เสียงธรรม ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ - ธัมมานุธัมมะปฏิปันโน

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Bacary, 19 มิถุนายน 2009.

  1. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    [​IMG]

    พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

    [​IMG]

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. donjudo077

    donjudo077 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,719
    ค่าพลัง:
    +14,438
    โมทนาบุญครับ
     
  3. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]
     
  4. pucca2101

    pucca2101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    5,805
    ค่าพลัง:
    +20,896
    อนุโมทนา สาธุค่ะ
     
  5. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ขอบคุณค่ะคุณนก สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  6. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ


    <HR SIZE=1>

    <!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG]

    โดย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ

    นมตถุ สุคตสส ปญจ ธมมขนธานิ

    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมซึ่งพระสุคตบรมศาสดาศากยมุนี สัมมาสัมพุทธเจ้า

    และพระนวโลกุตตรธรรม 9 ประการ และพระอริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้านั้น

    บัดนี้ ข้าพเจ้าจักกล่าวซึ่งธรรมขันธ์ โดยสังเขปตามสติปัญญา ฯ

    ยังมีท่านคนหนึ่ง รักตัวคิดกลัวทุกข์ อยากได้สุขพ้นภัยเที่ยวผายผัน

    เขาบอกว่าสุขมีที่ไหนก็อยากไป แต่เที่ยวหมั่นไปมาอยู่ช้านาน

    นิสัยท่านนั้น รักตัวกลัวตายมาก อยากจะพ้นแท้ ๆ เรื่องแก่ตาย

    วันหนึ่งท่านรู้จริงทิ้งสมุทัยพวกสังขารท่านก็ปะถ้ำสนุก สุขไม่หาย

    เปรียบเหมือนดังกาย นี้เองฯ

    ชะโงกดูถ้ำสนุกทุกข์ทลาย แสนสบายรู้ตัวเรื่องกลัวนั้นเบา

    ทำเมินไป เมินมาอยู่หน้าเขา จะกลับไปป่าวร้องซึ่งพวกพ้องเล่า

    ก็กลัวเขาเหมาว่าเป็นบ้าบอ สู้อยู่ผู้เดียวหาเรื่องเครื่องสงบ เป็นอันจบเรื่องคิดไม่ติดต่อ

    ดีกว่าเที่ยวรุ่มร่ามทำสอพลอ เดี๋ยวถูกยอถูกติเป็นเรื่องเครื่องรำคาญฯ

    ยังมีบุรุษคนหนึ่งอีก กลัวตายน้ำใจฝ่อ มาหาแล้วพูดตรง ๆ น่าสงสาร

    ถามว่าท่านพากเพียรมาก็ช้านาน เห็นธรรมที่แท้จริงแล้วหรือยังที่ใจหวัง

    เอ๊ะทำไมจึงรู้ใจฉัน บุรุษผู้นั้นก็อยากอยู่อาศัย

    ท่านว่าดี ๆ ฉันอนุโมทนา จะพาดูเขาใหญ่ถ้ำสนุกทุกข์ไม่มี

    คือ กายะ คะตาสติภาวนา ชมเล่นให้เย็นใจหายเดือดร้อน

    หนทางจรอริยวงศ์ จะไปหรือไม่ไปฉันไม่เกณฑ์ ใช่หลอกเล่นบอกความให้ตามจริง

    แล้วกล่าวปฤษณาท้าให้ตอบ

    ปฤษณานั้นว่า ระวิง คืออะไร?

    ตอบว่า วิ่งเร็ว คือวิญญาณอาการไว เดินเป็นแถวตามแนวกัน สัญญาตรงไม่สงสัย

    ใจอยู่ในวิ่งไปมา สัญญาเหนี่ยวภายนอกหลอกลวงจิต

    ทำให้คิดวุ่นวายเที่ยวส่ายหา หลอกเป็นธรรมต่าง ๆ อย่างมายา

    ถามว่า ขันธ์ห้า ใครพ้นจนทั้งปวง?

    แก้ว่า ใจซิพ้นอยู่คนเดียว ไม่เกาะเกี่ยวพัวพันติดสิ้นพิษหวง

    หมดที่หลงอยู่เดียวดวง สัญญาลวงไม่ได้หมายหลงตามไป

    ถามว่า ที่ว่าตาย ใครเขาตาย ที่ไหนกัน?

