ภัยสงครามใหญ่ใช้นิวเครียร์และภัยสึนามิใหญ่ มาช่วยกันเขียนเตือนและการเตรียมการต่างๆ

สงครามใหญ่ ใกล้เข้ามาแล้วครับ​

8 ก.ค. 2020​

 

จากคนรู้จักกันบอก ได้ทราบจากเพื่อนที่ฟังมาจากพระอาจารย์ว่าน้ำจะท่วมใหญ่และเราได้มาค้นต่อ

แจ้งเพื่อทราบ

จากการที่มีการส่งต่อข้อความทางโปรแกรมไลน์ (Line) ซึ่งข้อความที่ส่งต่อนั้นมีการบิดเบือนจากข้อเท็จจริง และมีการกล่าวอ้างพาดพิงถึงวัดหนองหญ้าปล้อง กาญจนบุรี และเจ้าอาวาสวัดหนองหญ้าปล้อง (หลวงพ่อโนรี) คณะศิษย์ฯ ได้นำข้อความดังกล่าวกราบเรียนให้หลวงพ่อทราบแล้ว และหลวงพ่อได้กล่าวชี้แจงถึงข้อความดังกล่าวไว้

พวกเราคณะศิษย์ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัย อันมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นที่สุด จึงขอนำข้อความที่ได้รับมารวมถึงข้อความที่หลวงพ่อกล่าวถึง เรียบเรียงเป็นตัวอักษรเพื่อพิจารณากัน

คณะศิษย์หลวงพ่อโนรี วัดหนองหญ้าปล้อง (วันที่ ๑๘ พ.ย. ๕๘)

-------------------------------------
วันที่ ๑๗ พ.ย. ๕๘

ได้รับข้อความทางไลน์จากกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ) สอบถามถึงข้อความนี้ว่า เท็จจริงเพียงใด ข้อความที่ได้รับมานั้นเกี่ยวข้องและพาดพิงถึงครูบาอาจารย์ที่เคารพยิ่ง พวกเราคณะศิษย์ฯ มิอาจละเลยได้

ข้อความที่ได้รับทราบมามีดังนี้

“พี่นกโนรีรวบรวมคำทำนายของหลวงพ่อ เกี่ยวกับสงครามใหญ่ไว้ค่ะ ส่งคำทำนายที่รวบรวมจากคำพยากรณ์ของหลวงพ่อ เรียบเรียงโดยครูคนหนึ่งที่สมัยนั้นเดินทางไปด้วยกัน คือพี่นกโนรี ลองอ่านดู คำทำนายเรื่อง เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่โลกเกิดมหาสงครามใหญ่

(พี่หนุมานได้เรียบเรียงขี้นจากความทรงจำของพระอาจารย์โนรี ที่ได้ยินหลวงพ่อฤาษีเปรยให้ฟังในสมัยที่หลวงพ่อยังดำรงธาตุขันธุ์อยู่)

จะเขียนสรุปรวบยอดเป็นหัวข้อสั้นๆโดยสังเขปดังนี้
๑ มหาสงครามจะเข้า ภายหลังจากที่ฝรั่งเศสถูกก่อการร้ายอย่างหนัก
๒ สงครามใหญ่จะเริ่มที่ตะวันออกกลาง นิวเคลียส์ลูกแรกของมหาสงครามครั้งนี้จะถูกฝ่ายเสียผลประโยชน์ยิงไปที่ตะวันออกกลาง กลายเป็นทะเลเพลิง ตายเป็นเบือ ผลข้างเคียงจะเกิดรังสีเป็นพิษและโรคระบาด ลุกลามไปทั่วโลก คนตายเป็นใบไม้ร่วง
๓ ทองจะลงในช่วงนี้เท่านั้นหลังจากนั้นทองจะขึ้นสองเท่า ไม่เกินกลางปีหน้า และที่ดินจะแพงขึ้นสิบเท่าเช่นกัน ดังนั้น อย่าขายที่ดินในตอนนี้ถ้าไม่จำเป็น
๔ คนไทยจะรวยมากในช่วงวิกฤติมหาสงครามใหญ่ แต่ก็จะได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรงไม่แพ้ชาติอื่นๆ อาหาร ยารักษาโรค และเครื่องนุ่งห่มจะขายดี คนไทเลยรวยขึ้น
๕ จะเกิดภาวะฝนเหลือง ทำให้ข้าวปลาอาหารขาดแคลน ผู้คนจะขาดแคลนน้ำและอาหารจนล้มตายเป็นเบือ คนไทปลอดภัยที่สุดในโลกช่วงเกิดวิกฤติฝนเหลือง ที่เป็นผลกระทบจากการยิงนิวเคลียส์
๖ บรรยายสภาพคนไทยในช่วงสงครามใหญ่
6.1 จะมีคนหนีภัยสงครามเข้าวัดท่าซุง ถึงกับต้องแย่งที่นอนของสุนัขในวัด
6.2 จะมีคนหนีภัยสงครามเข้าวัดสาขาของวัดท่าซุงทั่วประเทศ ทุกสาขาล้นไปด้วยคนตกทุกข์ได้ยาก
6.3 ที่วัดหนอง...จะมีพระเณร ที่ถูกเบื้องบนคัดกรองไว้แล้ว เข้ามาหลบภัยสงครามมากเป็นพิเศษ เพราะต้องเข้ามาร่วมกันสวดมนต์บรรเทาภัยสงครามในครั้งนี้
6.4 สถานที่ๆไม่ปลอดภัยในกรุงเทพและต่างจังหวัดได้แก่ สถานที่ใกล้สนามบิน ใกล้ค่ายทหาร ใกล้ท่าเรือ และใกล้แหล่งน้ำมันดิบ บริเวณสะพานใหญ่ๆ
6.5 กรุงเทพจะได้รับผลกระทบจากภาวะมหาสงครามด้วย แต่ไม่รุนแรงเท่ากับภาคอื่นๆ อาชญากรรมจะมีมากตามเขตอำเภอเมืองใหญ่ๆ
6.6 อภิญญาใหญ่จะเกิดมาก คนที่ถูกเลือกจากเบื้องบนจะสามารถเข้าฌาณสมาบัติอันเป็นทิพย์ได้คล่องแคล่ว และจะเป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้มาก ภายหลังจากสงครามจบสิ้น พวกอภิญญาใหญ่จะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้กับชาวโลกต่อไป
6.7 สงครามใหญ่จะจบภายในสองปีไม่มีใครแพ้ใครชนะ จะตายฝ่ายละครึ่งโลกจึงจบ ศาสนาพุทธจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง จะมีพระอรหันต์มากเหมือนสมัยพุทธกาล
จบตอน
หนุมานมุนี หนึ่งในกลุ่มพระอภิญญาใหญ่ สายลุ่มแม่น้ำสาละวิน กาญจนบุรี

