แขวนพระกี่องค์ถึงจะดี ? เรื่องของการห้อยพระหรือแขวนพระนั้น หลายคนคงยังสงสัยหรือยังคิดไม่ออกว่า ควรจะแขวนพระกี่องค์ถึงจะดีและมีการถกเถียงกันมาก ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด แต่มีเคล็ดและข้อแนะนำ ที่อยากให้ลองอ่านและพิจารณาดูว่าเราเหมาะกับการแขวนพระอย่างไร - การแขวนพระนั้น เป็นการแขวนเพื่อเป็นพุทธานุสติ เพื่อระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ รวมถึงวัตรปฏิบัติที่ดีงามของครูบาอาจารย์ผู้เป็นเจ้าของหรือเป็นผู้สร้างพระเครื่องนั้นขึ้นมา ซึ่งหากมองกันให้ลึกซึ้งนั้น หลายท่านก็จะรู้เท่าทันถึงแห่งอนิจจังที่ซ่อนอยู่ว่า คนสร้างก็ตาย คนทำก็ตาย คนแขวนก็ต้องตาย แต่ความดี บุญกุศลและกรรมนั้นยังคงอยู่ตลอดไปกาลนาน -คนที่ห้อยพระนั้น ต้องเป็นคนดีมีศีลธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในองค์พระจะช่วยเมตตา แต่ท่านจะช่วยน้อยหรือมากอยู่ที่ตัวคนใส่ พระเครื่องหรือสิ่งของต่างๆที่เป็นมงคล ไม่มีการเสื่อมของดีนั้นไม่วันเสื่อมด้วยตัวเอง ส่วนผู้ใช้จะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เหมือนกับคำสวดที่ว่า นะโมฯ ซึ่งคำๆ นี้ไม่เคยเสื่อมแต่ผู้พูดปฏิบัติดีแค่ไหน การรักษาก็คือต้องสำรวม กาย วาจา ใจ อย่าให้ขาดตกบกพร่อง เดินตามรอยธรรมของพระพุทธองค์ พระอริยสงฆ์อย่างหลวงพ่อคูณท่านเคยบอกไว้ว่า ทองคำก็คือทองคำไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พระเครื่องก็เช่นกันขึ้นอยู่กับว่าอยู่กับใคร -การแขวนพระจะเป็นองค์เดียว 2-3-4 ถึง 9 องค์หรือมากกว่านั้น จะเป็นเลขคู่หรือเลขคี่นั้นแล้วแต่จริตความชอบ หลายคนบอกว่าคนโบราณนั้นแขวนเป็นเลขคี่แล้วแต่ความเชื่อ พระสงฆ์เวลานิมนต์ต้องเป็นเลขคี่ ซึ่งจะให้พิจารณาเรื่องหนึ่ง คำว่า คณะสงฆ์นั้นต้องครบ 4 รูป ตามพุทธบัญญัติถึงจะทำสังฆกรรมได้ เรื่องของการแขวนพระจะเป็นเลขคู่หรือจะคี่จึงเป็นที่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากต้องการพุทธคุณด้านไหน ก็เลือกเอาตามความพอใจ จะเป็นเมตตา อำนาจ บารมี ค้าขาย แคล้วคลาด แต่ข้อแนะนำว่า องค์ที่เป็นประธานที่อยู่ตรงกลางนั้นเป็นองค์ที่สำคัญที่สุด ที่เหลือนั้นตามความพอใจลดหลั่นกันไป หลายคนยึดคติโบราณเอาความหมายเช่น มั่น มี ศรี สุข ก็คือ หลวงปู่มั่น หลวงปู่มี หลวงปู่ศรี หลวงปู่ศุข ที่เอาแต่เสียงที่ออกเสียงเหมือนกัน ความเชื่อของบางบุคคลที่กล่าวว่า “การห้อยพระหลายองค์ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละองค์นั้นน้อยลง” ความจริงแล้วพลังศักดิ์สิทธิ์ของพระท่านเท่ากันทุกองค์ เพราะมาจากพลังแห่งการบูชาพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น แต่ตัวเราเองนั้นสำคัญว่า เป็นคนมีศีล มีบุญบารมีหรือไม่ซึ่งต้องสร้างขึ้นมาในชาตินี้เพื่อรวมกับบุญเก่า เมื่อเครื่องรับหรือตัวคนห้อยพระนั้นดี คลื่นศักดิ์สิทธิ์จากพระที่ห้อยอยู่ก็ส่งได้แบบได้ผลมาก แต่ในทางกลับกันต่อให้พระนั้นมีพลังศักดิ์สิทธิ์มากเพียงใด แต่ตัวคนใส่นั้นไม่มีศีล พระท่านก็ไม่ช่วย เราคงเคยได้ยินเจ้าพ่อที่แม้แต่อมพระไว้ในปาก ยังโดนยิงเสียพรุน นักเลงโตห้อยพระเต็มคอแต่โดนเสียบด้วยมีดทีเดียวตายก็เพราะคนเหล่านั้นไม่มีศีลธรรมห้อยพระแพงหรือเนื้อดีแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ การแขวนพระตามอาชีพนั้น เป็นไปตามกรรมที่สะสมมาและถือว่าเป็นเรื่องดี เรื่องวิเศษอย่างยิ่งคนหลายคนยังไม่ทราบว่าอาชีพที่ทำอยู่นั้นเป็นไปตามกรรมที่ทำมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คนที่เป็นพ่อค้าก็เพราะเคยเป็นพ่อค้ามาก่อน