โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย bat119, 20 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,191
    ค่าพลัง:
    +14,323
    สวัสดียามเที่ยงครับป๋า ;););)
     
  2. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีหลัง-png.png2.png
     
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=5f2048&_nc_ohc=nh1LKE1HTh0Q7kNvgF0WHwi&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg

    n.jpg?_nc_cat=100&ccb=1-7&_nc_sid=5f2048&_nc_ohc=4i8Wx5iiyjUQ7kNvgFef9Ay&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.jpg

    n.jpg?_nc_cat=101&ccb=1-7&_nc_sid=5f2048&_nc_ohc=Np45VNK0PLgQ7kNvgFCLoGW&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.jpg
     
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    ed500720774th จรเข้บัว
     
  5. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    n.jpg?_nc_cat=102&ccb=1-7&_nc_sid=5f2048&_nc_ohc=3l5bwyNjy5QQ7kNvgF8mZEW&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.jpg

    upload_2024-6-3_16-17-9.png
     
  6. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    n.jpg?_nc_cat=109&ccb=1-7&_nc_sid=5f2048&_nc_ohc=inZt2myqn8IQ7kNvgGpEV-X&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.jpg

    n.jpg?_nc_cat=110&ccb=1-7&_nc_sid=5f2048&_nc_ohc=L9oQYzgiBksQ7kNvgEWrlLL&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.jpg

    กำไลเหนือดวง วัสดุทำจากสแตนเลสสตีล สีทองสุดพรีเมี่ยม ใส่ได้ทั้งชายและหญิง กำไลสายมู ได้ทั้งความเฮง ความปัง และความสวยงามหรูหรา
    หลวงปู่ศิลา สิริจันโทเป็นประธาน ปลุกเสกเสาร์5 วันที่13 เมษายน ปี2567 - มีขนาด M-L
    รับประกันของแท้แน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2024
  7. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    เหรียญโชคเหนือเมฆศิลามหาเฮงหลังเจ้าพ่อยี่กอฮง เนื้อทองแดง

    เหรียญโชคเหนือเมฆ.jpg

    เหรียญโชคเหนือเมฆศิลามหาเฮงหลังเจ้าพ่อยี่กอฮง ปี2564สวนสงฆ์แกแปะวัดโพธิ์ศรีสะอาด จังหวัดกาฬสินธุ์
    ความพิเศษของเหรียญรุ่นนี้คือ ด้านหลังเป็นรูปเจ้าพ่อยี่กอฮง “เทพเจ้าแห่งการเสี่ยงดวง ”เสี่ยงโชคลาภ หลวงปู่ท่านเป็นผู้ดำริให้จัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ ท่านตั้งชื่อเหรียญเอง

    ท่านยังเขียนอักขระตัวหนังสือ “ภาษาจีน”เป็นครั้งแรก เหรียญรุ่นนี้ได้ขออนุญาต จากต้นตระกูลของเจ้าพ่อยี่ฮอกงที่ยังมีตัวตนอยู่ จริงเพื่อจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าพ่อยี่กองฮงท่านคือ “เทพเจ้าแห่งการพนัน เสี่ยงโชค ”ท่านเป็น “ผู้ก่อตั้งสลากกินแบ่งรัฐบาล”

    หรือที่เรียกกันติดปากว่าลอตเตอรี่เป็นคนแรกของประเทศไทย

    ท่านคือพระบิดา #แห่งนักเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงทุกประเภทท่านเป็นลูก คนจีนที่เกิดในเมืองไทยเมื่อปี ๒๓๙ ได้ประกอบกิจการค้าหลายอย่าง แต่ที่ได้สร้างฐานะให้ท่านจนรุ่งเรืองก็คือการเป็นเจ้าภาษี โรงต้มกลั่นสุรา โรงบ่อนเบี้ย โรงหวย และที่สำคัญท่านยังชื่นชอบการเล่นหวยมากนั่นเอง มีความเชื่อว่า เจ้าพ่อยี่กอฮง อากงของนักเสี่ยงโชค เป็นผู้มีโชคดีมีโชคทางการเสี่ยงโชค ทุกชนิด

    ขอบารมีหลวงปู่ให้ลูกได้รับพรตามที่หลวงปู่เขียนในเหรียญรุ่นนี้ครับ

    โชคเหนือเมฆ ศิลามหาเฮง ยี่กอฮง

    祝 ขอ 欣 เจริญ

    你 ให้ 欣 รุ่งเรือง

    好 โชค 向 เฟื่อง

    运 ดี 荣 ฟู

    .

    出 อยู่ 一 ลงทุนสิ่งใด

    人 เย็น 本 ขอให้ได้

    平 เป็น 萬 กำไร

    安 สุข 利 มหาศาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2024
  8. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    หลวงพ่อยิด.jpg