ด้วยความเคารพ

ในยูทูปข้างบนคิดจากหน่วยเตือนภัยจากเขากะลา

 

บันทึกไว้กันลืม

13.ภัยพิบัติใหญ่ จากคำบอกเล่าจาก พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ

ภัยพิบัติใหญ่ จากคำบอกเล่าจาก พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
" คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่เกาะไม่อยู่ " บันทึกจากประวัติและผลงานของ พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ

คืนหนึ่งภายหลังจากการฝึกสมาธิหมุนจบสิ้นลง หลวงพ่อมักจะ เป...
ิดโอกาสให้ถามคำถามต่าง ๆ ที่ผู้มาฝึกเกิดสงสัยขึ้น หากไม่มีคำถามหลวงพ่อก็มักจะเล่าประสบการณ์ของท่านให้ฟังกัน คืนนั้นท่านพูดถึงการขึ้นไปเผยแพร่ธรรมะบนดอยของท่าน รวมไปถึงการประกอบพิธีสมโภชพระธาตุที่สร้างขึ้นบนดอย ซึ่งขณะที่กำลังบรรจุพระธาตุเข้าองค์เจดีย์นั้น ฟ้าที่ขมุกขมัวก็เปิดเป็นแสงสว่างจ้าส่องลงมาเป็นลำ สร้างความแปลกใจแก่คนที่อยู่ในพิธี หลวงพ่อบอกว่า ท่านถึงกับขนลุก ซึ่งผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ยังอดแปลกใจไม่ได้
จากนั้นท่านเล่าว่า ขณะที่ท่านจะแผ่เมตตานั้น ท่านไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะว่าวิญญาณบนดอยไม่ยอมรับการแผ่เมตตานั้น เนื่องจากถึง เวลาที่พวกเขาจะได้ลงมาเกิดแล้ว ท่านได้อธิบายต่ออย่างละเอียดว่า แต่เดิมชาวเขาไม่ได้อยู่บนดอย แต่อยู่ในที่ลุ่มเป็นเจ้าแผ่นดินเดิม พระของพวกเขาจะกินเจคล้าย ๆ กับพระจีน แต่เมื่อพุทธศาสนาลังกาวงศ์เข้ามาสู่ประเทศไทยสมัยสุโขทัย พระของลัทธิลังกาวงศ์นั้น ฉันเนื้อได้ และมีลักษณะเหมือนพระในปัจจุบัน พวกเจ้าถิ่นเดิมก็ถูกทำลายล้าง จนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนดอยนับตั้งแต่นั้นจนเหลือชาวเขา ในปัจจุบัน ซึ่งบัดนี้วิญญาณที่ถูกทำลายล้างไปนั้น ได้เวลาที่จะกลับลงมาแล้ว พวกเขาจึงไม่ยอมรับการแผ่เมตตาที่ได้แผ่ไปให้
" มันเป็นกรรมของพวกเขา เคยทำอย่างไรกับพวกเขาก็จะต้องโดนกลับคืนบ้าง อีกหน่อยพระทั้งหลายจะต้องถูกยึดเงินจนหมด และก็ไม่สามารถอยู่ในสภาพพระเช่นนี้ได้ เมื่อเรื่องพระหมดไปหลังจากนั้นอีกประมาณปีครึ่งก็จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 "

ผมถึงกับตะลึงที่ท่านพูดถึงเรื่องนี้ออกมาโดยไม่มีใครถาม ท่านเลย และเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินกับหูที่ท่านได้พูดถึงเรื่องอนาคต ท่านบอกว่า จริง ๆ แล้วไม่ค่อยอยากเล่านัก เพราะจะทำให้คนตื่นกลัวกัน แต่ที่ท่านเล่าให้ฟังก็เพื่อไม่ให้พวกเราประมาท และเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นอยู่ในวิสัยของท่านที่จะรู้ได้
" โยมก็จำเอาไว้เล่น ๆ ก็แล้วกัน ถ้าหากเหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นก็จะนึกได้ว่า อ๋อ หลวงพ่อเคยพูดไว้ "
ท่านกล่าวอย่างติดตลก ในคืนถัดมา เมื่อผมได้มีโอกาสซักถามกับท่านโดยตรง ท่านได้เล่าเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน มีการระบุถึงบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย แต่ผมคงจะขอข้ามส่วนนี้ไป เพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยเกินไป และโดยส่วนตัวแล้ว ผมสนใจในภาพรวมที่จะเกิดขึ้นมากกว่า
" ถ้าเกิดสงครามโลกแล้วเราจะทำอย่างไรดีครับ ? " มีคนถามขึ้น
" ไม่ต้องกลัวหรอกโยม " ท่านตอบ

แต่แทนที่คำตอบของท่านจะทำให้หายกลัว สำหรับผมแล้วกลับตะลึงหนักเข้าไปอีก เพราะท่านได้พูดต่อว่า
" ไม่รู้ว่าพวกเราจะได้อยู่ทันดูสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า "

