><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4091.แก่ชนวนโลหะ สวยเดิมสร้างน้อยหายาก พระกริ่งพุทธบุพพาภิมงคล
    พิธีใหญ่มหามงคล พระสังฆราช,ลป.ฝั้น,ลป.โต๊ะ,ลพ.ฤาษีลิงดำ ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    กริ่งบุพพา ใฟม่.JPG

    b8nszn-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    b8nypv-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg


    b8nn9s-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    b8nbbn-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    6dfd-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระกริ่งพุทธบุพพาภิมงคล วัดบุพพาราม จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อนวโลหะรมน้ำตาล ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2519 จำนวนการสร้างเพียง 2,519 องค์

    *** องค์นี้เข้มขลังแก่ชนวนโลหะ ดูที่บริเวณแถบขวามือองค์พระ เนื้อองค์พระจะเป็นผิวมะระบางๆแถบริมๆ ****


    เนื่องด้วยทางวัดมีความต้องการจัดหาทุนในการจัดสร้างหอมณเฑียรธรรม และประจวบกับ
    วาระมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 49พรรษา ในปี 2519 ทางวัดบุพผารามจึงได้จัดสร้างพระพุทธบุพพาภิมงคล เพื่อเป็นที่่ระลึกแก่พระองค์ท่าน ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงเสด็จเททองหล่อพระพุทธบุพพาภิมงคล ณ วัดบุพผาราม จ.เชียงใหม่ และทางวัดได้จัดให้มีพิธีมหาพุทธถิเษกอย่างยิ่งใหญ่ โดยพระราชาคณะและพระคณาจารย์ดังแห่งยุค

    **** มหาพิธีหนึ่งเดียวที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จ ทำพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษกด้วยพระองค์เอง มีพลังของพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ****

    พิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก
    - เมื่อวันที่ 13 พค 2519 (วันวิสาขบูชา) ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททอง ในหลวงทรงจุดเทียนชัยพุทธาภิเษก ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ณ วัดบุพผาราม จ.เชียงใหม่

    รายชื่อพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก 49 องค์
    1.สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธฯ
    2.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศฯ
    3.สมเด็จพระธีรญาณ วัดจักวรรดิ์ฯ
    4.พระวิสุทธิวงศ์ศาจารย์ วัดสุทัศน์ฯ
    5.พระวิสุทธาธิบดี วัดไตรมิตรฯ
    6.พระธรรมวโรดม วัดปทุมคงคา
    7.พระพุทธวงศ์มุนี วัดเบญจมบพิตร
    8.พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย
    9.พระเทพวิสุทธิโสภณ เชียงราย
    10.พระเทพวิสุทธี วัดเจดีย์หลวง
    11.ครูบาคำแสน อินทจักโก วัดสวนดอก
    12.ครูบาคำแสน คุณารังกาโร วัดป่าดอนมูล
    13.ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
    14.ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    15.หลวงปู่ฉิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาบ่อง
    16.พระอาจารย์หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง
    17.ครูบาอินถา วัดเชียงมั่น
    18.ครูบาจันทร์แก้ว วัดดอกเอื้อง
    19.พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม
    20.ครูบาบุญมี วัดท่าสต๋อย
    21.ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง
    22.ครูบาปั๋น วัดกู่คำ
    23.ครูบาแก้ว วัดวิเวกวนาราม
    24.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    25.ครูบาจินะ วัดท่าข้าม
    26.ครูบาคำตัน วัดดอนจืน
    27.พระอาจารย์ทองบัว วัดโรงธรรม
    28.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    29.พระประสาท วัดจามเทวี
    30.พระราชสุมนต์มุนี วัดราชบพิธฯ
    31.ครูบาชุ่ม วัดวังมุย
    32.พระญาณวีราคม วัดดอนเจดีย์
    33.ครูบาเมือง วัดท่าแหน
    34.ครูบาคำแสน วัดท่าแหน
    35.พระอินทวิชยาจารย์ วัดคะตึก
    36.ครูบาอินโต วัดบุญยืน
    67.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    38.ครูบาหล้า วัดดอยคู่ค้าง
    39.พระราชรัตนมุนี วัดพระบาทมิ่งเมือง
    40.พระชยานันทมุนี วัดพญาภู
    41.พระญาณมงคล วัดมหาวัน
    42.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    43.หลวงพ่อนอ วัดกลาง
    44.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
    45.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุรามณี
    46.หลวงพ่อถีร วัดป่าเรไลย์
    47.หลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง
    48.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
    49.พระอาจารย์สำราญ วัดเขาตะเครา

    ผ่านพิธีสวดอุปสานติ :
    - เป็นพิธีเพื่อสงบเคราะห์กรรม เพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน เสริมบารมีแก่ผู้อาราธนาแขวน นับเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้แขวน

    ข้อมูลข่าววัดบุพผาราม
    - https://www.thairath.co.th/content/937420




    สภาพสวยเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ สงบเคราะห์กรรม เพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน เสริมบารมีแก่ผู้อาราธนาแขวน นับเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้แขวน แบ่งให้บูชา 3,456 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณสิริพงษ์ จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2024
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4092.เล็กดีรสโต(ประทานพร) พระผงอิทธิเจไตรมาส เทพเจ้าแห่งชาวรามัญ
    สุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ลพ.อุตตมะ,ลป.โต๊ะ อธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    ประทานพระ พ่ออุตตมะ.JPG

    19aeys-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระผงอิทธิเจไตรมาส รุ่นแรก พิมพ์พระประทานพร หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีประมาณปี พ.ศ.2524 โดยทำการรวบรวมมวลสารผงวิเศษและตระเวนปลุกเสกยาวนานหลายวาระ ผู้สร้างได้ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ในการนำพระทั้งหมดเข้าพิธี จนมั่นใจที่สุดแล้ว จึงได้แบ่งพระที่สร้างทั้งหมดถวายครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือศรัทธาเพื่อแจกโดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมิพลี ได้อธิษฐานจิตเดี่ยวๆให้เป็นการเฉพาะเจาะจงให้กับพระพิมพ์นี้เป็นเวลานานหลายเดือน

    คณะจัดสร้าง
    - คุณบุญส่ง ไหลธนานนท์ คหบดีใหญ่แห่งจังหวัดนครปฐม
    - ท่านสุนทร แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครปฐมหลายสมัย
    - ท่านณัฏฐ์ ศรีวิหค อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด และ กรรมการ ปปช.
    - คุณถนอม เที่ยงตรง


    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ประกอบด้วย
    - เส้นเกศาของ หลวงพ่ออุตตมะ ที่ได้เมตตามอบให้
    - ผงอิทธิเจ(มหาจักรพรรดิ) ที่ท่านลบเองเขียนเองเมื่อสมัยยังเรียนบาลีอยู่ที่พม่ามาผสมเป็นกรณีพิเศษด้วย
    - ชิ้นส่วนพระสมเด็จบางขุนพรหม, พระวัดปากน้ำ, พระกรุสมัยทราวดี
    - ผงตะไบชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์
    - ผงตะไบชนวนพระคันธราราษฎร์
    - หลวงพ่อยังได้เมตตามอบผงว่าน 108
    - ผงเกสร 108
    - ปูนกระเทาะจากองค์พระปฐมเจดีย์ อันเป็นพระเจดีย์ใหญ่และเก่าแก่องค์สำคัญที่สุดในสุวรรณภูมิ
    - ผงกระเบื้องจากองค์พระปฐมเจดีย์ อันเป็นพระเจดีย์ใหญ่และเก่าแก่องค์สำคัญที่สุดในสุวรรณภูมิ
    - พระเครื่องเนื้อผงรุ่นเก่าของหลวงพ่ออุตตมะที่ชำรุดแตกหักนำมาป่นผสมเป็นมวลสาร เป็นต้น


    วาระการอธิษฐานจิต
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมิพลี ได้อธิษฐานจิตเดี่ยวๆให้เป็นการเฉพาะเจาะจงให้กับพระพิมพ์นี้เป็นเวลานานหลายเดือน

    - หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวตลอดไตรมาสปี พ.ศ.2524 และวาระอื่นอีกยาวนาน

    - หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ได้อธิษฐานจิตเดี่ยวๆให้เป็นเวลานานหลายเดือน

    - นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระปฐมเจดีย์ โดยมีเกจิชื่อดังของนครปฐมร่วมพิธีด้วย เช่น หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ เป็นต้น
    จากนั้นทางผู้สร้างจึงนำตระเวนให้พระผู้มีชื่อเสียงแถบจังหวัดนครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี ปลุกเสกให้อีกหลายรูป


    พระผงชุดนี้จึงเป็นพระเครื่องที่ดีทั้งนอกดีทั้งใน ทั้งเจตนาในการจัดสร้างที่บริสุทธิ์จริงๆ คือสร้างเพื่อสืบอายุพระศาสนาและแจกเป็นทาน มวลสารต่างๆ ก็ตั้งใจรวบรวมมานาน อีกทั้งครูบาอาจารย์ที่เป็นองค์อธิษฐานจิต เป็นพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงและมีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศตระเวนเข้าพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ เรียกว่าที่ไหนมีจัดพิธีก็จะนำพระไปฝากเข้าพิธีทุกครั้ง บางครั้งก็นำไปถวายครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นแผ่เมตตาอธิษฐานพร

    พุทธคุณ :
    - เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย และเจริญด้วยโภคทรัพย์




    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บไม่ได้ใช้ มวลสารแห่งความเป็นศิริมงคล พุทธคุณครอบจักรวาลครับท่าน พระดีราคาเยาว์อีกรุ่น ที่ดีนอกดีใน เจตนาการจัดสร้างบริสุทธิ์ที่สุดส่วน แบ่งให้บูชา 299 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2024
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4093.ยอดประสบการณ์หายาก พระปิดตาซุ้มประตู รุ่นแรก
    หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ ทายาทพุทธาคมสายตรง หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    ปิดตา พ่อโอด ใหม่.JPG

    8t0ken-jpg.jpg

    พระปิดตาซุ้มประตู รุ่นแรก หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ จังหวัดนครสวรรค์ เนื้อผงวิเศษสีเทา เคลือบแดง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522

    จัดสร้างขึ้น 2 เนื้อคือเนื้อสีเทาจำนวน 2,525 องค์ และเนื้อสีแดงจำนวน 2,525 องค์

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    - ผงใบลานเผาไฟ(ใบลานจากตำราโบราณที่ชำรุด)
    - เกสรดอกไม้
    - ดอกไม้แห้งจากที่บูชาพระ
    - รากรักซ้อนตายพราย
    - รากมะยมตายพราย
    - ยอดสวาท
    - เถาวัลย์หลง
    - เถาเครือหลง
    - กาฝากรักตายพราย
    - รากพุดซ้อน
    - รากมะรุม เป็นต้น

    วาระการปลุกเสก
    - หลวงพ่อฮวด ได้ปลุกเสกเดี่ยว ตลอดไตรมาส ก่อนนำออกให้ทำบุญเพื่อสร้างศาลาการเปรียญ

    นับว่าเป็นพระปิดตาที่ออกแบบได้สวยงามและสูงด้วยประสบการณ์ทางเมตตามหานิยม โชคลาภ เป็นยิ่งนัก

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - https://palungjit.org/threads/ตามหาคู่แท้-ให้หลวงพ่อท่าน-ภาค-๒-ครับ.296537/page-8#post-4897028
    - https://www.web-pra.com/shop/ray2550/show/1309949
    - https://uauction2.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=403&qid=183193


    หลวงพ่อฮวด กัณฑโว วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์
    พระเถระของชาวบ้าน พระเกจินักพัฒนาและยังเป็นพระเถระที่ทรงวิทยาคุณ เป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อคล้าย วัดพนมรอก และอีกหลายคณาจารย์ มีนามเดิมว่า ฮวด พงษ์ทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2447 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรงที่บ้านดอนหวาย อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ทั้งนี้ ครอบครัวได้ย้ายมาประกอบอาชีพที่บ้านหัวถนนใต้ ต.หัวถนน อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

    เมื่ออายุครบ 20 ปี พ.ศ.2466 ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดพนมรอก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มี หลวงพ่อคล้าย เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาหลวงพ่อคล้ายได้เป็นเจ้าคณะอำเภอท่าตะโก มีสมณศักดิ์ พระนิพันธ์ธรรมาจารย์) ได้ฉายาว่า กัณฑโว
    เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อคล้าย เพื่อปรนนิบัติรับใช้ พร้อมทั้งศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม หลังจากนั้น จึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวถนนใต้

    หลวงพ่อฮวด ได้เริ่มศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมครั้งแรก จากหลวงพ่อคล้าย ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ (หลวงพ่อคล้ายเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเดิม สร้างเหรียญทวิภาคีร่วมกัน เมื่อคราวหลวงพ่อเดิม-หลวงพ่อคล้าย ช่วยสร้างพระอุโบสถ วัดพนมรอก เมื่อปี พ.ศ.2483)
    หลวงพ่อฮวดศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับหลวงพ่อเดิม ซึ่งหลวงพ่อมีความใกล้ชิดกับหลวงพ่อเดิม เนื่องจากหลวงพ่อเดิมได้มาช่วยพัฒนาวัดในเขตอ.ท่าตะโกหลายวัด เช่น การพัฒนาวัดทำนบ, วัดหนองไผ่, วัดเขาล้อ, วัดดอนคา, วัดโคกมะขวิด, วัดพนมรอก, วัดหนองหลวง, วัดหัวถนนเหนือ (เหตุที่หลวงพ่อเดิมได้มาช่วยพัฒนาวัดในเขตอ.ท่าตะโกมาก เนื่องจากบ้านหนองโพ-หัวหวายเป็นเขตติดต่อกับบ้านหนองหลวง-หัวถนน) หลายครั้ง หลวงพ่อเดิมได้รับกิจนิมนต์ไปยังที่ใด มักจะชวนหลวงพ่อฮวดร่วมเดินทางติดตามไปด้วยเสมอ

    หลวงพ่อฮวด เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดสายพุทธาคมมาจากหลวงพ่อเดิม เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว หลังจากนั้น หลวงพ่อฮวดได้เล่าเรียนวิทยาคมกับอีกหลายพระอาจารย์ตามความชำนาญของแต่ละท่าน อาทิ วิชาทำตะกรุดกับหลวงพ่อพุฒ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง, เรียนทำน้ำมนต์กับหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา, เรียนทำผงเมตตามหานิยมโชคลาภจากหลวงพ่อศักดิ์ วัดวังกระโดนใหญ่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เป็นต้น

    หลวงพ่อฮวด ได้มรณภาพเมื่อวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2535 เวลา 08.47 น. ณ วัดหัวถนนใต้ สิริอายุ 88 พรรษา 68

    คณะกรรมการวัด ได้บรรจุศพหลวงพ่อฮวดไว้ในโลงแก้ว ปรากฏว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ ด้วยศพหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย ทั้งที่เป็นโลงแก้วธรรมดา ไม่ได้เป็นแบบสุญญากาศ
    ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี วัดหัวถนนใต้ จะเปิดโลงเพื่อเปลี่ยนผ้าสบง-จีวรหลวงพ่อฮวด เพื่อความเป็นสิริมงคล ปัจจุบัน ศพตั้งไว้บนจัตุรมุขวิหาร วัดหัวถนนใต้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ชาวบ้านตั้งสมญานามให้กับท่านว่า 'พระของชาวบ้าน'


    *** ประสบการณ์ปาฎิหาริย์ ****
    เรื่องราวต่อไปนี้ผมหาข้อมูลมาจาก : เดลินิวส์ 'แฉ่ง บางกระเบา'
    หลวงพ่อฮวดท่านเป็นพระรุ่นน้องของหลวงพ่อเดิม เดินธุดงค์ด้วยกัน พระท่านดีทุกรุ่น ไม่มีปัญหาเรื่องประวัตการสร้าง ลูกศิษย์ดีทุกท่าน ทุกวันนี้หลวงพ่อมรณะภาพไปแล้ว ร่างกายเป็นสีทอง ของดีที่ยังไม่มีใครรู้ไปหามาแขวนนะครับ รุ่นไหนก็ได้ ดีทุกรุ่น

