เรื่องเด่น ครูบาบุญชุ่ม เคยจะลาพุทธภูมิ3ครั้ง แต่ลาไม่ได้

พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ปท.พม่า ผู้มาอธิฐานจิตแผ่เมตตา ให้กับ #ทีมหมูป่า

เกิดเมื่อวันอังคารที่ 5 ม.ค. 2508 เวลา 09.00 น. ที่หมู่บ้านแม่คำหนองบัว ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย มีชื่อเดิมว่า บุญชุ่ม ทาแกง เป็นบุตรของ พ่อคำหล้า แม่แสงหล้า ทาแกง โดยก่อนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ได้ฝันว่า ได้ขึ้นภูเขาไปไหว้พระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่เหลืองอร่าม แล้วสะดุ้งตื่น
.
เมื่อช่วงวัยเด็ก เคยป่วยด้วยพิษไข้มาลาเรีย เกือบเอาชีวิตไม่รอด คุณแม่แสงหล้าจึงนำไปฝากไว้กับญาติผู้ใหญ่ คือแม่คำ พ่อคำหล้า

.
การดำเนินชีวิตของท่านได้รับความลำบากทุกข์ยากต่างๆ แต่กลับทำให้พระครูบาเจ้าฯ มีความเข้มแข็ง อดทน เป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ดังในช่วงที่ท่านอยู่กับลุงน้อยจันตา มีลูกเลี้ยงของลุงเป็นคนเชื้อสายเขมร รังแก บังคับ ตีต่อย ให้ทำงานหนัก แต่ท่านก็ไม่ถือสาหาความ เพราะท่านผ่านความทุกข์ใหญ่หลวงมามากแล้ว เรื่องแค่นี้ท่านมีความเข้มแข็ง ผ่านพ้นไปได้และมีอยู่วันหนึ่ง หลังจากหยุดพักจากงานและนั่งพักผ่อน ท่านมีนิสัยที่ชอบชุ่มชื่นรื่นเริงจึงขับร้องเล่นซอเมืองเหนืออย่างสบาย อารมณ์ คนงานในบ้านก็โกรธท่านหาว่าเกียจคร้าน เอาก้อนดินใหญ่มาขว้างปาใส่หัวจนเจ็บและมึนงงไปหมด เกือบสลบ แต่ท่านก็ไม่บอกเรื่องที่ถูกคนใช้ทำร้ายให้กับคุณลุง คุณป้า เพราะกลัวคนทำจะเดือดร้อนถูกไล่ออก
.
เมื่อปี 2517 ได้เข้ามาเป็นเด็กวัด ที่วัดบ้านด้าย จนปี 2519 ท่านได้บวชเรียนตามปณิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่เยาว์วัย โดยได้บรรพชาเป็นสามเณรที่ วัดศรีบุญยืน ตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีพระครูหิรัญเขตคณารักษ์ วัดศรีบุญเรือง อำเภอแม่จัน เจ้าคณะอำเภอเชียงแสนเป็นพระอุปัชฌาย์ จนต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี 2529 และได้จาริกไปตามที่ต่างๆ มากมาย ทั้งภาคเหนือของไทย พม่า เนปาล อินเดีย ภูฏาน ฯลฯ
.
พระครูบาบุญชุ่ม เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทยในแถบภาคเหนือ ประเทศลาว ประเทศพม่า รวมไปถึงสมาชิกพระราชวงศ์ภูฏานด้วย
.
สถานที่ตั้งที่พำนัก ของ "พระครูบาพ่อบุญชุ่ม" ถ้ำพระโพธิสัตย์ราชคฤห์ แม่แก้ เมืองงาว จ.ลำปาง ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เป็นถ้ำหินปูนอีกแห่งหนึ่ง มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านแม่แก้ อำเภองาว จังหวัดลำปาง การเดินทางใช้เส้นทางรถยนต์จากอำเภองาวถึงหมู่บ้านแม่แก้ ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร และเดินทางเท้า เข้าไปยังถ้ำประมาณ 300 เมตร
.
องค์พ่อครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร เคยบอกว่าเคยลาพุทธภูมิแล้ว 3 ครั้ง แต่ลาไม่ได้ เพราะได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านเป็นพระนิยตโพธิสัตว์ พวกเราบอกว่าขอเป็นสาวกของท่านได้ไหม ท่านบอกว่าไม่ต้องรอ มันนานมาก
ถ้าท่านลาพุทธภูมิได้ท่านจะเข้าพระนิพพานชาตินี้เลย เพราะท่านพูดว่าท่านเบื่อการเกิดมากเกิดมาแล้วก็เป็นทุกข์ทั้งสิ้น ท่านบอกว่าถ้าเข้าพระนิพพานได้ก่อนให้เข้าพระนิพพานไปเลย
.
องค์พ่อครูบาท่านรักในหลวงมาก ท่านบอกว่าได้สวดมนต์แผ่เมตตาให้ในหลวงทุกวัน
.
องค์พ่อครูบาบอกว่าจะไม่ด่าว่าใคร เพราะมีวาจาสิทธิ์ เคยว่าคนที่ชอบ ลักเงินทองของพระว่าเทวดาจะไม่รักษาชีวิตภายใน 7 วันจะเสียชีวิต แล้วผู้ชายคนนั้นก็เสียชีวิตจริงๆ โดยประสบอุบัติเหตุ
.
องค์พ่อครูบาท่านบอกว่ามีบางคนคิดไม่ดี ที่เห็นท่านแจกเงินชาวบ้านความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น ลูกศิษย์ที่มาถวายท่าน ท่านก็ถวายต่ออีกท่านบอกว่ามีหมื่นก็แจกหมื่น มีพันก็แจกพัน ไม่ได้ยึดติดในเงินทองเพราะศรัทธาญาติโยมนำมาทำบุญด้วย ที่ท่านแจกเพราะท่านได้เผยแพร่บุญให้กับคนที่บริจาคกับท่านให้ได้บุญมากๆ ขึ้น
.
ท่านสั่งให้ลูกศิษย์ทำโกฏบรรจุศพท่าน ท่านไม่ต้องการให้เผาร่างท่าน เพราะยุงตัวเดียวท่านยังไม่ตบเลย ถ้าเผาท่านกลัวว่า มดดำ มดแดง สัตว์เล็กสัตว์น้อย จะตาย
.
ท่านกล่าวว่าคนที่จะมาพบท่านได้นั้น เหมือนคนที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ ที่มาพบกับท่านได้สนทนาธรรมใกล้ชิดกันนั้น ต้องมีบุญสัมพันธ์กันมาก่อนถึงจะได้มาพบกัน ท่านกล่าวไว้ในคืนวันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2553
.
ครูบาบุญชุ่ม สอนว่า ในโลกจักรวาลนี้ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร ทุกสิ่งทั้งปวงเกิดดับตามเหตุปัจจัยไหลไปผ่านมาและผ่านไป ไม่มีอะไรเหลืออยู่ ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นด้วยสิ่งใดทั้งโลกนี้และโลกหน้า จงตั้งจิตอุทิศชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนี้ ถวายเป็นพุทธบูชา น้อมจิตภาวนาให้รู้แจ้งในรูปนามและสังขารอันไม่เที่ยงทุกข์ เป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตนเราเขาอะไร รู้แจ้งด้วยปัญญาตามความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไร
.
พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า ทุกข์ควรกำหนดรู้ สมุทัยเหตุให้เกิดทุกข์ควรประหาร นิโรธ ควรทำให้แจ้ง มรรคควรเจริญภาวนาให้เกิด ธรรมะทุกอย่างรวมอยู่ที่จิตดวงเดียว เมื่อจิตรู้ จิตตื่น จิตเบิกบานอย่างยิ่งแล้วย่อมพ้นจากทุกข์ การบำเพ็ญธรรมปฏิบัติธรรมนี้ไม่ได้หวังเพื่ออะไรเป็นอะไรสักอย่าง แต่เป็นไปเพื่ออยู่เย็นเป็นสุขในชีวิตประจำวัน เพื่อความหมดห่วงหมดอาลัยในโลกทั้งสาม เพื่อนิพพานเท่านั้น ขอให้ทุกคนตั้งใจจริงทำจริงปฏิบัติจริงต่อธรรมะ อย่าท้อถอยเอาชีวิตเป็นเดิมพันถึงจะตายด้วยการปฏิบัติธรรมก็ยอม ให้มีกำลังใจเข้มแข็ง และทำจิตให้อ่อนโยนอ่อนน้อมถ่อมตน
.
อย่าคิดว่าเราเป็นคนสำคัญให้ทำตนแบบปกติธรรมดาๆ นี่แหละดีที่สุด