    1f300.png พระสหธรรม นามว่า หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    องค์หลวงปู่พิศดูเคยเล่าให้ฟัง ว่า สมัยก่อนท่านเคยเดินธุดงค์ไปภาคใต้ ผ่านไปทางกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็ได้แวะไปทักทายกับสหายธรรมท่านหนึ่ง ผู้ได้รับสมญา " เจ้าตำรับปลัดขิกบิน และเกจิอรหันต์แห่งกุยบุรี.."
    จริงๆท่านทั้งสองมีความสนิทสนมกันมาก สมัยก่อนยังเคยเดินธุดงค์ด้วยกัน เจอกันทีไรหลวงพ่อยิดจะชวนค้างที่วัดประจำ สมัยก่อนที่หลวงพ่อยิดยังไม่ค่อยมีชื่อเสียง วัดท่านไม่ค่อยมีอะไรมาก วัตถุมงคลทั้งวัดที่มีมากหน่อยก็เห็นจะเป็นปลัดขิกที่เหลาเอาไว้ปลุกเสกแจกญาติโยมที่มาทำบุญในวัด จนระยะต่อมาจึงทำให้หลวงพ่อยิดท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
    ซึ่งพอองค์หลวงปู่พิศดูได้แวะไปเยี่ยมเยียนพำนักที่วัดของหลวงพ่อยิดพอสมควรแก่เวลาแล้ว ท่านก็จะเดินทางธุดงค์ต่อไปเรื่อยๆ หลวงพ่อยิดก็เลยถวายปลัดขลิกให้องค์หลวงปู่มาเต็มย่ามได้ บอกว่า " มาทัังทีผมก็ไม่มีอะไรมอบให้ มีแต่ปลักขิกนี่.."
    องค์หลวงปู่พิศดูท่านเล่าว่า.. จริงๆแล้วก็ไม่ได้อยากได้หรอก มันเป็นภาระต้องขนกลับมาอีก แต่องค์ยิดเขาอุตส่าห์ให้มา ปฏิเสธก็กลัวเสียน้ำใจ เพราะท่านก็อยากให้จริงๆเพราะไม่เจอกันนานและไม่มีอะไรจะให้ด้วย ท่านตั้งใจให้มา ก็เลยรับไว้ แต่ก็ไม่ได้เอาไปขายใครหรอก ก็แจกตามทางมาเรื่อยๆ ใครขอของดีเราก็ให้ไปแล้วก็บอกเขาว่า นี่เป็นปลัดขลิกหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จนกลับมาถึงวัด ก็ยังเหลืออีกหลายสิบตัว ใครขอก็แจกไปจนหมด ไม่ได้เก็บไว้เลย..
    " ปลัดขิกขององค์ยิดนี่ เค้าก็ดีนะ.."
    Sira Pop
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    sold.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2024
  10. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    n.jpg?_nc_cat=100&ccb=1-7&_nc_sid=5f2048&_nc_ohc=Muv0_wLN5ToQ7kNvgG0gBL8&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.jpg

    4.jpg

    มีอยู่วันหนึ่ง ผมจำได้แม่นยำว่า เป็นช่วงเวลาเย็นของวันเสาร์ ต้นปี 2550 ผมอยู่กับหลวงปู่ 2 คนบนกุฏิหลังเก่า หลวงปู่ได้หยิบหนังสือประวัติของท่านที่ลูกศิษย์พิมพ์ถวายขึ้นมาเปิดอ่าน แล้วท่านได้พูดกับผมว่า..
    " ประวัติของเราเขาลงไว้น้อยไปหน่อย ต่อไปถ้าได้ทำหนังสือประวัติของเราอีก ให้ช่วยเขียนให้เยอะๆหน่อยนะ.."
    " แต่ยังไม่ต้องเขียนตอนนี้ ไว้ถึงเวลานั้น แล้วค่อยเขียน.."
    วันเวลาที่ล่วงผ่านมาร่วม 10 ปี คำกล่าวประโยคนี้ขององค์หลวงปู่ เป็นเสมือนคำสั่งที่ได้มอบหมายไว้ และประทับอยู่ในมโนจิต ผมยังจำได้ดี.. และมีความตั้งใจตั้งแต่บัดนั้น ว่าจะต้องรวบรวมประวัติของหลวงปู่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ตัวผมเองจะสืบค้นได้ โดยจะต้องรักษาเนื้อหาตามความเป็นจริงให้ผิดพลาดน้อยที่สุด เพื่อเผยแผ่เกียรติคุณของท่าน..
    คำกล่าวทิ้งท้ายของหลวงปู่ ที่กล่าวว่า..
    " แต่ยังไม่ต้องเขียนตอนนี้ ไว้ถึงเวลานั้น แล้วค่อยเขียน.."
    ผมตีความได้เอง ถึงคำว่า " ถึงเวลานั้น..." ก็คือ ถึงเวลาหลังจากหลวงปู่ท่านมรณภาพลงแล้ว จึงค่อยเริ่มเขียนเผยแผ่ เพราะผมทราบจริตของท่านดีว่า ท่านชอบอยู่แบบสงบ ไม่นิยมคลุกคลีกับคน แต่ถ้าใครศรัทธาท่านจริง ท่านจะช่วยทุกคนโดยไม่ลังเล..
    ซึ่งผมก็ได้เริ่มเขียนเรื่องราวของหลวงปู่ ตลอดถึงข้อมูลทำเนียบวัตถุมงคลที่ออกในนามวัด และนอกวัด มาตั้งแต่ต้นปี 2554 เป็นต้นมา สมัยนั้นเริ่มเขียนในเว็บพลังจิต ใช้ Username ว่า ทุเรียนทอด จนกระทั่งมาเขียนเผยแผ่ในเฟสบุ๊คผ่านมา 3 ปีเศษ ก็ยังคงทำหน้าที่หาข้อมูลและประสบการณ์ต่างๆจากลูกศิษย์มาเขียนเผยแผ่ปฏิปทาของท่านไว้อยู่ และช่วยทางวัดทำงานบุญมาโดยตลอด ร่วมกับสมาชิกที่อยู่ในเว็บพลังจิต และกลุ่มเฟสบุ๊ค ได้เงินเข้าวัดจำนวนหลายล้านบาทแล้ว
    ผมเห็นว่าเหตุปัจจัยในการเผยแผ่เรื่องราวของหลวงปู่พิศดู เกิดจากบารมีธรรมของท่านเอง หาใช่ตัวผู้เขียน เพราะผู้เขียนไม่มีอะไรดีเลย นอกจากความทรงจำที่ได้บันทึกเรื่องราวในอดีตของหลวงปู่ที่ล่วงมาแล้ว ส่งต่อให้สมาชิกได้ศึกษาเป็นสาธารณะเท่านั้น..
    ถึงทุกวันนี้หลวงปู่พิศดูจะละสังขารแล้ว แต่ก็เหมือนว่าท่านยังอยู่ดูแลลูกศิษย์ที่นับถือท่านอยู่ตลอดเวลา ยิ่งมีคนเข้ามาศึกษามาก เรื่องราวของท่านได้แผ่ขยายออกไปกว้างมาก วัดของท่านก็สามารถดำรงค์อยู่ได้ ผู้ที่รับเอาคำสอนตลอดการปฏิบัติ และวัตถุมงคลของท่านไปใช้ ก็ทำให้มีหลักใจ และกำลังใจในการดำเนินชีวิตในทางที่ดียิ่งขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ผมต้องช่วยกันเผยแผ่เกียรติคุณของท่าน ในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งครับ..
    (ข้อมูลคุณสิรภพ)
     
