ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    18.45น. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเกิดแผ่นดินไหวประเทศเมียนมาขนาด 6.1 ลึกจากผิวดิน 10 กม. ห่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน 559 กม. เบื้องต้นมีรายงานรับรู้แรงสั่นสะเทือน หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป ขอรับ กระผ้ม!!!

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Apr 16 , 2020 ประธานกรรมการ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูนวอนรัฐช่วยเหลือ หลังปริมาณไข่ไก่เริ่มล้นตลาด พร้อมขอรัฐเร่งปลดล็อคห้ามส่งออกก่อนแบกรับต้นทุนไม่ไหว
    .
    นายสิริพงศ์ ตระการกมล ประธานกรรมการ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่กำลังประสบปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด พบว่าเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาการซื้อขายไข่ไก่ในท้องตลาดซบเซา เนื่องจากประชาชนยังคงมีไข่ไก่สำหรับบริโภคในครัวเรือน จากที่ก่อนหน้านี้ได้ซื้อตุนไว้ ตั้งแต่รัฐบาลเริ่มคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับเริ่มคลายความวิตกกังวล ทำให้การบริโภคไข่ไก่ทรุดคนซื้อไข่น้อยลงและถือว่าหนักกว่าช่วงก่อนหน้า
    .
    ขณะที่มาตรการแก้ปัญหาไข่ไก่ของภาครัฐที่ออกมายังคงเดินหน้าต่อ ทั้งการห้ามส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศ จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ และการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ยืดอายุการเลี้ยงแม่ไก่ไข่จากเดิม 80 สัปดาห์ ออกไปตามความเหมาะสม พบว่าจากทั้งสองมาตรการภายในเวลา 1 เดือนจะทำให้มีไข่ไก่เหลือจากการบริโภคในประเทศมากถึง 86,000,000 ฟอง
    .
    ซึ่งไข่ที่เกินมานี้ไม่มีตลาดรองรับ จากที่เคยส่งออกเพื่อระบายไข่ส่วนเกินได้ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ ผลผลิตก็ล้นตลาด ขอให้ภาครัฐเร่งพิจารณาปลดล็อกมาตรการนี้ ก่อนที่เกษตรกรทั้งประเทศจะขาดทุนจนต้องเลิกกิจการ เพราะแบกรับภาระต่อไม่ไหว
    .
    โดยปัจจุบันราคาประกาศไข่ไก่คละหน้าฟาร์มของสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ที่เป็นราคากลางใช้อ้างอิงให้ขายอยู่ที่ 2.80 บาทต่อฟอง แต่ราคาที่เกษตรกรในภาคเหนือขายไข่ได้จริงอยู่ที่ 2.60-2.70 บาทต่อฟองเท่านั้น ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงสูงถึง 2.69 บาทต่อฟอง โดยเฉพาะบางพื้นที่ ที่มีปัญหาน้ำแล้งจนต้องซื้อน้ำใช้ทำให้มีต้นทุนเพิ่ม และสภาพอากาศที่ร้อนจัดยังส่งผลให้ผลผลิตไข่ไก่ส่วนใหญ่มีแต่ขนาดเล็ก เกษตรกรจึงขายไข่ได้ราคาต่ำลงตามไปด้วย
    .
    #ไข่ไก่ #ล้นตลาด #รัฐช่วยเหลือ #ห้ามส่งออก #Misterban

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นี่คือสถานการณ์ในประเทศฮังการี พวกเขากำลังรวบรวมผู้คนที่อายุ 50 ปีขึ้นไปจากถนน พาพวกเขาเข้าไปในรถตู้ของตำรวจเหมือนสัต ว์เพื่อถูกกักตัวในศูนย์ราชการ

    This is the situation in Hungary, they are picking up people aged 50 or over from the streets, throwing them into police vans like animals, to be quarantined in government centers.

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวสั้น #ข่าวด่วน ญป. เตรียมเปลี่ยนแผน
    ยกเลิกเงินช่วยเหลือ 3 แสนเฉพาะบางคน เป็น 1 แสนทุกคน

    ภาพ: สำนักข่าวเคียวโด

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า

    ป.ล. แอดยังประชุมไม่เสร็จคำถามไว้มาตอบนะคะ ⋱

    所得制限せず一律10万円支給へ 予算組み替え、30万円取り下げ
    https://ndjust.in/IDmlclod

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    EIU เตือนศก.โลกเสี่ยง ตกต่ำกว่ายุคสงครามโลก

    Economist Intelligence Unit (EIU) รายงานล่าสุดว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด-19 ส่งผลให้ ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญภาวะตกต่ำ ซึ่งย่ำแย่ยิ่งกว่าในยุค Great Depression หรือเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พร้อมเตือนด้วยว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยซ้ำซ้อน รัฐบาลทั่วโลกได้ออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ปริมาณหนี้สาธารณะอาจกดดันให้เศรษฐกิจโลกถดถอยเป็นครั้งที่สอง

    คำเตือนของ EIU สอดคล้องกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งได้ออกมากล่าวก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลงอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีข้างหน้า

    นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจโลกหดตัวลงอย่างมากในปีนี้ โดยจะทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1930 และขยายวงไปยังนานาประเทศทั่วโลก ซี่งไม่เหมือนกับทุกวิกฤติที่ผ่านมา เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จนเข้าสู่ภาวะถดถอยเลวร้ายที่สุด IMF ยังระบุก่อนหน้านั้นว่า 17 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ต่างขอกู้เงินฉุกเฉินจากกองทุนด้วย

    https://www.thansettakij.com/content/world/430152?as=
    .
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    # ซาอุดีอาระเบีย วันที่ 16 เมษายน 2563
    น้ำท่วมที่ถนนของ Sharurah และ Amanah #Najran
    .
    #SaudiArabia April16-2020
    Floods at streets of Sharurah and Amanah #Najran.