เมื่อเราคิดว่าเราเป็นคนสำคัญแล้ว เมื่อผู้อื่นไม่ให้ราคาเรา ไม่นับถือให้ความสำคัญเราแล้ว จิตใจเราจะเป็นทุกข์ร้อนรนสับสนวุ่นวายไปตามกระแสโลกธรรม


ขอให้ตั้งใจให้ดีมีสติทุกเมื่อ ทุกขณะจิต เพียงแต่รู้เฝ้า ดูเฝ้าเห็นกายกับใจเคลื่อนไหวไปตามเหตุปัจจัย เป็นเพียงรูปธรรมนามธรรมเท่านั้น เป็นเพียงก้อนทุกข์ ก้อนธาตุ เท่านั้น ไม่ควรไปให้ราคาตัวเองและวัตถุธาตุ สิ่งใดไม่ควรมั่นหมายผูกพันกับสิ่งใดในโลก เราอยู่ในโลกอย่าหลงมายาของโลก ไม่ติดไม่ข้องแวะเกี่ยวกับสิ่งในใจ มีแต่ใจรู้แจ้ง ปล่อยวางสู่ความว่างสภาพเดิมของธรรมชาติแท้
.
ครูบาบุญชุ่มเทศน์ในตอนท้ายว่า ขอให้ทุกคนจงตั้งจิตตั้งใจให้ดี เราจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ยาก จะได้มาพบพุทธศาสนาก็ยาก จะพบพ่อดีแม่ดี ครูบาอาจารย์ที่ดีก็ยาก ได้สร้างบารมีมาถึงวันนี้ อายุเราจะยืนมาถึงวันนี้ไม่ใช่ง่าย เราป่วย เราไข้หลายครั้งเพราะว่าทุกดวงจิต ทุกชีวิต ทุกวิญญาณก็เป็นไปตามกฎของทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มันไม่อยู่เหมือนเดิม ก็ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ฉะนั้นเราได้ประคับประคองธาตุขันธ์ของเราอายุของเรามาถึงวันนี้บุญที่สุดแล้ว และเราจะอยู่ต่อไปอีกกี่ปี กี่เดือน กี่วัน กี่ยาม ก็แล้วแต่บุญกุศลของเรา แล้วแต่ธาตุขันธ์ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของสมมุติ เรายืมเขามาโดยมีธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลมและก็ประกอบด้วยขันธ์ทั้ง ๕ มีรูปธรรมนามธรรมเกิดดับอยู่ตลอด


...เมืองหมอก

ข้อมูลโดย ราชสีห์ จิตอาสา

************************************

 

พระพุทธเจ้าตรัสหนึ่งไม่มีสอง
ผู้ที่รับการพยากรณ์ยังไงก็ต้องได้เป็น ชีวิตนี้โชคดีมากที่ได้กราบผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ และ
ได้รับคำพยากรณ์ถึง6 พระองค์




*********************************

 

ลูกขอกราบนอบน้อมนมัสการ
หลวงปู่ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร
ท่านเคยมาวัดท่าซุงปี18หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุงบอกว่าท่านเป็นสามเณรทรงสมาบัติ8ลองอ่านดูนะครับ
ใครไปปรามาสท่านระวังนะครับอเวจีรออยู่นะครับ


สามเณรสมาบัติ 8

ปี 2518 ปีแรกที่หลวงปู่ชุ่มมาวัดท่าซุง ท่านก็มากับสามเณรน้อยอายุ 8 ปีรูปหนึ่ง พ่อบอกว่า หลวงปู่ชุ่มเป็นพระอรหันต์ทรงปฏิสัมภิทาญาณ เวลาท่านมองเรานี่ มองเหมือนมองผ่านอากาศ โธ่เอ๋ย จะให้ความสำคัญเราสักนิดเหมือนยิ้มกับลูกหมาก็ไม่ได้ นี่เป็นจริยาอาการปกติของท่าน ผู้เขียนนึกไปโน่น นึกถึงอากาสานัญจา วิญญาณัญจา อากิญจัญญา เนวสัญญานาสัญญา แปลว่าอะไรก็ไม่รู้ล่ะ อรูปฌานทั้ง 4 นั่นแหละ ใจท่านคงทรงอารมณ์นั้นๆแหละจนชิน เวลาไม่มีธุระจะพูดจะคุยกับผู้คนก็อย่างนั้นแหละ มองอะไรเป็นอากาศ ไม่มีเหลือเลย จะว่าจำได้ รู้จักมักคุ้นก็ไม่ใช่โอยผู้เขียนเกรงหลวงปู่องค์นี้มาก จะว่าไม่รู้จักไม่สนใจก็ไม่ได้ เพราะเวลาท่านจะเอาธุระกับเรา ตายังงี้มีประกายหมายมั่น เสียงติดดุๆเอาด้วย

ที่พูดถึงสามเณรที่มาด้วยนั้น ก็เพราะว่าหลวงปู่เป็นยังไง เณรก็แทบจะอาการเดียวกัน นั่งมองอะไรยังงี้ดูทะลุผ่านเลยเรา เข้าไปประเคนถวายข้าวน้ำนี่ เอามือรับ แต่ตานี่เหมือนเหม่อ ไม่สนใจเรานัก คุณตั้ว ศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อ ซึ่งเป็นคนรับหน้าที่รับใช้พระที่กุฏิ 6 พูดถึงสามเณรว่า

"เณรนี่ ท่าจะไม่ค่อยเต็ม ดูเหม่อๆยังไงบอกไม่ถูก"

แต่แล้ววันรุ่งขึ้น ก็ต้องรีบไปกราบขอขมาท่านเณร เพราะพ่อเรียกตัวเข้าไปบอกว่า

"แกอยากลงนรกหรือ เณรนั่นทรงสมาบัติแปดได้เป็นปกติ อย่าปากหมาหาเรื่อง"