    จัดเป็นอีกเรื่องที่ “เหนือกว่าความเป็นจริง” และเป็นสิ่งที่ “เหลือเชื่อ” เกินกว่าจะอธิบายได้เพราะเป็น “ปรากฏการณ์” ที่ “เหนือธรรมชาติ” จึงนิยมเรียกกันว่า “อภินิหาร” หรือ “เหนือลิขิต?? ประกาศิตฟ้าดิน??” ก็ว่าได้เพราะเรื่องราวเช่นนี้มักจะมีให้เห็นอยู่เสมอผู้เขียนจึงนำมาเสนอ เพื่อให้ทุกท่านที่ “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ได้รับทราบกันว่าเป็นอีก “เรื่องจริง” ที่สามารถพิสูจน์ได้

    โดยเรื่องราวนี้แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว 44 ปี แต่ก็เหมือนเพิ่งจะผ่านไปไวไวนี้เอง เพราะชาวบ้านแห่ง “อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์” ยังคงร่ำลือกล่าวขวัญถึงอยู่เสมอมิได้ขาดแม้ว่าเรื่องราวนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2507 เวลา 20.10 น.ขณะที่ “ลุงทองสุข พงษ์ทอง” ชาวบ้านหัวถนนใต้ หมู่ที่ 2 ต.หัวถนน จ.นครสวรรค์ กำลังปิดร้านค้าปรากฏมีคนร้าย 3 คนได้บุก “เข้าปล้น” ทำการกวาดทรัพย์สินไปได้หลายอย่างแต่เป็นที่ “อัศจรรย์” เมื่อ “กระป๋อง” ที่ “ลุงทองสุข” ใช้เป็นที่ “เก็บเงิน” จากการขายของในช่วงกลางวันที่ “ตั้งอยู่บนหัวนอน” โจรไม่ได้นำไปด้วยเหตุก็เพราะใน “กระป๋องใบนั้น” มี “เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อฮวดวัดหัวถนนใต้” ที่ลุงทองสุขนำมาใส่ไว้และขณะที่โจรล่าถอยออกจากร้านเพราะได้ทรัพย์สินตาม ที่ต้องการแล้วแต่ “ลุงทองสุข” กลับเกิดเสียดายทรัพย์สินจึงวิ่งตาม เลยถูกโจรยิงกระสุนเจาะเข้าที่หัวไหล่ขวาของลุงทองสุข แต่ปรากฏว่ากระสุนไม่ทะลุผิวหนังเลยเพียงแต่เป็น “รอยไหม้” และบวมเท่านั้นแสดงให้เห็นว่า “เหรียญหลวงพ่อฮวด” มีพุทธานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม

    อีกเรื่องที่ต้องนำมาเสนอคือ “นายชวการ รัตนธีรเดช” เล่าว่าพี่ชายของ “เสี่ยเฮ้า” ซึ่งเป็นเพื่อนของเขาเองและเป็นศิษย์ “หลวงพ่อฮวด” ด้วยมีอาชีพ “ค้าข้าว” จึงต้องตระเวนวขับรถ 10 ล้อไป “ขนข้าว” ตามที่ต่างๆวันหนึ่งขณะขับรถวิ่งมาถึง “สามแยกวิเศษโพธิ์ทอง” ก็ถูกคนร้าย 3 คนใช้ปืน “บุกปล้น” และบังคับให้ขับรถเข้าไปในป่าลึกจากนั้นจึงจับพี่ชาย “เสี่ยเฮ้า” และลูกน้องมัดกับต้นไม้เพื่อรอให้มืดลงจึงจะขับรถขนข้าวหนีไป แต่ระหว่างรอเวลาให้มืดลง “หนึ่งในคนร้าย” ได้ใช้ปืนจ่อเข้าที่ “หัวพี่ชายเสี่ยเฮ้า” พร้อมขู่ขึ้นว่า “ยิงทิ้งซะดีมั้ง ขี้เกียจเฝ้าแล้ว” พี่ชายเสี่ยเฮ้าตัวเย็นเฉียบด้วยความกลัวจึงหลับตาลงแล้วพึมพัมว่า “หลวงพ่อฮวด...ช่วยลูกด้วย” พอสิ้นคำก็ปรากฏเรื่องที่น่าอัศจรรย์เมื่อพี่ชายเสี่ยเฮ้ามองเห็น “หลวงพ่อฮวด” มานั่งลอยเด่นอยู่บนหัวตัวเองทั้งๆที่ยังหลับตาและพอลืมตาขึ้นก็เห็น 3คนร้ายเดินไปที่รถแล้วทำการสตาร์ทรถขับหนีไป พี่ชายเสี่ยเฮ้าจึงแก้มัดตัวเองจนหลุด ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้พาไปแจ้งความกับตำรวจ

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังติดตามคนร้าย ยังบริเวณที่เห็นคนร้ายขับรถหนีไปจึงพบรถ 10 ล้อ จอดอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจเพราะระยะเว ลาห่างกันตั้ง 3-4 ชั่วโมง แต่คนร้ายกลับขับรถหนีจากที่เกิดเหตุได้ไม่มากนัก โดยสังเกตได้จากรอยล้อรถที่มีการขับวนเวียนอยู่บริเวณนั้นหลายรอบ ในลักษณะหาทางออกไปไม่ได้จึงต้องทิ้งรถหลบหนีไปครั้น “เสี่ยเฮ้า” ทราบเรื่องจากพี่ชายก็ไปกราบ “หลวงพ่อฮวด” พร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านฟังโดยยืนยันกับท่านว่า “เพราะหลวงพ่อไปช่วยพี่ชายจึงไม่ถูกยิงและเอารถไปไม่ได้” แต่ “หลวงพ่อฮวด” ก็นั่งเฉยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ “เสี่ยเฮ้า” จึงย้ำถามหลวงพ่ออีกหลายครั้งว่าไฉนจึงไปช่วยพี่ชายได้ที่สุดหลวงพ่อจึงบอก ว่า “ฉันนั่งสมา ธิและแผ่เมตตาไปให้กับลูกศิษย์ทุกคน ดังนั้นถ้าผู้ใดตกทุกข์ได้ยากแล้วระลึกถึงฉัน เขาก็จะมองเห็นฉันเหมือนนิมิตนะ” เสี่ยเฮ้าได้ยินชัดเจนจึงก้มกราบเท้าท่านแบบยอมรับและนับถืออย่างสนิทใจ



    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์เก่าเก็บ พิมพ์คมสวยชัดลึก สุดยอดของดีประสบการณ์เยี่ยมที่ทุกคนให้การยอมรับ แบ่งให้บูชา 456 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2024
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4094.The last สุดยอดชนวนมหาพิธี 8วาระ(New2) พระกริ่งปุญญมากโร รุ่นแรก
    หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ พระอรหันต์ผู้ซึ่งกระดูกเป็นพระธาตุขณะดำรงขันธ์อยู่

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    กริ่วรุ่นแรก พ่อประสิทธิ์ ๒.JPG

    1469992969-image-o216e98b0a4fe8036-jpg-jpg.jpg
    359792368_3459633260921563_374716536326515113_n-jpg-jpg.jpg
    8df136b9260b7e68-jpg-jpg.jpg
    พระกริ่งปุญญมากโร รุ่นแรก หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เนื้อทองทิพย์ ตอกโค้ด รันนัมเบอร์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2550


    ***** เอกซเรย์กระดูกเป็นแก้วสีใส ****

    กลุ่มคุณหมอทั้งหลายที่ในโรงพยาบาลสวนดอก (เชียงใหม่) ต่างยกย่องกล่าวขานถึงหลวงพ่อว่าน่าอัศจรรย์แท้ !! เพราะเขาถ่าย x-ray ท่านออกมาปรากฏว่ากระดูกข้างในเป็นแก้วทั้งหมด หมอทั้งหลายในโรงพยาบาลสวนดอก เลยเคารพท่าน
    กราบไหว้พระอริยเจ้าองค์นี้ และหลวงตามหาบัวก็ยืนยันในความดีและคุณธรรมของท่านพระอาจารย์ประสิทธิ์

    เมื่อประมาณปี พศ.๒๕๔๒ หลวงพ่อประสิทธิ์ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดลำปาง รถยนต์ได้พลิกคว่ำ หลวงพ่อประสิทธิ์ท่านฯ ไม่มีบาดแผล มีแต่รอยฟกช้ำที่แขนข้างซ้าย ทำให้แขนบวม เนื่องมาจากลูกบวบจีวรได้ไปเกี่ยวกับประตูรถยนต์ ท่านฯ จึงได้เดินทางมาที่รพ.วัดสวนดอก(เชียงใหม่) เพื่อตรวจร่างกายและทำการเอ็กเรย์ที่แขนข้างที่ได้รับอุบัติเหตุฯ ปรากฏว่า เมื่อถ่าย x-ray ท่านออกมาปรากฎว่ากระดูกข้างในเป็นแก้วทั้งหมด คุณหมอทั้งหลายที่ใน ร.พสวนดอก(เชียงใหม่) ต่างยกย่องกล่าวขานถึงหลวงพ่อประสิทธืว่าน่าอัศจรรย์แท้
    ต่อมามีนักข่าวนสพ.ข่าวสด ได้เดินทางมาที่วัดป่าหมู่ใหม่ เพื่อถ่ายรูปขอสัมภาษณ์องค์ท่านฯ
    ถูกท่านฯเอ็ดต่อว่า ไม่ให้นำข่าวที่กระดูกท่านฯใสเป็นแก้วไปลงตีพิมพ์ แต่ในที่สุดข่าวนี้ได้แพร่กระจายออกไปจนเป็นข่าวโด่งดัง ในเวลาต่อมา



    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง
    - นำปัจจัยรายได้ทั้งหมดจากการทำบุญวัตถุมงคลชุดนี้บูรณะวิหารวัดศรีดอนชัย สำหรับท่านที่ร่วมทำบุญจองพระกริ่ง พระชัยวัฒน์นี้ถือว่าท่านได้ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพในการบูรณะวิหารของวัดศรีดอนชัย เพื่อให้สำเร็จลุล่วงสืบไป

    ชนวนสำคัญที่หล่อองค์พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ รุ่นแรก
    -ชนวนเททองหล่อพระเจ้าทันใจวัดร้องขุ้ม ซึ่งทำพิธีหล่อโดยหลวงพ่อประสิทธิ์ เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๔๙
    -ชนวนเททองหล่อพระประธาน ทำพิธีเททองโดยหลวงตามหาบัว ที่วัดป่าศาลาปางสัก
    -ชนวนเททองหล่อพระเจ้าทันใจวัดเจดีย์หลวง ทำพิธีเททองโดยหลวงตามหาบัว เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
    -ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม รุ่นเศรษฐีล้มลุก ปี ๒๕๔๓
    -ชนวนเททองหล่อพระมหาจักรพรรดิ, หลวงปู่ทวด, หลวงปู่ดู่, ของหลวงตาวรงคต วัดพุทธพรหมปัญโญ ปี ๒๕๔๒
    -ชนวนเททองหล่อพระเจ้าเพชรศีมุงเมือง วัดศรีมุงเมือง ซึ่งทำพิธีหล่อโดยหลวงพ่อเปลี่ยน เมื่อปี ๒๕๕๐
    -ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดทุ่งปุย รุ่นไจยะเบ็งจร ปี ๒๕๔๕
    -ชนวนเททองหล่อพระเจ้าแสนล้าน วัดเจดีย์หลวง ทำพิธีเททองโดยหลวงปู่พระพุทธพจนวราภรณ์ เมื่อนวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
    -ชนวนเททองหล่อพระพุทธสิงหชัยวัฒน์ และรูปเหมือนหลวงปู่ครูบาหน้อย วัดบ้านปง ซึ่งทำพิธีหล่อโดยหลวงพ่อเปลี่ยน เมื่อปี ๒๕๕๐
    -ชนวนพระกริ่งวัดสุทัศนเทพวราราม หลายนุ่น หลายพิธี
    -เศษพระบูชาเนื้อโลหะสำริดเก่าจำนวนมาก
    -ทองจังโก๋พระธาตุแช่แห้ง
    -ทองจังโก๋พระธาตุดอยสุเทพ
    -ทองยอดฉัตรเจดีย์วัดร้องขุ้ม ๒ สมัย
    -ทองยอดฉัตรอุโบสถวัดร้องขุ้ม
    -แผ่นยันต์ ๑๐๘ นะปถมัง ๑๔
    -แผ่นยันต์มหาพิชัยสงครามดวงประสูติ ตรัสรู้ พระพุทธเจ้า
    -แผ่นทองคำ เงิน ทองแดง ตะกั่วจารหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่
    -แผ่นยันต์จารหลวงปู่ครูบาน้อยวัดบ้านปง
    -หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม
    -หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง
    -หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    -หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง
    -หลวงปู่ครูบามา วัดศิริชัยนิมิต
    -หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    -หลวงพ่อตัด วัดชายนา
    -หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
    -หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง
    -หลวงปู่ครูบาอินตา วัดวังทอง
    -หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    -หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    -หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
    -หลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาสาปูน
    -หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    -หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    -หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล่อม
    -หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
    -หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    -หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
    -หลวงพ่อคูณ สัดบ้านไร่
    -หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
    -หลวงตาวรงคต วัดพุทธพรหมปัญโญ
    -หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ
    -หลวงพ่อบัวเกตุ วัดป่าแม่ปาง
    -หลวงปู่ครูบาคำ วัดธรรมชัย
    -หลวงปู่ครูบาสิทธิ วัดปางต้นเดื่อ
    -หลวงปู่ครูบาแก้วมา วัดร่องดู่
    -หลวงปู่สุภา ภูเก็ต
    -หลวงปู่ครูบาตั๋น วัดม่อนปู่อิ่น
    -หลวงปู่ครูบาก๋องคำ วัดดอนเปา
    -หลวงพ่อประเสริฐ วัดพระพุทธบาทเวียงเหนือ
    -หลวงปู่ครูบาเผือก วัดไชยสถาน
    -ครูบาเจ้าจันทรังษี วัดกู่เต้า
    -หลวงปู่ครูบาอ่อน วัดสันต้นหวีด
    -หลวงปู่ครูบาคำปัน วัดนาแส่ง
    -หลวงปู่ครูมาสุข วัดป่าซางน้อย
    -หลวงปู่ครูบาบุญมา วัดช่างคำน้อย
    -หลวงปู่ครูบาคำปัน วัดพระธาตุม่อนเปี้ย
    -หลวงปู่ครูบาผดุง วัดป่าแพ่ง
    -หลวงปู่พระราชเจติยาจารย์ วัดเจดีย์หลวง
    -หลวงปู่ครูบาพรรณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    -หลวงปู่ครูบาข่าย วัดหมูเปิ้ง
    -หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล
    -หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง
    -หลวงพ่อเมือง วัดป่ามัชฌิมาวาส เป็นต้น


    พิธีกรรม 8 วาระ
    วาระที่ : 1
    - วันที่ 30 พ.ค. 2550 เวลา 21.19 น. พิธีเททองหลอมชนวนหลวงพ่อประสิทธิ์ เป็นองค์เททอง ณ มณฆลพิธี วัดศรีมุงเมือง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

    วาระที่ : 2
    - วันที่ 9 มิ.ย. 2550 พิธีปลุกเสกชนวน เข้าพิธี ณ. วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน หลวงพ่อประสิทธิ์ พร้อมพระมหาเถระเกจิอาจารย์สายครูบาศรีวิชัยจำนวนมากนั่งปรกอธิฐานจิต

