มหานาคีมหานาคาครุฑารักษากลุ่มภูเก็ตพังงาบูชานัมทานทีรอยพระพุทธบาท

ขออนุญาติ นำเรื่องราว / ภาพ มา เล่า ,พิมพ์ แทนคำเล่า ครับผม

ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) - หน้า 68 - PaLungJit.com

ข่าวล่าสุด เมื่อไม่นาน มานี้ ครับ ประมาณ ปลายเดือน มีนา

คนในพื้นที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา ใด้ เห็น วัตถุ ประหลาด คล้ายจานกระด้ง บินลอย จากยอดเขา ยา ผ่านมา ในตลาดตัวอำเภอ แล้ว ลอยหายไป

เวลา ประมาณ 8 โมงเช้า กว่าๆ ....คนหนึ่งที่เห็น คือ เพื่อนน้องชายผมเอง อยู่ติดบ้านน้องชายผม ....แต่ ถ่ายภาพ ไม่ทัน

สอดคล้อง กับเมื่อ... อ้างอิง เมื่อ...
<TABLE class=tborder id=post894603 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">01-01-2008, 07:44 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#839 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นาคา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_894603", true); </SCRIPT>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://palungjit.org/showthrea...603#post894603

สวัสดี ปีใหม่ ทุกท่านครับ

ขอรบกวนพี่สุดใจ มีคำแนะนำ ในภาพข้างล่างนี้ บ้างไหมครับ

เวลาประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ เมื่อคืนวานนี้ 31/12/2007 น้องชาย +น้องสาว ถ่ายภาพใด้ จากหน้าบ้านครับ เขต อ.คุระบุรี จ.พังงา

ระยะห่างจาก บ้าน ถึงจุด บนท้องฟ้าประมาณ 15- 20 กม. บริเวณ ท้องฟ้าเหนือ เนินเขา ยา ( ติดเทือกเขาเขาสก )

มี 1 ภาพ จะมีลักษณะ เป็นรูปโครงหน้า มีดวงตา ใหญ่ 1 ข้าง ดูแล้ว คล้ายมี ดวงตา ที่มอง มาจากท้องฟ้ามาก ครับ
<!-- / message --><!-- attachments -->

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



</FIELDSET>


<TABLE class=tborder id=post894877 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">01-01-2008, 11:01 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#841 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สุดใจเขากะลา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_894877", true); </SCRIPT>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ช่วงหลังจะมีการพบสิ่งแปลก ๆ กันมากขึ้นค่ะ อาจเป็นไปได้ว่ามิติเริ่มที่จะเหลื่อมกันมากขึ้นก็เป็นได้

พี่สุดใจลองขยายบางภาพดูก็แปลกดีค่ะ เพราะมีรายละเอียดมาก

และภาพล่าง แสงที่ปรากฏนั้นก็คล้ายสามเหลี่ยมนั้น ก็คล้ายกับที่ถ่ายได้ที่ปรียนันนท์ เลยนะคะ

<!-- / message --><!-- attachments -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ส่วน นี้ มีภาพ ถ้ำเมรี ที่แถวๆ บ้านปาก-วีป ครับ

ประวัติ ทราบมาเบื้องต้น ว่า
เป็นถ้ำ ที่ทอดยาว จาก เมืองตะโกลา ( ตะกั่วป่า ตลาดเก่า ,เมืองเก่า ) มาออก ที่หน้าหาด เขาลูกบ้า ( หิน ที่คล้าย เฮนสโตน เมืองแอนแลนติส )

ซึ่งระยะทางหลานกิโลเมตร ครับผม

กาลเพลาหนึ่ง เมื่อน้ำท่วม จากตะกั่วป่า ตลาดเก่า ฝูงเป็ด หลายตัว ใด้ลอยน้ำ มาเรื่อยๆ จนชาวบ้าน มาเจอ ที่ ปากถ้ำนางเมรี

 

ชื่อปากวีป ก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น ปาก(ท)วีป (แอตแลนติส)

มีข้อมูลบางแห่ง ยืนยันว่าแอตแลนติสอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย

และที่จริง เอ็ดการ์ เคย์ซี่ เคยพยากรณ์ว่า แอตแลนติสจะโผล่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

นี่ก็ใกล้แล้วครับ

 

จากภาพ จะเห็น ว่า มีหินก้อนใหญ่ ( ที่นาคา นั่ง ) มาปิดปากถ้ำเสียแล้ว ครับ เพราะ

จากตำนาน เล่า ว่า....