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    WHO เร่งตรวจสอบ ผลวิจัยพบแมว เป็นสัตว์เลี้ยงติดเชื้อโควิดง่ายสุด
    องค์การอนามัยโลกดำเนินการตรวจสอบ หลังผลการศึกษาวิจัยพบแมว กลายเป็นสัตว์เลี้ยงเพียงชนิดเดียวที่ติดเชื้อโควิดง่ายสุด ในขณะที่สุนัข ติดเชื้อยากกว่า และก่อนหน้าฮ่องกงพบแมวติดเชื้อโควิด
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • จีนกักน้ำโขงตอนบนไว้ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ตลอดทั้งปี และเลือกปล่อยน้ำจากเขื่อนตามอารมณ์ ทำให้ประเทศอาเซียนด้านล่างเผชิญภาวะแล้งจัด

    • งานวิจัยล่าสุดจากกลุ่มนักอุตุนิยมวิทยาชาวอเมริกันยืนยันหลักฐานอย่างเป็นวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกว่าจีนควบคุมระดับน้ำของแม่น้ำโขงให้จนมีระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

    • เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐวิสาหกิจของจีนได้สร้างเขื่อนหลายแห่งเพื่อกั้นแม่น้ำโขง ทีมวิจัยจึงเทียบระดับน้ำกับภาพถ่ายดาวเทียม รวมถึงระยะเวลาปฏิบัติการของเขื่อนเหนือแม่น้ำโขง ซึ่งตามปกติแล้วถ้าจีนแล้ง ประเทศใต้น้ำก็ต้องแล้ง ถ้าจีนมีน้ำมากประเทศใต้น้ำก็จะมีน้ำมาก

    • แต่หลังจากจีนสร้างเขื่อนเรื่องแบบนี้ก็เริ่มไม่ปกติ ทีมวิจัยพบว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างระดับน้ำที่ลดลงที่วัดได้ที่เชียงแสนและสภาพของแม่น้ำโขงจากภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงปีแรกๆ ที่จีนเริ่มสร้างเขื่อน สถานการณ์ชัดเจนอย่างมากช่วงที่จีนเริ่มเติมน้ำโขงเข้าสู่อ่างเก็บน้ำ Manwan และ Dachaoshan

    • ระดับน้ำที่วัดได้และการไหลตามธรรมชาติของแม่น้ำโขงลดลงหลังอย่างชัดเจน หลังจากปี 2555 เมื่อมีการสร้างเขื่อนใหญ่และอ่างเก็บน้ำสองแห่งซึ่งจำกัดปริมาณและเวลาของน้ำที่ปล่อยออกมาอย่างมาก

    • รัฐบาลจีนตั้งใจใช้เขื่อนเหล่านี้เพื่อควบคุมการไหลของกระแสน้ำ เพื่อมีน้ำเพียงพอในการผลิตกระแสไฟฟ้าตลอดทั้งปี ดังนั้นแทนที่แม่น้ำโขงจะไหลเป็นธรรมชาติคือน้ำมากในหน้าฝน และน้ำน้อยในหน้าแล้ง จีนทำการกระจายน้ำในฤดูกาลต่างๆ ให้เท่าเทียมกันโดยผิดธรรมชาติ

    • ความไม่เป็นธรรมชาติของกระแสน้ำยิ่งชัดขึ้น เมื่อเขื่อนที่ใหญ่ที่สุด คือ Nuozhadu และอ่างเก็บน้ำสร้างแล้วเสร็จ ทำให้การขาดน้ำในช่วงฤดูฝนเด่นชัดที่สุด หลังจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดเริ่มทำงาน

    • มีเขื่อนอีก 6 แห่งที่สร้างขึ้นหลังการสร้างเขื่อน Nuozhadu ในปี 2555 ยิ่งบิดเบือนวิถีการไหลของแม่น้ำตามธรรมชาติผ่านการเติมอ่างเก็บน้ำให้เต็มและปล่อยน้ำออกมาตามที่จีนต้องการ

    • จากการคำนวณของทีมวิจัยพบว่า เขื่อนในประเทศจีนกักน้ำไว้ในระดับสูงกว่า 124.96 เมตร ส่วนระดับน้ำที่เชียงแสนหายไป 126.44 เมตรในช่วง 28 ปีที่เก็บสถิติกันมา

    • ปีที่ประเทศใต้เขื่อนได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด คือปี 2562 เมื่อแม่น้ำโขงตอนมีระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าแล้ง แต่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

    • เมื่อใช้ดัชนีความชื้น (wetness index) ทำนายการไหลตามธรรมชาติของแม่น้ำ จะเห็นได้ว่ามีการไหลตามจากแม่น้ำโขงตอนบนสูงกว่าค่าเฉลี่ยในฤดูแล้งซึ่งคาดว่าป็นการปล่อยผิดฤดูเพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าในต้นปี 2562

    ในขณะที่การไหลของแม่น้ำโขงตอนล่างในช่วงฤดูฝนถูกจำกัดอย่างหนักจากแม่น้ำโขงตอนบน คือประเทศจีน บวกกับแม่น้ำโขงตอนล่างมีปริมาณน้ำฝนที่ลดลงทำให้เกิดวิกฤตแล้งเป็นประวัติการณ์

    • อลัน เบซิสท์ (Alan Basist) ผู้ร่วมเขียนรายงานกล่าวกับ NYT ว่า ข้อมูลจากดาวเทียมโกหกไม่ได้ พวกเขาพบว่ามีน้ำปริมาณมากในที่ราบสูงทิเบตหรือในเขตจีน แต่ประเทศใต้น้ำอย่างกัมพูชาและไทยกับต้องเผชิญกับสภาพขาดน้ำรุนแรง

    • ที่เชียงแสนนั้นระดับน้ำต่ำแบบที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อนตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติเลยด้วยซ้ำ