หลายคนอาจดีใจว่า สงครามโลกอาจจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเกิดซึ่งตัวเองก็คงตายไปเสียก่อนอะไร ทำนองนั้น แต่ในความคิดของผม คนเราอาจมีสิทธิ์ตายจากภัยพิบัติอย่างอื่นได้ก่อนเกิดสงคราม ซึ่งหลังจากนั้นหลวงพ่อได้เล่าต่อไปว่า การใช้น้ำมันอย่างสิ้นเปลืองจะทำให้ ธาตุต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นโลกแปรปรวนในแกนกลางของโลกซึ่งเอียงอยู่ประมาณ 23 องศาครึ่ง จะมีมโนธาตุมากขึ้น คือมันจะกลวง และเบาขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดมันจะพลิกตัวลงอย่างกระทันหัน (หลวงพ่อทำมือให้ดู)
"ทำให้เกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงแก่มนุษย์ทั้งหลาย คนจะลอยเคว้งคว้างไปทั่ว บ้างหาที่เกาะแต่ไม่อยู่"

คนที่จะรอดได้ก็คือคนที่สามารถตัด " จิตใจ " ออกจากร่างกายที่เจ็บปวดได้เท่านั้น (ท่านยกตัวอย่างคนที่ถูกผ่าตัดแล้วไม่เจ็บ) และท่านยังบอกว่าการทดลองนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส จะทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดเร็วยิ่งขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าที่ท่านบอกว่าแกนโลกจะพลิกนั้นเป็นอย่างเดียว ' Pole Shift ' หรือเปล่า ?
หลวงพ่อท่านกล่าวต่ออีกว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะมากขึ้น อากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ (จากกรุงเทพ ฯ ถึงนครสวรรค์จะจมน้ำหมด และศูนย์กลางจะย้ายมาอยู่ที่ลำพูน)

สำหรับสงครามโลกครั้งที่ 3 นั้น ท่านบอกว่าอาวุธนิวเคลียร์จะไม่น่ากลัวเท่า " อาวุธแสง " ซึ่งขณะนี้นักวิทยาศาสตร์สหรัฐที่ได้รับรางวัล โนเบลในปี ค.ศ. 1995 ได้ค้นพบอนุภาคที่เป็นต้นกำเนิดของอาวุธแสงแล้ว เพียงแต่เขายังไม่รู้ว่ามันสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้เท่านั้นเอง ซึ่งอนุภาคตัวนี้หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นตัวที่ทำให้แรงชนิดที่ 6 (พระพุทธเจ้าบอกไว้ว่าแรงมี 7 ชนิด) ซึงสามารถทะลุทะลวงผ่านทุกสิ่งไปได้ ตัวอนุภาคนี้เองที่เป็นตัวเดียวกับที่หลวงพ่อเรียกว่า "เส้นแสง" ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของจักรวาล
ท่านยังให้ข้อสังเกตว่า 1 ปีก่อนเกิดสงครามโลก คนสามารถขึ้นไปสร้างบ้านเรือนอยู่บนอวกาศและสามารถทำกลางคืนให้เป็นกลางวัน ได้ คู่สงครามที่จะเกิดในครั้งนี้คือเอเชีย (จีน ?) กับยุโรป การทำลายล้างนั้นจะใช้อาวุธแสงยิงมาจากอวกาศ ไล่ยิงกันเป็นแนวไปสิ้นสุดที่พีรามิด บรรยากาศหลังจากที่หลวงพ่อพูดจบ มันเงียบอย่างบอกไม่ถูก จนหลวงพ่อต้องถามขึ้นว่า
" ใครอยากช่วยไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้ (ภัยธรรมชาติ) เกิดขึ้นบ้าง? ถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ก็ต้องเลิกใช้นำมันกันให้หมดจะทำได้ไหมล่ะ ? "ไม่มีใครตอบท่านเลย ... สิ่งสำคัญอีก สิ่งหนึ่งคือสัญญาณเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น ซึ่งพอสรุปได้ว่าก่อนเกิดสงครามโลก 1 ปีถึง 1 ปีครึ่งจะมีเหตุการณ์ เหล่านี้เป็นสัญญาณคือ ... ในไทยพระจะถูกยึดเงิน ในระดับโลกจะมีการสร้างบ้านเรือนบนอวกาศ แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ซึ่งมีทางเป็นไปได้ โดยตรรกะว่าเมิ่อเกิดภัยธรรมชาติจะเกิดความแร้นแค้น ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งต่าง ๆ อันจะเป็น ชนวนให้เกิดสงครามขึ้นมาได้ แต่ที่สำคัญก็คือระยะเวลาเหลืออีกเท่าไร เดือนสิงหาคใมใช่หรือไม่ ? หลวงพ่อท่านบอกว่าระบุไม่ได้ ขนาดนั้น ผมจึงต้องถามท่านใหม่ว่า
" อีกประมาณ 4 - 5 ปีข้างหน้านี้ใช่ไหมครับ " ท่านตอบว่า " ประมาณนั้น "

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังการฝึกในช่วงเช้ามืดจบลง หลวงพ่อท่านได้บอกเคล็ดลับของการฝึกสมาธิหมุนให้แก่ผู้อบรมที่ยังเหลืออยู่ จากนั้นท่านก็ให้พรและกล่าวลากับทุกคน ผมจากวัดของหลวงพ่อมาหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ริม 2 ข้างทางนั่นสงบเงียบเหลือเกิน แต่ในจิตใจของผมล่ะ ...
ผมเองไม่รู้สึกตื่นกลัวมากนัก ถ้าหากเหตุการณ์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจริง อาจเป็นเพราะผมเองก็มีภาพเหล่านั้นอยู่บ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะร้าย แรง และรวดเร็วอย่างที่หลวงพ่อท่านบอก โดยส่วนตัวของผมบัดนี้ได้พบคำตอบแล้วว่า ทำไมความรู้สึกก่อนมาที่วัดนี้ของผมจึงเป็น ต้องไปมากกว่าควรไป
สิ่งที่ผมได้รับรู้นั้นมันทำให้คลายความยินดีในเรื่องความ สำเร็จทางการงานที่เพิ่งได้รับมาหมาด ๆ ลงอย่างหมดสิ้น สิ่งที่ผมนึกออกตอนนั้น ก็คือ