    แก้ว่า สังขารเขาตาย ทำลายผล

    ถามว่า สิ่งใดก่อให้ต่อวน?

    แก้ว่า กลสัญญาพาให้เวียน เชื่อสัญญาจึงผิดคิดยินดี ออกจากภพนี้ไปภพนั้นเที่ยวหันเหียน

    เลยลืมจิตจำปิดสนิทเนียน ถึงจะเพียรหาธรรมก็ไม่เห็น

    ถามว่า ใครกำหนดใครหมายเป็นธรรม?

    แก้ว่า ใจกำหนดใจหมายเรื่องหาเจ้าสัญญานั้นเอง คือ ว่าดี คว้าชั่ว ผลัก ติด รัก ชัง

    [​IMG]

    ถามว่า กินหนเดียวไม่เที่ยวกิน?

    แก้ว่า สิ้นอยากดูรู้ไม่หวัง ในเรื่องเห็นต่อไปหายรุงรัง ใจก็ นั่งแท่นนิ่งทิ้งอาลัย

    ถามว่า สระสี่เหลี่ยมเปี่ยมด้วยน้ำ?

    แก้ว่า ธรรมสิ้นอยากจากสงสัย สะอาดหมดราคีไม่มีภัย

    สัญญาในนั้นพราก สังขารขันธ์นั้นไม่กวน

    ใจจึงเปี่ยมเต็มที่ไม่มีพร่อง เงียบระงับดวงจิตไม่คิดครวญ

    เป็นของควรชมชื่นทุกคืนวัน แม้ได้สมบัติทิพย์สักสิบแสน

    ก็ไม่เหมือนรู้จริงทิ้งสังขาร หมดความอยากเป็นยิ่งสิ่งสำคัญ

    จำอยู่ส่วนจำ ไม่ก้ำเกิน ใจไม่เพลินทั้งสิ้นหายดิ้นรน

    เหมือนดังเอากระจกส่องเงาหน้า แล้วอย่าคิดติดสัญญา

    เพราะสัญญานั้นเหมือนดังเงา อย่าได้เมาไปตามเรื่องเครื่องสังขาร

    ใจขยับจับใจที่ไม่ปน ไหวส่วนตนรู้แน่ เพราะแปรไป

    ใจไม่เที่ยงของใจใช่ต้องว่า รู้ขันธ์ห้าต่างชนิดเมื่อจิตไหว

    แต่ก่อนนั้นหลงสัญญาว่าเป็นใจ สำคัญว่าในว่านอกจึงหลอกลวง

    คราวนี้ใจเป็นใหญ่ไม่หมายพึ่ง สัญญาหนึ่งสัญญาใดมิได้หวง เกิดก็ตามดับก็ตามสิ่งทั้งปวง

    ไม่ต้องหวงไม่ต้องกันหมู่สัญญา เปรียบเหมือนขึ้นยอดเขาสูงแท้แลเห็นดิน แลเห็นสิ้นทุกตัวสัตว์

    สูงยิ่งนักแลเห็นเรื่องของตนแต่ต้นมา เป็นมรรคาทั้งนั้นเช่นบันได

    ถามว่า น้ำขึ้นลงตรงสัจจังนั้นหรือ?

    ตอบว่า สังขารแปรแก้ไม่ได้ ธรรมดากรรมแต่งไม่แกล้งใคร

    ขืนผลักไสจับต้องก็หมองมัวชั่วในจิต ไม่ต้องคิดขัดธรรมดาสภาวะสิ่งเป็นจริง

    ดีชั่วตามแต่เรื่องของเรื่องเปลื้องแต่ตัว ไม่พัวพันสังขารเป็นการเย็น

    รู้จักจริงต้องทิ้งสังขารที่ผันแปรเมื่อแลเห็น เบื่อแล้วปล่อยได้คล่องไม่ต้องเกณฑ์ ธรรมก็เย็นใจระงับรับอาการ

    ถามว่า ห้าหน้าที่ มีครบกัน?