    อ้างอิงจาก
    Monitoring the Quantity of Water Flowing Through the Upper Mekong Basin Under Natural (Unimpeded) Conditions โดย Alan Basist และ Claude Williams เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563
    China Limited the Mekong’s Flow. Other Countries Suffered a Drought. โดย Hannah Beech ใน The New York Times เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จากรายงาน The Global Risks Report 2020 โดย World Economic Forum พบว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เหตุผลสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงและรวดเร็วกว่าคาดการณ์ไว้ เรื่องของสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงเศรษฐกิจนั้นแยกกันไม่ออก และนี่คือความเสี่ยง 5 อันดับแรกของโลกในแง่ของความน่าจะเป็นและความรุนแรงของผลกระทบ
    .
    1.สภาพอากาศสุดขั้ว
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงและเร็วกว่าที่คาด ภัยพิบัติทางธรรมชาติกำลังทวีความรุนแรงและเกิดบ่อยครั้งขึ้น ที่น่าตกใจคืออุณหภูมิของโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3 องศาเซลเซียสภายในช่วงปลายศตวรรษนี้ ซึ่งถ้ายังเพิ่มสูงกว่านี้จะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก
    .
    ระหว่างปี 2551-2559 มีผู้คนกว่า 20 ล้านคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่อาศัย เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายและระดับน้ำทะเลสูงขึ้น กลายเป็นปัญหาความมั่นคง อาจเกิดความขัดแย้งรุนแรงจนทำให้ประชากรทั้งหมดต้องไร้ที่อยู่
    .
    สภาพอากาศสุดขั้วเกิดบ่อยครั้งขึ้นอาจทำให้บริการประกันภัยใช้ไม่ได้ การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินยิ่งเป็นไปได้ยาก อสังหาริมทรัพย์เผชิญกับความเสี่ยงต่อสภาพภูมิอากาศ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดจำนอง
    .
    2. การบรรเทาโลกร้อนล้มเหลว
    เมื่อธรรมชาติถูกทำลายย่อมส่งผลต่อการทำธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาคธุรกิจจึงควรคำนึงถึงความเสี่ยงด้านระบบนิเวศและชื่อเสียงทางธุรกิจ
    .
    จากการศึกษาบริษัทชั้นนำในดัชนี Fortune 500 พบว่า บริษัทชั้นนำของโลกให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงจากธรรมชาติน้อยเกินไปเพราะค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูธรรมชาติมีอัตราสูงกว่ากำไรที่ภาคธุรกิจได้จากชุมชนถึง 10 เท่า ภาคธุรกิจจึงต้องปกป้องธรรมชาติแต่เนิ่น ๆ
    .
    3. การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศพัง
    ความหลากหลายในระบบนิเวศลดลงเร็วกว่าในช่วง 10 ล้านปีที่ผ่านมา อัตราการสูญพันธุ์ในปัจจุบันสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 10-100 เท่าและกำลังรวดเร็วขึ้น
    .
    แม้ว่ามนุษย์ 7,600 ล้านคนในโลกจะคิดเป็นเพียง 0.01% ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด แต่มนุษยชาติก็ทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ป่า และพืชสูญเสียไปถึง 83% การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการพังทลายของระบบนิเวศ (บกและทางทะเล) มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจนไม่สามารถแก้ไขได้
    .
    4. ภัยธรรมชาติ
    ภัยธรรมชาติเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินหลัก โครงสร้างพื้นฐานและหรือความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสูญเสียชีวิตของมนุษย์จากภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ดินถล่ม สึนามิ หรือพายุแม่เหล็กไฟฟ้า
    .
    และมนุษย์จะเสียชีวิตจากภัยธรรมชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยผู้หญิงและเด็กมีโอกาสตายมากกว่าผู้ชายถึง 14 เท่า ผู้สูงอายุและผู้ที่อ่อนแอมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศจะส่งผลต่อการสาธารณสุข โดยเฉพาะต่อคนยากจนและคนที่อ่อนแอที่สุดในสังคม รวมถึงในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง
    .
    5. ภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น
    วิกฤตจากน้ำมือมนุษย์ ทำให้ประชากรทั่วโลกมีความเสี่ยงจากความไม่มั่นคงของอาหารและน้ำ วันนี้เด็ก ๆ ต้องเผชิญอันตรายจากสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ พืชมีคุณค่าทางโภชนาการลดน้อยลง
    .
    เกิดความไม่มั่นคงทางสังคม มีการประท้วงทางสังคมที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การทำลายสิ่งแวดล้อมยังทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ไม่สามารถควบคุมได้และนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างมหาศาล

    ที่มา : The Global Risks Report 2020 / World Economic Forum
    อ้างอิง:

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศาลจังหวัดเชียงใหม่สั่งจำคุกเผาป่าเชียงดาว 2 ปี และปรับ 439,668 บาท ไม่รอลงอาญา เหตุทำพื้นที่ป่าได้รับความเสียหาย 10 ไร่
    .
    เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2563 ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาลงโทษจำคุกคดีเผาป่า โดยไม่รอการลงโทษคดีที่จำเลยเผาป่าเชียงดาว
    .
    คดีนี้เป็นการเผาในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาวและในเขตอุทยานแห่งชาติเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้รับความเสียหายจำนวน 10 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติจำนวน 439,668 บาท
    .
    ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย 439,668 บาท แก่กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เนื่องจากการกระทำของจำเลยเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
    .
    ส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงสุขภาพอนามัยของคนในสังคมโดยรวมนับเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษให้จำเลย
    .
    ทั้งนี้ ความผิดฐานเผาป่า ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 - 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    ที่มา: news.thaipbs.or.th

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เครือข่ายบุคคลและองค์กรรวม 180 แห่ง ได้ลงชื่อในจดหมายเรียกร้องให้ใช้การลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับพลิกฟื้นเศรษฐกิจยุโรปหลังจากผ่านพ้นยุควิกฤตโควิด-19 ไปแล้ว
    .
    เนื้อหาบางตอนในจดหมาย ระบุว่า หลังวิกฤตโควิดถึงเวลาที่ต้องบูรณะ การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และการเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรอาหาร มีศักยภาพในการจ้างงาน สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างสังคมที่ยืดหยุ่นได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว
    .
    นอกจากนี้ ความเสียหายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่ารุนแรงเสียยิ่งกว่าวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551 ด้วยเหตุนี้การแก้ปัญหาต้องทำผ่านการลงทุน “กรีนดีล” ชุดนโยบายประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรป (อียู) ที่ตั้งเป้าทำให้ 27 ชาติสมาชิกปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 0 ภายในปี 2593
    .
    ทั้งนี้ โปแลนด์ที่ต้องพึ่งพาถ่านหินหนักมาก และเป็นสมาชิกอียูประเทศเดียวที่ไม่ลงนามในเป้าหมายปี 2593 ถือโอกาสเป็นผู้นำเรียกร้องให้ลดเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนลง แต่ผู้จัดการกองทุนบางรายเรียกร้องให้รัฐบาลออกแบบชุดมาตรการช่วยเหลือ ที่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตคาร์บอนต่ำ
    .
    ด้าน นายปาสกาล กองแฟง สส.อียูสายเสรีนิยมจากฝรั่งเศส ผู้ริเริ่มทำจดหมาย แถลงว่า วิกฤตโควิด-19 ไม่ได้ทำให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศโลกหายไป ถ้าฟื้นเศรษฐกิจผิดทางก็จะเจอทางตันเรื่องวิกฤตโลกร้อน
    .
    ผู้ที่ร่วมลงนามในจดหมายฉบับนี้ เช่น รัฐมนตรีจาก 11 ประเทศ อาทิ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก สส.อียู 79 คน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท (ซีอีโอ) เช่น ฌ็อง ปอล แอกงจากลอรีอัล เจสเปอร์ โบรดินจากอิเกีย และเอ็มมานูเอล เฟเบอร์ จากดานอน
    .
    อย่างไรก็ตาม ยุโรปถือเป็นกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทลจากการแพร่ระบาดโควิดอย่างหนักทำให้ต้องปิดเมืองเกือบทุกประเทศ แต่กระนั้นยอดผู้เสียชีวิตก็ยังสูง โดยตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. การเดินทาง ธุรกิจ สถาบันการศึกษาได้ปิดให้บริการเพื่อควบคุมโควิดเกือบทั้งหมด แต่ก็เริ่มจะผ่อนคลายให้มีการเปิดบริการบ้างแล้วในสัปดาห์นี้
    ที่มา:
    https://www.bangkokbiznews.com/news...hH5KnNkEpwkehwT79UAbwL_smQAkY9urmG_dy0sdiHQ58

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนไทยในมัลดีฟส์ ถึงไทยบ่ายวันนี้
    .
    มัลดีฟส์ ถือเป็นประเทศในเอเชียใต้ที่ได้รับผลกระทบพอสมควรจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 และมีคนไทยจำนวนมากซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวบนหมู่เกาะดังกล่าวและต้องติดค้างจากปัญหาการปิดน่านฟ้าของประเทศไทย
    .
    ทั้งนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อของมัลดีฟส์อยู่ที่ 21 รายเท่านั้น แต่ทางการก็ค่อนข้างมีมาตรการเข้มงวดโดยเฉพาะมาตรการกักตัวคนที่เดินทางมากจากต่างประเทศ
    .
    สำหรับคนไทยในมัลดีฟส์นั้น เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ระบุว่ารัฐบาลได้อนุญาตให้คนไทยที่ติดค้างอยู่ในประเทศมัลดีฟส์ซึ่งได้ลงทะเบียนไว้กับทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกาให้ได้รับสิทธิเดินทางกลับประเทศ
    .
    โดยมีคนไทยจำนวน 70 คน เดินทางกลับจากมัลดีฟส์ จะถึงไทยเวลา 15.15 น. ทั้งนี้ทุกคนจะต้องเข้ารับการกักตัวโดยมาตรการของรัฐบาลเป็นเวลา 14 วัน จึงจะสามารถแยกย้ายกับไปยังภูมิลำเนาได้
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #มัลดีฟส์ #คนไทยกลับบ้าน #โควิด19 #โรคระบาด

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนไทยในบังคลาเทศ อพยพ 17 เม.ย. นี้ ด้วยเที่ยวบินพิเศษ
    .
    ก่อนอื่นผมขอรายงานสถานการณ์ในบังคลาเทศก่อนครับว่าตอนนี้ค่อนข้างน่ากังวลเพราะการระบาดเข้าสู่ขั้นที่ไม่สามารถระบุแหล่งกำเนิดได้แล้ว และตัวเลขผู้ติดเชื้อก็เพิ่มอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอยู่ที่ 1200+ ราย ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่ถึง สัปดาห์ครับ
    .

    ที่น่ากังวลกว่านั้นคือมาตรการของบังคลาเทศยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ และยิ่งไปกว่านั้นบังคลาเทศยังเป็นแหล่งผู้อพยพชาวโรฮิงยาอีกด้วย ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าไวรัสจะระบาดเข้าไปแล้วจะแก้ไขลำบาก โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่เจอเคสครับ และทางการบังคลาเทศได้ปิดตายค่ายผู้อพยพดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
    .
    แต่สำหรับคนไทยในบังคลาเทศก็ต้องบอกว่ามีข่าวดีครับ เพราะหน่วยงานภาครัฐที่นั่นเขาต้องการส่งคนไทยกลับบ้านก่อนสถานการณ์จะแย่กว่านี้ ล่าสุดแอดได้เห็นว่าทาง Royal Thai Embassy, Dhaka, Bangladesh - สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ได้เดินทางไปให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างในบังคลาเทศ โดยเฉพาะนักศึกษา
    .
    โดยถือเป็นการเดินทางไปส่งเสบียง ถุงยังชีพ ยาและเวชภัณฑ์จำเป็นในรอบที่สองแล้ว พร้อมแจ้งข่าวดีว่าคนไทยในบังคลาเทศจะได้สิทธิเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 17 เม.ย. นี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
    .
    "วันนี้ (15 เมษายน 2563) นายปวรวรรฒน์ สิมะสกุล เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ได้ไปเยี่ยมนักเรียนไทยมุสลิม จำนวน 16 คน ที่มัสยิดกาไกร อีกครั้งเพื่อมอบเวชภัณฑ์และอาหารให้แก่นักเรียน รวมทั้งอธิบายขั้นตอน เพื่อเตรียมการเดินทางของนักเรียนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยเที่ยวบินพิเศษในวันที่ 17 เมษายน 2563 ที่จะเคลื่อนย้ายคนไทยในบังกลาเทศกลับประเทศไทย"
    .
    เห็นแล้วก็ชื่นใจครับว่าหน่วยราชการไทยในต่างประเทศที่ทำงานอย่างจริงจัง และรวดเร็วมีอยู่อีกมากครับ ยังไงผมจะพยายามรายงานข่าวดีเหล่านี้ให้ได้บ่อย ๆ ครับ
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #บังคลาเทศ #คนไทยกลับบ้าน #โควิด19 #โรคระบาด
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนไทยในอินเดียเดือดร้อนหนัก โควิดระบาด วอนรัฐบาลเร่งช่วยพากลับบ้าน

    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้กลับบ้านนะครับ

    สำหรับคนไทยในอินเดียคนไหนมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรอยากระบายก็แชทเข้ามาระบายให้ผมฟังได้ในเพจนะครับ

    หรืออยากจะเขียนจดหมายบอกเล่าความยากลำบากของตัวเองมาให้ผมลงในเพจก็ได้นะครับ ผมยินดีจะเป็นที่เผยแพร่ให้ เผื่อทุกคนจะได้กลับประเทศเร็วขึ้น

    หรือใครอยากจะบอกว่าตัวเองสุขสบายดียังไง อันนี้ก็ยินดีเหมือนกันครับ

    แต่ผมขอเน้นย้ำว่าการที่เราสบายดีนั่นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่มีความยากลำบากนะครับ

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกจะไม่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ หมดยุคน้ำมันแพง

    นับตั้งแต่เราย่างเข้าสู่การทำ Social Distancing ภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักสุด เห็นจะเป็นกลุ่มพลังงานนี่เอง

    ยังไม่ต้องนับถึงวิกฤต Covid-19 ที่เกิดขึ้น บริษัทในกลุ่มธุรกิจพลังงานก็เจอความท้าทายมาอย่างต่อเนื่อง

    โดยก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกก็ประสบปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ ไม่ได้ทำธุรกิจอย่างมีความสุขเหมือนแต่ก่อนก็เพราะ การเกิดขึ้นของเชลล์ออย ในสหรัฐฯ และทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก แถมไม่ต้องไปเข้าร่วมการประชุมอะไรกับ OPEC เขาด้วย ปั๊มสบายๆคนเดียวเลย

    ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม OPEC และชาติพัธมิตร ต้องต่อสู้กับสงครามน้ำมันด้วยการจับมือกันลดกำลังการผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับ Demand ที่หายไป

    แต่เราเห็นแล้วว่า มันไม่พอ เมื่อ Saudi Aramco บริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลังคุยกับรัสเซียไม่รู้เรื่องเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมานี่เอง

    และถึงแม้ OPEC+ จะเพิ่งตกลงกันได้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า จะร่วมมือกันลดปริมาณกำลังผลิตลงวันละ 9.7 ล้านบาร์เรล ใน 2 เดือนหลังจากนี้ (ซึ่งตัวเลขนี้คิดเป็นเกือบ 10% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกเลยนะ) จนทำให้นี่คือดีลประวัติศาสตร์ เพราะ ถือเป็นการลดปริมาณกำลังผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในวงการน้ำมันโลกเลยทีเดียว

    แต่ที่เราเห็นก็คือ WTI Crude Oil เมื่อคืน ยังร่วงลงต่อเกือบ 2% ทำราคาปิดต่ำกว่า $20 เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี

    ซึ่งเหตุผลที่ราคาน้ำมันยังไปต่อไม่ได้ ก็เพราะ EIA ออกมาเปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐขยับขึ้นมาที่ 19.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรายงานทีเดียว

    และเอาจริงๆ สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเนี่ย ไม่ได้ลดลงเลยติดต่อกันเป็นเวลา 12 สัปดาห์แล้ว ก็สะท้อนว่า ฝั่ง Demand น่าเป็นห่วงจริงๆ

    เมื่อคืน สำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีรายงานด้วยว่า แม้มีการคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการ Social Distancing ลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ แต่ IEA ก็คาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะลดลง 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับปี 2019

    ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่ IEA รายงานจริง ก็เท่ากับล้างการขยายตัวของ Demand ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยวิกฤตครั้งนี้ครั้งเดียว

    เห็นตัวเลข 2 ตัวที่ใกล้เคียงกันไหมครับ

    1. OPEC+ ร่วมมือกันลดปริมาณกำลังผลิตลงวันละ 9.7 ล้านบาร์เรล
    2. IEA คาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะลดลงวันละ 9.3 ล้านบาร์เรล

    สรุปคือ สิ่งที่ OPEC+ พยายามทำ มันแค่ทำให้ปริมาณการผลิตสมดุลกับการใช้ที่ลดลง ก็เพียงแค่นั้น และตัวเลขที่ IEA คาดการณ์ นี่ก็มองแบบว่า เศรษฐกิจจะเปิดได้บ้างในครึ่งปีหลังนะครับ

    ความท้าทายของภาคธุรกิจที่เราต้องเจอหลังจากนี้ก็คือ

    รัฐบาล อาจผ่อนปรนข้อบังคับลง เพื่อให้ธุรกิจกลับมาเดินได้บ้าง แต่... ถ้าเราเป็นร้านอาหาร เราก็คงตั้งโต๊ะให้ห่างกัน รับคนได้น้อยลง หรือ ถ้าเราเป็นโรงภาพยนต์ ก็รับคนเต็มโรงไม่ได้ ต้องนั่งตัวเว้นตัว

    เราคงไม่กล้าขึ้นรถไฟฟ้าเบียดกับคนอื่นเยอะๆเหมือนก่อนขนาดนั้น และ ยังไม่กล้าเล่นกีฬาแบบปะทะตัวแบบได้กลิ่นเหงื่อกับคนข้างๆ

    พฤติกรรม และความระมัดระวังแบบนี้ จะอยู่กับเราไปอีกซักระยะ จากความ "เคยชิน" ที่เราทำอยู่เกือบเดือน

    หลายคนเริ่มค้นพบความสุขจากการอยู่บ้าน และเข้าใจมากขึ้นว่า แค่ลดค่าใช้จ่ายลงได้ เราก็มีเงินเก็บออมเพิ่มขึ้นอีกเยอะ

    ขณะที่หลายๆบริษัท เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน และใช้โอกาสนี้ในการลดต้นทุน และลดจำนวนพนักงานลง พึ่งพาเทคโนโลยีแบบจริงจัง

    ครับ บางทีเราก็ปรับโดยไม่รู้ตัว เพื่อให้เราอยู่รอด

    เมื่อวานช่วงเช้า IMF เพิ่งมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจโลก GDP ปีนี้ จากเดิมเดือนม.ค. ให้ไว้ว่าจะโต +3.3% ล่าสุด ปรับลดลงเป็น -3.0% ซึ่งก็แปลว่า เราเข้า Recession เรียบร้อยแล้ว

    ส่วนจะเป็น Global Depression ที่มีกูรูบางคนอย่าง Ray Dalio กังวลหรือเปล่า เราคงต้องมาดูกัน

    Gita Gopinath ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Chief Economist ของ IMF มีบอกกับสื่ออย่าง CNBC ว่า ทาง IMF ได้รับสายที่โทรเข้ามาถามถึงการขอระดมทุนแบบฉุกเฉิน จากสมาชิกมากถึง 90 ราย (จาทั้งหมด 189 ราย) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสมาชิกในประเทศกำลังพัฒนา

    กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้ มีกลุ่มคนรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำอยู่มาก ยิ่งพอเศรษฐกิจเสี่ยงถดถอย จะยิ่งทำให้คนเหล่านี้มีปัญหามากขึ้น และเกิด Wealth Inequality มากขึ้นตามไปด้วย

    พฤติกรรมของเราเองจะเปลี่ยนไป
    ในแง่ธุรกิจก็ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบตาม
    ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกก็จะมีหนี้ก้อนโตมหาศาลที่เพิ่งก่อขึ้นมาวันนี้

    ผู้อยู่รอดได้ จะกลับมาแข็งแรงกว่าเดิม
    แต่บางราย ก็อาจอยู่รอดแบบมีเครื่องช่วยหายใจอยู่ข้างไปตลอด

    เพราะโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

    Mr.Messenger รายงาน

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ด่วน ⚠️ ตัวเลขคนตกงาน สหรัฐออกมาเพิ่มอีก 5.25 ล้านคนในคืนนี้ (Initial Jobless Claim) จะยิ่งกดดันให้ทรัมป์รีบกลับมาเปิดเมืองเร็วขึ้นหรือไม่ ติดตามการแถลงของท่านประธานาธิบดีคืนนี้ !