มีชายหนุ่ม คนหนึ่ง อาจจะต้องการพิสูจน์ ว่า ถ้ำ เมรี คืออะไร มีอะไร ที่น่าสนใจ ..หรือ มี....

ปากถ้ำ จะมี น้ำขังอยู่ ( น้ำ ที่ไหล มาจากภายในถ้ำเมรี ) ชายคนนั้น จึงเอาไม้ มากวนเล่น
ปรากฏ ว่า อยู่มาไม่นาน ชายคนนั้น จึงป่วย โดยไม่มีสาเหตุ และ ....ตาย ..

ต่อมา ตำนานเล่า ว่า เมื่อชายหนุ่มคนนั้น ตาย...ลง ...หินข้างบนถ้ำ ใด้เลื่อนตัวมาปิด ปากถ้ำ ....
( ส่วน ตำนาน เพิ่มเติม จะพยายาม ไปเก็บมาจาก ผู้เฒ่า ผู้แก่ แถวๆ บ้านปาก-วีป อีกครั้ง พร้อมตำนาน ว่า....ปาก-วีป มาจาก.....)

 

กระทู้นี้อ่านกันสองคน เข้าใจกันสองคนแน่เลย คุณนาคา

 

ขอบคุณ ครับคุณเล็ก
ต้องขออนุญาติ คุณเล็ก ครับผม ...บางเรื่อง ไกลเกินเอื้อมมาก ....หลายท่าน อาจจะ...

ผมเอง ยังรู้น้อยมากครับ ...เมื่อคุณเล็กใด้สะกิด ผมก็พยายามจะ หา ข้อมูล มาให้ หลายท่าน จะใด้ ปะติต ปะต่อเรื่องราว ครับ
ผมขอพัก เรื่อง แอสแลนติส สักนิด ...จะนำมาเล่า อีกครั้ง ครับ สำหรับ ในพื้นที่ บ้านปากวีป (ปากทวีป )

ช่วงนี้ สังข์ทอง ทางช่อง 7 สี ยังดู ใด้ออกรส จึงขออนุญาติ นำข้อมูลเก่า ที่ใด้ประสบ มาในกลุ่ม ภูเก็ต ครับ
----
เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา ( ประมาณ ปี 2549 )ข้าพเจ้าได้ทราบเรื่องถ้ำนางพันธุรัตจากเพื่อนที่ฝึกมโนมยิทธิด้วยกันชื่อรัต รัตบอกว่าบังเอิญได้ไปที่วัดแห่งหนึ่งด้วยเรื่องงาน ได้เจอกับหลวงพ่อแซมมี่ (ท่านเป็นคนไทยแต่เนื่องด้วยไปอยู่ต่างประเทศมานานจนบวชเป็นพระจึงได้ชื่อนี้มา) รัตบอกว่าหลวงพ่อแซมมี่ท่านเล่าให้ฟังว่าเรื่องนางพันธุรัตที่เราเคยได้ยินได้ฟังกันมาตั้งแต่เด็กๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง

นางพันธุรัตมีตัวตนอยู่จริงๆ ซึ่งในถ้ำก็มีสังขารของนางพันธุรัตอยู่ซึ่งกลายเป็นหินไปแล้ว และท่านก็มีรูปที่ถ่ายออกมาจากถ้ำเป็นสิ่งยืนยันและร่างนางยังมีอยู่ในถ้ำจริง หลังจากที่รัตมาเล่าและชวนข้าพเจ้าไปที่ถ้ำ เราก็ปรึกษากันว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้อาจารย์ไก่ฟัง