    ตอบว่า ขันธ์แบ่งแจกแยกห้าฐานเรื่องสังขาร ต่างกองรับหน้าที่มีกิจการ

    จะรับงานอื่นไม่ได้เต็มในตัว แม้ลาภยศสรรเสริญ เจริญสุข

    นินทา ทุกข์ เสื่อมยศ หมดลาภทั่ว

    รวมลงตามสภาพตามเป็นจริง ทั้งแปดอย่างใจไม่หันไปพัวพัน

    เพราะว่ารูปขันธ์ก็ทำแก่ไข้มิได้เว้น นามก็มิได้พักเหมือนจักรยนต์เพราะรับผลของกรรมที่ทำมา

    เรื่องดีพาเพลิดเพลินเจริญใจ เรื่องชั่วขุ่นวุ่นจิตคิดไม่หยุด

    เหมือนไฟจุดจิตหมองไม่ผ่องใส นึกขึ้นเองทั้งรักทั้งโกรธไปโทษใคร

    อยากไม่แก่ไม่ตายได้หรือคน เป็นของพ้นวิสัยจะได้เชย

    เช่น ไม่อยากให้จิตเที่ยวคิดรู้ อยากให้อยู่เป็นหนึ่งหวังพึ่งเฉย

    จิตเป็นของผันแปรไม่แน่เลย สัญญาเคยอยู่ได้บ้างเป็นครั้งคราว

    ถ้ารู้เท่าธรรมดาทั้งห้าขันธ์ ใจนั้นก็ขาวสะอาดหมดมลทินสิ้นเรื่องราว

    ถ้ารู้ได้อย่างนี้จึงดียิ่ง เพราะเห็นจริงถอนหลุดสุดวิถี

    ไม่ฝ่าฝืนธรรมดาตามเป็นจริง จะจนจะมีตามเรื่องเครื่องนอกใน

    [​IMG]

    ดีหรือชั่วต้องดับเลื่อนลับไป ยึดสิ่งใดไม่ได้ตามใจหมาย

    ใจไม่เที่ยงของใจไหววิบวับ สังเกตจับรู้ได้สบายยิ่ง เล็กบังใหญ่รู้ไม่ทัน

    ขันธ์บังธรรมมิดผิดที่นี่ มัวดูขันธ์ธรรมไม่เห็นเป็นธุลีไป ส่วนธรรมมีใหญ่กว่าขันธ์นั้นไม่แล

    ถามว่า มีไม่มี ไม่มีมี นี้คืออะไร ?

    ทีนี้ติดหมด คิดแก้ไม่ไหว เชิญชี้ให้ชัดทั้งอรรถแปลโปรดแก้เถิด

    ที่ว่าเกิดมีต่าง ๆ ทั้งเหตุผล แล้วดับไม่มีชัดใช่สัตว์คน

    นี้ข้อต้นมีไม่มีอย่างนี้ตรง ข้อปลายไม่มี มี นี้เป็นธรรม

    ที่ลึกล้ำ ใครพบ จบประสงค์ ไม่มีสังขาร มีธรรมมีมั่นคง

    นั้นแล องค์ธรรมเอก วิเวกจริง ธรรมเป็น ๑ ไม่แปรผันเลิศภพสงบยิ่ง

    เป็นอารมณ์ของใจไม่ไหวติง ระงับนิ่งเงียบสงัดชัดกับใจ

    ใจก็สร่างจากเมาหายเร่าร้อน ความอยากถอน ได้หมดปลดสงสัย

    เรื่องพัวพันขันธ์ห้าซาสิ้นไป เครื่องหมุนในไตรจักรก็หักลง

    ความอยากใหญ่ยิ่งก็ทิ้งหลุด ความรักหยุดหายสนิทสิ้นพิษหวง ร้อนทั้งปวงก็หายหมดดังใจจง

    เชิญโปรดชี้อีกอย่างหนทางใจสมุทัยของจิตที่ปิดธรรม?