    วาระที่ : 3
    - วันที่ 13 มิ.ย. 2550 พิธีปลุกเสกชนวน เข้าเข้าพิธี ณ วัดพญาวัด อ.เมือง จ.น่าน ะรัเกจิสายเขาอ้อ จำนวน 8 รูป นั่งปรกอธิฐานจิต

    วาระที่ : 4
    - วันที่ 12 ส.ค. 2550 พิธีปลุกเสกชนวน เข้าพิธี ณ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อประสิทธิ์ พร้อมพระคณาจารย์สายวัดป่า จำนวน 9 รูป นั่งปรกอธิฐานจิต

    วาระที่ : 5
    - วันที่ 14 ส.ค. 2550 พิธีปลุกเสกชนวน เข้าพิธี ณ วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ครูบาเจ้าดวงดี พร้อมพระคณาจารย์สายครูบาศรีวิชัยจำนวนมากนั่งปรกอธิฐานจิต

    วาระที่ : 6
    - วันที่ 28 ส.ค. 2550 เวลา 17.09 น. พิธีเททองหล่อพระกริ่งแบบโบราณ หลวงพ่อประสิทธิ์ เป็นองค์เททอง เฉพาะเนื้อนวะโลหะทั้งหมด ณ มณฑลพิธี วัดร้องขุ้ม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

    วาระที่ : 7
    - หลวงพ่อประสิทธิ์ อธิฐานจิตเดี่ยว ณ วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 2550 จนถึง วันที่ 23 พ.ย. 2550 ( ระยะเวลารวมทั้งสั้น 56 วัน )

    วาระที่ : 8
    - วันที่ 24 พ.ย. 2550 พิธีสมโภชพุทธาภิเษก พระกริ่ง-พระชัย หลวงพ่อประสิทธิ์อธิฐานจิตเดี่ยว พร้อมพระคณาจารย์สายวัดป่าเจริญพระพุทธมนต์พุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่




    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บไม่ผ่านการบูชา พุทธคุณครบครอบ แบ่งให้บูชา 777 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4095.เมตตามหานิยม โชคลาภโภคทรัพย์ มวลสารผงงาช้าง ไม้มงคล 9 ชนิด
    พระสมเด็จมงคล 9 หลวงปู่สุภา กันตสีโล พระเถรจารย์ 5แผ่นดินผู้มีอายุยืนถึง 118ปี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    361947886_6851419294868043_1883669562546808132_n-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg


    สมเด็จ ปู่สุภา.JPG
    พระสมเด็จมงคล 9 ไม้มงคล 9 ชนิด หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต เนื้อผงพุทธคุณผสมผงงาช้าง ไม้มงคล 9 ชนิด ดำเนินการจัดสร้างเมื่อ ปีพ.ศ. 2548 จัดสร้างเนื่องในโอกาสอายุครบ 111 ปี หลังประทับด้วยลายเซ็นต์ของหลวงปู่สุภา

    มวลสารจากไม้มงคล 9 ชนิด คือ
    1. ไม้ราชพฤกษ์ หมายถึง ความเป็นใหญ่และมีอำนาจวาสนา
    2. ไม้ขนุน หมายถึง หนุนให้ดีขึ้น ร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุน อุดหนุน
    3. ไม้ชัยพฤกษ์ หมายถึง การมีโชคดี มีชัยชนะ ชนะศัตรู ชนะอุปสรรคต่างๆ
    4. ไม้ทองหลาง หมายถึง การมีทรัพย์สินเงิน มีเงินทองใช้ไม่ขัดสน
    5. ไม้ไผ่สีสุก หมายถึง มีความสุขกาย สบายใจ ไร้ทุกข์โศกโรคภัย
    6. ไม้ทรงบาดาล หมายถึง ความมั่นคง หรือทำให้บ้านมั่นคงแข็งแรง
    7. ไม้สัก หมายถึง ความมีศักดิ์ศรี ความมีเกียรติ มีอำนาจบารมี มีคนเคารพนับถือและยำเกรง
    8. ไม้พะยูง หมายถึง การพยุงฐานะให้ดีขึ้น
    9. ไม้กันเกรา หมายถึง ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ตำเสา ซึ่งอาจหมายถึงทำให้เสาเรือนมั่นคง


    พระชุดนี้ หลวงปู่สุภา กันตะสีโล เมตตาปลุกเสก พุทธคุณรอบด้าน เน้นโภคทรัพย์ โชคลาภ เมตตามหานิยม



    ************************************


    ประวัติโดยย่อ หลวงปู่สุภา
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล หรือ พระมงคลวิสุทธิ์ ท่านเป็นคนอำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร มาโดยกำเนิด ท่านเกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2438 หลวงปู่บวชเป็นเณรตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
    จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ 115 ปี เข้าไปแล้ว ปี 2459 หลวงปู่บวชเป็นพระ นามฉายา กันตสีโล ได้เป็นศิษย์ของพระอาจารย์สีทัตต์ หรือ สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งท่านเป็นพระวิปัสนาจารย์ ปี 2463 ท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท จากนั้น ยังได้ไปศึกษาทางด้านกษิณและฌานสมาบัติอยู่กับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต นานถึง 3 ปี หลวงปู่แบกกลดเดินธุดงค์อยู่จนถึงอายุ 84 ปี ท่านไปมาแล้วทั่วทุกภาคของประเทศ เลยไปถึงประเทศข้างบ้าน ก่อนที่จะมาลงหลักปักฐานอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ท่านผ่านไปที่ใดก็มักได้ไปสร้างวัด สร้างสำนักสงฆ์ไว้ ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่จึงมีอยู่ทั่วประเทศ และเลยไปถึงทั้งชาวสิงคโปร์และมาเลเซีย


    สรุปการศึกษาธรรมและวิชาโดยคราวๆ
    - เรียนมูลกัจจายน์ ที่วัดไพรใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระอาจารย์มหาหล้า และฆราวาสชื่ออาจารย์ลุยเป็นผู้สอน
    - ศึกษทางด้านวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมทางด้านคาถาอาคมไสยเวทจาก หลวงปู่สีทัตต์ วัดท่าอุเทน (ศิษย์เอกของ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว) ท่านเป็นพระป่ามีชื่อเสียง เป็นเวลา 8ปี
    - ศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ปีเวลา 3ปี
    - ศึกษาทางด้านกษิณและฌานสมาบัติอยู่กับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต นานถึง 3 ปี
    - หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
    - หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา
    - หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    - หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    - หลวงพ่อโอภาสี เป็นต้น


    ขอบคุณข้อมูลประวัติเพิ่มเติม :
    - ประวัติหลวงปู่สุภา - www.luangpusupa.com




    สภาพผิวหิ้งเก่าเก็บ ทั้งเจตนาการสร้างที่บริสุทธิ์, หลวงปู่อธิษฐานจิตเต็มเปี่ยม พุทธคุณสูงส่งดั่ง องค์ท่านหลวงปู่สุภา ผู้ทรงไว้ซึ่งอรหันตเถรจารย์ แบ่งให้บูชา 250 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4096.สภาพขลังคราบกรุเก่าชุดตกค้างวัด New(1) พระนางพญาฐานบัว หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง
    สุดยอดพระเกจิยุคกึ่งพุทธกาล ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่สามารถพิสูจน์ได้

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    [​IMG]


    นางพ่อยี New ๑.JPG
    พระนางพญาฐานบัว หลวงพ่อยี ปญญภาโร วัดดงตาก้อนทอง(วัดอภัยสุพรรณภูมิ) ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เนื้อดินผสมผงวิเศษ ดำเนินการจัดสร้างประมาณปี พ.ศ.2500 จำนวนการสร้างน้อยมาก

    !!!! ปัจจุบันหายากแล้วเเม้แต่ในพื้นที่ก็แทบจะไม่มีให้เห็น
    เป็นอีกหนึ่่งพิมพ์พระเนื้อดินที่หลวงพ่อยีท่านใช้อิทธิฤทธิ์ เรียกขึ้นมาจากดินเพื่อแจกแก่ลูกศิษย์ !!!!



    ประวัติโดยย่อหลวงพ่อยี
    หลวงพ่อยี ปญญภาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดอภัยสุพรรณภูมิ (ดงตาก้อนทอง) ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 10 ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้อุทิศที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนให้กับชุมชน ให้ลูกหลานชาวบ้านดงตาก้อนทอง และบ้านใกล้เคียงได้เล่าเรียน มาจนปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นคนดีศรีอภัยสุพรรณภูมิอย่างแท้จริง
    จากคำบอกเล่าต่างๆนั้น ทำให้ได้ทราบว่า หลวงพ่อยี เป็นชาวจังหวัดลพบุรี เมื่อเด็กๆ อายุได้ 8 ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับพระภิกษุรูปหนึ่ง ไม่ทราบชื่อแน่นอน แต่หลวงพ่อยี เรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ได้ธุดงค์ออกป่าหลายแห่งจนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ ได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆตามป่าเขา ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เคยไปถึงพม่า เวียงจันทน์ และมาลายู หลวงพ่อยีท่านเล่าว่า ท่านได้เดินธุดงค์หาความวิเวกจนมองเห็น นรก สวรรค์ ยามที่ท่านออกโปรดสัตว์ในตอนเช้า จะมีเทวดา นางฟ้ามาตักบาตรให้ตลอดเวลา ได้บวชเป็นพระถึง 28 พรรษา อายุได้ประมาณ 50 ปี เมื่อเล็งเห็นว่าตนยังมีกรรมอยู่จำเป็นต้องลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส หลังจากนั้นก็ออกท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเต็มที่ จนครั้งสุดท้ายได้มาหักร้างถางพง ณ บริเวณที่เป็นวัดดงตาก้อนทองนี้ สมัยนั้นยังเป็นป่ารกชัฎอยู่ มีที่ดินทั้งหมด 565 ไร่ เคยประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สัก อยู่ยงคงกระพันชาตรี ให้กับลูกศิษย์ลูกหาอยู่พักหนึ่ง ต่อมาได้ออกบวชอีกเป็นครั้งที่ 2 หลวงพ่อยีได้ตกลงใจยกที่ดินถวายเป็นของสงฆ์เสียส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ให้คนเช่าต่อไป


    สิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของวัดดงตาก้อนทอง คือพระอุโบสถ ใช้เวลาในการสร้างจริงๆ เพียง 1 ปี 6เดือน เท่านั้นแต่ในการรวบรวมปัจจัยมาเป็นค่าวัสดุและแรงงานใช้เวลานานพอสมควรที เดียว งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง 6-7 ล้านบาท การขนส่งวัสดุอุปกรณ์ต้องใช้ทางเกวียน เพราะสถานที่ในการก่อสร้างนั้นอยู่ไกลมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยบารมีของหลวงพ่อยี งานก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ และ ยังเป็นถาวรวัตถุที่งดงามอยู่มาตราบจนทุกวันนี้ ตัวโบสถ์กว้าง10 วา ยาว 20 วา สูง 12 วาชั้นบนเป็นโบสถ์ ชั้นล่างใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาแทนศาลาการเปรียญได้ นับว่าเป็นโบสถ์อเนกประสงค์หลังหนึ่ง สิ่งก่อสร้างอื่นๆภายในวัดนั้นมีปริศนาธรรมอยู่หน้าโบสถ์ คือมีรูปปั้นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ 1องค์นั่งบังพระพุทธรูปขนาดเล็กไว้ ปริศนาธรรมนี้ผู้พบเห็นก็ขบคิดกันเอาเอง อีกด้านหนึ่งมีรูปปั้นคนขี่ช้าง ถัดมาด้านซ้ายมือเป็นป่ามะม่วงหนาทึบมีพระพุทธรูปในอริยาบทต่างๆ ตั้งเรียงรายเป็นระยะๆ มีรูปเคารพของศาสนาพราหมอยู่หน้ากุฏิพระ มีโรงครัวขนาดใหญ่โต แสดงถึงจำนวนญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดนี้ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต

    ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อยี เช่นคุณสมหมาย - คุณณรงค์ศักดิ์ ตะละภัฏ คุณบรรยง ณ บางช้าง และลูกศิษย์อื่นๆอีกมากมาย ก็สามารถที่จะยืนยันได้เป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อยีท่านมีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์สูงส่งมากเพียงใด

    ในระยะที่ผู้คนฮือฮากันถึงเรื่องความมหัศจรรย์ที่หลวงพ่อยีท่านได้กระทำนั้นพระราชมุนี(โฮม โสภโณ)แห่งวัดประทุมวนารามก็เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ต้องมาพิสูจน์ถึงความเท็จจริงนี้ให้ประจักษ์ หลวงพ่อถาวร ซึ่งในขณะนั้นเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพระราชมุนีโฮม ก็ได้ติดตามมาด้วย และภายหลังก็ได้มาที่วัดดงตาก้อนทองอีกหลายครั้งเพื่อศึกษาเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์กับหลวงพ่อยี จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้ง ได้รู้ได้เห็นเป็นที่ยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นจริงทุกประการไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงสงสัยอีกเลย

    การแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ของท่าน ช่วง 2500 - 2512
    ถูกนักเขียน นสพ.โจมตีอย่างหนัก หาว่าท่านเล่นกล หลอกลวงประชาชน แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ประสบเหตุมีอันเป็นไป ต่างๆ นาๆ ตายก็มี ไม่ตายแต่ป่วย ทนทุกข์ทรมานก็มี
    ผลจากการโจมตีในหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้หลวงพ่อยีต้องอธิกรณ์ ถูกบังคับข่มขู่ให้ถึงแก่ความตาย ท่านจึงนุ่งห่มขาว สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ส่งหลวงพ่อโฮมไปสอบ แต่ไม่มีข้อที่จะต้องอธิกรณ์ และได้บวชกลับคืน แปรญัตติเป็นพระภิกษุในคณะธรรมยุติกาย
    นับเป็นเรี่องน่าสังเวชที่เราท่านทั้งหลาย ควรถือเป็นคติว่า ถ้าฆราวาสไม่รู้จริง อย่าพึ่งไปกล่าวโทษให้ร้ายพระสงฆ์ ถึงอย่างไรท่านก็ถือศีล ปฎิบัติดีกว่าฆราวาส


    คุณวิเศษของหลวงพ่อยี ที่เห็นเป็นที่ประจักษ์
    - ยืดเหรียญบาทได้ยาวเป็นฟุตกลายเป็นคำบริสุทธิ์
    - เสกกระดาษให้เป็นธนบัตรใลละร้อยแจกญาติโยม นำไปเป็นขวัญถุง หรือใช้ซื้ออะไรก็ได้
    - เสกข้าวสาร ในขันให้เป็นเม็ดทองคำ แจกจ่ายให้ลูกศิษย์ไว้เป็นของศักดิ์ิทธิ์-เมตตา
    - เสกใบไม้ให้เป็น ธนบัตรสีเขียว เป็น กบ ปลา แกงกินได้ กินไม่หมดจะกลับกลายเป็นใบไม้เหมือนเดิม
    - ตกเบ็ดบนต้นไม้ มีปลามาดิ้นกระแดวๆ มากมาย
    - บิณฑบาตจากเทวดา ได้ข้าวทิพย์ร้อนๆ หอมฟุ้งเต็มบาตร มีข้าวสวย ข้าวผสมงา ข้าวผสมถั่ว
    - ปลูกข้าวหน้าโบสถ์ วันเดียวเก็บเกี่ยวได้
    - เรียกตะกรุดทองคำ 3-5 บาท มาแจกจ่ายลูกศิษย์
    - เรียกพระเครื่องจากอากาศแจกจ่ายญาติโยม
    - มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ที่ฝังสมบัติ
    - แยกร่างไปปรากฎหลายที่ ไกลแสนไกล ขณะที่ท่านนั่งอยู่กับที่
    - สามารถย่นระยะทางที่ไกลแสนไกล ให้ไกล้ได้
    - ล่องหนหายตัวได้ในพริบตา โดยไม่ต้องใช้กำบังหรือความมืด
    - ทำผ้าสีต่างๆ ให้กลายเป็นผ้ายันต์ได้นับพัน นับหมื่นผืน
    - ข้ามห้วย-แม่น้ำ โดยไม่ใช้เรือข้ามฟาก
    - รักษาโรคร้ายแรงให้หายขาดได้ในพริบตา
    - เอาปลาช่อนที่ตากแห้งเป็นริ้วๆ โยนลงแม่น้ำกลายเป็นปลาช่อนหลายตัวแหวกว่ายมีชีวิตชีวา
    - ใช้หม้อใบเล็กๆ 2ใบ หุงข้าว และแกง เลี้ยงคนได้นับร้อย โดยข้าว และแกงไม่หมดสักที
    - มีวาจาศักดิ์สิทธิ์สั่งให้โชคลาภ ได้เลื่อนยศ ตำแหน่ง หรือรอดพ้นากภัยพิบัติต่างๆ จากร้ายกลายป็นดี
    - บันดาลให้รูปปั้นแม่พระธรณี ที่อยู่หน้าวัดดงตาก้อนทอง มีน้ำไหลพวยพุ่งออกมาจากมวยผม ทั้งๆที่มวยผมไม่มีท่อน้ำ น้ำเย็น จืดสนิท มีกลิ่นหอมๆ ดื่มได้ และมีรสชาดดี
    - วัตถุที่เสกให้เป็นทองคำ อยู่ได้ 600ปี ครบแล้วจะกลับดืนสู่สภาพเดิม



