เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

พระฉิมโดยท่านพระครูโสภณธรรมภาณ (หลวงพ่อฟอง) เป็นพระลึกลับอยู่ในบ้านนานมาก จะถามผู้สะสมมือแรกคือคุณตาท่านก็ลาไปเฝ้าพระพุทธองค์เสียนาน ถามคุณยายก็บอกว่าเป็นพระอยุธยาแต่จำไม่ได้ว่าของใคร นานหลงลืมไปแล้ว จวบกระทั่งได้เห็นนิตยสารชั้นนำ "พระเครื่องลานโพธิ์" เมื่อราวปี 3กว่า ลงประวัติ ภาพและรูปวัตถุมงคลท่านชัดแจ้ง จึงถึงบางอ้อ ที่แท้ของดีแบบ "พยัคฆ์ซ่อนลาย มังกรซ่อนเล็บ" นี่เอง

รุ่นหลังๆยังมี"หลวงพ่อเล็ก" เจ้าอาวาสถัดจากหลวงพ่อฟอง 2 รุ่นทำย้อนยุคออกมาจากลูกศิษย์เพื่อเป็นการรำลึกถึงหลวงพ่อฟอง แต่พระฉิมรุ่นนั้นจะเนื้อขาว และองค์พระ"บางกว่า" เป็นสี่เหลี่ยม ไม่โค้งมนสวยได้รูปอย่างรุ่นแรก โดนเฉพาะ เนื้อผงพุทธคุณ-มวลสารยังห่างไกล

แต่คนขายก็มักตีเป็นของ "หลวงพ่อฟอง-ปี2480" หากบูชามาในราคาไม่แพงนักก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นพระดี พระแท้ แต่ผิดรุ่น ผิดปี เท่านั้นน การปลุกเสกก็อัญเชิญญาณบารมีหลวงพ่อฟองรับรู้อย่างถูกต้องถูกวิธี เพราะ หลวงพ่อเล็ก ก็เป็นพระที่เคร่ง เก่ง ลูกศิษย์นับหน้าถือตามากในบางปะหัน เรียกว่าไม่เสียชื่อครูบาอาจารย์

เล่าถึงท่านสักเล็กน้อยพอเป็นความรู้เพิ่มเติมให้ทราบว่า ยังมีพระเก่ง พระดี พระดัง เกจิทีเด็ดเพชรในท้องถิ่นอีกมากมายที่รอการค้นพบวัตถุมงคลของท่านให้นำมาบูชาติดตัว ชนิดใช้บูชาแล้วเชื่อขนมกินได้ว่า...เจ๋งจริง ใช้แล้วไม่ว้าวุ่น!!!

โมทนาน้องเสฯ ถ้าพรุ่งนี้จัดส่งไม่ทันเพราะมีธุระอาจเข้าสนง.ช้า ก็เป็นวันพุธ แต่ถ้าทันก็เป็นวันพรุ่งละครับ

 

หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
ลีลาทุ่งเศรษฐีเม็ดขนุน 17ปี
===============

พระที่ไม่สาธยายประวัติและสรรพคุณอีกแล้ว ผู้นิยมชมชอบ ศรัทธา นับถือบูชา "หลวงกวย วัดบ้านแค" ซึมซับ ทราบความเป็นมา-เป็นไปพระชุดนี้อย่างดี

เปิดกรุมอบให้อีกหนึ่งองค์ แต่เป็นองค์ที่ผิวเสียจากการเอาคราบกรุออก ให้บูชาบางเบา เชิญชมภาพเล่าเรื่อง ทุกมิติ

=======1,200=======

ความเก่า แกร่ง เนื้อหาพระกำแพงแท้ไม่เป็นรองใครหน้าไหน เพียง 'ผิวเปิด' ทำให้เห็นเม็ดแร่ทุกชนิด รวมทั้งเนื้อว่านดอกมะขามที่ "แม่เหล็กดูดติด" ทำปฏิกิริยาเหนือความคาดหมาย

แน่นอน...ลีลาเนื้อทุ่งเศรษฐีองค์นี้ "แม่เหล็ก" จ่อทุกมุม ล้มใส่ จับนอนวางพื้นอาจไม่หมุนเพราะองค์ค่อนข้างหนัก แค่แม่เหล็กติดโดยไม่ได้ใส่เหล็กหรือตั้งใจทำตัวล่อเอาไว้ ก็อัศจรรย์เกินพอ!