เมื่ออาจารย์มาสอนกรรมฐานที่ภูเก็ตเดือนพฤศจิกายน 2549 เราจึงเล่าเรื่องนี้ให้อาจารย์ไก่ฟัง เมื่อเล่าจบอาจารย์บอกว่า "คงต้องไปเยี่ยมท่านแม่สักครั้ง" คำพูดนี้ทำให้เรางง จึงถามรายละเอียด อาจารย์จึงได้บอกว่า.... เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเป็นชาติหนึ่งของ.....ในอดีต เราจึงถามอาจารย์ว่าจะไปเมื่อไหร่ดี อาจารย์บอกว่ารอให้กลับมาจากเชียงแสนกันก่อน เราก็คิดว่าคงอีกหลายเดือน จนกระทั่งวันที่ 27 มกราคม 2550 อาจารย์ก็มาสอนกรรมฐานที่ภูเก็ต อาจารย์บอกว่าเราจะไปถ้ำนางพันธุรัตกันวันมะรืนนี้

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2550 คณะพวกเราที่เดินทางไป มีกันทั้งหมด 5 คน ชาย 4 หญิง 1 มีอาจารย์ไก่,ข้าพเจ้า,รัต,พจน์ และเอ๋ เมื่อเราเดินทางไปถึงวัดถ้ำ จึงได้ไปนมัสการหลวงพ่อแซม ขณะที่กำลังคุยกับหลวงพ่อแซม ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าหลวงพ่อแซมท่านเคยเป็นยักษ์มาก่อนในอดีตชาติ จึงถามอาจารย์ในภายหลัง อาจารย์บอกว่าท่านเคยเป็นยักษ์ เป็นลูกเลี้ยงของนางพันธุรัต เมื่อเรากราบลาหลวงพ่อแซมแล้ว จึงขึ้นไปบนถ้ำ ทางขึ้นก็ค่อนข้างลำบากเนื่องจากมีความชันมากและบันไดบางช่วงก็ไม่ค่อยจะมั่นคงแข็งแรงนัก ต้องออกแรงกันพอสมควรกว่าจะถึง ..........

 

เมื่อมาถึงถ้ำก็ช่วยกันมองหาว่าสังขารนางพันธุรัตที่พวกเราเห็นจากรูปอยู่ตรงไหน แต่ก็หาไม่เจอ เมื่อเดินเข้าไปในถ้ำอีกนิดก็เห็นเป็นทางเข้าไป เมื่อเห็นทางนี้ เอ๋
ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มาก็บอกว่า "ใช่แล้ว ทางนี้แหละ เมื่อวานตอนเอ๋นั่งสมาธิ เห็นพญานาคตัวใหญ่มากเลื้อยเข้าไปทางนี้ ข้างในมีพระพุทธรูปด้วย" พวกเราจึงมั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว จึงเดินเข้าไปตามทางนั้น ซึ่งแสงจากข้างนอกส่องเข้ามาไม่ถึงแล้ว พวกเราจึงต้องใช้ไฟฉายที่เตรียมมา

ค่อยๆไต่ ค่อยๆคลำกันไป ทางก็ขึ้นสูงบ้าง ลงต่ำบ้าง มีหลุมบ้างมีแง่หินบ้าง ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งชื้น พื้นก็ลื่น ทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังเต็มที่ไม่ให้ลื่นล้มลง เดินเรียงแถวกันไปมีไฟฉาย 2 กระบอก ข้างหน้า 1 ข้างหลัง 1 ก็พยายามใช้ไฟฉายส่องหาดูก็ยังไม่พบอะไร อาจารย์ไก่บอกว่า ให้พวกเรานั่งพักกันก่อน แล้วดับไฟ ให้ทุกคนนั่งสมาธิสักครู่ เมื่อออกจากสมาธิ
อาจารย์ก็นำพวกเราอุทิศส่วนกุศลให้เหล่าสัมภเวสี ปีศาจอสุรกาย พญานาค คนธรรพ์ ให้มาโมทนากุศลที่พวกเราได้บำเพ็ญมาทั้งเพื่อพระนิพพานและเพื่อพระโพธิญาณ และขอให้เปิดทางให้พวกเราด้วย เมื่อเรากล่าวจบก็ได้ยินเสียง สาธุ ดังเป็นชั้นๆออกไป
...............พวกเราจึงเดินลึกเข้าไปอีก จึงได้ไปเจอหินขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายๆหัวกะโหลกที่ส่วนจมูกได้ยุบลงมา