แล้วคืนนั้นแหละยืนยันกันชัด นี่ขอเล่าเรื่องสามเณรให้จบขาดไปก่อน

คืนนั้น พ่อก็จัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลในพระอุโบสถ พระเถระที่มีโอกาสได้เข้าไปนั่งล้อมวัตถุมงคลมี 11 องค์ คือ พ่อ หลวงปู่พระสุปฏิปันโณอีก 10 แถมสามเณรหนึ่งองค์ เอาแล้วซี ตอนพระอาจารย์ทั้งหลายพรมน้ำมนต์ที่วัตถุมงคล

หลวงปู่ชุ่มให้สามเณรพรมแทน

ขอเล่าต่อถึงตอนงานเสร็จสิ้น หลวงปู่ชุ่มพาสามเณรไปลาพ่อกลับลำพูน จำได้ติดตาตรึงใจว่า พ่อกับหลวงปู่ชุ่มนั่งเก้าอี้เหล็กสีแดงบนพื้นลูกรัง จุดนั้นปัจจุบันนี้คือศาลารายข้างพระอุโบสถ ด้านหลังรูปหล่อหลวงพ่อใหญ่ ส่วนสามเณรนั่งกราบกับพื้น พ่อมองเณรด้วยสายตาที่นุ่มนวลชื่นชมนักหนา

"รักษาตัวให้ดีลูกเอ๊ย ต่อไปเณรจะเป็นผู้รับคุณธรรมทั้งหมดของหลวงปู่ไว้ได้ หลวงปู่เป็นยังไง ลูกก็จะเป็นอย่างนั้น

พูดจบก็ส่งเหรียญหลวงปู่ปาน ข้างหลังมียันต์เกราะเพชรให้เณรเหรียญหนึ่ง ผู้เขียนก็ยื่นมือเข้าไปบ้าง แล้วก็หยุดถอยกลับออกมา 3 วา เพราะสายตาพ่อที่มองมาที่เราไม่นุ่มแล้ว โอย เขียวกล้า แปลว่า อย่าเสือกได้ไหม!

ถึงเวลานี้ สามเณรองค์นั้นอยู่ที่ไหนหนอ ปี 2518 อายุครบ 8 ปี ... 2543 นี้อายุก็ได้ 33 ได้ยินแล้วกรุณาตอบด้วย คิดถึงเหลือเกิน จะพาลูกหลานไปกราบ

ที่มา:หนังสือ บนเส้นทางพระโยคาวจร วัดเขาวง หน้า ๑๐๗

...........................................................................

ถาม : เจอครูบาบุญชุ่มตั้งแต่เมื่อไร ?
ตอบ : เจอมาตั้งแต่ก่อนบวช เจอตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร เจอหน้ากันทีไรท่านเรียกหลวงพี่จ่อย คำว่าจ่อยภาคเหนือแปลว่าเล็ก ท่านบวชอยู่กับหลวงปู่ครูบาชุ่ม พอสิ้นหลวงปู่ครูบาชุ่มก็มาอยู่กับหลวงปู่ครูบาธรรมชัย คราวนี้ทางด้านเหนือจะเคารพพระที่บวชตั้งแต่เป็นเณรเพราะถือว่าบริสุทธิ์ ท่านเองปฏิปทาการปฏิบัติเคร่งครัดอยู่แล้ว คนก็นับถือศรัทธามาก คนขึ้นมากขึ้นทุกที ๆ จนเป็นพันเป็นหมื่น ทหารพม่าก็เลยไล่ท่านออกมา ไม่ให้อยู่ที่เมืองพง เพราะพวกพม่ากลัวว่าจะพาคนไปประท้วงรัฐบาล ถ้าพระรูปไหนมีลูกศิษย์ลูกหามาก โดนพวกทหารพม่าเล่นงานหมด เขาระแวงว่าจะพาไปประท้วงรัฐบาล ก็น่าระแวงอยู่หรอก บ้านเราพระยังไปนำม็อบเลย..!

ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๖

 

ความเมตตาของพระมหาโพธิสัตว์ไม่มีประมาณ
เป็นไปตามที่ครูบาท่านบอกทุกประการ
- เด็ก 13 คนยังปลอดภัย
- อีกสองสามวันจะเจอ
- อยู่ไม่ไกลจากพัทยาบีช
ยิ่งเพิ่มความศรัทธาในองค์ท่านทวีคูณ

น้อมกราบฝากกระแสโมทนาบุญกับครูบาบุญชุ่มครับ

 

***************************************************************************************

 

...........

 

สำหรับมนต์คาถาต่างๆ ครูบาบุญชุ่ม ท่านได้ให้ไว้แก่สานุศิษย์และญาติโยมผู้ศรัทธา ตามปรากฏในคลิป

เผยแผ่โดย Patjang Pat เมื่อคราวที่ครูบาบุญชุ่มมาเป็นประธานทอดกฐิน ที่วัดขัวแคร่ จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 13 เดือนพฤศจิกาน 2556 ซึ่งมีปรากฏอยู่ 5 คาถาด้วยกัน ดังต่อไปนี้
มนต์คาถาเงินหมื่นล้าน แสนล้าน พันล้าน (ไม่จน)
โอมนะโมพุทธายะ นะ มะ พะ ธะ ยะ นะ มะ อะ อุ นะโมพุทธายะ เกสุสุวัง สะสะยายันตัง สังเก นะรันยายะเป
คาถาลอดช่อง “เกสุสุวัง เกสุสุวัง เกสุสุวัง”
คาถาแคล้วคลาด “นะ มะ อะ อุ นะโมพุทธายะ นะ มะ พะ ธะ ยะ นะชาลิติ”
คาถาครอบจักรวาล “เกสุสุวัง สะสะยายันตัง สังเก นะรันยายะเป เกสุสุวัง สะสะยายันตัง สังเก นะรันยายะปิ”
คาถาป้องกันสารพิษ ป้องกันภัยอันตรายทุกอย่าง “ทะสะขะ สะมังวิสาตุ ทะสะขะ สะมังวิสาตุ ทะสะขะ สมังวิสาตุ”

 

ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร บอกว่า

ท่านไม่ยึดติดในพุทธนิกายไหน ทั้งเถรวาท มหายาน วัชรยาน
ได้หมด ... #เพราะทุกนิกายมีพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน

ก่อนจะสวดบทมนต์แผ่เมตตาของ พระโพธิสัตว์กวนอิม
และสวดมนต์แบบพุทธวัชรยาน เป็นภาษาธิเบต

อุทิศให้ นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เรือล่มในทะเลภูเก็ต
และจ่าแซม วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน เชียงราย
......