" ต่อไปนี้เราจะประมาทไม่ได้แล้ว "
ความเห็นอาจารย์มรกต รัตนตรัยเพชร
คนจะลอยเคว้งคว้าง...เพราะโลกหยุดหมุนลงชั่วขณะหนึ่ง แต่มีแรงส่ง เพราะโลกเคยหมุนด้วยความเร็ว 1,000 ไมล์ / ชั่วโมง ทางแก้คือทุกคนต้องใช้โซ่ที่แข็งแรงมากผูกตัวเองติดกับสิ่งที่มั่นคงที่สุด...นั่นคือ ภูเขาหินแกรนิต ส่วนถ้า ผูกกับอาคารที่แข็งแรงหรือต้นไม้ใหญ่ จะได้หรือไม่นั้น คงต้องทำการทดสอบความแข็งแรงในการยึดเกาะของอาคาร / ต้นไม้นั้นก่อน ว่ามีค่าความยึดเกาะเพียงพอที่จะยึดไม่ให้ลอยออกไป ในขณะที่โลกหยุดหมุนได้หรือไม่...ส่วนทางแก้อีกทางหนึ่ง คือต้องไปอยู่ใต้ดินที่แข็งแรง เพราะแม้จะลอยขึ้นมาแต่ก็ไม่หลุดออกไปนอกโลก มีความเสียหายน้อยกว่ามาก...เหตุผลเรื่องคนจะลอยเคว้งคว้างเพราะโลกหยุดหมุนนี้ อาจทำให้มนุษย์ทั่วโลก...วิบัติได้หลายพันล้านคน ยังไม่รวมสิ่งก่อสร้างจำนวนมหาศาล และสัตว์เลี้ยง ต้นไม้พืชและอื่นๆ...
และยังไม่รวมความวิบัติจากกรณีอื่นๆที่ร้ายแรง เช่น ความร้อนมหาศาลจากพายุสุริยะ, แผ่นดินไหว ขนาดใหญ่ที่สุด ที่จะเกิดในรอบ 13,000 ปี สึนามิ ซึ่งน่าจะสูงระหว่าง 100-1000 เมตร เข้าทำลายผู้คนชายทะเลและมหาสมุทร , ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือ การที่โลกหยุดหมุนทำให้น้ำทะเลจำนวน 1370 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว เกือบ 1,000 ไมล์ / ชม.แม้จะลดความเร็วลงเรื่อยๆ...เข้าครอบคลุมพื้นดินบนฝั่งทั้งหมดที่มีพื้นที่มากกว่าทะเล 2 เท่า (มหาสมุทร 1 ส่วน พื้นดิน 2 ส่วน ) ซึ่งเกิดมากกว่า สูงกว่า แรงกว่า เร็ว กว่า สึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้มหาสมุทร อย่างมากมาย...ลองคิดง่ายๆ เพียง 1 ชั่วโมง ภายหลังโลกหยุดหมุนและน้ำทะเลไหลเข้าพื้นดิน ..ในประเทศไทยเอง...ก็จะไหลนองท่วมไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ไปถึง เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 400-1000 เมตร...การที่จะอพยพไปอยู่ในสามจังหวัดดังกล่าว ได้เปรียบตรงที่ มีระยะทางจากมหาสมุทรไกลที่สุดในประเทศไทย คือ ~ 800-1200 กิโลเมตร จากชายฝั่งทะเลที่กทม. น่าจะทำให้ความเร็วความแรงของน้ำทะเลที่ไหลจากอ่าวไทย ลดลงอยู่ในความสูงที่ไม่เกิน 300 เมตรจากระดับน้ำทะเลที่สามจังหวัดดังกล่าวตั้งอยู่...นอกจากนี้ทิวเขาบางส่วนที่จังหวัดตาก -อุตรดิษต์-ลำปางจะช่วยต้านทานกระแสร์น้ำทะเลที่บ้าคลั่งให้ลดลงได้ หลายสิบ % ทั้งเชิงปริมาณ/ความเร็ว/ความแรงและน้ำทะเลนั้นจะไหลกลับโดยเร็วไปสู่ทะเลตามความสูงของชัยภูมิพื้นที่ภาคเหนือดังกล่าวที่ได้เปรียบมากกว่าทุกจังหวัดในประเทศไทย...ส่วนน้ำที่มาจากการละลายของน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือนั้นมีน้อยกว่าขั้วโลกใต้มากมายหลายเท่า และนอกจากนี้น้ำจากเขื่อนจีนที่สร้างไว้เป็น ร้อยๆเขื่อน ที่เมื่อแตกแล้ว ( แตกแน่ๆ ถ้าเกิดโลกหยุดหมุน) คาดว่าปริมาณน้ำอย่างน้อย 3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร จะไหลผ่านสามจังหวัดดังกล่าว เพราะมีทิวภูเขาที่สูงมากกำบังอยู่ทางเหนือ...ยกเว้น เชียงรายที่จะโดนบ้างเท่านั้น...ส่วนทางอีสาณจะโดนน้ำจากเขื่อนจีนร้อยเขื่อนแตกและโดนซ้ำจากน้ำแข็งจากขั้วโลกละลายอย่างแน่นอน...!!! (ปริมาณน้ำ 3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรเป็นปริมาณจากเขื่อน สามขาของจีน เพียงเขื่อน เดียว แต่ถ้าทุกเขื่อนของจีนแตก คาดว่าปริมาณน่าจะมากกว่าไม่น้อยกว่า 10 เท่า หรือสามแสนล้านลูกบาศก์เมตร...!!! )

ขอขอบคุณเครคิตที่มา
https://sites.google.com/site/asean...cak-kha-bxk-lea-cak-phra-xacary-ratn-rtn-yano

ได้แนวความคิด

 

ได้แนวความคิด

ขอเยี่ยวยา

เราเห็นอะไรดีๆ ขออนุญาตินำมาลงไว้ เพื่อประโยชน์ตัวเองและผู้อื่นบ้าง

เผื่อไปเจอภัย ก็ได้รู้วิธีเอาตัวรอดบ้าง

แนวความคิดดี แต่ถ้าเป็นจักรกลเครื่องยนต์เล็กช่วยบ้าง ก็น่าจะได้ บ้านที่ใหญ่กว่านี้จะได้เก็บของได้มากขึ้นหรือได้พัก2-3คนได้ก็จะดี