 

..........พวกเราจึงเดินลึกเข้าไปอีก จึงได้ไปเจอหินขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายๆหัวกะโหลกที่ส่วนจมูกได้ยุบลงมา แต่ยังเห็นเป็น ตา ปาก คาง พวกเราก็คุยกันว่าใช่นางพันธุรัตหรือเปล่า

อาจารย์บอกว่าไม่น่าจะใช่ น่าจะเป็นยักษ์บริวาร อาจารย์ให้ถ่ายรูปไว้ก่อน แล้วเข้าไปดูข้างในอีก เราจึงเดินกันต่อไป

จนกระทั่งเจอหินก้อนนึง มีขนาดใหญ่ มีหินย้อยลงมาจากเพดานถ้ำมาจนจรดหินก้อนนี้พอดี และเมื่อส่องไฟฉายดูจะมีประกายระยิบระยับ เราจึงส่องไฟดูรอบๆพบว่าเรามาสุดทางแล้ว ถ้ำตันไปต่อไม่ได้แล้ว พวกเราจึงเดินอ้อมไปทางซ้ายเพื่อดูอีกด้านนึงของหินก้อนนั้น เมื่อเราส่องไฟดูจึงพบว่าเมื่อมองจากด้านนี้ จะเห็นเป็นลักษณะผู้หญิงนอนหงายมีหินย้อยลงมาจรดตรงหน้าผากพอดี และมีหินลักษณะเหมือนหมอนรองอยู่ใต้ศีรษะ

ผมยาวสยายลงมาด้านล่างเป็นประกายเมื่อต้องแสง ที่แปลกก็คือประกายระยิบระยับที่เห็นจะมีเฉพาะที่หินที่มีลักษณะเหมือนศีรษะเท่านั้น หินย้อยที่ย้อยลงมาจนจรดส่วนที่เป็นหน้าผากกลับไม่มีประกายนี้ ส่วนอื่นๆที่พอมองออกเป็นรูปร่างก็คือส่วนคอลงมาถึงช่วงไหล่ ส่วนอื่นๆจากช่วงอกลงไปจะถูกหินถล่มลงมาปิดทับเอาไว้ไม่สามารถสังเกตเห็นเป็นรูปร่างได้

.....................หลังจากที่ได้ดูทั่วๆแล้ว อาจารย์ไก่บอกว่าหินนี้แหละคือสังขารของนางพันธุรัต ตอนที่นางตายนางมีอายุมากแล้ว

นางเสียใจมากจนช๊อคตายในลักษณะหงายหน้าไปด้านหลัง ด้านขวาของนางด้านหน้าที่พวกเรายืนกันอยู่มีหินก้อนนึงขนาดประมาณเมตรกว่าๆ อาจารย์บอกว่า

เป็นรอยพระบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่รอยพระบาทนี้ที่ขอบด้านนึงมีลักษณะเป็นรอยบางอย่างอยู่ อาจารย์ไก่บอกว่าเป็นรอยที่วางหอยสังข์ แต่หอยสังข์ได้แตกสลายไปหมดแล้ว พวกเราจึงจัดดอกไม้ ธูป เทียน เพื่อบูชารอยพระบาทและขอขมาท่านแม่พันธุรัต โดยเอาดอกไม้ธูปเทียนที่เตรียมมาวางบนหินที่เป็นรอยพระบาท

 

จากนั้น

เอาดอกไม้ธูปเทียนที่เตรียมมาวางบนหินที่เป็นรอยพระบาท แล้วพวกเราก็นั่งลงข้างๆ เมื่อดับไฟภายในถ้ำก็มืดสนิท อาจารย์ก็เริ่มสวดบวงสรวงชุมนุมเทวดา

