พระกรุวังหน้ามีการสร้างในยุคพ.ศ. 2411 จริงหรือไม่จริง

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย kongpak, 15 มิถุนายน 2016.

  1. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ก็ไม่ใช่หลักฐานที่น่าเชื่อถือครับ เพราะเป็นสิ่งที่เอกชนหรือนักนิยมพระเครื่องทำออกมาส่วนตัวและแค่เป็นข่าวเท่าน้ั้น.... ถ้าผมเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์นี้ล่ะก็ ผมจะเรียนเชิญทางกรมศิลปฯ และนักวิชาการโบราณคดีเข้าไปทำงานวิจัยหรือค้นคว้าแล้วสรุปออกมาเป็นเอกสารงานวิชาการว่าของในพิพิธภัณฑ์นี้เป็นของจริงหรือไม่ และถ้าผลการวิจัยและตรวจสอบว่าเป็นของจริงเมื่อไหร่ล่ะก็...
    1. ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่มีพระชุดนี้ไว้ในครอบครอง เพราะผมเองก็มีเหมือนกัน ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย
    2. ผมก็จะเปิดกระทูใหม่สนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่
    ขอมีเอกสารทางราชการหรืองานวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ ที่ชัดเจนเสียก่อนเถิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2018
  2. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ปัจจุบันมีวิธีตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าสิ่งของต่างๆ นั้นประกอบด้วยแร่ธาตุอะไรบ้างด้วยเครื่อง XRF (ซึ่งไม่ใช่วิธี Carbon 14 ซึ่งหาอายุได้เฉพาะสิ่งที่มีชีวิตและต้องทำลายตัวอย่างที่ส่งพิสูจน์)

    ถ้าท่านใดมีความรู้ฟิสิกส์พื้นฐานแค่ม.ปลายสายวิทย์ ก็จะเข้าใจหลักการทำงานของเครื่อง XRF ไม่ยากครับ

    อีกประการหนึ่ง เครืื่อง XRF นี้ทำให้เกิดการคืนพระหลักที่มีการเช่ากันหลักล้านบาทมาหลายองค์แล้ว ข่าวปิดกันเงียบเพราะร้านพระและเซียนพระจะเสียชื่อเอามากๆ

    ตัวอย่างการคืนพระ ก็คือ พระเนื้อชินที่อายุหลายร้อยปี เมื่อคนซื้อพระนำไปตรวจกับเครื่อง XRF กับพบสารประกอบอัลลอยด์ที่เพิ่งจะผลิตมาไม่กี่สิบปีนี้ในเนื้อพระ ซึ่งคนซื้อพระนำฟ้องร้องต่อศาลแล้วก็ชนะคดีและได้เงินคืน แม้คนขายพระจะพยายามอ้างเรื่องการใช้ความชำนาญและการใช้กล้องส่องดูความเก่าแก่ แต่ศาลเชื่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แน่นหนาและชัดเจน เรื่องนี้ดังในวงการ แต่เงียบมากในวงนอกครับ
     
  3. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องเครื่อง XRF ได้ที่นี่ครับ
    http://web2.mfu.ac.th/center/stic/x...8-เครื่องวิเคราะห์การเรืองรังสีเอกซ์-xrf.html
     
  4. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ถ้าผมเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์หลวงวิจารณ์ฯ นะครับ ผมจะรีบเชิญนักวิชาการโบราณคดี อาจารย์ม.ศิลปากร และผู้เกี่ยวข้อง เข้ามาศึกษา ทำวิจัย และตีพิมพ์ผลงานการค้นคว้า วิจัย และพิสูจน์ของที่มีในพิพิธภัณฑ์นี้เลย... เพราะถ้าเป็นของแท้ ย่อมไม่ต้องกลัวการพิสูจน์ (ทองแท้ ย่อมไม่กลัวไฟ เพราะถูกหลอมกี่ครั้งทองก็ยังเป็นทอง)

