กําเนิดของพระธาตุกายสิทธิ์เทพประทาน(เหล็กไหล)และคดขนุนทองคํา/ทองชมพูนุท

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย nut33, 17 มิถุนายน 2020.

  1. nut33

    nut33 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2006
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +44
    การเกิดหรือกําเนิดของพระธาตุกายสิทธิ์เทพประทาน พิมพ์ “พระเจ้าชัยวรมัน” หรือ “พระพุทธชัยมงคล”และ “กําไลสิทธิโชค”
    โดย พระเทพญาณมงคลวิ. (เสริมชัย ชยมงคโล) เจ้าอาวาส วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดําเนินสะดวก จ.ราชบุรี
    IMG_20190225_005914-950x1024.jpg

    ดังได้สดับและเรียนรู้มาจากบูรพาจารย์ผู้ล่วงลับไปแล้ว ผู้สืบทอดวิชา (โลกียวิชา) อัญเชิญ “เจ้าแม่ธรรมชาติพญาเหล็ก” ให้มาเกิดเองในบาตร หรือ ในภาชนะ หรือ สถานที่ที่ กําหนดให้ ในรูปแบบของ “พระพุทธรูป” หรือ “พระโพธิสัตว์” และ/หรือ ในรูปอื่นๆ ตาม อธิษฐานปรารถนา นั้น
    ได้ทราบว่า แต่เดิมเกิดแต่เวทมนตร์ พรหมมนตร์ เทพมนตร์ อันฤาษีผู้ทรงฌาน - ทรงอภิญญา ได้ประกอบพิธีอธิษฐานเรียกอาโปธาตุ ธาตุน้ํา) ปฐวีธาตุ ธาตุดิน) เตโชธาตุ (ธาตุไฟ) และวาโยธาตุ ธาตุลม) จากพรหมโลก – เทวโลก- มนุษย์โลก และจากยมโลก มา ประกอบเป็น “ธาตุกายสิทธิ์” ชื่อว่า “เจ้าแม่ธรรมชาติพญาเหล็ก หรือ เหล็กไหล” ซึ่งมีหลาย ชนิด และทรงฤทธานุภาพตามแต่ฤาษีผู้ประกอบพิธีได้อธิษฐานไว้ในถ้ําหรือตามป่าเขา ไว้ให้ เป็นเครื่องป้องกันภัยอันตรายแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง ก่อนที่ท่านฤาษีผู้ทรงฌาน – ทรง อภิญญา นั้นจะกระทํากาละ (มรณภาพ) แล้วไปบังเกิดในพรหมโลก - เทวโลก หรือมนุษย์โลก ต่อไป ตามสมควรแก่ภพภูมิของท่าน
    ผู้ได้สืบทอดวิชา (โลกียวิชา) นี้ต่อๆ มาถึงกาลเสด็จอุบัติขึ้นของสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เรียนรู้พระธรรมคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อาศัยพระพุทธมนตร์ อันเป็นบทร้อยกรองจากพระธรรมมาย่อร้อยกรองเป็น “มนตร์”และ/หรือ เป็น “เลขยันต์ ร่วมกับพรหมมนตร์ เทพมนตร์ ที่เคยมีมาแต่เดิม เป็น “พระคาถา” และ/หรือ “เลขยันต์” อัน ศักดิ์สิทธิ์ ไว้ป้องกันตัว และเพื่อความเป็นสิริมงคล และ/หรือ ใช้อัญเชิญเจ้าแม่ธรรมชาติ