เมื่อสวดไปได้สักครู่ข้าพเจ้าก็เห็นแสงส่องจากด้านบนของถ้ำเยื้องไปทางด้านหน้าที่พวกเรานั่งกันอยู่ เป็นคล้ายลำแสงส่องไปๆมาๆ ข้าพเจ้าคิดว่าคงจะเป็นหลวงพ่อแซมตามขึ้นมาดูพวกเรา

แสงนั้นคงเป็นแสงไฟฉายที่หลวงพ่อส่องมองทางและส่องดูตามผนังถ้ำ เดี๋ยวหลวงพ่อคงส่องมาเจอพวกเราข้าพเจ้ามองดูอยู่ครู่นึงก็เห็นเหมือนคนกำลังยืนอยู่ดูคล้ายคนส่องไฟฉายไปๆมาๆ คิดว่าเดี๋ยวหลวงพ่อคงลงมาที่พวกเรา สักพักแสงก็หายไปข้าพเจ้าได้ยินเสียงเหมือนคนเดินอยู่ที่หลังก้อนหิน คิดว่าเดี๋ยวคงเลี้ยวมาพบพวกเราแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มี จึงไม่สนใจ ตั้งใจฟังเสียงอาจารย์และเคารพเทวดาทั้งหลาย

ขณะที่ กลุ่มเรา สวดมนต์ และตั้งจิต ขอขมา

ด้านหลังที่ ผม (นาคา ) นั่งอยู่ มีความรู้สึกว่า ใด้ยินเสียงเด็กๆๆ เล็กๆ วิ่งเล่น กันอยู่ ผมเลย หันไปดู เห็น เด็กวิ่งเล่น (แบบเด็กร่างเล็ก )

ซึ่ง เอ๋ ก็ ใด้ยินเสียงเหมือนกัน

ต่อมา สัมผัส ใด้ว่า....มีพญานาค เข้ามานั่ง ด้านหลัง เยื้องๆ ผม

 

เอ เรื่องพระสังข์นี่เป็นหนึ่งในชาดกของพระพุทธเจ้าของเราไม่ใช่หรือคะ

ชาดกเรื่อง สุวรรณสังข์ หรือสังข์ทองน่ะค่ะ

ผู้รู้ช่วยบอกหน่อยสิคะว่าใช่หรือเปล่า

 

ต้องขออภัย ด้วยครับ เพราะ ผมไม่แน่ใจ ครับ แต่ เท่าที่จำใด้ ทศชาติ ของพระพุทธเจ้า.....

และอาจารย์ คนเมืองบัว (อ.ไก่ ท่าน เล่ามาครับ พร้อมกับผมเอง ใด้เดินทาง เจอหินนี้ ในถ้ำ พันธุรัตน์ โดยมีวัดถ้ำพันธุรัตน์ )
----
ขณะ ที่ปรากฏ ว่า มีแสงส่องจากด้านบน ที่เราเห็นก่อนหน้านี้ หลังจากตั้งจิต ขอขมา แล้ว เรา เห็น เป็นแสงดวงใหญ่ มาก แสงนั้น ทั้ง 5 คน เห็นเหมือนกัน ครับ แสงนั้น กระพริบใด้ และ ไล่ เป็น สี ต่างๆ ประมาณ 3-4 สี ( ซึ่ง ต่อมา อ.ไก่ บอกว่า

นั่นคือแสงจากท่านพญานาค ที่ท่านมาปรากฏ ให้เราเห็น ....เพราะหลังจาก พิธี เสร็จ แล้ว เราเดิน ขึ้นไปดู ผนังถ้ำด้านบนตัน และสูงมาก ไม่มีใคร จะขึ้นมาบนนี้ ใด้เลย
จากคำบอกเล่าของคุณ รัตน์ ที่ใด้ไปด้วยคือ...