Cr. Ake Akeakkee ,
Kahfookchang Kahfookchang
***************************************

 

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2561 วันนี้เป็นวันออกพรรษา และเป็นวันที่พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร ออกกรรมสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2561 ที่ผ่านมาพระครูบาพ่อบุญชุ่ม ได้เข้ากรรมปฎิบัติพระกรรมฐานในถ้ำ 3 เดือนในช่วงเข้าพรรษามาเป็นระยะนานกว่า 40 ปี ที่ปฎิบัติตนตามแนวทางพระป่าอรัญวาสี โดยการปิดวาจา ไม่พูด ไม่พบเจอผู้ใด ตลอดพรรษา และ ในวันออกพรรษานี้ ปี พ.ศ.2561 คณะศิษย์ได้เข้ากราบนมัสการนิมนต์พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร ออกจากกรรมฐาน และออกถ้ำเมืองแกส รัฐฉานในวันนี้ เพื่อโปรดคณะศิษย์และคณะศรัทธา และท่านได้แสดงธรรมะ เพื่อเป็นธรรมะทานแก่คณะศิษย์ ทางคณะศิษย์ของพระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร ขออนุโมทนา และกราบสาธุการไหว้สาพระครูบาพ่อบุญขุ่ม ญาณสํวโร ให้คุ้มครอง ปกปักรักษาให้เหล่าคณะศิษย์ พบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง พบดวงตาเห็นธรรม มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ตลอดไปด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

Today is the end of lent period, and it is the day that Phra Krubapor Boonchoom Yanasangwaro withdraws from Kamatarn practice. Phra Krubapor Boomchoom has been in the cave practicing Kamatarn for the entire 3 months lent period since July 26, 2018, without speech and refrained from seeing anyone. It is a practice of the forest monk tradition that Phra Krubapor Boonchoom had continued to practice each and every year, for 40 years now.

In exiting the lent period this year of 2018, today, a congregation of disciples went to pay homage and invited Phra Krubapor Boonchoom Yanasangwaro to withdraw from Kamatarn practice, and exit from the cave in Muang Gas, Shan State. In an act of compassion, Phra Krubapor Boonchoom gave a dhamma sermon to the congregation, as a dhamma-gift for their happiness and well-being.

We, the disciples of Phra Krubapor Boomchoom Yanasangwaro, would like to rejoice and pay homage to Phra Krubapor Boonchoom Yanasangwaro. May he bless all disciples to be free from harms, may we all encounter only happiness and success, may we all gain the insight to penetrate the true dhamma, and may we all dwell in good health and well physical being. Satu Satu Satu!


***********************************

 

จากข่าวสารที่แชร์กันทั่วตอนนี้


เนื้อข่าวจริงๆ ท่านแค่ทำพินัยกรรมจัดการศพ ท่านไม่ได้ระบุวันเดือนปีที่จะมรณะภาพ คัดบางตอนที่ครูบาท่านให้สัมภาษณ์กับนักข่าว

พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร หลังจากเทศธรรมะเสร็จ ได้กล่าวถึงเวลาที่ท่านจะสังขารเมื่อไร ให้ทำอย่างไรบ้าง กล่าวไว้เป็นภาษาไตยได้ชัดเจนมาก "เมื่อท่านตายแล้วห้ามทำพิธีใดๆ ทั้งนั้น เก็บไว้ 5 วันพอ ตายแล้วให้เอาไปไว้เมืองพง ไม่ว่าจะตายที่ไหน ห้ามเผาให้เอาใส่โกฏิทำจากหินพม่า(หินขาวมัณฑะเลย์) ท่านจะนั่งตายแบบพระธิเบต ตายวันไหนให้เอาใส่วันนั้นห้ามให้พ้นเวลา 9 โมงกลางคืน แล้วให้เอาน้ำผึ้งป่าใส่ทางปาก ระหว่าง 3 วันไม่ต้องปิดฝาโกฏิให้เอาน้ำมันผักกาดทาทั่วร่างกาย เมื่อครบ 3 วันก็ให้ปิดฝาโกฏิ ให้เก็บศพท่านที่วิหารภูฏาน 5 วัน เมื่อครบ 5 แล้วให้นำไว้ใกล้เจดีย์แม่แสงหล้า ท่านบอกว่า แม่อยู่ไหนท่านก็จะอยู่ตรงนั้น"

 

ครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสังวโร
พระโพธิสัตว์สามแผ่นดิน (ไทย-พม่า-ภูฏาน)
#ตนบุญเมืองเหนือ

 

พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ได้แสดงธรรมและให้พรกล่าวเป็นภาษาจีน เนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างออกแสดงธรรมไปตามเมืองต่างๆ ที่ประเทศภูฏาน

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ยังอยู่แสดงธรรมให้กับลูกศิษย์และคณะศรัทธาที่ประเทศภูฏาน ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม โดยพระครูบาจะเดินทางไปที่ต่างๆ ที่มีคณะลูกศิษย์อาศัยอยู่เพื่อแสดงเทศนาธรรม

ลูกศิษย์พระครูบาบุญชุ่ม ที่ร่วมเดินทางไปพระครูบาบุญชุ่ม ได้เปิดเผยว่า ตลอดที่อยู่ในประเทศภูฏาน พระครูบาจะออกแสดงธรรมให้กับคณะศรัทธาท่าน ไปตามเมืองต่างๆ และนำคณะลูกศิษย์ไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศภูฏาน จนท่านทราบว่าในวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน พระครูบาได้แสดงธรรม และกล่าวให้พรญาติโยมเป็นภาษาจีน ซึ่งสร้างความดีใจให้กับพี่น้องคนจีนอย่างมาก พร้อมทั้งได้พนมมือไหว้ ส่วนพี่น้องไทยใหญ่ต่างเปล่งเสียงว่า สาธุๆ




ขณะที่ พลเอกสุทัศน์ จารุมณี ประธานมูลนิธิดอยเวียงแก้ว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สถานปฏิบัติธรรมที่พระครูบาบุญชุ่ม ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจในช่วงที่ท่านเดินทางเข้ามา อ.เชียงแสน ได้เขียนในหนังสือ ปาฏิหาริย์แห่งการให้ ของพระครูบุญชุ่ม ว่า ปฏิปทา บารมี ศีลาจาวัตร และการให้ทั้งหลาย ที่ท่านพระครูบาบุญชุ่ม บำเพ็ญมาจนถึงทุกวันนี้ ผมเชื่อว่ายังมีอีกมากมายที่พวกเรายังไม่รู้ หรือเพิ่งจะรู้ทีละน้อย ว่าท่านได้ให้อะไร กว้างไกลเกินกว่าใครจะรู้เห็นได้



“แม้แต่ตัวเอง ทั้งที่มีโอกาสใกล้ชิดอยู่บ้าง และคอยรับรู้ปฏิปทาของท่านมานานหลายสิบปี ก็รู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นานนี้เอง โดยที่ชอบฟังธรรมจากพระสงฆ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีพระเถรานุเถระทั้งหลายในสังฆมณฑล ตลอดจนท่าน ว.วชิรเมธี และได้ติดตามงานของพระสงฆ์ในต่างแดนหลายรูป มีพระอาจารย์ ดร.คำหมาย ธัมมสามิ ชาวเมียนมา เชื้อสายไทใหญ่ เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหารออกซฟอร์ด ผมจึงได้รู้เห็นถึง การให้ ของพระครูบาบุญชุ่ม ในระดับสากลมากขึ้น” ประธานมูลนิธิดอยเวียงแก้ว กล่าว.