    พญาเหล็ก (เป็นธาตุกายสิทธิ์ หรือ เหล็กไหลชนิดหนึ่ง) แล้วบูรพาจารย์ได้รวบรวมเรียบเรียง ขึ้นเป็นคัมภีร์เวทมนตร์ต่างๆ ใช้สืบทอดต่อๆ กันมา
    ได้ยินมาว่าคัมภีร์เวทมนตร์ฉบับที่ใช้ประกอบพิธีอัญเชิญเจ้าแม่ธรรมชาติพญาเหล็ก หรือ ธาตุกายสิทธิ์ เหล็กไหลชนิดหนึ่ง นี้ ชื่อ “คัมภีร์พระร่วง” อันพระร่วงเจ้าทรงได้มาจาก พระเจ้าชัยวรมันผู้ครองอาณาจักรขอม และได้แผ่ขยายอาณาจักรอิทธิพล ศิลปวัฒนธรรมเข้า มาในประเทศไทย แล้วได้สืบทอดต่อๆ มาถึงเจ้าประคุณสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว กรุง ศรีอยุธยา -เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชสุก (ญาณสังวรมหาเถร) วัดราชสิทธาราม-เจ้า ประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง และถึงพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม พุทธสรมหาเถร) วัดหนองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ และได้ถ่ายทอดลงมาถึงบูรพาจารย์ “ปู่ ผู้เป็นคฤหัสถ์ (ได้ล่วงลับไปแล้ว) และได้สืบทอดมาถึงอาตมาเมื่อประมาณ ๑๐ กว่าปีมาแล้ว ได้อัญเชิญธาตุกายสิทธิ์มาบังเกิดในบาตรในพิมพ์พระเจ้าชัยวรมันรุ่นต่างๆ ให้แก่ศิษยานุศิษย์ ผู้มาทําบุญบํารุงวัดหลวงพ่อสดธรรมกายารามอยู่อย่างเงียบๆ เป็นเวลาประมาณ ๒ ปี
    ต่อมาความเรื่องนี้ได้ทราบถึงเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศราช วรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม และประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช องค์ปัจจุบัน ผู้เป็นพระอาจารย์ (พระกรรมวาจาจารย์) ของอาตมา ท่านไม่ประสงค์จะให้ อาตมาเด่นดังในทางนี้ จึงห้ามปรามด้วยความเมตตาห่วงใย อาตมภาพจึงหยุดทําไปเป็นเวลา ประมาณ ๔ - ๕ ปี จนต่อมาบัดนี้ กําลังก่อสร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จฯเป็นที่ประดิษฐานพระ บรมสารีริกธาตุส่วนสําคัญของพระพุทธเจ้า ซึ่งต้องใช้ทุนทรัพย์เป็นค่าก่อสร้างมาก จึงขอคืน คํากับเทพยดาที่ได้ปฏิญาณไว้ก่อนว่าจะหยุดทํา เพื่อขอทําพิธีอัญเชิญพระพญาเหล็กนี้ไว้ แจกศิษยานุศิษย์ผู้ทําบุญบํารุงการให้การศึกษาอบรมเผยแผ่ และผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพก่อสร้าง พระมหาเจดีย์สมเด็จฯ อย่างเงียบๆ อีก เพื่อช่วยเป็นทุนก่อสร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จฯ มิให้ ขาดตอนจนกว่าการก่อสร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จฯ จะเสร็จ
    ส่วนกําเนิด คือ การเกิดขึ้นของพระ (พญาเหล็ก) ธาตุกายสิทธิ์ พิมพ์ “พระเจ้าชัยวร มัน” “พระพุทธชัยมงคล” และ “กําไลสิทธิโชค” ธาตุกายสิทธิ์ นี้ เนื่องด้วย “วิชา” นี้ ยังเป็น ที่หวงแหนของบูรพาจารย์ผู้เป็นเจ้าของวิชา ซึ่งมีทั้งที่เป็นพรหมและเทพยดา ผู้ไม่ประสงค์จะ ให้เปิดเผยวิชานี้แก่ชนทั่วไป แม้จะถ่ายภาพพิธีกรรมอัญเชิญก็มิให้ถ่ายทําภาพดังกล่าว ท่าน เจ้าของวิชาเขา(ท่าน)จะเลือกให้วิชานี้ และ/หรือ จะเมตตาประทานสิ่งอันเป็นมงคลให้ ก็แต่ เฉพาะผู้ที่เคยมีความสัมพันธ์ต่อกันโดยสายโลหิต หรือ ผู้ที่เคยร่วมบําเพ็ญบุญบารมีมา ด้วยกัน หรือผู้ที่เคยเป็นครู เป็นศิษย์กันมาก่อน และ/หรือ ผู้ทรงศีล ทรงธรรมเท่านั้น ตามพระพุทธดํารัสที่ตรัสไว้ว่า “วิเจยุย ทาน์ สุคตปปสตถ์ การเลือกให้ อันพระสุคตทรง สรรเสริญ” (ส.ส. ๑๕/๕๕/๓๐)
    อาตมภาพจึงของดที่จะกล่าวถึงขั้นตอนการประกอบพิธีอัญเชิญไว้แต่เพียงเท่านี้
    ความศักดิ์สิทธิ์เท่าที่ได้รับทราบจากผู้มีประสบการณ์ ปรากฏแก่ผู้มีไว้ใน
    ครอบครอง คือ
    (๑) เป็นคุณเครื่องป้องกันอันตรายตามพระพุทธดํารัสที่ตรัสไว้ว่า “ธมโม หเวรกุข
    ติ ธมมจารี ธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” เป็นที่ประจักษ์มาแล้วมาก
    ราย
    (๒) เนื่องด้วยมีเทพยดาผู้เมตตาให้เกิด/เป็นขึ้นนั้นด้วยจึงช่วยให้ผู้มีไว้ใน
    ครอบครอง ผู้มีศีล มีธรรม ให้มีความเจริญในหน้าที่การงานและการ ประกอบสัมมาอาชีวะทั้งหลาย ตามอธิษฐานปรารถนาโดยชอบตามสมควร แก่วาสนาบารมีและภูมิธรรมอีกด้วย
    (๓) โดยเฉพาะ “กําไลสิทธิโชค” นั้น ได้ยินจากประสบการณ์ของผู้มีไว้ใน
    ครอบครองว่า อธิษฐานดีๆ แล้วปรากฏว่าลูกค้า “เข้าร้านตรึม” ทีเดียว นี้คือ
    อานุภาพของ “กําไล กําไร” (๔) อย่าลืมเวลาทําบุญแล้ว อุทิศส่วนกุศลให้เทพผู้สถิตอยู่ดูแลรักษาด้วยก็แล้วกัน