    เรื่องเล่าจากปากคำผู้ประสบเหตุ
    - จากคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีกรมการศาสนา
    คือพันเอกปิ่น มุทุกันต์ เมื่อปี ๒๕๐๘ หลังจากไปสอบสวนกรณีหลวงตายีถูกหนังสือพิมพ์โจมตี ว่า "หลวงพ่อยีได้นำบาตรมาให้ตนดู และตนได้เป็นคนเช็ดบาตรด้วยตนเองทีเดียว หลวงพ่อยี อุ้มบาตรออกไปยืนที่นอกชานกุฏิห่างจากผู้สังเกตการณ์ ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนนิ่ง หันหน้าไปแต่ละทิศ แล้วเปิดฝาบาตร ทำนองรับบาตรจากผู้ใส่เหมือนกับที่เราใส่บาตรทุกอย่าง"
    แล้วหลวงพ่อยีก็เรียกอธิบดีกรมการศาสนาเข้าไปหา ท่านส่งบาตรให้ พอยื่นมือไปรับมารู้สึกว่าบาตรหนักอึ้ง เปิดฝาบาตรดูปรากฏว่ามีข้าวสุกร้อนๆ เต็มบาตร มีกลิ่นหอมอบอวล เป็นข้าวชนิดมันปู กันบาตรมีลูกประคำทองอยู่ 2 ก้อน ขนาดโตกว่าเม็ดข้าวโพด ซึ่งภายหลังเมื่อได้นำเข้ากรุงเทพฯ ให้ช่างทองบ้านหม้อดูก็เป็นทองคำบริสุทธิ์
    นอกจากจะพิสูจน์เรื่องนี้แล้วหลวงพ่อยียังเสกเหรียญเงินให้เป็นทองก็ได้ด้วย หลวงพ่อท่านแบ่งให้อธิบดีกรมการศาสนาครึ่งหนึ่ง ให้ประธานศาลฎีกาครึ่งหนึ่ง ครั้งเมื่อนำไปพิสูจน์ที่ร้านทองก็ปรากฏว่าเป็นทองคำบริสุทธิ์ เช่นเดียวกัน
    จากการที่ท่านสร้างอุโบสถ์นี้ทำให้ท่านต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ บ่อยๆ สถานที่พักของท่านก็คือที่โรงเรียนตะละภัฎศึกษา การแสดงฤทธิ์อภิญญาของท่านก็กระทำเป็นประจำจนถึงบั้นปลายชีวิต หลวงพ่อถูพวกมิจฉาทิฎฐิ กล่าวหาว่าท่านหลอกลวง แต่ด้วยสัจจะบารมีของท่าน อิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่ท่านแสดงให้ปรากฏก็เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่บุคคลสำคัญๆ ระดับประเทศในขณะนั้น เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานศาลฎีกา พันเอกปิ่น มุทุกันต์ อธิบดีกรมการศาสนาและนายประกอบ หุตะสิงห์ อธิบดีศาลอุทธรณ์ เป็นต้น


    - โยม ผวน โตมา ศิษย์ผู้หนึ่งของหลวงพ่อยีได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาเป็นโบสถ์หลังนี้หลวงพ่อยีได้ปัจจัยในการสร้างโบสถ์มาจากการสร้าง อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ช่วยให้ลูกศิษย์มีฐานะร่ำรวยขึ้นแล้วบรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นก็นำเงินไปช่วย ท่าน ภายหลัง ท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นใบละร้อย เสกดินเป็นทองคำ เสกใบไม้ให้เป็นเงิน หรือแม้แต่เสกใบไม้ให้ เป็นกบนำมาทำอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เคยปรากฏมาแล้วหรือเรื่องการบิณฑบาตร ข้าวทิพย์จากเทวดาก็ตามหลวงพ่อท่านออกเดินห่างจากครัว ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนทำสมาธิที่ต้นมะม่วงใหญ่ ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ เต็มบาตร ข้าวทิพย์นี้มีกลิ่นหอมแรงทิ้งไว้ก็ไม่บูดแต่จะแห้งไปเองเหมือนข้าวตาก

    - พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้นเกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่ และจะทำให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมนุมชน
    โยมผวนขนลุกซู่ด้วยความยินดี ยกมือท่วมหัวว่าลูกรอดตายแล้ว หลวงพ่อมาโปรดลูกแล้ว ด้วยปฏิปทาที่แน่วแน่มั่นคง และจริยวัตรที่งดงามของหลวงพ่อถาวร ทำให้เกิดศรัทธาปสาทะแก่โยมผวนเป็นล้นพ้น ดังนั้นสมบัติต่างๆ ของหลวงพ่อยีที่เกิดจากอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ของท่าน มีเก็บรักษาไว้มากมายเพียงใด โยมผวนนำมาน้อมถวายให้แก่หลวงพ่อถาวร จนหมอสิ้น แม้กระทั่งข้าวทิพย์แห้ง ที่นางได้เก็บรวบรวมไว้นับสิบปี
    ก็นำมาถวายด้วย วันหนึ่งหลวงพ่อถาวร ท่านได้ทดลองอะไรบางอย่าง ด้วยการนำข้าวทิพย์มาหุงผสมกับข้าวธรรมดาวันนั้นปรากฏว่า กุฏิสุวรรณเนตรหอมตระลบอบอวลไปทั้งกุฏิ เพราะกลิ่นข้าวทิพย์โชยขจรขจายไปทั่ว ทำความแปลกประหลาดมหัสจรรย์แก่ผู้ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก หลวงพ่อถาวรย้ำว่า “ของแท้ ของจริง พิสูจน์ได้ตลอดเวลา”



    กาลมรณภาพ
    หลวงพ่อยี มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2515 เก็บศพใส่โลงทองไว้ในกุฏิทางด้านจังหวัดพิจิตร ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ได้สั่งเสียไว้กับศิษย์ใกล้ชิดคือ โยมผวน โตมา ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับวัดดงตาก้อนทองให้โยมผวน เป็นผู้ดูแลรักษาโบสถ์นี้ไว้อย่าไปอยู่ที่อื่นรอจนกว่าหลวงพ่อที่ 2 จะมารับช่วงต่อ พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้น เกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่


    ต่อมาเมื่อวัดดงตาก้อนทอง มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา วัดอภัยสุพรรณภูมิ หรือ วัดดงตาก้อนทอง ได้พัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน โดยการนำของพระพิสาลพัฒนาทร หรือหลวงพ่อถาวร จากวัดประทุมวนาราม กรุงเทพมหานครได้ทำการพัฒนาขึ้นมามากอย่างเห็นได้ชัด ในขณะนี้วัดอภัยสุพรรณภูมิมี พระสายันต์ สญญโม เป็นเจ้าอาวาส ในปัจจุบันท่านเจ้าอาวาสได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอภัยธรรมโสภณ


    พระคาถาหลวงพ่อยี (ควรสวดภาวนาก่อนนอน)
    จุดธูป 9 ดอก
    ตั้งนะโม 3จบ


    บทที่ 1.
    มหาปัญโญ มหาเตโช อุกาสะวันทามิ
    ภันเต อาจาริโย ปุณนะยีติ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 2.
    นะภันทะลัง กัมมัง อะโหสิภุมิมาเต
    นะภันเต จะตุนะ ปัจจะ นะมามิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 3.
    โอมพระเจ้าอยู่เบื้องตา พระธรรมเจ้าอยู่เบื้องปาก
    ตัวกูขอฝากไว้ในดวงจิต เอหิมามะ กะรินิติ พรหมมัสสามิ
    จิตกูนิ่งอยู่ที่พุทธัง ตัวกูอยู่ที่พระอรหัง เอหิมามะ
    {ภาวนา 108 จบ}


    บทที่ 4.
    มะธะนะ ภันธะนัง นิมิตตัง เตมหาภันธะนัง
    นะนิมิต ตัสสะ ปุณนะมิ นังกะโรมิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    ขอขอบพระคุณ : เจ้าของข้อมูล และไฟล์ภาพด้วยนะครับ



    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บผิวหิ้ง เก่าแท้ขลังแน่นอน ปัจจุบันหายากแล้วเพราะมีแต่คนเก็บของเริ่มหมดไปทุกวัน เอาไว้ใช้ติดตัวอุ่นใจแน่นอน เก่าเก็บเนื้อหาเก่าถึงยุค พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ประจุด้วยอิทธิ์ที่ยอดยิ่งเหนือสิ่งใด ไม่แท้ไม่ทันหรือยัดวัดคืนเต็มเหมือนเดิมครับผม แบ่งให้บูชา 999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณจินดา จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2024
  7. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,971
    ค่าพลัง:
    +6,880
    ขอจองครับ
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4097.ยอดพุทธศิลป์มหาพิธี พระมหาธาตุเจดีย์ 12 ราศี
    ลป.ทองดำ,ลป.ทอง,ลพ.เปลี่ยน ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระแก้ว 12ราศรี.JPG
    พระผงพระมหาธาตุเจดีย์ 12 ราศี หลังพระพุทธบาทสี่รอย เสริมดวงชะตาและเป็นสวัสดิมงคล นื้อผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 จัดสร้างโดยคุณสุธันย์ สุนทรเสวี

    พุทธศิลป์
    ด้านหน้า :
    - เป็นการเรียงลำดับพระมหาธาตุเจดีย์ประจำราศีเกิดทั้ง 12 ราศี มีความลึกลดหลั่นซ้อนลงไปถึง 9 มิติ คือ
    มิติที่ 1 คือ องค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เป็นพระพุทธปฏิมากรทรงเครื่องใหญ่ประจำฤดูร้อน อย่างพระบรมจักพรรรดิตราธิราช โดยมุ่งแทนสมเด็จพระบรมศาสดาอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์ ที่ทรงเป็น พระธรรมราชาประดิษฐานอยู่ ณ เบื้องหน้าสุด
    มิติที่ 2 คือ พระมหาธาตุเจ้าดอยตุง จ.เชียงราย ซึ่งบรรจงประดิษฐ์ให้เคียงคู่กับพระพุทธปฏิมากรเป็นกรณีพิเศษทั้งสองข้าง
    มิติที่ 3 คือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งเป็นพระมหาธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุด โดยได้อัญเชิญมาเป็นพระมหาธาตุเจ้า องค์ประธาน อย่างสมด้วยเหตุและผลทุกอย่าง
    มิติที่ 4 คือ พระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ และ พระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน
    มิติที่ 5 คือ พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ และ พระธาตุพนม จ.นครพนม
    มิติที่ 6 คือ พระมหาเจดีย์พุทธคยา กับพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง
    มิติที่ 7 คือ พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน และ พระธาตุเจ้าจอมทอง จ.เชียงใหม่
    มิติที่ 8 คือ พระเกษธาตุเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และพระธาตุวัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่
    มิติที่ 9 คือ พื้นเหรียญอันโล่งสะอาด ปราศจากสิ่งใดๆ มาปิดกั้น มีแต่เพียงจารึกอักขระล้านนา “นะโมพุทธายะ” และ ย้อนกลับเป็น “ยะธาพุทโมนะ” เรียกได้ว่าไม่ว่าท่านจะเกิดราศีใดก็ตามสามารถที่จะแขวนเหรียญนี้ได้ทุกคน

    ด้านหลัง :
    - เป็น พระพุทธบาทสี่รอย

    การจัดสร้างเหรียญพระมหาธาตุเจดีย์ 12 ราศี ทุกเนื้อได้ดำเนินจัดสร้างตามพิธีกรรมที่พระโบราณาจารย์ถือปฏิบัติสืบต่อกันมา คือ
    - นำแผ่นเงิน ถวายพระสุปฏิปัณโณ ผู้บริบูรณ์ด้วยวิชชา และวิมุตติ ลงอักขระเลขยันต์ และพระคาถาที่ท่านถนัดที่สุด มั่นใจที่สุด และเก่งที่สุด

    - รวบรวมทองชนวนมหามงคล โลหะธาตุศักดิ์สิทธิ์ และแผ่นโลหะที่ได้ลงอักขระเลขยันต์ และพระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้รับการปลุกเสกมาแล้ว หลอมรวมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทเป็นแผ่น นำไปวัดให้ได้ขนาดแล้วจึงปั๊มเป็นเหรียญ

    วาระบรรจุพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพ ตามวาระต่างๆ ดังนี้
    1)พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (10 พฤศจิกายน 2547), วัดบวรนิเวศวิหาร, วัดเหนือวน จ.ราชบุรี, วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม, วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา

    2)การบรรจุอิทธิพุทธานุภาพ โดยพระคณาจารย์ได้เมตตาประกอบพิธีให้เป็นพิเศษโดยเฉพาะ ในหลายวาระ อาทิ
    - หลวงปู่ทอง วัดสามปลื้ม
    - หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    - พระอาจารย์สมบูรณ์ วัดป่าสมบูรณ์ธรรม
    - พระอาจารย์เปลี่ยน วัดอรัญญวิเวก
    - ครูบาตั๋น ปุญโญ วัดม่อนปู่อิน
    - ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    - ครูบาเทือง วัดบ้านเด่น
    - หลวงปู่ขันต์ (คำ) สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.เชียงใหม่
    - ครูบาเผือก วัดไชยสถาน
    - ครูบาจันทร์ วัดสันเจดีย์ริมปิง
    - ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง
    - หลวงปู่สังข์ วัดป่าหลวงปู่ตื้อ
    - ท่านพ่อเมือง พลวัฒโฑ วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์
    - หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม จ.ราชบุรี เป็นต้น

    หมายเหตุ :
    - เหรียญ 12 ราศี หลังยันต์ชินบัญชร เสกพิธีเดียวกันกับ เหรียญหลังคาถาบารมี 30 ทัศ ทุกประการ ต่างกันแค่เพียงว่า เหรียญหลังยันต์ชินบัญชร ปั๊มก่อน บารมี 30 ทัศ เพียงไม่นานนัก ทำให้บางคนตีเป็นรุ่น 2 ส่วนหลังบารมี 30 ทัศเป็นรุ่น 3 แต่ทางผู้สร้างถือว่าเป็นรุ่นเดียวกัน ต่างกันเพียงแค่บล็อกหลังเท่านั้น

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก :
    - http://m.s-amulets.myreadyweb.com/product/detail-273568.html