    แก้ว่า สมุทัยกว้างใหญ่นัก ย่อลงก็คือความรักบีบใจอาลัยขันธ์

    ถ้าธรรมมีกับจิตเป็นนิจนิรันดร์ เป็นเลิกกันสมุทัยมิได้มี

    จงจำ ไว้อย่างนี้วิถีจิต ไม่ต้องคิดเวียนวนจนป่นนี้

    ธรรมไม่มีอยู่เป็นนิตย์ติดยินดี ใจตกที่สมุทัยอาลัยตัว

    ว่าอย่างย่อทุกข์กับธรรมประจำจิต เอาจนคิดรู้เห็นจริงจึงเย็นทั่ว

    จะสุขทุกข์เท่าไรมิได้กลัว สร่างจากเครื่องมัวคือสมุทัยไปที่ดี

    รู้เท่านี้ก็คลายหายร้อน พอพักผ่อนเสาะแสวงหาทางหนี

    จิตรู้ธรรมลืมจิตที่ติดธุลี ใจรู้ธรรมที่เป็นสุข ขันธ์ทุกข์แท้แน่ประจำ

    ธรรมคงธรรม ขันธ์คงขันธ์เท่านั้น และคำว่าเย็นสบายหายเดือดร้อน

    หมายจิตถอนจากผิดที่ติดแท้ แต่ส่วนสังขารขันธ์ปราศจากสุขเป็นทุกข์แท้

    เพราะต้องแก่ไข้ตายไม่วายวัน จิตรู้ธรรมที่ล้ำเลิศ

    จิตก็ถอนจากผิดเครื่องเศร้าหมองของแสลง ผิดเป็นโทษของใจอย่างร้ายแรง

    เห็นธรรมแจ้ง ถอนผิดหมดพิษใจ

    จิตเห็นธรรมดีล้นที่พ้นผิดพบปะธรรมเปลื้องเครื่องกระสัน มีสติอยู่ในตัวไม่พัวพัน

    เรื่องรักขันธ์ขาดสิ้นหายยินดี สิ้นธุลีทั้งปวงหมดห่วงใย

    [​IMG]

    ถึงจะคิดก็ไม่ห้ามตามนิสัย เมื่อไม่ห้ามกลับไม่ฟุ้งพ้นยุ่งไป

    พึงรู้ได้บาปมีขึ้นเพราะขืนจริง ตอบว่า บาปเกิดได้เพราะไม่รู้

    ถ้าปิดประตูเขลาได้สบายยิ่ง ชั่วทั้งปวงเงียบหายไม่ไหวติง

    ขันธ์ทุกสิ่งย่อมทุกข์ ไม่สุขเลย

    แต่ก่อนข้าพเจ้ามืดเขลาเหมือนเข้าถ้ำ อยากเห็นธรรมยึดใจจะให้เฉย

    ยึดความจำว่าเป็นใจหมายจนเคย เลยเพลินเชยชม “จำ” ทำมานาน

    ความจำผิดปิดไว้ไม่ให้เห็น จึงหลงเล่นขันธ์ห้าน่าสงสาร ให้ยกตัวอวดตนพ้นประมาณ

    เที่ยวระรานติคนอื่นเป็นพื้นไปไม่เป็นผล เที่ยวดูโทษคนอื่นนั้นขื่นใจ

    เหมือนก่อไฟเผาตัวต้องมัวมอม ใครผิดถูกดีชั่วก็ตัวเขา

    ใจของเราเพียรระวังตั้งถนอม อย่า ให้อกุศลวนมาตอม

    ควรถึงพร้อมบุญกุศลผลสบาย เห็นคนอื่นเขาชั่วตัวก็ดี

    เป็นราคีที่ยึดขันธ์ที่มั่นหมาย ยึดขันธ์ต้องร้อนแท้ เพราะแก่ตาย

    เลยซ้ำร้ายกิเลสกลุ้มเข้ารุมกวน เต็มทั้งรักทั้งโกรธโทษประจักษ์

    ทั้งกลัวนักหนักจิตคิดโหยหวน ซ้ำอารมณ์กามห้าก็มาชวน

    ยกกระบวนทุกอย่างต่าง ๆ ไป

    เพราะยึดขันธ์ทั้งห้าว่าของตน จึงไม่พ้นทุกข์ภัยไปได้นา

    ถ้ารู้โทษของตัวแล้วอย่าชาเฉย ดูอาการสังขารที่ไม่เที่ยงร่ำไปให้ใจเคย

    คงได้เชยชมธรรมะอันเอกวิเวกจิต ไม่เที่ยงนั้นหมายใจไหวจากจำ เห็นแล้วซ้ำ
    ดู ๆ อยู่ที่ไหว