    และเมื่อได้ผลการวิจัย ตีพิมพ์เป็นเอกสารทางราชการ หรือนักศึกษาป.โท หรือป.เอกทำวิจัยเรื่องนี้แล้วได้ผลออกมาว่าเป็นพระแท้ล่ะก็ ..เจ้าของพิพิธภัณฑ์คงรวยมหาศาล เอาไม่อยู่แน่ๆ ครับ

    ตรรกะพื้นๆ ธรรมดาๆ เองครับ.. ถ้าแท้แล้วไม่ต้องกลัวการพิสูจน์
     
  5. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    #1.jpg
    พระในภาพคือพระที่ค้นพบในวังหน้าจริงๆ ครับ ผมถ่ายภาพมาจากพิพิธภัณฑ์ วังหน้านี่แหละ อยู่ชั้น 2 อาคารชื่อ "อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ " เป็นพระพิมพ์ที่นิยมเรียกกันว่า "พระบัณฑูรย์" ครับ

    พระชุดนี้ที่แท้ๆ ผู้รู้เล่าให้ผมฟังว่า พระพิมพ์นี้นั้นจะมีการปิดทองที่พิมพ์พระก่อนแล้วจึงค่อยกดเนื้อพระลงไปบนทองในพิมพ์ครับ... ไม่ใช่ทำพระออกมาแล้วปิดทองภายหลัง

    ดังนั้นเวลาใช้กล้องดูเนื้อพระจะเห็นว่า..ทองที่ปิดองค์พระนั้นแตกต่างกับทองที่มาปิดทีหลัง สังเกตดีๆ

    พระพิมพ์นี้มีทำเลียนแบบออกมาด้วยนะครับ ถ้าจะเล่นหาก็สังเกตเรื่องทองคำเปลวที่ปิดทองพระเองก็แล้วกัน บอกเคล็ดให้ทราบแล้ว
     
  6. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ใช่สมเด็จโตหรือ.jpg
    ภาพซ้าย... มีบางคนบอกว่าเป็นภาพสมเด็จโต
    --------------------------------------------------------
    ลองพิจาณากันเองว่า ... ในภาพขวาเป็นพระคุณเจ้าองค์เดียวกันกับในภาพซ้ายหรือไม่ พิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ในภาพทั้งสองด้วยเช่นพระพุทธรูปว่าเป็นองค์เดียวกันหรือไม่

    ถ้าท่านพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นพระคุณเจ้าองค์เดียวกัน ก็พิจารณาต่อไปว่า ภาพพระคุณเจ้าทางซ้ายมือจะเป็นภาพสมเด็จฯ โตหรือเปล่า เพราะภาพทางขวานั้น มีหลักฐานยืนยันว่าพระคุณเจ้าองค์นั้นไม่ใช่สมเด็จฯ โต

    นิตยสาร "ศิลปวัฒนธรรม" ปีที่ 2 ฉบับที่ 7 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2524 หน้า 33 ปรากฏการตีพิมพ์ภาพใบนี้ พร้อมคำอธิบายจาก "นิวัติ กองเพียร" ว่า รูปนี้ไม่ใช่รัชกาลที่ 5 กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ เหตุผลประกอบดังนี้

    1. รูปนี้ได้มาจากหนังสือฝรั่งชื่อ "SIAM"
    2. พัดรองที่วางพิงผนังอยู่นั้น เป็นพัดที่นิยมทำก่อนสมัยรัชกาลที่ ๕ ต่อมาไม่มีความนิยมในการทำพัดรองอีกเลย
    3. ถ้ารูปนั้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์จริง ท่านต้องห่มดองและรัดประคดอก มิใช่อย่างที่เห็นในรูป แม้แต่พระรุ่นเก่าที่วัดระฆังโฆสิตาราม ที่เคยเห็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ก็ยืนยันว่ามิใช่สมเด็จแน่
    4. เจ้านายหลายพระองค์ ที่เป็นพระธิดาหรือพระโอรสก็ยืนยันว่า มิใช่พระราชบิดาแน่นอน