    - https://prasaksit.wordpress.com/2008/04/05/เหรียญมหาธาตุเจดีย์-สิบ/


    สภาพสวยเดิมๆสมบูรณ์ผิวหิ้งนิด พิมพ์สวยคมชัด พระดีชนวนมวลสารดี พิธีเยี่ยม เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4098.ผู้สำเร็จวิชา”นะมหาเศรษฐี” ศิษย์สายตรง พอ.วัน มะนโส
    รูปหล่อเจริญลาภ พ่อท่านลาภ วัดเขากอบ พิธีใหญ่เจตนาบริสุทธิ์วัดจัดสร้างเอง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    หล่อพ่อลาภ1.jpg

    12936734_1037448156303166_2602974250923251807_n.jpg
    showimage.jpg

    รูปหล่อรุ่น 2 หรือ รุ่นเจริญลาภ พระครูสันติคุณธำรง (พ่อท่านลาภ สนฺตวณฺโณ) วัดเขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เนื้อทองผสมแก่ทอง ผสมทองระฆังโบราณ ใต้ฐานบรรจุ ตะกรุดเงินนะมหาเศรษฐี 2ดอก และอุดสีผึ้งกายสิทธิ์ และเกศาหลวงปู่ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2555 วัตถุประสงค์ เพื่อสมทบทุนบูรณะพระอุโบสถวัดเขากอบ

    จำนวนสร้าง 1,000 องค์ ตอกโค๊ตและหมายเลขกำกับทุกองค์


    'วัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ'
    ประกอบด้วยรูปเหมือนบูชาหน้าตัก 7 นิ้ว เนื้อทองเหลืองรมดำ ฐานอุดเกศา จีวร, เหรียญรูปเหมือนนั่งเต็มองค์ เนื้อทองคำ เนื้อเงินหน้ากากทองคำ, เนื้อเงินลงยาแดง, เนื้อนวโลหะ หลังจาร, เนื้ออัลปาก้า, เนื้อฝาบาตรเนื้อทองแดง, รูปหล่อหลวงพ่อลาภ เนื้อเงิน ฝังตะกรุดทองคำ-เงิน เกศา รูปหล่อเนื้อทองผสม ฝังตะกรุดเงิน-ทองแดง เกศา พระช่อหลวงพ่อลาภ 9 องค์ และลูกเฮง เนื้อทองผสม

    พิธีพุทธาภิเษก
    => เมื่อวันที่ 21 เม.ย. พ.ศ.2555 โดยเกจิอาจารย์สายใต้หลายรูป อาทิ
    - พระครูสันติคุณธำรง (พ่อท่านลาภ สนฺตวณฺโณ) วัดเขากอบ
    - พระอาจารย์สูติ ปิยธัมดม วัดถ้ำพุทธโกสีย์ (วัดในเตา) จ.ตรัง
    - พระอาจารย์แดง โอภาโส วัดไร่ จ.ปัตตานี

    - ทั้งนี้ อดีตจอมโจรไข่หมูก จอมขมังเวทแห่งเทือกเขาบรรทัดผู้ที่มีวิชาอาคมอำพรางตัว ไม่มีใครจับได้กระทั่งยอมมอบตัวแก่ตำรวจเองได้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกด้วย



    หลวงพ่อลาภ (พระครูสันติคุณธำรง) องค์นี่แหละ !!! เป็นศิษย์ที่สืบทอดทุกๆวิชาอาคม และทุกๆวิชาพุทธาคม จากสาย ( หลวงพ่อวัน มะนะโส ) ทั้งหมด และสำเร็จวิชา ”นะมหาเศรษฐี” สุดยอด!!! ในด้านโชคลาภ ค้าขาย อุดมโชค โภคทรัพย์ จาก (หลวงพ่อวัน มะนะโส) อีกด้วย


    ***********************************************************************

    พระครูสันติคุณธำรง (ลาภ สนฺตวณฺโณ)
    หลวงพ่อลาภ สันตวัณโณ


    ประวัติ
    พระครูสันติคุณธำรง เดิมชื่อ ลาภ สกลุกเดิม โรจนศักดิ์ศรี เกิดเมื่อ พ.ศ. 2473 บิดาชื่อ นายพรม มารดาชื่อ นางพร้อย เกิดที่บ้านบางเขียว ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่
    อุปสมบท
    บรรพชา เมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๙๑ อายุเพียง ๑๘ ปี และอุปสมบทเป็นภิกษุสงฆ์ เมื่อปี พุทธศักราช ๒๔๙๓ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ โดยมีพระครูวุฒิโสภณ (หลวงพ่อเอียด) วัดศรีรัตนาราม หรือ(วัดหนองช้างแล่น) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์เพน ครชาโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูโอภาสธรรมวิมล (อ.นวล วัดแจ้ง) เป็นพระอนุสาสนาจารย์

    ด้านการศึกษาปริยัติธรรมและกรรมฐาน
    พระครูสันติคุณธำรง ได้เรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม จบนักธรรมชั้นเอก เรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี สอบได้ ประโยค 1-2 และสำเร็จวิชา “นะมหาเศรษฐี” จาก (อาจารย์วัน มะนะโส)

    เมื่อปี พ.ศ. 2494 ได้ทรงศึกษาร่ำเรียนกับ พระครูวุฒิโสภณ (หลวงพ่อเอียด) ด้านกรรมฐาน อักขระ เลขยันต์

    เมื่อปี พ.ศ. 2497 ได้ทรงศึกษากับ พระบริสุทธศีลาจาร (อ.วัน มะนะโส) วัดประสิทธิชัย “ ขอกล่าวถึง ” หลวงพ่อวัน มะ นะ โส ในวัยเด็กท่านอยู่กับครอบครัวที่ประกอบอาชีพทำการเกษตร จากนั้นทางบ้านก็พาไปฝากให้อยู่กับ (พระอธิการเรือง ) เจ้าอาวาสวัดป่าพยอมได้ให้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทย ขอม และเลขไทย จนอ่านออกเขียนได้เฉกเช่น เด็กวัดในชนบททั่วๆไป (หลวงพ่อวัน ) เป็นเด็กวัดตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งอายุ 17 ปี (พระอธิการเรือง) สมภารวัดป่าพะยอม ก็ให้ท่านบรรพชาเป็นสามเณร โดยมี (พระครูกาชาด) วัดป่าลิไลย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วก็ได้ศึกษาเล่าเรียน พระธรรมวินัย ทำวัตร สวดมนต์ เรียนบาลีมูลกัจจายนะ เรียนวิชาอาคมเวทย์มนต์ต่างๆ จากพระอาจารย์ และสำนักของ (หลวงพ่อใหม่) บ้าง

    จนอายุครบ 20 ปี ท่านก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดป่าพะยอม จ.พัทลุง (หลวงพ่อคง) วัดบ้านมูล ได้ให้ (อาจารย์วัน มะนะโส) เล่าเรียนศึกษาให้ซาบซึ้งถึงแก่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง จึงควรที่จะศึกษา เจริญสมถ กัมมัฏฐานธรรม และวิปัสสนากัมมัฏฐาน พิจารณาในสติปัฏฐาน 4 ให้รู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรม จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงพระพุทธศาสนา (หลวงพ่อวัน) ได้รับตำแหน่งต่างๆ สูงขึ้นตามลำดับ และปี 2493 ขึ้นดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะ จ.ตรัง ได้รับ พระราชทานสมณศักดิ์เลื่อน เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระบริสุทธศีลาจาร คณะบริหารอริยวงศวาที “ สังฆปาโทกข์ ” (หลวงพ่อวัน) ท่านเป็นพระนักปฏิบัติเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่เนืองนิตย์ ทำให้วิชาอาคมที่ท่านศึกษาเล่าเรียนมามีความเข้มขลังอยู่ตลอด จัดว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชามากในสมัยนั้น แม้ว่าท่านจะไม่อ้างอวดคุณวิเศษในตนเองอย่างใดก็ตาม

    หลวงพ่อลาภ (พระครูสันติคุณธำรง) องค์นี่แหละ !!! เป็นศิษย์ที่สืบทอดทุกๆวิชาอาคม และทุกๆวิชาพุทธาคม จากสาย ( หลวงพ่อวัน มะนะโส ) ทั้งหมด และสำเร็จวิชา ”นะมหาเศรษฐี” สุดยอด!!! ในด้านโชคลาภ ค้าขาย อุดมโชค โภคทรัพย์ จาก (หลวงพ่อวัน มะนะโส) อีกด้วย
    และเมื่อปี พ.ศ. 2522 ได้ทรงศึกษาต่อกับ พระมงคลสิทธิการ (สุทัตต์ ฐิตวณฺโณ) วัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน)

    สมณศักดิ์และการดำรงตำแหน่ง
    พ.ศ. 2527 ได้รับแต่งตั้งเป็น พระปลัดในฐานานุกรมของ พระครูปฏิภาณธรรม-รส เจ้าคณะอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง
    พ.ศ. 2527 ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขากอบ
    พ.ศ. 2527 ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลเขากอบ
    พ.ศ. 2533 ได้รับสมณศักดิ์เลื่อน เป็นพระครูสัญญาบัตร เ จ้าคณะตำบลชั้นตรี ที่ “พระครูสันติธำรง”
    พ.ศ. 2547 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเข้ากอบ



    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก :
    - https://tarad.pramai.com/itemDetail.aspx?itemno=5213&storeNameEng=Barameeportanlab&storeNo=154

    - https://www3.g-pra.com/webboard/show.php?Category=publicize&No=311184




    สภาพสวยเดิมๆสมบูรณ์ผิวหิ้งนิด พิมพ์สวยคมชัด พระดีชนวนมวลสารดี พิธีเยี่ยม เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2024
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4099.สวยเดิมๆเนื้อชนวนศักดิ์สิทธิ์ พิมพ์ใหญ่หายาก สุดยอดพิธีในหลวงเสด็จ
    หรียญจุลมงกุฏพระพุทธบาทสระบุรี ปี'95 ลพ.จง,ลพ.รุ่ง,สังฆราชอยู่ ร่วมปลุกเสก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    เหรียญจุชมงกุฎ 95.JPG

    ddlfyek-jpg.jpg
    เหรียญจุลมงกุฏพระพุทธบาทสระบุรี ( เหรียญฉลุ ) วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี พิมพ์ใหญ่ เนื้อทองแดงรมดำ ผสมชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2495 เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัสรัชกาลที่ เสด็จพระราชดำเนินประกอบ พระราชพิธียกจุลมงกุฏยอดพระมณฑป พระพุทธบาทสระบุรี

    ชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์
    - ส่วนผสมของโลหะมุงหลังคาพระมณฑป วัดพระพุทธบาท ที่ได้มุงมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในยุคของพระเจ้าทรงธรรม

    - แผ่นชนวนพระยันต์ จากครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ รวมทั้งพระเกจิชื่อดังมากมาย


    จำนวนสร้างไม่แน่ชัด เนื้อที่จัดสร้าง มี
    - เนื้อทองคำ (หายากมาก)
    - เนื้อเงิน
    - เนื้อทองแดง มีทั้งหมด๒พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่กับพิมพ์เล็ก
    มีแบบเหรียญปั๊ม และ เข็มกลัด

    พุทธศิลป์
    - ด้านหน้า
    ปั๊มเป็นรูปจุลมงกุฏอยู่เหนือรอยพระพุทธบาทด้านในฉลุตามรอยจุลมงกุฏ มีรูปั๊มอยู่ด้านบนสำหรับใส่ห่วงเชื่อม
    - ด้านหลัง
    เป็นยันต์โภคทรัพย์ เขียนรอบว่า งานยกจุลมงกุฎ วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ๙มีค๙๕


    พิธีพุทาภิเษก
    จัดสร้างโดย ท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสรมหาเถระ) วัดอนงคาราม กรุงเทพมหานคร ผู้รับหน้าที่ เป็นผู้ดูแล ผู้เป็นแม่งาน เจ้าพิธีงานบูรณะ พระพุทธบาท สระบุรี

    รายนามพระเกจิหลายท่าน อาทิ

    - สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ( สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันในขณะนั้น ) เสด็จเป็นองค์ประธาน
    - สมเด็จพระพุฒาจารย์(นวม) วัดอนงคาราม
    - สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดเทพศิรินทร์
    - สมเด็จพระสังฆราช(อยู่) วัดสระเกศ
    - หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    - หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ เป็นต้น


    ตลอดจนครูบาอาจารย์ผู้เปรื่องปราดศาสตร์วิชาวิปัสสนากรรมฐานและไสยเวทวิทยาคมแห่งยุคนั้นรับอาราธนาเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่ไม่ถูกกล่าวนามอีกมากมายหลายรูป


    พุทธคุณ :

    ด้านเมตตา และเจริญในโภคทรัพย์ ส่วนประสบการณ์ของผู้ที่บูชาติดตัว เกือบทุกท่านบอกว่า ทำมาหากินคล่อง เจราจาต่อรองใดมักจะได้รับความสำเร็จสมประสงค์อยู่เสมอ สรุปว่าน่าจะมีพุทธคุณเหมือนกับพระของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม รุ่นอื่นๆ เช่นกัน


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    : https://ampoljane.com/2022/09/11/เหรียญจุลมงกุฏพระพุทธบ/




    ***************************

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคารามวรวิหาร กรุงเทพฯ
    ท่านเป็นพระมหาเถราจารย์ผู้ใหญ่ในสังกัดมหานิกาย ผู้ทรงคุณธรรมวิเศษ เจนจบในอักขระพระบาลี ชำนาญสามารถในวิปัส นากรรมฐาน ทรงสมาธิภาวนาชั้นสูง และยังเป็นเพื่อนสหธรรมมิกคุ้นเคยกับ สมเด็จสังฆราช แพ และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า


    ~กล่าวถึงชีวประวัติโดยย่อ ~
    "สมเด็จพระพุฒาจารย์ นวม พุทธสโร " ท่านเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2407 ที่ตำบลวังแม่ลูกอ่อน อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เป็นบุตรหมื่นนรา (อินทร์) นางใย มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 8 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 6 ในเบื้องต้นได้ศึกษาหนังสือไทยที่วัดโคกเข็ม จังหวัดชัยนาท เมื่ออายุ 12 ปี ไปอยู่วัดอนงคาราม ธนบุรี กับพระใบฎีกาโป๋ พี่ชาย พออายุได้ 13 ปี ท่านบรรพชาเป็นสามเณร เรียนพระปริยัติธรรมคัมภีร์มูลกัจจายน์และพระธรรมบทจากนั้นท่านก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุ
    และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ดังนี้
    เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2449 เป็นพระธรรมธราจารย์ (พระราชาคณะชั้นสามัญ) วันที่ 30 ธันวาคม 2463 เป็นพระราชมงคลมุนี (พระราชาคณะชั้นราช) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2472 เป็นพระโพธิวงศาจารย์ (พระราชาคณะชั้นธรรม) วันที่ 1 มีนาคม 2484 เป็นพระมหาโพธิวงศาจารย์ (พระราชาคณะเทียบชั้นเจ้าคณะรองฝ่ายอรัญวาสี) วันที่ 19 ธันวาคม 2488 เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สมเด็จพระราชาคณะ)
    ท่านถึงแก่มรณภาพในวันที่ 28 กันยายน ปีพ.ศ.2499 สิริอายุได้ 92 ปี พรรษา 72
    ขณะอยู่ในเพศบรรพชิตท่านมีผลงานมากมาย อาทิ ปรับปรุงกิจการและระเบียบของวัดให้เจริญก้าวหน้าขึ้น จนปรากฏว่า วัดอนงคารามเป็นวัดที่เจริญขึ้นทุกๆ ด้าน ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยวิธีแสดงธรรมทุกวันธรรมสวนะ อบรมภิกษุสามเณรในปกครอง จัดระเบียบไหว้พระสวดมนต์ และอบรมจริยธรรมตามโรงเรียนต่างๆ ในความอุปการะของท่าน ตลอดทั้งอบรมสั่งสอนอุบาสกอุบาสิกาในวัดให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมและวัฒนธรรม สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ ปูชนียสถานและถาวรวัตถุต่างๆ ในบริเวณพระพุทธบาทสระบุรี
    กล่าวสำหรับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสโร) อดีตเจ้าอาวาสลำดับที่ 6 แห่งวัดอนงคาราม กรุงเทพฯ เป็นพระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง มีจริยาวัตรงดงาม วาจาไพเราะ ท่านจะพูด "ดีจ้ะ" หรือ "จ้ะ" ลงท้ายแทบทุกคำ มีวิชาหุงน้ำมันมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง "เหรียญรุ่นแรก" เป็นที่เล่นหากันในวงการ แต่มีจำนวนน้อยมาก แทบจะไม่พบเห็นเลย
    ท่านเป็นยอดพระเกจิอาจารย์เมืองกรุง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก จะเห็นได้ว่าท่านมีความสนิทสนมกับสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนเทพ วราราม กรุงเทพ มหานครเป็นอย่างมาก รวมทั้ง (หลวงปู่ศุข) วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท จากหลักฐานสำคัญหลายๆ ครั้ง จะเห็นได้ว่าเวลาสมเด็จพระสังฆราช (แพ) จะสร้างพระกริ่งและชัยวัฒน์ มักจะนิมนต์ "สมเด็จนวม" มาร่วมนั่งปลุกเสกประจำทิศเสมอๆ ส่วนความสัมพันธ์กับ (หลวงปู่ศุข) นั้นลึกซึ้งยิ่งเพราะท่านทั้งสองเป็นชาวชัยนาทด้วยกันเวลา (หลวงปู่ศุข) มากรุงเทพมหานครมักจะมาพำนักกับสมเด็จนวมเสมอๆและร่วมปลุกเสกพระเครื่องกันเสมอดังจะเห็นได้จากรูปถ่ายการปลุกเสกร่วมของพระเกจิ อาจารย์สองท่านนี้หลายๆ ครั้ง