    ตัวเลขการตกงานของชาวสหรัฐจากการปิด Lock Down ของเมืองยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆนะครับ รวมกันใน 4 อาทิตย์ที่ผ่านมามีผู้ตกงานไปแล้วถึง 22 ล้านคน หรือคิดเป็น 6.7% ของประชากรสหรัฐ (กราฟแนบในคอมเม้นท์)

    ตลาดหุ้น Dow Jones Futures ยังคงนิ่งๆในคืนนี้ เพราะตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ตกงาน 5.5 ล้านคน ทำให้ตัวเลขจริงยังต่ำกว่าอยุ่เล็กน้อย

    สิ่งที่น่าติดตามมากกว่าคือทางทรัมป์ได้ออกมากล่าวว่าเขาจะเปิดเผยแผนช่วยให้ประชาชนได้ออกมานอกบ้านและทำงานกันได้เร็วมากขึ้นผ่าน "Ease Stay At Home Rules" หรือการเปิดเมืองมากขึ้นนั้นเอง

    ทรัมป์กล่าวว่าข้อมูลล่าสุดที่เขาได้รับจากเจ้าหน้าที่นั้นแสดงให้เห็นว่าการระบาดของไวรัสในสหรัฐนั้นได้ #ผ่านจุดที่แย่สุด ไปแล้วและทรัมป์เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่สหรัฐจะกลับมาเดินหน้าสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอีกครั้งนึง ! ต้องเร่งเปิดประเทศให้ผู้คนออกมาทำมาหากิน !

    ⛔️ มาติดตามข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงทีกับเราได้ แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆที่ทันตลาดนะครับ ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มโอเปกคาดว่าการใช้น้ำมันในเดือนนี้นั้นหายไปเพียง 20 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ IEA และสำนักอื่นๆ ... รายงานนี้จะกระทบต่อการลดกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่ ?

    ทางกลุ่มโอเปกได้ออกรายงานประจำเดือนมาแล้วในคืนนี้ ตามหลัง IEA มาติดๆหนึ่งวัน โดยการใช้ที่โอเปกมองว่าหายไปนั้นน้อยกว่าที่ IEA (สำนักงานพลังงานสากล) รายงานไว้เมื่อวานที่ 29 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือเมื่อเทียบกับอีกหลายๆสำนักที่มองอยู่ที่ 30-35 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้ว

    ตัวเลขนี้ถือว่ากลุ่มโอเปกมองไว้ต่ำมากๆ เพราะทางเรายังไม่ได้เห็นนักวิเคราะห์ฝั่งไหนมองว่าการใช้น้ำมันจะหายไปน้อยว่า 25 ล้านบาร์เรลต่อวันเลยในเดือนนี้ เป็นไปได้ว่า #ทางโอเปกตั้งใจมองตัวเลขให้ต่ำ เพื่อที่จะพยามพยุงราคาและไม่ให้ตลาดตื่นกลัวต่อการใช้น้ำมันที่หายไป

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเห็นโอเปกพยายามดันตลาดด้วยข้อมูลในรายงานประจำเดือน

    มุมมองของ IEA และ OPEC ถึงแม้หลายๆครั้งจะใกล้เคียงกันเพราะทั้งคู่นั้นเป็นองค์กรพลังงานที่ใหญ่อันดับที่ 1 และ 2 ของโลก ทั้งคู่ย่อมมีข้อมูลมากมายและมีหูมีตาอยู่ทั่วโลก อย่างไรก็ตามมุมมองของทั้งคู่นั้นมากจากทางที่ตรงกันข้ามกันเลยอย่างสิ้นเชิง

    1️⃣ #OPEC คือกลุ่มผู้ผลิต - อยากให้ราคาน้ำมันแพงๆ ทุกๆครั้งที่ออกมาให้ข่าวหรือข้อมูลนั้นจะพยายามให้ข่าวในเชิงที่ดันราคาขึ้น

    2️⃣ #IEA คือกลุ่มผู้บริโภค - อยากให้ราคาน้ำมันถูกๆ ทุกๆครั้งที่ออกมาให้ข่าวนั้นก็จะพยายามให้ข่าวในเชิงที่กดราคาลง

    IEA นั้นคือกลุ่มของ 30 ประเทศผู้บริโภคน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด ทุกๆประเทศสมาชิกต้องอยู่ในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจหรือ OECD ทำให้ต้องมีการใช้น้ำมันเยอะเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แม้แต่ในวิกฤตราคาที่ต่ำในครั้งนี้ ทาง IEA ก็ยังได้ออกมาประกาศซื้อน้ำมันดิบเข้าเก็บใส่คลังน้ำมันสำรองทางยุธศาสตร์หรือ SPR ประมาณ 200 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในช่วง 2 เดือนข้างหน้าอย่างที่เราได้รายงานไป เพราะฉะนั้นทาง IEA ก็อยากจะให้ราคาน้ำมันยังไม่ขึ้นแพงขึ้นในช่วงนี้เป็นธรรมดา และหลายๆครั้งที่ราคาน้ำมันดีดขึ้นไปแรงๆเพราะตลาดตรึงตัว ทาง IEA ก็จะนำน้ำมันฉุกเฉินเหล่านี้ออกมาขายเพื่อบรรเทาตลาด

    เราควรเชื่อตัวเลขของใคร ?

    โดยปกติแล้วตัวเลขของทุกฝั่งมีความน่าเชื่อถือ แต่ในยามที่แต่ละฝั่งมีผลได้ผลเสียกับราคาสูงเราจึงควรแยกให้ออก ดูจากภาพรวมของการใช้ที่หายไปจากตลาดที่เราได้ยินอยู่ที่ 30-35 ล้านบาร์เรลต่อวันคราวนี้เราจึงต้องเชื่อ IEA มากกว่า เพราะตัวเลขโอเปกนั้นดูต่ำเหลือเกิน

    คำถามสำคัญที่เราต้องถามและติดตาม

    1️⃣ การลดกำลังการผลิตจะกระทบไหม ? จากตัวเลขนี้คงยังไม่กระทบแต่ถ้าราคาขยับขึ้นสูงการผลิตก็อาจจะไม่ได้ลดลงตามที่ทุกๆประเทศสัญญา การลดกำลังการผลิตของแต่ละประเทศจะจริงจังแค่ไหนนั้นจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในอนาคตของตลาดที่สำคัญ แต่เราคงต้องรอตัวเลขในเดือนหน้า

    2️⃣ การกลับมาของการใช้น้ำมันจะเร็วอย่างที่คาดไหม ? จะเกิดการระบาด Phase 2 หรือป่าว นักวิเคราะห์หลายๆคนยังมองว่าการใช้จะกลับมาในครึ่งปีหลัง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent สัญญาปลายปียังเทรดอยู่ที่ 40 เหรียญกว่าๆอยู่ คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดจากการรายงานการกลับมาเปิดประเทศต่างๆ เริ่มด้วยของสหรัฐในคืนนี้ที่ทรัมป์จะออกมาแถลง !