    ในหนังสือที่ระลึกงานสงกรานต์ชลบุรี ประจำปี พ.ศ.2507 ในเรื่อง "สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)" อันเขียนโดย อธึก สวัสดิมงคล ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ภาพพระสงฆ์สอนหนังสือเป็นภาพที่เข้าใจผิดและคลาดเคลื่อน ดังในหน้า 11 ที่ให้ข้อมูลความเป็นมาของภาพใบนี้จากลายพระหัตถ์หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตอบคำถามของ อธึก สวัสดิมงคล ว่า

    "สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) นั้นไม่ช้าจะเป็นอะไรๆ สักร้อยอย่างเป็นเรื่องหากินทั้งนั้น เดี๋ยวนี้ใครอยากรู้อะไร ก็นั่งวิปัสสนาเอาได้ ไม่ช้าคงต้องร้อนถึงทางการเข้าเล่นด้วยเป็นแน่ มีผู้เอาภาพพระแก่กับเด็กลูกศิษย์สอนหนังสือกัน ฉันจำได้ว่า "โรเบิร์ต เลนส์" ขอประทานให้เสด็จพ่อทรงช่วยทำโปสการ์ดเผยแพร่เมืองไทย และท่านได้ถ่ายรูปฉันแต่งลาวน่าน หญิงเหลือส่องกระจก พร้อมกับทำรูปนี้ด้วย แต่บัดนี้กลายเป็นรูปสมเด็จโตสอนหนังสือพระพุทธเจ้าหลวง แย่จริงๆ น่ากลัวพงศาวดารจะเลอะเทอะกันใหญ่เสียแล้ว"
    ----------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2018
  7. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ทีนี้ก็มาถึงพระกรุวัดพระแก้วที่ประดับพลอย แล้วด้านหลังทำเป็นภาพสมเด็จโตสอนหนังสือร.5 .. ถ้าคนขายบอกว่าเป็นพระยุคร.5 ล่ะก็.. วางไว้อย่างเดิมเถอะครับ.. แต่ถ้าคนขายบอกเป็นพระสร้างใหม่.. ถ้าอยากจะซื้อก็ไม่ผิดกติกาอันใด

    ภาพประกอบนี้ได้จากการค้นหาโดย google ด้วยการพิมพ์คำว่า "สมเด็จโตสอนหนังสือ"
    001.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2018
  8. thitinoo

    thitinoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +330
    ใช่ครับมีจริงๆแค่พระบัฑูรย์วังหน้า โคนสมอ
     
  9. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    .......
    ผมพยายามหาหลักฐานเอกสารที่เชื่อถือได้มาแสดงว่า พระเครื่องกรุวังหน้าที่มีขายๆ กันอยู่ หรือกรุวัดพระแก้วที่มีขายๆ กันอยู่นั้น .. ไม่มีจริง ..
    และส่วนพระที่มีจริง มีเอกสารราชการรับรองจริง ผมก็ได้นำมาแสดงแล้วเช่นกันครับ ดูหน้า 4 ในกระทู้นี้ครับ
     
  10. Rei123

    Rei123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +266
    ผมคิดอีกมุมนึง เรื่องของในวัง อาจจะเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถทราบได้
    ต้องรอเวลาอย่างเดี่ยวครับ
     