    สภาพสวยเดิมผิวหิ้งเก่าเก็บ พิมพ์ใหญ่หายากปัจจุบันที่พบเจอจะเป็นพิมพ์เล็กซะส่วนใหญ่ครับ พิมพ์คมชัดลึกรายละเอียดติดเกือบครบ เนื้อหาสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ราคาเบาหวิวแต่พุทธคุณเกินตัว แบ่งให้บูชา 999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2024
  11. วิคิด

    วิคิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +1,144
    จองครับ
     
  12. วิคิด

    วิคิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2012
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +1,144
    จองครับ
     
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4100.กล่องเดิมเกศาเยอะๆ พระผงรูปเหมือน รุ่นไตรมาส84
    หลวงปู่คอน วัดชัยพฤกษมาลา ทายาทพุทธคม ลพ.กลั่น วัดพระญาติ


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8f36aj-jpg.jpg

    พระผงรูปเหมือน รุ่นไตรมาส 84 หลวงปู่คอน สุทธิญาโณ วัดชัยพฤกษมาลา กทม. เนื้อผงพุทธคุณ ผสมผงตะไบ และเกษา ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2538

    หลวงปู่คอนท่านเป็นลูกบุญธรรม หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านได้เล่าให้ฟังว่าโยมพ่อท่านคือปู่โคนได้เอาหลวงปู่คอนในวัยเด็ก ไปถวายหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านก็นั่งสักพักท่านก็บอกว่าทิดโคนลูกคนนี้เลี้ยงให้ดีต่อไปจะเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรในพระพุทธศาสนา แล้วจะฝากของท่านเภาไว้ให้แล้วท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ของชิ้นนั้นก็คือ มีดหมอเล่มหนึ่งที่หลวงพ่อกลั่นฝากไว้ให้หลวงพ่อคอน รับสืบทอดต่อในกาลต่อมา


    ประวัติพระราชมงคลมุนี(หลวงปู่คอน)วัดชัยพฤกษมาลา
    สถานะเดิม ชื่อ คอน นามสกุล ตรีหิรัญ เกิดวันเสารที่ 20 กรกฏาคม พ.ศ.2455 (ขึ้น8ค่ำเดือน8ปีชวด) ที่ ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    เป็นบุตรคนหัวปี โยมบิดาชื่อ โคน โยมมารดาชื่อแผ้ว

    อุปสมบท เมื่อวันศุกร์ที่28 เมษายน พ.ศ.2476 (ขึ้น5ค่ำเดือน5ปีวอก)
    ณ.วัดสะแก ต.ตำบลธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา มีพระครูอุทัยวุฒิกร(รอด) วัดสะแก เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระโบราณคณิสสร(ใหญ่) สมัยเป็นพระครูอุทัยคณารักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระครูสุนทรธรรมนิวิฐ(ชื่น) วัดภาชีสมัยเป็นพระปลัดชื่น อยู่วัดสะแก เป็นพระอนุสาวนาจารย์(พระปลัดชื่นรูปนี้เดิมอยู่วัดสะแกต่อมาได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดภาชีเป็นเจ้าคณะอำเภอภาชีเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อรวย วัดตะโก) ได้รับฉายาทางพระว่า (สุทธิญาโณ)

    หลวงปู่คอนจำพรรษาอยู่สะแก3พรรษา สอบได้นักธรรมเอกจึงย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพที่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ พ.ศ. 2516ได้ย้ายมาดำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชัยพฤกษมาลา เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

    ด้านการศึกษาพุทธาคม
    - หลวงพ่อเภา วัดพระญาติการาม
    - หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    - ท่านเจ้าคุณโชดก วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
    - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - อาจารย์เฮง ไพรวัลย์
    - หลวงพ่อรอด วัดสะแก
    - หลวงปู่สี วัดสะแก
    - พระครูชม วัดประดู่ทรงธรรม เป็นต้น


    สภาพสวยกล่องเดิมๆ เก่าเก็บไม่ได้ใช้ ไม่หักไม่ซ่อม พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 234 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)


    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362


    ขออนุญาตแจ้งกำหนดการจัดส่งครับ



    *** วันที่ 11/10/2567 มีรอบจัดส่งของ ตัดรอบเวลา 11.00 น. ครับผม ***




    หากเลยกำหนดนี้จะมีรอบอีกสัปดาห์หน้าเลยครับผม


    เนื่องจากพอดีผมไม่สบาย ประสาทกล้ามเนื้อหลังอักเสบครับ ยังไม่หายดีเลยครับ จึงรวบยอดส่งสัปดาห์ละ 1 ครั้งครับ


    กราบขออภัยในความล่าช้าด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]




    รายการจัดส่ง
    แฟลช 11/10/2567


    111067.jpg


    ***สรุปรายการที่ หน้า1 ครับผม***
    Tel: 086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    Line id : engiman_nu




    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2024
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4101.The last สภาพขลังคราบกรุเก่าชุดตกค้างวัด New(2) พระนางพญาฐานบัว หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง
    สุดยอดพระเกจิยุคกึ่งพุทธกาล ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่สามารถพิสูจน์ได้

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    0a3071d5a0e3f801e1a529ac48e7f915-jpg.jpg


    นางพ่อยี New ๒.JPG
    พระนางพญาฐานบัว หลวงพ่อยี ปญญภาโร วัดดงตาก้อนทอง(วัดอภัยสุพรรณภูมิ) ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เนื้อดินผสมผงวิเศษ ดำเนินการจัดสร้างประมาณปี พ.ศ.2500 จำนวนการสร้างน้อยมาก

    !!!! ปัจจุบันหายากแล้วเเม้แต่ในพื้นที่ก็แทบจะไม่มีให้เห็น
    เป็นอีกหนึ่่งพิมพ์พระเนื้อดินที่หลวงพ่อยีท่านใช้อิทธิฤทธิ์ เรียกขึ้นมาจากดินเพื่อแจกแก่ลูกศิษย์ !!!!



    ประวัติโดยย่อหลวงพ่อยี
    หลวงพ่อยี ปญญภาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดอภัยสุพรรณภูมิ (ดงตาก้อนทอง) ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 10 ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้อุทิศที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนให้กับชุมชน ให้ลูกหลานชาวบ้านดงตาก้อนทอง และบ้านใกล้เคียงได้เล่าเรียน มาจนปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นคนดีศรีอภัยสุพรรณภูมิอย่างแท้จริง
    จากคำบอกเล่าต่างๆนั้น ทำให้ได้ทราบว่า หลวงพ่อยี เป็นชาวจังหวัดลพบุรี เมื่อเด็กๆ อายุได้ 8 ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับพระภิกษุรูปหนึ่ง ไม่ทราบชื่อแน่นอน แต่หลวงพ่อยี เรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ได้ธุดงค์ออกป่าหลายแห่งจนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ ได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆตามป่าเขา ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เคยไปถึงพม่า เวียงจันทน์ และมาลายู หลวงพ่อยีท่านเล่าว่า ท่านได้เดินธุดงค์หาความวิเวกจนมองเห็น นรก สวรรค์ ยามที่ท่านออกโปรดสัตว์ในตอนเช้า จะมีเทวดา นางฟ้ามาตักบาตรให้ตลอดเวลา ได้บวชเป็นพระถึง 28 พรรษา อายุได้ประมาณ 50 ปี เมื่อเล็งเห็นว่าตนยังมีกรรมอยู่จำเป็นต้องลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส หลังจากนั้นก็ออกท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเต็มที่ จนครั้งสุดท้ายได้มาหักร้างถางพง ณ บริเวณที่เป็นวัดดงตาก้อนทองนี้ สมัยนั้นยังเป็นป่ารกชัฎอยู่ มีที่ดินทั้งหมด 565 ไร่ เคยประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สัก อยู่ยงคงกระพันชาตรี ให้กับลูกศิษย์ลูกหาอยู่พักหนึ่ง ต่อมาได้ออกบวชอีกเป็นครั้งที่ 2 หลวงพ่อยีได้ตกลงใจยกที่ดินถวายเป็นของสงฆ์เสียส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ให้คนเช่าต่อไป


    สิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของวัดดงตาก้อนทอง คือพระอุโบสถ ใช้เวลาในการสร้างจริงๆ เพียง 1 ปี 6เดือน เท่านั้นแต่ในการรวบรวมปัจจัยมาเป็นค่าวัสดุและแรงงานใช้เวลานานพอสมควรที เดียว งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง 6-7 ล้านบาท การขนส่งวัสดุอุปกรณ์ต้องใช้ทางเกวียน เพราะสถานที่ในการก่อสร้างนั้นอยู่ไกลมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยบารมีของหลวงพ่อยี งานก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ และ ยังเป็นถาวรวัตถุที่งดงามอยู่มาตราบจนทุกวันนี้ ตัวโบสถ์กว้าง10 วา ยาว 20 วา สูง 12 วาชั้นบนเป็นโบสถ์ ชั้นล่างใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาแทนศาลาการเปรียญได้ นับว่าเป็นโบสถ์อเนกประสงค์หลังหนึ่ง สิ่งก่อสร้างอื่นๆภายในวัดนั้นมีปริศนาธรรมอยู่หน้าโบสถ์ คือมีรูปปั้นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ 1องค์นั่งบังพระพุทธรูปขนาดเล็กไว้ ปริศนาธรรมนี้ผู้พบเห็นก็ขบคิดกันเอาเอง อีกด้านหนึ่งมีรูปปั้นคนขี่ช้าง ถัดมาด้านซ้ายมือเป็นป่ามะม่วงหนาทึบมีพระพุทธรูปในอริยาบทต่างๆ ตั้งเรียงรายเป็นระยะๆ มีรูปเคารพของศาสนาพราหมอยู่หน้ากุฏิพระ มีโรงครัวขนาดใหญ่โต แสดงถึงจำนวนญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดนี้ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต

    ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อยี เช่นคุณสมหมาย - คุณณรงค์ศักดิ์ ตะละภัฏ คุณบรรยง ณ บางช้าง และลูกศิษย์อื่นๆอีกมากมาย ก็สามารถที่จะยืนยันได้เป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อยีท่านมีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์สูงส่งมากเพียงใด

    ในระยะที่ผู้คนฮือฮากันถึงเรื่องความมหัศจรรย์ที่หลวงพ่อยีท่านได้กระทำนั้นพระราชมุนี(โฮม โสภโณ)แห่งวัดประทุมวนารามก็เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ต้องมาพิสูจน์ถึงความเท็จจริงนี้ให้ประจักษ์ หลวงพ่อถาวร ซึ่งในขณะนั้นเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพระราชมุนีโฮม ก็ได้ติดตามมาด้วย และภายหลังก็ได้มาที่วัดดงตาก้อนทองอีกหลายครั้งเพื่อศึกษาเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์กับหลวงพ่อยี จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้ง ได้รู้ได้เห็นเป็นที่ยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นจริงทุกประการไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงสงสัยอีกเลย

    การแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ของท่าน ช่วง 2500 - 2512
    ถูกนักเขียน นสพ.โจมตีอย่างหนัก หาว่าท่านเล่นกล หลอกลวงประชาชน แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ประสบเหตุมีอันเป็นไป ต่างๆ นาๆ ตายก็มี ไม่ตายแต่ป่วย ทนทุกข์ทรมานก็มี
    ผลจากการโจมตีในหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้หลวงพ่อยีต้องอธิกรณ์ ถูกบังคับข่มขู่ให้ถึงแก่ความตาย ท่านจึงนุ่งห่มขาว สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ส่งหลวงพ่อโฮมไปสอบ แต่ไม่มีข้อที่จะต้องอธิกรณ์ และได้บวชกลับคืน แปรญัตติเป็นพระภิกษุในคณะธรรมยุติกาย
    นับเป็นเรี่องน่าสังเวชที่เราท่านทั้งหลาย ควรถือเป็นคติว่า ถ้าฆราวาสไม่รู้จริง อย่าพึ่งไปกล่าวโทษให้ร้ายพระสงฆ์ ถึงอย่างไรท่านก็ถือศีล ปฎิบัติดีกว่าฆราวาส


    คุณวิเศษของหลวงพ่อยี ที่เห็นเป็นที่ประจักษ์
    - ยืดเหรียญบาทได้ยาวเป็นฟุตกลายเป็นคำบริสุทธิ์
    - เสกกระดาษให้เป็นธนบัตรใลละร้อยแจกญาติโยม นำไปเป็นขวัญถุง หรือใช้ซื้ออะไรก็ได้
    - เสกข้าวสาร ในขันให้เป็นเม็ดทองคำ แจกจ่ายให้ลูกศิษย์ไว้เป็นของศักดิ์ิทธิ์-เมตตา
    - เสกใบไม้ให้เป็น ธนบัตรสีเขียว เป็น กบ ปลา แกงกินได้ กินไม่หมดจะกลับกลายเป็นใบไม้เหมือนเดิม
    - ตกเบ็ดบนต้นไม้ มีปลามาดิ้นกระแดวๆ มากมาย
    - บิณฑบาตจากเทวดา ได้ข้าวทิพย์ร้อนๆ หอมฟุ้งเต็มบาตร มีข้าวสวย ข้าวผสมงา ข้าวผสมถั่ว
    - ปลูกข้าวหน้าโบสถ์ วันเดียวเก็บเกี่ยวได้
    - เรียกตะกรุดทองคำ 3-5 บาท มาแจกจ่ายลูกศิษย์
    - เรียกพระเครื่องจากอากาศแจกจ่ายญาติโยม
    - มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ที่ฝังสมบัติ
    - แยกร่างไปปรากฎหลายที่ ไกลแสนไกล ขณะที่ท่านนั่งอยู่กับที่
    - สามารถย่นระยะทางที่ไกลแสนไกล ให้ไกล้ได้
    - ล่องหนหายตัวได้ในพริบตา โดยไม่ต้องใช้กำบังหรือความมืด
    - ทำผ้าสีต่างๆ ให้กลายเป็นผ้ายันต์ได้นับพัน นับหมื่นผืน
    - ข้ามห้วย-แม่น้ำ โดยไม่ใช้เรือข้ามฟาก
    - รักษาโรคร้ายแรงให้หายขาดได้ในพริบตา
    - เอาปลาช่อนที่ตากแห้งเป็นริ้วๆ โยนลงแม่น้ำกลายเป็นปลาช่อนหลายตัวแหวกว่ายมีชีวิตชีวา
    - ใช้หม้อใบเล็กๆ 2ใบ หุงข้าว และแกง เลี้ยงคนได้นับร้อย โดยข้าว และแกงไม่หมดสักที
    - มีวาจาศักดิ์สิทธิ์สั่งให้โชคลาภ ได้เลื่อนยศ ตำแหน่ง หรือรอดพ้นากภัยพิบัติต่างๆ จากร้ายกลายป็นดี
    - บันดาลให้รูปปั้นแม่พระธรณี ที่อยู่หน้าวัดดงตาก้อนทอง มีน้ำไหลพวยพุ่งออกมาจากมวยผม ทั้งๆที่มวยผมไม่มีท่อน้ำ น้ำเย็น จืดสนิท มีกลิ่นหอมๆ ดื่มได้ และมีรสชาดดี
    - วัตถุที่เสกให้เป็นทองคำ อยู่ได้ 600ปี ครบแล้วจะกลับดืนสู่สภาพเดิม