และทำได้ก็ดีมีต้นแบบให้ไปคิดต่อได้

บ้านพี่สาวใกล้วัดป่าธรรมแสงเทียน และวัดทรายคำ หลวงพ่อนวน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ถนน 2391 พื้นที่ดินสูงระดับน้ำทะเลประมาณ158 เดินทางไปประมาณ 7 ชม. จาก กทม.ไป ระยะทาง459 กิโลเมตร

https://www.youtube.com/watch?v=QJkL-UJYoHU

ระยะทางจากกรุงเทพฯไป
ลพบุรี 153 กิโลเมตร
อุทัยธานี 219 กิโลเมตร
สมมุติ ความแรงและเร็วของน้ำทะเล 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่ำกว่านี้หรือใกล้เคียงก็ต้องรับแรงกระเทก ถ้าข้อมูลนี้เป็นจริงก็จะประมาณนั้น

ความไกลจากกรุงเทพฯไป-สระแก้ว 237 กิโลเมตร
นครสวรรค์ 240 กิโลเมตร
โคราช 259 กิโลเมตร
พิษณุโลก 377 กิโลเมตร
ชัยภูมิ 342 กิโลเมตร
อ แก้งคร้อ ต.บ้านแก้ง ที่ดินน้า สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ226 เมตร
พิจิตร 344 กิโลเมตร
มหาสารคาม 475 กิโลเมตร

https://www.youtube.com/watch?v=3afD2MgQyfA
เมื่อโลกหยุดหมุน

 

ความรู้เผื่อเข้าป่า แต่ไม่สนับสนุนการล่าแค่หาพืชพักน้ำทาน

แนวการสร้างบ้าน

บ้านเมืองเราอากาศร้อน หาความรู้ไว้

เพราะเมืองไทยร้อนขอมูลก็ไม่ต่างเท่าไรหรอก

 

การใช้มอเตอร์ไซค์

เก่งนะกล้าเดินทางไปไกลๆ(ค่าใช้จ่ายเดินทางประมาณ2แสน)

ค่าใช้จ่าย

 

ฟังเพลงไปก่อน

ประมาณการไม่คำทำนาย

น่าสนใจดี

ดาวอะไรเรียงกันบ้าง

 

ดาวพฤหัสบดี ดวงอาทิตย์อาจมากลาง ดาวเสาร์ ดาวอังคาร ดาวศุกร์ ดาวพุธ ดาวโลก จะเป็นคล้ายเส้นตรง อาจจะเกิดพลังงานดึงกันได้ และอาจจะได้เห็นดาวหางมา

 

สึนามิที่น่ากลัวที่สุดในโลก [ คลื่นยักษ์สินามิ ] | The History

 

ถ้าใครมีที่ดินบ้าง มะพร้าว กล้วย ไม้ไผ่ มะขาม กล้วย อ้อย ต้นไม้ ผลไม้ พืชสวนครัว น่าปลูกไว้บ้างก็ยังดี

ได้ฟังมา ประเทศไทย อยู่ประมาณลำดับ8 ที่เปราะบางต่อภัยธรรมชาติ เช่น น้ำแล้ง น้ำท่วม แผ่นดินถล่ม หรือ อื่นๆ
ถึงพวกเรารู้ข้อมูลหรือข่าวสารไว้มากก็ไม่ได้เปรียบคนอื่นมากนักยังต้องทำงานต่อในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยอยู่ดี แต่เพียงมีข้อมูลเวลานั้นไว้ใช้ได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งอ่านนัั่งฟังใครบอกมากนัก

ส่วนพวกที่จะหนีไปภาคเหนือ เช่น จ.เลย หรือทางอิสาน เป็นอย่างบ้างล่ะตอนนี้ น้ำผ่านท่วมแค่คินเดียวเสียหายไปมากเลยถ้าไม่เตรียมการเก็บของไว้ในที่สูง หรือ ปลูกบ้านใต้ถุนสูงไว้บ้าง ดูภาพจากชาวบ้านยังนั่งงงกันอยู่เลย รถต้องจอดแช่น้ำเสียหาย

 

หนังเขาสร้างมาให้ตื่นเต้น ที่จริงไม่เกิดขาดนั้น แต่บอกบางอย่างเเช่นคนเตือนกับไม่เก่งจริงเพราะถ้ารู้แล้วก็ต้องหาทางหลบหลีกแต่หนังก็คือหนังสร้างอย่างไรก็ได้

 

ถ้าโลกหยุดหมุนรอบตัวเองกระทันหัน จะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์บนโลกกันบ้าง
มิ.ย. 16, 2017


ตามปกติแล้ว โลกจะหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วมากกว่า 1,000 ไมล์ต่อชั่วโมงที่เส้นศูนย์สูตร แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าจู่ๆ โลกของเราหยุดหมุนกระทันหัน หลายคนอาจจินตนาการไปต่างๆ นานา ซึ่งวันนี้เพชรมายาขอพาทุกท่านไปชมคำตอบที่หลายๆ คนเคยสงสัยและอยากรู้ มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อโลกหยุดหมุนกระทันหัน

1. ทุกสิ่งที่ไม่ได้ถูกยึดไว้กับพื้น จะปลิวไปทางทิศตะวันออกด้วยความเร็วมากกว่า 1,000 ไมล์ต่อชั่วโมง นั่นรวมถึงชั้นบรรยากาศ จะเกิดลมแรงเท่าๆ กับการเกิดระเบิดปรมาณู



2. จะเกิดสึนามิขนาดใหญ่ที่กวาดล้างแผ่นดินเข้าไปไกลกว่า 28 กิโลเมตร ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที



3. หนึ่งวันของโลก จะยาวนานเท่ากับ 365 วัน หรือกลายเป็น 1 ปี



4. ผลที่ตามมาคือ คุณจะต้องเจอพระอาทิตย์แดดเปรี้ยงๆ ติดต่อกัน 6 เดือนเต็มๆ โดยที่ไม่มีกลางคืนเลย



