ขอถามผู้รู้ค่ะ คิดว่าในประเทศไทยมีผู้ทรงอภิญญาที่ไม่ใช่พระอยู่แค่ไหนคะ

ไปสนทนากับคนที่สนใจเรื่องศาสนา เรื่องจิต เรื่องอภิญญา เค้าบอกว่าในยุคปัจจุบัน พ.ศ. 2500 เป็นต้นมาเนี่ย คนที่มีฤทธิ์อภิญญาที่สามารถ ใช้ฤทธิ์คุมธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ เหาะเหิน เดินอากาศได้ มีอยู่น้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย
ทุกท่านคิดว่า จำนวนผู้ที่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ที่ไม่ใช่พระ มีอยู่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์มีจำนวนเท่าไหร่คะ
หายากจนขนาดขั้น หนึ่งในล้าน หนึ่งในแสน เลยไหม
หรือน้อยกว่านั้นลงไปอีก

ขอบคุณค่ะ

 

ส่วนตัวคิดว่าน่าจะยังมีเยอะครับ แต่แค่ไม่เปิดเผยตัวตนครับตามหมู่บ้านต่างจังหวัด+กับที่อายุมากแล้วมีฤทธิแต่จะสู้สังขารที่แก่ชราได้อย่างไร ทำตัวเป็นเพียงคนแก่ธรรมดาไปทำบุญสวดมนต์ เหมือนคนปกติทั่วไป เท่าที่ผมทราบ ด้วยความที่ว่าวิทยาศาสตร์มันก้าวหน้ามาก ทำให้จิตใจของคนในปัจจุบันนั้นมีความถดถอยลง ลูกหลานที่เกิดขึ้นใหม่ๆจึงไม่ได้มีการรับสืบทอดวิชาอาคมต่างๆ การฝึกฝนอภิญญา เลยกลายเป็นของไร้ค่า เจอะมือถือเล่นเนตได้ ใครเล่าจะไปสนการนั่งสมาธิฝึกให้ตายบางทีก็ทำอะไรไม่ได้

 

เอาที่รู้จักสนิทสนมกัน มี 2 คน
คนหนึ่งอายุไม่มากบวชเณรแต่ป.6 บวชเสร็จไล่คนผีเข้าได้เลยเคยไปเรียนวิชาฝั่งเขมรและฮวงจุ้ยจีนที่ไต้หวัน ก่อนบวชพระสึกมาเพราะนั่งสมาธิแล้วตัวลอยถูกนักข่าวท้องถิ่นเล่นงาน รู้วาระจิตสบายมากสึกแล้ว เคยมาเที่ยวบ้านผมพานั่งรถไปเที่ยวน้ำตกที่นึงระหว่างทางไปอยู่ก็หยิบตุ๊กตาลูกสาวมาได้ทั้งที่ตุ๊กตาอยู่ที่บ้านและรถวิ่งที่100กม./ชม., หายตัวออกจากห้องได้ไม่มีคนเห็น

อีกคนเป็นหมอดูรู้วาระจิตสบายมาก เห็นผี รู้วันตายคนจนต้องอธิษฐานอย่าให้รู้เห็นมาก ถ้านับก็มี 2 คนครับ

 

เหาะเหิรเดินอากาศไม่น่ามีเพราะสมัยนี้คลื่นในอากาศเยอะ
แต่แบบว๊าปไปมา เข้าใจว่ายังพอมี และ
ที่เคยเห็นกับตา(ท่านหนึ่งเคยจะมาแนะนำสมาธิให้ ณ เวลานั้น)
ตอนนี้ท่านละสังขารไปแล้วสองท่าน(เป็นรูปพระสงฆ์)
ส่วนการคุมธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้มีหลายระดับนะ
(สมมุติเราฝึกกสิณจนปั่นปฏิภาคนิมิตได้ จิตจะมีกำลังในการเรียก
พลังงานพวกนี้ได้ ไม่ใช่ว่าจะไปอฐิษฐานโน้นนี่นั้นได้เลยนะ
เพราะยังถือว่าเริ่มต้นเท่านั้น กว่าจะพัฒนา
ต้องนำไปใช้งานอีกหลายปีอยู่นะ
คือ ระดับความสามารถทำได้ มันจะพัฒนาตามประสบการณ์นั่นหละ
มันจะไม่เหมือนตามตำราที่เขียนไว้นะ
เพราะในตำราจะเขียนในภาพรวมเพื่อให้ผู้อ่านส่วนมากเข้าใจได้)
ส่วนการคุมธาตุในระดับเบื้องต้นพอมี
บุคคลนำไปใช้งานก็พอมีแต่ยังหายากอยู่
ส่วนมากที่เจอตามวัด ที่พระเกจิเก่งๆ ฆารวาสเหล่านั้น
จะทำได้ในนิมิต เวลาฟังท่านเหล่านั้นเล่าให้ฟังจะดูอลังการงานสร้างยิ่งใหญ่มาก
แต่พอออกงานจริง ให้ทำให้ดูกรณีที่จะมีประโยชน์ต่อบุคคลอื่นๆ จะทำไม่ได้
หรือมีข้ออ้างต่างๆ สุดท้ายก็ทำไม่ได้นั่นหละ
เพราะความสามารถระดับคุมธาตุเบื้องต้นยังไม่เท่าไหร่ ในวงการ
ก็ไม่ได้ถือว่า เก่งอะไรนะ แต่ก็นำไปประโยชน์ต่อบุคคลอื่นๆได้ เป็นบางคน

ตัวอย่างนะ ถ้าระดับความสามารถแบบมองเปลวเทียน หลายๆแท่ง แล้วไฟค่อยหรี่ และค่อยๆสว่าง
แบบนี้ ในวงการ เรียกว่า ระดับจิตธาตุแล้วนะ (เรื่องญานวิถี แบบรู้โน้นนี่นั้น
แค่เห็นหน้าเรา หรือแค่ถามโน้นนี่ก็รู้หมก
พวกนี้เป็นความสามารถพื้นฐานที่ท่านเหล่านี้มีปกติ
เป็นเรื่องของญานวิถี แตกต่างกันที่ความละเอียดและความเร็วในการตอบ)
ส่วนมากจะเป็นห่มเหลือง ที่ธุดงค์เดียวในป่าหลายปี ฐานสมาธิแน่น
และก็กึ่งๆบรรลุแล้ว ความสามารถเหล่านี้เลยเกิดขึ้นเอง โดยไม่ต้องฝึก
คือมันมาของมันเอง ** มันฝึกเอาไม่ได้ ต้องทิ้งเอา นี่คือนัยยะ**
ดวงจิตปกติที่ไม่ชื่นชมในกามคุณและยินดีในกามารมย์ต่างๆ ในเบื้องต้น
ถึงจะเป็นดวงจิตทีอยู่ในวิถีความสามารถแบบนี้ได้
พูดง่ายๆ แทบจะอยู่คนเดียว เดินออกจากบ้านเปิดประตูทิ้งไว้ก็ไม่กลัวของหาย
ปล. แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังเป็นนิทาน