ด้านหลัง-เจ้าของมือแรกพยายามเอาคราบกรุออกจนผิวเปิด แต่ยังเหลือคราบตะกรัน อยู่ด้านบนขวามือเราให้ส่องเป็นครูกับบางส่วนเป็นหย่อม ส่วนพื้นผิวด้านล่างก็ยังเหลือ "ผิวเดิม" ดูเป็นตำราอาจารย์อยู่เช่นกัน เป็นพระที่เหมาะแก่การศึกษาอย่างยิ่ง
ชมด้านข้างงามๆสักหน่อยเป็นไง พระไม่หัก ไม่ซ่อม ไม่เสริมสวย นอกจากเสียผิวไปบ้าง ทุกส่วนอยู่ครบสมบูรณ์ ดีกว่าพระสวยที่ศัลยกรรมหลอกตา
แถมทุกมุม ทุกมิติแล้ว ก็จบด้วยขนาด เชิญชมให้ติดตาก่อนนอน ความเป็นพระลีลาที่สร้างด้วยเนื้อหาดินศักดิ์สิทธิ์ "ทุ่งเศรษฐี" จักนำพาความก้าวหน้า ความเจริญรุ่งเรืองสู่ชีวิตเราทั้งหลับและตื่น!!!

 

รับหลวงพ่อกวยครับ

 

เหรียญเงิน "หลวงพ่อเพชร"
แจกวันเกิด"ลป.ทองดำ"45
===============

หลวงพ่อเพชร เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปประจำเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งมีพระประจำเมืองหลายองค์ แต่ประวัติหลวงพ่อเพชรนับว่าน่าทึ่ง พราะเคยโดน "พระปิยมหาราช" นำไปไว้เมืองหลวง แต่พระองค์ท่านทรงพระสุบิน(ฝัน) ว่า หลวงพ่อเพชร อยากกลับมาอยู่อุตรดิตถ์ จึงทรงพระราชทานกลับคืนในเวลาต่อมา

เรื่องจริงนี้ ใช้ "ปลายนิ้ว" ของท่านจิ้มไปหาอ่านได้ครับ แค่พิมพ์คำว่า พระพุทธรูปประจำเมืองอุตรดิตถ์ ประวัติพระดัง-พระดี ค่าควรเมือง 9 องค์ก็จะโผล่มาให้อ่านหนำใจ

มาชม"เหรียญหลวงพ่อเพชร" ซึ่งเป็น เหรียญอริยเจ้าเมืองลับแล หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง อธิษฐานจิตเดี่ยวๆแล้วแจกในงานวันเกิดปี 2545

สร้างโดยเหล่าศิษย์ และองค์นี้เป็นเนื้อเงิน นำมาให้สมาชิกร่วมบุญเพลินๆกับเหรียญที่ค่อนข้างหายาก เพราะสร้างไว้น้อยสำหรับเนื้อนี้

=======800=======

มีคนรับไปเชยชมยังครับพี่วัน

 

รายการนี้ด้วยครับ มีคนรับไปเชยชมยัง^^
เหรียญ"หลวงพ่อโต-วัดอินทร์ฯ"
หลัง"สมเด็จโต"พิธี'100ปี'2515
===============

"วัดระฆัง" สำคัญเป็นหมายเลข 1 ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ผู้รังสรรค์ "จักรพรรดิพระเครื่อง" ไว้คู่กับแผ่นดินที่ไม่มีใครสามารถทำได้เทียบเท่า

วัดถัดมาสำคัญลำดับ 2 สำหรับ "สมเด็จโต" ก็คือ วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม ซึ่งท่านสร้าง "พระยืนองค์ใหญ่ที่สุดพระนคร" แต่ท่านมรณภาพเสียก่อน ได้ หลวงปู่ภู กับ หลวงพ่อเงิน ที่คนชอบเรียก"พระครูสังฆ์ฯ สร้างต่อยอดจนแล้วเสร็จตระหง่านตราบถึงวันนี้

สมเด็จโตเปรียบเปรยเสมอว่า...วัดอินทร์ฯเปรียบเสมือนวัดที่ส่งให้ท่านเติบโต ยืนได้จากที่นี่

เมื่อ "วัดระฆัง" สร้างพระรุ่น "100ปี" ที่ระลึกสมเด็จโตมรณภาพในปี 2515 จึงเป็นวาระยิ่งใหญ่ที่ วัดอินทร์ฯสร้างบ้าง และนำเข้าพิธีวัดระฆังด้วยกัน เพราะเป็นเสมือนสำนักตักศิลาพี่-น้องของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต และวัดอินทร์ฯนั้นตามปกติไม่เคยสร้างพระอย่างอื่น นอกจากพระยืนกับพระสมเด็จพระพุฒาจารย์โตเท่านั้น

พระเครื่องรำลึก 100 ปีสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ซึ่งเปรียบดังผู้ครองวัดอินทร์ฯมาด้วย เป็นเหรียญรูป "หลวงพ่อโต" ยืน ด้านหลังเป็นรูป "สมเด็จโต" ในท่านั่ง...