5. ในทางตรงกันข้าม คุณจะเจอกับช่วงเวลากลางคืนที่ไร้แสงแดดนานถึง 6 เดือนเต็มเช่นกัน



6. มาถึงตอนนี้ ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก




7. และไปตกยังทิศตะวันออก โดยใช้เวลา 1 ปีเต็ม



8. การหมุนของโลกจะสร้างแรงเหวี่ยง ที่ทำให้เกิดจุดนูนบริเวณเส้นศูนย์สูตร แต่เมื่อโลกหยุดหมุน เวลาผ่านไปมันจะแบนลง



9. น้ำในมหาสมุทรจะไหลไปยังขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโรงโน้มถ่วงมากที่สุด



10. และนั่นจะทำให้แผนที่โลกเปลี่ยนไป มหาสมุทรจะย้ายไปอยู่ 2 ฝั่งคือด้านเหนือและใต้ จนเหลือเป็นแผ่นดินใหญ่ตรงกลาง




11. สนามแม่เหล็กโลกจะค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ทิ้งให้โลกต้องเผชิญกับรังสีคอสมิกที่เป็นอันตราย



12. และสุดท้าย ผู้คนบนโลกจะตายหมด ไม่มีใครอยู่รอดได้แม้แต่คนเดียว



และนี่คือผลลัพธ์อันน่ากลัวที่จะเกิดขึ้นกับโลกเราใบนี้ หากจู่ๆ โลกก็หยุดหมุนเสียดื้อๆ ถามว่าตอนนี้โลกจะมีโอกาสหยุดหมุนหรือไม่ คำตอบคือคงเป็นไปได้ยาก แต่ในอนาคตอันไกลโพ้นก็ยังไม่แน่ว่า อาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่เราไม่รู้ ทำให้โลกเกิดหยุดหมุนก็เป็นได้

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : businessinsider | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
ขอขอบคุณที่มาจากเวปนี้ครับ
https://petmaya.com/if-the-earth-stopped-spinning

 

10 ความเป็นไปได้ หากโลกหยุดหมุนในทันที


เราลองนึกภาพเล่นๆดูว่าถ้าหาก โลกเกิดหยุดหมุนกระทันหันจะเป็นอย่างไร มีผลกระทบอะไรบ้าง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการคาดการณ์สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา





1. ทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นโลกจะปลิวไปทางตะวันออกด้วยความเร็วกว่า 1,400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



2.เกิดคลื่นสึนามิหลายแห่งที่สามารถกวาดล้างเมืองติดชายทะเลจนเรียบ



3.เกิดลมกรรโชกอย่างรุนแรงและโลกอาจสูญเสียชั้นบรรยากาศทั้งหมด



4.น้ำในมหาสมุทรจะโดนแยกเป็นสองส่วนโดยจะไหลไปรวมตัวกันที่ขั้วโลกเหนือและใต้ และจะเกิดแนวแผ่นดินขึ้นตามเส้นศูนย์สูตร





5.เกิดพายุเฮอริเคน ภูเขาไฟระเบิด และแผ่นดินไหว



6.โลกจะแบ่งเป็นสองฝั่งชัดเจน ด้านที่หันไปทางดวงอาทิตย์จะร้อนจัดและสว่างตลอดเวลา ส่วนอีกด้านจะหนาวจัดและเป็นกลางคืนตลอดเวลา สิ่งมีชีวิตจะไม่สามารถอาศัยอยู่ได้



7.สนามแม่เหล็กที่ปกป้องโลกอยู่จะหายไป รังสีอันตรายจำนวนมากจะผ่านเข้ามาได้



8.มนุษย์จำเป็นต้องอาศัยอยู่ระหว่างฝั่งที่ร้อนและเย็น หรืออาศัยอยู่ใต้ดินโดยอาศัยความร้อนจากแกนโลกแทน



9.ดวงจันทร์จะโคจรรอบโลกช้าลงและตกสู่โลกในที่สุด



10.โลกจะกลับเป็นทรงกลมมากขึ้น
ขอขอบคุณที่มาจากเวปนี้ครับ
http://www.signorscience.com/อวกาศ/10-ความเป็นไปได้หากโลกหย/

 

ถ้าจู่ๆ โลกหยุดหมุนกะทันหันจะเกิดอะไรขึ้น นี่คือ 5 คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่มนุษยชาติต้องสะพรึง โดยเฉพาะข้อสุดท้ายไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่ มาดู

นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าอีกไม่เกิน 1,000 ปีข้างหน้า โลกมีโอกาสหยุดหมุนโดยกะทันหัน และนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษยชาติต้องล่มสลาย ในทุกวันโลกจะทำหน้าที่หมุนรอบตัวเอง การหมุนรอบตัวเองของโลกก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เช่น เหตุการณ์น้ำขึ้นน้ำลง กลางวันและกลางคืน และหากจู่ๆ โลกหยุดหมุนโดยกะทันหัน
โลกของเราจะเป็นยังไงต่อไป นี่คือคำอธิบายจากนักวิทยาศาสตร์ที่ทำให้มนุษยชาติต้องสะพรึง

1. เกิดลมพายุรุนแรง
เมื่อโลกหยุดหมุน สภาพอากาศในโลกจะเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน เกิดลมพายุที่มีอัตราความเร็วลมกว่า 1,700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วของลมสามารถพัดพาทุกสรรพสิ่งบนโลก ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้, อาคาร และตึกสูง ให้พังพินาศภายในระยะเวลาไม่นาน

2. คลื่นยักษ์
พื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำอย่างทะเลจะเกิดคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ ที่อาจมีความรุนแรงมากกว่าคลื่นสึนามิหลายร้อยเท่าและหลังจากนั้นทุกพื้นที่จะเกิดน้ำท่วมขังสูง