    ทางด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ยังซื้อขายอยู่ที่ 28 เหรียญในคืนนี้ บวกขึ้นมาเล็กน้อยเพียง +1%

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ติดตามกันคืนนี้ ⚠️ ทรัมป์จะเปิดเผยแผนช่วยให้ประชาชนออกมานอกบ้านได้เร็วมากขึ้นผ่าน "Ease Stay At Home Rules" หรือการเปิดประเทศมากขึ้นนั้นเอง ทรัมป์กล่าวว่าข้อมูลล่าสุดที่เขาได้รับจากเจ้าหน้าที่นั้นแสดงให้เห็นว่าการระบาดของไวรัสในสหรัฐนั้นได้ #ผ่านจุดแย่สุด ไปแล้วและทรัมป์เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่สหรัฐจะกลับมาเดินหน้าสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอีกครั้งนึง !

    "We Build the greatest economy in the world and I'll do it a second time"

    พวกเราได้สร้างเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและทรัมป์ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ประธานาธิบดีอีกสมัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง นี่เป็นคำกล่าวที่ทรัมป์ทิ้งไว้ในการสัญญาว่าจะนำเศรษฐกิจสหรัฐกลับมาจากวิกฤคครั้งนี้ให้ได้ (และเป็นการหาเสียงในเวลาเดียวกัน)

    การปิดประเทศและปิดสถานที่ธุรกิจต่างๆได้ทำให้ชาวสหรัฐตกงานไปแล้วกว่า 16 ล้านคนในช่วง 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ทรัมป์นั้นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะเร่งให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว โดยหลังจากปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและด้านสาธารณสุขแล้ว ทรัมป์ได้ตัดสินใจที่จะออกมาแถลงนโยบายในคืนนี้

    คืนนี้นักลงทุนต้องติดตามอะไรบ้าง ?

    1️⃣ ตัวเลข US Jobless Claim ว่าจะมีชาวสหรัฐตกงานเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนในอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทางตลาดคาดว่าจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นอีก 5.5 ล้านคน

    2️⃣ Earning Reports ตัวเลขงบและผลประกอบการของธุรกิจต่างๆในสหรัฐที่กำลังทยอยกันออกมาในอาทิตย์นี้

    3️⃣ และแน่นอนครับที่ #ที่สำคัญที่สุด การแถลงการณ์ของทรัมป์ในการกลับมาเปิดประเทศมากขึ้น ! ต้องมาติดตามดูว่าจะมีผลดีกับเศรษฐกิจหรือจะยิ่งกลับมาทำให้สหรัฐยิ่งเจอปัญหาไวรัสเรื้อรังกันแน่ ?

    ทุกท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ ? ลองเขียนมุมมองมาแชร์กับเราได้ ?

    สรุป - ดราม่าของทรัมป์ที่ยังกองสูงขึ้นเรื่อยๆในอาทิตย์นี้

    โดยปกตินั้นประธานาธิบดีทรัมป์จะออกมาทำอะไรให้ตลาดประหลาดใจจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ในอาทิตย์นี้นั้นประเด็นดราม่ากลับเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก จนทางเราต้องมาสรุปให้ทุกๆท่านฟังเผื่อใครจะพลาดเรื่องไหนไป

    1️⃣ ทรัมป์ประกาศที่จะงดให้เงินอุดหนุนองค์การอนามัยโลก (WHO) และกล่าวโทษว่าเหตุที่ไวรัสระบาดนั้นมาจากความผิดพลาดของ WHO จนทรัมป์กำลังถูกนานาชาติวิจารณ์อย่างหนัก

    2️⃣ เช็คเงินสดช่วยเหลือของรัฐบาลสหรัฐสู่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสนั้นต้องเกิดการส่งล่าช้าขึ้นมา 1 สัปดาห์ เพราะว่าทรัมป์ได้สั่งให้พิมพ์ชื่อของเขาลงบนเช็คทุกใบ (เพราะสงสัยกลัวว่าคนจะจำไม่ได้ว่าเขาเป็นผู้ออกนโยบายอนุมัติ)

    3️⃣ ทรัมป์ได้เปิดศึกวิวาทะกับผู้ว่าการรัฐและวุฒิสมาชิกต่างๆ เรื่องความเห็นต่างในการกลับมาเปิดเมือง โดยทรัมป์อ้างว่าเขามีอำนาจเบ็ดเสร็จในการสั่งยกเลิกมาตรการ Lock Down ซึ่งเป็นคำสั่งที่รัฐต่างๆออกมาใช้ด้วยตัวเอง เพราะว่ารัฐบาลไม่ได้มีคำสั่งออกมาและหลายฝ่ายกลัวว่าจะล่าช้าเกิดไปจึงสั่งปิดเมืองกันเอง

    มาติดตามดูประเด็นในคืนนี้กันครับ ว่าจะสร้างดราม่าเพิ่มหรือไม่และเศรษฐกิจสหรัฐจะได้ผลกระทบที่ดีหรือแย่ ? เพราะหลายๆฝ่ายโดยเฉพาะผู้ว่าการรัฐยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำสั่งของทรัมป์

    ⛔️ มาติดตามข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงทีกับเราได้ แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆที่ทันตลาดนะครับ ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ราคาน้ำมันดิบยังคงลดลงต่อเนื่อง -7% ในคืนนี้ ⚠️ หลังจากสำนักงานพลังงานสากลหรือ IEA ออกมารายงานผ่านรายงานประจำเดือนว่าข้อตกลงในการลดการผลิตครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศผู้ผลิตทั่วโลกนี้อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยประครองให้ถังน้ำมันทั่วโลกไม่เต็มในปีนี้

    หัวหน้าของสำนักงานพลังงานสากลนาย Faith Birol ได้ออกมากล่าวว่าการใช้น้ำมันของโลกในเดือนเมษายนนี้กำลังหายไปที่ 29 ล้านบาร์เรลต่อวัน (29% ของการใช้โลก) ถึงแม้ว่าการใช้น้ำมันจะกลับมาในครึ่งปีหลังนี้ได้ก็ตาม แต่โดยเฉลี่ยทั้งปีก็ยังหดตัวอยู่กว่า 9 ล้านบาร์เรลต่อวันอยู่ดี