คนที่รับราชการก็เพราะเคยทำหน้าที่แบบนี้มาก่อนในอดีตชาติ การที่ในชาตินี้ได้มีโอกาสครอบครองพระเครื่องไม่ว่าจะองค์ใด จะเป็นท่านใดสร้างก็ตามนั้นเป็นด้วยกรรมที่ผูกพันกับครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างขึ้นมาแน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นในชาติใดชาติหนึ่ง ดังนั้นการสวมพระเครื่องตรงตามอาชีพของตนนั้นจะช่วยส่งเสริมให้ทำการใดมักจะสำเร็จตามที่ปรารถนา เพราะมีบุญบารมีของครูบาอาจารย์ที่สร้างมาช่วยเพิ่มหนุนนำ จากบุญเก่าและบุญใหม่ที่มีอยู่ เช่น ถ้าค้าขายก็คงเน้นห้อยพระไปด้านเมตตามหานิยม โชคลาภที่ได้มาโดยง่ายก็ต้องเลือกพระเครื่องที่เด่นด้านนี้ อย่างเช่น หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ถ้าปลดหนี้สินก็ต้องเลือกด้านการขจัดอุปสรรคและการเงิน ก็ต้องหลวงปู่หลิว พญาเต่าเรือน ต้องการอำนาจบารมี ความสะดวกไหลลื่นในการทำงานก็ต้องพระสมเด็จ เด่นเรื่องรักษาโรคก็ต้องพระกริ่ง เป็นต้น ซึ่งในแต่ละพระเครื่อง แต่ละครูบาอาจารย์ท่านจะมีจุดเด่นเฉพาะตัวออกไป ถ้าพระเครื่ององค์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านมีข้อกำหนดในการใช้คาถากำกับไว้ ก็ต้องสวดให้ครบถ้วนตามที่ท่านกำหนดไว้ ขอให้จำง่ายๆ ว่า มีของดีแล้วต้องอาราธนาพระ ปลุกพระและปลุกตนเองด้วยถึงจะดีจริง ที่สำคัญควรทำบุญและอุทิศบุญไปให้ครูบาอาจารย์ที่สร้างอย่างสม่ำเสมอเพื่อเชื่อมบุญระหว่างตัวเรากับท่านให้กระชับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น ครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างและมีวัตรปฏิบัติดีนั้น บางรูปเป็นถึงพระอรหันต์ บางรูปก็เป็นพระโพธิสัตว์ การได้ทำบุญและเชื่อมบุญกับท่านนั้นจึงเป็นบุญใหญ่มาก จากหนังสือห้อยพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเป็น โดยสำนักพิมพ์เสบียงบุญเนื้อหาภายในบอกถึงเคล็ดศักดิ์สิทธิ์ในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกต้องและได้ผลแนวทางสายบุญไม่ใช่ไสยศาสตร์แน่นอน ******** *** สำนักพิมพ์เสบียงบุญ
ขอบคุณมากครับ แปลกมากนะครับ เมื่อเช้าก่อนจะเข้าเว็ปพลังจิต ผมก็รู้สึกสับสนเรื่องการห้อยพระ คิดมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะห้อยกี่องค์ องค์ไหนดี แต่ผมมาคิดอีกที เราไม่ทราบได้จริงๆว่าเกจิท่านไหน พลังบารมีแก่กล้าหรือมากกว่ากัน จนเห็นกระทู้นึงกล่าวถึงการปลุกเสกพระของ หลวงปู่หมุน ที่หลวงปู่หงษ์กล่าวไว้ว่า ให้หลวงปู่หมุนเสกองค์เดียวก็เหลือเฟือแล้ว ผมว่าห้อยหลายองค์ หรือ องค์เดียว ก็ไม่น่าจะมีผลอะไรมาก แต่ผมก็เลือกที่จะห้อยน้อยๆไว้ก่อน เพราะทุกเช้าต้องนึกถึงบารมีทุกองค์ที่เราห้อย ผมเลยเลือกเอาที่เป็นสายวัดเดียวกันที่สร้าง คือสมเด็จองค์ปฐม กับพระคำข้าว แค่2องค์พอ
จะว่าไป ไม่ค่อยได้อุทิศให้ครูบาอาจารย์เลย ดันคิดไปเองว่า ท่านมีเยอะกว่าเราอยู่แล้ว ลืม นึกถึงเรื่องเชื่อมบุญกับท่านไปเลย ขอบคุณครับ
แขวนพระ100องค์ยังรวมความศักดิสิทธิ์แล้วยังไม่เท่าพระพุทธเจ้าองค์เดียวเลย ใช้จิตที่ศรัทธา แขวนพระพุทธเจ้าองค์เดียวเลยจบ
จริตและอินทรีย์แต่ละคนไม่เท่ากัน เรียนสูงเรียนต่ำไม่เท่ากัน ศรัทธาก็เช่นกันมีอ่อนมีแก่ เจริญมรณานุสติ ก็จะคลายลง ชีวิตคนเรานี้สั้นหนอ ตราบใดที่ยังข้องเกี่ยวกับทางโลกก็ห้อยพระไป พระท่านช่วยได้จริง พระองค์ไหนที่เหมาะกับเรา ดูจากเสี้ยววินาทีที่เราตกใจ เรานึกถึงพระองค์ใด ก็ห้อยองค์นั้น ที่เหลือก็เอาไว้บนหิ้งบูชาหมั่นระลึกทุกครั้งไป แต่ถ้าถึงขั้นสุดท้ายพระไม่ต้องห้อยก็ได้ ถ้าเราเจริญพุทธานุสติ เป็นนิจศีล