  11. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ...ผมเองก็เก็บไว้เยอะนะครับ เป็นเพราะความไม่ศึกษาให้รอบคอบ
    มันมีข้อมูลขัดกันเองเยอะแยะครับถ้าได้ไปค้นคว้ากันจริงๆ ส่วนมากแล้วก็ลอกข้อมูลตามๆ กันมาด้วยคิดเองเออเองว่า "น่าจะเป็นไปได้"
    แต่ผมไปค้นหาเอกสารจริงๆ เป็นเอกสารทางราชการด้วย และไปสถานที่วังหน้าจริงๆ ถามคนที่เคยมีญาติอยู่ในวังหน้าจริงๆ ซึ่งสรุปได้ว่า "พระวังหน้านั้น-มีครับ" แต่ไม่ใช่ที่ขายๆ กันอยู่ และมีไม่มาก
    แต่ถ้าเป็นกรุวัดพระแก้วนี่จบเลยครับ... ไม่มีจริงๆ เพราะถ้ามีจริงและมีคนเก็บไว้ คนนั้นกำลังขโมยทรัพย์แผ่นดินครับ ของในวังด้วย... ที่ไม่มีเรื่องราวตามจับกุมก็เพราะเป็นของไม่มีจริงๆ
     
  12. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ลิ้งค์นี้.. เป็นอีกกลุ่มที่ศึกษาเรื่องพระสมเด็จหลวงวิจารณ์ฯ ซึ่งทางกลุ่มพบว่าเป็นการอุปโลกน์กันอย่างสนุกสนาน เชิญชมเลย

    https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2362729433820057&type=1&l=eaa1cc2ed8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2019
  13. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพเดิมด้วยครับ
    ภาพซ้าย - ทางนั้นเขาโชว์รูปหลวงวิจารณ์
    ภาพกลาง - บอกว่ากำลังเตรียมมวลสาร
    upload_2019-2-16_20-53-40.png
    ............................................................
    ภาพที่ว่าเป็นหลวงวิจารณ์ฯ ที่แท้ก็ไปก๊อปภาพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นอดุลยลักษณสมบัติมาแต่ง
    52353285_2362731980486469_4803097949007511552_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg

    52527110_2362732953819705_1980007565865517056_n.jpg?_nc_cat=101&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg
    ...............................................
     
  14. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพเดิมด้วยครับ
    ส่วนภาพกลาง - ที่ว่าหลวงวิจารณ์กำลังเตรียมมวลสารสร้างพระสมเด็จนั้น ก็ไปก๊อปรูปจากเว็ปไซด์แพทย์แผนไทยมาดัดแปลง
    52486627_2362737477152586_1464648147891388416_n.jpg?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg

    52013936_2362735240486143_1496942930407981056_n.jpg?_nc_cat=101&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg
    ภาพจากเว็บไซด์แพทย์แผนไทย
    51771387_2362735633819437_2360697244891480064_n.jpg?_nc_cat=100&_nc_ht=scontent.fbkk14-1.jpg
    และไปเอารูปพระสงฆ์นี้มาแปะเพิ่ม แล้วบอกว่าเป็นสมเด็จโตอยู่ด้านหลังการทำพระ
    ..........................................
     
  15. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    อ่ะ... ผมเอาหน้าเว็ปของกรมการแพทย์แผนไทยฯ มาให้เห็นกันจะจะ
    http://www-old.dtam.moph.go.th/
    upload_2019-2-16_21-13-3.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2019
  16. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    จาก 2 โพสข้างบน ก็น่าจะจบได้แล้วสำหรับพระกรุวังหลวง พระสมเด็จหลวงวิจารณ์ฯ เพราะโกหกกันแบบไม่เนียน

    ดูนาทีที่ 1.30 สิครับ... เขาไปเอาภาพตรงนี้มาดัดแปลงเป็นหลวงวิจารณ์ทำมวลสาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2019
  17. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    สรุปรวบยอด - พระวังหน้า พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า พระปัญจสิริ พระกรุโลกอุดร พระกรุวัดพระแก้ว พระกรุธาตุพนม... ไม่มีบันทึกแน่ชัดเลยว่าว่ามีการค้นพบพระพิมพ์ดังกล่าวในเอกสารราชการที่กรมศิลปฯ การขุดค้น บูรณะ ปฏิสังขรณ์สถานที่ดังกล่าวเลย
    ดังนั้น - พระพิมพ์กรุดังกล่าว ผมเชื่อว่า "ไม่มีการสร้างจริง" และค้นพบจริงตามที่นักนิยมพระเครื่องเขียนและเล่ากันต่อๆ มาครับ ....... เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
     