เหรียญนี้จึงยิ่งใหญ่ "โตหน้า-โตหลัง" ที่ไม่มีวัดไหนสร้างได้มาก่อน!!!

พิธี 100 ปีวัดระฆังก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ไม่มีพิธีใดเทียบได้ในปี 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเททองหล่อและอีกครั้งเป็นประธานพิธีพุทธาภิเษก เท่ากับทรงเสด็จพระราชดำเนินถึง 2 ครั้ง 2 ครา!!!

ส่วนพิธีกรรมที่จัดถึง 3 ครั้ง 3 ความโหฬารพันลึกสามารถหาอ่านรายละเอียดกันเองได้ ขอนำรายนามสุดยอดคณาจารย์ทั่วไทยที่ร่วมปลุกเสกใหญ่ยิ่งแห่งปีให้ทราบพอสังเขป...

--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
--หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาฯ
--หลวงปู่เจียม วัดโสธร
--หลวงปู่ชิต วัดเขาเต่า
--เจ้าคุณศรี(ประหยัด) วัดสุทัศน์ฯ
--หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
--หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
--หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
--หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
--หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
--หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
--หลวงพ่อเทียม วัดกษัตริย์ตราฯ
--หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
--หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ
--หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
--อาจารย์นำ วัดดอนศาลา
--หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
--หลวงปู่บุญ วัดวังมะนาว
--หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ
--ลพ.มุม วัดปราสาทเยอร์
--หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์
--หลวงปู่กลับ วัดโกรกราก
--อาจารย์ผ่อง วัดจักรวรรดิ
=======ฯลฯ=======

ชุด "100 ปี วัดระฆัง" เป็นพระหลักในการสะสมบูชาทุกวันนี้ หากยากหลีกเลี่ยงของแพง ของทำเทียมเลียนแบบที่ฝีมือจัดจ้านใกล้เคียงของแท้มากๆ ก็สมควรหันมาแล ชุดของ "วัดอินทร์ฯ" ที่ร่วมอยู่ในพิธีเช่น "บ้านพี่-เมืองน้อง" หรือ "วัดพี่-วัดน้อง" ก็ไม่ผิด

เหรียญ "หลวงพ่อโต-สมเด็จโต" วัดอินทร์ สร้างไว้ 2 พิมพ์มีพิมพ์ใหญ่กับพิมพ์เล็ก ที่หายากสุดคือ "กะหลั่ยเงิน-กะหลั่ยทอง"

ตามวิสัยกระทู้ชอบนักกับของสวยจัดระดับแชมป์เรียกลุงและหาไม่ง่าย จัดเนื้อกะหลั่ยเงินแท้มาให้ร่วมบุญ ด้วยราคาถูกเหลือเชื่อ...

เชิญแลให้สบายตา นำรัศมี "สองโต" เป็นศิริมงคลยามค่ำคืนก่อนนอนก็มิเป็นปัญหา

=======1,200=======

 

ดึกแล้วคุณขา แต่ยังตาค้างจากการตามดูแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ เพลินๆ ลุ้นนักกีฬาไทยที่ทำได้ดี เป็น "1 ในอาเชี่ยน" เวลานี้ ขอให้ "ยืนหนึ่ง" ไปจนจบการแข่งขัน

อย่างน้อยในทวีปเอเชียเราติดท็อป เท็น และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพี่เบิ้มตัวจริง!