    พออารมณ์นอกดับระงับไปหมดปรากฏธรรม เห็นธรรมแล้วย่อมหายวุ่นวายจิต

    จิตนั้นไม่ติดคู่ จริงเท่านี้หมดประตู รู้ไม่รู้อย่างนี้วิถีใจ รู้เท่าที่ไม่เที่ยง

    จิตต้นพ้นริเริ่ม คงจิตเดิมอย่างเที่ยงแท้ รู้ต้นจิตพ้นจากผิดทั้งปวงไม่ห่วง ถ้าออกไปปลายจิตผิดทันที

    คำที่ว่ามืดนั้นเพราะจิตคิดหวงดี จิตหวงนี้ปลายจิตคิด ออกไป

    จิตต้นดีเมื่อธรรมะปรากฏหมดสงสัย เห็นธรรมะอันเลิศล้ำโลกา

    เรื่องคิดค้นวุ่นหามาแต่ก่อน ก็เลิกถอนเปลื้องปลดได้หมดสิ้น

    ยังมีทุกข์ต้องหลับนอนกับกินไปตามเรื่อง ใจเชื่องชิดต้นจิตคิดไม่ครวญ

    ธรรมดาของจิตก็ต้องนึกคิด พอรู้สึกจิตต้นพ้นโหยหวน

    เงียบสงัดจากเรื่องเครื่องรบกวนธรรมดาสังขารปรากฏหมดด้วยกัน เสื่อมทั้งนั้นคงที่ไม่มีเลย

    ระวังใจเมื่อจำทำละเอียด มักจะเบียดให้จิตไปติดเฉยใจไม่เที่ยงของใจซ้ำให้เคย

    เมื่อถึงเอยหากรู้เองเพลงของใจ เหมือนดังมายาที่หลอกลวง

    ท่านว่าวิปัสสนูปกิเลส จำแลงเพศเหมือนดังจริง ที่แท้ไม่ใช่จริง

    รู้ขึ้นเองหมายนามว่าความเห็น ไม่ใช่เช่นฟังเข้าใจชั้นไต่ถาม

    ทั้งตรึกตรองแยกแยะแกะรูปนาม ก็ใช่ความเห็นเองจงเล็งดู

    รู้ขึ้นเองใช่เพลงคิด รู้ต้นจิต จิตต้นพ้นโหยหวน

    ต้นจิตรู้ตัวแน่ว่าสังขารเรื่องแปรปรวน ใช่กระบวนไปดูหรือรู้อะไร

    [​IMG]

    รู้อยู่เพราะหมายคู่ก็ไม่ใช่ จิตคงรู้จิตเองเพราะเพลงไหวจิต รู้ไหว ๆ

    ก็จิตติดกันไป แยกไม่ได้ตามจริงสิ่งเดียวกัน จิตเป็นสองอาการเรียกว่าสัญญาพาพัวพัน

    ไม่เที่ยงนั้นก็ตัวเองไปเล็งใคร ใจรู้เสื่อมของตัวก็พ้นมัวมืด

    ใจก็จืดสิ้นรสหมดสงสัย ขาดค้นคว้าหาเรื่องเครื่องนอกใน

    ความอาลัยทั้งปวงก็ร่วงโรย ทั้งโกรธรักเครื่อง หนักใจก็ไปจาก

    เรื่องใจอยากก็หยุดได้หายหวนโหย พ้นหนักใจทั้งหลายโอดโอย

    เหมือนฝนโปรยใจ ใจเย็นเห็นด้วยใจ ใจเย็นเพราะไม่ต้องเที่ยวมองคน

    รู้จิตต้นปัจจุบันพ้นหวั่นไหว ดีหรือชั่วทั้งปวงไม่ห่วงใย

    ต้องดับไปทั้งเรื่องเครื่องรุงรัง อยู่เงียบ ๆ ต้นจิตไม่คิดอ่าน ตามแต่การของจิตสิ้นคิดหวัง

