RFAKhmer #Cambodia #Thailand #HunSen #HunManet #KohKut #KohKood #PaetongtarnShinawatra #OCA #MOU44 #JointMaritimeExploration

    https://www.facebook.com/share/v/rj6WgmwjTeJ21AyR/

    Screenshot_25671216_212918.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...