เครื่องเตือนให้เข้ามารับชมก่อนนอน พบว่า ท่านอีแมนเคาะบูชา "ลีลาทุ่งเศรษฐี" เนื้อหาสุดติ่ง หลวงพ่อกวยเป็นที่เรียบร้อย ต้องโมทนาและจะพยายามจัดส่งพรุ่งนี้ เว้นแต่จะเข้าสนง.ไม่ทันก็คงเป็นวันพุธครับ

 

น้องมาโนท(เรียกตามยูสเซอร์) หายไปนานครัน แวะเยี่ยมเยียนแล้วถามบูชา หลวงพ่อเพชร หลวงปู่ทองดำ เนื้อเงิน ท่านยังอยู่ดีมีสุข เชิญน้องมาโนท รับท่านไปครอบครอง-ดูแลได้เลย

ขอบคุณและโมทนาบุญ ขอให้ทั้ง "เพชร+ทอง" สิ่งมีค่าศิริมงคลยิ่ง จากนามของพระพุทธรูปคู่เมืองลับแลกับ หลวงปู่ผู้เป็นทองคำองค์แท้ ดูแลให้พบแต่ความมั่งคั่ง มั่งมี สมนามมงคลนั้นเถิด

จัดส่งท่านเดินทางไม่พรุ่งนี้ ก็วันมะรืนครับ

 

มหามงคลแห่ง "2 โต" กะหลั่ยเงินองค์งาม พระดีพิธีใหญ่เมืองกรุง ปีลึกเกินครึ่งศตวรรษ "น้องเต้ย" รับไปบูชาแล้วครับ...ขอบคุณน้องมาโนท

 

วันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ตรงกับวันอังคาร แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

โอนเงินให้เรียบร้อยแล้วครับ

 

ผมโอนเงินให้คุณน้ำฝนเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนเกินขอร่วมบุญอื่นๆกับท่านอา Wanwi ด้วยครับ

 

หนุ่ม-สาวใส่บาตรหลวงพ่อยามเช้าก่อนไปทำงานยามเช้า เป็นนิมิตหมายอันดีว่า กิจการงานใดก็ตาม ย่อมบังเกิดแต่ความราบรื่นด้วยดีตลอดทั้งวัน รวมทั้งผู้ร่วมอนุโมทนาด้วยใจยินดีเต็มเปี่ยมศรัทธา

 

โมทนาครับท่านอีแมน ขอจัดส่งองค์ลีลาเข้มขลัง พลังแห่งแม่พระธรณีและหลวงพ่อกวย เดินทางสู่ปากน้ำโพพรุ่งนี้ เพราะม้าด่วนติดงานด้านนอกทั้งวัน เหมือนผมที่เพิ่งเสร็จธุระผันผายเข้าสนง.

 

น้องเสฯจัดเต็มบุญ-ทานมาตามเคย บันทึกยอดบุญไว้รู้สึกจะมากกว่าการบูชาวัตถุมงคลแต่ละรายการด้วยซ้ำ ขออนุโมทนาบุญ+ทานบารมีล่วงหน้า ช่วงนี้ฝนตกถี่ยิบกับตัวผมมีธุระมาก ทำให้การทำบุญด้านอื่นๆซาไปบ้าง แต่ก็จะพยายามไล่ทำไปเรื่อยๆไม่ต้องห่วง

จัดส่ง "พระฉิม" เนื้อผงพุทธคุณชั้นยอด ของ "หลวงพ่อฟอง" ยอดสงฆ์แห่งบางปะหัน เดินทางวันพรุ่งนี้ครับ

 

งบสิบทัศน์-หลวงปู่ยิ้ม
1ใน 3ยอดคนอยุธยา
'วัดเจ้าเจ็ดใน'-ปี2475
=============

**พระหมอ-"หลวงพ่อปาน"
**เกจิอาจารย์-"หลวงพ่อจง"
**เมตตาไหลหลง-"หลวงปู่ยิ้ม"

3 บรรทัดนี้เป็นตัวประกาศกิตติคุณ "หลวงปู่ยิ้ม" หรือ หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน อ.เสนา อยุธยา เป็นอย่างดี

หรือยังไม่หนำใจ ก็ลองค้นคว้าหาหนังสือประวัติ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง" ท่านบันทึกไว้ถึงหลวงปู่ยิ้มด้วยความเคารพและจริงจังถึง 4 ตอนว่า...

--ประวัติหลวงพ่อยิ้ม
--หลวงพ่อเล่าเรื่องหลวงพ่อยิ้ม
--ทดสอบหลวงพ่อยิ้ม
--หลวงพ่อยิ้มเป็นพระอภิญญา

หลวงพ่อยิ้มเริ่มสร้างวัตถุมงคลตั้งแต่ปี 2475 ด้วยเนื้อดินอันเป็นวัตถุธาตุหาไม่ยาก แต่ก็ต้องเสาะหาดินพิเศษอยู่บ้าง เช่น...