    ไม่ต้องวุ่นต้องวายหายระวัง นอนหรือนั่งนึกพ้นอยู่ต้นจิต

    ท่านชี้มรรคฟังหลักแหลม ช่างต่อแต้มกว้างขวางสว่างไสว

    ยังอีกอย่างทางใจไม่หลุดสมุทัย ขอจงโปรดชี้ให้พิสดารเป็นการดี

    ตอบว่า สมุทัย คือ อาลัยรัก เพลินยิ่งนักทำภพใหม่ไม่หน่ายหนี

    ว่าอย่างต่ำกามคุณห้าเป็นราคี อย่างสูงชี้สมุทัยอาลัยฌาน

    ถ้าจับตามวิถี มีในจิต ก็เรื่องคิดเพลินไปในสังขาร เพลินทั้งปวงเคยมาเสียช้านาน

    กลับเป็นการดีไปให้เจริญจิตไปในส่วนที่ผิด ก็เลยแตกกิ่งก้านฟุ้งซ่านใหญ่

    เที่ยวเพลินไปในผิดไม่คิดเขิน สิ่งใดชอบอารมณ์ก็ชมเพลิน เพลินจนเกินลืมตัวไม่กลัวภัย

    เพลินดูโทษคนอื่นดื่นด้วยชั่วโทษของตัวไม่เห็นเป็นไฉนโทษคนอื่นเข้ามากสักเท่าไร

    ไม่ทำให้เราตกนรกเลย โทษของเราเศร้าหมองไม่ต้องมาก

    ส่งวิบากไปตกนรกแสนสาหัส หมั่นดูโทษตนไว้ให้ใจเคย เว้นเสียซึ่งโทษนั้น

    คงได้เชยชมสุขพ้นทุกข์ภัย เมื่อเห็นโทษตนชัดรีบตัดทิ้ง ทำอ้อยอิ่งคิดมากจากไม่ได้

    เรื่องอยากดีไม่หยุดคือตัวสมุทัย เป็นโทษใหญ่กลัวจะไม่ดีนี้ก็แรง

    ดีแลไม่ดีนี้เป็นพิษของจิตนัก เหมือนไข้หนักถูกต้องของแสลง

    กำเริบโรคด้วยพิษผิดสำแลง ธรรมไม่แจ้ง เพราะอยากดีนี้เป็นเดิม

    ความอยากดีมีมากมักลากจิต ให้เที่ยวคิดวุ่นไปจนใจเหิม สรรพชั่ว

    มัวหมองก็ต้องเติม ผิดยิ่งเพิ่มร่ำไปไกลจากธรรม

    ที่จริงชี้สมุทัยนี้ ใจฉันคร้าม

    ฟังเนื้อความไปข้างนุงนังยุ่งยิ่ง เมื่อชี้มรรคฟังใจไม่ไหวติง ระงับนิ่งใจสงบจบกันทีฯ

    [​IMG]

    อันนี้ชื่อว่า ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ ประจำอยู่กับที่

    ไม่มีอาการไป ไม่มีอาการมา สภาวธรรมที่เป็นจริงสิ่งเดียวเท่านี้

    และไม่มีเรื่อง จะแวะเวียน สิ้นเนื้อความแต่เพียงเท่านี้ฯ

    ผิดหรือถูกจงใช้ปัญญาตรองดูให้รู้เถิดฯ

    พระภูริทัตโตฯ (มั่น)

    ที่มา : �ҷԵ���ç�Ŵ

    ที่มาภาพ : Google
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  7. kaioueng

    kaioueng Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +27
    อนุโมทนาครับ
     
  8. akep

    akep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2005
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +464
    อนุโมทนาครับ
     
  9. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    ขออนุโมทนา สาธุ ๆ ในพระธรรมคำสั่งสอนและผู้ที่ร่วมบุญในครั้งนี้ด้วย ครับ
     
  10. bortong

    bortong สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2009
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +24
    anuomtanasatu
     
  11. ฤดูใบไม้ผลิ

    ฤดูใบไม้ผลิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +1,724
    อนุโมทนา เป็นอย่างยิ่งคะ
     
  12. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    สาธู
     
  13. wicha30

    wicha30 เพียรภาวนา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +114
    ขออนุโมทนาสาธุอย่างสูง ธรรมะดีของพระอรหันต์ ถูกต้องดีสูงสุดเคราพกราบไหว้บูชาอย่างสูง
     
  14. 파사라

    파사라 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +35
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. sompanbun

    sompanbun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +5
    อนุโมทนา ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...