    = = = = = = = = = =
    0068-858x1024.jpg

    การเกิดหรือกําเนิดของ คดเม็ดขนุนธาตุกายสิทธิ์ทองคํา/ทองชมพูนุทเทพประทาน
    หรือ ถ้ามีไว้ในครอบครองทั้งสองอย่าง จะเรียกชื่อว่า “คดเม็ดขนุนธาตุกายสิทธิ์ “สุริยัน จันทรา” ก็ได้
    โดย พระเทพญาณมงคลวิ. (เสริมชัย ชยมงคโล) เจ้าอาวาส วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดําเนินสะดวก จ.ราชบุรี
    ความเป็นมาของกําเนิดคดเม็ดขนุนธาตุกายสิทธิทองคํา/ทองชมพูนุท
    เทพประทาน ก็มีนัยเดียวกันกับธาตุกายสิทธิ์ที่กล่าวข้างต้น
    แต่เฉพาะที่เกิดขึ้นที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อําเภอดําเนินสะดวก จังหวัด ราชบุรี นี้ เข้าใจว่า เป็นด้วยพระเมตตาของท่านท้าวสักกะเทวราชที่ทรงประสงค์จะให้เกิดขึ้น เพื่อให้เป็นทุนในการก่อสร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จฯ ไว้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วน สําคัญของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อช่วยสืบบวรพระพุทธศาสนาในช่วงกึ่ง พุทธกาล (๒,๕๐๐ ปี) หลังนี้ให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคงก่อนจะสิ้นพุทธกาลของสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมนี้ ท่านท้าววิษณุกรรมเทพบุตรเมื่อทราบเทวราชโองการจึง ประกาศข่าวนี้ และเข้าใจว่า ท่านสุริยเทพเมื่อทราบเทวราชประสงค์จึงช่วยอธิษฐานให้เม็ด ขนุนที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายารามส่วนหนึ่งกลายเป็น “คดเม็ดขนุนธาตุกายสิทธิ์ทอง ชมพูนุท” และท่านจันทิมเทพก็ช่วยอธิษฐานให้เม็ดขนุนที่วัดฯอีกส่วนหนึ่งกลายเป็น “คดเม็ด ขนุนธาตุกายสิทธิ์ทองคํา” พอไว้แจกให้แก่ผู้ทําบุญบํารุงวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม และ เป็นทุนก่อสร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จฯ
    รี
    ผู้มีไว้ในครอบครองทั้ง ๒ ประเภท คือ คดเม็ดขนุนทองคําและทองชมพูนุท จะ เรียกชื่อว่า คดเม็ดขนุนธาตุกายสิทธิ์ “สุริยัน จันทรา” ก็ได้ และพึงทราบว่า ธาตุกายสิทธิ์ ทั้งหลายเหล่านี้มีเทพสถิตอยู่ดูแลรักษาอีกด้วย
    - เท่าที่ทราบจากประสบการณ์ของผู้มีไว้ในครอบครอง ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ว่า มี อานุภาพสูงทุกด้าน เพราะสําเร็จด้วยเทพยดาผู้มเหสักข์ ได้แก่ ท่านท้าวสักกะเทวราชทาน ท้าววิษณุกรรมเทพบุตร ท่านสุริยเทพ และจันทิมเทพ และแม้ท่านท้าวเวสสุวรรณ อีกด้วย เป็นต้น ผู้ล้วนเป็นพระอริยเจ้าชั้นสูงทั้งนั้น
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางด้านป้องกันอันตรายนั้น มีอานุภาพสูงยิ่งนัก ที่ จะมีอานุภาพสูงเท่าเทียมกัน ก็เห็นจะมีแต่เหล็กไหลโกฏิปีสีปีกแมลงทับเท่านั้น ส่วน ทางด้านมหาอํานาจ มหาเมตตา และมหาลาภ นั้น ก็ได้ยินข่าวจากผู้มีไว้ในครอบครองว่า มี อานุภาพสูงมากด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หนุนดวง - หนุนฐานะ” อนึ่ง คดเม็ดขนุน ทองชมพูนุทนั้นจะหนักทางด้านมหาอํานาจ ส่วนคดเม็ดขนุนทองคํานั้นจะหนักทางด้าน เมตตา เพราะเหตุนั้น หากผู้ใดมีไว้ในครอบครองครบคู่เป็นคดเม็ดขนุนทองคําธาตุกายสิทธิ์ เทพประทาน “สุริยัน จันทรา” แล้ว จัดว่ามีอานุภาพครบเครื่องเต็มสูตรทีเดียว จึงเป็น อุดมมงคลอย่างยิ่งแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง ผู้ทรงศีล – ทรงธรรม สมตามพระพุทธดํารัสตรัส ไว้ว่า “ธมโม หเวรกุขติ ธมมจารี - ธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม”นั้นเอง
    - อย่าลืม เวลาบําเพ็ญบุญกุศลแล้ว อุทิศส่วนกุศลให้เทพผู้สถิตอยู่ด้วย – ช่วย คุ้มครองรักษาเราด้วย ก็แล้วกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    สาธุ
     
  3. nut33

    nut33 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2006
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +44
    นานา “คด” เล่นยาก แต่คนอยากเล่น โดย ป๋อง สุพรรณ

    ลงในหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2553
    คอลัมน์ ชั่วโมงเซียน ป๋อง สุพรรณ

    -วัดหลวงพ่อสด-00-scaled.jpg
    ข้อมูลจากป๋าหน่อยที่เก็บหนังสือพิมพ์ไว้ครับ Manop Limsuwankiti

    -วัดหลวงพ่อสด-04-1024x714.jpg
    ในบรรดาเครื่องรางของขลังที่วงการพระเครื่องสะสมและแสวงหานั้น เครื่องรางที่เรียกว่า “คด” น่าจะเป็นเครื่องรางที่เล่นยากที่สุด แต่คนก็อยากเล่น มีคนจำนวนไม่น้อยพยายามแสวงหามาครอบครอง โดยมีคติความเชื่อว่า “เป็นเครื่องรางของขลังที่ขลังเองโดยธรรมชาติ มิต้องอาศัยการปลุกเสก ลงอักขระเลขยันต์ใดๆทั้งสิ้น”

    -วัดหลวงพ่อสด-05-1024x544.jpg
    ขณะเดียวกันยังมีคติความเชื่อด้วยว่า “คด” ในกรณีที่ไม่ใช่ฟอสซิลที่ถูกทับถมและเปลี่ยนสภาพตามกาลเวลาแต่เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในขณะที่พืชและสัตว์นั้นยังมีชีวิตอยู่ เกิดขึ้นในขณะที่พืชและสัตว์นั้นยังมีชีวิตอยู่ เกิดในช่วงชีวิตของมันเนื่องจากความผิดธรรมชาติ จึงมักมีความเชื่อว่า “มีพลังอำนาจบางอย่างมาทำให้เป็นไปและพลังอำนาจนั้นต้องมีความเข้มแข็งมากด้วย บางพวกถึงกับเชื่อว่าเป็นการจุติลงมาเกิดในภพมนุษย์ของทวยเทพในลักษณะหนึ่ง วัตถุประเภทนี้จึงมีสรรพคุณต่างๆ ทั้งทางด้านเป็นยารักษาโรค และมีอำนาจในด้านต่างๆ ในสมัยโบราณเหล่านักรบและผู้ที่ต้องเสี่ยงภัยต่างเสาะแสวงหาคดชนิดต่างๆมาเพื่อป้องกันตัวตามความเชื่อของแต่ละคน

    -วัดหลวงพ่อสด-06-1024x792.jpg
    นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานอาถรรพ์ของคนที่เคยใช้คดแล้ว “ฆ่าไม่ตาย” อยู่มาก และที่เป็นตำนานคือบุญเพ็งนักโทษประหารที่ฆ่าไม่ตาย ทุกครั้งที่จะโดนประหารเขาจะอมของขลังอย่างหนึ่งที่เรียกว่า “พระเม็ดข้าวเม่าเกศคด” ซึ่งเป็นพระที่มีส่วนผสมของมวลสารที่มาจากคดชนิดต่างๆ จึงทำให้เขารอดทุกครั้งที่มีการจับตัว หรือแม้แต่ตอนประหารก็ตาม เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้งจนในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้แอบสังเกตเห็นว่า ทุกครั้งก่อนประหารนายบุญเพ็งนั้นเขาจะอมวัตถุชนิดหนึ่งไว้ในปากเสมอ และเมื่อให้คายออกจากปากเขาก็ถูกประหารชีวิตและตายในที่สุด

    -วัดหลวงพ่อสด-07-837x1024.jpg
    ทางนี้พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้นิยามความหมายของ “คด” ไว้ว่า “หินที่เกิดขึ้นในพืชหรือสัตว์” ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น คดดีปลา คดทับทิม คดถั่วลิสง คดมะยม คดคล้า คดมะม่วง คดปลวก คดต่อ และคดขนุนเป็นต้น