ต่างคนต่างเห็นเหมือนกันหมดแต่ไม่มีใครพูดอะไร หลังจากนั้นเพ่งไปที่พนังถ้ำคราวรีบส่งไปฉายตามไปทันที่ เห็นเหมือนเป็นลูกตาสัตว์คล้ายตางูแต่ใหญ่มาก ประมาณ 50 ซม.นั้นแค่ดวงตา
เมื่อมองไปที่พนังถ้ำก็เห็นเหมือนมีความลึกยาวออกไปร่วม200-300เมตรสุดลูกหูลูกตา
งานนี้มองหน้ากันแล้วก็รีบกล่าวขอขมา แล้วเดินไปยังจุดที่พบเห็นกับกลายเป็นพนังถ้ำแคบๆตื้น
เท่าทราบ อ.ไก่ ท่าน บอกว่า ท่าพญานาคประจำถ้ำท่านมาโมทนาในสิ่งที่ทำถือว่าเป็นการแสดงกตัญญูกตเวที

 

อยากจะฝากคำกลอนบางบทตอนพระสังข์ทองหนีแม่ และตอนที่พระแม่นางพันธุรัตน์รำพรรณถึงความรักของท่าน

มาเอยมาถึง ซึ่งเนินบรรพตภูเขาใหญ่
แลไปเห็นคนบนต้นไหร งามวิไลผิวผ่องดังทองทา
ยืนพินิจพิศเพ่งอยู้เป็นครู่ ลูกรักของกูแล้วสิหนา
มือหัวเราะทั้งน้ำตา ร้องเรียกลูกยาด้วยดีใจ
นั่งอยู่ใยนั้นพ่อขัวญข้าว ขัดเคืองอะรไรเล่าเจ้าจึงหนี
มาเถิดทูนหัวอย่ากลัวตี ดูเอาเถิดซิยังไม่มา
นางร้องไห้รำแล้วซ้ำเรียก ปีนตะกายตะเกียกขึ้นไปหา
ด้วยเดชะอำนาจสัตยา เผอิญให้เลื่อนล้าสิ้นกำลัง
หลัดตกหกล้มนอนตะแคง ขาแข้งสีข้างขึ้นดัดหลัง
โศกีตีศอกเพียงจะพัง ทรุดนั้งกระแทรกก้นจนใจ

เมือนั้น พันธุรัตฟังว่าเพียงอาสัญ
ฟูมฟายน้ำตาจาบัลย์ เจ้าไปแล้วไหนนั่นจะกลับมา
อันรูปเงาะไม้เท้าเกือกแก้ว แม่ประสิทธิ์ให้แล้วดังปรารถนา
ยังมนต์บทหนึ่งขอมารดา ชื่อว่ามหาจินดามนต์............

แม้อ้อนวอนว่าหนัดหนาแล้ว น้อยหรือลูกแก้วไม่มาหา
ทุ่มทอดตัวลงทรงโศกา สองตาแดงเดือดดังเลือดนก
ทั้งรักทั้งแค้นแน่นจิต ยิ่งคิดเคิองขุ่นมุ่นหมก
กลิ้งกลับสับสายเพ้อพก นางร้ำร้องจยอกแตกตาย


ความรักขอท่านประเสริฐนัก คำว่า "แม่" ยิ่งใหญ่นัก

( ภาพ ที่เห็น อาจจะมีคล้ายใบหน้า ยักษ์ มีตะบอง และ ทรวงอกที่ใหญ่ , อีกภาพ แท่น พระบาท ที่มีผงมณี)

 

อีกภาพ ที่ทางกลุมคนเมืองบัวภูเก็ต ใด้พิมพ์ ข้อความ บทสวดมนต์ เรียกเนื้อ...

จากนั้น ทางกลุ่มใด้ลงจากภานในถ้ำ มาที่ชั้นล่าง ....ใด้เจอ บ่อน้ำซุบตัว ...ขณะที่ผมจะลงไป อ.คนเมืองบัว ยังแซว ว่า...ระวัง ..เมียเก่าจะ เอากลับไป น่ะ...