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    รูปหลวงปู่หลับตา2.jpg ชีวิตแห่งการครองสมณเพศขององค์หลวงปู่พิศดู ท่านมีประสบการณ์อย่างผาดโผนมาก ท่านเล่าว่า
    " ลำบากที่สุด อันตรายที่สุด น่าพิศวงที่สุด ก็ผ่านมาหมดแล้ว.."
    เรียกได้ว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆเคยพบเจออะไรที่เป็นเรื่องเหนือวิสัยของปุถุชน ความรู้ความเห็นขององค์หลวงปู่พิศดูก็เห็นได้ตามอย่างนั้นตั้งแต่ยังพรรษาน้อยๆ เท่าที่ผมทราบมีอยู่มากมาย อาทิ..
    หลวงปู่ท่านสำเร็จรูปฌาน 4 ตั้งแต่บวชได้พรรษาแรก..
    ช่วงอายุท่านได้เพียง 30 ปีเศษ พรรษาที่ 10 กว่า หลวงปู่ก็สามารถพาลูกศิษย์เข้าไปชมเมืองลับแลที่เป็นภพที่ซ้อนกันอยู่กับโลกของเรา ได้ด้วยกายเนื้อแล้ว..!!
    (ปัจจุบันคนที่ไปเมืองลับแลกับหลวงปู่ก็ยังมีชีวิตอยู่)
    ท่านสามารถบิณฑบาตรกับรุกขเทวดา หรือชาวลับแล และท่องเที่ยวไปในภพภูมิต่างๆได้อย่างที่ใจปรารถนา..
    เดินจงกรม และนั่งฉันข้าวกลางสายฝนไม่เปียก..
    ผจญต่อสัตว์ป่าดุร้าย อันมี หมี เสือ ช้าง กระทิงโทน และสัตว์มีพิษต่างๆ ซึ่งท่านก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ..
    อีกทั้งความรู้ในเรื่องของการรู้วาระจิต วาระกรรมของทั้งคนและสัตว์ ทั้งไกลและใกล้ ตลอดจนถึงการแสดงฤทธิ์อภิญญาต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ ฯลฯ
    เหล่านี้คือผลพลอยได้จากการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจังของท่าน
    ครูบาอาจารย์ที่มีจิตโลดโผนนั้น มักเกิดจากการบำเพ็ญเพียรสั่งสมวาสนาวิสัยในการปฏิบัติธรรมแบบเข้มข้นมาหลายภพหลายชาติ จนบารมีถึงขั้นปรมัตถ์(เต็ม) ชาติสุดท้ายนี้เพียงแค่เพียรทำต่อไป ก็สามารถบรรลุคุณธรรมขั้นสูงสุดได้โดยไม่นานนัก คุณวิเศษอะไรที่เคยได้มาแต่ปางก่อนก็กลับคืนมาได้อย่างหมดสิ้น เพียงแต่ท่านจะแสดงให้ใครได้ทราบหรือไม่เท่านั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรจิตท่านก็รับรู้ธรรมารมณ์ด้วยใจ เจริญวิปัสสนาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นกฏแห่งไตรลักษณ์ และวางเฉยเสียเท่านั้น อารมณ์ท่านจึงอิ่มเต็มอยู่ทุกเวลา ผัสสะ เวทนาทั้งหลายก็ไม่อาจทำอะไรกับจิตที่บริสุทธิ์ แน่วนิ่ง และสว่างไสวของท่านได้เลย...
    ครูบาอาจารย์ระดับนี้ถ้าเรื่องพลังจิตนั้นไม่ต้องพูดถึง ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจทั้งสิ้น หรือที่เรียกว่า ฤทธิ์ทางใจ เพียงคิดจะเสกอะไรเพียงแค่ใจคิดให้เป็นไปอย่างนั้นๆเท่านั้น ก็สามารถบังเกิดผลสำเร็จเป็นจริงได้อย่างฉับพลัน มีผลสมบูรณ์แบบอย่างถึงที่สุดเลยทีเดียว
    ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่ธาตุขันธ์ที่หุ้มห่อเป็นที่อยู่อาศัยของจิตก็พลอยมีความบริสุทธิ์ไปด้วย ซึ่งเราจะพบได้ว่า ธาตุต่างๆที่ออกมาจากกายสังขารนั้น ถ้ามีผู้หมั่นบูชาด้วยใจศรัทธา ธาตุกายของท่านเหล่านั้นก็สามารถแปลสภาพเป็นพระธาตุที่บริสุทธิ์สวยงามได้ดั่งอัญมณีเลอค่า อีกทั้งยังมีอานุภาพเหนือวัตถุธาตุใดๆในโลกธาตุทั้งหมดอย่างไม่มีประมาณ สามารถบันดาลให้เกิดขึ้น แปลสภาพ เสด็จไป-มา หรืออันตรธานไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ เรื่องเหล่านี้เป็นปัจจัตตังที่ต้องรู้เห็นได้เฉพาะตน..
    ผมเคยเห็นหลวงปู่เวลาท่านเสกของหลายครั้ง บางครั้งก็เห็นท่านสวดมนต์อยู่นานสองนาน ชักยันต์กลางอากาศบ้าง บางครั้งเพียงแค่ท่านใช้มือแตะบ้าง เอานิ้วจิ้มบ้าง เอาสายตามองบ้าง หรือบางทีของที่ต้องการให้ท่านเสกอยู่ในต่างสถานที่กันแต่ตัวท่านอยู่ที่วัดท่านส่งจิตไปเสกให้ก็มี การอธิษฐานจิตของพระผู้ทรงความบริสุทธิ์ จริงๆก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาอธิษฐานยาวนาน เพียงแค่เสี้ยวเวลาในขณะจิตแว๊บ..เดียว ก็สำเร็จผลสมบูรณ์แล้ว แต่บางครั้งที่ท่านอธิษฐานจิตให้นานๆ ก็เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ศรัทธาจะได้มั่นใจ.. แต่จริงๆแล้วไม่ว่าท่านจะใช้เวลาอธิษฐานเพียงแค่แป๊บเดียว หรือยาวนานแค่ไหนก็ตาม ของนั้นก็กลับมีอานุภาพ หมายถึงพลังงานที่บรรจุเข้าไปอย่างเต็มเปี่ยมได้ดุจเดียวกัน ทำให้ผู้ที่นำไปใช้เกิดมีประสบการณ์ต่างๆ ทั้งเรื่องการคุ้มครอง เมตตา โภคทรัพย์ กำบังตน แคล้วคลาด ฯลฯ หลายครั้ง หลายคน จนนับไม่ถ้วน ทั้งๆที่ของนั้นเป็นของอย่างเดียวกัน แต่ว่าสามารถทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ได้หลายๆอย่างตามแต่จะอธิษฐานเลยทีเดียว
    โดยเฉพาะสามารถช่วยได้มากในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ภาวนา โดยการนำวัตถุมงคลของหลวงปู่ท่านมาใส่ หรือกำนั่งภาวนา จะเป็นเครื่องโยงจิตเข้าสู่ความสงบดิ่งได้ง่ายขึ้น แม้คนที่ใจร้อนโมโหง่าย หากได้ใส่วัตถุมงคลของหลวงปู่พิศดูแล้ว จะทำมห้ปรับระดับอารมณ์ให้เย็นลงและมีสติมากขึ้น
    ทั้งนี้เป็นเพราะบารมีธรรมขององค์ท่านที่อธิษฐานแผ่บรรจุเข้าไว้ในของทุกชิ้นทุกองค์ ไม่ว่าของใดๆที่ผ่านการอธิษฐานจากหลวงปู่ ก็มีอานุภาพของพลังงานจิตที่บริสุทธิ์ สามารถใช้ได้ดีเช่นเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะทัน หรือไม่ทันตอนทรงสังขารธรรมอยู่ก็ตาม เพราะเรื่องของพลังงานนั้นเกิดจากจิต ไม่ได้เกี่ยวกายสังขาร เพราะจิตท่านอยู่เหนือเวทนา แยกจิตแยกกายได้สิ้นเชิง โดยเฉพาะจิตที่เป็นมหากำลังอสังขตธรรม ไม่มีประมาณ และไม่มีวันเสื่อม เป็นอิสระเหนือทุกสภาวะ..
    (Sira Pop )
     