  18. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ส่วนท่านใดยังคิดว่า "มีอยู่จริง" ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของท่าน ผมแค่นำเสนอสิ่งที่ผมเคยเชื่อว่า "มีอยู่จริง" แต่เมื่อศึกษาค้นคว้าเข้าจริงๆ แล้ว มันเป็นเรื่องกุขึ้นของนักทำพระขายเท่านั้น
     
  19. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ♥ขอเตือนสติคนชอบพระเครื่องกันครับ♥
    ........................................................
    ไม่มีอะไรมารับรองได้ว่า เราจะสมหวังเพียงเพราะแขวนพระที่เขาว่าดี ---- ☺เครดิตพี่หนุ่มเมืองแกลง☺
    ........................................................
    บุญกุศลเก่าของแต่ละคนที่สั่งสมหรือมีติดตัวมานั้นไม่เหมือนกันรวมทั้งจังหวะชีวิตและโอกาสของแต่ละคนยิ่งแตกต่างกัน หากลองไปถามลูกชายเจ้าสัวใหญ่ที่ครอบครองธุรกิจอันดับหนึ่งในเมืองไทยตอนนี้ จะพบว่าแม้เขาไม่ต้องแขวนพระอะไรเลยก็เจริญก้าวหน้าร่ำรวยอย่างมากมาย แต่ลองเอาพระสมเด็จแท้ๆ ไปให้คนเก็บผักบุ้งขายใช้แขวนคอบูชา แขวนจนคอถลอกก็จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงในชีวิต (ต่อให้เอาพระไปขายก็ต้องโดนตีว่าเก๊ไปอีก)
    .
    แต่หากเอาพระเครื่ององค์เดียวกันนั้น ไปให้ลูกชายเจ้าสัวคนเดิมใช้แขวนคอบูชาบ้าง ชีวิตที่ดีสมบูรณ์แบบมากอยู่แล้ว อาจดียิ่งๆขึ้นไปอีกจนไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องสักอย่างในชั่วชีวิตของเขา จึงเป็นมุมมองได้หลายแบบว่าความสำเร็จในชีวิตทุกอย่างต้องอยู่ที่กุศลผลกรรมเก่าและโอกาสจังหวะของชีวิตด้วย ทุกคนไม่สามารถจะได้ดี-สมหวังในชีวิตได้เหมือนคนอื่นๆ ที่เราได้พบเห็น ถึงแม้จะมีพระเครื่องแบบเดียวกันก็ตาม
    .
    เพราะฉะนั้น ♦จึงไม่จำเป็นจะต้องไปเสาะหาพระดังๆที่มีคำร่ำลือว่าดีแน่ ขลังนัก ให้หมดเงินหมดทองไปโดยที่ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะได้รับผลดีอย่างที่มีคนร่ำลือกันนักหนา♦
    .
    วาสนาเราอาจจะเป็นเหมือนคนเก็บผักบุ้งก็ได้ หรือบางคนอาจจะเป็นคนเช่นลูกชายเจ้าสัวก็ได้ จึงไม่มีอะไรมารับรองได้ว่า เราจะสมหวังเพียงเพราะแขวนพระที่เขาว่าดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2019
  20. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    นำมาให้อ่านเป็นข้อมูลเพิ่มเติมครับ.. นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ผู้หนึ่ง... ผมไม่ได้มีความเห็นว่าข้อมูลของเขาถูกหรือผิดนะครับ... ไปเจอมาแล้วอยากให้อ่านแล้วพิจารณากัน
    ---------------------------------------------------------