เชิญ ทุกท่าน ที่สนใจ พิสูจน์ ใด้ ที่ วัดถ้ำพันธุรัตน์ เขาสก จ.สุราษฏร์ฯ
เดินทางจาก ตะกั่วป่า ขึ้นเขาสก ไปทางพนม ครับ ถ้าใด้เจอ พระอาจารย์ แซม อาจจะมีข้อมูล ที่ดี กว่า ...เพราะ พระอาจารย์ จะเล่าให้ฟัง เท่าที่ พระจะเล่าใด้

ต้องเดินปีนบรรไดเหล็ก อาจจะชัน บ้าง ซึ่งน่าหวาดเสียวพอสมควร ...แต่คุ้มกับการ ชมหิน ที่มองคล้าย ท่านแม่พันธุรัตน์ นอนกรมใจตาย...

 

ผมเอง มีภาพถ่าย มาจาก บ้านปากวีป (ปาก-วีป ) แถวๆ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เชิญ ท่านดู แล้ว กัน น่ะครับ ในกระทู้ มีหลายเรื่อง อาจจะมั่ว สักนิด (แล้ว วันจันทร์ ผมจะเข้ามาโพสส์ รูป นี้ อีกครั้ง

kananun ; เอ็ดการ์ เคย์ซี่ เคยพยากรณ์ว่า แอตแลนติสจะโผล่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง นี่ก็ใกล้แล้วครับ...

(ผมให้น้องสาว ผมถ่ายมา เมื่อ 16 เมษา น้องบอกว่า เสาหิน รูปแปลก ๆ ข้างหลัง คล้าย จะเคลื่อนไหว คล้าย พญานาค )<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

 

ลองมาดู ภาพหินที่แปลกๆ ครับ...ที่บ้านปากวีป อ.ตะกั่วป่า ครับ

ถ้าทานมาจาก ตะกั่วป่า มุ่งหน้า เข้าเขาหลัก ....ตะกั่วป่า ถนนเพชรเกษม จะผ่าน ปากทางบ้านน้ำเค็ม --หาดบางสัก--บ้านปากวีป --โรงแรมเลอเมอริเดียน(ปากวีป ) ห่างจาก เลอรเมอริเดียนประมาณ 300 เมตร จะมี ป้ายเข้า

สิมิลานา ให้เลี้ยวขวา ไปในซอย เรื่อย จนถึง ป้ายด้านขวา บอกว่า ..ซอยหินสะบ้า .....

ภาพเหล่านี้ ผมขอออกตัวก่อน ครับ อาจจะ ไม่ใช่ตามที่ ท่านคิด แต่อาจจะมีอะไร ที่น่าสนใจ ตามคำบอกเล่า ครับ

 

ต้องขออภัย ครับ มีงานด่วยเข้ามาพอดี และจะต้อง จัดภาพ ครับ

เมื่อก่อนสึนามิ พี่ชายผม ท่านบอกว่า หินที่มีรูปร่างคล้าย หินสะบ้า ( หินสะบ้าที่ เล่นกีฬา ) จะอยู่ในน้ำทะเล ตรงตำแหน่ง ดังในภาพ แรก เมื่อ น้ำทะเลแห้งเต็มที่ ประมาณ แรม 2-3 ค่ำ สามารถ เดินไปดูใด้เลย แต่พื้น ตรงนั้น จะเป็นดินโคลน



ก่อนสึนามิ จะมีลักษณะ ที่เป็น ก้อนใหญ่ วางเรียง ทำ มุมเท่ากัน และมี หิน แบบเดียวกันแต่เล็ก วางกั้นกลาง ก้อนใหญ่ ทั้งหมด ก้อนเล็กแบน 7 ก้อน ก้อนใหญ่ 7 ก้อน
เป็นที่น่าเสียดาย ที่ วันผมไปถ่ายภาพ น้ำทะเล ลงไม่หมด และต้องรีบกลับภูเก็ต

 

ดังภาพนี้ วันนั้น ลมแรงมาก คลื่นแรงด้วย ขณะที่ เมื่อคืน วันที่ 15 เมษา พายุ ลมแรง พัด ต้นไม้ ในซอย ในหมู่บ้าน ทางเข้าซอยหาดสะบ้า โค่นล้ม หลายต้น

ดังนั้น เมื่อเกิด สึนามิ หินสะบ้า หลายก้อน ถูกพายุ แรงกระหนำ จากคลื่นใต้ทะเล หอบ เอา หิน ที่ตั้งอยู่ หลายก้อน มาตั้ง ให้ อย่างดี ที่อาจจะเหมือน กับที่ตั้งใว้ ในทะเล

 

ผม มีคำถาม ถามว่า....