    เรื่องเล่าจากปากคำผู้ประสบเหตุ
    - จากคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีกรมการศาสนา
    คือพันเอกปิ่น มุทุกันต์ เมื่อปี ๒๕๐๘ หลังจากไปสอบสวนกรณีหลวงตายีถูกหนังสือพิมพ์โจมตี ว่า "หลวงพ่อยีได้นำบาตรมาให้ตนดู และตนได้เป็นคนเช็ดบาตรด้วยตนเองทีเดียว หลวงพ่อยี อุ้มบาตรออกไปยืนที่นอกชานกุฏิห่างจากผู้สังเกตการณ์ ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนนิ่ง หันหน้าไปแต่ละทิศ แล้วเปิดฝาบาตร ทำนองรับบาตรจากผู้ใส่เหมือนกับที่เราใส่บาตรทุกอย่าง"
    แล้วหลวงพ่อยีก็เรียกอธิบดีกรมการศาสนาเข้าไปหา ท่านส่งบาตรให้ พอยื่นมือไปรับมารู้สึกว่าบาตรหนักอึ้ง เปิดฝาบาตรดูปรากฏว่ามีข้าวสุกร้อนๆ เต็มบาตร มีกลิ่นหอมอบอวล เป็นข้าวชนิดมันปู กันบาตรมีลูกประคำทองอยู่ 2 ก้อน ขนาดโตกว่าเม็ดข้าวโพด ซึ่งภายหลังเมื่อได้นำเข้ากรุงเทพฯ ให้ช่างทองบ้านหม้อดูก็เป็นทองคำบริสุทธิ์
    นอกจากจะพิสูจน์เรื่องนี้แล้วหลวงพ่อยียังเสกเหรียญเงินให้เป็นทองก็ได้ด้วย หลวงพ่อท่านแบ่งให้อธิบดีกรมการศาสนาครึ่งหนึ่ง ให้ประธานศาลฎีกาครึ่งหนึ่ง ครั้งเมื่อนำไปพิสูจน์ที่ร้านทองก็ปรากฏว่าเป็นทองคำบริสุทธิ์ เช่นเดียวกัน
    จากการที่ท่านสร้างอุโบสถ์นี้ทำให้ท่านต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ บ่อยๆ สถานที่พักของท่านก็คือที่โรงเรียนตะละภัฎศึกษา การแสดงฤทธิ์อภิญญาของท่านก็กระทำเป็นประจำจนถึงบั้นปลายชีวิต หลวงพ่อถูพวกมิจฉาทิฎฐิ กล่าวหาว่าท่านหลอกลวง แต่ด้วยสัจจะบารมีของท่าน อิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่ท่านแสดงให้ปรากฏก็เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่บุคคลสำคัญๆ ระดับประเทศในขณะนั้น เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานศาลฎีกา พันเอกปิ่น มุทุกันต์ อธิบดีกรมการศาสนาและนายประกอบ หุตะสิงห์ อธิบดีศาลอุทธรณ์ เป็นต้น


    - โยม ผวน โตมา ศิษย์ผู้หนึ่งของหลวงพ่อยีได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาเป็นโบสถ์หลังนี้หลวงพ่อยีได้ปัจจัยในการสร้างโบสถ์มาจากการสร้าง อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ช่วยให้ลูกศิษย์มีฐานะร่ำรวยขึ้นแล้วบรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นก็นำเงินไปช่วย ท่าน ภายหลัง ท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นใบละร้อย เสกดินเป็นทองคำ เสกใบไม้ให้เป็นเงิน หรือแม้แต่เสกใบไม้ให้ เป็นกบนำมาทำอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เคยปรากฏมาแล้วหรือเรื่องการบิณฑบาตร ข้าวทิพย์จากเทวดาก็ตามหลวงพ่อท่านออกเดินห่างจากครัว ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนทำสมาธิที่ต้นมะม่วงใหญ่ ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ เต็มบาตร ข้าวทิพย์นี้มีกลิ่นหอมแรงทิ้งไว้ก็ไม่บูดแต่จะแห้งไปเองเหมือนข้าวตาก

    - พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้นเกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่ และจะทำให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมนุมชน
    โยมผวนขนลุกซู่ด้วยความยินดี ยกมือท่วมหัวว่าลูกรอดตายแล้ว หลวงพ่อมาโปรดลูกแล้ว ด้วยปฏิปทาที่แน่วแน่มั่นคง และจริยวัตรที่งดงามของหลวงพ่อถาวร ทำให้เกิดศรัทธาปสาทะแก่โยมผวนเป็นล้นพ้น ดังนั้นสมบัติต่างๆ ของหลวงพ่อยีที่เกิดจากอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ของท่าน มีเก็บรักษาไว้มากมายเพียงใด โยมผวนนำมาน้อมถวายให้แก่หลวงพ่อถาวร จนหมอสิ้น แม้กระทั่งข้าวทิพย์แห้ง ที่นางได้เก็บรวบรวมไว้นับสิบปี
    ก็นำมาถวายด้วย วันหนึ่งหลวงพ่อถาวร ท่านได้ทดลองอะไรบางอย่าง ด้วยการนำข้าวทิพย์มาหุงผสมกับข้าวธรรมดาวันนั้นปรากฏว่า กุฏิสุวรรณเนตรหอมตระลบอบอวลไปทั้งกุฏิ เพราะกลิ่นข้าวทิพย์โชยขจรขจายไปทั่ว ทำความแปลกประหลาดมหัสจรรย์แก่ผู้ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก หลวงพ่อถาวรย้ำว่า “ของแท้ ของจริง พิสูจน์ได้ตลอดเวลา”



    กาลมรณภาพ
    หลวงพ่อยี มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2515 เก็บศพใส่โลงทองไว้ในกุฏิทางด้านจังหวัดพิจิตร ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ได้สั่งเสียไว้กับศิษย์ใกล้ชิดคือ โยมผวน โตมา ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับวัดดงตาก้อนทองให้โยมผวน เป็นผู้ดูแลรักษาโบสถ์นี้ไว้อย่าไปอยู่ที่อื่นรอจนกว่าหลวงพ่อที่ 2 จะมารับช่วงต่อ พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้น เกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่


    ต่อมาเมื่อวัดดงตาก้อนทอง มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา วัดอภัยสุพรรณภูมิ หรือ วัดดงตาก้อนทอง ได้พัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน โดยการนำของพระพิสาลพัฒนาทร หรือหลวงพ่อถาวร จากวัดประทุมวนาราม กรุงเทพมหานครได้ทำการพัฒนาขึ้นมามากอย่างเห็นได้ชัด ในขณะนี้วัดอภัยสุพรรณภูมิมี พระสายันต์ สญญโม เป็นเจ้าอาวาส ในปัจจุบันท่านเจ้าอาวาสได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอภัยธรรมโสภณ


    พระคาถาหลวงพ่อยี (ควรสวดภาวนาก่อนนอน)
    จุดธูป 9 ดอก
    ตั้งนะโม 3จบ


    บทที่ 1.
    มหาปัญโญ มหาเตโช อุกาสะวันทามิ
    ภันเต อาจาริโย ปุณนะยีติ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 2.
    นะภันทะลัง กัมมัง อะโหสิภุมิมาเต
    นะภันเต จะตุนะ ปัจจะ นะมามิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 3.
    โอมพระเจ้าอยู่เบื้องตา พระธรรมเจ้าอยู่เบื้องปาก
    ตัวกูขอฝากไว้ในดวงจิต เอหิมามะ กะรินิติ พรหมมัสสามิ
    จิตกูนิ่งอยู่ที่พุทธัง ตัวกูอยู่ที่พระอรหัง เอหิมามะ
    {ภาวนา 108 จบ}


    บทที่ 4.
    มะธะนะ ภันธะนัง นิมิตตัง เตมหาภันธะนัง
    นะนิมิต ตัสสะ ปุณนะมิ นังกะโรมิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    ขอขอบพระคุณ : เจ้าของข้อมูล และไฟล์ภาพด้วยนะครับ



    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บผิวหิ้ง เก่าแท้ขลังแน่นอน ปัจจุบันหายากแล้วเพราะมีแต่คนเก็บของเริ่มหมดไปทุกวัน เอาไว้ใช้ติดตัวอุ่นใจแน่นอน เก่าเก็บเนื้อหาเก่าถึงยุค พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ประจุด้วยอิทธิ์ที่ยอดยิ่งเหนือสิ่งใด ไม่แท้ไม่ทันหรือยัดวัดคืนเต็มเหมือนเดิมครับผม แบ่งให้บูชา 999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)






    (คุณM จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2024
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4102.มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ประจุด้วยธาตุ 4 รูปหล่อพระแม่โพสพกวักทรัพย์
    หลวงปู่หงษ์ แห่งสุสานทุ่งมน เถราจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาแห่งอิสานใต้

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    รุ่นพระแม่ธรณี-หลวงปู่หงษ์-หลวงป๋า4.jpg

    กวัก ปู่หงษ์.JPG
    พระแม่โพสพกวักทรัพย์ หลวงปู่หงษ์.jpg
    รูปหล่อพระแม่โพสพกวักทรัพย์ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เนื้อทองแดงผิวไฟ ใต้ฐานบรรจุผงวิเศษ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554

    หลวงปู่หงษ์อธิษฐานจิตมอบแด่เจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ณ สุสานทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน 2554 เพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินสร้างปราสาทฆติกามหาพรหม และปราสาทพระเจ้า 5 พระองค์ พร้อมกับที่พักของผู้มาปฎิบัติธรรม และเสนาสนะต่างๆ ภายในสุสานทุ่งมน


    พระแม่โพสพ "เทพธิดาแห่งความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์" ผู้ใดทำธุรกิจ ทำการค้าการขาย งานขาย หรือการงานที่เกี่ยวกับต้นไม้ พืชพันธุ์ ผืนดิน ควรบูชาอย่างยิ่ง ท่านจะช่วยกวักเงินกวักทอง ประทานความร่ำรวย มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ไม่มีอดไม่มีอยาก



    ***************************************************



    วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังสายเขมร
    เมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม หลวงปู่หงษ์ได้ฤกษ์พิธีมหาพุทธาอธิฐานจิตปลุกเสก ประจุ พระคาถาและประจุธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เข้าสู่วัตถุมงคล เพื่อความสมบูรณ์ตามประเพณี และความศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลังถูกต้อง เพื่อประสงค์จะให้ผู้ที่เคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่หงษ์ ที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนี้มีไว้บูชาที่บ้านหรือติดตัว จะอยู่เย็นเป็นสุข คุ้มภัยกันภัย และมีความเจริญรุ่งเรือง ในหน้าที่การงาน ค้าขายร่ำรวย แคล้วคลาดปลอดภัย ดีนักแล ฯ (พระครูปราสาทพรหมคุณ)หรือหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี (สุสานทุ่งมน) ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมีแห่งแดนอีสาน หลวงปู่ท่านมีพระเวทวิทยาคมมีพลังจิตญานสูง วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ท่านมีบุญญาบารมีมากเป็นที่เคารพบูชา เป็นที่พึ่งของ ของเหล่าบรรดายานุศิษย์และประชาชนทั่วประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านเลย เคยมีผู้สามารถสัมผัส และจับพลังจิตได้ลองสัมผัสพลังจิตวัตถุมงคลของหลวงปู่ หลายท่านบอกว่ามีพลังจิตสูงมาก ดังนั้นวัตถุมงคลของหลวงปู่ท่านจึงเป็นสุดยอดของดีที่ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

    ### นะโม 3 จบ นะเมติ 12 จบ ดีนักแล ฯ ###

    นะเมติ พระคาถาบทนี้เป็นคาถา ประจำสำนักที่ไว้ให้ศิษย์ภาวนาเวลาจะสื่อกับครูบาอาจารย์หลวงปู่ท่านเคยบอกว่าเราภาวนา นะเมติ นี้หนาสะเทือนขึ้นไปถึงพรหมโลกหมายถึง นะเมติ นี้ถ้าเราภาวนาจะสื่อไปถึงสุดแดนครูบาอาจารย์ผู้สถิตย์อยู่บนชั้นพรหมโลกและความหมายของ นะเมติ นี้หลวงปู่ท่านบอกว่าหมายถึงรสน้ำนมแม่พระธรณี คืออาหาร พืชพันธุ์ ข้าวน้ำต่าง ๆ ที่เลี้ยงดูทุก สรรพชีวิตอย่างไม่ลำเอียง ใครจะปลูก ใครจะหว่านใครจะเก็บเกี่ยว เอาไปกินไม่ว่า คนหรือสัตว์ ไม่ว่าคนรวยหรือคนจน พระสงฆ์ เณร ชีหรือ อลัชชี มหาโจร คนต่ำทราม แม่พระธรณีย์ก็ไม่เคยรังเกียจมีคุณให้การเลี้ยงดูเท่าๆกันหมด แล้วแต่ใครจะเก็บเกี่ยวใช้สอยได้มากเท่าใด

    นะเมติ รสน้ำนมแม่พระธรณี นี้จึงเปรียบเหมือนคุณครูบาอาจารย์ที่ไม่เคยรังเกียจเดียจฉันท์ ลูกศิษย์คนใด ที่เคารพนับถือ หลวงปู่ ท่านถึงไม่เคยดุด่าว่ากล่าวลูกศิษย์คนไหน ก็ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา หนักแน่นเยือกเย็นดั่งคุณของพระแม่ธรณีนั่นเอง

    เคล็ดการบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
    “หมั่นไหว้ หมั่นบอก หมั่นขอ” เคล็ดการบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

    1. เมื่อเราจะแขวนพระหรือ คาดตะกรุด ก็ให้ยก วัตถุมงคลขึ้นมาพร้อมพนมไว้ที่มือตั้งนะโม 3 จบในใจหรือ ออกเสียงเบา ๆ ก็ได้ ต้องมีความเคารพเลื่อมใสเป็นอุบายให้ จิตใจสะอาด

    2. อาราธนา (นึกถึง) บารมีหลวงปู่และครูบาอาจารย์ทั้งหมดมีพระพุทธพระธรรมพระอริยะสงฆ์เป็นที่สุด จึงว่าคาถาวัตถุมงคล 3 จบ 7 จบ 12 จบ หรือว่าตามกำลังวัน หรือว่า 108 หรือภาวนาจนจุใจก็ทำได้