...ดินใจกลางนาขุดลงไปลึกจนถึงชั้นดินนวล
...ดินเจ็ดโป่ง-เจ็ดป่า (ช้า)
...ผงวิเศษต่างๆของหลวงพ่อ
...ว่านนานาชนิดที่หลวงพ่อเก็บสะสม

พระพิมพ์ยอดนิยมสูงสุดเป็น "พระงบน้ำอ้อย" มีพิมพ์ 'ใหญ่-กลาง-เล็ก' หลวงพ่อสร้างเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2475 จวบถึงปลายอายุ ซึ่งท่านมรณภาพเมื่อ 1 ตุลาคม 2499 สิริอายุ 82 ปี สมณศักดิ์ "พระครูพรหมวิหารคุณ"

จัด "งบน้ำอ้อย-พิมพ์ใหญ่" องค์งาม จะเรียกเป็น "บารมีสิบทัศน์" ทรงกลมก็ได้ มีพระพุทธล้อมรอบถึง 10 องค์ เนื้อดินเผางามละเอียด เถ้าแกลบ+ว่าน+ผงวิเศษของหลวงพ่อครบถ้วน เป็นพระยุคกลางค่อนมาทางยุคปลาย เพราะตกแต่งพิมพ์ค่อนข้างสวยงามเรียบร้อย

เช่นเคย...พระเนื้อดินเผายอดปรมาจารย์โบราณไม่บานบุรีเช่นนี้ "แม่เหล็กดูดติด"... เป็นการดูดล้มใส่อย่างคลาสสิคนุ่มนวล ไม่กระโชกโฮกฮากตึงตังอย่างมี"ตัวล่อ"ในองค์พระ

นั่นเพราะเกิดจากว่านวิเศษบางตัวโดนความร้อนเผาละลายกลมกลืนไปในเนื้อ ซึ่งพระเนื้อ "ดินเจ็ดโป่ง-เจ็ดป่าช้า" มักมีว่านอัศจรรย์พันลึกเหล่านี้ผสม ไม่แพ้เนื้อดินพระกำแพง

เชิญชม...เมตตาไหลหลง หลวงปู่ยิ้ม อริยสงฆ์วาจาสิทธิ์แห่งกรุงเก่า ซึ่งท่านยืนยันกับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง สมัยลพ.ฤาษีฯ ยังเป็นลูกวัดหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ว่า...

"ท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว"!!!

=======1,800=======

ความงาม "งบน้ำอ้อย-บารมีสิบทัศน์" เนื้อดินเผา ไม่เคยใช้ ไม่ผ่านมือใคร เก็บรักษามาชนิด แมลงสาปไม่ไต่ ยุงไม่ตอมในกรุ ตัดใจมอบให้สมาชิกบูชาพระหลักหลายพันในราคาแบ่งปันไม่ให้บรรพบุรุษตกใจ

ชมดินเผา 2 สี ทู โทน ดินกรองชั้นดี มีส่วนผสมว่านชั้นยอด และการเผาเกิดเถ้าแกลบปะทุในเนื้อพระเป็นหย่อมๆ แสดงถึงการละลายของเนื้อว่านวิเศษที่หลวงปู่ใส่ลงไปมากมาย

เมื่อบูชา...รำลึกถึง "เมตตา-ไหลหลง-หลวงปู่ยิ้มวาจาสิทธิ์" แล้วจงอธิษฐานบารมีตามปรารถนาเถิด!

หลังกาบหมาก เนื้อดินแห้งผากเพราะการรักษาในกล่องในตู้ ไม่โดนมือ โดนอากาศยาวนาน พระประเภทนี้ หากใช้บูชาโดนไอเหงื่อพักเดียว เนื้อท่านก็จะหนึกนุ่ม ซึ้งตา มองเมื่อไหร่ ก็ตรึงใจ!
ชมความสมบูรณ์ขอบข้างทุกด้าน มีเนื้อหามวลสารจัดจ้านต่างจากพระเนื้อดินธรรมดาทั่วๆไป เห็นชัดเลยว่า พระสมัยเก่าก่อน กว่าจะสร้างวัตถุมงคลแต่ละอย่าง ต้องครบเครื่อง ทั้ง ส่วนผสม ฤกษ์งามยามดี เลขผานาทีศิริมงคล ที่สำคัญหากบารมีธรรม อำนาจสรรพวิชาท่านยังไม่ถึง ก็จะไม่สร้าง-เสก หลอกลวงผู้คนเป็นอันขาด

ดินขอบข้างทั้งสองด้านนี้ บอกกล่าวความจริง ความงาม ความสมบูรณ์ในตนได้แทนคำพูดล้านคำ!