    “พระสมเด็จวัดระฆัง” ปฐมบทแห่งพระเก๊
    โดยนายรู้ลึก แสนรู้ชัด หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    ---------------------------------------------------------
    เหตุที่ “พระสมเด็จวัดระฆัง” ถูกยกย่องให้เป็น “จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง” เพราะนอกจากเป็น “ยอดพระเครื่อง” ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแล้วยังเป็นพระเครื่องที่ “นิยมกันมาช้านาน” นับร้อยปีด้วยเหตุนี้กระบวนการผลิต “พระสมเด็จวัดระฆังปลอม” จึงมีการผลิตออกมาช้านานเช่นกันและในตอนที่แล้วผู้เขียนได้นำเสนอการผลิตพระสมเด็จวัดระฆังปลอมแบบ “อุปโลกน์” ที่มีทั้ง “พิมพ์แจวเรือจ้าง, พิมพ์หลังก้างปลา, พิมพ์หลังพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕, พิมพ์ฝังเพชรฝังพลอย” ซึ่งล้วน แต่เป็นกลเม็ดเด็ดพรายของการทำมาหากินของบรรดา “นักต้มตุ๋น” ที่ “สิ้นคิด” เพราะยอมให้คำว่า “มิจฉาชีพ” เข้ามาสิงสู่อยู่ในตัวเอง
    .
    ส่วนขบวนการ “ปลอมพระสมเด็จฯ” ที่นับได้ว่าเป็นการปลอมแบบ “เป็นล่ำเป็นสัน” ก็เคยมีเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๘-๒๕๒๙ ด้วยการ “สร้างข่าว” ถึงเรื่องราวของ “พระสมเด็จ” ที่สร้างโดยท่านเจ้าประคุณ “สมเด็จพระ พุฒาจารย์ (โต วัดระฆัง)” โดยขบวนการสร้างข่าวได้ระบุว่ามีการนำไปบรรจุกรุ “ที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง” ตามแต่จะหา “วัด” หรือ “กรุ” ที่เหมาะ ๆ มาหลอกลวงกันโดยกรุที่มีการประโคมโหมข่าวจน “โด่งดัง” มากที่สุดในยุคนั้นก็คือพระสมเด็จ “กรุถ้ำสิงโตทอง” เพราะนอกจากทำการสร้างข่าวแล้วยังมีการนำมาโฆษณาขายใน “นิตยสารพระเครื่อง” หลาย ๆ ฉบับ แถมขายในราคา “องค์ละเป็นพันบาท” อีกด้วยสร้าง “ความร่ำรวย” ให้กับผู้นำมาขายตาม ๆ กันแต่สุดท้ายเมื่อมีการ “พิสูจน์ความจริง” ก็พบว่า “พระสมเด็จกรุนี้” ที่อ้างว่าสร้างโดย “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต วัดระฆัง)” ที่แท้ก็คือ “พระปลอม” ที่ผู้สร้างนำมายัดเยียดว่าเป็น “ของเก่า” แถมยังมีการพยายามให้ “งานประกวดพระเครื่อง” บรรจุเข้าไปมีส่วนใน “รายการประกวด” กับเขาด้วยแต่ได้รับการ“ปฏิเสธ” จาก “ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์ไทย” ที่มีนักสะสมอาวุโส “มนัสชัย เจริญพลนภาชัย” หรือ “ช่าง สะพานพุทธ” เป็นประธานชมรมฯ และเป็นผู้ที่รัก
    “ความจริงพร้อมความถูกต้อง” อีกท่านหนึ่งในวงการ (ช่วงนั้นสมาคมผู้นิยมพระเครื่องและพระบูชาไทยยังไม่ได้จัดตั้ง) จึงไม่ยอมให้มีการบรรจุ “พระสมเด็จฯกรุถ้ำสิงโตทอง” เข้าไว้ในรายการประกวด “ทุกงาน” ผลที่ตามมาก็คือ “พระสมเด็จกรุนี้” ได้ถูกลบออกไปจากวงการตั้งแต่บัดนั้น