  12. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    3.2.jpg
    ผู้เขียนได้เคยเจอประสบการณ์มหัศจรรย์กับองค์หลวงปู่พิศดูหลายครั้ง สมัยที่อยู่รับใช้ท่าน บอกได้เลยว่าหลวงปู่พิศดูท่านมีครบเครื่องในองค์เดียวแบบไม่ยิ่งหย่อนเลย ลูกศิษย์ท่านใครจะมาใครจะไปที่ไหน หลวงปู่ท่านจะทราบหมด ยิ่งใครทึ่จะเดินทางมาหาท่าน ท่านยิ่งรู้ ท่านเคยบอกไว้ว่า..
    " ใครจะมาหาเรา เราก็รู้ตั้งแต่ก่อนเขาจะออกจากบ้านแล้ว.."
    เรื่องนึ้ท่านทราบได้เป็นปกติ ท่านเคยบอกว่า มีอะไรคับขันก็ให้เรียกได้ หรือแค่ระลึกถึงท่าน ท่านก็จะรู้เอง
    มีพระที่ปฏิบัติมีคุณธรรมดีเคยบอกไว้ว่า..
    " หลวงปู่พิศดูเป็นพระอริยะชั้นพิเศษ บารมีท่านเต็มแล้ว ญาณของท่านใหญ่ และเปิดตลอดเวลา ท่านรักลูกศิษย์ ถ้าใครศรัทธาท่าน ท่านจะช่วยทุกคน แต่จะช่วยได้มากน้อยก็อยู่ที่บุญกรรมของผู้นั้นด้วย.."
    หลวงปู่จึงมักกล่าวให้ได้ยินเสมอว่า..
    " ลูกศิษย์เรา เรามั่นใจว่า เราคุ้มได้หมดทุกคน.. ผ่านมา(นับถือ) แล้วมักจะไม่พลาด.."
    " จะกราบเรา กราบที่ไหนก็ได้ แค่คิดถึงก็พอ เรารู้.."
    (Sira Pop )
     
  13. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    รูปหลวงปู่หลับตา3.jpg