....เป็นไปใด้อย่างไร ที่ น้ำทะเล จากคลื่นสึนามิ หอบเอาหิน ที่ตั้งในทะเล ขึ้นมาตั้ง บนหาด หลายจุด ให้มองดู ที่อาจจะคล้ายของเดิม ที่ตั้งในทะเล

แล้ว คลื่นยังเอามาตั้งให้ช่อง ระหว่างแต่ละก้อน ระยะห่างเกือบเท่ากัน และสวยงาม อย่างนั้น เป็นไปใด้ อย่างไร

หิน แต่ละก้อน ที่ตั้งบนหาด นี้ เท่าที่ผม เช็คดู แล้ว มีพลัง บางอย่าง อยู่ มาก

พี่สาว เล่า ว่า เมื่อไม่นานมานี้ หลานพี่สาว เอา หินบางก้อน ที่เล็กๆ ไป ปรากฏ ว่า หลานคนนี้ ร้องไห้ ไม่นอน ต้องนำเอามาคืน

 

ลองพิจารณา ขยายภาพ ให้ใหญ่ แล้วลองดู หินแต่ละก้อน ว่า ลักษณะ หิน ที่สะสม อะไร เอาใว้ ( หินใหญ่ ที่จะมี หินเล็กๆ ประกอบอยู่ ที่ผิว ด้านนอกของหินใหญ่ ด้วย ) หินเล็กที่อยู่ด้านหน้าผิว นั้น สามารถ งอกใหม่ ใด้ และ มีลักษณะสวยงาม เหมือนมุก (อาจจะเป็นไปใด้ ที่ถูกคลื่นกัดเซาะ ในทะเล ก่อน ที่จะถูกคลื่น สึนามิ หอบมาตั้งใว้บนหาด )

เมื่อก่อนสึนามิ จะเกิด หินบนหาด ไม่มี น่ะครับ

ส่วนภาพที่3 ที่เห็นนี้ หินบางก้อน ตั้งไม่ใด้ เลยล้มอย่างที่เห็น ครับ

ภาพที่ 4-5 นี้ น้องสาว บอกว่า หินก้อนนี้ มีอะไร ที่ มองดู แล้ว เคลื่อนไหว ใต้น้ำมาก
พี่ชาย บอกว่า สามารถ นอนเต็นท์ ที่หาดใด้ หรือ จะนอน บนหาด ด้านหลังบ้านพี่ชายผมใด้ แต่ต้องเดินมา ดู หินสะบ้านี้ ประมาณ เกือบ 2กม.

วันนั้น ผมพยายามแงะ หินเพื่อเก็บเป็นตัวอย่างแล้ว ใด้เพียงชิ้นเล็กมาก เลย ไม่เอา มา ครับ ...ใว้โอกาส หน้า ผมจะ ขออนุญาติ หิน หรือ เจ้าที่ ในสายทิพย์ ขอแงะ ออกมา ใว้ ในห้องพระ ที่บ้านดู (ถ้าเจ้าที่ เจ้าของ หินเหล่านี้ ไม่ทวงคืน เท่าที่ สัมผัส จากพลัง หิน ผม ว่า ผมเอง อาจจะเคย .....)
มีท่านใด ที่เคยเกี่ยวข้องกับ ดินแดน แอตแลนติส ลอง เข้ามาดู และพิสูจน์ น่ะครับ แล้ว ท่านผู้อ่าน มี ความคิดเห็น ประการใด ....

รบกวน ... วิจารณ์ ใด้ ครับ ....

ท่านใด สนใจ พิสูจน์ เชิญ ครับ แล้ว ท่านจะใด้ทราบ ว่า ของจริงเป็นอย่างไร และ เกี่ยวข้องกับ ....ปาก-วีป ...ปากทวีป อย่างไร