ขอขอบคุณที่มา
https://www.thairath.co.th/content/1486953

 

#โอวาทธรรม
#พระครูบาพ่อบุญชุ่ม #ญาณสํวโร #อรัญวาสีภิกขุ
ไม่ห่วงข้างหลัง
ไม่ห่วงข้างหน้า
เฝ้าดูจิตปัจจุบัน
มีสติทุกเมื่อเป็นทางนิพพาน

 

#บทธรรมเรื่องธรรมธาตุโดยแท้ #ตอนที่1

#เมตตาธรรมครูบาพ่อ #พระครูบาบุญชุ่มญาณสํวโร

วันที่ ๑๖ เดือนสิงหาคม ๒๕๕๑
ธรรมะเมตตาจากพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ แห่งถ้ำมหาโพธิสัตว์ราชคฤห์ เมืองงาว จ.ลำปาง เข้าพรรษาในถ้ำปี พ.ศ.๒๕๕๑ ธรรมะเมตตาเรื่อง ธรรมธาตุโดยแท้

ต่อนี้ไปเป็นกาลอันมงคลยิ่งที่เราจะได้กล่าวข้อธรรมะ หัวข้อเรื่องธรรมธาตุโดยแท้ ขอให้ท่านทั้งหลายผู้แสวงหาสัจจะจงตั้งจิตอันเลื่อมใสอยู่ในอาการอันสงบ ตั้งใจอ่านฟังธรรมะขององค์สมเด็จบรมครูพระสัพพัญญูผู้มีพระมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ในสรรพสัตว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอน้อมกราบไหว้บูชาอย่างยิ่งซึ่งคุณพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้นำสัตว์โลกข้ามพ้นโอฆะวัฏฏะสงสารให้ถึงฝั่งข้างหน้าคือ พระนิพพาน อันเป็นแดนเกษมยิ่ง ข้าพเจ้าขอบูชาคารวะอย่างยิ่งซึ่งพระพุทธองค์อันมีพระคุณหาประมาณมิได้ด้วยเศียรเกล้าในกาละทุกเมื่อแล ข้าพเจ้าขอน้อมกราบบูชา พระสัจธรรมเจ้าด้วยเศียรเกล้าในกาละทุกเมื่อแล ขอน้อมกราบวันทาบูชาคุณพระอริยสงฆ์เจ้าด้วยเศียรเกล้าในกาลทุกเมื่อแล

ขอเมตตาธรรมด้วยจิตอันบริสุทธิ์ถึงแด่ลูกๆทุกคนและศรัทธาพุทธบริษัทผู้ใจบุญทั้งหลายผู้แสวงหาทางพ้นทุกข์ทั้งหลาย เราพระครูบาขอกล่าวข้อธรรมะสอนใจเพื่อไว้เอาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน นำเราพ้นจากทะเลทุกข์อันใหญ่หลวงนี้ชาติแล้วชาติเล่า เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดอีกในภพน้อยใหญ่หาที่สุดบ่มิได้ น่าเบื่อหน่ายแท้ ตราบใดยังไม่ถึงพระนิพพานก็จะวนเวียนไปมาไม่มีที่สิ้นสุด ฉะนั้นผู้รู้ทั้งหลายจึงแสวงหาสัจธรรมคือ ธรรมธาตุแท้ คือพระนิพพาน อันสงบเย็นอย่างยิ่งนั้นแล

ต่อนี้ไปเราขอแสดงสภาวะธรรมธาตุล้วนๆให้ทราบว่าทุกสิ่งทุกอย่างทั้งปวงสักแต่ว่าเป็นธาตุเท่านั้น ไม่มีอะไรสักอย่างในโลกนี้ไม่เป็นธาตุธรรมไม่มีเลย นับแต่ฝุ่นอณูไปจนถึงพระนิพพานรวมแล้วเป็นธรรมธาตุทั้งนั้น ธรรมธาตุก็คือ ธรรมชาตินั่นเอง

ธาตุมีสองประการ คือ สังขตธาตุ และอสังขตธาตุ คือ ธาตุที่สังขารปรุงแต่งได้ และธาตุอันสังขารปรุงแต่งไม่ได้ มีสองประการนี้แล

ต่อไปนี้เราขอจำแนกแจกธาตุเป็นอย่างๆอันพระพุทธเจ้าตรัสไว้นานา ธาตุธรรมทั้งหลายธรรมดาสัตว์สังขารที่มีวิญญาณและหาวิญญาณไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งปวงย่อมไม่พ้นไปจากธาตุทั้งหกประการคือ ปฐวีธาตุดิน อาโปธาตุน้ำ เตโชธาตุไฟ วาโยธาตุลม อากาสธาตุคืออากาศ วิญญาณธาตุคือวิญญาณ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธาตุทั้งนั้นไม่ควรไปยึดถือมั่นว่าเป็นเราเป็นเขา

ธาตุธรรมนี้ยังแบ่งเป็นอีกสองอย่างคือ กุศลธาตุ และอกุศลธาตุ คือธาตุให้ความสุขเย็นสบาย และธาตุอกุศลให้ความทุกข์เดือดร้อน นี้ก็คือความแตกต่างของธาตุดีและธาตุร้าย

นอกจากนั้นยังแบ่งธาตุธรรมเป็นชั้นๆไปคือ กามธาตุ รูปธาตุ อรูปธาตุ โลกุตรธาตุ หรือสูญญตธาตุ อนิมิตตะธาตุ มีหลายอย่างนับไม่ถ้วน

ต่อนี้ไปเราขอจำแนกแจกธาตุธรรม อายตนะธาตุให้ทราบคือ จักขุธาตุคือตา โสตะธาตุคือหู ฆานะธาตุคือจมูก ชิวหาธาตุคือลิ้น กายะธาตุคือกาย มโนวิญญาณธาตุคือใจ ทั้งหมดมีคู่กันไปเป็นอายตนะธาตุภายในภายนอกคู่กัน คือธาตุตาคู่กับธาตุรูป หูคู่กับเสียง จมูกคู่กับกลิ่น ลิ้นคู่กับรส กายคู่กับสัมผัสถูกต้อง ใจคู่กับธรรมมารมณ์ เป็นธาตุทั้งนั้น ถ้าถูกใจก็เป็นโลภะธาตุ ถ้าไม่ถูกใจก็เป็นโทสะธาตุ ถ้าไม่รู้ก็เป็นโมหะธาตุ ถ้ารู้ก็เป็นวิชชาธาตุ ปัญญาธาตุ สติธาตุ วิริยะธาตุ เป็นฝ่ายดีมีกุศล รวมความแล้วทุกสิ่งทั้งปวงสักแต่ว่าเป็นธาตุเท่านั้น คือ กามธาตุธาตุที่ยังมีกามเป็นที่ไป รูปธาตุคือธาตุมีรูปเป็นไป อรูปธาตุคือธาตุมีธาตุอันไม่มีรูปเป็นไป นิโรธธาตุคือธาตุมีความดับเย็นสนิท โลกุตรธาตุคือธาตุพ้นจากโลก สูญญตธาตุคือธาตุแห่งความว่างอย่างยิ่ง