    #ดงดิบเมืองจันท์..
    ป่าใหญ่แถบเมืองจันท์เมื่อประมาณ 70 - 80 ปีก่อน ยังขึ้นชื่อเรื่องดงดิบ อาถรรพ์ป่า และเสือสมิง เป็นที่รู้กันดี โดยเฉพาะที่เทือกเขาสระบาป มีข่าวว่ามีเสือสมิงออกมาลากคนและสัตว์เลี้ยงเข้าไปกินบ่อยครั้ง ชาวบ้านต่างหวาดกลัวกันมาก พอตะวันเริ่มตกดินจะปิดประตูบ้านเงียบ พ่อเมืองจันทบูรในสมัยนั้นจึงได้ระดมนายพรานฝีมือดีเข้าป่าไปล่าเสือที่ออกมาอาละวาด เพื่อความสงบปลอดภัย จนกระทั่งเสือในป่าได้จบชีวิตลงไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีข่าวว่า มีเสือสมิงลากคนเข้าไปกินอยู่ เพราะเชื่อกันว่าเสือสมิงนั้นฉลาดกว่าเสือทั่วไป แถมยังสามารถแปลงกายเป็นคนได้..
    ผมเคยเรียนถามหลวงปู่พิศดูว่า สมัยที่หลวงปู่ธุดงค์อยู่ที่เขาสระบาปเป็นปีๆ หลวงปู่เคยได้ยินข่าวเรื่องเสือสมิงบ้างไหมครับ..?
    หลวงปู่ตอบว่า.. " เคยสิ่ สมัยนั้นเขาเล่าลือกันมากเรื่องเสือสมิง เราก็ไปอยู่ที่นั่น เข้าๆออกๆจนทั่วทั้งป่า แต่ก็ไม่เคยเจอ จะเจอก็แต่เสือธรรมดา เดินสวนกันแบบนี้ แต่ไม่ทำร้ายกัน.."
    แล้วหลวงปู่ไม่กลัวหรือครับ..?
    " ไม่กลัว..เราเจริญเมตตา ไม่ทำร้ายเขา เราตัดสินใจมอบกายถวายชีวิตให้พระพุทธเจ้าไปแล้ว อะไรก็ไม่กลัว เป็นอะไรก็เป็น.."
    นอกจากนี้แล้วหลวงปู่ยังเคยบอกว่า ที่ป่าเทือกเขาสระบาปมีภูมิของชาวลับแลอยู่ ชาวลับแลที่นั่นเป็นภูมิชั้นล่างๆ ที่ใกล้เคียงกับมนุษย์เรามากแต่ก็มีความเป็นทิพย์ พวกเขาเคยนิมนต์หลวงปู่เข้าไปบ้านเมืองเขาบ่อยๆ และลูกศิษย์ในยุคแรกๆที่หลวงปู่เคยพาไปธุดงค์ด้วย ได้เคยเล่าให้ฟัง(ต่อหน้าหลวงปู่) ว่าหลวงปู่เคยพาลูกศิษย์เดินเข้าไปในดงลึกที่ไม่มีผู้คนเข้าไปถึง และยังได้เคยเห็นหลวงปู่บิณฑบาตรกับ(รุกขเทวดา)ที่ต้นไม้ ได้ข้าวทิพย์กลับมาหลายครั้ง..
    เรื่องราวของหลวงปู่พิศดู เป็นเรื่องมหัศจรรย์ ลูกศิษย์พบเจอกันมากมายแทบจะทุกคน ให้เล่าขานกันอย่างไม่รู้จบ...
    Sira Pop
     
  14. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    n.jpg?_nc_cat=105&ccb=1-7&_nc_sid=127cfc&_nc_ohc=EVWNlG8y0mgQ7kNvgEYhGYE&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.jpg

    1509035_422334331252046_4603298195437973586_n.jpg 10998211_646240432188724_1582624211_o.jpg 28379197_347303385781961_7496740191309253784_n.jpg 1510617_422334007918745_5626193902278725888_n.jpg 10868256_422333934585419_8851908606575294837_n.jpg รูปหลวงปู่หลับตา3.jpg สมเด็จพระกสิณ.jpg

