โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

สวัสดียามดึกครับป๋า

 

สวัสดียามเย็นครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ed268898539th จรเข้บัว

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท

 

ed324106945th จรเข้บัว

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สิรภพ สายพานิช
ผมไล่ๆดูข้อมูลวัตถุมงคลเพลินๆ ก็มาเจอข้อมูลพระผงพุทธะมงคลพิมพ์ขุนแผน หรือที่เราชอบเรียกกันว่า พระขุนแผนพุทธะมงคล ของหลวงปู่พิศดู ตอนนี้ก็เริ่มหายากขึ้นทุกวันๆ ไม่ค่อยเห็นใครเอามาลงกันเท่าไหร่เลย พระผงชุดนี้น่าใช้มากๆครับ ก็ทำให้นึกถึงข้อมูลเชิงลึกที่หลายคนยังไม่ทราบ ว่าที่มาที่ไปกว่าจะสำเร็จเป็นพระขุนแผนผงพุทธะมงคลนี้ เขาสร้างและเสกกันยังไง ข้อมูลที่จะนำมาฝากกันนี้มีประโยชน์มาก ผมขอบรรทึกเอาไว้บนหน้ากระดานนี้เลยแล้วกัน..
เนื่องจากสมัยท่านผู้พิพากษาอาทิตย์ (ผู้สร้าง)ยังประจำการอยู่ที่ จ.ระยอง ท่านได้มีโอกาสพบลูกศิษย์คนสำคัญของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ และสายลูกศิษย์หลวงปู่ทิมหลายคน ที่คบหากันเป็นมิตรสหาย จนมีโอกาสได้พระผงพรายกุมารพิมพ์ต่างๆ และลูกอมผงพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ มาหลายองค์ซึ่งได้เอาไปตรวจเช็คดูแล้ว ปรากฏว่าเป็นพระแท้แทบทั้งหมด ซึ่งพระนั้นมีทั้งสวยและไม่สวย และองค์ที่ชำรุดก็มี ออกนอกวัดก็มี สร้างนอกพิมพ์ก็มี และที่สำคัญท่านผู้พิพากษายังได้ ผงพรายกุมารแบบหัวเชื้อแท้ๆมาอีกจำนวนหนึ่งด้วย นอกจากนี้แล้วยังได้ ว่านดอก(ไม้)ทอง สีผึ้งของหลวงปู่ทิม และสีผึ้งเขียวเกี้ยวสาวของหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง สีผึ้งหลวงพ่อโต วัดเขาชากกระโดน ฯลฯ ซึ่งท่านผู้พิพากษาอาทิตย์มีความคิดว่าอยากจะสร้างพระขุนแผนผสมผงพรายกุมารขึ้นมาสักรุ่น เพื่อถวายครูบาอาจารย์ที่ตนนับถือ และมีไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ตามแบบฉบับของพระผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม แต่ว่ายังหาครูบาอาจารย์ที่เก่งจริง รู้จริง เพื่อจะสร้างถวายยังไม่ได้...
ต่อมาท่านอาทิตย์ได้มาพบหลวงปู่พิศดู จึงเกิดความศรัทธาและได้ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน และยังมาคอยดูแลอุปัฏฐากองค์หลวงปู่อยู่เสมอ จนกระทั่งมีความคิดอยากจะสร้างพระพิมพ์ขุนแผนถวายหลวงปู่พิศดูสักรุ่น จึงได้ปรึกษากับลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากด้วยกัน จึงได้ตัดสินใจเข้าไปกราบเรียนขออนุญาตองค์หลวงปู่ เพื่อจัดสร้างพระพิมพ์ขุนแผนขึ้น ซึ่งหลวงปู่เองได้ฟัง ท่านก็พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็บอกว่า..
" #ถ้าเขาชอบแบบนี้กันก็สร้างมาได้.."
แถมหลวงปู่ยังได้ตั้งชื่อพระชุดนี้อีกว่า.. " พระผงพุทธะมงคล " เนื่องจากได้นำเอาผงพุทธะมงคล รวมถึงผงกสิณ ข้าวก้นบาตร ดอกไม้บูชาพระ ปรอท ว่านต่างๆ ผงไม้เทพธาโร ฯลฯ อันเป็นมวลสารมหามงคลผสมลงไป ท่านผู้พิพากษาอาทิตย์ยังได้สละวัตถุมงคลเนื้อผงของหลวงปู่ทิม และผงพรายกุมารแบบหัวเชื้อเข้มข้นที่มีอยู่ประมาณ 1 หยิบมือ และมวลสารต่างๆของหลวงปู่ทิม และหลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งมาผสมทำเป็นมวลสารพระในชุดนี้ด้วย นอกจากนี้ทางลูกศิษย์สายหลวงปู่ทิม ยังได้สละ ลูกอมผงพรายกุมารแท้ๆ และมวลสารผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม ที่สำนักต่างๆนำไปจัดสร้างเป็นพระผงพรายกุมารได้อีกหลายสำนัก ดังนี้..
ผงพรายกุมาร หัวเชื้อ ของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ผงที่ได้มาสีจะออกเทาๆอมน้ำตาลนิด มีประมาณ หยิบมือหนึ่ง
ลูกอม ผงพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม
ผงที่ใช้สร้าง พระขุนแผน ของหลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทเขาพนมดิน
ผงพรายกุมาร ที่ใช้สร้าง พระขุนแผน ของหลวงพ่อสาคร วัดหนองกลับ
ผงพรายกุมาร ที่ใช้สร้าง พระขุนแผน ของหลวงพ่อสิน วัดระหารใหญ่
ผงพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิมแบบเข้มข้นๆ ที่พ่อท่านสูติ วัดในเตา เก็บรักษาไว้มอบให้มา
ลูกอม ผงพรายกุมาร ของครูบาปัน วัดแม่ยะ ประมาณ 20 ลูก สร้างปี 2521 (สร้างหลังจากหลวงปู่ทิมมรณภาพได้เพียง 3 ปี ลูกอมชุดนี้ มีผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมผสมอยู่แบบข้มข้นที่สุดไม่แพ้ลูกอมที่สร้างสมัยหลวงปู่ทิมยังอยู่เลย..)
ฯลฯ... ฯลฯ... ฯลฯ
ซึ่งรวมความแล้วเป็นผงพรายกุมารต่างๆ ที่มีแต่ให้คุณทั้งสิ้น เพราะผงพรายเหล่านั้นเขาเปลี่ยนภพภูมิเป็นเทพไปหมดแล้ว โดยคณะผู้สร้างจะไม่เลือกที่จะนำผงพรายอื่นๆในสายต่ำมาผสมเลย เนื่องจากผงที่นำมาจัดสร้างนั้น เป็นผงมงคลชั้นสูงนั่นเอง..
และผงพรายต่างๆเหล่านี้ ก็ได้ถูกนำมาผสมกับสุดยอดมวลสารต่างๆ โดยเฉพาะมวลสารต่างๆขององค์หลวงปู่พิศดู.. จึงจัดได้ว่า พระผงพุทธะมงคล หรือที่เราชอบเรียกกันว่า พระขุนแผนพุทธะมงคล
นี่..!!! #อาจเป็นวัตถุมงคลเพียงรุ่นเดียวขององค์หลวงปู่พิศดูที่ได้ผสมผงพรายกุมารแท้ๆลงไป และท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างได้อย่างถูกต้อง ตามคำที่หลวงปู่ท่านกล่าวไว้ว่า.. " ถ้าเขาชอบแบบนี้กันก็สร้างมาได้.." ซึ่งจะว่าไปแล้ว จริตของหลวงปู่ท่าน ท่านคงไม่ได้เล่นสายวิชาแบบนี้อยู่แล้ว แต่ด้วยความเมตตาขององค์ท่าน เมื่อเห็นลูกศิษย์สนใจอยากจะจัดสร้างพระแนวนี้ ท่านก็ไม่ขัดศรัทธาแต่ประการใด ท่านก็เต็มใจอธิษฐานจิตให้ด้วยความเมตตา-กรุณา-มุฑิตา อันเปี่ยมล้น เพราะพระระดับหลวงปู่เรื่องวิชาแบบนี้ ท่านสามารถเสกได้สบายๆอยู่แล้วครับ..
และแม่พิมพ์ได้ถูกออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะของวัดจริงๆ เมื่อแม่พิมพ์ถูกแกะขึ้นเรียบร้อย ก็ได้ขอความเมตตาจากท่านครูบากฤษดา เมตตาเจิมแม่พิมพ์ และท่านยังเมตตากดพิมพ์ พระพิมพ์ขุนแผนเป็นปฐมฤกษ์อีก 21 องค์ ซึ่งท่านครูบาเองได้ตั้งใจทำพิธีสวดโองการสรรเสริญคุณพระ และคุณครูบาอาจารย์ต่างๆ โดยการจัดพาน ดอกไม้ ธูป เทียน ทอง เครื่องสักการะต่างๆอย่างเพียบพร้อม เมื่อก่อนทำการกดพิมพ์นั้น ท่านได้มองไปที่ผงมวลสารที่โขลกผสมเอาไว้เพื่อเตรียมกดพิมพ์พระนำฤกษ์ ท่านครูบาก็บอกว่า " นี่เป็นผงพรายต่างๆ ผสมด้วยผงมวลสารต่างๆมากมาย.."
ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครบอกท่านถึงมวลสารที่จะนำมากดพิมพ์พระนี้เลย..
เมื่อท่านครูบากฤษดาได้กดพิมพ์พระนำฤกษ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผงที่เหลือได้ถูกนำมากดเป็น สมเด็จพุทธะมงคล และปั้นเป็นลูกอมได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับการอธิษฐานจิตจากท่านครูบากฤษดาเป็นอย่างดีเป็นวาระหนึ่ง ก่อนที่จะนำไปขอเมตตาให้องค์หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตต่อไป...
ส่วนผงพรายและผงมวลสารต่างๆที่เหลือนั้น ลูกศิษย์วัดได้นำมาผสมกดเป็น เนื้อลองพิมพ์ ได้จำนวนไม่มากนัก เพื่อลองผิดลองถูก ทดสอบความคมชัด ซึ่งเนื้อลองพิมพ์นั้น ก็ได้ผสมผงพรายและมวลสารต่างๆเช่นกัน กดได้หลายเนื้อ เพียงแต่เนื้อละ 1-10 องค์เท่านั้น เช่น เนื้อแก่ว่าน เนื้อแก่ชาญหมาก เนื้อแก่มวลสาร...ฯลฯ ก่อนที่จะมาเป็นเนื้อมาตรฐานในเวลาต่อมา (เนื้อมาตรฐานสร้างจำนวน 1,400 องค์) ด้วยเหตุที่ได้ลองกดเนื้อลองพิมพ์ดูนั้น ผู้ทำการกดพิมพ์ก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่อยากลองดูความคมชัด และทดลองกดผสมเนื้อดูเท่านั้น หากแต่พบว่า บางเนื้อที่ทดลองกดลองพิมพ์นั้น พอเวลาแห้งจะหดตัวเกินไป บางเนื้อก็ไม่แข็งแรงเท่าที่ควร บางเนื้อก็หยาบเกินไปมองลายละเอียดของพิมพ์ได้ไม่ชัด จึงได้ลองผสมด้วยสูตรเนื้อพระสมเด็จ แต่ว่าเน้นแก่มวลสารมากหน่อย จึงได้เป็นเนื้อมาตรฐาน ที่มีความละเอียดดังที่เห็นกัน และได้เข้าพิธีอธิษฐานจิตพร้อมกันทั้งหมดทุกเนื้อ.. เนื้อลองพิมพ์จึงมีไม่มากนัก ข้อมูลนี้พอมีประโยชน์อยู่บ้าง ผมจึงได้ขอลงไว้ เผื่อท่านใดอาจมีวาสนาไปพบเข้า ก็จะได้ทราบข้อมูล..