    คด ที่เกิดขึ้นกับผลไม้แต่ละชนิดมีคติความเชื่อแตกต่างกันออกไป กล่าวคือ

    คดดีปลา มีลักษณะเป็นเม็ดกลมเกิดในตัวปลา ใช้ดีทางร่มเย็นเป็นสุข ตกน้ำไม่ตาย พกไว้ไม่ตายโหง

    คดทับทิม เกิดในผลทับทิม 1 ผลอาจมีเป็นร้อยร้อยเม็ด แต่จะมีเพียงเม็ดเดียวเท่านั้นที่แข็งเป็นหิน สีสันเหมือนเม็ดทับทิมทุกอย่าง ดีทางเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรีก็ดีด้วย

    คดถั่วลิสง เป็นฝักถั่วลิสงที่แข็งกลายเป็นหิน สีสันเหมือนถั่วลิสงทุกอย่าง อยู่ใต้ดินต้องขุดมาจึงพบ ซึ่งต้นที่มีคดนั้นมีหนึ่งในหลายสิบล้านต้น ซึ่งเป็นของหายากมาก ดีทางคงกระพันและโชคลาภ

    คดมะยม เป็นลูกมะยมทั้งลูกที่แข็งเป็นหิน บางที่แข็งตัวเป็นหินจะมีสีเทาออกขาวมีน้ำหนักเบา ดีทางด้านคงกระพันและเมตตามหานิยม ที่พ้องกับคำว่า “มะยม” นั่นเอง

    คดคล้า เกิดในต้นคล้า มีดีทางอำนาจโดดเด่น และคงกระพันชาตรี

    คดมะม่วง เกิดในผลมะม่วง ใช้ดีทางด้านคงกระพันชาตรี

    ส่วนคดปลวก นั้นเป็นที่นิยมเสาะหากันมาตั้งแต่โบราณทุกยุคทุกสมัยทีเดียว เพราะเป็นคดที่มีอานุภาพสูง แม้จะเป็นคดที่พบเจอได้ยาก แต่ก็มีวิธีหาที่ดูเหมือนจะง่าย คือสมัยก่อนเวลาจะหาคดปลวกก็จะเริ่มสืบเสาะหาจอมปลวกที่มีลักษณะผิดปกติจากธรรมชาติ เช่น จอมใหญ่โตมาก มีรูปร่างแปลกประหลาด เกิดขึ้นอยู่ในที่อาถรรพ์ และโดยเฉพาะจอมไหนที่มีคนบอกว่าเฮี้ยน ผีจอมปลวกดุ นั่นล่ะคนโบราณ เขาสันนิษฐานเอาไว้ก่อนเลยว่าจะต้องมีคดวิเศษเกิดขึ้นอยู่ในจอมนั้น ใครที่เล่นหรือแสวงหาคดปลวกต้องระวังให้มากที่สุด ด้วยเหตุที่ว่า ในปัจจุบันมีกลุ่มคนบางประเภทพยายามจะยัดเยียดให้สะเก็ดดาวตก เป็นคดปลวก แท้จริงแล้วคดปลวกกับ สะเก็ดดาวตกน้ำแตกต่างกันอย่างมาก

    -วัดหลวงพ่อสด-08.jpg
    คดขนุนหรือเม็ดขนุนทองแดง เป็นคดที่พบในขนุนที่ออกลูกใต้ดิน จะพบเม็ดในของผลขนุนลูกใดลูกหนึ่ง มีลักษณะเหมือนเม็ดขนุนในยวงธรรมดานี่เองแต่ตัวเม็ดในจะแดงคล้ำมีสภาพแข็งเป็นหิน โดยมากจะพบเพียงเม็ดเดียว กรณีที่ผลไม้ออกผลในลักษณะที่แปลกประหลาดเช่นนี้ โบราณท่านมักถือว่า เป็นอาเพศที่ต้องทำพิธีบวงสรวงเทพยดาเพื่อให้กลับร้ายกลายเป็นดี คือจะทำให้เจ้าของต้นขนุนที่ว่านี้เกิดโชคลาภ โภคทรัพย์สมบูรณ์ แต่ไม่ใช่การเซ่นสรวงอย่างในปัจจุบันที่หวังหาเลขหวยจากกรณีผิดธรรมชาติที่ว่านี้