3. หนึ่งวันเท่ากับ 1 ปี
เมื่อโลกไม่ทำหน้าที่หมุนรอบตัวเองอีกต่อไป วันเวลาในโลกจึงเปลี่ยนแปลง พระอาทิตย์จะอยู่กับเรายาวนานถึง 6 เดือน และหลังจากพระอาทิตย์ตก เราจะเจอกับค่ำคืนที่ยาวนานอีก 6 เดือน ทำให้วันเวลาบนโลกยาวนานขึ้นจากเดิม 365 วันเท่ากับ 1 ปี กลายเป็น 365 วันเท่ากับ 1 วัน

4. สนามแม่เหล็กของโลกถูกทำลาย
โลกเคยสร้างสนามแม่เหล็กที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกัน จากการหมุนรอบตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่โลกหยุดหมุนสนามแม่เหล็กจะค่อยๆ หายไป รังสีอันตรายต่างๆ จากนอกโลกจะเข้าสู่โลกโดยไร้ซึ่งเกราะป้องกัน

5. สูญสิ้นมนุษยชาติ
เมื่อโลกไร้ซึ่งเกราะป้องกัน และสภาพสิ่งแวดล้อมในโลกถูกทำลาย สิ่งมีชีวิตที่หลงเหลืออยู่ในโลก ก็ไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ต่อได้ เป็นอันสูญสิ้นมนุษยชาติอย่างสมบูรณ์แบบ



เรียบเรียง : SpokeDark.TV


ขอขอบคุณข้อมูลที่ จาก http://nuclear.rmutphysics.com/blog-sci7/?p=13887

 

นักธุรกิจหรือคนทั่วไปยึดถือข้อหนึ่งน่าสนใจปิดความเยี่ยงหาข้อมูลให้มากไว้ก่อน

 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโลกหยุดหมุน
17 มิถุนายน 2020

ตั้งแต่เด็กๆแล้วที่เราเฝ้าเรียนและศึกษามาว่าโลกของเรานั้นหมุนรอบตัวเอง และยังหมุนรอบตัวอาทิตย์ ก่อเกิดเป็นวัน เดือน ปี และฤดูกาลต่างๆ ที่ดูเหมือนว่ามนุษย์โลกทุกคนนั้นจะชินกับการที่โลกหมุนเวียนไป และใช้เวลาเป็นเครื่องกำหนดการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงปรับตัวให้พร้อมรับกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลกันได้แล้ว
.

แต่ถ้าหากวันหนึ่ง โลกของเรานั้นเกิดหยุดหมุนขึ้นมา เพื่อนๆคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และมนุษย์อย่างพวกเรานั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง วันนี้พวกเรา eduHUB จะพาเพื่อนๆมาหาคำตอบว่า หากโลกหยุดหมุนขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก่อนจะไปรับชมอย่าลืม กด like กด Share และที่สำคัญอย่าลืมกด Like page eduHUB ของเราด้วยนะคะ
.


ในเอกภพอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ที่ประกอบไปด้วยระบบของดาวฤกษ์และดาวเคราะห์น้อยใหญ่เต็มไปทั่วทั้งจักรวาล ซึ่งดาวทุกดวงที่อยู่ในจักรวาลแห่งนี้จะมีแกนกลางที่เป็นแกนหลักในการเคลื่อนที่ โดยแกนที่ว่านี้จะอยู่กึ่งกลางของดาวเคราะห์นั้นๆและมันจะตรงกับบริเวณของเส้นวงโคจรด้วย เมื่อมันขับเคลื่อนตัวของมันเองให้หมุนวนรอบตัวเองก็จะเป็นพลังงานขับเคลื่อนตัวมันให้เคลื่อนที่ตามวงโคจรไปเรื่อยๆ
.

อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์โลกของเรานั้นจะหมุนรอบตัวเองโดยใช้ระยะเวลา 24 ชั่วโมง ต่างจากดาวศุกร์ที่ใช้ระยะเวลาการหมุนรอบตัวเองถึง 243 วัน ยาวนานมากๆ ดังนั้นการที่ดาวศุกร์มันหมุนรอบตัวเองช้าก็เลยทำให้ฝั่งที่ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ก็จะมีอากาศที่ร้อนมากและมีอุณหภูมิที่สูงมากๆแถมยังเป็นดาวที่มีอุณหภูมิของดาวที่สูงที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอีกด้วย
.


และเมื่อมาเปรียบเทียบกับโลกของเราแล้วก็จะเห็นว่าโลกของเรานั้นมันช่างสมดุลและพอดิบพอดี เหมือนกับโลกใบนี้ถูกสร้างมาเพื่อให้สิ่งมีชีวิตอย่างพวกเราได้ดำรงชีวิตอยู่ เพราะโลกเรานั้นใช้เวลาแค่ 1 วันในการหมุนรอบตัวเอง ดังนั้นการวนเวียนพื้นที่ของโลกเพื่อให้มาเจอกับพลังงานของดวงอาทิตย์ก็จะสลับหมุนเวียนไปในแต่ละวัน
.

สำหรับการหมุนรอบตัวเองของโลกนั้น โลกหมนุรอบตัวเองด้วยอัตราความเร็วที่มากกว่า 1,500 กิโลเตร ต่อวินาที ซึ่งจะหมุนจากทิศตะวันตกไปยังทางทิศตะวันออก ซึ่งการที่โลกหมุนรอบตัวเองนี้ไม่ได้ทำให้เกิดแค่เฉพาะเวลา กลางวันกลางคืนเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำขึ้น-น้ำลงอีกด้วย
.


เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองแล้วก็จะเกิดการเคลื่อนที่ตามแนววงโคจรอย่างที่เราได้บอกไปข้างต้น ซึ่งมันก็จะค่อยๆเคลื่อนที่ไปตามทางแนวของวงโคจร ซึ่งวงโคจรนี้จะเป็นขอบเขตการเดินทางรอบดวงอาทิตย์ของโลก โลกใช้ระยะเวลาในการเคลื่อนที่และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 365 วัน โดยใช้ความเร็ว 30 กิโลเตรต่อวินาที
.

การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ก่อให้เกิดเป็นฤดูกาลต่างๆมากมาย ซึ่งปรากฎการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาหลายล้านปีแล้ว และมนุษย์เรารวมถึงสิ่งมีชีวิตบนโลก เริ่มชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้ จนไม่อยากจะคิดว่า หากวันหนึ่งแกนของโลกเกิดการสูญเสียพลังงานครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้โลกนั้นไม่ยอมหมุนรอบตัวเอง โลกของเรานั้นจะเกิดอะไรขึ้น และมนุษย์เราจะได้รับผลกระทบยังไงไปดูกันเลยค่ะ
.


1.อุณหภูมิของโลกจะเปลี่ยนไป
ในทุกวันนี้ที่โลกหมุนรอบตัวเองนั้นทำให้เรารับความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์อย่างสมดุล เพราะพื้นที่บนโลกจะหมุนเวียนได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์เท่าๆกันในแต่ละวัน แต่ถ้าหากโลกหยุดหมุนขึ้นมา จะมีพื้นที่ฝั่งหนึ่งที่ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ และอีกฝั่งหนึ่งจะไม่ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นกลางวันที่ไม่มีวันได้เจอกับกลางคืน และเป็นกลางคืนที่ไม่เคยได้เจอกับกลางวัน
.

ความร้อนฝั่งที่โดนแสงอาทิตย์ก็จะถูกเก็บพลังงานสะสมไว้จนอุณหภูมิของพื้นผิวนั้นเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจนอาจจะคล้ายกับดาวศุกร์ และฝั่งที่ไม่ได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ก็จะหนาวเย็นและไม่มีทางได้พบกับความอบอุ่น ซึ่งแน่นอนว่าหากโลกเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกก็ไม่สามารถอยู่ได้อย่างแน่นอน
.


2.เกิดพายุครั้งรุนแรง
เพราะตลอดระยะเวลาที่โลกหมุนรอบตัวเองนั้นก็จะมีแรงลมต่างๆที่เกิดขึ้นมาไปพร้อมๆกับการหมุนรอบตัวเองของโลก แต่ถ้าโลกหยุดหมุน แต่ลมนั้นไม่ได้หยุดหมุนไปพร้อมกับโลก ดังนั้นแรงของลมของจะมากกว่าเดิม ก่อให้เกิดการแปรปรวน อากาศจะไหลเวียนแบบรุนแรงมากขึ้น
.

จะเกิดลมพายุขนาดใหญ่ที่มีความแรงลมที่สูงมากๆ ซึ่งมันจะพัดพาทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกให้หายวับไปกับตา รวมถึงลมพายุนั้นจะพัดพาน้ำในมหาสมุทรให้ก่อเกิดเป็นคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ หรือกลายเป็นสึนามิถล่มพื้นที่ดินสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง
.


3.โลกจะสูญเสียแรงโน้มถ่วง
การที่โลกหยุดหมุนรอบตัวเองนั้นแสดงว่าแกนโลกมีปัญหาเเละเกิดการสูญเสียพลังงาน ซึ่งนั่นเองจะทำให้แรงโน้มถ่วงที่เคยยึดเหนี่ยวสิ่งต่างๆบนโลกไว้ ก็จะไม่สามารถยึดเหนี่ยวอะไรไว้ได้ ทุกอย่างจะลอยเคว้งในอวกาศ แม้กระทั่งพื้นดิน ซึ่งก็จะทำให้โลกนั้นแตกสลายไปในที่สุด
.


4.เกิดรังสีรุนแรงทำลายโลก
เพราะถ้าโลกหยุดหมุนแล้วนั้น นอกจากสภาพอากาศ สภาพแรงโน้มถ่วงที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วนั้น สนามแม่เหล็กก็ยังเปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย ซึ่งการที่สนามเเม่เหล็กเปลี่ยนแปลงไปนั้นจะทำให้โลกปล่อยรังสีแกมมาออกมา ซึ่งมันเป็นรังสีที่มีพลังงานทะลุทะลวงสูงมาก สร้างความอันตรายให้กับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก และจะทำให้โลกนี้ไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป
.


เห็นไหมละคะเพื่อนๆว่าสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นหลังจากการที่โลกนั้นหยุดหมุนมันน่ากลัวจริงๆ เพราะผลลัพธ์ที่สุดแล้วคือเราและสิ่งมีชีวิตจะไม่มีที่อยู่และไม่สามารถดำรงชีวิตได้ เเละเมื่อถึงคราวนั้น โลกก็ต้องถึงคราวดับสูญ ถ้าถามว่าเหตุการณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ไหมตอบได้เลยว่าเป็นไปได้ แต่เป็นไปได้น้อยมากๆ ตราบใดที่พลังงานของจักรวาล พลังงานของกาแลกซี่ และพลังงานของระบบสุริยะยังอยู่ แกนโลกของเราก็คงยังไม่เกิดการสูญเสียพลังงานจนหยุดหมุนแน่นอน สำหรับวันนี้เรื่องราวดีๆที่นำมาฝากเพื่อนๆก็มีเท่านี้ ก่อนจะไป อย่าลืม กด like กด Share และที่สำคัญอย่าลืมกด Like page ของเราด้วยนะคะ
ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลเวป https://blog.eduhub.tv/what-if-the-earth-stopped-spinning/

 

8 สิ่งแปลก ที่จะเกิดขึ้นเมื่อโลกหยุดหมุนรอบตัวเอง (มนุษย์โลก)

 

ถ้า "โลกหยุดหมุน" จะเกิดอะไรขึ้น ! !

ข้อมูลบางอย่างหามาด้วยความยากลำบากน่ะลูกหลานกว่าจะได้มา พื้นที่14+4 ประมาณการเขียนมาเตือน และบันทึกไว้อ่านเองด้วยก็แล้วกันเตือนเราเองกันลืม ถ้าเป็นได้ไม่อยากให้เกิดสิ่งไม่ดีเลยเป็นห่วงตัวเองครอบครัวพี่น้องลูกหลาน ถ้าให้เดาได้จากฟังมาผิดถูกไม่ว่าหน้าเป็น๒๕๖๕ กรุงเทพมหานคร ก็อยู่ได้แต่ต้องสูงกว่าระดับน้ำทะเลและรวมที่พักแข็งแรงแล้ว20-30เมตร