    "การบริโภคน้ำมันในปัจจับันนี้นั้นอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปีเลยทีเดียวและถึงแม้ว่าทุกประเทศจะมาร่วมการลดกำลังการผลิตนั้นถังน้ำมันทั่วโลกยังมีสิทธิเต็มได้อยู่" Birol กล่าว

    สิ่งที่เราอยากอัพเดทที่สำคัญ

    1️⃣ สิ่งที่ตลาดน้ำมันกลัวที่สุดตอนนี้คือถังน้ำมันของโลกเต็ม เพราะจะทำให้ไม่มีแม้แต่ที่เก็บน้ำมัน ทำให้ผู้ผลิตขายของไม่ได้ต้องหยุดผลิตไปแต่โดยปริยาย จุดประสงค์ที่กลุ่มโอเปกออกมาลดกำลังการผลิตในระยะสั้นนั้นเพราะต้องการแค่ไม่ให้ถังเต็ม #แต่ถ้าถังยังเต็มการลดก็อาจจะไม่เกิดประโยชน์ อย่างที่เราได้กล่าวไปในบทความ "Flatten the Oil Curve" (จะแนบไว้ให้ในคอมเม้นท์นะครับ)

    2️⃣ IEA นั้นได้ออกมาเปลี่ยนคำพูด เพราะก่อนหน้านี้มองว่าถังน้ำมันจะเต็มภายในกลางปีถ้าไม่มีการลดกำลังการผลิต แต่ตอนนี้ด้วยการประเมินการใช้ที่ลดน้อยลงทาง IEA กลับเป็นห่วงว่าต่อให้ลดกำลังการผลิตแล้วถังน้ำมันอาจจะยังเต็มได้อยู่ในอนาคต... น่าเป็นห่วงมากทีเดียวครับ

    3️⃣ หน่วยงานที่มีข้อมูลด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุด 3 องค์กรณ์ของโลกคือ IEA, OPEC และ EIA (กระทรวงพลังงานสหรัฐ) โดยในวันพรุ่งนี้ทางโอเปกจะมาออกรายงานประจำเดือนต้องติดตามดูว่าทางโอเปกมีมุมมองเช่นไร และถ้าใครอยากทราบว่าถังน้ำมันในโลกนี้มีเหลืออีกซักเท่าไหร่ 3 องค์กรณ์นี้จะมีข้อมูลมากที่สุด

    4️⃣ อีกสิ่งที่ทาง IEA ได้ออกมากล่าวคือทางกลุ่มผู้ผลิตต่างๆยังพยายามเร่งการผลิตกันอย่างเต็มที่ในเดือนนี้เพราะข้อตกลงในการลดการผลิตนั้นจะเริ่มต้นขึ้นเดือนหน้า ทำให้ตลาดน้ำมันในเดือนนี้กำลังมีของล้นตลาดอย่างมากและกดดันราคาในระยะสั้น (อย่างที่ได้รายงานไปเมื่อคืนจากเรื่องของซาอุ)

    5️⃣ ด้วยปัจจัยข้อ 4 ทำให้ราคาน้ำมันของเดือนที่ส่งมอบในระยะสั้นโดยเฉพาะสัญญา WTI เดือน May และ Brent เดือน June นั้นจะไม่ได้รับอานิสงค์ของการลดกำลังการผลิตในเดือนหน้า (เพราะหมดอายุการเทรดก่อนสิ้นเดือนนี้) ทำให้ราคาของทั้งคู่นั้นต่ำกว่าราคาเดือนถัดไปถึง 8 และ 4 เหรียญตามลำดับ (Contango) ถือเป็นระดับที่ต่างกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะปัจจัยพื้นฐานของน้ำมันในเดือนนี้กับเดือนหน้านั้นจะต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อการลดกำลังการผลิตเริ่มขึ้น

    แนวโน้มราคาน้ำมัน

    ตอนแรกทางเพจเชื่อว่ากรอบราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ 30-35 เหรียญนั้นน่าจะเหมาะสมไปได้ซักระยะนึงหลังจากมีการประกาศลดกำลังการผลิต แต่ด้วยแรงเทขายจากนักลงทุนและเทรดเดอร์ทั่วโลกจนทำให้หลุดกรอบออกมานั้น ทำให้ทางเพจปรับมุมมองและเพิ่มน้ำหนักปัจจัยทางเทคนิคเข้าไปมากขึ้นและเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวลดลงไปทดสอบระดับที่ต่ำที่สุดของปีในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ได้

    แต่โดยรวมแล้วตลาดยังไม่น่าจะหลุดแนวรับนี้ไปได้เพราะสถานการณ์โดยรวมของตลาดนั้นจะดีขึ้นหลังจากจะมีการลดกำลังการผลิตในเดือนหน้า

    #ตอนนี้ตลาดน้ำมันนั้นกำลังต่อสู้อยู่กับทั้งไวรัสโควิดและเวลา เราเชื่อว่าเริ่มต้นเดือนหน้าการใช้ไม่น่าลดต่ำไปมากกว่าการผลิตที่ลดลงไป แต่ในระหว่างนั้นจนถึงสิ้นเดือนต้องระวังและติดตามดูว่าแรง Sentiment ลบต่างๆที่เข้ามาจะทำให้ราคาน่วงหลุดแนวรับของปีไปได้หรือไม่

    เรื่องของราคา WTI

    อีกอย่างที่ต้องเน้นย้ำคือ ราคาน้ำมันดิบ WTI นั้นคือราคาที่ส่งมอบที่รัฐ Texas ราคาน้ำมันดิบ WTI นี้ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายกับตลาดโลกหรือตลาดน้ำมันในบ้านเรามากนัก ผลกระทบของราคาน้ำมันในสิงค์โปร์นั้นยังมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมันดิบ Brent มากกว่า

    และราคาน้ำมันที่ลดลงไปอย่างรวดเร็วของ WTI นี้ก็เป็นเพราะปัจจัยที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ที่หายไปมากที่สุดในโลกจากการเป็นประเทศที่มีการระบาดมากที่สุด หรือแม้แต่การลดกำลังการผลิตทั่วโลกนี้ก็มีผลโดยตรงน้อยกับราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ เพราะตลาด WTI นั้นค่อนข้างจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐอย่างเดียว ตลาดนั้นไม่ได้เชื่อมต่อกับราคาโลกโดยตรง

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,663
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบผู้ติดเชื้อในซาอุดีฯ เพิ่มอีก 518 ราย (สูงที่สุดเท่าที่ผ่านมา) ยอดสะสม 6,380 ราย...
    รักษาหาย 990 ราย / เสียชีวิตรวม 83 ราย...

     

แชร์หน้านี้

Loading...