ปิดด้วยภาพขนาดที่ทำให้นึกถึง องค์จตุคามรามเทพ แต่งบน้ำอ้อย-บารมีสิบทัศน์องค์นี้ไม่ใหญ่ขนาดนั้น แค่ "เหรียญจิ๊กโก๋-หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม" ปี 2506 พอจะสูสีกัน!

 

สวัสดีคุณอาวันวิและสมาชิกทุกๆท่านครับผม
นักขุดกรุมือขลัง.ผจญแดนป่าอาถรรพ์.! รวมตอนที่ 131-135 ( ตอนยาวพาร์ทที่ 14)
ส่วนตอนย่อย..ผมจะทยอยออนแอร์ให้ต่อเนื่อง..ขออภัยในความล่าช้าด้วยขอรับ
ขอบพระคุณมากครับผม

 

น้องทำจิตฯ ขยันจัด "เรื่องเล่าทางเสียง" อย่างน้อยสัปดาห์ละคลิปให้ฟังกันเต็มอิ่ม คลิปนี้เป็นตอนยาวรวมมาทีเดียวชนิดหลับคาหูฟังได้เลย และจะมีตอนสั้นสลับฉากมาอีกเรื่อยๆ

เรียกว่า ฟังแล้วฟังอีกไม่เบื่อ หรือตามสำนวนสมัยใหม่...ฟังวนๆไป!

มีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องญาติผู้ใหญ่ที่ชอบเรื่องแบบนี้แต่ขี้เกียจอ่านให้ปวดตา ก็ช่วยกันแชร์ ช่วยบอกให้รับฟังได้หลายช่องทาง โดยเฉพาะทางยูทูปที่น้องทำจิตฯมีคนตามฟังหลักแสน

อย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ ให้น้องด้วย และสำคัญมาก คนป่วยนอนติดเตียง คลายเบื่อหน่ายดีนัก นำไปให้ฟัง ทั้งสนุกและได้บุญ!!!

 

นิมนต์ครับพี่วัน

 

พระสามเหลี่ยมเนื้อชิน
เล็กดีรสโต-เมืองพิจิตร
===============

พระเล็กเข้าขั้นจิ๋วเมืองชาละวัน เป็นที่รู้จักกันในนาม "เม็ดข้าวเม่า"!!!

ยอดสกุลเล็กดีรสโต หรือ จิ๋วแต่แจ๋ว ไร้คู่เทียบ พระสกุลนี้ต้องมาจากกรุเมืองพิจิตรเท่านั้น โลกถึงจะค้อมคารวะยอมรับความขลัง เหนียว อยู่ยงคงกระพัน สมฉายา "พระนักรบ" จากเมืองไหนๆก็สู้ไม่ได้

นอกจาก "เม็ดข้าวเม่า" แล้ว เมืองนี้ยังมีพระสกุลเล็ก+จิ๋ว อีกหลากหลายพิมพ์ สร้างด้วย เนื้อชินเงิน-ชินวร(ชินสังกะสี)-ชินอุทุมพร(ชินเขียว) แต่ "ชินเงิน" ได้รับความนิยมสูงสุด พบมากที่สุด

แต่พระเนื้อชินนั้น ตามหลักวิทยาศาสตร์หรือหลักการสร้างแล้ว ผู้สร้างไม่ได้ระบุเจาะจงลงไปเสียทีเดียวจะว่าทำชินอย่างไหน บางครั้งมันอยู่ที่ "ส่วนผสม" ปริมาณการมีเนื้อโลหะธาตุในการใช้ช่วงนั้น

ว่าตามหลักวิชาการ พระเมืองพิจิตร จะเป็น "ชินแบบไหน" ก็ได้ เนื่องจากพระเนื้อชินคือการหลอมรวมโลหะธาตุที่สำคัญพระเมืองพิจิตรที่พบส่วนมากจะเป็นศิลปะสกุลช่างหลวง

(((สอดแทรกหลักวิชาการหน่อยนึง จากข้อเขียนของท่าน ดร.ณัธชัย เลิศรัตนพล ซึ่งค้นคว้าไว้น่าสนใจดังต่อไปนี้)))

พระเนื้อชินเป็นพระที่ไม่ยุ่งยากในการสร้าง หากในสมัยโบราณกรรมวิธีนี้ต้องเตรียมการและอาศัยแรงคนจัดทำมิใช่น้อย ดังนั้นผู้ที่สามารถสร้างพระเนื้อชินได้ จะต้องดำรงตำแหน่งอยู่ในชั้นเจ้านายหรือระดับผู้นำที่สามารถสั่งบัญชาการได้

จึงถือว่าพระเนื้อชิน เป็นพระเครื่องชั้นสูงมาแต่โบราณ!