    .
    “ผู้เขียน” จึงขอคารวะดวงวิญญาณของนักสะสมอาวุโส “ช่าง สะพานพุทธ” (เสียชีวิตด้วยโรคชรา) ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับ “ขบวนการพระเก๊” เพราะท่านคือผู้จรรโลงพระเครื่องไทยโดยแท้จริงและก่อนหน้านั้นซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการ บูรณปฏิสังขรณ์ “วัดพระรีรัตนศาสดาราม”หรือ “วัดพระแก้ว” และ “พระบรมมหาราชวัง” และเป็นช่วงที่บรรดา “นายช่างสิบหมู่” จาก“กรมศิลปากร” กำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้นและหามรุ่งหามค่ำเพื่อบูรณะซ่อมแซม “วัดคู่บ้านคู่เมือง” อันสำคัญของประเทศไทยให้ทันกับงาน“ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์” ที่จะเวียนมาบรรจบครบ “๒๐๐ ปี” ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ก็มี “ขบวนการปลอมพระสมเด็จ” ได้ทำการผลิต “พระสมเด็จปลอม” ออกมาอีกแถมผลิตออกมามากมายหลายพิมพ์นับตั้งแต่ “พิมพ์มาตรฐาน” และ “ไม่มาตรฐาน” ไปจนถึง “พิมพ์รูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต” จากนั้นเริ่มทำการ “ปล่อยข่าว” แบบเงียบ ๆ ค่อยเป็นค่อยไปว่ามีการพบ “พระสมเด็จ” บน “เพดานพระอุโบสถวัดพระแก้วมรกต” จึงเรียกว่า “พระสมเด็จกรุวัดพระแก้ว” ที่จัดสร้างโดย “สมเด็จโต” เพื่อถวาย “รัชกาลที่ ๕” โดยเฉพาะ
    .
    ปรากฏว่ามี “คนปัญญาเบา” หลงเชื่อเพราะได้รับ “ความร่วมมือ” จากสื่อพระเครื่องที่เป็นนิตยสาร “แนวลวงโลก” ช่วยประโคมโหมข่าวด้วยการเสนอเรื่องราวและ “ประวัติความเป็นมา” อย่างยืดยาวพร้อมเล่าเรื่อง “อภินิหาร” ที่ “กุขึ้นเอง” แบบพิสดารพันลึกยิ่งกว่านวนิยาย “ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า” เสียอีกนอกจากนั้นยังมีการ “จำแนกพิมพ์” และ “เนื้อหา” ออกไปมากมายแล้วจบลงด้วยการทำการ “โฆษณาขาย” ในราคาสูงทีเดียวคือ “องค์เป็นหมื่น” อีกต่างหากและ “ขายได้” ซะด้วยเพราะมีคนหลงเชื่อนับร้อยรายเช่นกันนอกจากนี้ “ขบวนการปลอมพระสมเด็จรุ่นนี้” ยังมีความพยายามที่จะ “บรรจุ” เข้ารายการประกวดพระเครื่องเหมือน “กรุถ้ำสิงโตทอง” เช่นกัน แต่ก็ได้ท่าน“อดีตประธานชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์ไทย” ผู้ล่วงลับไปแล้ว “ช่าง สะพานพุทธ” สกัดกั้น “ไม่เล่นด้วย” ก็เลย “หมดราคาไป” แต่กระนั้นก็ยังมี “นักสะสมหน้าใหม่” ที่เพิ่งเข้าวงการถูกปั่นหัวอยู่เนือง ๆ “ผู้เขียน” จึงขอย้ำผ่านตรงนี้อีกหน “เราเตือนท่านแล้ว” กรุณาเชื่อสักนิด “ไม่ผิดหวังชัวร์”.
     

แชร์หน้านี้

Loading...