    วัตถุมงคลยุคแรก หลวงปู่พิศดู
    ข้อมูลการสร้างพระกสิณ ที่ลูกศิษย์หลวงปู่เขียนเอาไว้
    "สำคัญคือ อย่าโลภจนทำให้ประมาทพลาดพลั้งจนได้ของปลอมมาบูชาก็เท่านั้น"
    "ที่ผมนำเรื่องของพระกสิณมาเขียนนี้ก็ไม่ได้จะเชียร์เพื่อการอันใด และผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพียงแต่อยากจะบอกเล่าต่อๆกันไป ถึงความเป็นจริง และคุณค่าของพระชุดนี้ว่าดีมากๆ แต่อาจจะเล่นยากสักหน่อย ค่อยๆศึกษากันไป สำคัญคือ อย่าโลภจนทำให้ประมาทพลาดพลั้งจนได้ของปลอมมาบูชาก็เท่านั้น
    เรื่องดีๆบางเรื่องหากเราไม่เอามาเล่ากันบ้าง ก็คงยังเป็นที่ปิดบังไปอีกนาน ซึ่งกว่าจะรู้ ของเหล่านั้นก็คงสูญหายไปเยอะ และหลายท่านคงพลาดโอกาสดีๆไปเสียเปล่าครับ"
    ปกิณกะพระกสิณ ตอน 1
    พระกสิณเริ่มสร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี 2520 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นพระกสิณพิมพ์ไหนๆก็ดีเหมือนกันหมดทุกพิมพ์แท้จริงครับ ยิ่งถ้าพิมพ์ที่เป็นรูปพระพุทธเจ้าหลวงปู่ท่านจะชอบมาก ส่วนพิมพ์โพธิจักร(ล้อพิมพ์ของท่านพ่อลี) จะเป็นพระยุคแรกๆ และหลวงปู่ท่านทำล้อพิมพ์นี้ไว้เพื่อระลึกบูชาคุณครูบาอาจารย์ของท่านอีกด้วย..
    ตามข้อมูลนั้นพระกสิณทุกยุคทุกองค์ มีการอธิษฐานจิต สวดมนต์ ภาวนาจากหลวงปู่มาพร้อมๆกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ประมาณปี 2520ปลายๆ จนมาแจกเอาเมื่อปี 2540-2542 จากนั้นหลวงปู่ท่านก็ฝากพระเกือบทั้งหมดให้ลูกศิษย์ของท่านจำนวน 4-5 ครอบครัวไปดูแลต่อเรื่อยมาเป็นเวลานับสิบปี... จนลูกศิษย์ที่ท่านฝากพระไว้นั้นยอมเอาออกมา(ให้บูชาต่อ) เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ราวกับว่าหลวงปู่ท่านอาจทราบกาลล่วงหน้าแล้วว่า ถ้าแจกพระออกไปตั้งแต่ต้น ไม่ฝากพระกับลูกศิษย์เหล่านี้เอาไว้ พระกสิณที่ท่านสร้างนี้ คนก็คงจะไม่รู้จักของดีกัน เพราะพระทำแบบฝีมือชาวบ้านไม่ค่อยสวย และพระองค์ใหญ่มาก ประกอบกับยุคนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน และท่านคงทราบอีกด้วยว่า พระกสิณของท่านคงต้องออกมาเผยแผ่ในยุคนี้ ยุคที่มีเครื่องมือสื่อสารในการเผยแพร่ข้อมูลที่ดีกว่ายุคก่อนๆ หลักๆโดยมีคุณแฝงจันทร์ คุณbat119 และคุณหนุ่มเมืองแกลง คุณTIDTON ฯลฯ สมาชิกในเว็บพลังจิต ที่บูชาจากลูกศิษย์ที่หลวงปู่ฝากไว้เหล่านั้น เพื่อมาเผยแพร่ต่อ ก็เท่ากับว่าได้ช่วยเหลือเจือจุนครอบครัวของผู้ที่หลวงปู่ฝากพระกสิณเอาไว้ในยามเจ็บป่วยในวัยชราอีกด้วย..
    ซึ่งยุคที่พระกสิณออกมาเผยแพร่นี้ ก็คล้ายเป็นยุคที่เปิดตัวของหลวงปู่ท่าน ลูกศิษย์ที่หลวงปู่ได้ฝากพระกสิณไว้จึงได้นำออกมาให้เผยแผ่ในช่วงเวลานี้พอดี ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนลำบาก และมีภัยต่างๆนาๆมากมายรอบตัวไปหมด โดยเฉพาะภัยที่มาจากธรรมชาติ ภูติผีปีศาจ วิญญาณร้าย ไสยศาสตร์ ฯลฯ ภัยเหล่านี้เหมือนดั่งเป็นมารที่มองไม่เห็น และไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้อย่างชัดเจน ที่จะมาบั่นทอน และทำลายความสงบสุขของผู้คนในยุคนี้เลยก็ว่าได้
    แต่ผู้ที่มีกำลังใจเข้มแข็ง โดยเฉพาะผู้ที่มีศีล มีธรรมนั้น ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะธรรมย่อมคุ้มครองผู้มีธรรมนั้น แต่ถ้าผู้ที่กำลังใจยังไม่ดีพอ หรือยังไม่ค่อยมั่นใจในศีลธรรม บารมีของตน ก็พึงแสวงหาที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวทางใจ และกาย โดยเฉพาะของที่เปรียบเป็นตัวแทนที่ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ที่พึ่งอันประเสริฐที่สุด ซึ่งตัวแทนของคุณพระเหล่านั้นที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ วัตถุมงคล ที่เป็นรูปพระพุทธรูป รูปเหมือนครูบาอาจารย์ ฯลฯ แต่ทว่า ถ้าจะให้มั่นใจได้จริงๆควรจะเลือกหาของที่พระอริยสงฆ์ หรือพระผู้มีศีลมีธรรมอันบริสุทธิ์เป็นผู้อธิษฐานจิตให้ เนื่องจากท่านเหล่านั้นสามารถเข้าถึงความเป็นพุทธะได้จริงๆ และเวลาที่ท่านเหล่านั้นจะอธิษฐานจิตของอะไรก็ตาม ท่านจะอาราธนาคุณพระรัตนตรัยเข้าครอบสถิตที่ของไว้ทุกครั้งไป..
    ปกิณกะพระกสิณ ตอน 2
    พระกสิณนั้น ก็เป็นหนึ่งในของมงคลชั้นดี ที่สุดยอดพระอริยสงฆ์เนื้อนาบุญใหญ่อย่างองค์หลวงปู่พิศดูได้สรรสร้างขึ้นจากเหล่าสรรพมวลสารที่ทรงอิทธิคุณต่างๆ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติที่เรียกว่าเป็นทนสิทธิ์ อันได้แก่แร่ธาตุ ว่านยา ไม้มงคลต่างๆ และมวลสารที่ท่านตั้งใจเสกสรรค์ปรุงแต่งขึ้นมาเอง อาทิ ผงลบสูตรสนธิต่างๆ เกศา ชาญหมาก น้ำหมากน้ำมนต์ ข้าวก้นบาตร ฯลฯ จนเรียกมวลสารเหล่านั้นว่า ‪#‎ผงกสิณ‬‬‬‬ บวกกับความศรัทธาและภูมิปัญญาของชาวบ้านลูกศิษย์ลูกหาในสมัยนั้นที่ร่วมกันมาช่วยสร้างพระถวาย จัดเป็นผลงานที่ดูเข้มขลังคลาสสิคได้ใจมากๆ..
    ผมเองเคยฟังหลวงปู่ท่านพูดถึงการอธิษฐานจิตของๆท่าน ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า ไม่ว่าจะวัตถุมงคล หรือของที่มีคนเอามาถวาย หลวงปู่ท่านก็จะน้อมเอาของนั้นไปถวายพุทธนิมิตรของพระพุทธเจ้า บนพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์สถานให้อีกต่อหนึ่งด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่ถวายของให้หลวงปู่ท่าน ก็จะได้รับอานิสงส์สูงเป็นพิเศษอีกชั้นหนึ่งเลย แต่ถ้าเป็นวัตถุมงคลต่างๆนั้น ถ้าได้องค์หลวงปู่ท่านน้อมเอาไปถวายแด่พระพุทธเจ้าตามที่ท่านบอกไว้ ของนั้นจะเป็นของศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุดหาที่เปรียบมิได้เลย เนื่องจากของนั้นๆเป็นของพระพุทธเจ้าท่านแล้วนั่นเอง ประกอบกับความบริสุทธิ์ของจิตหลวงปู่ท่าน แถมกำลังแห่งฤทธิ์อภิญญา และสมาบัติ ที่หาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก ถ้าท่านตั้งใจอธิษฐานธรรมบรรจุเข้าไปทำให้ของเหล่านั้นบังเกิดอานุภาพอย่างไม่มีประมาณ ยิ่งเป็นพระกสิณ ว่ากันว่าหลวงปู่ท่านอธิษฐานธรรม และบรรจุวิชชาหัวใจมหาพรหมเข้าไว้ด้วย คงต้องเรียกได้ว่าเป็นพลังอจิณไตย อย่างไม่มีประมาณเลยทีเดียว..