ประการสำคัญ การพบพระเนื้อชินส่วนมากจะพบในกรุตามโบราณสถานสำคัญ ซึ่งถือเป็นเรื่องยากที่สามัญชนจะกระทำได้

(1)...ชินวร หรือ ชินสังกะสี ผสมสังกะสีมาก 90% ทองแดง 6 % และรีเนียม 3% ทองคำ/ปรอท ฯ
--เนื้อแข็ง สนิมดำ แกร่งมาก!

(2)...ชินอุทุมพร หรือ ชินเขียว ผสมตะกั่วเป็นหลัก มีแร่ธาตุอื่นเช่น...ทองคำ-ปรอท-ทองแดง ผิวอาจเกิดสีเขียวจากการผสมทองแดงมาก
--เนื้อกรอบ สนิมเป็นเม็ดสีขาวหม่น อย่างที่เรียกกันว่าสนิมไข่แมงดา

(3)...ชินเงิน ผสมตะกั่ว/ทองแดง/ทองคำ/ปรอท เกิดสีเงินยวง พระเนื้อชินเงินนี้ จะปรากฏลักษณะตามธรรมชาติในรูปของ "เกล็ดกระดี่" และ "สนิมตีนกา" ตามองค์พระ

***หมายเหตุผู้คัดลอก...ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า เป็น "ชิน-ยี่ห้อใด" ก็มีส่วนผสมโลหะธาตุแทบจะชนิดเดียวกัน แต่จะบังเกิดเป็น "ชินวร-ชินอุทุมพร หรือ ชินเงิน" ก็อยู่ที่นายช่างจะใส่โลหะธาตุใดผสมมากกว่าเท่านั้น***
---------------------------

คร่าวๆในใจความสำคัญไม่ซ้ำซากจำเจกับใครแล้ว ก็เชิญมาชม พระเนื้อชินวร( ชินสังกะสี) เนื้อแกร่ง สนิมดำ แข็งแรงทว่าอ่อนช้อยละมุนตาใน "พิมพ์" ของท่าน

พิมพ์นางพญาปางมารวิชัย สามเหลี่ยม เกศคด พริ้วไหวสวยงาม หนึ่งสกุลพระเล็กเมืองพิจิตร ถูกต้องตามตำรา!!!

=======1,400=======

ให้ชมตัวอย่างจากหนังสือพระเครื่องเมืองพิจิตร ซึ่งรวบรวมเฉพาะพระเครื่องกรุเมืองนี้เอาไว้เป็นมาตรฐาน ในหนังสือเรียก "สามเหลี่ยมเกศเปลวเพลิง" แต่นักสะสมรุ่นปู่-รุ่นพ่อเรียก "เกศคด" คุ้นชินกว่า...!
สามเหลี่ยมเกศคด(เกศเปลวเพลิง) ของจริง องค์เพียงเล็บนิ้วก้อย จะมีภาพเปรียบเทียบขนาดให้ชม ขึ้นจากกรุที่ไม่ได้รับการบันทึกไว้ แต่คราบกรุเดิมเข้มข้นอยู่ครบ

เนื้อแข็ง ไม่กรอบอย่าง'ชินอุทุมพร' หรือเนื้อระเบิดอย่าง "ชินเงิน" ....นี่เป็น "ชินวร-ชินสังกะสี" แข็งแรง แกร่ง ทนทาน ผ่านกาลเวลามาได้อย่างน่าชมเชยไม่เสียรูปทรง มีเพียงไขคราบกรุฝังในเนื้อที่ไม่อาจล้างออกด้วยอายุ และไม่สมควรล้างตราบที่ไม่รบกวนองค์พระเสียหาย

ด้านหลังอันสมบูรณ์ สนิมดำและตะกรันเกาะเป็นหย่อมๆส่งความเก่าคลาสสิคโบราณฉายฉาน ชนิดที่มือผีไม่อาจทำความเก่าเยี่ยงนี้ได้เหมือน

พระกรุอายุอานามหลายร้อยปีสภาพนี้ รักษาดูแล เก็บให้ดีก็ยาวไปอีกหลายร้อยปี อย่าทำหล่นสูญหายละกัน
ถึงจะเล็กก็...'เล็กพริกขี้หนู' โชว์ขอบข้างให้ดูทุกด้านว่าทุกกายภาพสมบูรณ์แท้ แลไม่เบื่อสมดังที่ท่านดร.ณัธชัย เลิศรัตนพล เขียนตบท้ายไว้ว่า...