เราค่อยศึกษาสภาวะธรรมธาตุไปเรื่อยๆให้รู้แจ้งในสรรพธาตุทั้งปวงมันไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตนไม่ใช่ตัวบังคับไม่ได้ ให้หมั่นเจริญภาวนาวิปัสสนาญาณให้เห็นแจ้งความเกิดดับของธาตุสังขารทั้งหลายเสื่อมไปสิ้นไป ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นในสัตว์สังขารรูปธาตุนามธาตุอะไรสักอย่าง พึงมีจิตยินดีซึ่งพระนิพพาน จงตั้งใจศึกษาและปฏิบัติให้รู้แจ้งถึงธรรมะสัจจะธาตุแท้ของสรรพสังขาร รูปนามอันไม่คงที่ถาวร ไหลไปตามเหตุปัจจัย ธรรมธาตุทุกสิ่งทั้งปวงมีการเกิดขึ้นแล้วแปรปรวนและดับหายไปในที่สุด ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นอะไรสักอย่าง จงทำจิตเป็นกลางไว้ ไม่ห่วงข้างหลัง ไม่ห่วงข้างหน้า มีสติรู้อยู่ในปัจจุบันธรรม ปล่อยวางทุกอย่างทั้งบุญทั้งบาป จิตไร้กังวลสงบนิ่งอยู่ภายในมีความสิ้นไปแห่งตัณหา ถึงที่สุดแล้วไม่มีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดอีก เป็นทางออกจากวัฏฏะทุกข์ ให้เอาสติเฝ้าดูตามดูรูปธาตุนามธาตุเกิดดับตลอด ให้เกิดความเบื่อหน่ายในสรรพธรรมธาตุสังขารทั้งหลายรู้แจ้งแล้วปล่อยวางๆ แล้วก็เบาสบายใจ รู้ชัดจนถึงธรรมธาตุแท้ๆ ไม่มีใครเกิดใครตาย ทุกสิ่งทั้งปวงเป็นเช่นนั้นเอง

คัดลอกโดย Moon Clearly

#จากหนังสือธรรมบุญ ( น.๒๐๕-๒๑๒ )
#ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ

*********************************

 

#บทธรรมเรื่องธรรมธาตุโดยแท้ #ตอนจบ

#เมตตาธรรมครูบาพ่อ #พระครูบาบุญชุ่มญาณสํวโร

ธรรมธาตุแท้ที่ควรรู้เข้าใจและให้ปฏิบัติตามคือ #ธรรมธาตุรู้แจ้งในทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และทางอันดับแห่งกองทุกข์ เป็นธรรมธาตุที่แท้ที่ทุกคน ทุกดวงจิตชีวิตวิญญาณพึงให้รู้แจ้งตามความเป็นจริงทุกอย่างอันได้แก่ความจริงแท้ธรรมธาตุแห่งความทุกข์ ควรกำหนดรู้ว่าการเกิดเป็นทุกข์ การแก่เป็นทุกข์ การเจ็บไข้ การตายเป็นทุกข์ ความเศร้าโศกร่ำไรเสียใจก็เป็นทุกข์ ความทุกข์กายทุกข์ใจ คับแค้นใจ การได้พลัดพรากจากสิ่งที่รักพอใจก็เป็นทุกข์ การได้ประสบสิ่งที่ไม่รักพอใจก็เป็นทุกข์

#รวมความแล้วเป็นทุกข์เพราะอุปทานขันธ์ห้า ให้กำหนดรู้ทุกข์ให้แจ้งชัดแล้วหน่ายในกองทุกข์ทั้งหลาย แล้วให้กำหนดรู้แจ้งธรรมธาตุแท้ที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์คือ ตัณหาความอยากในกามมะ มีอารมณ์ทั้งห้าเป็นที่ตั้งที่เกิดของทุกข์ทั้งหลาย และความอยากในความมี ความเป็น ในภาวะน้อยใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด และความอยากในความไม่มีไม่เป็นอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้เหตุรู้ผลที่จะนำตนให้พ้นทุกข์ได้ ให้เห็นโทษของความอยากแล้วพึงบรรเทาซึ่งตัณหาให้รู้แจ้งแล้วพึงประหารเสียซึ่งความอยากทั้งปวง พึงถอนเสียซึ่งอวิชชา ตัณหา อุปทาน ให้หมดสิ้นไม่มีเชื้อให้เกิดอีก ทำให้เป็นทุกข์อยู่ร่ำไป

เมื่อกำหนดรู้แจ้งธาตุธรรมเหตุให้เกิดทุกข์แล้วให้กำหนดรู้ธรรมธาตุที่ดับสนิทไปแห่งทุกข์ ให้รู้แจ้งซึ่งความดับทุกข์ พึงทำปัญญาญาณให้รู้แจ้ง ซึ่งความสงบดับเย็นอย่างยิ่งซึ่งกองทุกข์ทั้งหลายอันหาปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้ คือ อสังขตธาตุ นิพพานนั้นแล

#ต่อไปให้กำหนดรู้ธาตุธรรมแท้ที่เป็นมรรคทางนำให้พ้นไปจากกองทุกข์ในวัฏฏะสงสาร คือทางอันประเสริฐแปดสายนี้แลเป็นทางเอก ไม่มีทางใดอีกแล้ว คือความเห็นชอบ ความดำริชอบ ความมีวาจาชอบ ความมีการงานชอบ ความเลี้ยงชีวิตชอบ ความมีความเพียรชอบ ความตั้งสติไว้ชอบ ความตั้งสมาธิชอบ คือมรรคมีองค์แปด ย่นลงมีสามอย่างคือ ศีล สมาธิ ปัญญา สะอาด สว่าง สงบ เป็นมรรคธรรมธาตุแท้ที่ทุกคนต้องปฏิบัติให้เกิดขึ้นเองแล้วจะได้ถึงฝั่งคือ นิพพานธาตุ อันเป็นแดนเกษมอย่างยิ่ง

#ขอให้ทุกท่านผู้แสวงหาความพ้นทุกข์ในสงสารจงตั้งจิตอยู่ในความไม่ประมาท เดินตามทางแปดเส้นนี้ ที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายได้เดินทางนี้ มีพระบรมครูพระสัพพัญญูเจ้าเป็นประธาน ก็ได้เดินทางนี้มาทุกๆองค์ ขอจงตั้งใจบำเพ็ญเพียรตามมรรคธรรมแปดประการ ย่อมจะดับทุกข์ในสงสาร ถึงนิพพานแน่แท้ ไม่ต้องสงสัยเลยอันนี้ กล่าวธาตุธรรมมรรคแปด ขอยุติไว้เท่านี้แล

อันว่าขันธ์ห้ามี แต่ไม่มีผู้แบกไป อันว่าชีวิตว่ามี แต่ไม่มีผู้เป็นเจ้าของ อันว่าความทุกข์มี แต่ไม่มีผู้เป็นทุกข์ อันความสุขว่ามี แต่ก็สุขไม่แน่นอน ให้ถอดถอนทั้งทุกข์สุขไม่ลุกเกิดเอากำเนิดในสงสาร ถึงนิพพานธาตุอมตะเอย

#ชีวิตนี้น้อยนักไม่พักอยู่คู่ดินฟ้าน่าใจหาย เกิดแล้วตายไม่ไกลนักจักพบปะพวกเราสู จงเฝ้าดูชีวิตจิตใจหนา อย่ามัวหลงคิดผิด พูดผิด ทำผิด คิดอวิชชาพาให้ทุกข์ในสงสาร ไม่ถึงนิพพานนานนักเอย