    ที่ผมนำเรื่องของพระกสิณมาเขียนนี้ก็ไม่ได้จะเชียร์เพื่อการอันใด และผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพียงแต่อยากจะบอกเล่าต่อๆกันไป ถึงความเป็นจริง และคุณค่าของพระชุดนี้ว่าดีมากๆ แต่อาจจะเล่นยากสักหน่อย ค่อยๆศึกษากันไป สำคัญคือ อย่าโลภจนทำให้ประมาทพลาดพลั้งจนได้ของปลอมมาบูชาก็เท่านั้น
    เรื่องดีๆบางเรื่องหากเราไม่เอามาเล่ากันบ้าง ก็คงยังเป็นที่ปิดบังไปอีกนาน ซึ่งกว่าจะรู้ ของเหล่านั้นก็คงสูญหายไปเยอะ และหลายท่านคงพลาดโอกาสดีๆไปเสียเปล่าครับ
    แต่ก็ต้องขอออกตัวอีกนิดนะครับว่า ที่ผมไม่มีพระกสิณที่จะแบ่งให้ท่านใดไปบูชาทั้งสิ้น เพราะผมสะสมไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตรงกันข้ามผมคิดอยากจะเก็บเพิ่มเติมเสียด้วยซ้ำ และกราบขอร้องท่านสมาชิกทุกท่านว่า โปรดอย่าเอาพระกสิณมาถามผมเลย ผมไม่รับดูพระกสิณ เพราะผมเองก็ยังเป็นผู้เริ่มศึกษาเหมือนกัน และไม่อยากมีปัญหากับใครไม่ว่าจะเป็นคนที่ขาย โดยเฉพาะพวกทำพระปลอม ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าเป็นใคร แต่ขออย่างเดียวว่าถ้าคุณ(คนที่ทำพระปลอม) ยังนับถือพระพุทธศาสนา และเห็นหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์ เลิกทำเถิดครับ เพราะการกระทำของคุณ ไม่ได้ทำให้คุณเจริญขึ้นเลย มีแต่จะทำให้วิบากกรรมพาชีวิตคุณและครอบครัวของคุณตกต่ำไปมากกว่านี้ หลวงปู่ท่านมีบารมีสูง เทวดาประจำตัวท่านแรง และดุมาก ถ้าใครทำดีท่านก็ช่วยหนุนให้คุณเจริญยิ่งๆขึ้นไป แต่ถ้าทำไม่ดี ชีวิตจะตกต่ำย่ำแย่สุดๆ..!!!
    ยิ่งพระกสิณนี้เป็นพระมีอาถรรพ์บารมีสูง เพราะเทพผู้ที่รักษาเป็นพรหม ที่สามารถลิขิตชะตาชีวิตของคนเราได้นั่นเอง จึงขอให้ท่านที่มีรักษาบูชาไว้ดีๆ เพราะปัจจุบันหาพระผู้ทำได้แบบนี้ยากเสียแล้วครับ.. สาธุ
    (ข้อมูลคุณสิรภพ)
    นำข้อมูลการสร้างพระกสิณ(จากเวปพลังจิต) มาให้ศึกษากันครับ ขอบคุณข้อมูลจากคุณแฝงจันทร์-คุณเอื้อนขจี-คุณทุเรียนทอด
    จะ ขออธิบายความสําคัญที่ทรงคุณค่าทางใจ ของพระกสิณครับ คือพระชุดนี้ องค์หลวงปู่ได้ทําการลบผงเองครับ นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองครับ มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่ท่านได้ลบแล้ว ยังมี ธูปอธิฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ส่วนข้อความข้างล่างเป็นของพี่ท่านนึงที่ผมได้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการสร้าง และความลับแบบละเอียด เปรียบเสมือนได้ถ่ายทอดจากคนอยู่ในเหตุการณ์สมัยนั้นครับ
    "พระ เนื้อดินของท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ ที่ห้องสวดมนต์ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวด ต่างๆมากมายเลยครับสำหรับพระยุคแรกๆของท่าน"
    พระกสิณยุคแรกถ้าไม่เป็นพระถอดพิมพ์ก็เป็นพระที่ดัดแปลงกันเอง ส่วนมากจะไม่สวยคมแบบพระสมัยนี้ เพราะเป็นพระกดมือทํากันแบบชาวบ้าน แต่มีคุณค่าทางจิตใจครับ ไม่มีมากหรอกครับที่พระสายกรรมฐานจะลงมือทําเองแบบนี้ครับ
    คณะสมัยนั้นเล่าว่า สมัยก่อนเวลาทําพระเสร็จองค์หลวงปู่จะให้นําพระไปวางเรียงโดยมีการใช้ผ้าขาว ลององค์พระทบกันเป็นชั้นๆครับ
    พระพิมพ์แรกที่องค์หลวงปู่ได้ทําครับ พิมพ์แรกที่ท่านทําคือ พระพิมพ์โพธิจักร เป็นพิมพ์ที่เหมือนของท่านพ่อลี อาจารย์ท่าน และเป็นพิมพ์พระพุทธด้วย เพราะสมัยโบราณนิยมสร้างพระพุทธก่อนที่จะทํารูปเหมือนครับ จริงๆพิมพ์รูปเหมือนท่านที่ทําเพราะเหล่าคณะศิษย์อยากมีไว้บูชา ท่านจึงอนุญาต...ส่วนพิมพ์รูปโพธิจักร คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า เห็นองค์หลวงปู่นั่งทําอะไรไม่รู้อยู่ริมนํ้า จึงเดินเข้าไปดูปรากฏว่าเจอองค์หลวงปู่นั่งทําพระอยู่ ดินที่ใช้ก็เป็นดินริมแม่นํ้านี่แหละครับ หลังจากนั้นเหล่าคณะศิษย์จึงได้ลงมือช่วย พอเสร็จแล้วจึงนําพระไปเผาไฟ โดยองค์หลวงปู่เดินจงกลมแล้วบริกรรมภาวนาตลอดครับ รายละเอียดสามารถอ่านข้อมูลที่ท่านเอื้อนขจีได้เขียนทิ้งไว้ให้อ่านครับ
    นะ มะภะทะจะภะกะสะนะโมพุทธายะนะชาลีติพุทธคุณังธัมมะคุณังสังฆคุณังสะระนังคัจ ฉามิ พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติสาคะลังและอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วยสมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่ารู้ดีครับ
    เอื้อนขจี
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ
    อีกอย่างรุ่นนี้เป็นวัตถุมงคลในไม่กี่รุ่น ที่องค์หลวงปู่ได้ลงคาถา หัวใจพระพรหมไว้ครับ อีกรุ่นคือรุ่นธรรมธาตุ
    พระกสิน มวลสารหลักๆ เลยจะมีผงที่องค์หลวงปู่ท่านลบครับ ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ผงพุทธคุณต่างๆ ผงธูปเสก ว่าน แร่ต่างๆ จําพวกขี้เหล็กไหล แร่เกาะล้าน พลอยเสก ข้าวก้นบาตร ดินริมแม่น้ำในวัด ซึ่งแม่นํ้านั้นว่ากันว่ามีพญานาครักษาครับ สมัยนั้นทําเอาคุณภาพครับ เรียกว่ามีของดีอะไรใส่กันหมดครับ แถมยังคัดสันมาอย่างดีครับ คนโบราณเวลาจะทําพระนั้นทําด้วยความเคารพครับ มีเคล็ดต่างๆนาๆ บางเรื่องเราอาจนึกไม่ถึงครับ อย่างขมิ้นนี่ยังไว้แทนทองคําครับ
    ถ้าสังเกตุดีๆแทบทุกองค์จะมีเม็ดแร่มวลสารต่างๆตามเนื้อพระ บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเกศาทําไมไม่ค่อยเห็น คือจริงๆแล้วจะฝังไว้เนื้อใน เพราะสมัยก่อนเกศาพ่อแม่ครูบาอาจารย์คนถือว่าเป็นของสูงครับ ไม่นิยมผสมแบบโชว์โผล่ออกมาตามเนื้อพระ แต่ไม่ใช่จะไม่มีนะครับ ยังมีบางองค์ที่มีโผล่ให้เห็นเยอะก็มีครับ
     