 

สมเด็จพุทธะมงคล และวัตถุมงคลอื่นๆ ที่สร้างจากเนื้อที่เหลือจากการกดพิมพ์นำฤกษ์
สร้างจากผงมวลสาร พุทธะมงคลที่เหลือจากการกดนำฤกษ์ ขุนแผนผงพุทธะมงคล(21 องค์) เนื้อที่เหลือดังกล่าว ได้ถูกนำมาผสมมวลสารอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อให้ได้เนื้อที่มากยิ่งขึ้น แล้วจึงนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลดังต่อไปนี้ (เพื่อแบ่งกันใช้ในหมู่ลูกศิษย์ผู้ช่วยงาน..)
- พระสมเด็จประโพธิ์ หลังพิมพ์ขุนแผนเล็ก 16 องค์
- พระสมเด็จปรกโพธิ์ ด้านหลังเรียบ 2 องค์
( * พระทุกองค์ จะมีปั๊มโค๊ดลายเซ็น ธมฺมจารี ด้วย )
นอกจากพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์แล้ว เนื้อที่เหลืองยังนำไปสร้างวัตถุมงคลอื่นๆอีก เช่น..
- พิมพ์พระกริ่งธัมมะจารี 1 องค์
- พิมพ์ขุนแผนพิมพ์เล็ก(ล้อพิมพ์ของหลวงปู่ทิม) 9 องค์
- วัวธนู(พระโคมหาฤทธิ์) ปั้นได้ประมาณ 10 กว่าตัว
- ลูกอม ปั้นได้ประมาณ 30 ลูก (ปั้นในวันที่กดพระผงพุทธะมงคลนำฤกษ์..)
และพระทั้งหมด เข้าพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุตประจำปี 2553 อันเป็นพิธีสุดท้ายที่องค์หลวงปู่ยังทรงขันธ์อยู่ที่วัดเทพธารทอง และยังได้นำวัตถุมงคลเหล่านี้ มาขอเมตตาองค์หลวงปู่อธิษฐานจิตเพิ่มเติมให้ที่โรงพยาบาล เมื่อครั้งเข้ารักการรักษาตัวใหม่ๆอีกด้วยครับ..

 

ed324143877th คุณกฤต

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า