เรื่องเด่น อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๗๑ : พระธาตุชานหมาก

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 1 ตุลาคม 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,794
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,564
    ค่าพลัง:
    +26,402
    71.jpg
    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๗๑ : พระธาตุชานหมาก

    ความอัศจรรย์ต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนานั้น มักปรากฏให้เห็นอยู่เนือง ๆ เช่น การเหาะเหินเดินอากาศ การย่นระยะทาง การแยกร่างบิณฑบาต เป็นต้น แต่นั่นเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล คือผู้ที่ทำบุญมาร่วมกันมา ก็จะได้เห็นเป็นการเฉพาะตน...

    แต่ของที่สามารถพบเห็น และสัมผัสได้ด้วยคนหมู่มากก็มีอยู่ และยืนยงคงทนให้คนขี้สงสัยไปรู้เห็นด้วยตนเอง จะได้ไม่เป็นเรื่องคาใจที่ฟังแต่เขาเล่าว่า แต่อาตมาสงสัยว่าน่าจะคาใจหนักขึ้น เพราะว่าหาคำตอบไม่ได้มากกว่า...

    โบราณท่านว่า "คนเลวก็เลวจนเข้ากระดูกดำ" อาตมารับฟังมาแต่เด็กแต่ก็เฉย ๆ มาภายหลังได้พบทั้งพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุจำนวนมาก จึงได้คิดว่าไม่ใช่คนเลวที่เลวจนกระดูกดำเท่านั้น "คนดีก็ดีจนกระดูกเป็นแก้ว" ได้เช่นกัน...

    การที่ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมื่อมรณะแล้วกระดูกจะกลายเป็นพระธาตุหรือไม่ ขึ้นกับปัจจัย ๒ ประการ คือ

    ๑. อธิษฐานไว้ให้เป็น ท่านต้องการจะทิ้งสัญลักษณ์ เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้กราบไหว้บูชา ก็จะอธิษฐานให้กระดูกเป็นพระธาตุ

    ๒. พระท่านช่วยสงเคราะห์ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวกำลังใจของคนหมู่มาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะบันดาลให้กระดูกของท่านนั้น ๆ เป็นพระธาตุ

    บางท่านอาจจะคิดว่า พระท่านต้องมรณภาพและเผาแล้ว กระดูกถึงจะเป็นพระธาตุ ถ้าท่านคิดเช่นนั้นอาตมาขอบอกว่าคิดผิด เพราะอาตมาเคยพบเห็นมาด้วยตนเองว่า พระธาตุนั้นปรากฏขึ้นได้ แม้ว่าท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยังมีชีวิตอยู่ ตัวอย่างคือ

    หลวงปู่มหาอำพัน (พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์) วัดเทพศิรินทราวาส เกศาของท่านกลายเป็นไข่มุกเล็ก ๆ สีขาวนวล นับร้อยนับพันองค์ หลวงปู่อนุญาตให้อาตมานำไปเท่าใดก็ได้ แต่อาตมาสำนึกตัวว่าเก็บของดีขนาดนี้ไม่อยู่แน่ จึงไม่ได้นำมาเลย...!

    หลวงพ่อฤๅษี (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง เกศาของท่านที่ผู้อื่นเก็บไว้บูชากลายเป็นพระธาตุ อาตมาไปดูของตัวเองบ้าง เห็นรวมตัวกันเป็นก้อน ที่ยอดบนสุดขมวดปลายแหลมไว้นิดหนึ่ง ตรงยอดแหลมนั่นเองปรากฏพระธาตุอยู่ ๑ องค์...

    พระธาตุเกศาหลวงพ่อนี้ อาตมามอบให้นัน (นันฑิญา เหลืองถาวรกุล) ไปบูชา พอไปถึงบ้านของนัน ท่านก็แสดงปาฏิหาริย์ให้ดู เป็นแสงระยิบระยับเหมือนกับหิ่งห้อยบินวนเวียนเต็มไปหมดทั้งห้อง...!

    ส่วนพระธาตุของหลวงปู่-หลวงพ่อต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นหลังจากเผาแล้ว มีมากมายหลายองค์ ส่วนใหญ่เป็นอัฐิธาตุ (กระดูก) น้อยรายที่เป็นทันตธาตุ (ฟัน) หรือเป็นเกศาธาตุ (ผม) นอกเหนือยิ่งไปกว่านี้ ยังไม่เคยปรากฏมีมาก่อนในประวัติศาสตร์...

    แต่กฏทุกกฏย่อมมีข้อยกเว้น บัดนี้ปรากฏว่ามีสิ่งนอกเหนือกว่านั้นกลายเป็นพระธาตุแล้ว เนื่องจาก "หลวงพ่อ" ท่านไม่เคยไว้วางใจตนเองเลย แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงพยากรณ์ว่าถึงที่สุดของความดีแล้วก็ตาม...

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงมีรับสั่งว่า เพื่อความมั่นใจในมรรคผลของ "หลวงพ่อ" พระองค์จะบันดาลให้สิ่งของ ๓ สิ่ง ที่เกี่ยวข้องกับ "หลวงพ่อ" ให้เป็นพระธาตุ เพื่อยืนยันในความดี อย่างแรกที่เป็นพระธาตุคือเกศาของ "หลวงพ่อ" ดังที่กล่าวมาแล้ว...

    ต่อมาไม่นาน ทางศูนย์พุทธศรัทธาท่าลาน ซึ่งมีคุณชนะ สิริไพโรจน์ เป็นหัวหน้าคณะ ก็แจ้งข่าวมาว่า ชานหมากของ "หลวงพ่อ" กลายเป็นพระธาตุแล้ว พวกเราที่พบเห็นต่างอัศจรรย์ใจเหลือที่จะกล่าว...

    เพราะตั้งแต่โบราณจวบจนปัจจุบัน กล่าวได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนเลย ที่สิ่งของซึ่งห่างไกลจากขันธ์ห้าจนปานนี้ จะกลายเป็นพระธาตุ พวกเรากราบไหว้บูชาด้วยปีติเหลือขนาด พลางชมความงามอันมหัศจรรย์ และจดจำบันทึกไว้ในดวงจิต...

    ส่วนที่เป็นพระธาตุแล้วเป็นแก้วสีแดงสดใสเหมือนทับทิม ส่วนที่ยังไม่เป็นก็เป็นสีเขียวของหมากพลูอยู่ บางชิ้นก็เป็นแก้วครึ่งหนึ่งเป็นพลูครึ่งหนึ่ง ดูครึ่งเขียวครึ่งแดง งดงามพิสดารบอกไม่ถูก เห็นปุ๊บก็เชื่อได้เลยว่าเป็นของแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์...!

    ปกติแล้ว "หลวงพ่อ" ท่านไม่เคยคายชานหมากเลย พอเคี้ยวแหลกท่านจะกลืนลงไปหมด เพื่อรักษาโรคทางท้อง มีคราวเดียวที่คายออกมาและกลายเป็นพระธาตุ ซึ่งท่านบอกว่า “ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องคายเอาไว้...”

    ต่อมาชานหมากที่ท่านตำแจกก็ดี หางพลูที่ท่านโยนให้ยามฉันหมากก็ดี ต่างกลายเป็นแก้วด้วยกันทั้งนั้น ของที่ห่างไกลขันธ์ห้าของ "หลวงพ่อ" จนปานนี้ยังกลายเป็นแก้วได้ แล้วดวงจิตที่อยู่ภายในของ "หลวงพ่อ" นั้น จะเป็นดวงแก้วที่สว่างไสวถึงปานใดหนอ...?

    ๓๐ กันยายน ๒๕๓๕
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...