  15. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    รูปหลวงปู่หลับตา3.jpg

    #หลวงปู่ไม่ถือนิกาย..
    มีผู้ถามหลวงปู่พิศดูว่า.. หลวงปู่เป็นศิษย์ท่านพ่อลี หลวงปู่เป็นพระนิกายธรรมยุติใช่ไหม.."
    หลวงปู่ได้เคยตอบว่า..
    " เราบวชธรรมยุตินิกาย แต่(ใจ)เราไม่ถือนิกาย.."
    " เรา พุทธะนิกาย.. นิกายพระพุทธเจ้า "
    " แต่ก่อน สมัยพุทธกาล เขาก็ไม่เห็นมีนิกายนี่.."
    " เราอยู่ของเราแบบนี้ อยู่แบบพระปัจเจก ไม่มีกังวล.."
    " เราไม่ได้จัดอยู่ในสายไหน แต่เราถึงทุกสาย ไม่ว่าสายไหนก็มาหาเราหมด.."
    ... ฯลฯ
    ลูกศิษย์ของหลวงปู่พิศดูจะมีแทบทุกสาย ทั้งฝ่ายธรรมยุติ มหานิกาย มหายาน วัชรยาน สายเซน ฤาษี หรือผู้บำเพ็ญพรต ฯลฯ หลายท่านได้เคยมาจำพรรษาที่วัดของหลวงปู่ อีกทั้งลูกศิษย์ฆราวาส ที่เรียนกัมมัฏฐานจากสำนักต่างๆ ก็มากราบเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ หลวงปู่ท่านเมตตาหมด ไม่เคยแบ่งแยก วัดหลวงปู่จึงเป็นศูนย์รวมของทุกๆสายในพระพุทธศาสนา
    หลวงปู่ท่านอยู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน และเข้าใจในสรรพสิ่งที่หมุนเวียนไป และดับสลายไปตามลำดับ ด้วยจิตเมตตา กรุณา ของหลวงปู่ท่านจึงไม่มีแบ่งแยก ทุกคนมีแนวทาง และวาสนาของตนเอง ท่านสงเคราะห์หมดไม่ว่าจะทางโลกหรือทางธรรม แม้แต่สัตว์ท่านก็ยังเมตตาสงสาร อย่างทั่วถึง ถือว่าเป็นผู้ร่วมทุกข์ สุข ในไตรลักษณ์ มีชีวิตจิตใจเหมือนกันกับเรา
    แต่หากผู้ใด ดื้อรั้น ท่านเคยสอนแล้ว เตือนแล้ว ดุแล้ว ไม่ยอมรับฟัง หรือเกินกว่ากรรม ท่านก็อุเบกขา ปล่อยวางไป ไม่เคยสอนให้ใครไปประนามซ้ำเติม เพียงแค่ไม่ต้องไปยุ่งด้วย ต่างคนต่างอยู่เท่านั้น ปล่อยเป็นเรื่องของกรรมจำแนก ท่านบอกว่า.. " เมื่อวางได้ ใจก็เป็นสุข.."
    Sira Pop
     
  16. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    294458447_3355364191367828_2988965649298542053_n.jpg
    วัตถุมงคลของหลวงปู่พิศดู ท่านบอกว่า..
    " ของเราเสกดีทุกรุ่น เป็นแก้วสารพัดนึก ตามแต่จะอธิษฐานเอา แต่ถ้าเอาไว้ใช้สวดมนต์ภาวนาจะดีมาก ช่วยได้มาก.."
    ของแบบนี้ต้องเอามาพิสูจน์ดูครับ วัตถุมงคลของหลวงปู่ใช้ได้เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะทันท่านหรือไม่ทันก็ตาม ใครที่ชอบภาวนาลองเอามาใช้ดู หลวงปู่บอก " มีของดีต้องเอามาใช้.." แล้วจะพบความมหัศจรรย์ อย่างที่หลายๆคนเคยเจอ..
    (sira pop)
     

แชร์หน้านี้

Loading...