    -วัดหลวงพ่อสด-09-1024x894.jpg
    สำหรับภาพคดขนุนที่นำมาแสดงนั้น เป็นคดขนุนที่เกิดขึ้นในวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดําเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ในความดูแลของ พระราชญาณวิสิฐ (เสริมชัย ชยมงฺคโล) หรือที่ลูกศิษย์ทั่วไปๆ เรียกว่า “หลวงป๋า” ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์อยู่ไม่น้อยที่ต้นขนุนภายในวัดหลายต้น เมื่อสุกและผ่าผลออกมากับมีคดขนุนอยู่ผลละ 2-3 เม็ด ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าผลขนุนในวัดมีคดจนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งพระลูกวัดได้ไปเห็นโดยบังเอิญ จากนั้นก็มีการสังเกตผลขนุนต้นอื่นๆภายในวัดก็ปรากฏว่าเกิดเป็นคตขนุนเช่นกัน เมื่อข่าวการเกิดคดขนุนภายในวัดกระจายออกไปในหมู่ลูกศิษย์ ปรากฏว่ามีผู้สนใจมาขอชมบารมีและแบ่งไปบูชา ซึ่งในแต่ละรายล้วนถวายปัจจัยไม่ต่ำกว่า 7 หลักเลยทีเดียว

    -วัดหลวงพ่อสด-10-1024x894.jpg
    ปัจจัยที่ได้จากญาติโยมนั้น หลวงป๋า นำเข้าสมทบทุนก่อสร้าง “พระมหาเจดีย์สมเด็จฯ” ซึ่งเป็นอาคารจตุรมุข 4 ชั้น รูปแบบพระมหาเจดีย์ ออกแบบโดย อาจารย์อนันต์ สวัสดิสวนีย์ อดีตผู้อำนวยการช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ชั้นล่างสุดของพระมหาเจดีย์เป็นที่ทำงาน และเป็นที่ให้ญาติโยมสาธุชนศึกษาธรรมะปฏิบัติ สำหรับประกอบพิธีกรรมและประชุมทั่วไป ชั้นที่ 2 สำหรับการประชุมอบรมธรรมะปฏิบัติ ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ รวมทั้งตัวอย่างการปฏิบัติกรรมฐาน และชั้นบนสุด(ชั้น4)เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 150 ล้านบาท ใครอยากชมบารมีติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่ พระมหาชัยนิพจน์ อตฺตทนฺโต พระเลขานุการหลงป่า โทร

    2-4-837x1024.jpg
    อย่างไรก็ตามเรื่อง “คด” อย่างที่บอกไว้แต่ต้นแล้วว่า “เป็นเครื่องรางที่เล่นยากที่สุดแต่คนก็อยากเล่น มีคนจำนวนไม่น้อยพยายามแสวงหามาครอบครอง แต่ด้วยเรื่องเล่าทางพุทธคุณนั้นล้นเหลือ หลายคนที่อยากได้มาครอบครองจนลืมไปว่าอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่จ้องแสวงหาผลประโยชน์จากความเชื่อและความลุ่มหลง ข่าวที่ได้ยินบ่อยมากที่สุดคือเรื่อง “หลอกต้มซื้อเหล็กไหล” มีคนจำนวนไม่น้อยเสียเงินเป็นล้าน ด้วยเหตุนี้ใครจะคิดที่จะเช่าคดมาบูชาต้องพิจารณาให้ดีโดยเฉพาะประเด็นที่ว่า “เป็นเครื่องรางที่เล่นยากที่สุด”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...