    3. อธิฐานบอกกล่าว ขอ…. ถือเป็นหัวใจสำคัญ หลวงปู่หงษ์จะไม่ให้แค่ไหว้กราบเฉย ๆ ท่านว่าประมาท เพราะ กฎของโลกทิพย์ ไม่ขอไม่ให้ ไม่บอกไม่ช่วย ต้องบอกกล่าว…จะให้ช่วยอะไร? คุ้มครองแค่ไหน? เช่น ขอให้ปลอดภัย ขอให้คนเมตตา ขอให้มีลาภ มีเสน่ห์ ขอให้ค้าขายดี อย่าให้มีอุบัติเหตุ เดินทางปลอดภัยทั้งตอนไปตอนกลับ ฯลฯ ถ้าทำได้อย่างนี้ครูบาอาจารย์ก็ช่วยได้เต็มที่ บอกกล่าวแล้วก็ให้ทำใจสบาย ๆ วางเฉย (อุเบกขา) เลิก หวัง เลิกอยากนั้นนี่ เพราะความหวัง ความอยากจะเป็นตัวปิดกั้นผลสำเร็จ เลยคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บุญกุศลไม่ช่วย เพราะเราไม่เข้าใจกฎของกรรม และ อัตภาพบุญกุศล จะบันดาลผลได้แค่ไหนอย่างไร

    แล้วเรา ควรอาราธนาบ่อยแค่ไหน? ก็ต้องขอบอกก่อนว่า กำลังใจคนไม่เสมอกัน ให้ดีแท้แน่นอน ก็ทุกเช้า –เย็น จะขับรถ เดินทาง ก็นึกถึงไหว้บอก กราบหิ้งพระ, กราบพระบูชาที่บ้าน บอกครูบาอาจารย์ทุกครั้ง ทั้งไปและกลับ เป็นทั้งกุศลทั้งเมตตามหานิยม และจิตภาวนาเพราะระลึกถึงพระเทพเทวดาเป็นอนุสติ หลวงปู่สอนว่า…คนประมาทมักคิดว่าแขวนพระไว้กับตัวตลอดก็จะเหนียว ฟัน แทงไม่เข้า แคล้วคลาด ปลอดภัยแน่นอน ก็แขวนพระไว้ กับตัวเลยตลอด วัน, เดือน, ปี สะดวกดี ขี้เกียจ…จะอาราธนาทำไมบ่อยๆ จึงเข้าใจผิดนึกว่าพระคุ้มครองแน่…เมื่อแขวนวัตถุมงคลไว้นาน…ๆ กำลังจิตกำลังศรัทธาจะลดลง ไม่ตั้งมั่น พระขลังดุจเดิมแต่… อานุภาพการคุ้มครองก็จะลดตามกำลังจิต กำลังศรัทธาให้ผลได้ไม่เต็มที่ พอประสบเหตุเภทภัย อาทิ หมากัดเข้า รถเชี่ยวชน เลือดตกยางออก ผีเข้า เจ้าสิง ทั้งที่แขวนพระแขวนเครื่องราง ก็พาลนึกว่า พระเสื่อมแล้ว ไม่เห็นขลัง ศรัทธาก็เสื่อมคลาย เลิกแขวนเลิกนับถือ ทั้งที่จริงหากหมั่นอาราธนา บอก ขอ มีศรัทธามั่น ปืนเขาจะยิงเราไม่ออก (คงกระพันชาตรี) เมื่อศรัทธาเราลด ปืนเขายิงเราออกแต่ไม่โดน (แคล้วคลาด) ศรัทธาเราลดอีกยิงโดนแต่ไม่เข้า (หนังเหนียว) ศรัทธาลดอีกยิงเข้าแต่ไม่ตาย เป็นต้น

    ดังนั้นหากจะแขวนเครื่องรางก็อย่าประมาท ควรหมั่นอาราธนาให้สบประโยชน์สมเจตน

    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ :
    - http://siawan.i-siteshop.com/2015/07/blog-post_6.html

    สภาพสวยดิมๆวัด เก่าเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมชัดลึกเก่าเก็บไม่ได้ผ่านการบูชา พุทธคุณครอบครบทุกด้าน ด้วยการประจุด้วยธาตุ 4 อันอุดมด้วยความบริบูรณ์ทุกสุดส่วน แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณจินดา จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2024
  17. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,971
    ค่าพลัง:
    +6,880
    ขอจองครับ
     
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2024
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4103.แบบลองพิมพ์สร้างน้อย+มีเกศา พระขุนแผนพรายกุมาร สายกรรมฐาน(New2)
    ลป.หา,ลป.แปลง,ลป.สวาท,ลป.บุญส่ง,ลพ.เยื้อน,ลป.บุญมา ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    ขุนแผนกรรมฐาน๒.JPG

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    พระขุนแผนพรายกุมาร ปางเพชรกลับ (กลับร้ายกลายเป็นดี) หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร( พระวิมลศีลจาร ) วัดบรมนิวาส กทม. ดำเนินการจัดสร้างเมื่ออปี พ.ศ.2562 เพื่อเป็นที่ระลึกเรื่องในโกาสเจริญอายุวัฒนมงคล 79 ปี *** ในชุดจะมี 2รายการ รพะขุนแผน+รูปมหายันต์ของหลวงพ่ออำนวย ***

    พระขุนแผนลองพิมพ์ ( องค์สีดำ )
    เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ผสมผงโสฬสมหาพรหมหลวงตาบุญหนา และผงกะลาตาเดียว (โรยชิ้นส่วนวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม) จำนวนการสร้างเพียง 509องค์


    หมายุ::มวลสารหลักส่วนใหญ่ได้รับเมตตาจาก อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์

    จำนวนการสร้าง
    1.พระขุนแผนเนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม(ของอ.ชินพร ผงพรายล้วน) สร้าง 5 องค์(สีเทา)
    2.พระขุนแผนลองพิมพ์ เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ และผงกะลาตาเดียว สร้าง 79 องค์(สีขาวฝังตะกรุดหลวงปู่หา สุภโร)
    3.พระขุนแผนเนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และหลวงพ่อสาคร ผสมว่านดอกทองครกแรก สร้าง 169 องค์(สีชมพู)
    4.พระขุนแผนเนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และหลวงพ่อสาคร ผสมว่านดอกทองครกแรก สร้าง 1,250 องค์(สีชมพู ปัดทอง)(ฝังเม็ดผงพรายล้วน)
    5.พระขุนแผนลองพิมพ์ เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ผสมผงโสฬสมหาพรหมหลวงตาบุญหนา และผงกะลาตาเดียว สร้าง 509 องค์(สีดำ)(โรยชิ้นส่วนวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม)
    6.พระขุนแผนลองพิมพ์ เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ สร้าง 509 องค์(สีขาว)(ฝังเม็ดผงพรายล้วน)
    7.พระสีวลีเนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ และผงกะลาตาเดียว สร้าง 3,000 องค์(สีขาว ปัดทอง)


    พิธีอธิษฐานจิตแผ่เมตตา
    โดยพ่อแม่ครูบาอาจารย์จำนวนหลายรูป ณ ศูนย์อบรมภาวนาสิริจันโท วัดบรมนิวาส กทม.
    ◦ หลวงปู่หา สุภโร(พระญาณวิสาลเถร) วัดสักกะวัน(ภูกุ้มข้าว) จ.กาฬสินธุ์
    ◦ หลวงปู่แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    ◦ หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ◦ หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนมประชาคม ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ◦ หลวงพ่อสนธิ์ อนาลโย(พระเทพมงคลญาณ) วัดพุทธบูชา กรุงเทพฯ
    ◦ พระราชสุเมธี (หลวงพ่อเหลี่ยม สุจินโน) วัดภูตูมวนาราม จ เลย
    ◦ หลวงพ่อสวาท ปัญญาธโร วัดป่าโป่งจันทร์ จันทบุรี
    ◦ หลวงปู่ดำ สีลคุโณ วัดป่ามณีศรีโคตมวงศ์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี
    ◦ หลวงพ่อสุวัฒน์ คัมภีรปัญโญ วัดถ้ำเขาปรางค์ ลพบุรี
    ◦ หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ วัดป่าวุฒฑาราม หนองบัวลำภู
    ◦ หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
    ◦ หลวงพ่อดาด สิริปุญโญ วัดป่าสัมมานุสรณ์ (วัดเหนือ) ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
    ◦ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย(พระครูเกษมวรกิจ) วัดถ้ำผาจม เชียงราย
    ◦ หลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา อ.เขาสมิง จ.ตราด
    ◦ หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
    ◦ หลวงพ่อไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    ◦ หลวงตาเลื่อน โอภาโส วัดพระธาตุฝุ่น อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ◦ หลวงพ่อหนูพิณ ฐานุตฺตโม วัดป่าโนนศรีทอง ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
    ◦ พระอาจารย์สุชิน ปริปุณโณ วัดธรรมสถิต จ.ระยอง
    ◦ พระอาจารย์จิรวัฒน์ อัตตรักโข วัดป่าไชยชุมพล อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
    ◦ พระวิชัยมุนี (พระอาจารย์ไพฑูรย์ เมตตจิตโต) วัดสำราญนิเวศ ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ.
    ◦ หลวงพ่อรุ้ง รุจฺจโน วัดหนองบำหรุ จ.อุทัยธานี
    ◦ หลวงพ่อสังวาล วัดป่าประดู่ จ.นครราชสีมา
    ◦ พระบูรพาคณาจารย์(หลวงพ่อน้อม) วัดบ้านโง้ง จ.ปราจีนบุรี
    ◦ พระราชวิสุทธิมุนี (เยื้อน ขนฺติพโล) วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์
    ◦ พระราชวิสุทธิญาณ (ฤทธิรงค์ ญาณวโร) วัดป่าดาราภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่
    ◦ พระอาจารย์สมคิด ญาณทีโป วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    ◦ พระประชาธรรมนาถ (ไพรัตน์ ปญฺญาธโร) วัดสมานวราราม จ.ฉะเชิงเทราและพระติดตามรวมประมาณ 19รูป


    ประวัติ หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร วัดบรมนิวาส
    หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร มีนามเดิมว่า อำนวย รตนเพชรมณี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2483 ที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 12 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเตี่ยอู๋ และนางเงียบ รตนเพชรมณี ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา

    จนกระทั่งอายุ 26 ปี เดินทางกลับมาบ้านเกิด และได้ทดแทนพระคุณบุพการีด้วยการเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2509 ณ พัทธสีมาวัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีพระวรพรตปัญญาจารย์ (หลวงปู่เฮี้ยง) วัดป่าอรัญญิกาวาส อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ , พระสมุห์เอี่ยม สุสังวโร วัดสมานรัตนาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดผิน สุทธาภิมุข วัดสมานรัตนาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังอุปสมบทมุ่งศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งนักธรรมและบาลีอย่างจริงจัง แม้สภาพความเป็นอยู่ในขณะนั้นจะไม่เอื้ออำนวยต่อการศึกษาเท่าใดนัก แต่อาศัยความมุมานะท่องหนังสืออ่านตำราอย่างขะมักเขม้น

    พระวิมลศีลาจาร เล่าถึงประสบการณ์ในการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานว่า ได้เริ่มศึกษาการปฏิบัติกัมมัฏฐานจากครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา, หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เป็นต้น

    "เวลาอาตมาเกิดปัญหาข้อติดขัดในการปฏิบัติกัมมัฏฐาน อาตมาจะได้เข้าไปกราบขอคำชี้แนะจากครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่าน ซึ่งท่านล้วนมีเมตตาถ่ายทอดประสบการณ์และชี้แนะหลักคำสอนอันทรงคุณค่าให้อาตมาได้ลองกลับไปทบทวนฝึกปฏิบัติ ได้ปฏิบัติเดินจงกรม ฝึกภาวนา พิจารณากัมมัฏฐานตามที่พระอาจารย์บอก เกิดความรู้สึกปีติยินดียิ่ง"
    พระวิมลศีลาจาร แนะนำการนั่งสมาธิภาวนาว่า "ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นแต่อย่างใด อยู่ที่ตัวเราและจิตเป็นสำคัญ กำหนดจิต กำหนดลมหายใจ ให้จิตใจอยู่กับเรา อย่าไปคิดถึงเรื่องอื่น ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อเรามานั่งปฏิบัติแสวงหาความสงบในจิตใจ หน้าที่การงานหรือภาระทุกสิ่งให้ทิ้งไปให้หมด"

    พระวิมลศีลาจาร ยังได้ชี้แนะว่า "การควบคุมอารมณ์ของจิตเป็นเรื่องยาก ในขณะนั่งสงบอยู่เพียงพักเดียวจะมีสิ่งที่จูงใจดึงจิตเราเตลิดไปตลอด ให้เราปล่อยวาง อย่าไปสนใจ ละวางกิเลส ให้จิตอยู่ที่พุทโธ รู้แล้วละ รู้แล้วปล่อย รู้แล้ววาง รู้อย่างมีสติ รู้ด้วยตัวของมันเอง"

    ทุกวันนี้ "พระวิมลศีลาจาร" หรือ "หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร" ยังคงดูแล "ศูนย์อบรมภาวนาสิริจันโท" อย่างต่อเนื่อง มีศิษยานุศิษย์ตลอดจนผู้ที่อยากปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานแวะเวียนไปขอคำแนะนำไม่ขาดสาย เป็นสายธารวิปัสสนาธุระใจกลางกรุงอีกแห่งหนึ่ง !!


    สภาพสวยเดิมพร้อมภาพถ่ายซองเดิมๆ ไม่เคยผ่านการบูชา ของดีราคาเบา พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,264
    ค่าพลัง:
    +14,362
    4104.สวยเดิมๆมีจาร 2ที่ เหรียญพุทธะสังมิ
    หลวงตาม้า ทายาทพุทธคมหหลวงปู่ดู่ วัดสะแก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    เหรียญองค์ปฐม ตาม้า ใหม่.JPG
    เหรียญพุทธะสังมิ หลวงตาม้า (พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร) วัดพุทธพรหมปัญโญ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อทองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ.2551 สมัยนั้นยังเป็นสำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญอยู่ ปัจจุบันเป็นวัดเเล้ว สร้างต่อจากเหรียญกายสิทธิ์อันโด่งดังเลยทีเดียว *** ด้านเหรียญมีจาร 2ที่ ซ้ายขวา ***

    พุทธศิลป์
    ด้านหน้าของเหรียญ : มี พระพุทธปางทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ หลวงปู่ทวด และหลวงปู่ดู่
    ด้านหลังเหรียญ : ตรงกลางบรรจุพระคาถาอิติปิโส8ทิศ รอบขอบเหรียญมี คาถาพระมหาจักรพรรดิ ล้อมรอบกำกับอีกชั้นหนึ่ง
    ขอบเหรียญ : เป็นจักรเพชร


    "พุท ธะ สัง มิ" ย่อมาจาก "พุท ธัง สะ ระ นัง คัจ ฉา มิ" ซึ่งถือเป็นคาถายอดศีล พระคาถายอดศีล ท่านวางอุปเทห์วิธีใช้ไว้มากมาย เป็นไปได้รอบด้าน เป็นยอดพระคาถาทางเมตตา ทางอยู่ยงคงกระพันก็ใช้ได้ ตลอดจนจะใช้เป็นล่องหนกำบังตัวก็ได้ หลวงตาม้าท่านเรียกว่าฝอยท่วมหลังช้างแล

    สุดยอดแห่งเหรียญประสบการณ์ เขาว่าพระท่านมีชีวิต
    เวลานั่งสมาธิ นำเหรียญพุทธะสังมิมากำในมือเบาๆ
    พอใจสบายแล้ว บริกรรมพระคาถามหาจักรพรรดิ์
    แล้วจะรู้เองว่าพระของท่านมีชีวิต (ลูกศิษย์วัดถ้ำเมืองนะ
    ผู้ฝึกจิตสงบนิ่งดีแล้ว จะสัมผัสได้ร่วมกันหนึ่งอย่างคือ
    เหรียญพระของหลวงตาม้าท่านดิ้นได้ พูดคุยด้วยได้)


    สภาพสวยผิวไฟแดงๆผิวรุ้งอมม่วงเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก เหรียญดีมีประสบการณ์อีกรุ่นของหลวงตาม้า ดั่งเจตนาการดำริสร้างของเหรียญรุ่นนี้ แบ่งให้บูชา 270 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

แชร์หน้านี้

Loading...