***พระเนื้อชิน ถือเป็นอมตะพระเครื่องยอดนิยมตลอดกาล เป็นโลหะธาตุชนิดหนึ่งที่ครองใจผู้คนมานาน นับแต่โบราณความเชื่อถือและศรัทธาของประชาชยที่มีต่อพระเนื้อชินนั้นเป็นรากลึกในจิตใจ...

ทั้งยังปรากฏเห็นผล (วิเศษ)ให้เล่าขานเลื่องลือตกทอดอย่างต่อเนื่อง !!!***

ส่งด้วยกายภาพ "เล็กพริกขี้หนู" องค์ท่านให้ชม ว่าเล็กปานใด เหรียญที่นำมาเทียบเป็น "เหรียญสลึงยุคใหม่" พระเหล่านี้จึงนับวันจะหลงเหลือหลุดรอดมาน้อย ด้วยว่าโอกาสตกหล่นสูญหาย เก็บหลงลืม จำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหนมีสูง

สำหรับ "พระสามเหลี่ยมพิมพ์นาง-เกศเปลวเพลิง สามารถใช้บูชาทดแทน พิมพ์ "เม็ดข้าวเม่า" อย่างไม่เคอะเขิน ไม่ต้องสงสัยหรือห่วงใยใน "พุทธคุณ" อันยิ่งใหญ่ไพศาลไม่มีประมาณ ซึ่งมีปรากฏในตนดุจเดียวกัน

ส่วนเรื่อง "พุทธพาณิชย์" เป็นแค่การนำท่านมาตีค่าเป็นราคา หาได้สำคัญแต่อย่างใด ถ้าหากเรานำท่านไปบูชาเพื่อพึ่งพาความศักดิ์สิทธิ์ มหิทธิฤทธิ์เหนือโลกา...

แถมยัง ย่อมเยา เบากระเป๋ากว่า เม็ดข้าวเม่า หลายเท่าตัว!

 

กำลังโม่ "เล็กดีรสโต" สุดเข้มข้น พระนักรบ เมืองนักรบด่านหน้าสมัยโบราณอย่างเมามันส์

น้องเต้ยเข้ามาเก็บ งบน้ำอ้อย-บารมีสิบทัศน์ หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน พระขลังโด่งดังแต่เก่าก่อนเรียบร้อย

พระเนื้อดิน คือปฐวีธาตุที่นำแต่ความชุ่มเย็น เป็นที่พึ่งเสมือนรากฐานอันแข็งแรงของมวลมนุษย์ชาติ คณาจารย์แต่โบราณจึงต้องสร้างพระด้วยเนื้อดินก่อนเนื้ออื่นๆเสมอ เพื่อนำพระคุณยิ่งใหญ่แห่งแม่พระธรณี ซึ่งท่านมีส่วนสำคัญในการช่วย พระพุทธองค์ ปราบพญามารแพ้พ่าย มิสามารถขัดขวางพระพุทธองค์ บรรลุธรรม!

จีงบังเกิดภาพพระพิมพ์ แม่พระธรณีบีบมวยผม กลายเป็นอุทกธาราหลั่งไหลกวาด "กองทัพพญามาร" พ่ายสูญสิ้น

หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน เป็นยอดโบราคณาจารย์เพียบพร้อมสรรพวิชาทุกด้าน ท่านอาจชื่อเสียงด้อยกว่า หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค กับ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เพราะท่านมุ่งมั่นปฏิบัติมากกว่าเพื่อหลุดพ้น

วิชาการทั้งปวงท่านจึงไม่ด้อยกว่าแม้ปลายก้อย บันทึกของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เขียนไว้ชัดเจนที่สุด แต่คัดลอกมาให้อ่านต่อไม่ได้ เพราะเขาบอกว่า "สงวนลิขสิทธิ์" ห้ามนำเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

เขียนบอกเล่าแค่นี้ ก็เกินพอ...โมทนาน้องเต้ย จัดส่งท่านเดินทางเพื่อเป็นศิริมงคลทุกทิศ พรุ่งนี้ครับ