จงเฝ้าดูธาตุขันธ์ที่แตกดับหายวับไปกับตา ไม่กลับมาอีกเป็นซ้ำสอง ให้หมั่นนึกคิดและตริตรองมองเห็นสัจธรรมความจริงเอย อันธาตุธรรมกรรมมีปัจจัยช่วยปรุงแต่ง สัตว์สังขารไม่ได้แบ่งเองหนาพวกเราเอ๋ย อันความชั่วดีมีเหตุผลทั้งคนสัตว์ ไม่จำกัดสัตว์คนทั่วโลกา ใครละอวิชชาได้ไม่ต้องทุกข์อีกต่อไป อันว่าสัจธรรมมีในโลกใครรู้แจ้งพ้นโลกสงสาร ใครไม่รู้แจ้งแทงปัญญา พาให้เกิดเอากำเนิดไม่รู้จบพบกองทุกข์แสนอนันต์ นานบรรจบไม่พบนิพพานเอย

#ธาตุแท้คือธรรมที่ทรงอยู่ จงเฝ้าดูสังขารที่เกิดดับ หายวับไปน่าใจหาย ชีวิตหนอชีวิตเข้าใกล้ชิดความตายมาทุกวันเวลามาแล้วหนอ อย่ารีรอมัวทำบาปอกุศล จงทำตนให้เป็นที่พึ่งของตน อย่าดิ้นรนหาบของหนักมาใส่ตน จงทำตนให้พ้นทุกข์ในโลกา ตั้งจิตภาวนาอย่าได้ขาด อย่าประมาทในชีวิตชิดความตายทุกวันมาแล้วหนา ให้ตั้งสติเจริญแต่วิปัสสนาพาพ้นทุกข์ในสงสาร ถึงนิพพานบรมสุขยิ่งจริงท่านเอย

จงละอวิชชาตัณหาอุปาทานเถิด ทิ้งการเกิดการตายว่ายสงสาร จงตั้งจิตเข้าถึงมรรคธรรมนำพ้นโศกโลกกามา จงหมั่นภาวนาให้เห็นซึ่งไตรลักษณ์ ขจัดความถือตัวกลัวทิฏฐิและตัณหา ให้เห็นแจ้งแทงปัญญาพาตนรอดออกทุกข์เอย

#การเกิดเป็นทุกข์แท้หนอ จงมีจิตยินดีซึ่งความดับทุกข์สนิทคือนิพพานเอย จงเฝ้าดูแต่ดวงจิตปัจจุบันอย่าหันซ้ายแลข้างขวาให้หมั่นภาวนาดูรูนาม เกิดดับเช่นนั้นเอง ให้จิตหยุดคิด หยุดดู ในทุกสิ่ง ให้รู้จริงตามสัจจะภาวะหนา รู้แล้วปล่อยค่อยบรรเทาทุกข์นานา หมั่นภาวนารู้แจ้งจิตปัจจุบันทันเวลาพาตนพ้นวิสัยไกลบ่วงมาร

อันว่าสัจธรรมนิพพานมีไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อใจสงบนิ่งรู้ปัจจุบันธรรมตามเป็นจริง ละทุกสิ่ง ทั้งสุขทุกข์ไม่ลุกลามตามตัณหา รู้แล้วปล่อยวาง ทั้งภายนอกและภายใน รู้แต่ใจเป็นกลางวางทุกข์เอย

#ขันธ์ห้าเป็นของหนัก เราขอพักไม่แบกเอาอีก ละเลยหนา เราไม่รู้ได้เกิดตายในสงสารนานหนักหนา อวิชชาพาให้เกิด เอากำเนิดในโลกโศกนานา ได้เวียนตายเวียนเกิด ภาวะน้อยใหญ่นานา น้ำตานองหน้าไม่รู้กี่ชาติเอนกอนันต์แสนโศกา เราอิ่มพอแล้วหนาขันธ์ห้าเอย

#จิตที่หยุดเป็นวิมุติ
#จิตที่หลุดออกเป็นสมุทัย
#จิตสงบภายในเป็นนิโรธ
#จิตที่รู้แจ้งเป็นมรรค
#จิตที่ไม่ปรุงแต่งเป็นนิพพานเอย

#ผู้เฝ้าดูจิตย่อมพ้นบ่วงมาร จงเอาทานเป็นเสบียงอาหาร จงเอาศีลเป็นแพข้ามฟาก จงเอาภาวนาเป็นประทีปนำทาง

☘ผู้รู้ทั้งหลาย ตั้งสติไว้ทุกเมื่อ ไม่ประมาทในจิตภาวนาทั้งกลางวันกลางคืน จงถอนตัณหามานะทิฏฐิออก เหมือนคนถอนหญ้าหนามออก จงสละทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ธรรมธาตุ คืนทุกอย่างให้แก่ธรรมชาติ เหมือนน้ำไม่ติดใบบัว

#ท่านผู้รู้ทั้งหลายเฝ้ารักษาจิตทุกเมื่อ ธรรมะเท่านั้นที่รักษาผู้ประพฤติธรรม

#การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
#การยินดีธรรมะ ชนะความยินดีทั้งปวง
#การดับตัณหา ย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง

ขอพระสัจธรรมจงตั้งมั่นในโลก ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงมีดวงตาเห็นธรรม ขอความสุขกายสบายใจ จงมีแก่ท่าน ขอท่านทั้งหลายจงเป็นผู้เห็นแจ้งซึ่งนิพพานธาตุด้วยเทอญ ด้วยจิตเมตตายิ่ง จากพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ ถ้ำมหาโพธิสัตว์ ราชคฤห์ เมืองงาว จ.ลำปาง วันที่ ๑๕ ม.ค.๒๕๕๒ แต้มไว้แล สาธุ สาธุ~

คัดลอกโดย Moon Clearly

#จากหนังสือธรรมบุญ (น.๒๑๒-๒๒๒)
#ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ

 

#ธรรมะคำสั่งสอน (ปีธรรม 2563 “ไทยใหญ่”เดือน9 ขึ้น 15 ค่ำ เขียนบันทึกไว้)
#พระครูบาพ่อบุญชุ่ม #ญาณสํวโร #อรัญวาสีภิกขุ
#เขียนบันทึกไว้ ณ.ถ้ำเมืองแกส วันที่ 16 ก.ค. (วันเข้าพรรษา 62”ไทย”)

เราทั้งหลายเป็นผู้มีบุญยิ่ง และได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าโคตมะให้มีศรัทธาเคารพนับถือพระรัตนตรัยพร้อมด้วยคุณของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ผู้ชี้แนะ ผู้มีพระคุณซึ่งจะนำเราเข้าถึงซึ่งพระนิพพานที่มีความสุขแท้จริง

ในโลกนี้ไม่มีอะไรจะประเสริฐ์เท่าพระรัตนตรัย และคุณของบิดามารดาครูบาอาจารย์ มีพระคุณกว้างใหญ่ ยิ่งกว่าท้องฟ้ามหาสมุทร ควรที่เราจะรู้คุณและเคารพนับถือทุกเวลา และขอให้ได้เว้นจากความชั่วประพฤติดี มีศีลมีธรรมประพฤติดี และทำจิตใจให้ขาวใสบริสุทธิ์ทุกเวลาซึ่งจะทำให้ได้บรรลุ มรรคผลนิพพาน

เว้นจากโลภะ ด้วยการให้ทาน เว้นจาก โทสะ ด้วย รักษาศีล มีใจเมตตา เว้นจากโมหะ อวิชา ด้วยการเจริญสมถะ และวิปัสสนากัมมัฏฐาน อันว่าสังขารร่างกายเรานี้ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา วันเวลาหมดไปไวมาก เสมือนดังสายน้ำไหลไป ไม่มีไหลกลับ วันตายเราก็ใกล้มาทุกวันแล้ว

ให้รีบสร้างบารมี ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ให้ทุกท่านมีสติ ปัญญา ให้พากันปฏิบัติเพื่อทางหลุดพ้นจาก การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย อย่าอยู่แบบขาดสติ ประมาทหลงลืมตัว ขอให้มีสติทุกเมื่อ

วันเวลาไม่รอใคร สังขารก็เหมือนกัน ไม่จีรังยั่งยืน เราทุกคนใกล้ความตายมาทุกลมหายใจเข้าออก มีแต่กุศลและอกุศลเท่านั้นที่จะติดตามเราไปถึงภพหน้า ให้พากันฟังธรรมอันเป็นคำสอนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วนำมาปฏิบัติจนกว่าจะเข้าสู่ พระนิพพาน

ขอให้เว้นจากการทำชั่วทั้งปวง ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีงาม อย่ามีใจ โลภ โกรธ หลง อีกทั้งให้รู้จักบุญคุณ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ให้กราบไหว้บูชาทุกวันยาม ให้รู้จักบุญคุณธาตุสภาวะ อันมี ดิน น้ำ ลม ไฟ หินผาป่าไม้ ต้นดอก ต้นหญ้า ป่าไม้ สัพพะสัตว์ทั้งหลาย ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เป็น ธรรมะ ธรรมชาติทั้งสิ้น อย่าได้ทำลายธรรมชาติ

 

#บุคคลที่ชอบมองแต่ด้านไม่ดีของคนอื่น
นั่นคือคนที่มีความทุกข์มากที่สุดในโลก...

เพราะจะไม่มีโอกาสที่จะได้พบกัลยาณมิตรที่ดี
ตรงกันข้ามกับบุคคลที่ชอบมองแต่ด้านดีๆของคนอื่น

นั่นคือคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก...
เพราะคนทั้งโลกใบนี้จะเป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับเขาอยู่ตลอดเวลา

Cr.#บันทึกธรรมพระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ#

 

เพจ พิเภก พยากรณ์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกๆของครูบาบุญชุ่มที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไว้อย่างน่าสนใจมาก โดยมีรายละเอียดดังนี้
พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร : ดวงในจันทร์-ครุ-สุริยา
เมื่อได้ทราบข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ ทรงรับพระครูบาบุญชุ่มเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชูปถัมภ์ แผ่นดินไทยก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำพระทัยแห่งความเมตตา
สำหรับพระครูบาบุญชุ่มนั้น แม้ท่านจะบวชในพุทธศาสนามหานิกาย แบบเถรวาท แต่วัตรปฏิบัติของท่าน เป็นไปในแนวทางมหายาน นิกายวัชรญาณ แบบธิเบต
กล่าวคือ ท่านเน้นความเป็นโพธิสัตว์ ที่มุ่งเน้นช่วยเหลือให้สัตวโลก ก้าวข้ามห้วงมหรรณพไปด้วยกัน แบบเรือใหญ่ คือ มหายาน ไม่เน้นการบรรลุนิพพานเฉพาะตน ที่เรียกว่า หินยาน คือ ยานอันเล็ก ที่ผู้สำเร็จก็สำเร็จได้เฉพาะตน
วัตรปฏิบัติการสวดมนต์ภาวนาของท่านจึงออกไปในแนวทางวัชรญาณ ดังมีภาพที่ท่านแสดงธรรมะเรื่อง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หรืออายาตนะทั้ง 6ที่นำไปสู่กิเลสตัณหา หรือการที่ท่านก้มลงกราบสามเณรนั้น ท่านหยั่งรู้ด้วยจิตของท่านว่า สามเณรองค์นั้นในอดีตชาติเป็นอย่างไร และจะเป็นอะไรต่อไปในอนาคต
การที่เอาแนวคิดแบบเถรวาทไปจับวัตรปฏิบัติของท่านจึงกลับตาลปัตรไปหมดดังที่ได้ทราบกันอยู่ในโลกโซเชี่ยล


พระครูบาบุญชุ่มนั้นท่านมีอภิจิตชั้นสูง จากการบำเพ็ญมานับชาติไม่ถ้วน


เมื่อ40ปีที่แล้วผมมีโชคดีที่ได้พบ และร่วมปฎิบัติบำเพ็ญภาวนากับท่านที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง ช่วงนั้นท่านยังไม่ดังนัก มีพระติดตามเพียงองค์เดียว หลังจากวันนั้นผมไม่มีโอกาสเจอท่านอีกเลย
แต่ก็มีเรื่องน่าอัศจรรย์ เวลาผมทราบว่า พระของท่านรุ่นไหนดัง แล้วอยากได้ อยู่ๆ ก็จะมีคนนำมาให้ตลอดเวลา แม้บางองค์จะราคาเป็นหมื่นก็ตามที ขออนุญาตอุทานอีกทีว่า อัศจรรย์จริงๆ
ในด้านดวงชะตาแบบจักราศี หรือดวงนอกของท่านนั้น แสนจะเป็นดวงธรรมดาดวงหนึ่ง ประดุจรูปลักษณ์ภายนอกของท่านก็จะดูเป็นพระบ้านนอกหลังเขาธรรมดา
แต่ดวงใน หรือดวงนวางค์จักรของท่านได้มาตรฐาน จันทร์-ครุ-สุริยา กล่าวคือ ดาวจันทร์๒ ดาวพฤหัส๕ (ครุ) สุริยา๑ (อาทิตย์) สถิตในราศีแม่ธาตุ ในดวงของท่าน อาทิตย์๑ สถิตร่วมพฤหัสบดี๕ คู่มิตร ที่ราศีตุล แม่ธาตุลม จันทร์๒ เป็นเกษตราธิบดี สถิตราศีกรกฎ แม่ธาตุน้ำ
ดวงนาวางค์จักรพระครูบาบุญชุ่มดังกล่าว จึงได้มาตราฐานจันทร์-ครุ-สุริยา ที่บุญชะตาสูง ยากที่คนธรรมดาทั่วไปจะหยั่งถึงท่านได้ ท่านมีอภิจิตหยั่งรู้ได้ว่า 13หมูป่า ที่ติดในถ้ำนางนอนอยู่รอดปลอดภัย ท่านออกจากถ้ำหลังจากการปิดวาจาสามปีสามเดือนสามวัน มีคนมาคอยสักการะท่านเรือนแสน แม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วยเบื้องสูงยังรับรู้ และรับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชูปถัมภ์
ด้วยอิทธิพลดวงดาว จันทร์-ครุ-สุริยา พระครูบาบุญชุ่ม จึงเกิดมาเพื่อเป็นพระอริยะเจ้าโพธิสัตว์ โดยแท้จริง อันเป็นปัจจัตตัง ที่ผู้รู้จะรู้ได้เฉพาะตน!
กราบพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร ด้วยเศียรเกล้าฯ


ดร.อัครเดช สุภัคกุล
ศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565


https://www.facebook.com/100049242075967/posts/577905727194158/



ขอบคุณ

ศักดิ์สิทธิ์